ความคิดเห็นที่ 1 common gap คือ gap ที่เปิดแล้วลงมาปิด ชื่อก็บอกแล้วว่า gap แบบนี้เป็นแบบทั่วๆไป ไม่มีนัยยะสำคัญ ส่วนจะรู้ได้ยังไงว่าเป็น gap แบบไหน อันนี้ตอบยาก ต้องให้เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์ ไม่ก็ดู Indicator อื่นประกอบอย่าง RSI เป็นต้น ก็อาจจะพอคาดเดาได้ว่าจะเป็น gap แบบไหนครับ break away กับ run away gap เป็น gap ที่เปิด แล้วไม่ได้ลงมาปิด เป็นสัญญาณว่า หุ้นยังไปต่อได้ครับ สุดท้ายที่จะเกิดตามก็ คือ Island reversal ซึ่งเป็นสัญญาณกลับตัวครับ SET ตอนนี้ก็ดูเหมือนจะเป็นอย่างนั้น แต่เอาไว้ศึกษา และเตรียมพร้อมมากกว่าครับ ว่า ถ้าเกิดแล้วจะทำยังไง แต่ไม่ได้ทำก่อนเกิด เพราะถ้ามันไม่ใช่ island reversal แล้วเราขายทิ้งก็เท่ากับเราขายหมูนั้นแหละครับ จากคุณ : kanstk เขียนเมื่อ : 7 เม.ย. 54 17:49:03

ความคิดเห็นที่ 2 สำหรับผม gap   คือ ไส้ติ่งที่ตัดทิ้งไปแล้ว จากคุณ : keeta2 เขียนเมื่อ : 7 เม.ย. 54 17:58:38

ความคิดเห็นที่ 3 gap ที่ต้องปิดเสมอ แน่ๆ เรียกว่า Exhausted Gap หรือ Gap wave 5 นั่นเอง ส่วนใหญ่มักมีสัญญาณ Negative Divergence ประกอบด้วย ส่วนใหญ่เป็นสัญญาณถึงการเปลี่ยนแนวโน้มนั่นเอง จากคุณ : mix_xer เขียนเมื่อ : 7 เม.ย. 54 18:11:42

ความคิดเห็นที่ 4 ไม่รู้เอามะพร้าวห้าวมาขายสวนหรือป่าวน้าาาาา ยังไงลองดูละกันนะครับ ในการวิเคราะห์ทางเทคนิคจัดว่า Gaps เป็นรูปแบบต่อเนื่อง(Continuation Pattern) ชนิดหนึ่งกล่าวคือเมื่อเกิดในตลาดขาขึ้น ก็มักจะขึ้นต่อในทำนองเดียวกัน เมื่อเกิดในตลาดขาลงก็มักจะลงต่อจวบจนเกิด Gap สุดท้าย หรือ Exhaustion Gap ที่จะเกิดในปลายตลาดขาขึ้น หรือ ขาลง อันเปนสัญญาณเตือนว่าการกลับตัวของ ตลาดใกล้จะเกิดขึ้นแล้ว Gaps แบ่งออกเป็น 4 ชนิดนะครับ 1. Common Gaps or Area Gaps พบได้บ่อยๆครับ พบเห็นเป็นประจำครับ ส่วนใหญ่ Gaps ชนิดนี้เมื่อเกิดขึ้นมักจะลงมาปิดครับ โดยส่วนมาก Gaps ชนิดนี้จะทำหน้าที่เป็นแนวรับ แนวต้านไปในตัวด้วยนะครับ 2.Breakaway Gaps  พบได้ไม่บ่อยครับ แต่ถ้าพบแล้ว มักจะเป็นเวฟสาม หรืออาจพูดได้ว่า มันคือ Gaps ของเวฟสามนั้นเองครับ 3. Measuring Gaps or Runaway Gaps   แกป ชนิดนี้ ส่วนใหญ่จะเกิดขึ้นหลังจากเวฟสาม ผ่านไปสักระยะหนึ่ง เอาง่ายๆก็ กลางๆเวฟสามจะเกิด Gaps ชนิดนี้ครับ เกิดตามหลัง Breakaway Gaps  แต่บางทีไม่มี Breakaway Gaps  ก็ไม่เป็นไรครับ คุณสมบัติของ Gaps ชนิดนี้คือเราสามารถหาเป้าหมายได้จากความสูงของราคา  เช่น จุดเริ่มต้นของเวฟสาม ก่อนการเกิด Gaps จากนั้นนำระยะความสูงทีวัดได้ ไปคำนวนหาราคา โดยการวัดจากจุดที่เกิด Measuring Gaps ก็จะรู้ถึงเป้าหมายของราคานั้นๆครับ 4.Exhaustion Gaps  เป็น Gaps อ่อนแรง เกิดที่ปลายตลาดขาขึ้น หรือขาลงครับ เป็นสัญญาณเตือนว่าราคากำลังจะกลับตัว ในบางครับจะเกิดขึ้นพร้อมกับ Candlestick Patterns ด้วยนะครับ เช่น island  Reversal  Falling windows  rising windows  ใจจริงอยากอธิบายมากกว่านี้นะครับ แต่กลัวจะเป็นการสอนจระเข้ว่ายน้ำเปล่าๆก็เลยเอาเท่านี้ละกัน ทั้งหมดที่ผมกล่าวมามันเป็นแค่ ทฏษีฏีนะครับ การนำไปใช้จริงต้องยิดหยุ่นได้นะครับ เพราะการลงทุนไม่ใช่ คณิตศาสตร์ ที่ 1+1 จะต้องเท่ากับ 2 เสมอไปครับ บางที่ เป้าหมายที่เราวัดอาจไปไม่ถึงหรือเลยขึ้นไปอีกก็ได้ครับ การลงทุนต้องเรียนนะครับ เรียนก่อนแล้วค่อยลงทุนดีกว่า อยากเอาเงินไปจ่ายค่าเรียนในตลาดเลยครับ เพราะ ค่าเรียนอันนี้ มันแสนเจ็บปวด และ แพงมากๆครับ  ฝากเอาไว้ให้พิจารณาครับ จากคุณ : lukball เขียนเมื่อ : 8 เม.ย. 54 02:16:52