ความคิดเห็นที่ 1 แสดงความคิดเห็น...ไม่อิงการเมืองนะครับ อิงความเป็นไปได้ของโครงการ อิงน่าจะดีหรือไม่ดีของโครงการ อิงด้านเศรษฐกิจภาครวมที่มีผลต่อตลาดหุ้น จากคุณ : 9เก้าก้าว เขียนเมื่อ : 25 เม.ย. 54 09:05:25

ความคิดเห็นที่ 2 ไม่ต้องหาความเป็นไปได้โครงการครับ เพราะคนคิดไม่ได้ทำ  และไม่มีโอกาสทำ     จบข่าว จากคุณ : Magic G เขียนเมื่อ : 25 เม.ย. 54 09:18:47

ความคิดเห็นที่ 3 เน้นครับ...อย่าดึงการเมืองเข้ามาครับ จากคุณ : 9เก้าก้าว เขียนเมื่อ : 25 เม.ย. 54 09:23:15

ความคิดเห็นที่ 4 ความเป็นได้ทางวิศกรรมนี่สร้างได้แน่นอน ตัวอย่างในต่างประเทศมีอยู่แล้ว แต่ความเป็นไปได้ที่จะสร้างในประเทศไทย เป็นไปไม่ได้เลย ทุกวันนี้เมืองไทยไม่สามารถจะสร้างอะไรได้อีกแล้ว ไม่ว่าจะมีโครงการทำอะไรจะมีคนออกมาคัดค้านเสมอ ทั้ง NGO ทั้งชาวบ้าน และนักการเมืองที่เสียผลประโยชน์ สุดท้ายก็จะสร้างไม่ได้ บริเวณถนนพระราม 2 เคยมีโครงการจะสร้างทางด่วนลัดลงภาคใต้โดยสร้างลงไปในทะเลตัดอ่าวไทยไป สุดท้ายก็สร้างไม่ได้ อ้างว่ากระทบระบบนิเวศชายฝั่ง กระทบประมงของชาวบ้าน กัดเซาะตลิ่ง ปลาไม่วางใข่ ฯลฯ แม้แต่คนขายขนมหม้อแกงแถวเมืองเพรชก็คัดค้านเพราะกลัวคนไม่ขับรถผ่านแถวนั้น ทำให้ขายไม่ได้ จากคุณ : HereWeGo เขียนเมื่อ : 25 เม.ย. 54 09:25:16

ความคิดเห็นที่ 5 ชายทะเลบางขุนเทียน พื้นดินเดิมคือไม้ไผ่ที่จมน้ำ จากคุณ : 9เก้าก้าว เขียนเมื่อ : 25 เม.ย. 54 09:26:35

ความคิดเห็นที่ 6 ทางเทคนิคทำได้ แต่จะเอาเงินมาจากไหน ??? จากคุณ : uninote เขียนเมื่อ : 25 เม.ย. 54 09:26:46

ความคิดเห็นที่ 7 ป้องกันน้ำทะเลซัดแบบพลีชีพ จากคุณ : 9เก้าก้าว เขียนเมื่อ : 25 เม.ย. 54 09:28:21

ความคิดเห็นที่ 8 บริเวณชายหาดใกล้เคียงกัน... ที่ไม่หาหนทางป้องกัน แค่ 2 ปีให้หลัง (แบบพลีชีพเหมือนกัน) จากคุณ : 9เก้าก้าว เขียนเมื่อ : 25 เม.ย. 54 09:31:39

ความคิดเห็นที่ 9 มีเวลาอีกแค่ 7 ปี จะทำอะไรก็รีบทำ “อาจอง” ฟันธง อีก 7 ปีภาคกลางจมน้ำ กทม.อยู่อาศัยไม่ได้ กันยายน 18, 2010   “อาจอง” ฟันธง อีก 7 ปีภาคกลางจมน้ำ กทม.อยู่อาศัยไม่ได้ ชี้เปลือกเคลื่อนตัวเร็วขึ้นทำเกิดสึนามิถี่ยิบ ตัดพ้อแกนโลกอีกไป 8 ซม.แล้วยังมัวแต่ทะเลาะกัน ไม่คิดร่วมมือ ดร.อาจอง ชุมสาย ณ อยุธยา อดีตนักวิทยาศาสตร์องค์การนาซ่า และผู้คิดระบบลงจอดยานอวกาศบนดาวอังคาร บรรยายพิเศษในงาน “สัมมนาโลกร้อน: ผลกระทบของชาวเชียงใหม่” ที่โรงเรียนพายัพเทคโนโลยีและบริหารธุรกิจ อ.สันทราย จ.เชียงใหม่ ว่า โลกเปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่อง ล้วนแต่เกิดจากการกระทำของมนุษย์เป็นสาเหตุหลัก อาทิ ใช้ทรัพยากรธรรมชาติอย่างไม่คำนึงถึงอนาคต ตัดไม้ทำลายป่า ปล่อยของเสียสู่ธรรมชาติซึ่งทำให้เกิดปัญหาโลกร้อน และนำมาซึ่งความเปลี่ยนแปลงอย่างร้ายแรงของโลก ดร.อาจอง กล่าวว่า ความเปลี่ยนแปลงกับโลกที่เกิดขึ้นตอนนี้หากทุกคนช่วยกันยังไม่สายเกินไปที่ จะแก้ไข แต่ตอนนี้ทุกคนทุกประเทศทั่วโลกต่างเกี่ยงกัน ทะเลาะกัน ไม่ช่วยกันแก้ไขหรือยับยั้งการทำลายโลก หรืออาจต้องรอให้เกิดภัยพิบัติขึ้นก่อนถึงจะค่อยร่วมช่วยกันแก้ไขปัญหา ดังเช่นที่เกิดขึ้นมาแล้วที่เฮติ และชิลี แม้จะมีคนตายจำนวนมาก แต่ทุกประเทศก็ไม่ได้เดือดร้อน เพราะคิดว่าเป็นเรื่องไกลตัว ทั้งที่แกนโลกเปลี่ยนแปลงไปถึง 8 เซนติเมตร แต่ก็ไม่มีใครสนใจ แม้ว่ามันจะเป็นสัญญาณอันตรายก็ตาม นอกจากนี้ ยังเกิดปรากฎการณ์เปลี่ยนแปลงมากมาย ทั้งอุณหภูมิช่วง 30 ปีที่ผ่านมาเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง โลกร้อนขึ้น ปะการังฟอกสี (ปะการังเสียชีวิต) พายุระดับความรุนแรงมากขึ้น จากที่เคยมีแต่ระดับ 3 ริกเตอร์ ซึ่งก็ถือว่ารุนแรงแล้ว แต่ตอนนี้เพิ่มระดับความรุนแรงขึ้นเป็นระดับ 4-5 ริกเตอร์ น้ำในทะเลสาปเริ่มแห้ง น้ำแข็งขั้วโลกเหนือละลาย อุณหภูมิสูงขึ้นเฉลี่ย 4 องศาเซลเซียส และภายในไม่ถึง 10 ปีหมีขั้วโลกจะสูญพันธ์ไปจากโลก รวมถึงระดับน้ำทะเลจะสูงขึ้น 6 เมตร และต่อจากนี้ไปโลกจะเกิดการเปลี่ยนแปลง 2 อย่าง 1.โลกเปลี่ยนแกน ขั้วโลกเหนือจะย้ายมาอยู่พื้นที่ประเทศสเปนตอนใต้ของยุโรปปัจจุบัน อุณหภูมิจะลดลงอย่างรวดเร็ว แต่คิดว่าไม่น่าจะเกิดขึ้นได้ 2.เปลือกโลกเคลื่อนตัวเร็วขึ้น ซึ่งคาดว่าจะเกิดขึ้นอย่างแน่นอน โดยตามรอยเลื่อนรอยแยกต่าง ๆ จะมีความเร็วในการเคลื่อนตัวไม่เท่ากัน ซึ่งจะทำให้เกิดแผ่นดินไหว และเกิดสึนามีจำนวนครั้งและความรุนแรงเพิ่มมากขึ้น ดร.อาจอง กล่าวต่อว่า ส่วนประเทศไทยอยู่บนรอยเลื่อนยูเรเชียน เพลท (Eurasian Plate) จะถูกผลกระทบเช่นกัน คาดว่าจะเกิดสึนามิขึ้นบริเวณอ่าวไทย ซึ่งไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ภาคใต้จะได้รับผลกระทบหนักสุด ส่วนพื้นที่ภาคเหนือบริเวณจังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียวราย พะเยา น่าน ลำปาง อุตรดิตถ์ จะเกิดรอยร้าวขึ้น เกิดแผ่นดินไหวมากขึ้น แต่ความแรงไม่น่าจะเกิน 6 ริกเตอร์ จะเกิดน้ำท่วม น้ำป่าไหลหลากเพิ่มมากขึ้น แต่ถือว่ามีความปลอดภัย ส่วนภาคกลางทั้งกรุงเทพ สมุทรสาคร สมุทรสงคราม สมุทรปราการ นนทบุรี อยุธยา อีกหลายจังหวัด จะจมใต้ทะเล และเชื่อว่าอีก 7 ปีข้างหน้ากรุงเทพจะไม่สามารถอยู่ได้เพราะถูกน้ำท่วม จากคุณ : พีทีดี เขียนเมื่อ : 25 เม.ย. 54 09:36:58

ความคิดเห็นที่ 10 ขนาดวัคซีนไข้หวัดนกปานนี้ยังนัดแล้วนัดอีกไม่ได้ฉีดเลยชาวบ้านเหมารถเสี่ยเวลาเป็นปีๆ จากคุณ : sspp8888 (sspp8888) เขียนเมื่อ : 25 เม.ย. 54 09:42:04

ความคิดเห็นที่ 11 ไม่เอาครับ กระทู้นี้ควรจะไปหมวดราชดำเนิน เสียมากกว่า ไม่อยากจะต่อล้อเถียงเลยครับ เบื่ออออออออออ จากคุณ : amphun (Amphun) เขียนเมื่อ : 25 เม.ย. 54 09:44:08

ความคิดเห็นที่ 12 ... ถ้าไม่ทำ ก็ต้องย้ายเมืองหลวง ... ยังไงโครงการต้องเกิดแน่ๆ   .. ปัญหา จะเอาทรายปริมาณมหาศาลมาจากไหน .. เขมร  ดูจะใกล้สุด .. จากคุณ : น้าทู (Patunga) เขียนเมื่อ : 25 เม.ย. 54 09:47:57

ความคิดเห็นที่ 13 ผมไม่รู้ว่าหัวข้อนี้มันเกี่ยวกับการเมืองตรงไหน  ผมว่าไม่เกี่ยวนะ การทำแล้วสำเร็จ หรือไม่  นั้นมีผลต่อเศรษฐกิจไทยอย่างแน่นอน ดังนั้นตั้งที่ห้องนี้ก็น่าจะได้นะครับ ความเป็นไปได้ เป็นไปได้แน่นอน ถ้าไม่คิดถึงเรื่องเงินทุน (หรือเขาอาจจะมีวิธีหาเงินทุนมาทำ อันนี้ไม่ทราบได้) เพราะต่างประเทศเขาก็ทำกันเยอะแยะ ส่วนเรื่องแนวคิด ที่จะทำเขื่อนกั้นชายฝั่ง ผมว่าเป็นแนวคิดที่ดีนะ ถ้าทำได้ แถวชายฝั่งบางขุนเทียน วิวสวย อากาศดี  น่าจะได้แหล่งท่องเที่ยวแหล่งใหม่ ทำเงินได้เยอะ แล้วที่ดินแถบๆนี้ก็หายไปเรื่อยๆอยู่แล้ว เหมือนได้ที่ดินเพิ่มขึ้น เอาที่ๆมันน่าจะจมลลงน้ำ มาทำประโยชน์ได้ ภาพรวมต่อตลาดหุ้น ( ไม่รู้ไม่เซียน แต่คิดว่ามีแน่ ฮ่าๆๆ ) ปล. ดูกันที่แนวคิดครับ อย่าดูว่าใครเป็นคนคิด  มิฉะนั้นมันจะเป็นการเมือง ฮ่าๆๆ จากคุณ : Ext เขียนเมื่อ : 25 เม.ย. 54 10:01:14

ความคิดเห็นที่ 14 ขอเสริม คห.4   พอดีมีโอกาสได้เป็นส่วนเล็กๆ ส่วนหนึ่ง โครงการทางลัดสู่ภาคใต้ โครงการนี้เป็นความต้องการของนักการเมืองดังของโคราช ต้องการโครงการเร่งด่วน ให้ศึกษาความเป็นไปได้ของโครงการ โดยให้ระยะเวลาศึกษาเพียงหนึ่งปี โดยกล่าวอ้างเป็นโครงการพระราชดำริ (ซึ่งต่อมามีหนังสือแจ้งให้หยุดการกล่าวอ้าง)     โดยโครงการที่จะก่อสร้างสามารถย่นระยะการเดินทางได้ 30-40 กม.แล้วแต่ทางเลือก ซึ่งการออกแบบทางวิศกรรมจราจร พบว่ายังมีทางเลือกอื่นอีกมากมาย เช่น ขยายทางหลวงหมายเลข 4 เป็นขนาด 8-10 ช่องจราจร# ทางด่าวนคล่อมทางหลวงหมายเลข 4 ขนาด 6 ช่องจราจร# ถนนเลียบชายฝั่งทะเล ขนาด 4 ช่องจราจร   ขนาดงบประมาณเริ่มต้นที่ศึกษากันได้คือ 1 แสนล้าน แต่อยู่ดีๆ ก็เคาะลงมาหลือ 4 หมื่นล้านบาท เพื่อให้นำเสนอได้ง่ายขี้น   การทำประชาวิจารณ์ ในห้องประชุมถ้าไม่เคยเข้าไปมีส่วนร่วมเราจะมองถึงประโยชน์ และเชียร์ให้สร้างอย่างเดียว แต่ถ้าได้เข้าร่วมประชุมแล้ว จะได้มุมมองหลากหลายมาก อีกทั้งการทำประชาวิจารณ์ในพื้นที่ก็เกณฑ์คนนอกพืนที่เข้าฟัง พวกต่อต้านก็ไม่ให้เข้าเลย บางครั้งยังอยู่ในห้องประชุมเถียงกันหน้าดำหน้าแดง หัวหน้าผู้รับผิดชอบโครงการก็ออกมาแถลงข่าว เรื่องได้รับความเห็นชอบที่จะก่อสร้าง และพร้อมจัดหาผู้รับเหมาแล้ว   ไม่ใช่เฉพาะโครงการนี้หลายๆ โครงการที่เข้าร่วมเห็นแล้วเพลียใจ ประเทศนี้ หลายโครงการไม่ได้เกิดจากความต้องการของชุมชน ของประเทศ และสังคม แต่เป็นการยัดเยียด ของคนที่ต้องการมีส่วนได้ส่วนเสียในงบประมาณ ถ้าไม่เชื่อลองดูรายชื่อบริษัทที่ปรึกษาโครงการ ที่ศึกษาความเป็นไปได้โครงการก่อสร้างต่างๆ ในประเทศไทย จะพบว่าวนเวียนอยู่ไม่กี่บริษัท ซึ่งทุกบริษัท พร้อมที่จะศึกษาให้เป็นไปตามความต้องการของนักการเมืองเสมอ จากคุณ : เสี่ยหมี เขียนเมื่อ : 25 เม.ย. 54 10:09:01

ความคิดเห็นที่ 15 ทำรถไฟจากกรุงเทพไปเชียงใหม่ให้ได้2ชั่วโมงดีกว่า  สงกรานต์กลับบ้านกันทีตายเท่ากับมีสงครามกลางเมือง จากคุณ : chai13 เขียนเมื่อ : 25 เม.ย. 54 10:10:40

ความคิดเห็นที่ 16 งง ตรงที่จะเอาสมบัติของชาติไปขายให้เอกชนเนี่ยแหล่ะ เอาเป็นแบบให้เช่าระยะยาว แต่กรรมสิทธิ์ที่ดินยังเป็นของรัฐไม่ได้หรือครับ จากคุณ : nat1234 เขียนเมื่อ : 25 เม.ย. 54 10:20:50

ความคิดเห็นที่ 17 (เห็นสงสัยมาหลาย คคห.ว่าเอาเงินมาจากไหน) ความน่าจะเป็นไปเรื่องเงินทุนคือ เมื่อรัฐได้ที่ดินเปล่าเพิ่มขึ้นมา 2 แสนไร่ รัฐก็ขายให้แก่ประชาชนหรือนักลงทุนทั่วไป ขายให้แก่คนไทย...แน่นอน หรือน่าจะให้ต่างชาติออกเงินทุน เหมาทำโครงการทั้งหมด แล้วขายส่วนต่างกำไรจากที่ดินทั้งหมดให้ ปชช. //ผู้ซื้อก็คือประชาชนคนไทย// โดยมีรัฐเป็นผู้ควบคุมเงื่อนไขต่างๆของโครงการ จากคุณ : 9เก้าก้าว เขียนเมื่อ : 25 เม.ย. 54 10:40:48

ความคิดเห็นที่ 18 ผมว่าไปกั้นตรงนี้  ตรงอื่นก็มีผลกระทบอยู่ดีครับ เช่นกั้นเขื่อนที่กรุงเทพ  แน่นอนกรุงเทพแถวบางขุนเทียนน้ำไม่ท่วม  แต่ชาวบ้านแถวหมาชัย แถวบางปะกงล่ะ ซึ่งแน่นอนว่าโครงการนี้ไม่ได้สร้างไปถึง คือถ้าจะทำให้เท่าเทียม ผมว่าคงต้องทำเขื่อนรอบอ่าวไทยเลยแหล่ะ  ซึ่งมันก็ลงทุนสูง ไม่ได้เกิดประโยชน์กับคนส่วนใหญ่เมื่อเทียบกับงบการลงทุนสูงขนาดนั้น บางทีอะไรจะเกิดเราก็ควรหาทางรับมือที่ไม่ใช่ต่อสู้ หรือ ต่อต้านกับธรรมชาติดีกว่า จากคุณ : vacuum_car เขียนเมื่อ : 25 เม.ย. 54 10:49:07

ความคิดเห็นที่ 19 รอให้โปรเจกนี้มันคลอดออกมาแล้วค่อยคุยกันดีไหมครับ คุยกันตอนนี้มันก็ไม่ได้อะไรขึ้นมาหรอกครับ นอกจากจะเป็นการหาเสียงเท่านั้นเอง จากคุณ : ฉลาดหน้าตาดีมีเงินใช้ เขียนเมื่อ : 25 เม.ย. 54 11:26:51

ความคิดเห็นที่ 20 อยากทราบข้อดี ข้อเสียจริงๆของการสร้างเขื่อนนะครับ ผมเชื่อว่า ทุกอย่างมันไม่ได้มีแต่ข้อดี สมบูรณ์แท้ 100% เพียงแต่อยากรู้เพื่อเปรียบเทียบว่า ทำแล้วมันได้คุ้มกับที่เสียหรือเปล่า อย่างโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ ดีจริง แต่พอเกิดเหตุไม่คาดฝันทีนึง ไอ้ความดีที่เคยทำโดนกลบมิดไปเลย ออกแนว High Risk,High Return อย่างนี้ มันก็น่ากลัวเหมือนกัน จากคุณ : kanstk เขียนเมื่อ : 25 เม.ย. 54 11:27:15

ความคิดเห็นที่ 21 รัฐไม่มีเงินต้องไปกู้เข้ามา แล้วจะหาจากไหนตั้งแสนล้าน จากคุณ : Pu121 เขียนเมื่อ : 25 เม.ย. 54 11:32:22

ความคิดเห็นที่ 22 ผมอยู่แถวพระราม 2 เหมือนกัน  บางขุนเทียน น้ำเซาะอย่างรวดเร็วมากๆ ในเรื่องราคาที่ดินถ้าคิดจะซื้อคงต้องรอบคอบ ถ้าสร้างขึ้นมา ก็โอเค กำไรงาม แต่ถ้าปล่อยไว้ไม่มีโครงการ จากที่ดินติดทะเล  จะกลายเป็น ทะเล อย่างเดียวนะครับ จากคุณ : แบงค์กี้ เขียนเมื่อ : 25 เม.ย. 54 11:32:24

ความคิดเห็นที่ 23 ผมก็คิดคล้าย คห 18 และ 20 จะทำอะไรก็ต้องศึกษาให้ดีก่อน ประเทศไทย พูดอะไรก็ดูง่าย มีการทำ Model ศึกษา ผลกระทบใดๆหรือเปล่า เขื่อนก็คือเขื่อน มีดีและผลกระทบกันไป ไม่ง่ายเหมือนพูด ใครจะไปรู้ ได้ถมที่บางขุนเทียน อาจจะแลก กับชายหาด หัวหินหรือพัทยา ใครจะไปรู้ ดูอย่าง ท่าเรือแหลมฉบัง ถมออกไปไม่มากเท่าไหร่ กระแสน้ำเกิดการเปลี่ยนแปลงไปกัดเซาะพื้นที่ ก็พอสมควร ก่อนจะประกาศอะไรออกไป ก็ควรศึกษาเบื้องต้นให้ดีก่อน แก้ไขเมื่อ 25 เม.ย. 54 14:42:20 แก้ไขเมื่อ 25 เม.ย. 54 14:39:09 จากคุณ : Logy (wrlee) เขียนเมื่อ : 25 เม.ย. 54 14:31:17

ความคิดเห็นที่ 24 เห็นด้วยกับโครงการนี้นะ  ถ้าไม่ทำ มีสิทธิกรุงเทพฯจมบาดาลแน่ ทำทั้งทีก็ 2 in 1 ไปเลย ทำเขื่อนกั้นแล้วตรงสันเขื่อนก็ทำเป็นทางด่วน บางปะกง-กรุงเทพฯ-ปากท่อ  ไปเลย วิวอย่างสวย จากคุณ : แม่น้องอะตอม เขียนเมื่อ : 25 เม.ย. 54 16:49:52

ความคิดเห็นที่ 25 กรุงเทพ ยังอยู่ แสนกว่าล้าน โกงแปปเดียวก็ได้แล้ว.. จากคุณ : kengsak เขียนเมื่อ : 25 เม.ย. 54 20:02:38

ความคิดเห็นที่ 26 อนุสาวรีย์ ทางรถไฟลอยฟ้า โฮปเวลส์ เป็นตัวอย่างของ ความอยากสร้างฝันในอากาศ วันนี้ตอม่อ ยังปักคาอยู่กลางรางรถไฟ แถวดอนเมือง ประวัติศาสตร์มักจะซ้ำรอย  โกงกันเละ จนเจ้าของโปรเจ็กตาย แล้วงานก็ไม่เสร็จ จากคุณ : ติดตาม เขียนเมื่อ : 25 เม.ย. 54 20:47:07

ความคิดเห็นที่ 27 ทำเลยเดี๋ยวน้ำท่วม จากคุณ : ตู๋..ครับ เขียนเมื่อ : 26 เม.ย. 54 05:48:56