ความคิดเห็นที่ 1 เก็บเงินก่อนครับ ไม่กี่ปีต่อจากนี้มีเทกระจาดแน่ครับ ของถูกจะเต็มตลาดเหมือนปี51 แต่คนไม่มีเงินซื้อครับ อดเปรี้ยวไว้กินหวานครับ จากคุณ : Diamondoid เขียนเมื่อ : 30 เม.ย. 54 17:33:42

ความคิดเห็นที่ 2 ตลาดสดหรอครับ จากคุณ : Bakedez เขียนเมื่อ : 30 เม.ย. 54 17:37:28

ความคิดเห็นที่ 3 สวัสดีค่ะคุณ diamondoid คุณ Bakedez ตอนนี้ยังไม่เหมาะสมที่จะลงทุนถูกไหมคะ คือยังงงเรื่องศัพท์บางคำอยู่ แก้ไขเมื่อ 30 เม.ย. 54 17:48:16 จากคุณ : La_Qtie เขียนเมื่อ : 30 เม.ย. 54 17:41:51

ความคิดเห็นที่ 4 น้องเยี่ยมมาก ... ที่คิดได้เร็วแบบนี้ สนับสนุนครับ เข้าไปอ่านตามลิงค์เลยนะครับ http://center.finansalife.com/qagt/tsi/investor/TSI_e-Learning_investor.html หลักสูตรเงินทองต้องใส่ใจ บทที่ 1 เงินทองต้องใส่ใจ บทที่ 2 ความเสี่ยงและผลตอบแทน บทที่ 3 เมื่อดอกเบี้ยต่ำนำเงินไปทำอะไรดี บทที่ 4 การกระจายความเสี่ยงโดยสร้างพอร์ตการลงทุนในฝัน บทที่ 5 วิเคราะห์หลักทรัพย์ง่ายๆ หวังได้กำไร บทที่ 6 เรื่องต้องรู้มุ่งสู่กำไร บทที่ 7 มาลงทุนกันเถอะ link :  http://center.finansalife.com/qagt/tsi/investor/investor_PF/TSI_e_LearningIPF.htm จากคุณ : superman2007 เขียนเมื่อ : 30 เม.ย. 54 17:43:57

ความคิดเห็นที่ 5 http://www.tsi-thailand.org/index.php?option=com_content&task=view&id=1663&Itemid=1475 เอาไปลองศึกษาดูก่อนแล้วกัน จากคุณ : Bakedez เขียนเมื่อ : 30 เม.ย. 54 17:44:39

ความคิดเห็นที่ 6 ผมคิดว่าควรลงทุนในด้านความรู้ก่อนเลยครับ สนใจด้านใดก็หาหนังสือแนวนั้นมาอ่านเพื่อเป็นพื้นฐาน เป็นภูมิคุ้มกันตัวเองก่อน ไม่ต้องรีบร้อน จากคุณ : หยงอัน เขียนเมื่อ : 30 เม.ย. 54 17:53:10

ความคิดเห็นที่ 7   <FONT style=" color=#abc8e9>500 บาทก็ลงทุนได้ครับ สะสมไปเรื่อยๆโดยใช้ระยะเวลาเป็นตัวลดความผันผวนได้ครับ แก้ไขเมื่อ 30 เม.ย. 54 17:53:55 จากคุณ : superman2007 เขียนเมื่อ : 30 เม.ย. 54 17:53:42

ความคิดเห็นที่ 8 ว้าว เราอายุเกือบเท่ากันเลย แต่ เค้ายังไม่ 20 อะ อีก  4 เดือน ถึงจะ 20 อิอิ จากคุณ : Maxilla เขียนเมื่อ : 30 เม.ย. 54 18:02:02

ความคิดเห็นที่ 9 คิดว่าหาความรู้ ลองอ่านหนังสือดู แล้วตัดสินว่าการลงทุนแบบไหนเหมาะกับตัวเรามากที่สุดค่ะ จากคุณ : แพนด้าหน้าใส เขียนเมื่อ : 30 เม.ย. 54 18:07:37

ความคิดเห็นที่ 10 หนังสือทุกเล่มที่ผมอ่านและผ่านตา... ปัจจัยของความมั่งคั่งและอิสรภาพทางการเงินคือ - "การออม" - "การจ่ายน้อยกว่าที่หาได้" - "ความสม่ำเสมอ" หรือที่แปลว่า "ใช้เวลาซักระยะหนึ่ง" ผมอ่านหนังสือเล่มหนึ่ง บอกว่า การมีอิสรภาพทางการเงิน ไปได้ยากเกินไปเสียทีเดียว หากเราออมเงินเดือนละ 1 หมื่น เป็นเวลา 7 ปี โดยเงินออมที่ว่าให้ผลตอบแทนปีละ 10%... ครบ 7 ปี..ตอกผลของเงินออมก้อนนี้ จะงอกเงยให้เราใช้ได้ 1 หมื่นบาททุกเดือนไปชั่วชีวิต ถ้าใน 7 ปีที่สอง เรายังคงออมได้อีกเดือนละ 1 หมื่นและเอาดอกผลกลับมาออมอีกครั้ง.. สิ้นสุด 7 ปีที่สองเราก็จะมีเงินใช้เดือนละ 3 หมื่นชั่วชีวิต (หมื่นแรกจาก 7 ปีแรก หมื่นที่สองคือ ดอกผลของ 7 ปีแรก หมื่นที่ 3 คือ เงินออมใหม่ของเรา) ถ้าใน 7 ปีที่สาม เรายังคงออมได้อีกเดือนละ 1 หมื่นและเอาดอกผลกลับมาออมอีกครั้ง.. สิ้นสุด 7 ปีที่สามเราก็จะมีเงินใช้เดือนละ 7 หมื่นชั่วชีวิต มันเป็นแรงบันดาลใจที่ดีสำหรับผม..เพราะเก็บเงินเดือนละหมื่น 21 มี จะมีเงินใช้ 7 หมื่นชั่วชีวิต โดยที่เงินต้นอยู่ครบ แม้รวมเงินเฟ้อแล้ว ผมคิดว่ายังอยู่ได้แบบไม่ลำบาก.. การหาผลตอบแทนปีละ 10% อาจจะเป็นเรื่องที่สงสัยกันว่าทำได้หรือไม่..แต่ผมเชื่อว่า หากเรานำไปซื้อหุ้นที่ดีมีการเจริญเติบโต เงินปันผลที่ได้ก็อยู่ราวๆ 8-12% ต่อปีครับ..ยกตัวอย่าง Se-Ed / AIT / MCS อนึ่ง เงินปันผลที่เราเห็นใน Set.or.th เป็นเงินปันผลเทียบกับราคาหุ้น ไม่ใช่ราคาทุนที่เราซื้อ ถ้าเราซื้อ MCS ที่หลายปีก่อนตอนที่ 4 บาท ตอนนี้เงินปันผลที่ได้จากต้นทุนที่เราลงไปคือ ราว ๆ 20% เลย แปลว่า เราได้ผลตอบแทนการลงทุนมากกว่า 10% ที่เราตั้งเป้าไว้เสียอีก..และเงินที่ได้ก็จะงอกเงยให้เราใช้ได้มากขึ้นไปอีก... จากคุณ : Proxity เขียนเมื่อ : 30 เม.ย. 54 18:13:54

ความคิดเห็นที่ 11 อิสรภาพทางการเงิน เป็นนามธรรมครับ ตัดสินด้วยความรู้สึกของแต่ละคน ไม่มีเงินเลย ก็รู้สึกว่ามีอิสรภาพทางการเงินได้ มี10ล้านหรือกี่หมื่นล้าน จะรู้สึกว่ายังไม่มีอิสรภาพทางการเงินก็ได้ (แต่มีเยอะดีกว่าเนาะ) หากจะเก็บเงิน คห.4 ดีครับ จากคุณ : ผู้ใหญ่ (พุงลุย) เขียนเมื่อ : 30 เม.ย. 54 18:28:28

ความคิดเห็นที่ 12 แนะนำเล่มนี้ให้่อ่านครับ จากคุณ : หมึกสด เขียนเมื่อ : 30 เม.ย. 54 18:39:25

ความคิดเห็นที่ 13 วิธีออมเงินของคุณ Proxity เยี่ยมมากครับ ขอยืนยันว่าเป็นความจริง อย่าหวังรวยเร็วจากหุ้น อันตรายมาก การซื้อหุ้นดีๆมีการเจริญเติบโต ถึงแม้จะไม่ร่ำรวยแต่ก็มีปันผลให้เราอยู่ได้โดยไม่ต้องทำงาน หลังจากที่ เราใช้วีธีนี้ 10+ปีขึ้นไป   การลงทุนในหุ้นกำไรเท่าไรไม่ต้องคิด คิดอย่างเดียวว่า ห้ามขาดทุน ดังนั้นต้องหาหุ้นที่มี Downside risk ต่ำมากๆ  แล้วกำไรจากหุ้นก็มาหาเอง จากคุณ : Sono เขียนเมื่อ : 30 เม.ย. 54 18:47:44

ความคิดเห็นที่ 14 อยากมีอิสระภาพทางการเงินก็ต้องรวยทรัพย์วิธีมีเยอะแยะแล้วแต่จะเลือก 1.ถ้าบ้านรวยทรัพย์อยู่แล้ว 2.แต่งงานกับคนรวย 3.ขยัน+อดออม+หมั่นศึกษาสร้างทรัพย์ถาวร จากคุณ : เขียนบน iPhone (opar156) เขียนเมื่อ : 30 เม.ย. 54 19:01:49

ความคิดเห็นที่ 15 คิดเร็วกว่าผม 10 ปี ยิ่งทำให้โอกาสสำเร็จมากยิ่งขึ้น เยี่ยมมากครับ มีอิสระภาพไม่ยาก รอเก็บเงินให้เยอะๆ ก่อน ช่วงนี้อย่าพึ่ง รอซื้อตอนตลาดตก ^_^ จากคุณ : Jukadliang เขียนเมื่อ : 30 เม.ย. 54 19:58:34

ความคิดเห็นที่ 16 ทำได้แต่ต้องใช้เวลา และตั้งใจจริง ผมเองก็รอวันนั้นอยู่ แต่ผมไม่คิดว่ามันจะมาเร็วหรอก ต้องตาคมเหมือนเหยี่ยว อดทนรอได้เหมือนสิงโตซุ่ม และใจเย็นเหมือนเต่า จากคุณ : Mr. Prodigy เขียนเมื่อ : 30 เม.ย. 54 20:20:10

ความคิดเห็นที่ 17 @ คห.14 ... สงสัยคงต้องเป็นข้อ 3 เพราะข้ออื่นคุณสมบัติไม่ตรงเลยค่ะ - -" @ คห.15 ... ขอบคุณสำหรับคำแนะนำมากเลยค่ะ ^____^ @ คห.16 ... พูดได้คำเดียวว่า เฉียบ มากค่ะ ><! ! @ คุณ superman2007 ... เข้าไปดูแล้ว ได้ความรู้เพิ่มเยอะค่ะ เข้าถึงไม่ยากด้วย ขอบคุณนะคะ @ คุณ Sono ... ขอบคุณที่แวะมาชี้แนะค่ะ @ คุณ Proxity ... ขอบคุณค่ะ เป็นคำแนะนำที่เยี่ยมและเข้าใจง่ายดีค่ะ @ คุณ ผู้ใหญ่(พุงลุย) ... ขอบคุณสำหรับคำแนะนำนะคะ @ คุณ หมึกสด ... จะไปลองหามาอ่านดูแน่นอนค่ะ จากคุณ : La_Qtie เขียนเมื่อ : 30 เม.ย. 54 21:06:16

ความคิดเห็นที่ 18 เป็นตัวอย่างที่ดีของเยาวชนครับ เดี๋ยวนี้เห็นแต่เอาเงินไปซื้อไอโฟนกัน ทั้งๆที่ยังหาเงินกันไม่ได้ด้วยซ้ำ จากคุณ : ซาซิมิ แซลมอน เขียนเมื่อ : 30 เม.ย. 54 21:52:57

ความคิดเห็นที่ 19 ลองอ่านหนังสือตามพี่ๆข้างบนแนะนำไว้ครับ แล้วแบ่งเงินส่วนนึงมาลงสนามจริง ย้ำว่าถ้าไม่ลองของจริงก็ไม่รู้หรอกครับ ความโหดร้ายของตลาด จากคุณ : Dark Holy เขียนเมื่อ : วันแรงงาน 54 05:33:06

ความคิดเห็นที่ 20 เมื่อถึงจังหวะเวลาหนึ่ง จะพบว่าตลาดนั้นโหดร้ายมากครับ ผมเคยผ่านปี 2008 มาแล้ว ได้อารมณ์ประมาณนี้ จากคุณ : We are X . เขียนเมื่อ : วันแรงงาน 54 07:44:45

ความคิดเห็นที่ 21 ด้วยความเป็นห่วง พยายามคิดต่าง แล้วจะมีอิสรภาพในที่สุด จากคุณ : We are X . เขียนเมื่อ : วันแรงงาน 54 07:46:40

ความคิดเห็นที่ 22 อย่างแรก ต้องเข้าใจก่อนว่า "อิสรภาพทางการเงิน"  คืออะไร .. "อิสรภาพทางการเงิน"  คือ การที่คุณมีรายได้เข้ามาหาคุณตลอดชีวิต โดยที่คุณไม่จำเป็นต้องทำงาน หรือ ถ้าจะทำ ก็ทำให้น้อยที่สุด หรือ เหนื่อยให้น้อยที่สุด (และต้องเป็นงานที่คุณชอบ และ เต็มใจที่จะทำ) .. "อิสรภาพทางการเงิน"  จะมีได้ ก็ต่อเมื่อคุณมีรายได้ดังนี้ .. ได้แก่  เงินปันผล , ดอกเบี้ย , ค่าลิขสิทธิ์ , ค่าเช่า , ค่าโฆษณา , ค่าแฟรนไชส์ .. หรือ จะเป็นการลงทุนในอะไรก็ได้ ที่คุณเสียเงิน หรือ ยอมเหนื่อยที่จะลงทุน เพียงแค่ครั้งเดียว หรือ ไม่กี่ครั้ง .. หลังจากนั้น สิ่งที่คุณลงทุนไป ก็จะสร้างรายได้มาให้คุณได้เรื่อย ๆ ไปตลอดชีวิต .. อยากมีอิสรภาพทางการเงิน .. แต่ถ้าไม่มีความรู้เกี่ยวกับการลงทุนเลย .. ผมแนะนำให้แบ่งเงินส่วนนึง .. ซื้อหนังสือที่เกี่ยวกับ .. การบริหารเงิน , การออม , การลงทุน โดยเฉพาะหนังสือที่เกี่ยวกับการลงทุน มีให้อ่านเยอะมาก .. ตั้งแต่ กองทุนรวม , หุ้น , ทองคำ , อสังหาริมทรัพย์ , การทำธุรกิจด้วยตัวเอง , ธุรกิจบนอินเตอร์เน็ต .. ฯลฯ สำคัญเลยก็คือ .. ต้องรู้จักเก็บออม .. เพราะถ้าคุณออมเงินไม่เป็น บริหารเงินไม่เป็น .. คุณก็ลงทุนไม่ได้ .. ถึงมีเงินมาลงทุน ไม่นานก็เจ๊ง .. จากนั้น หาตัวเองให้เจอ .. ว่าชอบทำอะไร .. หรือ สนใจธุรกิจ หรือ กิจกรรม ในด้านไหน ที่ตัวเราพอจะหาช่องทางในการทำเงินได้ .. เพราะมันสำคัญมาก .. กับการที่เราจะต้องทำงานอะไรซักอย่างที่เราชอบ และ สนใจ ในทุก ๆ วัน .. แล้วมันยังทำเงินให้เราได้อีกด้วย เวลาได้กำไร หรือ ได้รับผลตอบแทนจากการลงทุนกลับมา .. ก็พยามนำกลับมา ลงทุนเพิ่ม หรือ Re Invest  อยู่เสมอ ๆ (เรียกอีกอย่างก็ได้ว่า "ผลตอบแทนทบต้น") .. จะทำให้เรามีโอกาสในการมีอิสรภาพทางการเงินเร็วขึ้น ถ้าอยากจะรู้ว่า .. "ผลตอบแทนทบต้น"  .. มันมีประโยชน์ยังไง หรือ มันจะทำให้เรามี  "อิสรภาพทางการเงิน"  ได้รวดเร็วได้อย่างไร .. ผมขอแนะนำให้อ่านหนังสือ  "ออมก่อน รวยกว่า"  ของสำนักพิมพ์ตลาดหลักทรัพย์ .. "ผลตอบแทนทบต้น"  นี่แหละ .. ที่คนส่วนใหญ่ ละเลยที่จะทำมัน .. แต่ถ้าคุณฝืนใจตัวเองได้ในช่วงแรก ๆ .. ผมเชื่อว่า ในที่สุดแล้ว .. คุณก็จะได้พบเจอกับสิ่งที่คุณใฝ่ฝันมาตลอดชีวิต  นั่นก็คือ .. "อิสรภาพทางการเงิน" จากคุณ : ห ล่ อ ทุ ก อ ณู รู ขุ ม ข น เขียนเมื่อ : วันแรงงาน 54 10:21:59

ความคิดเห็นที่ 23 อายุต่างจาก จขกท ปีนึงครับ ขอแนะนำในฐานะเพื่อนแล้วกันนะครับ ลองลงทุนในกองทุนดูก่อนก็ได้ครับ ส่วนตัวประทับใจการบริการของ K-Bank  ครับ เลยอยากจะแนะนำ K-GOLD ครับ เป็นกองทุนกองแรกที่ผมซื้อ (เมื่อวันที่ 26 /4/11) ด้วยแนวคิดแบบเด็กๆที่ว่าทองยังไงมันก็ไม่น่าจะราคาตก (มองในระยะยาว)เลยตัดสินใจซื้อครับ กะถือเกิน  2  ปีขึ้นไปครับ ถ้ามีเงินเก็บอีกก็จะซื้อเพิ่มอีกครับ ระยะยาวๆ คือ 4 เดือน/เข้าซื้อที จากนั้นอีกกองเป็น  K-SET50  อีกกองครับ (28/4/11) กองนี้ตัดสินใจซื้อเพราะว่าอยากลองรับความรู้สึกเสี่ยงดูครับ ก่อนที่จะเข้าตลาดหุ้นจริงในกลางปีนี้ อยากรู้ความรู้สึกของตนเองตอนเวลาขาดทุน หรือ กำไรดูครับ หลังจากที่ผมเล่นในตลาดจำลอง (Click2Win) มาสักพักใหญ่ๆ เห็นตัวเลข + ราวๆ 5 % แต่ความรู้สึกยังไงมันก็ไม่เหมือนของจริงหรอกครับ เลยตัดสินลองซื้อตัวนี้ดูก่อน อ่อ ผมเริ่มต้นที่ กองละ 20000 บาทครับ เป็นเงินเก็บส่วนตัว ปล.ส่วนตัวคิดว่าปีหน้าก็จะเรียนจบแล้ว เงินจากเงินเดือนมันคงไม่สามารถสร้างความมั่นคงให้ตัวเองได้ครับ เลยต้องหาช่องทางอื่นที่จะสร้างผลตอบแทนให้ตัวเองอีกทางคงจะดีกว่า สายที่ผมเรียนเป็นคนละทางกับการลงทุนเลยครับ (ศิลปะ/ออกแบบ)   เลยอยากให้กำลังใจครับ ไม่ว่าใครก็ลงทุนได้ครับ จากคุณ : Lofty2 เขียนเมื่อ : วันแรงงาน 54 14:49:25

ความคิดเห็นที่ 24 เก็บเงินไว้ก่อนครับ ผมมองว่าตอนนี้ทั้งหุ้น ทองคำ กองทุน เป็นอะไรที่ราคามาสูงมากๆแล้ว รอจังหวะให้ตกเยอะๆแบบปี 50-51 ก่อน แล้วค่อยทุ่มซื้อครับ จากคุณ : LimitBreak เขียนเมื่อ : 2 พ.ค. 54 18:58:35