ความคิดเห็นที่ 1 http://board.thaivi.org/viewtopic.php?f=4&t=4018&start=1170 จากคุณ : Idiopathic เขียนเมื่อ : 4 เม.ย. 54 22:20:09

ความคิดเห็นที่ 2 มารอฟังครับ มีกลุ่มนี้อยู่ จากคุณ : be rich soon เขียนเมื่อ : 4 เม.ย. 54 22:28:37

ความคิดเห็นที่ 3 #1 ขอบคุณครับ เพิ่งไปอ่านมาครับ เลยสงสัยว่า ในหุ้น 5 ตัวนี้ ใครจะได้ประโยชน์มากสุด บวกกับ พื้นฐานอื่นๆของแต่ละตัวเองด้วยแล้ว ตัวไหนจะโตมากกว่ากันนะครับ จากคุณ : Abell 1367 เขียนเมื่อ : 4 เม.ย. 54 22:31:42

ความคิดเห็นที่ 4 กลุ่มนิคมช่วงนี้น่าจะมาแรง จากคุณ : register เขียนเมื่อ : 4 เม.ย. 54 23:17:04

ความคิดเห็นที่ 5 TICON พื้นฐานดี ราคายังไม่แพงมาก P/E ถูกสุดในกลุ่ม มีพื้นที่ให้เช่าในนิคมหลายแห่ง , ปันผล 1 บาท , TAS40 ลองอ่านข้อมูลดูครับ ,, ทีสำคัญลองดูกราฟด้วยนะครับ ตัดเส้นกดขึ้นมาแล้ว http://board.thaivi.org/viewtopic.php?f=4&t=1365&view=unread Hemraj ราคาขึ้นมากเยอะในช่วงสัปดาห์แล้ว ช่วงนี้คงเจอแรงขาย , รายได้จะดีจริงต้องรอ Gehco1 เริ่มเดินเครื่องปลายปี แต่ราคาขึ้นมารับข่าวก่อน AMATA P/E แพงสุด , ประเด็นการลงทุนที่เวียดนาม ถ้าลดค่าเงินดองอีก ก้อกระทบให้มูลค่าบริษัทลดลง , amata เวียดนามจะลิสต์ในตลาดเวียดนาน 2H ROJNA P/E ถูก ได้อานิสงค์จากการถือหุ้น TICON , มีนิคมแค่ 2 ที่ , รายได้มาจากขายน้ำขายไฟเป็นหลัก NNCL .. ไม่ได้ตามครับ เนื่องจาก market cap เล็ก และที่สำคัญที่สุด มาตราฐานบัญชีใหม่ ทำให้ AMATA, HEMRAJ , ROJNA , NNCL จะบุคกำไรจากการขายที่ดินได้ เมื่อโอนแล้วเท่านั้น จากเดิมคิดเป็น % ตามการพัฒนา ทำให้กำไรปีนี้อาจลดลงหรือโตไม่มากเมื่อเทียบกันปีที่แล้ว จากคุณ : Polysaccharide เขียนเมื่อ : 4 เม.ย. 54 23:24:15

ความคิดเห็นที่ 6 ประเด็นสำคัญคือการย้ายฐานการผลิตจากญี่ปุ่นมาไทยเพิ่มเติมหลังจากประสบปัญหาแผ่นดินไหว นิคมที่มีฐานลูกค้าญี่่ปุ่นอยู่มาก ก็จะเป็น AMATA, HEMRAJ ครับ สองนิคมนี้น่าจะได้รับประโยชน์ที่สุด แต่ HERAJ มีปัจจัยเพิ่มเติมที่ทำให้น่าสนใจกว่า AMATA ก็ตรง ปีนี้จะเปิดโรงไฟฟ้า IPP 650 เมกะวัตต์ ที่ร่วมทุนกับ GLOW ส่วน amata เองก็มีโครงการโรงไฟฟ้าเหมือนกันแต่จะเป็นโรงไฟฟ้าขนาดเล็ก SPP ไม่อิมแพคต่อรายได้รวมเท่า hemraj เมื่อโรงไฟฟ้ารันแล้ว hemraj จะรับรู้รายได้เป็นปันผลประมาณ 1.6-1.7 พันล้านต่อปี   กำไรสุทธิคาดการณ์ว่าจะเติบโตกว่า 100% เมื่อเทียบกับปี 53 จากคุณ : sukineko เขียนเมื่อ : 4 เม.ย. 54 23:47:11

ความคิดเห็นที่ 7 Ticon ก็ใช้ได้ครับ เติบโตได้ตามกลุ่มนิคม แต่เรื่อง tas40 อ่านดูดีๆนะครับ การปรับมูลค่ายุติธรรม จะไม่มีการบันทึกเป็นรายได้และไม่ลงบุ๊คด้วยนะครับ เพราะ ticon ใช้วิธีบัญชีแบบ cost method ซึ่งมูลค่ายุติธรรมจะแสดงเป็นหมายเหตุให้ดูเท่านั้น ไม่มีผลต่องบการเงิน จากคุณ : sukineko เขียนเมื่อ : 4 เม.ย. 54 23:54:27

ความคิดเห็นที่ 8 เหมราชมีข้อดีนอกจากเรื่องจะขายที่ได้เยอะแล้ว ที่สำคัญกำไรของบริษัทจะก้าวกระโดดจากโรงไฟฟ้าเกคโค วันด้วยครับ ( เฉพาะรายได้จากโรงเกคโคอย่างเดียวก็มากกว่ากำไรจากธุรกิจเดิมทั้งปีอยู่แล้วครับ ) จากคุณ : Idiopathic เขียนเมื่อ : 4 เม.ย. 54 23:59:55

ความคิดเห็นที่ 9 Hemraj จริงๆ แล้วเป็นนิคมขนาดใหญ่สุดที่กลุ่ม  auto เข้ามาลงทุนนะครับ จากการโทรไปสอบถาม IR เมื่ออาทิตย์ก่อน  ให้ข้อมูลไว้กลางๆ แต่บอกว่ามีการเซ็นสัญญาซื้อขาย ที่ดินมาเรื่อยๆ   ซึ่งสามารถติดตามการเซ็นซื้อที่ดินได้ตามหน้าเว็บของ hemraj นะครับ อีกข้อนึงคือผลกระทบจาก สึนามิ ที่ญี่ปุ่น ผมได้อ่านหนังสือพิมพ์ธุรกิจ ว่าญี่ปุ่น รถจะโดนกระทบจังๆ ซึ่งคนเท่าเดิม แต่รถน้อยลง  พวกบรรดาบริษัทรถ ก็มีโอกาสมากทีเดียวที่จะย้ายฐานการผลิตมายัง แถบเรา   อีกข้อนึงคือเรื่องโรงไฟฟ้า  ถึงแม้รับรู้ปีหน้า  แต่โรงไฟฟ้า ก็เป็นรายได้ทางหนึ่งเท่านั้น อีกทางที่คนอ่านงบ จะเห็นคือ รายได้จากการจำหน่ายน้ำ  ในนิคมฯ ที่รายได้เท่าๆ กับการขายนิคมแล้วนะครับ ถ้ารวมแค่ ขายที่ดิน กับ ขายน้ำ  ไม่รวม gheco-1 นี่ก็ต้องพิจรณาเอาเองนะครับ ว่าในระยะต่อไปหุ้นนี้ดียังไง แต่ในภาพรวม กลุ่มนี้ มีแนวโน้มดีครับ จากคุณ : เจ้าชายชาเย็น เขียนเมื่อ : 5 เม.ย. 54 00:03:57

ความคิดเห็นที่ 10 hemraj ผมมองว่าเรื่องเกคโค่ 1 เป็นประเด็นที่ตลาดทราบมานานแล้วครับ ผมเคยซื้อตอน 0.8 บาท และลากขึ้นมา 1.xx บาทด้วยข่าวนี้แหละครับ ... ไม่ได้บอกว่าไม่ดีนะครับ แต่ขอราคาถูกนิดนึงค่อยเข้าซื้อ ปล. ผมก้อมี hemraj ครับ กำลังรอซื้อเพิ่มอยู่ จากคุณ : Polysaccharide เขียนเมื่อ : 5 เม.ย. 54 00:04:17

ความคิดเห็นที่ 11 ถ้าเลือกไม่ถูก ซื้อทั้งกลุ่มครับ ตัวละ 20% ครับ ยังไงกลุ่มนี้เพิ่งเริ่มต้นของการเดินทางอันแสนยาวไกล ... ผมมีหุ้นในกลุ่มนี้ 3 ตัว จาก 5 ตัว แก้ไขเมื่อ 05 เม.ย. 54 00:06:47 จากคุณ : Polysaccharide เขียนเมื่อ : 5 เม.ย. 54 00:06:16

ความคิดเห็นที่ 12 ขอบคุณทุกความเห็นมากนะครับ เห็นภาพชัดขึ้นเยอะเลยครับ จากคุณ : Abell 1367 เขียนเมื่อ : 5 เม.ย. 54 00:46:21

ความคิดเห็นที่ 13 ผมมอง nncl ด้วยครับ  nncl ตัวนี้ตอนนี้ราคาำต่ำบุคอยู่มาก โครงการ นวไพรเวซี่ ที่เป็นทั้งคอนโด ศูนย์การค้า ที่จัดอีเว้น โครงการนี้วางโครงการไว้ 3 ปี น่าจะส่งผลเป็นรายได้แล้ว  รวมทั้งยังได้รับอนุมัีิตสร้างโรงไฟฟ้าแล้วด้วย อีกหน่อย ในอนาคตตัวนี้ก็จะมีรายได้หลายๆ ทางตัวนี้ไม่ได้เพิ่งแต่การขายที่ดินอย่างเดียว แต่ยังเพิ่งสาธารณูปโภคด้วย ก็เหมือน hemraj  ที่พอมีโรงไฟฟ้าราคาก็ขยับขึ้นมาเรื่อย ๆ  ไงคิดว่า ราคาน่าจะขยับไปใกล้บุคได้ รวมทั้งที่รายใหญ่ เข้ามาซื้อถือหุ้นไว้ นายทวีฉัตร จุฬางกูร 72,000,000  เค้าคงมองเห็นอะไรสักอย่างนึง ในอนาคตถึงมาซื้อลงทุน ยังไงราคาน่าจะกลับไปที่บุคได้ สองบาทกว่าๆ จากคุณ : Orange-WiZ เขียนเมื่อ : 5 เม.ย. 54 02:50:16

ความคิดเห็นที่ 14 ROJNA รายได้หลักมาจากคอนโดจากจีน  ทั้งเฟส 1และ 2 +การพัฒนาคอนโดที่ไทย +การขายที่ดินเฉลี่ย 500-600 ไร่ต่อปี กลุ่มบริษัทสวนอุตสาหกรรมโรจนะ จำกัด  (มหาชน) ผู้ดำเนินกิจการพัฒนาที่ดินเพื่อตั้งโรงงานอุตสาหกรรม  ธุรกิจของตระกูล"วินิชบุตร"เปิดเผย"ฐานเศรษฐกิจ"ว่าเมื่อเร็วๆนี้บริษัทได้ รับการส่งเสริมการลงทุนจากสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน(บีโอไอ) รวดเดียวจำนวน 4 โครงการ รวมเม็ดเงินลงทุนมูลค่า 4,624 ล้านบาท ประกอบด้วย  1. การขอรับการส่งเสริมขยายกิจการผลิตไฟฟ้าและไอน้ำ ของบริษัท โรจนะ เพาเวอร์ จำกัด ขอส่งเสริมโดย นายจิระพงษ์ วินิชบุตร ในนามบริษัท โรจนะเพาเวอร์ จำกัด  ผลิตไฟฟ้าจากก๊าซธรรมชาติขนาด46.7 เมกะวัตต์ และไอน้ำ 41.3 ตัน/ชั่วโมง ขนาดการลงทุนทั้งสิ้น 2,110 ล้านบาท เป็นหุ้นไทย 41%  หุ้นต่างชาติ(ญี่ปุ่น) 59% ตั้งสถานประกอบการที่เขตอุตสาหกรรมของบริษัท สวนอุตสาหกรรมโรจนะ จำกัด (มหาชน) จังหวัดพระนครศรีอยุธยา(เขต2) ผลิตกระแสไฟฟ้าและไอน้ำจำหน่ายให้กับโรงงานอุตสาหกรรมในสวนอุตสาหกรรมโรจนะ ข้อสังเกต  โรจนะจะขยายงานด้าน โรงไฟฟ้า +ขายคอนโดมากกว่าขายที่ดิน จากคุณ : เก่ง-ชุมแสง เขียนเมื่อ : 5 เม.ย. 54 07:49:37

ความคิดเห็นที่ 15 ขอบคุณ.. ทุกท่านที่ให้ข้อมูลครับ ถืออยู่ 2 ตัว รอหม่ำปันผลอยู่   จากคุณ : รัตนาธิเบต เขียนเมื่อ : 5 เม.ย. 54 08:11:09

ความคิดเห็นที่ 16 มีอยู่สองตัว แอบทำหมูหกไปหน่อย ขอบคุณทุกข้อมูล ^^ จากคุณ : นินจาคาปูชิโน่ เขียนเมื่อ : 5 เม.ย. 54 13:28:52