*** QE2 + ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ + ตลาดหุ้น + ค่าเงิน + ดอกเี่บี้ย ... ?

ฐานเศรษฐกิจ   :
       การเพิ่มสภาพคล่องทางเศรษฐกิจ QE2  สิ้นสุดลงในกลางปีนี้  ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) เองก็ต้องตัดสินใจครั้งสำคัญว่า ควรจะต้องปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยได้หรือยัง เพื่อดูดซับสินเชื่อส่วนเกินออกจากระบบเศรษฐกิจ

       มาตรการคุมเข้มสินเชื่อด้วยการขึ้นดอกเบี้ยที่กำลังจะมีตามมาน่าจะใช้เวลาอีกหลายเดือนกว่าจะเกิดขึ้นจริง  ยุติการซื้อพันธบัตรและน่าจะคงขนาดของสินทรัพย์ที่ถือครองอยู่ไปอีกระยะ หนึ่งเพื่อรักษาเสถียรภาพของตลาดการเงิน ทั้งนี้ เฟดมีสินทรัพย์ถือครองรวมมูลค่ากว่า 2 ล้านล้านดอลลาร์ ซึ่งรวมถึงพันธบัตรรัฐบาลและตราสารหนี้อื่นๆ

       การคงดอกเบี้ยอัตราต่ำเอาไว้จะผลักดันให้นักลงทุนหันไปลงทุนในสินทรัพย์ อื่นๆที่ให้ผลตอบแทนสูงกว่าพันธบัตรรัฐบาล ซึ่งสภาวะเช่นนี้จะช่วยกระตุ้นราคาหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ สินค้าโภคภัณฑ์ และสินทรัพย์อื่นๆที่มีความเสี่ยงสูงกว่า

       พวกเขาไม่รีบร้อนที่จะขึ้นดอกเบี้ยหรือใช้มาตรการคุมเข้มสินเชื่อ  สอดคล้องกับความเชื่อของผู้คนในแวดวงตลาดการเงินที่คาดหมายว่า เฟดจะเริ่มมาตรการคุมเข้มสินเชื่อมากขึ้นในช่วงสิ้นปีนี้หรือไม่ก็ต้นปีหน้า นั่นหมายความว่าช่วงเวลาที่เหลือของปีนี้ สินเชื่อดอกเบี้ยต่ำจะยังคงท่วมท้นเศรษฐกิจสหรัฐฯ ซึ่งจะส่งผลบวกต่อตลาดหุ้นสหรัฐฯ

==> QE2 มาจนถึงขณะนี้ ดัชนีค่าเงินดอลลาร์ (เมื่อเทียบกับตะกร้าเงินหลากสกุล) ปรับลดลงมาแล้ว 7.9 % ซึ่งแม้จะเป็นผลดีต่อภาคการส่งออกของสหรัฐฯ แต่ก็ทำให้เป็นที่วิพากษ์วิจารณ์อย่างมาก นอกจากนี้ การที่มาตรการคิวอี2 มีส่วนทำให้ราคาสินค้าโภคภัณฑ์สูงขึ้น ทำให้ถูกมองว่าเป็นผลลบต่อกำลังซื้อของผู้บริโภคในสหรัฐฯเอง  กระนั้นก็ตาม ดังที่กล่าวมาแล้ว มาตรการนี้ทำให้ตลาดหุ้นสหรัฐฯ คึกคักขึ้นนับจากมีการประกาศใช้

จากคุณ	: ศิษย์ซุนวู
เขียนเมื่อ	: 30 เม.ย. 54 12:02:37