ความคิดเห็นที่ 1 สาขาไหนครับ จากคุณ : pjuk เขียนเมื่อ : 4 พ.ค. 54 13:15:26

ความคิดเห็นที่ 2 อยากทราบด้วย ควรแก้ปัญหาที่หน้างาน ไม่ใช่รายบุคคล ขึ้นอยู่กับว่าใครร้องเรียน จากคุณ : *Tan* เขียนเมื่อ : 4 พ.ค. 54 13:15:44

ความคิดเห็นที่ 3 ไปธนาคารอื่นเถอะครับ จากคุณ : iamdanai เขียนเมื่อ : 4 พ.ค. 54 13:18:32

ความคิดเห็นที่ 4 คห.ที่ 1 สาขาบางบ่อ สมุทรปราการ ค่ะ จากคุณ : Ms.Lola เขียนเมื่อ : 4 พ.ค. 54 13:20:33

ความคิดเห็นที่ 5 โทรไปวีน เเล้วเอาเงิน คืนโดยด่วน เพราะตอนผมเปิดบันชี ผมเจอเเบบนี้ อารมย์เสียมาก โทรไป CC ให้ หาทางจัดการเพราะมันไม่ใช่ความผิดเรา เราบอกไม่เอาๆ เเล้วมาโกหกหลอกลวง ว่าไม่มี ไม่มี เราต้องไม่ยอม เเล้วเราจะได้เงินคืน เเล้วบอกพี่ จุก ให้พี่ จุก ช่วยหาสาขาที่ยังมีบัตรธรรมดาอยู่ จากคุณ : Maxilla เขียนเมื่อ : 4 พ.ค. 54 13:23:35

ความคิดเห็นที่ 6 เดี๋ยวจัดการสอบถามให้นะครับ .... รบกวนขออนุญาตทราบ ชื่อ-นามสกุล และเบอร์ติดต่อ ทางหลังบ้านด้วยนะครับ จากคุณ : pjuk เขียนเมื่อ : 4 พ.ค. 54 13:31:24

ความคิดเห็นที่ 7 รบกวนช่วยติดต่อสาขาอีกทีได้ไหมครับ ติดต่อ (ชื่อ จนท. ทางหลังบ้านนะครับ)  .... โดยยกเลิกบัตรเดบิตพสัส และรับเงินค่าธรรมเนียมคืนได้ครบถ้วนครับ แล้วสามารถสมัครบัตร เดบิตธรรมดา ใหม่ได้เลยครับ ทั้งนี้ทางสาขาต้องขออภัย เนื่องจากบัตรเดบิตธรรมดา เพิ่งมาถึงสาขาเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาครับ โดย จนท. ที่รับของและบันทึกเข้าระบบคงยังไม่ได้ดำเนินการ และแจ้งให้ จนท. ท่านอื่นๆ ทราบกันครับ จากคุณ : pjuk เขียนเมื่อ : 4 พ.ค. 54 13:41:27

ความคิดเห็นที่ 8 ขอบคุณมากๆนะค่ะคุณ pjuk คงเป็นพรุ่งนี้จะไปติดต่อแน่นอนค่ะ จากคุณ : Ms.Lola เขียนเมื่อ : 4 พ.ค. 54 14:02:50

ความคิดเห็นที่ 9 ขอบคุณมากครับ .... บอกชื่อได้เลยนะครับ จากคุณ : pjuk เขียนเมื่อ : 4 พ.ค. 54 14:03:35

ความคิดเห็นที่ 10 มีอยู่ในสาขานั่นแหล่ะครับต้องใช้ลูกอ้อนเยอะหน่อยครับเขาจะอ้างว่าบัตรหมด เพื่อให้เราต้องจ่ายเป็นบัตรประกันซึ่งคิดค่าธรรมเนียมแพงครับ ผมทำบัตรใหม่ๆ บังเอิญวันนั้นเปิดบัญชีกับน้องคนสวยๆ ขาวๆ หมวยๆ ด้วยเราก็เลยได้รับอานิสงค์เป็นบัตรธรรมดาแทนครับ เขาบอกว่าหลังจากนี้ไปจะไม่มีอีกแล้วให้เก็บบัตรไว้ดีๆ และพยายามกดเงินเฉพาะตู้ SCB เพื่ออายัดจะได้ขอคืนได้ ปล. คาร์ฟู พระราม 2 จากคุณ : amphun (Amphun) เขียนเมื่อ : 4 พ.ค. 54 14:21:04

ความคิดเห็นที่ 11 คือ ไม่เข้าใจว่าทำไมต้องให้มาร้องเรียนใบพันทิป มีลูกค้ามีตั้งมากมายที่ต้องการทำบัตรเอทีเอ็มธรรมดา แต่กลายเป็นว่าทาง พนง.ธนาคารจะบอกว่าไม่มีๆ ลูกค้าก็ต้องทำไป หรือจะบอกว่า ให้ไปใช้บริการธนาคารอื่นสิ มีตั้งเยอะแยะ มาร้องเรียนมีหนึ่ง ก็จะมีคนมารับเรื่อง แก้ไข อยากรู้ว่าคนที่ไม่ร้องเรียน คือ คนที่ไม่รักษาสิทธิ์ของตัวเอง ก็เสียเงินไปหรือเปล่า ป.ล.เห็นกระทู้อย่างนี้หลายครั้ง กลายเป็นแก้ปัญหาให้รายบุคคลไปซะงั้น ป.ล. 2 ยังใช้บริการของธนาคารอยู่ แต่อยากให้แก้ปัญหานี้ให้เด็ดขาดไปซะ ถ้าหากจะไม่มีบัตรธรรมดา ก็ประกาศให้รับรู้ทั่วกันว่าธนาคารนี้ีมีแต่บัตรแพงๆ คนจะได้ไม่ต้องเข้าไปทำ ให้โดนหลอก งั้นขอใช้สิทธิ์มั้ง สาขาบางรัก สามารถยกเลิกบัตรแล้วเปลี่ยนเป็นบัตรธรรมดาได้ไหม แล้วค่าแรกเข้าที่แตกต่างกัน จะได้คืนหรือไม่ จากคุณ : hikawa เขียนเมื่อ : 4 พ.ค. 54 14:49:07

ความคิดเห็นที่ 12 เมื่อวาน น้องก็โดยเหมือนกันที่ scb สาขาแหลมทองระยอง พูดในเชิงบังคับทำ น้องเลยไม่ทำ เลยลองไปสาขาที่ lotus ระยอง น้องไปแกล้งโวยวายเสืยงดัง ๆ เค้าจึงบอกว่า ตอนนี้บัตร debit ธรรมดาหมด หากต้องการทำ ต้องรอ รู้สึกผิดหวังกับการบริการของธนาคาร ทั้ง ๆ ที่เป็นลูกค้ามานาน ต้องการยอดก็ควรอธิบายให้ลูกค้าเข้าใจ ไม่ใช่ว่า อยากขายของหรือทำยอดอย่างเดียว จากคุณ : พี่มารร้าย เขียนเมื่อ : 4 พ.ค. 54 15:00:40

ความคิดเห็นที่ 13 คิดว่าพนักงานไม่ได้ต้องการยอดหรอก เพียงแต่โดนผู้บริหารบังคับให้ลูกค้า(ต้อง)ทำเดบิตพลัส เพื่อให้ผู้บริหารมียอดก็แค่นั้น หรือไม่ก็รายได้จากส่วนนี้ น่าจะสูงมากๆ จากคุณ : micaho2 เขียนเมื่อ : 4 พ.ค. 54 15:14:28

ความคิดเห็นที่ 14 จริงๆ แล้วแทบไม่ต้องถามว่าสาขาไหนเลย มันเป็นเหมือนกันทุกสาขา ถ้าจะแก้ต้องแก้ที่ฝ่ายบริหารและนโยบายของท่านจะดีกว่าที่จะมานั่งแก้ที่ละเคสแบบนี้ สงสารลูกค้าและเห็นใจพนักงานพอๆ กัน ครับ จากคุณ : a43b0619 เขียนเมื่อ : 4 พ.ค. 54 20:32:37

ความคิดเห็นที่ 15 จริงๆแล้วพนักงานก็ไม่อยากจะบังคับหรอก    แต่เป็นเพราะขข้างบน  สั่งมา   ก็เลยต้องจำใจทำ จากคุณ : takop เขียนเมื่อ : 4 พ.ค. 54 21:46:04

ความคิดเห็นที่ 16 ก็เป็นอย่างที่ทุกคนเข้าใจนั่นแหละ มีรุ่นน้องทำงานอยู่ SCB เค้าบอกว่า สำนักงานใหญ่ให้ทำยอด เพราะจะมีการประเมินกันทุกเดือน ไม่ใช่แค่ยอดบัตรเดบิตพลัส ไหนจะยอดประกันต่างๆ กองทุนรวม ฯลฯ บางเดือนที่ยอดของรุ่นน้องถึงเป้าแล้ว เค้าก็จะบอกเลยว่า อยากให้ช่วยน้องอีกคนนึงที่ยังไม่ถึงเป้า ไม่งั้นเวลาประเมินจะไม่ผ่าน แต่ผมจะทำเฉพาะในสิ่งที่อยากทำ ไม่ทำเพราะเห็นใจหรือสงสารใคร ก็อย่างว่าแหละค่าธรรมเนียมรายปีของบัตรเดบิตพลัสมันสูง เรียกได้ว่า นอนกินรายปีไปได้เรื่อยๆ ลูกค้าจำนวนมากก็ไม่ได้ใส่ใจกับตรงนี้ จะรู้สึกก็เฉพาะที่ต้องจ่ายค่าธรรมเนียมตอนทำบัตรครั้งแรก ใครจะจำได้มั่งว่า จะถูกหักค่าธรรมเนียมรายปีในปีต่อๆ ไป เมื่อไหร่ กว่าจะรู้ตัวก็ถูกหักไปแล้ว บางคนก็ไม่ได้ไปปรับยอดสมุดบัญชีเป็นระยะเวลานาน ส่วนที่ว่าทำบัตรเดบิตพลัสแล้วได้รับความคุ้มครองประกันอุบัติเหตุ ก็เป็นแค่ข้ออ้าง ถ้าทำบัตรแล้วเกิดอุบัติเหตุก็ดีไป แต่ทุกคนคงไม่อยากให้ตัวเองเกิดอุบัติเหตุ บางปีก็ไม่เกิดอุบัติเหตุเลย หรือเกิดอุบัติเหตุเล็กน้อยก็ไม่อยากไปโรงพยาบาล หรือบางคนทำบัตรแล้วก็ไม่รู้ว่าบัตรของตัวเองมีสิทธิประโยชน์ได้แค่ไหน หรือไม่รู้วิธีที่จะเคลมเงินคืน บางคนทำยอมทำบัตรเดบิตพลัสเพราะไม่มีทางเลือก ก็พนักงานเล่นยื่นข้อเสนอว่ามีแค่ 2 แบบ คือ บัตรเดบิตพลัสเงิน กับเดบิตพลัสทอง ไม่ได้มีทางเลือกอื่น มันก็ไม่ต่างกับการมัดมือชกโดยทางอ้อม ทั้ง ๆ ที่บางครั้งบัตร ATM หรือบัตรเดบิตธรรมดา มันอยู่ในลิ้นชัก บางคนไม่รู้ว่าตัวเองมีสิทธิที่จะไม่ต้องทำบัตรใด ๆ เมื่อเปิดบัญชี แต่ก็โดนพนักงานบางคนหลอกว่า ถ้าไม่ทำบัตรก็เปิดบัญขีไม่ได้ เพียงเพราะตัวเองต้องทำยอดให้สำนักงานใหญ่ ในขณะที่บางคนจำเป็นต้องยอมทำบัตรเดบิตพลัส เพราะมันเป็นบัญชีเงินเดือน ข้ออ้างที่ว่า บัตรธรรมดาไม่มาส่ง ก็เป็นข้ออ้างที่ฟังไม่ขึ้น เพราะมันเกิดขึ้นเกือบทุกสาขา ต่อให้แจ้งไปยังไง สำนักงานใหญ่ก็ไม่ส่งมา เพราะนโยบายคือต้องการขายบัตรเดบิตพลัส กรณีแบบนี้ พนักงานสาขาจำเป็นต้องทำยอด ก็พยายามทุกวิถีทางเพื่อให้ตัวเองอยู่รอด ทั้งโกหก แกมบังคับลูกค้า หรือพูดความจริงไม่หมด ในส่วนของ pjuk และ SCB Thailand เองก็รู้ปัญหา แต่นำ้ท่วมปาก พูดมากไม่ได้ ก็ต้องใช้วิธีแก้ปัญหาแบบรายวันให้เฉพาะบุคคลที่ร้องเรียนเข้ามา แล้วคนที่ไม่ได้เข้ามาร้องเรียนอีกเท่าไหร่ ธนาคารก็นอนกินค่าธรรมเนียมรายปีไป อย่ามาอ้างว่า บัตรเดบิตพลัสได้รับความคุ้มครองอุบัติเหตุเลย เพราะถ้าจริงใจและซื่อสัตย์กับลูกค้า และธนาคารมีธรรมาภิบาล ควรจะเสนอเตรียมบัตรทุกแบบที่ธนาคารพึงมีให้ลูกค้าเลือก บัตรเดบิตพลัสก็เป็นทางเลือกที่ดีทางหนึ่งสำหรับลูกค้าที่เห็นความสำคัญของประกันและเหมาะกับตัวเอง ไม่ใช่มัดมือชกโดยทางอ้อมแบบทุกวันนี้ ร้องเรียน pjuk ไปก็เป็นการแก้ปัญหาที่ปลายเหตุ เพราะยังไงก็ทำอะไรมากกว่านี้ไม่ได้ ตราบใดที่ทางสำนักงานใหญ่ยังสั่งให้สาขาทำยอดโดยไม่คำนึงถึงความเดือดร้อนของลูกค้า ในฐานะผู้บริิโภค เราควรมารวมตัวกันช่วยเรียกร้องสิทธิของตัวเองและคนที่ไม่ค่อยรู้เรื่องนี้ดีกว่า เอาแบบ SCB ไปเลย 1 วัน 1 ที่ 1000 สาขา พวกเราก็โทรไปร้องเรียนที่ Call Center 1 วัน 1 สาย 1000 คน โทรมันทุกวันเลย ดูซิว่าทางสำนักงานใหญ่ยังจะนิ่งเฉยอยู่ไหม และโทรไปตามความคืบหน้าทุกวัน 1 ปี จะมีคนร้องเรียนเข้าไปกี่สาย แค่นี้ Call Center ก็ไม่ต้องทำงานอย่างอื่นแล้ว แก้ไขเมื่อ 05 พ.ค. 54 09:32:22 จากคุณ : สรกฤช เขียนเมื่อ : วันฉัตรมงคล 54 09:09:04

ความคิดเห็นที่ 17 นโบยชัดเจนในการทำยอดขายบัตรเดบิตพลัส .... แต่ต้องอยู่ภายใต้การนำเสนอ สิทธิประโยชน์ที่พึงได้รับเท่านี้น ถ้ามีปัญหาเรื่องร้องเรียน ว่ามีการยัดเยียดเกิดขึ้น ไม่ว่าด้วยวิธีใดๆ ก็ตาม แล้วถูกพิสูจน์ได้ว่า เป็นการไม่ให้ความจริงใจกับลูกค้า ทั้ง จนท. ผู้นำเสนอ และ ผจก. ต้องรับผิดชอบร่วมกัน ในเรื่องของแต้มในการพิจารณาผลงานครับ ดังนั้นถ้ามาทางนี้ มีวิธีการดำเนินการให้เป็นขั้นตอนว่าจะเริ่มกันที่เรื่องร้องเรียนเลย หรือเลือกที่จะไกล่เกลี่ยให้ทางสาขาได้มีโอกาสแก้ไข ก่อนที่จะกลายเป็นเรื่อง ร้องเรียนครับ ทั้งนี้ทุกโปรดักซ์ ที่ออกมา มั่นใจในนโยบายได้ว่า แม้สาขาจะต้องมีเป้าหมายที่ชัดเจน แต่ต้องอยู่ภายใต้แนวทางของการให้ข้อมูลที่ถูกต้อง ไม่ใช้วิธีการหลอกล่อ หรือบังคับ ลูกค้าไม่ว่าด้วยวิธีการใดๆ ก็ตาม .... แต่ก็คงจะทราบกันดีว่า อุปนิสัยของ จนท. แต่ละ ท่านย่อมแตกต่างกันไป ไม่อาจจะควบคุมแนวทาง และวิธีการได้ไม่หมดทุกคน ซึ่งคงต้องพึ่งเสียงสะท้อนจากลูกค้าแจ้งให้ทราบผ่านทางช่องทางต่างๆ ทั้งทาง Call Center , Web Chat , E-mail รวมไปถึงสื่อของโลก Cyber อย่างเช่น Pantip หรือ Facebook ครับ ซึ่งถ้าเรื่องถึงมือ Call Center หรือ หน่วยงานกลางที่ดูแลภาพลักษณ์องกรค์เมื่อไหร่ จะกลายเป็นเรื่องร้องเรียนที่สาขาต้องทำรายงานการแก้ปัญหาให้ลุล่วงจนกว่า ลูกค้าจะพึงพอใจ และไม่ถือโทษต่อไป แต่ก็หมายถึงโดยถูกตัดคะแนนผลงาน ไปเรียบร้อยแล้วถ้าเรื่องร้องเรียนพิสูจน์ว่าสาขาได้กระทำการที่ไม่สมควรจริงครับ แก้ไขเมื่อ 05 พ.ค. 54 10:39:13 แก้ไขเมื่อ 05 พ.ค. 54 10:34:38 จากคุณ : pjuk เขียนเมื่อ : วันฉัตรมงคล 54 10:31:47

ความคิดเห็นที่ 18 ...แบงค์ควรปรับปรุงนโยบายใหม่ครับ เอาเปรียบผู้บริโภคมากเกินไป รู้ว่าต้องการกำไรแต่ก็ควรให้พอดีๆ บ่นให้ฟังเฉยๆครับ อีกหน่อยผมก็คงยกเลิกใช้บริการที่ SCB แล้วครับ.... จากคุณ : Sleepless In August เขียนเมื่อ : วันฉัตรมงคล 54 11:17:30

ความคิดเห็นที่ 19 นโยบายที่ชัดเจนในการขายบัตรเดบิตพลัส มันก็คือสิ่งที่บังคับให้พนักงานสาขาต้องโกหกลูกค้าแกมบังคับ แบบที่เป็นอยู่ทุกวันนี้นั่นแหละ เพราะถ้าพนักงานขายบัตรแบบให้ทางเลือกแก่ลูกค้า ลูกค้าส่วนใหญ่ก็มักจะเลือกประเภทบัตรที่เสียค่าธรรมเนียมต่ำกว่า แล้วในเดือนนั้นๆ พนักงานขายบัตรเดบิตพลัสไม่ได้ตามเป้า ก็ไม่ผ่านการประเมินของสำนักงานใหญ่ สุดท้ายพนักงานก็ต้องทำทุกอย่างเพื่อให้ผ่านการประเมิน มันก็วนกลับมาที่ปัญหาเดิม แล้วลูกค้าจะหลุดออกจากปัญหานี้ได้อย่างไร พอร้องเรียนไป ธนาคารก็บอกว่าไม่ได้บังคับ พนักงานไปโกหกลูกค้าเอง แต่ธนาคารไม่เคยพูดความจริงทั้งหมด พูดเฉพาะบางส่วน คือ ไม่มีนโยบายให้พนักงานโกหกหรือบังคับ ธนาคารได้บอกความจริงกับลูกค้าไหมล่ะครับว่า ต้นเหตุของปัญหาคือ นโยบายที่ชัดเจนในการขายบัตรเดบิตพลัส ถ้าพนักงานทำไม่ถึงเป้าก็ไม่ผ่านการประเมิน พอลูกค้าร้องเรียนก็โทษพนักงานทำเอง สรุปแล้วพนักงานธนาคารซวยทั้งขึ้นทั้งล่อง ถ้าธนาคารจริงใจจริงๆ ก็ลองแวะไปดูธนาคารกรุงไทยแล้วจะรู้ เพราะธนาคารกรุงไทยก็มีบัตรหลายประเภท รวมถึงบัตรที่มีประกันค่าธรรมเนียมราคาแพง แต่ทุกสาขาจะมีแผ่นป้ายแสดงรูป สิทธิประโยชน์ และค่าธรรมเนียม ให้ลูกค้าเลือก และไม่เคยบังคับ ทุกสาขาก็มีบัตรทุกประเภทตามที่โชว์ พนักงานบางสาขาจะบอกด้วยว่า ถ้าไม่จำเป็นต้องใช้ประกัน ก็ทำบัตรแบบธรรมดาก็ได้ ค่าธรรมเนียมถูกกว่า เหตุผลที่พนักงานธนาคารกรุงไทยทำแบบนี้ได้ เพราะสำนักงานใหญ่ไม่มีนโยบายให้พนักงานทำยอดขายบัตรเดบิตแบบมีประกัน ถ้าธนาคารมีธรรมาภิบาลจริงทำไมไม่อบรมพนักงานสาขาว่า ให้แนะนำลูกค้าทำบัตรเดบิตพลัสเพราะมีประกันอุบัติเหตุให้ลูกค้า การมีประกันอุบัติเหตุดีอย่างไร แต่ธนาคารก็จำเป็นต้องเรียกเก็บค่าธรรมเนียมที่สูงกว่าบัตรประเภทอื่น มันควรจะเป็นการเสนอขายแบบให้ทางเลือกกับลูกค้าดีกว่าไหม แต่ตราบใดที่ธนาคารมุ่งให้ความสำคัญไปที่นโยบายการขายบัตรเดบิตพลัส และบังคับให้พนักงานสาขาทำยอดให้ถึง ไม่อย่างนั้นไม่ผ่านการประเมิน ปัญหามันก็จะเวียนไม่รู้จักจบสิ้นอย่างที่เป็นอยู่ แล้วก็ให้คนของธนาคารออกมาพูดความจริงเพียงบางส่วน ใครเป็นพนักงานธนาคารก็ทนๆ เอาหน่อย คนไหนทนไม่ได้ก็คงต้องลาออก ลองไปหาคำสัมภาษณ์ของผู้บริหารธนาคารนี้ดู ในรอบปีที่ผ่านมา ผู้บริหารคนนั้นให้สัมภาษณ์กับนิตยสารและหนังสือพิมพ์หลายฉบับ ชัดเจนว่า ธนาคารมีเป้าหมายที่จะเพิ่มรายได้จากค่าธรรมเนียมต่างๆ ให้มากขึ้น เนื่องจากโอกาสในการหารายได้จากดอกเบี้ยของธนาคารลดลง จากคุณ : สรกฤช เขียนเมื่อ : วันฉัตรมงคล 54 12:53:34

ความคิดเห็นที่ 20 เฮ้อ...สงสารพนักงาน.....เพราะมันเป็นนโยบายจากผู้ใหญ่...บังคับให้ขายแก่ลูกค้า... อยากรู้.สคบ...ออกมาบังคับได้มั้ยเรื่องนี้...เพราะพนักงานจะโดนลูกค้าร้องเรียน... และถูกประเมินว่าไม่มีผลงาน..คนสบายคือผู้ใหญ่... จากคุณ : sudaporn-nang เขียนเมื่อ : วันฉัตรมงคล 54 13:49:07

ความคิดเห็นที่ 21 น่าจะเป็นปกติ บริษัทเอกชน ไม่ใช่อยู่ในรูปของรัฐบาล หรือกึ่งรัฐบาลครับ กำไรย่อมต้องมี คงไม่ใช้การให้บริการฟรีไม่คิดมูลค่า หรือถูกแบบไม่เหลือ อะไรเลย..... การทำงานต่างๆ ย่อมต้องมีเป้าหมายที่ท้าทาย พนักงานหลายๆคนมียอดขายที่ เข้าเป้าได้โดยไม่ถูกร้องเรียนเลยมีมากกว่า พนักงานที่เช้าเย็นตามสบายพอใกล้ ตายต้องทำทุกวิถีทางเพื่อให้รอดมีไม่น้อย ลูกค้าฝากเงินขอดอกเบี้ยเยอะๆ แต่พอจะต้องเสียค่าธรรมเนียมบ้างก็ร้องขอให้เก็บน้อยๆ ดอกเบี้ยเงินกู้ที่พอจะมาให้เกิดกำไรบ้าง ก็หาทางหนีหาทางต่อรองขอลดดอกเบี้ย พอไม่ให้ ให้ไม่ได้ ก็ย้ายค่ายหนี ช้านิด หรืออาจมาก ก็ร้องเรียนว่าเสียหาย ถ้าสงสารเจ้าหน้าจริง คงต้องช่วยทำ เพราะประโยชน์มีให้เห็น แต่เกี่ยงว่าแพงไป เปิดบัญชี ไม่ใช้บัตร จะโอนจะถอนก็ใช้ จนท. แม้จะเหนื่อย แม้จะหิว ก็ต้องทน เพราะลูกค้ามารุมทำรายการตามสบาย .... จนท. น้อย เปิดไม่ครบช่องก็เรียกหา แต่พอขอให้ช่วยเล็กน้อยก็ถอยหนี แถมยังบ่น ยังว่า ว่าเสียเวลา ... อย่าบอกว่าสงสาร แล้วคอยร้องเรียนนะครับ จากคุณ : pjuk เขียนเมื่อ : วันฉัตรมงคล 54 14:28:59

ความคิดเห็นที่ 22 เคยมีบัตร ATM ของ SCB ค่ะ แต่ตอนนี้ไม่ใช้แล้ว(เลิกจ่ายค่าธรรมเนียม) เพราะเคยรู้สึกว่าค่าธรรมเนียมบัตร ATM ธรรมดารายปีจะเสียแพงกว่าที่ ธ อื่นอยู่ เลยเลิก ตอนนั้นที่ต้องทำก็เพราะคิดว่าถ้าไม่มีบัตรจะเปิด SCB Easy  ไม่ได้ เลยทำแค่ปีเดียวพอ (แต่จริงๆ ไม่ต้องมีบัตรก็เปิดได้มั้ง อาจยุ่งยากหน่อย) สำหรับกรณีปัญหา ซึ่งเป็นการขายบัตรคู่กับสิทธิในการประกัน  ไม่ทราบว่า คปภ. มีส่วนรับผิดชอบด้วยรึเปล่า อาจไม่ใช่แค่ สคบ. หรือ ธปท. เท่านั้น เห็นด้วยกับ คห.19 ที่บอกว่า ธ กรุงไทยไม่ยัดเยียดจนเกินไป มีการตั้งโชว์ค่าธรรมเนียมและสิทธิค่อนข้างครบถ้วน  ตอนนั้นที่เข้าไปก็เกือบจะเปลี่ยนเป็นบัตรเดบิตแบบมีประกันแล้ว เพราะจ่ายเพิ่มจากบัตร ATM ธรรมดาแค่ 50-100 บาทแต่เป็นเดบิต+คุ้มครองด้วย  แต่สรุปก็ไม่ได้ทำเพราะยังยากจนอยู่ 50 บาทก็มีค่า ต้องขอบคุณ pjuk รวมถึงพนักงานแบงค์อื่นที่คอยช่วยเหลือคนสินธรเสมอมา  แต่ส่วนตัวคิดว่ากรณีใดที่มีการร้องเรียนผ่านพันทิพบ่อยๆ ควรมีการปรับปรุงทั้งระบบ ไม่ใช่รอให้ลูกค้ามาโวยวายทีละคนแล้วก็มาบอกส่งหลังบ้านๆ เพราะลูกค้าทุกคนควรได้รับบริการที่ดีอย่างเท่าเทียมกันค่ะ คนที่เข้าไม่ถึงอินเตอร์เน็ตก็ต้องจ่ายแพงๆ ไปเรื่อย ๆ งั้นเหรอ ไม่ใช่เค้าไม่มีปากมีเสียงแต่เค้าไม่รู้ช่องทางต่างหาก  ส่วนตัวเราถ้าเจอกับตัวจะโวยที่สาขานั่นแหละ จากคุณ : BeeZ เขียนเมื่อ : วันฉัตรมงคล 54 17:18:39

ความคิดเห็นที่ 23 ไม่ใช่ไม่เห็นด้วยกับการทำธุรกิจ หารายได้ แต่อยากให้โปร่งใสหรือชัดเจนมากกว่านี้ เรื่องบัตร ถ้าจะเล่นขายแต่บัตรเดบิตพ่วงประกัน ก็ประกาศชัดเจนไปเลยว่า ธนาคารไม่มีบัตรธรรมดา หรือจะต้องให้ร้องเรียนสถานที่ต่างๆตาม คห. 22 จากคุณ : hikawa เขียนเมื่อ : วันฉัตรมงคล 54 20:59:53