ฮิฮิ
เคล็ด(ขัดยอก)วิชาไหมฟ้า .. เอิ๊ฏ
วิชาไหมฟ้า เมื่อประมาณสิบกว่าปีก่อน มีหนังจีนกำลังภายในที่โด่งดังมาก ช่วงเวลาที่หนังออกอากาศถนนหนทางจะเงียบเพื่อจะได้ดูเรื่อง กระบี่ไร้เทียมทาน ซึ่งพระเองคือฮุ้นปวยเอี๊ยง ผู้มีวิชาไหมฟ้าเป็นสุดยอดวิชา
วิธีฝึกก้อคือ
1.มีคนอื่นฝึกให้ก่อน และถ่ายทอดให้อีกคน โดยที่คนฝึกคนแรกจะยังไม่ได้รับผลอะไร แต่สามารถถ่ายทอดให้คนอื่นได้ คล้าย ๆ พ่อแม่ตัดชุดแต่งงานให้ลูกสาวพ่อแม่ไม่ได้ใส่เอง แต่ลูกสาวได้ใช้
2.ฝึกด้วยตัวเอง แต่ต้องทำลายวิชาเดิมที่มีอยู่ เพื่อให้วิชาใหม่ได้งอกเงยทดแทนวิชาเดิม วิธีนี้ค่อนข้างเสี่ยงเพราะอาจจะถูกลอบทำร้ายขณะที่ยังไม่มีวิชาใหม่
3.ฝึกด้วยการดูดเอาพลังของคนอื่นมารวมกับของตัวเอง เรียกว่าขโมยเอาดื้อ ๆ ดูดกันเห็น ๆ โดยคนอื่นอาจจะไม่ยอม แบบนี้ยิ่งดูดได้มากยิ่งเก่ง ยิ่งน่ากลัว
แต่ไม่ว่าจะฝึกด้วยวิธีไหน หลักการสำคํญก็คือ ต้องยอมปล่อยวางสิ่งที่มีอยู่เดิม เพื่อให้มีสิ่งใหม่ๆมาทดแทน และเมื่อลองมาดูกับชีวิตจริง ก็เห็นว่าทุกวันนี้พวกเราฝึกวิชาไหมฟ้ากันทุกวันโดยไม่รู้ตัว แม้แต่สัตว์ต่างๆ ก็ฝึกกันทั่วหน้า
ข้าพเจ้าเคยดูสารคดีชีวิตผีเสื้อ ขณะที่ตัวหนอนอยู่ในดักแด้จะมีการย่อยสลายโคลงสร้างเดิมของหนอนเพื่อประกอบกันเป็นโครงสร้างใหม่ เหมือนมีชีวิตใหม่ที่แตกต่างจากเดิมโดยสิ้นเชิง แม้แต่สัตว์อื่นบางชนิดก็มีการลอกคราบ แม้จะไม่ต่างจากเดิมมาก แต่ก็ทำให้โตขึ้นกว่าเดิม
ข้าพเจ้าได้เห็นปรากฎการเปลี่ยนแปลงแบบนี้จากตัวข้าพเจ้าเอง ตอนแรกรู้สึกถึงความทุกข์ใจหาทางออกให้กับชีวิตไม่ได้ แต่เมื่อทุกข์จนถึงที่สุด ก็ถึงจุดที่จะปล่อยวางทั้งความคิดและความเชื่อเดิมๆ เหมือนยอมแพ้ แต่ก้ไม่แพ้เมื่อยอมวางของเก่าๆ จึงมีที่ว่างให้กับของใหม่ๆ ทำให้ประสบการณ์ใหม่ๆ ทำให้ประสบการณ์ใหม่ๆ ค่อยๆ งอกเงยขึ้นภายในใจ เมื่อยอมรับที่จะให้สิ่งใหม่เกิดขึ้น ชีวิตก็เปลี่ยนแปลงไปจากเดิมเหมือนเป็นคนใหม่
ข้าพเจ้าใช้เวลานานทีเดียวกว่าจะฝึกวิชาไหมฟ้าได้ใช้ทั้ง 3 วิธีนั่นแหละโดยหลักการพื้นฐานไปฝึกต่อบ้าง วิธีที่ได้ผลที่สุดคือการยอมทิ้งนิสัยเดิมบางอย่าง ยอมทิ้งความคิดเดิมๆ บางอย่าง ซึ่งเหมือนกับเป็นตัวตนเดิมทีเดียว ช่วงแรกก็จะรู้สึกเคว้งคว้าง สับสนกับตัวเองบ้าง ซึ่งเป็นช่วงสำคัญที่ต้องการการยอมรับ ต้องการกำลังใจสนับสนุน เพื่อจะเป็นตัวของตัวเองในแบบที่ดีที่สุดที่จะเป็นไปได้ กระบวนการเรียนรู้ยังคงดำเนินไปเรื่อยๆ บางช่วงก็ยังเหมือนอยู่ในดักแด้ แต่ก็เริ่มมองเห็นความเปลี่ยนแปลงในตัวเองมากขึ้น
ทุกวันนี้ก็ยังต้องฝึกเปลี่ยนแปลงตัวเราไปสู่ภาวะใหม่ก็ต่อเมื่อเริ่มตระหนักจริงๆว่า ภาวะเดิม วิธีการเดิมๆ ในการใช้ชีวิตได้มาถึงทางตัน การยอมรับความจริงว่าเราถึงทางตันแล้ว เป็นจุดเริ่มต้นที่สำคัญที่จะนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงที่สำคัญในชีวิต ความทกข์จากการเผชิญกับภาวะตัน และความทุกข์จากความสับสนกับตัวเองเมื่อต้องละทิ้งบางอย่างไป
ทั้งหมดเป็นความทุกข์ที่เลี่ยงไม่ได้เป็นความเสี่ยงที่เลี่ยงไม่ได้ เสี่ยงเพราะเราไม่มีทางรู้ว่าภาวะใหม่จะดีกว่าเดิมหรือไม่ รู้แต่ว่าจะไม่เหมือนเดิมแน่นอน ดังนั้นจะว่าไปแล้ว การฝึกวิชาไหมฟ้าเป็นความจำเป็นอย่างหนึ่งของชีวิตเพราะว่าชีวิตนั้นเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา มีแต่ตัวเองที่มองว่าอะไรๆ คงเหมือนๆเดิม คาดเดาได้ ว่าจะรู้ตัวว่าทุกอย่างไม่คงที่ก็เกือบสายเกินไปแม้แต่โปรแกรมวินโดวส์ยังต้องอัพเดทกันเกือบทุกปี แล้วนับประสาอะไรกับชีวิตของเราที่จะต้องอัพเดทตัวเองอยู่เสมอ ๆ
เมื่อยอมวางของเก่าๆ จึงมีที่ว่าง
ให้กับของใหม่ๆ ความคิดใหม่ๆ
ทำให้ประสบการณ์ใหม่ๆ
ค่อยๆ งอกเงยขึ้นภายในใจ
แก้ไขเมื่อ 26 มี.ค. 54 23:44:07
จากคุณ |
:
SameOne
|
เขียนเมื่อ |
:
26 มี.ค. 54 23:39:01
|
|
|
|