ความคิดเห็นที่ 1 ผมเคยเห็นเอกสารหนึ่งของ BOT บอกว่า medium-term potential GDP growth ของไทยอยู่ที่ 5.2-5.3% หมายถึงด้วยศักยภาพของประเทศไทยเราควรจะโตได้เท่านี้ ซึ่งในช่วงปี 2002-2004 ก็เคยทำได้ดีกว่านี้อีก หลังจากนั้น %GDP growth เราหดลงมาอยู่ราวๆ 5% บางไตรมาสก็ไม่ถึง (กีฬาสีก็เป็นเหตุผลหนึ่ง) แล้วก็มาเจอเศรษฐกิจถดถอยในช่วงปี 2008-2009 เมื่อมีการฟื้นตัวจึงมีการก้าวกระโดดเพราะฐานต่ำ แล้วค่อยๆแผ่วลงตามลำดับโดยไตรมาสสุดท้ายของปีก่อนเราอยู่ที่ 3.8% ต่อปี ตัวเลข 5% เราอาจจะไม่ได้เห็นอีกหลายปี หรือนี่อาจจะเป็น  New Normal ของเราก็ไม่รู้ เพราะว่าในการทำให้เศรษฐกิจโตนั้นมีแค่สองวิธี คือ เพิ่มจำนวนแรงงาน เพิ่มผลิตภาพ (productivity) ตอนนี้แรงงานเราขาดแคลนอย่างหนัก ต้องมาเน้นข้อสองซึ่งก็ไม่รู้ว่า จะทำได้ดีหรือเปล่า ใครไม่รู้จะทำธุรกิจอะไร ผมว่า เครื่องอัตโนมัติต่างๆที่ช่วยลดการใช้คนลง น่าจะมีอนาคตมาก กราฟ : GDP growth เป็นรายไตรมาส จากคุณ : Crazy Rabbit เขียนเมื่อ : 2 พ.ค. 54 11:31:05

ความคิดเห็นที่ 2 ภาพรวมเศรษฐกิจไทยในเดือนมีนาคม แบงค์ชาติว่าไว้อย่างนี้ครับ BOT - “ภาวะเศรษฐกิจในเดือนมีนาคม 2554 ขยายตัวจากอุปสงค์ในประเทศทั้งการบริโภคและการลงทุนภาคเอกชน ที่ขยายตัวต่อเนื่อง โดยอุทกภัยในภาคใต้มีผลกระทบอยู่ในวงจํากัด ขณะเดียวกัน อุปสงค์จากต่างประเทศทั้งการส่งออกและ การท่องเที่ยวยังคงขยายตัวสูง ส่วนการผลิตภาคอุตสาหกรรมหดตัวจากระยะเดียวกันปีก่อนส่วนหนึ่งจากผลของฐานที่สูง และ เริ่มได้รับผลกระทบจากภัยพิบัติในญี่ปุ่นโดยเฉพาะในอุตสาหกรรมยานยนต์” BOT - “เสถียรภาพเศรษฐกิจยังคงมีแรงกดดันด้านราคาอย่างต่อเนื่อง โดยอัตราเงินเฟ้อคาดการณ์ยังคงเพิ่มขึ้น รวมทั้ง ตลาดแรงงานที่ตึงตัว” ทางด้านผลผลิตอุตสาหกรรม BOT - “การผลิตภาคอุตสาหกรรมหดตัวต่อเนื่องจากเดือนก่อนโดยดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม(MPI) ลดลงร้อยละ 6.7 เทียบกับระยะเดียวกันปีก่อน ส่วนหนึ่งเป็นผลจากการหดตัวของการผลิตในหมวด Hard Disk Drive จากฐานการผลิตที่ สูงในเดือนเดียวกันปีก่อนและสต็อกในปัจจุบันที่ยังอยู่ในระดับสูง การหดตัวของการผลิตในหมวดเครื่องแต่งกายส่วนหนึ่งจาก ปัญหาขาดแคลนวัตถุดิบ รวมทั้งผลของปัจจัยชั่วคราวจากการปิดซ่อมบํารุงโรงกลั่นน้ํามันขนาดใหญ่ในเดือนกุมภาพันธ์ถึง ต้นเดือนมีนาคม นอกจากนี้ การผลิตในอุตสาหกรรมยานยนต์แม้จะยังขยายตัว แต่ชะลอลงเนื่องจากเริ่มได้รับผลกระทบจาก ภัยพิบัติในญี่ปุ่น อย่างไรก็ตาม การผลิตในหมวดเครื่องใช้ไฟฟ้า และหลอดอิเล็กทรอนิกส์และส่วนประกอบ ยังคงขยายตัวดี” กราฟ : MPI น่าะเป็นกราฟที่น่ากลัวสุดแล้วในเดือนนี้ เพราะเห็นได้ชัดว่าระดับของการผลิต(เหลือง)ทรงตัวมาหลายเดือนแล้ว และอัตราการเพิ่ม(แดง) YoY ลดลงเรื่อยๆ ถ้าเป็นแบบนี้ต่อไป MPI เราจะลดลงในที่สุด หลายวันก่อนผมเห็นคุณมิ่งกลิ้งเอาข้อมูลของการผลิตในแต่ละกลุ่มอุตสาหกรรมมาวาดกราฟให้ดู ผมจะบอกว่า วาดเป็น %YoY แบบ BOT นี้จะดีกว่าครับ เห็น trend ต่างๆอย่างชัดเจน จากคุณ : Crazy Rabbit เขียนเมื่อ : 2 พ.ค. 54 11:36:17

ความคิดเห็นที่ 3 ด้านการบริโภคของเอกชน BOT -  “อุปสงค์ในประเทศขยายตัวเร่งขึ้นจากเดือนก่อนทั้งการบริโภคและการลงทุนภาคเอกชน ดชั นีการบริโภคภาคเอกชน (PCI) ขยายตัวร้อยละ 4.8 เทียบกับระยะเดียวกันปีก่อนตามเครื่องชี้ในเกือบทุกหมวด โดยเฉพาะปริมาณการจําหน่ายรถยนต์นั่ง ที่ขยายตัวสูงมากเนื่องจากผู้บริโภคหันมานิยมรถยนต์ขนาดเล็กและประหยัดพลังงานมากขึ้น รวมทั้งการนําเข้าสินค้าอุปโภค บริโภคในกลุ่มเครื่องใช้ไฟฟ้า” ปลายปีก่อนผมดู %PCI  growth(แดง) ดิ่งลงนึกว่าแย่แล้ว อาจจะเป็นผลของน้ำท่วม ในเวลาต่อมาก็ยืนได้  ถ้าเราดูแต่กราฟอาจจะบอกว่า หลังจากนี้ไปการบริโภคจะเริ่มมีอัตราเร่งขึ้น แต่ถ้าเราใช้เหตุผลนิดนึงจะบอกว่ายาก เพราะว่า 1. ผลกระทบจากแผ่นดินไหวในญี่ปุ่นเริ่มชัดเจนขึ้นเรื่อย แค่รถยนต์ส่งมอบไม่ได้ตามกำหนดก็ส่งผลต่อการบรืโภคแล้ว   2. น้ำมันที่แพงขึ้นเรื่อยๆ จากคุณ : Crazy Rabbit เขียนเมื่อ : 2 พ.ค. 54 11:37:20

ความคิดเห็นที่ 4 PCI (ต่อ) จากคุณ : Crazy Rabbit เขียนเมื่อ : 2 พ.ค. 54 11:38:37

ความคิดเห็นที่ 5 ด้านการลงทุนภาคเอกชน BOT - “ส่วนดัชนีการลงทุนภาคเอกชน(PII) ขยายตัวร้อยละ13.2เทียบกับระยะเดียวกันปีก่อนตาม การขยายตัวของเครื่องชี้ในหมวดเครื่องจักรและอุปกรณ์เป็นสําคัญ โดยเฉพาะการนําเข้าสินค้าทุนที่เพิ่มขึ้นจากการนําเข้า เครื่องจักรเพื่อขยายกําลังการผลิตของอุตสาหกรรมปิโตรเลียม เครื่องใช้ไฟฟ้า และยานยนต์ รวมทั้งการจําหน่ายรถยนต์ เชิงพาณิชย์ที่ขยายตัวดีต่อเนื่อง ขณะที่การลงทุนในหมวดก่อสร้างทรงตัวจากเดือนก่อน สําหรับภาครัฐยังคงมีบทบาทในการ กระตุ้นเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง โดยมีการเร่งเบิกจ่ายจากเดือนก่อน โดยเฉพาะรายจ่ายลงทุน ส่งผลให้ในเดือนนี้รัฐบาลขาดดุล เงินสด 58.0 พันล้านบาท” กราฟ : มาอารมณ์เดียวกับ PCI และผมคิดว่า การที่จีนต้องออกมาลงทุนนอกบ้านมากขึ้น และญี่ปุ่นที่ต้องย้ายการผลิตบางส่วน น่าจะทำให้การลงทุนยังน่าจะไปได้สวย อย่าลืมว่าระดับของการลงทุนต่อ GDP ต่ำเกินกว่าที่ควรจะเป็นอยู่ในปัจจุบัน จากคุณ : Crazy Rabbit เขียนเมื่อ : 2 พ.ค. 54 11:40:20

ความคิดเห็นที่ 6 PII (ต่อ) จากคุณ : Crazy Rabbit เขียนเมื่อ : 2 พ.ค. 54 11:41:04

ความคิดเห็นที่ 7 การใช้จ่ายภาครัฐ -  ไม่เอาไม่พูด การส่งออก BOT - “อุปสงค์ต่างประเทศขยายตัวสูงทั้งการส่งออกสินค้าและการท่องเที่ยว โดยการส่งออกมีมูลค่ารวม 21,072 ล้าน ดอลลาร์ สรอ. เพิ่มขึ้นจากระยะเดียวกันปีก่อนร้อยละ 31.0 ขยายตัวดีต่อเนื่องในทุกหมวดสินค้า โดยเฉพาะหมวดสินค้าเกษตร ที่มูลค่าการส่งออกขยายตัวดีตามราคายางพาราที่ยังอยู่ในระดับสูง ขณะที่ด้านปริมาณขยายตัวตามการส่งออกข้าวที่เพิ่มขึ้น และการส่งออกยางพาราที่ขยายตัวสูงตามอุปสงค์จากจีน ส่วนการส่งออกสินค้าอุตสาหกรรมขยายตัวดีตามการส่งออก ผลิตภัณฑ์พลาสติก เครื่องใช้ไฟฟ้า และยานยนต์เป็นสําคัญ” การนำเข้า BOT - “อุปสงค์ทั้งในและต่างประเทศที่ขยายตัวสูงในเดือนนี้ ส่งผลให้การนําเข้ามีมูลค่ารวม 19,180 ล้านดอลลาร์ สรอ. ขยายตัวเร่งขึ้นร้อยละ 27.2 จากระยะเดียวกันปีก่อน เป็นการเพิ่มขึ้นของการนําเข้าในทุกหมวดสินค้า โดยเฉพาะหมวด วัตถุดิบและสินค้าขั้นกลาง และหมวดสินค้าทุน ซึ่งสะท้อนว่าแนวโน้มการผลิตและการส่งออกน่าจะยังคงขยายตัวได้ในระยะ ต่อไป อย่างไรก็ตาม มูลค่าการส่งออกที่มากกว่ามูลค่าการนําเข้า ทําให้ดุลการค้าเกินดุลต่อเนื่องจากเดือนก่อนที่ 1.9 พันล้าน ดอลลาร์ สรอ.” จากคุณ : Crazy Rabbit เขียนเมื่อ : 2 พ.ค. 54 11:41:55

ความคิดเห็นที่ 8 การส่งออกของประเทศในย่าน Asia-Pacific ขยายตัวได้ดีในหลายๆประเทศครับ ล่าสุดตัวเลขของเกาหลีใต้ที่เพิ่งออกมาเมื่อสัปดาห์ก่อนก็สวยหรูเช่นเดียวกัน เมื่อเป็นเช่นนี้ความกังวลเรื่องเงินเฟ้อในระยะต่อไปน่าจะลดลง เพราะไม่จำเป็นต้องแทรกแซงให้ค่าเงินอ่อนมากนัก   ถ้าเศรษฐกิจจีน ลดความร้อนแรง และมีการปรับโครงสร้างให้เน้นการบริโภคภายในประเทศเป็นผลสำเร็จ ในอนาคประเทศแถวๆนี้ได้รับเงินลงทุน และส่งออกไปจีนสบายเลยครับ ทุนสำรองเงินตราระหว่างประเทศของเรามาอยู่ 182 พันล้าน US$ สูงเป็นปะวัติการณ์ จากคุณ : Crazy Rabbit เขียนเมื่อ : 2 พ.ค. 54 11:43:45

ความคิดเห็นที่ 9 การท่องเที่ยว BOT - “สําหรับการท่องเที่ยวยังขยายตัวดี แม้จะเผชิญกับปัจจัยเสี่ยงทั้ง ภัยพิบัติในญี่ปุ่นและอุทกภัยในภาคใต้ของไทย โดยนักท่องเที่ยวชาวต่างประเทศในเดือนนี้มีจํานวน 1.8 ล้านคน ขยายตัว ร้อยละ 22.6 เป็นการเพิ่มขึ้นของนักท่องเที่ยวจากภูมิภาคเอเชียและยุโรปเป็นสําคัญ ส่วนอัตราการเข้าพักโรงแรมอยู่ที่ร้อยละ 63.0 สูงขึ้นจากเดือนเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 57.2” จริงๆผมคิดว่า BOT ยังไม่ควรนับรวมผลจากแผ่นดินไหวในญี่ปุ่นเพราะน่าจะส่งผลในเดือนต่อๆมามากกว่า แต่ก็โชคดีนิดนึงที่จะเป็น low season ของเราอยู่แล้ว หลังจากวิกฤตเศรษฐกิจปี 2008 การท่องเที่ยวของเราขยายตัวได้ดีมาก มาสะดุดไปช่วงนึงเมื่อครั้งกีฬาสีครั้งสุดท้าย ในเดือนมีนาปีนี้ที่ขยายตัวถึง 22% ส่วนหนึ่งเป็นเพราะมีนาปีก่อนนักท่องเที่ยวลดลงมาก ปัจจัยบวกสำหรับก็คงเป็นนักท่องเที่ยวชาวจีนที่มีรายได้สูงขึ้น ปัจจัยลบก็เป็นราคาน้ำมัน จากคุณ : Crazy Rabbit เขียนเมื่อ : 2 พ.ค. 54 11:44:59

ความคิดเห็นที่ 10 ตัวเลขหนี้ต่างประเทศ จากคุณ : Crazy Rabbit เขียนเมื่อ : 2 พ.ค. 54 11:45:45

ความคิดเห็นที่ 11 อัตราการว่างงาน ในเดือนกุมภาพันธ์เราอยู่ที่ 0.7% (สหรัฐ 8.8% สเปน 21%) ต่ำมาก เค้าเรียกสภาวะนี้ว่าตลาดแรงงานตึงตัว จะเห็นได้จากในข่าวว่า โครงการรถไฟฟ้าสายหนึ่งขาดแรงงานหมื่นคน นี่ขนาดเราดูดเพื่อนบ้านมาเป็นล้านคนแล้วนะ  การขนาดแคลนแรงงานจะทำให้เศรษฐกิจเราไวต่อเงินเฟ้อมาก เมื่อวานนี้รัฐบาลสัญญาจะปรับค่าแรงขั้นต่ำเพิ่มขึ้น 25% ภายใน 2 ปี ดังนั้นการขึ้นดอกเบี้ยสู้เงินเฟ้อของ BOT จึงพรวดๆไม่ต้องกังวลเรื่องคนตกงาน จากคุณ : Crazy Rabbit เขียนเมื่อ : 2 พ.ค. 54 11:52:05

ความคิดเห็นที่ 12 อัตราเงินเฟ้อ ในเดือนมีนาคมอยู่ที่ 3.14% ถ้าไม่รวมอาหารสดและพลังงานจะเป็น 1.62% น่าจะเป็นเรื่องที่หลายคนกลัวกัน ในหลายๆประเทศก็มาแนวนี้ และธนาคารกลางของหลายๆประเทศรวมทั้ง BOT ด้วยเชื่อว่า ในช่วงครึ่งปีหลังอัตราเงินเฟ้อจะลดลงครับ ผมเองก็เชื่อแบบนั้น เราไม่เคยมี Hyperinflation ในระดับโลก และเป็นไปไม่ได้ที่จะเกิด แต่โลกเคยมี Great Inflation ในทศวรรษ 1980 ซึ่งต้นตอเกิดจากวิกฤตการเมืองในตะวันนออกกลาง หลายคนอาจคิดว่า Jasmine Revolution ที่เป็นอยู่ตอนนี้ใกล้เคียง ผมว่ายังไม่ใกล้เคียงจนกว่า จะเกิดแบบนั้นในประเทศซาอุ การจะเกิด Hyperinflation ในประเทศไทยให้จับตาดู Money Supply Growth ครับ ตอนนี้ยังไม่น่ากลัว จากคุณ : Crazy Rabbit เขียนเมื่อ : 2 พ.ค. 54 11:53:32

ความคิดเห็นที่ 13 Business Sentiment Index (BSI) ดัชนีความเชื่อมั่นของนักธุรกิจ ผมว่าเส้นแดงนี้น่าสนใจ อยากให้ตามดูต่อไป จากคุณ : Crazy Rabbit เขียนเมื่อ : 2 พ.ค. 54 11:54:40

ความคิดเห็นที่ 14 ดัชนีค่าเงินบาท จากคุณ : Crazy Rabbit เขียนเมื่อ : 2 พ.ค. 54 11:55:38

ความคิดเห็นที่ 15 ตอนนี้ผมมาอยู่ที่จังหวัดชายทะเลแห่งหนึ่ง เอา Macbook  มาด้วย แต่ทำกราฟไม่สะดวก จริงๆอยากให้ดูกราฟทำเองหลายรูปเลยครับ สรุป ผมอยากฝากความเห็นให้เพื่อนนักลงทุนทุกท่านลองคิดดู 1. เศรษฐกิจไทยยังปกติดีครับ โตน้อยกว่าปีที่แล้ว แต่ยังไม่น่าเป็นห่วงมาก 2. ให้จับตาดูจีน จีนห้ามเน่าเด็ดขาด ถ้าตายเพื่อนก็ตายหมด ถ้ามันดูยากนัก แนะนำให้จับตาดูการ break up หรือ down ของ Shanghai Composite เค้าอยู่ในกรอบสามเหลี่ยมขนาดใหญ่มากมาหลายปีแล้ว Climax กำลังมาถึงเร็วๆนี้ ปกติตลาดหุ้นจะนำหน้าเศรษฐกิจหลายเดือน 3. นักลงทุน ห้ามเข้าใจผิดเด็ดขาดว่า หุ้นจะขึ้นไปได้เอง มันต้องมีพื้นฐานทางเศรษฐกิจมารองรับ เห็นมีตะโกนโหวกเหวกว่าหุ้นจะไป 1,700 ได้ลองคิดดูหรือเปล่าครับ ถ้า GDP โตประมาณ 4% จากนี้ แล้วหุ้นไป 1,700  อย่างรวดเร็ว P/E ของ SET จะเหยียบ 50 หรือมากกว่าหรือไม่ ใครจะมาโง่ซื้อหุ้นบ้านเรา 4. สำหรับท่านที่กำไรมากในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมา ซึ่งคงเป็นคนส่วนใหญ่ ต้องขอบอกว่า ในช่วงนั้นท่านหลับตาจิ้มไปยังไงก็ได้เงินนะครับ พยายามป้องป้องกำไรของท่านให้ได้ด้วยในวิกฤติเศรษฐกิจครั้งต่อไปด้วย เพราะคนส่วนใหญ่อีกเหมือนกันที่ไปตายตอนนั้น 5. บ้านผมอยู่ชานเมืองกรุงเทพ ฐานะตอนเด็กๆไม่ค่อยดีครับ จนกระทั่งผมทำงานได้ซัก 10 ปี จึงเริ่มสังเกตเห็นว่า บ้านผมรวยกว่าบ้านอื่นๆในซอยอย่างเห็นได้ชัด จริงๆแล้วในตอนเริ่มต้นไม่ได้มีอะไรแตกต่างเลยระหว่างบ้านผมและคนอื่นๆ ที่แตกต่างกันมีอย่างเดียวคือ แม่ผมพยายามเหลือเกินที่จะให้ลูกทุกคนได้เรียนหนังสือ ผมคิดว่า การลงทุนก็เหมือนกัน การที่จะเป็นนักลงทุนที่ดีก็ต้องศึกษาค้นคว้าเรียนด้วยตนเองอย่างต่อเนื่อง วันๆเอาแต่ถามว่า ซื้อนั่นได้หรือยัง เจ้าจะเข้าหรือยัง ผมว่านี่เป็นวิถีทางของคนเล่นเอามัน ไม่ใช่เล่นเอารวย ขอให้ทุกท่านโชคดีในการลงทุนครับ ขอขอบคุณกราฟและข้อมูลจากธนาคารแห่งประเทศไทย จากคุณ : Crazy Rabbit เขียนเมื่อ : 2 พ.ค. 54 11:58:08

ความคิดเห็นที่ 16 ลืมแปะกราฟสำหรับสรุปข้อสองครับ จากคุณ : Crazy Rabbit เขียนเมื่อ : 2 พ.ค. 54 12:01:28

ความคิดเห็นที่ 17 ขอบคุณครับ ข้อมูลคุณภาพ จากคุณ : everandever เขียนเมื่อ : 2 พ.ค. 54 12:03:56

ความคิดเห็นที่ 18 เยี่ยมครับ  ตอบโจทย์เลย จากคุณ : chotto_s เขียนเมื่อ : 2 พ.ค. 54 12:14:48

ความคิดเห็นที่ 19 ชอบสรุปตรง คห. 15  ครับ จากคุณ : รัตนาธิเบต เขียนเมื่อ : 2 พ.ค. 54 12:21:10

ความคิดเห็นที่ 20 ขอบคุณคุณ Crazy Rabbit มากครับผม ปล.ความคิดเห็นที่ 2...ผมเพิ่งเอามาลงเมื่อวานซื้นเองครับ ^^"..ไม่ได้หลายวันก่อนแหะๆ.. ไว้คราวหน้าจะลองเอามาลงแบบ YoY นะครับ...พอดีวิเคราะห์ไม่ค่อยเก่ง อาจจะจับฉ่ายไปหน่อย http://www.pantip.com/cafe/sinthorn/topic/I10505750/I10505750.html (พิมพ์ผิดเยอะจัง ^^") แก้ไขเมื่อ 02 พ.ค. 54 12:34:19 แก้ไขเมื่อ 02 พ.ค. 54 12:33:00 แก้ไขเมื่อ 02 พ.ค. 54 12:31:33 จากคุณ : มิ่งกลิ้ง เขียนเมื่อ : 2 พ.ค. 54 12:22:52

ความคิดเห็นที่ 21 ชอบ บทสรุป ข้อ 5 กล่อง 15 ครับ ขอบคุณมากครับ แก้ไขเมื่อ 02 พ.ค. 54 12:31:50 จากคุณ : gongort2 เขียนเมื่อ : 2 พ.ค. 54 12:26:44

ความคิดเห็นที่ 22 เงินเฟ้อ (ดัชนีราคาผู้บริโภค) เดือนเมษายน ออกมาแล้วครับ เพิ่มขึ้น 4.04%  YoY จากคุณ : Crazy Rabbit เขียนเมื่อ : 2 พ.ค. 54 12:39:02

ความคิดเห็นที่ 23 สิ่งที่ผมกลัวที่สุดแล้วครับคุณ Crazy rabbit คือเงินเฟ้อ ... จากคุณ : everandever เขียนเมื่อ : 2 พ.ค. 54 12:45:24

ความคิดเห็นที่ 24 ท่านCrazy Rabbit ปัญหายังไม่จบอย่าเพิ่งนับศพทหาร:วิกฤตกรีซ (ภาคที่2) โดยดร.กอบ จากคุณ : ANUBIS[TJ] เขียนเมื่อ : 2 พ.ค. 54 12:53:00

ความคิดเห็นที่ 25 --" ผมไม่ได้มีส่วนรู้เห็นในกระทู้ที่แตกออกไป จะไปตั้งอะไรก็ตั้งเองเลยครับ ไม่ต้องเรียกชื่อผมให้คนหมั่นไส้ ไม่ได้ลืมหรอกครับ ผมก็พูดบ่อยๆว่า Greece นั้น default แน่นอน http://www.pantip.com/cafe/sinthorn/topic/I10484322/I10484322.html#3 จริงๆเรื่อง Greece หรือ PIIGS นี่ถ้าขี้เกียจอ่านข่าว ก็ดู CDS อย่างเดียวเลย เพราะมันจะเงียบไปเป็นพัก แต่จริงๆแล้วไม่ได้ดีขึ้นเลย จากคุณ : Crazy Rabbit เขียนเมื่อ : 2 พ.ค. 54 13:04:31

ความคิดเห็นที่ 26 ไม่ได้มีเจตนาร้ายนะครับ แค่อยากขอความเห็นเท่านั้น ในเว็บดร.กอบ ถามอะไรเพิ่มไม่ได้เลยมาถามท่านนี่แหละ จากคุณ : ANUBIS[TJ] เขียนเมื่อ : 2 พ.ค. 54 13:07:04

ความคิดเห็นที่ 27 ทำไม CDS ของ greece จึงพุ่งไปในต้นเดือนเมษายน? เพราะ ECB ขึ้นดอกเบี้ย เดี๋ยวเร็วๆนี้จะขึ้นอีก ถ้าผมเขียนเปรอะไปหมด ค่าเงินดอลลาร์ วิกฤตยุโรป นิวเคลียร์ญี่ปุ่น ผมคงไม่ตั้งชื่อว่า สถานการณ์เศรษฐกิจไทยนะครับ จากคุณ : Crazy Rabbit เขียนเมื่อ : 2 พ.ค. 54 13:07:42

ความคิดเห็นที่ 28 ผมไม่อยากดัง คุณไปลบชื่อผมออก หรือไม่ก็ไม่ต้องถามอะไรผมอีกเลย จากคุณ : Crazy Rabbit เขียนเมื่อ : 2 พ.ค. 54 13:08:34

ความคิดเห็นที่ 29 ผมก็รอข้อ 2 อยู่ครับ ช่วงนี้ กองทุนทริกเกอร์ จีน ออกกันเพียบ จากคุณ : Pluto_Ball เขียนเมื่อ : 2 พ.ค. 54 13:15:39

ความคิดเห็นที่ 30 กระทู้ดีๆ ใม่มีพลาดอยู่แล้ว จากคุณ : หมึกสด เขียนเมื่อ : 2 พ.ค. 54 13:22:25

ความคิดเห็นที่ 31 เรามาดูมุมมองของธนาคารแห่งประเทศไทยที่มีต่อเงินเฟ้อนะครับ เค้ามีความมั่นใจ 90% ว่าเงินเฟ้อพื้นฐาน (ย้ำว่า Core Inflation) จะอยู่ในกรอบสีม่วงๆ โดยที่จะขึ้นไปสูงสูงในไตรมาสที่ 3 อยู่ที่ไม่เกิน 4.5% YoY แต่ค่า expected value อยู่ที่ 3% ชนกรอบบนของ Inflation Target พอดี จากคุณ : Crazy Rabbit เขียนเมื่อ : 2 พ.ค. 54 13:29:03

ความคิดเห็นที่ 32 คุณ Pluto_Ball ผมไม่ค่อยชอบสภาวะที่คนแห่กันไปทำอะไรเลยครับ เพราะดูเหมือนจะไม่ดี เพิ่มเติมแต่เป็น กราฟ Shanghai-Shenzhen  Composite sideway มานานมาก และแคบลงเรื่อยๆ จากคุณ : Crazy Rabbit เขียนเมื่อ : 2 พ.ค. 54 13:42:03

ความคิดเห็นที่ 33 ในแง่ของเศรษฐกิจตอนนี้โลกอยู่ใน dual speed economy ในแง่ของการลงทุน มีคนสองกลุ่ม กลุ่มแรกแทงว่าโลกจะไปได้ดีและมั่งคั่งขึ้น กลุ่มที่สองแทงว่าโลกจะแตก ถึงผมจะเล่น Gold Futures เป็นหลัก แต่ก็ไม่ได้แทงว่าโลกแตกชัวร์ๆนะครับ แต่ก็ไม่ได้มองอะไรเป็นบวกไปหมดนะครับ โลกจะแตกแล้วผมจะอยู่ไปทำไม ลูกหลานจะอยู่กันยังไง "When the facts change, I change my mind. What do you do, sir?" - John Maynard Keynes, a Pioneer of Macroeconomics. จากคุณ : Crazy Rabbit เขียนเมื่อ : 2 พ.ค. 54 13:54:53

ความคิดเห็นที่ 34 ผมแทงว่า Inflation ต่อเหมือนกันครับ ^^ แต่ก็ไม่จำเป็นต้องกลายเป็น Hyperinflation โลหะเงินที่ขายไปสัปดาห์ก่อน จะได้เวลาเก็บคืนอีกแล้วครับ จากคุณ : everandever เขียนเมื่อ : 2 พ.ค. 54 14:21:11

ความคิดเห็นที่ 35 กำลังพยายามติดตามข้อมูลเศรษฐกิจ การตัดสินใจด้านการเงินของจีน อยู่เหมือนกันคะ จากคุณ : เมฆน้อยสีฟ้า เขียนเมื่อ : 2 พ.ค. 54 14:31:52

ความคิดเห็นที่ 36 ซ้ำคะ แก้ไขเมื่อ 02 พ.ค. 54 14:37:16 จากคุณ : เมฆน้อยสีฟ้า เขียนเมื่อ : 2 พ.ค. 54 14:32:31

ความคิดเห็นที่ 37 ขอบคุณครับ ผมรออ่านมาตั้งแต่อาทิตย์ที่แล้ว นึกว่าจะไม่มาแล้ว :) จากคุณ : c-sar-salad เขียนเมื่อ : 2 พ.ค. 54 14:55:59

ความคิดเห็นที่ 38 ขอบคุณสำหรับข้อมูลดีๆครับ จากคุณ : No Money ... No Honey (por-puay) เขียนเมื่อ : 2 พ.ค. 54 15:13:59

ความคิดเห็นที่ 39 ขอบคุณครับ ข้อมูลดีมากครับ จากคุณ : ประชาชนคนเดินดิน เขียนเมื่อ : 2 พ.ค. 54 15:16:53

ความคิดเห็นที่ 40 ขอบคุณมากครับ ชอบ คห. 15 ด้วยคนครับ จากคุณ : แกลดิโอลัส เขียนเมื่อ : 2 พ.ค. 54 15:31:20

ความคิดเห็นที่ 41 คุณ everandever ในวันศุกร์ที่เงินลงเยอะผิดปกตินั้นน่าจะเกิดจากการที่เงินขึ้นมาเยอะมาก ทางตลาด CME จึงให้เพิ่ม margin นับว่าคุณโชคดีมาก ตอนนี้ผมยังไม่แน่ใจว่า ทองจะโดนซักวันหรือเปล่า จริงๆน่าจะคำนวนได้ ฝากผู้สนใจลองคำนวนดู จากคุณ : Crazy Rabbit เขียนเมื่อ : 2 พ.ค. 54 15:48:38

ความคิดเห็นที่ 42 แจ๋วไปเลย จากคุณ : แม่น้องอะตอม เขียนเมื่อ : 2 พ.ค. 54 15:49:03

ความคิดเห็นที่ 43 โชคดีบ้าๆเลยครับ เพราะผมดันวิเคราะห์เรื่อง QE2 ผิดเลยขายไป จากคุณ : everandever เขียนเมื่อ : 2 พ.ค. 54 16:23:20

ความคิดเห็นที่ 44 ขอบคุณค่ะ จากคุณ : nusarathi เขียนเมื่อ : 2 พ.ค. 54 16:27:38

ความคิดเห็นที่ 45 อ่านพบว่า บอกใครไปว่าเรียน เศรษฐศาสตร์ ไม่มาก แต่จริงแล้วเป็นเภสัช    การศึกษาด้วยตัวเองหลังปริญญา ผมชอบครับ          เพราะเราจะอยากเรียนวิชาที่เราอยากรู้     และเขียนบทความได้ขนาดนี้ มีข้อมูลพร้อม วิเคราะห์ ได้เอง          คนอ่านตามอ่านด้วยความเข้าใจ               เท่านี้ ก็ต้องขอบคุณแล้วครับที่ทำให้เราเข้าใจเรื่องยากๆๆได้ง่ายขึ้น ขอบคุณครับสำหรับข้อมูลและคำแนะนำ จากคุณ : หมอสัจจะ เขียนเมื่อ : 2 พ.ค. 54 18:20:46

ความคิดเห็นที่ 46 ไม่ใช่ครับ ผมบอกว่า ผมกับที่รักไปเรียนโทเศรษฐศาสตร์ด้วยกัน ที่รักผมจบแล้ว กลับไปเป็นเภสัชเหมือนเดิม คือเรียนไปก็ไม่ได้มีอะไรใหม่ๆในชีวิต ไม่ได้ใช้ความรู้ แค่มีเพื่อนมากขึ้น ส่วนผมยังไม่จบ เพราะยังไม่ได้ทำ Independent Study แต่คาดว่าจะทำครับ เพราะเธอเคืองที่ผมไม่ทำให้มันจบๆไป ตัวผมเองมีอาชีพเป็นวิศวกรอยู่ในวงการโทรศัพท์มือถือ แต่ไม่เคยซื้อหุ้นบริษัทตัวเองครับ จากคุณ : Crazy Rabbit เขียนเมื่อ : 2 พ.ค. 54 18:38:33

ความคิดเห็นที่ 47 ขอโทษครับที่เข้าใจไม่ถูกต้อง เป็นกำลังใจให้ครับ ให้หวานใจหายเคือง จากคุณ : หมอสัจจะ เขียนเมื่อ : 2 พ.ค. 54 18:43:45

ความคิดเห็นที่ 48 เงินเฟ้อขึ้น 4% แต่ทองคำและโลหะเงินขึ้นมา 10% สรุปว่าทองคำชนะเงินสดอีกยกแล้ว ถ้าเป็นยังงี้ไปนานๆเข้าสงสัยคนคงเลิกพกเงินสดในกระเป๋า เลิกฝากเงินสดในธนาคาร เหอะๆๆ จินตนาการซะสุดโต่งเลย จากคุณ : everandever เขียนเมื่อ : 2 พ.ค. 54 18:52:39

ความคิดเห็นที่ 49 พรุ่งนี้น่ากลัวครับ ครมจะผ่านมติงบหลายสตังแจกพรรคร่วมกันครบ  อาจจะเป็นประวัติศาสตร์ ให้ได้เห็นสัญชาตินักการเมืองอีกครั้ง ก็เป็นสถานการณ์ช่วยกันละลายเงินสร้างหนี้ ให้พวกเรา  เหตุการณ์ตรงนี้หลายครั้ง ไปตัดของทหารทำให้ต้องEXcercise ในหลายครั้งที่ผ่านมา นอกประเด็นไปครับ เพราะ เป็นสถานการณ์ เดือนพค แล้ว จากคุณ : หมอสัจจะ เขียนเมื่อ : 2 พ.ค. 54 19:42:54

ความคิดเห็นที่ 50 ขอบคุณครับ จากคุณ : electrician เขียนเมื่อ : 2 พ.ค. 54 20:12:39

ความคิดเห็นที่ 51 เงินเฟ้อในไทยไม่น่าห่วงครับ มีธนาคารแห่งประเทศไทยและกระทรวงพาณิชย์ดูแลอยู่ เครื่องมือมีเยอะครับ จากคุณ : sweetoil เขียนเมื่อ : 2 พ.ค. 54 20:35:18

ความคิดเห็นที่ 52 ถามคุณ Crazy Rabbit หน่อยครับ ว่า ถ้า Greece และ กลุ่ม PIIGS มีปัญหาหนักหน่วงที่รอประทุ  ค่าเงินยูโรกลับแข็งค่าขึ้นมาก ครับ  ขอบคุณครับ จากคุณ : StockAmatuer (StockAmatuer) เขียนเมื่อ : 2 พ.ค. 54 21:57:31

ความคิดเห็นที่ 53 ขอบคุณสำหรับข้อมูลและกระทู้คุณภาพครับ จากคุณ : Heinz เขียนเมื่อ : 2 พ.ค. 54 22:00:48

ความคิดเห็นที่ 54 คุณ StockAmatuer เขียนคำถามจบแล้วใช่มั้ยครับ รบกวนยืนยันอีกที ประโยคมันขาดๆ แต่ผมชอบคำถามนะครับ เปิดได้อีกกระทู้นึงเลย จากคุณ : Crazy Rabbit เขียนเมื่อ : 2 พ.ค. 54 22:11:06

ความคิดเห็นที่ 55 เอาที่คาดว่าถามแล้วกันนะครับ พรุ่งนี้ผมเข้ากรุงเทพคงไม่ได้ดูอีกเป็นวัน ประเทศที่เป็น Core ยังแข็งแกร่งมาก และมีส่วนต่างดอกเบี้ยให้เงินไหลมาจากฝั่งสหรัฐ PIIGS ไม่ใช่ว่าจะ default ทีเดียวยกแผงนะครับ ความเสี่ยงไม่เท่ากันผมให้ดู CDS เทียบกันแต่ละประเทศ ล่าสุดเป็นแบบนี้นะครับ จากคุณ : Crazy Rabbit เขียนเมื่อ : 2 พ.ค. 54 22:30:23

ความคิดเห็นที่ 56 กลับมาอ่านคำตอบตัวเองเหมือนกับไม่ได้ตอบเลย T T ถ้าลองไปอ่านกระทู้เรื่อง  QE2 เมื่อสัปดาห์ก่อนผมมองว่า เรื่องประเทศรอบนอก Euro zone นี่ชัดเจนกว่าเรื่องหนี้สหรัฐอีก แต่ขนาดของประเทศที่จะ default แรกๆ ยังเล็กอยู่ ตลาดอาจมองว่า สหรัฐหนักว่า เพราะว่าใหญ่กว่า ประกอบกับมีส่วนต่างดอกเบี้ย และสหรัฐน่าจะยังไม่ขึ้นดอกเบี้ยอีกนาน อีกไม่กี่สัปดาห์ ECB จะขึ้นอีกแล้ว ไปๆมาๆ เยอรมนีกลายเป็นประเทศ AAA ที่เชื่อถือได้มากที่สุดในโลกไปแล้ว ตลาดน่าจะคิดว่า Euro zone ที่มีเยอรมันดีกว่า สหรัฐที่ไม่มีอะไรเลย ส่วน PIIGS บางประเทศ ยังไงก็ต้องออกจาก Euro เพราะดอกเบี้ยขึ้น ค่าเงินแข็งมีแต่ตายกับตาย ถ้า Euro เหลือแต่ Core ค่าเงิน Euro คงโสภามากเลยครับ จากคุณ : Crazy Rabbit เขียนเมื่อ : 2 พ.ค. 54 22:49:03

ความคิดเห็นที่ 57 ขอบคุณสำหรับข้อมูล และมุมมอง จะติดตามผลงานอย่างต่ิอเนื่องครับ จากคุณ : NutzGuru เขียนเมื่อ : 2 พ.ค. 54 23:54:21

ความคิดเห็นที่ 58 ถึงจะอ่านไม่ค่อยรู้เรื่อง (หมายถึงความรู้ผมไม่ค่อยจะสัดทัด) แต่ก็ขอบคุณแทนเพื่อนๆหลายคน อ่านเข้าใจ คห. 15 อย่างเดียว 55 จากคุณ : นายฉิม เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 54 11:26:17

ความคิดเห็นที่ 59 ค่าเงินยูโรแข็งค่าขึ้นเพราะ ยูโรได้ขึ้นดอกเบี้ยครั้งแรกนับตั้งแต่วิกฤต เป็นสัญญาณว่าเศรษฐกิจของยูโรดีขึ้น นักลงทุนส่วนมากก็เชื่ออย่างนั้นค่าเงินก็แข็งขึ้น จากคุณ : sweetoil เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 54 11:31:21

ความคิดเห็นที่ 60 ขอบคุณสำหรับคำตอบครับ  คุณ crazy rabbit,  เป็นความผิดของผมเองที่พิมพ์คำถามตกหล่น   คำถามผมก็แค่จะถามว่าทำไมค่าเงินยูโรถึงยังแข็งค่าได้อีก ทั้ง ๆ ที่ปัญหาเค้าก็ยังมีอยู่และยังแย่ลงเรื่อย ๆ   ถ้าคุณ crazy rabbit มีความเห็นเพิ่มเติมอีก ก็อยากให้เขียนเป็นวิทยาทานกับผู้อ่าน pantip ครับ  ขอบคุณอีกครั้งครับ จากคุณ : StockAmatuer (StockAmatuer) เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 54 11:41:41

ความคิดเห็นที่ 61 โหวต+give คุณกระต่าย สำหรับข้อมูล ชอบกล่อง 15 ข้อ 4 กับ 5 มากๆครับ โดยเฉพาะ 5 (^^) Greece Default สูงแน่ๆเพราะทั้ง CDS - Bond Yield เพิ่มขึ้นทุกวัน แล้วผม"เดา"ว่า กลุ่มที่มี CDS มากๆก็ไม่พ้นธนาคารในยุโรป+เมกาบางส่วน ส่วนเงินที่ลงหนักช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมารวมถึงต้นสัปดาห์นี้ด้วย เพราะ CME ขึ้น margin 3 รอบ เลยครับ ไม่ได้ใช่ืทีเดียว (จันทร์ที่แล้ว ศุกร์ที่แล้ว จันทร์นี้) รวมเบ็ดเสร็จนี่ประมาณเกือบ 40% (ตัวเลขผิดขออภัยนะครับ) ลองคิดดูเล่นๆว่าถ้า เราเล่น GF margin ตอนนี้อยุ่ 47500 mm อยุ่ที่ 33000 อยู่ๆตื่นมา margin กลายเป็น 66500 mm กลายเป็น 46500 ยังไม่ทันจะทำอะไรโดน call ซะแล้ว......ก็ต้องขายออกก่อนซิครับ แก้ไขเมื่อ 03 พ.ค. 54 22:22:05 จากคุณ : Sylphs เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 54 22:16:16

ความคิดเห็นที่ 62 ขอบคุณสำหรับข้อมูลดีๆ ครับ จากคุณ : เจ้าภาพจงเจริญ เขียนเมื่อ : 4 พ.ค. 54 01:35:02

ความคิดเห็นที่ 63 ขอบคุณมากครับ..สำหรับข้อมูลดีๆที่เอามาแบ่งปันกัน พี่เป็น my idol ของผมเลย ^^ ต่อไปรู้ละ ในสินทรจะปรึกษาใครเรื่องไหน.. จากคุณ : ^MoOn_Man^ เขียนเมื่อ : 4 พ.ค. 54 08:43:04

ความคิดเห็นที่ 64 คุณ Sylphs ผมกลัวทองและ commodity อย่างอื่นจะโดนเพิ่ม margin เหมือนกันครับ สงสัยต้องลองไปแกะดูเองแล้ว ส่วน Greece นี่ผมปกติดู Yield 10 ปี ซึ่งก็น่ากลัวแล้ว ถ้าดู 2 ปี จะน่ากลัวมาก ถ้าประเทศนี้ออกบอนด์ในตลาดสัญญาว่าจะคืนเงินต้นเมื่อครบ 2 ปี ต้องจ่ายดอกเบี้ย 25% ต่อปี แต่ตอนนี้เค้าใช้เงินยืมจาก IMF/ECB อยู่ครับ ถ้าทำ Austerity ไม่ได้ตามเป้า ก้อนต่อไปอาจไม่ได้   มีทางเลือกอื่นที่เค้ากำลังคุยกันอยู่โดยไม่ต้อง Haircut คือแปลงพันธบัตรระยะสั้นเป็นระยะยาว ผมก็ไม่แน่ใจว่าเจ้าหนี้อยากได้อะไร ระหว่างได้เงินคืนครึ่งหนึ่งตามกำหนดเดิม หรือ "อาจจะ" ได้เงินครบ แต่รออีกนาน ระบบธนาคารบ้านเราไม่น่าจะได้รับผลมาก เพราะมันไกล ตอน subprime เราก็ไม่ค่อยโดนครับ แต่มี shock ในตลาดแน่นอน แก้ไขเมื่อ 04 พ.ค. 54 09:57:14 จากคุณ : Crazy Rabbit เขียนเมื่อ : 4 พ.ค. 54 09:54:51

ความคิดเห็นที่ 65 ปกติทองก็จะถุกขึ้น margin พร้อมเงินล่ะครับ แต่รอบล่าสุดนี่เงินมันแรงเกิน เลยต้องขึ้นกันไว้ก่อน รอบเก่าๆที่ผ่านมาก็ลงทุกรอบครับ แต่จะลงไม่แรง-ต่อเนื่อง ส่วนมากจะลงวันเดียวก็ขึ้น ทองสี่รอบล่าสุดที่ขึ้นมาจิน ปี 2010 Feb 11-12 / Aug 6-7 / Nov 15-16 ปีนี้ Jan 20-21 (คือวันที่ 11 ต่อ 12 เวลาไทยนะครับ) PS.ถ้าข้อมูลไม่ผิดนะครับ แก้ไขเมื่อ 04 พ.ค. 54 18:18:15 จากคุณ : Sylphs เขียนเมื่อ : 4 พ.ค. 54 18:16:28

ความคิดเห็นที่ 66 แก้ไขเมื่อ 04 พ.ค. 54 18:17:12 จากคุณ : Sylphs เขียนเมื่อ : 4 พ.ค. 54 18:16:47

ความคิดเห็นที่ 67 ท่านเจ้าของกระทู้ ผมรักประโยคนี้ของท่านเจ้าของกระทู้มาก ๆ เลยครับ บ้านผมอยู่ชานเมืองกรุงเทพ ฐานะตอนเด็กๆไม่ค่อยดีครับ จนกระทั่งผมทำงานได้ซัก 10 ปี จึงเริ่มสังเกตเห็นว่า บ้านผมรวยกว่าบ้านอื่นๆในซอยอย่างเห็นได้ชัด จริงๆแล้วในตอนเริ่มต้นไม่ได้มีอะไรแตกต่างเลยระหว่างบ้านผมและคนอื่นๆ ที่แตกต่างกันมีอย่างเดียวคือ แม่ผมพยายามเหลือเกินที่จะให้ลูกทุกคนได้เรียนหนังสือ ผมคิดว่า การลงทุนก็เหมือนกัน การที่จะเป็นนักลงทุนที่ดีก็ต้องศึกษาค้นคว้าเรียนด้วยตนเองอย่างต่อเนื่อง ขอบคุณครับ จากคุณ : @power เขียนเมื่อ : วันฉัตรมงคล 54 11:43:16

ความคิดเห็นที่ 68 อ่านข้อความนี้จบแล้วความดันขึ้นทันที "...จริงๆแล้วนอกจาก Growth-Stability การที่เราจะบอกว่าเศรษฐกิจที่จริงๆต้องดูด้านที่สามคือการกระจายรายได้ ซึ่งวัดด้วย Gini Index แต่ช่างมันเถอะครับ Who cares?..." อยากทราบเหตุผลครับ ว่าทำไมต้อง "ช่างมันเถอะครับ Who cares?" จากคุณ : Lethal เขียนเมื่อ : 6 พ.ค. 54 22:07:19