ความคิดเห็นที่ 1 อาจจะเพียง คำแซว "รายย่อยมหภาค" ก็ได้ครับ  จากคุณ : มิ่งกลิ้ง เขียนเมื่อ : 3 เม.ย. 54 17:43:35

ความคิดเห็นที่ 2 ผมว่าเขาประชดนะ คือ ประชดโดนใจหลายคน จากคุณ : monomaniac }:-] เขียนเมื่อ : 3 เม.ย. 54 17:46:04

ความคิดเห็นที่ 3 เพราะว่าโดนใจไปหลายคนเลย ^^a จากคุณ : FundZ3 เขียนเมื่อ : 3 เม.ย. 54 17:52:54

ความคิดเห็นที่ 4 ฮิๆ "รายย่อยมหภาค" สถิติรายย่อยมันฟ้องมาว่ายอดแย่มากเลยหรือครับ น้ิองมิ้งฯ จากคุณ : nomeny เขียนเมื่อ : 3 เม.ย. 54 17:55:44

ความคิดเห็นที่ 5 แปลกแต่สงสัยจริงๆ ที่ถูกต้องและควรเป็นตลอดไป คือนาย A แล้วนาย B เป็นใคร มาจากไหนครับ ? นาย A ซื้อที่จุดต่ำสุด ขายที่สุดสูงสุด นาย B ซื้อที่จุดสูงสุด ขายที่จุดต่ำสุด ด้วยสมมติฐานที่ว่าไม่มีใครรู้จุดต่ำสุดและจุดสูงสุดนะครับ จากคุณ : คนจนที่อยากรวย เขียนเมื่อ : 3 เม.ย. 54 17:56:31

ความคิดเห็นที่ 6 แซวๆ คันๆ เกียรติของเม่า อ่ะครับ จากคุณ : cooly skin เขียนเมื่อ : 3 เม.ย. 54 17:57:31

ความคิดเห็นที่ 7 จุดต่ำสุดเริ่มตั้งแต่ตอนใส่ Pin พอเคาะแล้วไหงกลายเป้นจุดสูงสุดไปได้ว๊าา จากคุณ : นักกฏหมายเล่นหุ้น (ลุยกันโลด) เขียนเมื่อ : 3 เม.ย. 54 17:59:21

ความคิดเห็นที่ 8 ล้อเล่นนะครับ...ผมก็ย่อย(ยับ)เหมือนกัน... คิดว่าทั้งรายย่อย พี่หรั่ง กองทุน หรือเจ้ามือ... ยังไงก็ต้องมีกำไร มีผิดพลาดกันได้บ้าง ถ้าใครทำได้ถูกตลอด เวลา..คงไม่ใช่เพื่อนที่ดีของการลงทุน... ถูกแป๊ปๆก็รวย ผิดแป๊ปๆก็หมดตัว...   (ปล.ไม่ทราบว่า อันนี้พี่คนจนถามจริงจังหรือไม่ครับ.. ? ) อาจมีเรื่องให้คิดกันเพิ่ม หากหมายถึงเรื่องจิตวิทยาการลงทุน...(ของนักลงทุนรายย่อย) จากคุณ : มิ่งกลิ้ง เขียนเมื่อ : 3 เม.ย. 54 18:02:34

ความคิดเห็นที่ 9 #8 กำ มีการถามเล่นๆด้วยหรอ 555 จากคุณ : คนจนที่อยากรวย เขียนเมื่อ : 3 เม.ย. 54 18:18:04

ความคิดเห็นที่ 10 สูงสุดในรอบกี่วัน กี่เดือน หรือกี่ปี   แต่เป็นธรรมชาติของรายย่อยส่วนใหญ่  ต้องอยู่ในเกมส์ของรายใหญ่ เป็นสัจธรรมของการเล่นหุ้น จากคุณ : mister1288 เขียนเมื่อ : 3 เม.ย. 54 19:27:21

ความคิดเห็นที่ 11 ผมประชดครับ จากประโยคแรก " ไม่มีย่อยรายใดซื้อที่จุดต่ำสุด ขายที่สุดสูงสุดได้ /////จำไม่ได้ว่าใครเคยว่าใว้  แต่ย่อยสามารถซื้อที่จุดสูงสุด ขายที่จุดต่ำสุดได้ "////// อันนี้ผมบอกเองคือแก้มาจากประโยคแรกครับ จากคุณ : mynametp1 เขียนเมื่อ : 3 เม.ย. 54 19:46:26

ความคิดเห็นที่ 12 แหม่.. ก็นานๆ ทีอ่ะ  ใครจะทำได้บ่อยๆ หล่ะคะ  เจ๊งกันพอดี อิอิอิ จากคุณ : nusarathi เขียนเมื่อ : 3 เม.ย. 54 19:46:29

ความคิดเห็นที่ 13 ประโยคหลังน่าจะหมายถึงแมงเม่าที่ชอบเล่นกับไฟ หรือชอบตามแห่มากกว่า กับรายย่อยที่ผ่านประสบการณ์แบบนั้น และปรับแนวทางจากเล่นหุ้น เป็นลงทุน ก็มีโอกาสผิดพลาดจากการเสี่ยงแบบนั้น น้อยลง   จากคุณ : รัตนาธิเบต เขียนเมื่อ : 3 เม.ย. 54 21:11:53

ความคิดเห็นที่ 14 ผมว่าคำกล่าวของ นายโซรอสที่พี่มิ่งกลิ้งยกมานั้นอธิบายได้ดีเลยนะครับ รายย่อยส่วนมากเก็งกำไรกันโดยไม่มีจุดคัท ถือคติไม่ขายไม่ขาดทุน ทำให้เวลาเลือกหุ้นผิดที่ผิดเวลาต้องติดหุ้นไป ครั้นกว่าจะมาทำใจคัท ตัดชั๊บๆๆๆ ได้ก็ตอนราคาหุ้นดิ่งไปที่จุดต่ำสุดเข้าให้แล้ว จากคุณ : ผ่านแน่นอน เขียนเมื่อ : 3 เม.ย. 54 21:45:46

ความคิดเห็นที่ 15 นั่นคือ รายย่อยยุคใหม่ต้องคิดใหม่ ทำใหม่ ปรับเปลี่ยนแนวคิดในการเล่นหุ้น  สู้ๆ จากคุณ : คนจนที่อยากรวย เขียนเมื่อ : 3 เม.ย. 54 22:14:59

ความคิดเห็นที่ 16 วิธีที่จะทำให้รายย่อยชนะคำพูดทั้งสองประโยคคือ ลงทุนเพราะจะเป็นเจ้าของกิจการนั้นจริงๆครับ ไม่ต้องซื้อไม่ต้องขาย รอรับปันผล ไม่ต้องไปรู้ลึก แต่เห็นภาพกว้างๆว่าธุรกิจน่าจะไปได้ดีอย่างน้อยช่วง 5 ปีข้างหน้า สิ่งที่เป็นอยู่คือนักลงทุนรายย่อยนั้นคาดหวังผลตอบแทนมากแต่ต้องการใช้เวลาสั้นๆไม่ถึง 1 ปี มันเลยมีสองประโยคที่ว่าหัวกระทู้ ผมยกตัวอย่างของผมดีกว่า ผมชอบกินกาแฟร้านสีเขียวของเมกามาก ชอบซะจนอยากเป็นเจ้าของ ปีที่เมกามีวิกฤต ยอดขายมันเริ่มไม่ดีที่นั่น กอปรกับบริษัทกู้เงินมาเยอะ นักวิเคราะห์ก็ว่าไม่ดี หุ้นมันก็ลงมามากกว่า 50% (จาก 35--->14 $) ผมก็เลยเข้าซื้อใหม่ๆก็กลัวซื้อแค่ 20% ของพอร์ทราคามันก็นิ่งๆ พอทำงานมีเงินออมเหลือเลยซื้อเข้าไปอีกคราวนี้ แถวๆ 20$ นี่หล่ะ เพราะเราไปใช้บริการร้านเค้าขายดีหยั่งแจกฟรี แถมราคาแก้วนึงมีเงินอย่างเดียวคงซื้อไม่ได้ ราคาต่อหน่วยสูงที่สุดในตลาด ให้หลัง 2 ปีหุ้นวิ่งละคราวนี้มาที่เก่า 35$ ถามว่าจะขายไหม ตอบง่ายๆใครจะขายฟะ กิจการดีๆราคาที่เรามีมันหาไม่ได้แล้วถ้าปันผลดีต่อเนื่องยิ่งกอดแน่น ถ้าต่อว่าแล้วพอร์ทมันจะโตได้ไง ก็ราคาหุ้นมันขึ้นก็คือโตแล้วเฟ้ย มีตังค์ต้องหาทางซื้ออีก จะขายอีกทีเมื่อพื้นฐานมันเปลี่ยน คือมีร้านกาแฟสีอื่นมาขายดีกว่าขายแก้วนึงแพงกว่าด้วยนั่นแหละ ค่อยขาย นี่เค้าเรียก VI หล่ะ แล้วสองประโยคด้านบนจะไม่เป็นประเด็นอีกเลย จากคุณ : Bobby_GN เขียนเมื่อ : 3 เม.ย. 54 22:55:34

ความคิดเห็นที่ 17 แบบนี้น่าจะใช่กว่า " ซื้อที่จุดต่ำสุด ขายที่สุดสูงสุด   น้านน นาน มีสักที   ซื้อที่จุดสูงสุด ขายที่จุดต่ำสุด   มันเป็นประจำ  " จากคุณ : sb*star เขียนเมื่อ : 3 เม.ย. 54 23:09:10

ความคิดเห็นที่ 18 อ๋ากิ๊ปเยอะจริงๆด้วย สงสัยต้นเดือนกิ๊ปเหลือเยอะ เก็บใว้ใช้ปลายเดือนด้วยนะครับ   เดียวเค้าจะบอกว่า    ใช้กิ๊ปเป็นมนุษเงินเดือนไปได้ จากคุณ : mynametp1 เขียนเมื่อ : 4 เม.ย. 54 06:35:00

ความคิดเห็นที่ 19 มีชื่อ ผมด้วย  (ส่วนตัวโหวตขำๆๆครับ)ถ้าเป็นจริงมากๆ ตายกันพอดี เหมือนอีกกระทู้หนึ่งที่บอกว่า"ซื้อที่แนวต้าน แล้วขายที่แนวรับ"มันเป็นไปได้เหรอ? จากคุณ : THE FINAL 2 เขียนเมื่อ : 4 เม.ย. 54 07:59:20