|
ใช้เงินให้คุ้มค่าแบบ "น้องพิซซ่า"
"พิสชา เหมวชิรวรากร" หรือ "น้องพิซซ่า" สาวน้อยวัย 19 ปี ลูกสาวเพียงคนเดียวของ "ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร" ผู้เผยแพร่แนวคิดการลงทุนแบบเน้นคุณค่า (Value Investor) คนแรกในประเทศไทย บอกว่าตั้งแต่ตอนเด็กพ่อจะสอนว่าให้ใช้เงินอย่างคุ้มค่า พ่อไม่ได้สอนให้ประหยัด แต่จะเน้นให้เรารู้จักใช้จ่ายเงินอย่างคุ้มค่ามากกว่า
เพราะฉะนั้นเราจะต้องมีการวางแผนในการใช้จ่ายเงิน เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด คุ้มค่าที่สุด ซึ่งความคุ้มค่าบางครั้งก็ไม่ได้อยู่ที่เรื่องของราคา ของบางอย่างอาจจะมีราคาแพง แต่ถ้าเราคิดว่าคุ้มค่าที่จะจ่ายเงินซื้อไป เพราะเป็นของที่จะให้ผลตอบแทนกลับมาให้เราคุ้มค่า เราก็พร้อมที่จะจ่ายเพื่อซื้อมา ตรงนั้นก็คล้ายกับเรื่องของการลงทุนต้องพิจารณาดูว่าของสิ่งนั้นให้คุณค่ากับเราได้มากแค่ไหน
การใช้จ่ายเพื่อความคุ้มค่า ก็ไม่จำเป็นต้องเป็นสิ่งของเสมอไป อาจจะเป็นการศึกษา หรือหนังสือดีๆ เราจ่ายเงินซื้อไปแล้วจะให้ผลตอบแทนกลับมาให้กับเราได้มากกว่าที่จ่ายเงินซื้อไป ในเรื่องของเสื้อผ้าเราจึงไม่ต้องไปใช้ของแบรนด์เนมที่มีราคาแพง สามารถที่จะใช้ของธรรมดาที่สามารถให้ประโยชน์ลักษณะเดียวกันได้เช่นกัน
"ปัจจุบันนี้พ่อให้เงินใช้เดือนละ 2,500 บาท ส่วนนี้จะเป็นค่าใช้จ่ายที่จำเป็นในชีวิต เช่น ค่ากิน ค่าอาหาร ค่ารถ ค่าหนังสือเป็นรายจ่ายที่จำเป็นในชีวิต ซึ่งใช้หมดทุกเดือน ในส่วนที่เป็นเสื้อผ้าหรือของใช้ที่ไม่จำเป็นส่วนนี้จะเก็บเงินซื้อเอง ซึ่งเงินที่ได้จะมาจากช่วงเทศกาลต่างๆ เช่น ตรุษจีนหรือวันเกิดก็จะเก็บเอาไว้เองบางส่วนเพื่อซื้อของ แล้วบางส่วนก็จะฝากให้แม่นำไปฝากธนาคารให้ ซึ่งปัจจุบันนี้ยังไม่ได้เข้ามาในเรื่องของการลงทุนเลย"
น้องพิซซ่ายอมรับว่า การที่มีคุณพ่อเป็นนักลงทุนที่ประสบความสำเร็จคนหนึ่งของตลาดทุนไทยนั้น เป็นข้อได้เปรียบของตัวเองอย่างหนึ่ง เพราะแม้ว่าตัวเองจะไม่ได้เรียนในเรื่องของการลงทุน ไม่ได้อยู่ในแวดวงของการลงทุนก็ตาม แต่ก็รู้เรื่องของการลงทุนพอสมควร ในขณะที่คนอื่นอาจจะไม่มีจุดนี้
"ต้องบอกว่าได้รับการซึมซับเรื่องของการลงทุนผ่านทางคุณพ่อ ในขณะที่นั่งรถมาเรียนพ่อก็เริ่มจะพูดคุยถึงเรื่องของการลงทุนให้ฟัง คุยกันแบบพ่อลูก ไม่ได้ซีเรียสอะไร สิ่งเหล่านี้เราค่อยๆ ซึมซับเข้ามา แม้ว่าตอนนี้จะยังไม่ได้ลงทุน แต่ในอนาคตก็อยากจะเข้าไปลงทุนในหุ้นเหมือนคุณพ่อเช่นเดียวกัน"
น้องพิซซ่าบอกว่า การลงทุนไม่จำกัดอยู่เฉพาะแค่เรื่องของหุ้นเท่านั้น จริงๆ การลงทุนเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตจึงอยากให้ทุกคนหันมาสนใจในเรื่องของการลงทุนให้มากขึ้น เพราะการลงทุนเป็นทุกอย่าง ลงทุนในเวลา ลงทุนในการศึกษา เป็นต้น เราก็ต้องพิจารณาดูว่าคุ้มค่าหรือไม่ ในลักษณะเดียวกันกับที่ลงทุนในหุ้น เพราะฉะนั้นเราก็ต้องพิจารณาในทุกสิ่งที่เราทำด้วยเช่นเดียวกันว่าคุ้มค่าหรือไม่ที่จะทำ
ที่มา http://www.bangkokbiznews.com/fundamental/20080204/news.php?news=column_25776268.html
แก้ไขเมื่อ 27 เม.ย. 54 08:15:23
จากคุณ |
:
จอมโจรแมวเหมียว
|
เขียนเมื่อ |
:
27 เม.ย. 54 08:13:47
|
|
|
|
|