บล.กรุงศรีอยุธยา : BANPU แนะนำ 'ถือ' มูลค่าพื้นฐาน 811 บาท
คาดกำไร 1Q54 จะเป็นจุดต่ำสุดของปี
เราคาดว่าผลประกอบการ 1Q54 จะไม่โดดเด่น เนื่องจากการดำเนินงานปกติที่ไม่มีส่วนแบ่งกำไรจากเหมือง Daning รวมถึงกำไรจากการขายหุ้น Daning อาจไม่มากอย่างที่คาด อย่างไรก็ดี เราประเมินว่ากำไรสุทธิ 1Q54 น่าจะเป็นจุดต่ำสุดของปี และทยอยฟื้นตัวในช่วงที่เหลือของปีจากราคาขายถ่านหินที่เป็นขาขึ้นและปริมาณขายจากเหมืองถ่านหินใหม่อย่าง Tandung Mayang และ Barinto เปลี่ยนคำแนะนำจาก เก็งกำไร เป็น ถือ มูลค่าพื้นฐาน 811 บาท
คาดกำไรจากการดำเนินงาน 1Q54 ทรงตัว QoQ
เราคาดการณ์กำไรจากการดำเนินงานงวด 1Q54 เท่ากับ 2,683 ล้านบาท (+1.0%QoQ, -16.2%YoY) หากรวมผลขาดทุนจากสัญญาป้องกันความเสี่ยงราคาถ่านหิน (Coal swap contracts) และขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนจะมีกำไรสุทธิเท่ากับ 2,446 ล้านบาท หดตัว 50.3%QoQ เมื่อเทียบกับกำไรสุทธิงวด 4Q53 ที่มีการบันทึกกำไรจากการขายหุ้น RATCH และลดลง -10.0%YoY เมื่อเทียบกับงวด 1Q53 ที่มีการดำเนินงานปกติ กำไรจากการดำเนินงานที่ทรงตัว QoQ ประกอบด้วย
1) ธุรกิจถ่านหินในประเทศอินโดนีเซียซึ่งมีราคาขายเฉลี่ยเพิ่มเป็น US$85/ตัน (+10.0%QoQ) ผลจากการทำสัญญาขายล่วงหน้าตั้งแต่กลางปี 53 ซึ่งเป็นช่วงที่ราคาถ่านหินโลกอยู่ในระดับสูง ขณะที่ปริมาณผลิตถ่านหินลดลงจากปัญหาฤดูฝนเหลือ 5.2 ล้านตัน (-10.3%QoQ)
2) ธุรกิจถ่านหินในประเทศออสเตรเลียทรงตัวด้วยปริมาณผลิตและจำหน่ายที่ 3.7 ล้านตัน และราคาขายที่ US$62/ตัน
3) ธุรกิจถ่านหินในประเทศจีนหดตัวเนื่องจากเหมือง Daning หยุดการผลิตเป็นเวลา 2 เดือน (ก่อนจะขายหุ้นในเดือน มี.ค.) ซึ่งทำให้พลิกเป็นขาดทุนจากต้นทุนคงที่ประมาณ 300 ล้านบาท
4) ธุรกิจโรงไฟฟ้า BLCP มีกำไรจากการดำเนินงานเพิ่มเป็น 700 ล้านบาท เทียบกับ 51 ล้านบาท ใน 4Q53 เนื่องจากเป็นช่วงหยุดซ่อมบำรุงประจำปี
คาดกำไรจากการขายหุ้น Daning อาจต่ำเพียง 420 ล้านบาท ยังไม่รวมอยู่ในประมาณการ
เรายังไม่ได้รับการยืนยันอย่างเป็นทางการจาก BANPU ในการบันทึกกำไรที่เกิดจากการขายหุ้นเหมือง Daning ในราคารวม US$669 ล้าน หรือ 20,264 ล้านบาท เมื่อกลางเดือน มี.ค. ที่ผ่านมา อย่างไรก็ดี ในเบื้องต้น เราคาดว่ากำไรจากการขายหุ้นอาจต่ำเพียง 420 ล้านบาท (ยังไม่รวมในประมาณการผลประกอบการ) เมื่อเทียบกับที่ตลาดเคยคาดไว้ในช่วงที่มีการขายหุ้นว่าอาจมากถึง 1 หมื่นล้านบาท ทั้งนี้เราสมมติฐานต้นทุนการซื้อหุ้น Daning ในอดีตที่ US$350 ล้าน และส่วนแบ่งกำไรที่รับรู้ระหว่างที่ถือครอง US$220 ล้าน รวมถึงอัตราแลกเปลี่ยนในช่วงซื้อเหมืองที่ 34 บาท/เหรียญสหรัฐ ขณะที่อัตราแลกเปลี่ยนในวันที่ขายหุ้นเท่ากับ 30 บาท/เหรียญสหรัฐ เป็นผลให้มีกำไรจากการขายหุ้นค่อนข้างผิดหวัง
เชื่อว่าผลประกอบการจะแสดงจุดต่ำสุดใน 1Q54
เราเชื่อว่าผลประกอบการงวด 1Q54 จะเป็นจุดต่ำสุดของปี และจะทยอยปรับตัวสูงขึ้นจนถึงระดับสูงสุดในงวด 3Q54 โดยได้แรงหนุนจากราคาขายเฉลี่ยถ่านหินจากอินโดนีเซียที่สูงขึ้นตามสัญญาขายล่วงหน้าที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่องตามราคาถ่านหินโลกที่อยู่ในช่วงขาขึ้น ซึ่งปัจจุบันมีการทำสัญญาขายล่วงหน้าแล้ว 90% ของปริมาณขายทั้งปีที่ 25 ล้านตัน โดยแบ่งเป็นสัญญาขายที่กำหนดราคาขายแล้วจำนวน 40% (ที่ระดับราคาเฉลี่ย US$83/ตัน) และสัญญาที่อิงกับดัชนีถ่านหินจำนวน 35% ขณะที่อีก 25% ยังไม่กำหนดราคา นอกจากนี้ ปริมาณการขายถ่านหินจะทยอยสูงขึ้นชัดเจนตั้งแต่ 3Q54 ซึ่งเป็นช่วงที่เหมือง Tandung Mayang เริ่มผลิตและจำหน่าย และเหมือง Barinto ที่เริ่มผลิตและจำหน่ายใน 4Q54 อย่างไรก็ดี เราคาดว่าผลประกอบการงวด 4Q54 จะอ่อนตัวลงเนื่องจากแรงถ่วงของโรงไฟฟ้า BLCP ที่เป็นช่วงปิดซ่อมบำรุง
เปลี่ยนคำแนะนำจาก เก็งกำไร เป็น ถือ
เราคาดว่าราคาหุ้น BANPU จะยังคงเคลื่อนไหวอ่อนกว่ากลุ่มพลังงานและตลาด SET ไปจนกว่าจะมีการประกาศผลประกอบการ อีกทั้งเรายังไม่เห็นประเด็นบวกอย่างเป็นสาระ อาทิ การซื้อหุ้นเหมืองถ่านหินในอินโดนีเซียเพิ่มจากปัจจุบัน เราจึงเปลี่ยนคำแนะนำจาก เก็งกำไร เป็น ถือ เพื่อรอผลประกอบการในช่วงที่เหลือของปีฟื้นตัว มูลค่าพื้นฐาน 811 บาท (Sum-of-the-parts)
เรียบเรียง โดย ปุณณภา นาเมืองรักษ์ อีเมล์แสดงความคิดเห็น commentnews@efinancethai.com ----------------------------------------
ว่าแล้วต้องมีอะไรมากกว่าต้นทุนน้ำมัน
จากคุณ |
:
everandever
|
เขียนเมื่อ |
:
26 เม.ย. 54 16:47:34
|
|
|
|