PANTIP.COM : I10480612 ทำไมผู้หญิงถึงชอบเพชร []

ความคิดเห็นที่ 25

เพชร ...

ถูกใช้เพื่อเป็นเครื่องประดับมานานมากแล้ว ซึ่งบ่งบอกถึงฐานะ ระดับ อำนาจ และบารมี ซึ่งในสมัยก่อนปู้นนนนนหลายร้อยปี
มันเป็นอัญมณีที่เฉพาะพระราชวงศ์ชั้นสูงเท่านั้น เพชรจึงกลายเป็นสัญลักษณ์ของอำนาจของราชวงศ์ไป ยิ่งมีเยอะ ยิ่งมีเม็ดโต
ยิ่งเป็นเครื่องแสดงพลังอำนาจ ดังที่เห็นกันบนมงกุฏราชาภิเษกของทุกๆประเทศในยุโรป ซึ่้งจะต้องมีเพชรเป็นส่วนประกอบ

ในช่วงยุคทองอันรุ่งโรจน์ของจักรวรรดิอังกฤษ อังกฤษได้พยายามสะสมเพชรและอัญมณีมีค่าทุกชนิด ซึ่งหนึ่งในนั้น
เป็นเพชรเม็ดเขื่อง ขนาดใหญ่โตกว่าเป็นร้อยกะรัตในชุด "คัลลิแนน" ซึ่งเป็นเพชรดิบขนาดใหญ่ที่สุดในโลกคือขนาดกว่า
3,106 กะรัต ถูกแบ่งเจียรไนออกเป็น 9 เม็ด เม็ดที่ใหญ่ที่สุดคือคัลลิแนน 1 หรือในอีกชื่อคือ Great Star of Africa
ขนาด 530 กะรัต เฉพาะเพชรเม็ดนี้ต้องใช้ช่างขัดเงา 3 คน ทำงานวันละ 14 ชั่วโมง นานกว่า 8 เดือนจึงแล้วเสร็จ

เพชรถูกสมญาในเรื่องของความยิ่งใหญ่ ความรัก ความแข็งแรง ความแข็งแกร่ง เพราะมันมีสเกลความแข็งแรงของโมส์ที่ระดับ 10
ซึ่งไม่สามารถมีสิ่งใดทำให้เพชรเป็นรอยได้ นอกจากเพชร ดังนั้นเครื่องเจียรไนเพชร จึงต้องใช้เพชรเท่านั้นเป็นส่วนประกอบ
ไม่เช่นนั้นใบมีดก็หัก หรือตัดไม่เข้า และตั้งแต่อดีตเป็นต้นมาการล่าอาณานิคมเพื่อหาทรัพยากรธรรมชาติ และอัญมณีก็เริ่มต้นขึ้น
ฝรั่งเศสเองก็ไม่น้อยหน้าอังกฤษ แต่อังกฤษได้ประเทศที่มีทรัพยากรหลักที่เป็นเพชรเยอะมากโดยเฉพาะฝั่งแอฟริกา
อินเดียซึ่งมีเหมืองเพชรขนาดกลางๆด้วยเหมือนกัน พม่ามีอัญมณีมากมาย และมาเลเซียก็มีอัญมณีไม่น้อยเหมือนกัน ส่วนฝรั่งเศส
ส่วนใหญ่ที่ได้คือประเทศธรรมดาที่มักมีแต่ทรัพยากรป่าไม้เป็นหลัก การแข่งขันอำนาจบารมีนี้ดุเดือดจนกระทั่งสิ้นสุดลงในช่วงยุค 19

หลังจากนั้นเป็นต้นมา การหาเพชรเป็นไปอย่างเงียบๆ จนกระทั่งเข้าถึงยุคข้อมูลข่าวสารในช่วงกลาง-ปลายยุค 19 ดารา
ธุรกิจเพชรเติบโตอย่างจริงจัง ผู้คนเริ่มหาเพชรมาสวมใส่เป็นเครื่องประดับ เริ่มตั้งแต่ผู้ดีมีฐานะ ดารา นักร้อง นางแบบ ทุกคนสวมใส่เพชร
แม้จะต้องกู้หนี้ยืมสินเขามาซื้อเพชร แต่ก็ไม่ใช่ปัญหา เพราะปัญหาของสังคมในยุคนั้น การไม่มีเพชรแย่กว่าการมีหนี้

เมื่อเข้าสู่ยุคของการตลาด De Beers บริษัทเหมืองเพชรชื่อดังของอังกฤษ ผู้มีความสามารถในการขุดเจาะทำเหมืองเพชรทั่วโลก
เริ่มใช้แคมเปญหลักที่ชื่อว่า "A Diamond is Forever" เพชร อมตะ นิรันดร์ เป็นยุคบูมที่สุดมาจนถึงทุกวันนี้
การตลาดครั้งนี้ผมเชื่อว่าประสบผลสำเร็จมาก ทุกคนเริ่มสนใจและใส่ใจในเครื่องประดับเพชร ความสวยงามของเพชรในยุคปัจจุบัน
เชื่อว่าผู้หญิงโดยส่วนใหญ่จะต้องหลงไหลในเส่นห์แห่งประกาย เหมือนถูกมนตร์สะกด ถ้าไม่เชื่อลองพาศรีภรรยาเดินเข้าร้านเพชร
ส่วนใหญ่หลังจากที่ออกมาจากร้าน ก็ต้องรู้สึกมึน เบลอ แล้วก็เหมือนอยู่ในพะวง เหตุผลคือด้วยประกายที่แวววาว ซึ่งผู้หญิง
ชอบของประเภทนี้อยู่แล้ว เมื่อเห็นเข้าก็เหมือนต้องมนตร์สะกด โดยเฉพาะในยุคใหม่ที่มีการเจียรไนในรูปแบบต่างๆซึ่งสามารถ
เร่งแสงตกกระทบและให้ประกายส่องสุกสกายแวววาวได้มากกว่า หนึ่งในนั้นคือการเจียรไนรูป Heart & Arrow
เป็นการเจียรไนให้มีมุมตกกระทบเมื่อส่องด้วยกล้องบิดไปที่มุมหนึ่งจะเห็นเป็นรูปหัวใจเรียงกัน 8 ดวงรอบเพชร และเมื่อบิดไปอีกมุม
ก็จะเห็นเป็นรูปลูกศรเรียงกันเป็น 8 อันรอบเพชรเช่นกัน ซึ่งเสมือนกับการเป็นคุณค่าแทนในเรื่องความรัก ที่เป็นลูกศรปักใจนั่นเอง

การเจียรไนเพชรมีหลายรูปแบบ แต่แบบของ Heart & Arrow ถูกคิดค้นมาเมื่อไม่นานนี้ และมาพร้อมๆกับแคมเปญของ
A Diamond is Forever ดังนั้นเพชรจึงถูกสร้างการตลาดให้เป็นเสมือนอัญมณีเพื่อแทนใจด้านความรักเรื่อยมา
มีคนกว่าว่าเพชรเหมาะสมที่สุดในการเป็นอัญมณีของความรัก เพราะ

1. มันสุกใส เป็นประกายแวววาว เหมือนความรักที่เจิดจรัสระหว่างเรา
2. มีความแข็งแรงสูงสุด เหมือนความรักเรานั้นเป็นอมตะนิรันดร์กาล
3. ไม่มีสิ่งใดทำลายได้นอกจากเพชรด้วยกันเอง เหมือนกับความรักของเรานั้นไม่มีอะไรมาทำลายได้
ฯลฯ จริงๆแล้วคนบ้าเพชรเขาอธิบายเอาไว้เยอะมาก แต่ผมจำไม่ได้ค่อยได้เท่าไหร่ แหะๆ

ถ้าพูดในเรื่องของการตลาด De Beers สร้างแผนการตลาดเรื่องนี้ไว้อย่างแยบยล ตั้งแต่การเริ่มสร้างค่านิยมด้านความรักและเพชร
จนกระทั่งเริ่มมีการตลาดที่ดึงดูดใจผู้คนและออกมาเรื่อยๆอย่างต่อเนื่อง ในปัจจุบัน แม้จะมีเรื่องเกี่ยวกับเพชรเปื้อนเลือด
โดยเฉพาะการทำเหมืองในเซียราลิโอน และประเทศอื่นๆในกลุ่มแอฟริกากลาง เกณฑ์ผู้คนไปหาเพชรเพื่อเอาไปซื้ออาวุธมาต่อต้านรัฐบาล
เรื่องนี้มีอยู่จริง แต่ไม่เคยเป็นปัญหาเลยสำหรับวงการเพชร เพราะคนส่วนใหญ่ก็ไม่ได้สนใจ เนื่องจากเพชรโดยส่วนใหญ่กว่า
60-70% ++ ของโลกมาจากเหมืองของ De Beers ที่ขุดเจาะอยู่ทั่วทุกมุมโลก ในชั่วโมงหนึ่งๆเรือเหมืองเพชรของ De Beers
ต้องทำยอดให้ได้กว่า 27 กะรัต ซึ่งเป็นเหมืองเพชรแถบแอตแลนติก โดยอาศัยการวิเคราะห์และการพัดพาของกระแสน้ำ
ในแม่น้ำออเรนจ์ ซึ่งจะเป็นบริเวณที่มีเพชรดิบแถบบริเวณนั้นค่อนข้างมากจากการเกิดภูเขาไฟและคาร์บอนเมื่อกว่าหลายหมื่นปีก่อน
และยังมีเหมืองบนดินอีกนับไม่ถ้วน คงไม่ต้องถามนะว่าจะมีใครลักลอบเอาเพชรออกไปเองได้หรือไม่ คำตอบคือเป็นไปได้ยากมาก
เพราะกระบวนการแต่ละขั้นตอน พนักงานของบริษัทแทบไม่ได้แตะต้องหินดินทราย ทั้งยังมีการตรวจสอบอย่างเคร่งครัดตลอดเวลา

หลงจากเพชรดิบส่งกลับไปที่สำนักงานใหญ่ คราวนี้ก็จะเป็นเรื่องการตลาดที่เพชรส่วนหนึ่งมักมีการซื้อขายกันที่ตลาดเพชรใหญ่
ในเมืองแอนท์เวิร์ป ประเทศเบลเยี่ยม ตลาดนี้เป็นตลาดการซื้อขายเพชรใหญ่ที่สุดในโลก ผู้คนมาซื้อขายที่นี่เยอะมาก
แต่เป็นการซื้อขายเพชรดิบระหว่างกัน หนึ่งในเพชรดิบจากที่นี่เป็นเพชรดิบที่อาจจะมาจากเหมืองในประเทศความขัดแย้งก็ได้ใครจะไปรู้

ส่วนของ De Beers เขาจะมีห้องนิรภัยใต้ดินขนาดใหญ่ ซึ่งว่ากันว่าเป็นที่เก็บเพชรจำนวนมากเอาไว้อย่างปลอดภัย
ในห้องนิรภัยที่แข็งแรงมาก และยังเป็นตัวสร้างดีมานด์ซัพพลายให้กับตลาด เมื่อราคาเพชรลดลง บริษัทก็จะกวาดซื้อเพชรกลับมา
หลังจากนั้นก็ปล่อยให้เพชรเริ่มขาดตลาดไปช่วงหนึ่งแล้วค่อยๆรินขายออก เพื่อรักษาสมดุลทางราคาเอาไว้ บริษัทนี้ใหญ่มาก
และเพชรที่เขาขายแทบไม่เคยมีการเจือปนของเพชรปลอมเลยแม้สักครั้งเดียว ชื่อเสียงอันยาวนานและความสามารถสูงของบริษัทนี้
เป็นสิ่งหนึ่งที่ทำให้บริษัทนี้มีความน่าเชื่อถือสูงมาก การขายเพชรดิบของ De Beers จะเป็นการขายให้กับร้านเพชรโดยตรง
มีทั้งเพชรดิบและเพชรที่เจียรไนแล้ว ถ้าเป็นเพชรดิบเขาจะใส่ถุงสีเหลืองๆมาเป็นถุงๆ ให้เราดูและตรวจสอบเพชรทั้งหมด
หลังจากนั้นจึงเริ่มทำการซื้อขายตกลงราคากัน เมื่อตกลงได้ก็หิ้วถุงกลับไปพร้อม Certification จาก De Beers

เมื่อกระบวนการเหล่านั้นผ่านมาเรื่อยๆก็จะเป็นการขายและการตลาด คุณรู้ไหมว่าจาก De Beers เป็นต้นมา บางครั้งเพชร
ผ่านมือไปเรื่อยๆ เส้นทางการเดินทางเป็นสิบๆปี อาจจะมาถึงมือคุณก็ได้ ไม่มีใครรู้ว่าเพชรอันไหนคือเพชรใหม่หรือเก่า
เพราะเขาตรวจสอบได้แค่เพชรจริงกับเพชรปลอม และระหว่างที่เดินทาง เพชรก็ถูกสร้างมูลค่ามาเรื่อยๆ จากเพชรดิบ
มาเจียรไนแล้ว และเอาไปลงตัวเรือนเครื่องประดับ คงจะมีคนน้อยคนรู้ว่ากำไรระหว่างทางเหล่านั้น สูงถึงกว่าเกือบ 1,000%
เพชรถูกสร้างราคาเพื่อเป็นตัวแปรหนึ่งในระบบการเงินเช่นเดียวกับทองคำ แต่ไม่เป็นที่นิยมเท่าไหร่เพราะถึงอย่างไร
เพชรปลอมง่ายกว่า ตรวจสอบยาก และ ณ เวลานี้มีการสังเคราะห์เพชรแท้ที่มีอานุภาคเช่นเดียวกับเพชรได้แล้ว

เพชรสามารถใช้เป็นอุปกรณ์สำคัญได้หลายอย่าง ตั้งแต่เครื่องมือผ่าตัด อุปกรณ์หมอฟัน งานอวกาศ ซึ่งต้องใช้เศษเพชร
เม็ดเล็กเป็นจำนวนมากไปเคลือบผิวกระจกยานอวกาศ กันรังสีในอวกาศได้ และยังใช้ในวงการอุตสาหกรรมอื่นๆได้อีกมาก
เพชรทุกวันนี้ในแง่ของเครื่องประดับก็ยังมีอยู่และยังสูงขึ้นโดยเฉพาะในประเทศจีนและญี่ปุ่นที่นิยมเพชรค่อนข้างมาก
ผิดกับบ้านเราที่มีความนิยมเพชรในกลุ่มฐานะระดับสูงแล้ว ซึ่งโดยส่วนใหญ่ของไทยนิยมซื้อและเก็บทองคำมากกว่าซึ่งถือว่าดี
ความต้องการเพชรในหมู่สตรีในวโรกาศพิเศษเช่น แต่งงาน ครบรอบแต่งงาน ปัจจุบันก็ยังมีสูงและสูงขึ้นเรื่อยๆ
สิ่งนี้เสมือนคุณค่าแทนใจมากกว่าความสวยงาม เพราะผู้หญิงส่วนใหญ่ก็คงคิดเช่นเดียวกับ De Beers

"เพชร อมตะ นิรันดร์" A Diamond is Forever

จากคุณ : venezier

เขียนเมื่อ : 24 เม.ย. 54 11:02:44