ความคิดเห็นที่ 1 - แจกโบนัส ให้พนักงานเพิ่มขึ้น - ทำบุญ จากคุณ : ก่อนจะสายเกินไป เขียนเมื่อ : 7 พ.ค. 54 22:06:17

ความคิดเห็นที่ 2 ตามที่ผมเห็น มันไม่มีปัญหาอะไรหนิครับ ก็เก็บเป็นกำไรสะสมไป เหตุผลเราไม่ต้องแจ้งอยู่แล้ว แต่ถ้าเค้าถาม (ซึ่งผมว่าไม่ถาม) ก็บอกว่าเตรียมไว้สำหรับอนาคตที่จะลงทุนก็จบ จากคุณ : Mr. Prodigy เขียนเมื่อ : 7 พ.ค. 54 22:09:12

ความคิดเห็นที่ 3 กำไรสุทธิ แบ่งไว้กันสำรองไว้เผื่อโครงการลงทุนในอนาคตหรือจ่ายปันผลก็ได้ครับ แต่ในกรณีต้องจ่ายเงินปันผลแต่ไม่มีเงินสด สามารถใ้ช้วิธี Non-cash Dividend Alternatives เช่น การแตกหุ้น หรือจ่ายเป็นหุ้นปันผล ก้ได้ครับ จากคุณ : corner_newc เขียนเมื่อ : 7 พ.ค. 54 22:14:32

ความคิดเห็นที่ 4 สิบล้านเป็นเงินสด หรือเป็นเงินฝากธนาคารคะ ถ้าเป็นเงินสด หมายถึงอยู่ในบัญชีเงินสดของบริษัท   ส่วนใหญ่แล้ว จะไม่สมเหตุสมผลน่ะค่ะ ที่จะบอกว่าบริษัทถือเงินสดในมือสิบล้าน มันพิสูจน์ยากค่ะว่ามีอยู่จริง  ถึงแม้ว่ามีอยู่จริงๆ ก้อน่าจะโยกไปเป็นเงินฝากธนาคาร หรือเอาลงทุนระยะสั้น พวกตั๋วบีอี หรืออื่นๆ ส่วนใหญ่ผู้สอบบัญชีก้อไม่อยากให้งบการเงินแสดงเป็นเงินสดในมือมากๆ มันตรวจสอบได้ยากค่ะ  ว่าถูกต้องและมีอยู่จริง ไม่ได้อยู่ในกระเป๋าของกรรมการ หรือได้ถูกนำไปหาผลประโยชน์อื่นให้กรรมการค่ะ ถึงแม้ว่าข้อเท็จจริงกรรมการ ก้อคือผู้ถือหุ้น  คือเจ้าของเงินทุน จากคุณ : INN TOUCH เขียนเมื่อ : 7 พ.ค. 54 22:29:14

ความคิดเห็นที่ 5 สิบล้าน   ตอนนี้ทำเป็น  "กรรมการกู้ยืม"  ไปเรื่อยๆ หลายปีแล้ว  และเพิ่มมาอีกปีละ 1 ล้าน (จากกำไร)   ผมไม่อยากปันผลออกไป เพราะ เสียหัก ณ ที่จ่าย ไปฟรีๆ 10% มิใช่น้อยเลย !! จากคุณ : ทางของเรา เขียนเมื่อ : 7 พ.ค. 54 22:43:08

ความคิดเห็นที่ 6 เสริมความคิดเห็นนะครับ       ถ้ามีเงินสดเหลือ  ไม่อยากเสียภาษี  แล้วเอาเงินสดใปให้กรรมการกู้ยืม  ระวังนะครับ ถ้าทำผิดหรือทำเรื่องเท็จ  สรรพากรจับได้ โทษหนักนะครับ       ถ้าให้กรรมการกู้ยืมจริง  จะต้องมีรายได้เป็นดอกเบี้ยจากการให้กู้ยืมด้วย และต้องเสียภาษีดอกเบี้ยด้วย  ไม่ใช่ให้ยืมเงินไปเปล่า ๆ นะครับ      และในหนังสือบริคณห์สนธิ มีแจ้งวัตถุประสงค์นี้ไว้บ้างหรือเปล่า     น่าจะหาวิธีอื่นที่ดีกว่านี้  เช่น     ซื้อทรัพย์สินเพิ่ม     ซ่อมแซม  ขยายอาคาร  หรือตกแต่งอาคารสำนักงานให้ดีขึ้น     ซ่อมถนน หรือทำถนนเข้าอาคารสำนักงานให้ดูดีขึ้น     พาพนักงานบริษัทไปสัมมนา ไปเที่ยว บริษัทออกค่าใช้จ่ายให้ เป็นสวัสดิการพนักงาน     แต่ถ้าผม เป็นผู้ถือหุ้นคนหนึ่งของบริษัท   ถ้าเจ้ามือรายใหญ่ มีความคิดไม่อยากจ่ายเงินปันผลแบบนี้      ผมคงจะไม่ร่วมสังฆกรรมด้วยนะครับ   ผมขายหุ้นทิ้งแน่นอน  555555555 จากคุณ : รุ่งโรจน์ทวีคูณ (รุ่งโรจน์ทวีคูณ) เขียนเมื่อ : 7 พ.ค. 54 22:59:56

ความคิดเห็นที่ 7 ดังนั้น เราสามารถทำอย่างไรได้บ้าง   ปีที่ผ่านๆมา ทำเรื่องให้กรรมการ ยืม มาหลายครั้งแล้ว เราสามารถเพิกเฉย แล้วบอกว่า "เตรียมเงินสดไว้ ลงทุนในอีก 3 ปีข้างหน้าได้หรือไม่?" มาช่วยคิดครับ อยากได้คำตอบนี้เหมือนกัน 1.ปีที่ผ่านมาทำเรื่องให้กรรมการยืม  คิดดอกเบี้ยปล่อยเงินกู้ให้กรรมการหรือเปล่า เดี๋ยวสรรพากรจะถามหา 2.เงินสดอยู่ในบริษัท   ไม่มีเหตุผลว่า จะเก็บไว้ในบริษัทไม่ได้ เพียงแต่ ปกติถ้าไม่ได้ใช้ก็ปันผลออกมา    หรือ จะมีเหตุผลว่าสำรองเงินสดไว้ในบริษัทสำหรับการขยายงานในอนาคต    ก็ได้ 3.เครดิตภาษีเงินปันผล   ประเด็นจริง ๆ คือ การปันผลออกมาจะทำให้ไม่สามารถใช้เครดิตภาษีเงิน   ปันผลได้ จขกท.จึงไม่อยากปันออกมา   แสดงว่า จังหวะเวลานี้ยังไม่อยากเอาเงินออกมา เพราะ จะเสียประโยชน์   (ซึ่งน่าจะโดนภาษี 30%+หัก ณ ที่จ่าย 10% = 37%)   ผู้ถือหุ้น 7 คน เงินสิบล้าน เฉลี่ยต่อคน 1.5 ล้าน โดยประมาณ  (ใครถือหุ้นมากหน่อยก็โดนหนักหน่อย)   1.5 ล้าน โดนหัก ณ ที่จ่าย 0.15 ล้่าน เหลือ 1.35 ล้าน   รายได้ + เครดิตภาษีเงินปันผล = 1.5+1.5*3/7= 1.5+0.64= 2.14 ล้าน   ในมุมมองของ จขกท. จะเสียประโยชน์ 2.14-1.35 = 0.79 ล้าน     ขอกลับไปนั่งคิดดูก่อน   ผมก็อยากได้คำตอบเหมือนกัน เคยถามปัญหานี้กับหลายคนมาแล้ว    คำตอบยังไม่ชัด จากคุณ : หมูทอง (Goldenpig) เขียนเมื่อ : 7 พ.ค. 54 23:01:15

ความคิดเห็นที่ 8 ลองทำค่าใช้จ่ายส่วนอื่นๆให้สูงขึ้นจะได้ไหม เช่นในรูปแบบของค่า่เช่าอาคาร ยานพาหนะ (โดยจดคณะบุคคลรองรับภาษีจะได้ไม่สูงนัก) หรือหาบุคคลมารองรับ การจ้างทำของ เป็นที่ปรึกษา ประมาณนี้.. จากคุณ : noknannew เขียนเมื่อ : 7 พ.ค. 54 23:11:52

ความคิดเห็นที่ 9 ขยายกิจการ หรือซื้อบริษัทอื่น ฯลฯ จากคุณ : xemmy เขียนเมื่อ : 7 พ.ค. 54 23:20:12

ความคิดเห็นที่ 10 ลงทุนเพิ่ม  ขยายกิจการเป็นวิธีที่ดีครับ  สรรพากรรับได้  เพราะเป็นการเพิ่มกิจกรรมทางธุรกิจขึ้นมา  ซี่งรัฐจะได้ภาษีในรูปแบบอื่นๆอีก แต่ถ้าไม่สามารถลงทุนอื่นๆเพิ่ม  ก้อปันผลไปเถอะครับ  รักษาสภาพคล่องของบริษัทไว้  เท่าที่จำเป็น  เช่น อาจจะรักษาไว้สักห้าล้าน  แล้วปันผลห้าล้าน  ยอมจ่ายภาษีตามระบบ   ช่วยชาตินะครับ ปลฬ ผมเองก็เคยเสียดายภาษี  แต่คิดไปคิดมา  มีภาษีต้องจ่าย  แปลว่ามีกำไร  ดีกว่าไม่มีภาระภาษี  เพราะขาดทุนนะครับ แก้ไขเมื่อ 07 พ.ค. 54 23:46:38 แก้ไขเมื่อ 07 พ.ค. 54 23:45:28 แก้ไขเมื่อ 07 พ.ค. 54 23:45:28 จากคุณ : Kman เขียนเมื่อ : 7 พ.ค. 54 23:44:14

ความคิดเห็นที่ 11 เงินยืมกรรมการ ?   ชื่อนี้เตะตาสรรพากร มากๆนะครับ   ตามที่หลาย คห บอก  ถ้ามีขึ้นมา ต้องตั้งดอกเบี้ยรับด้วย  ไม่งั้นโดน ถ้าตัวบัญชีไม่มีปัญหาอะไรอย่างอื่นอีก ก็ทำรับ  ดอกเบี้ยรับด้วย แต่ถ้าบัญชีมีปัญหาอย่างอื่นด้วย  เอาเงินยืมกรรมการออกซะเหอะ มันดึงดูดความสนใจของสรรพากรครับ จากคุณ : Ibeye เขียนเมื่อ : 7 พ.ค. 54 23:46:20

ความคิดเห็นที่ 12 ผมว่าจะกลายเป็นหมูหกนะครับ  กรรมสรรพากรสอบย้อนหลังแป้ปเดียวจขกท.ได้เสียค่าทนายความมากกว่า5แสนแน่ๆ และพลอยทำให้หุ้นส่วนคนอื่นซวยไปด้วย เข้าที่ประชุมและฟังเสียงข้างมากดีกว่าครับ เจ้าของเงินเค้าว่ายังไงก็ยังงั้น  และถึงเสียภาษี5แสนก็ไม่ได้ไปไหน เอามาสร้างถนน ดูแลเมือง ให้ประชาชนต่อไป เราบอกว่านักการเมืองโกงบ้านโกงเมือง เมื่อเราเองก็คิดจะทำเช่นกันแล้วจะไปด่าเค้าได้ยังไงกัน จากคุณ : yamaha111 เขียนเมื่อ : 7 พ.ค. 54 23:59:21

ความคิดเห็นที่ 13 เข้าใจว่า เป็นบริษัทในครอบครัว ผู้ถือหุ้นทั้ง7 เป็นคนกันเองทั้งนั้น ถึงทำเป็นเงินให้กรรมการยืม ทีนี้ ถ้าจะโยกเงินไปลงทุน ต้องถามว่าลงทุนทำอะไรดี เพราะว่าใจหนึ่งก็อยากรักษาเงินสดก้อนนี้ไ้ว้ก่อน ทำนองว่าอยากพักเงินก้อนนี้ไว้ เสนอให้เปิดประชุม(ต้องมีวาระการประชุมนะครับ)ผู้ถือหุ้น  และให้ที่ประชุมอนุมัติให้ลงทุนในกองทุน ตราสารหนี้ ทองคำ กับบริษัทหลักทรัพย์จัดการ...   ก็ว่าไป  แล้วคุณก็เอาเงินไปลงทุนในกองทุนนั้นๆนะครับ แต่ว่าต้องทำบัญชีดีๆ  เพราะการขายกองทุนได้กำไร  กำไรของกองทุนถือเป็นรายได้ที่ต้องนำไปรวมกับรายได้อื่นๆ เพื่อจ่ายภาษีนะครับ  แต่มันก็มีข้อดี เช่นอีก5ปี   บริ็ษัทคุณต้องการมีการลงทุนเพิ่มเพื่อขยายบริษัทเพื่อการแข่งขัน  แต่ก็เริ่มขาดทุนอยู่  ทำให้้ต้องขายกองทุนออกมาช่วยส่วนหนึ่ง  รายได้จากกำไรจากการขายกองทุน  ก็อยู่ในเกณบริษัทเสียภาษีเท่าเดิมพอดี  เช่นบริษัทต้องซื้อรถประจำตำแหน่งให้กรรมการทั้ง7 จากคุณ : แมวน้ำขี้เซา เขียนเมื่อ : 8 พ.ค. 54 04:36:08

ความคิดเห็นที่ 14 เอาไปซื้อที่ดินทำเลที่ขายไม่ยาก จากคุณ : Untrue เขียนเมื่อ : 8 พ.ค. 54 10:04:45

ความคิดเห็นที่ 15 ใช่ครับ เป็นธุรกิจครอบครัวเล็กๆ  กำไรปีละ 1200000  เสียภาษี   1 ล้านแรก ที่ 15% และ ส่วนเกิน 25% เงินสด มากจากกำไรสะสม มากขึ้นเรื่อยๆ  ซึ่ง เงินสดส่วนนี้ก็ผ่านการเสียภาษีมาแล้ว หากปันผลออกไป  ก็จะเสีย หัก ณ ที่จ่ายอีก 10%  โดย หุ้นส่วน มีฐานภาษีสูง  คาดว่า คงไม่ขอ เครดิตปันผลคืนกันแน่ๆ  ( เสียฟรีแน่ๆ 10%) จึงได้มาตั้งคำถามครับ       แนวทาง ผมคิดว่า คงปล่อยไปแบบนี้  (ให้กรรมการกู้ มีดอกเบี้ย)  ไปก่อน จนกว่า สักวัน ที่หาสินทรัพย์ซื้อได้ ก็ค่อยว่ากันใหม่ ดีมั้ยครับ   วานแนะนำอีก จากคุณ : ทางของเรา เขียนเมื่อ : 8 พ.ค. 54 10:37:34

ความคิดเห็นที่ 16 ซื้อ อุปกรณ์สำนักงาน(คอมพิวเตอร์)ให้ครบทุกแผนก ปรับปรุงอาคารทาสีใหม่ทำเฟอร์นิเจอร์ +สวัสดิการ+เงินเดือนพนักงานเพิ่มให้เป็นขวัญกำลังใจในการทำงาน+พาไปอบรมหรือพักผ่อนเพื่อเพิ่มEQพนักงานให้คิดกับ บริษัทในแง่+เพื่อผลผลิตที่ยั่งยืนคับ ------------------------------------ ต่างกับอดีตบริษัทที่ผมทำคับ โบนัสไม่มีจ่าย บอกว่าบริษัทไม่มีกำไรแต่ให้ทำOT.เกือบทุกวัน กรรมการ+เมีย+ลูกๆกรรมการขับแคมรี่ป้ายแดงคนละคัน เห็นแล้วช้ำใจ... จากคุณ : kengsak เขียนเมื่อ : 8 พ.ค. 54 20:50:15

ความคิดเห็นที่ 17 เปิดบริษัทใหม่ครับ เป็น holding company หรืออะไรสักอย่าง เอาบริษัทเก๋าถือหุ้นในบริษัทใหม่ 100% โยนเงินไปทิ้งบริษัทใหม่ เป็นอันจบ จากคุณ : sai_zelda เขียนเมื่อ : 8 พ.ค. 54 21:32:24

ความคิดเห็นที่ 18 คงต้องทำเป็นเงินให้กู้ยืมแก่กรรมการนั่นแหละค่ะ แล้วคิดดอกเบี้ย ก้อขึ้นอยู่กับว่าคุณจขกท จะทำให้เป็นมีการรับเงินดอกเบี้ยรับจริงๆ หรือไม่ ซึ่งก้อเสียภาษีธุรกิจเฉพาะ 3.3%  และภาษีธุรกิจเฉพาะก้อสามารถหักเป็นค่าใช้จ่ายได้ หรือจะแค่ตั้งเป็นรายการดอกเบี้ยค้างรับไว้ทุก ๆ ปี จนกว่าจะมีการทำรายการรับเงินดอกเบี้ยจริงๆ แล้วค่อยไปยื่นเสียภาษีธุรกิจเฉพาะ แก้ไขเมื่อ 09 พ.ค. 54 21:21:41 จากคุณ : INN TOUCH เขียนเมื่อ : 8 พ.ค. 54 22:09:35

ความคิดเห็นที่ 19 เก็บไว้เป็นกำไรสะสมครับ แล้วไปลงทุนในตราสารทางการเงิน เช่นพันธบัตร หุ้นกู้ ตราสารทุน ลงบัญชีเป็นหลักทรัพย์เผื่อขายครับ สำหรับสินทรัพย์หมุนเวียน หรือเงินลงทุนระยะยาว สำหรับสินทรัพย์ไม่หมุนเวียนครับ ได้ผลตอบแทนจากการลงทุนด้วย จากคุณ : jippi เขียนเมื่อ : 9 พ.ค. 54 09:16:03