|
คุณ NARITO เจ้าของกระทู้ ..
การเปิดบัญชีมาร์จิ้น แต่เราจะใช้มาร์จิ้นหรือไม่ มากน้อยแค่ไหน ขึ้นอยู่กับเราเอง.. เราไม่ต้องไปซื้อด้วยวงเงินมาร์จิ้นก็ได้ เขาก็ไม่ว่าอะไร เราก็ซื้อด้วยวงเงิน ที่เป็นเงินสดของเรานั่นแหละ ... แต่การเปิดเป็นบัญชีมาร์จิ้น จะสะดวกหลายๆอย่าง เขาจะให้สิทธิหลายๆอย่าง อย่างหนึ่งคือ คุณขายออกไปแป๊ป วงเงินจะโผล่มาทันที ให้ใช้ได้ทันที ในเสี้ยววินาทีนั้นเอง ไม่ต้องรอ ๓ วัน แบบที่คุณเจอปัญหาตอนนี้ อันนี้คือข้อดีของบัญชีมาร์จิ้น อีกข้อหนึ่ง
การคิดภาษีจากกำไรหุ้น เขามีอัตราอยู่ อาจจะเปลี่ยนแปลงเรื่อยๆ คุณก็ไปให้พวกทำภาษีจัดการน่าจะดีกว่า ภาษีจากกำไรหุ้น เขาก็คิดแบบ sale tax นั่นแหละ เพราะถือเป็นกำไรจากการซื้อขาย
อัตราการคิดภาษีจาก capital gain จากหุ้น ของสหรัฐฯ ตอนนี้คือ
ถ้าได้กำไร ระหว่าง 0-8,350 จะคิดภาษี 10 % ถ้าได้กำไร ระหว่าง 8,351 - 33,950 จะคิดภาษี 15 % ถ้าได้ ระหว่าง 33,951 - 82,250 ก็ 25 % ถ้าได้ระหว่าง 82,251 -171,550 ก็ 28 % ถ้าได้ระหว่าง 171,551 - 372,950 ก็ 33 % ถ้าได้ตั้งแต่ 372,951 ขึ้นไป ก็ ....... 35 %
และคุณต้องเสียภาษีให้รัฐที่คุณอยู่ด้วย ..
แต่ถ้าขาดทุน ก็เอาไปตั้งเป็นยอดสะสมไว้ และถ้าปีต่อๆไป ขาดทุนอีกเรื่อยๆ ก็สะสมยอดขาดทุนไว้เรื่อยๆ ทุกๆปี ถ้าปีไหนได้กำไร ก็เอายอดสะสมขาดทุนนั้นมาหักออกก่อนคิดภาษี ซึ่งถ้ายังขาดทุน ก็ไม่ต้องเสียภาษี ....หมายถึงในกรณีคุณไม่มีรายได้จากแหล่งอื่นๆอีก ถ้ามีรายได้จากแหล่งอื่นๆ(ที่ไม่ใช่ได้จากการบริจาคโดยเสน่หา) ก็ต้องเอาไปคิดรวมด้วย ในแต่ละปี ..และอย่าลืม คุณจะได้หัก deduction อีกประมาณ $ 9,000 กว่าๆ ในการคิดภาษีของทุกๆปี
ในกรณีของคุณ มีรายได้จากเงินเดือนด้วย เวลาคิดภาษี ก็ต้องคิดรวมจากรายได้ที่ได้จากเงินเดือน และจากหุ้น เช่น สมมุติคุณได้รายได้จากเงินเดือนทั้งปี 40,000 และได้กำไรจากหุ้น 20,000 ก็ต้องคิดภาษีจากเงิน 60,000 แต่อัตราจะต่างกัน ของสองยอดนั้น ยอด 40,000 ที่ได้จากเงินเดือน ก็ต้องคิดอีกอัตราหนึ่ง ..แต่ถ้าขาดทุน สมมุติขาดทุนจากหุ้น 15,000 คุณก็เอายอดนี้ไปหักจาก ยอดรายได้ 40,000 นั้น แล้วก็เอายอด 25,000 ไปคิดภาษี ....ทำนองนี้แหละ
แต่สำคัญคือ ยังไงก็ตาม คุณต้องทำรายงานภาษีทุกๆปี ไม่ว่าจะกำไรหรือขาดทุน ก็ตาม แม้จะขายหุ้นเพียงตัวเดียวของปีนั้น ก็ต้องไปทำรายงานภาษี อย่าละเลยอันนี้เด็ดขาด Ameritrade ค่าคอมฯแพงไปบ้าง เพราะเขามีบริการดี มีเครื่องมือให้ใช้เยอะ เขาก็ต้องมีต่าใช้จ่ายต่างๆเกี่ยวกับเครื่องมือพวกนั้น ไงละ
ผมก็เล่นตัวเล็ก พวก Penny Stocks ทั้งนั้น ตัวละไม่กี่เซ็นต์ เพราะพวกนี้ ถ้าจังหวะดีๆ บางตัว มันพุ่งในวันเดียว 30 - 40 เท่าตัว ก็เคยเห็นเรื่อยๆ ( 30 เท่าตัวก็หมายถึง 3,000 % ... 40 เท่าตัว ก็หมายถึง 4,000 % )
(ผมให้เบอร์โทรไปแล้ว ข้างบน ...ว่างๆ คุณลองโทรไปคุย ผมจะอธิบายได้ง่าย สะดวกกว่าในเว็บบอร์ดนี้ )
{{ ชื่อ Clarke ล๊อคอินอันนี้ของผม มีคนใช้พร้อมๆกันหลายๆคน กรุณาอย่าส่งข้อความไปหลังไมค์นะครับ ...}}
แก้ไขเมื่อ 12 พ.ค. 54 21:15:19
จากคุณ |
:
Clarke
|
เขียนเมื่อ |
:
12 พ.ค. 54 21:11:43
|
|
|
|
|