เข้ามหาลัย = ชีวิตเริ่มต้น
|
|
สวัสดีครับผมติดตามกระทู้ต่างๆ ในห้องสินธรมาได้ปีกว่าแล้ว โพสบ้าง ตอบความเห็นบ้าง แลกกิ๊ฟบ้าง แต่นานๆ จะเข้ามาทีนึง เพราะว่าปีที่แล้ว ใช้เวลา 1 ใน 6 ของวันในการอ่านหนังสือเข้ามหาลัย คณะที่อยากเข้ามากๆ คือ เศรษฐศาสตร์ ไม่ก็ บริหาร (จะเอาเอกการเงิน) แต่ชีวิตก็เกิดความไม่แน่นอนขึ้นครับ เมื่อวันที่เราสอบติดบริหาร 5 ปี ธรรมศาสตร์ โทรไปหาพ่อ แทนที่จะพ่อจะดีใจ แต่พ่อบอกไม่ให้เอา (บอกก่อนว่าแม่แยกทางกับพ่อ ผมอยู่กับแม่ แต่ตอนเรียนจะอยู่หอคนเดียว) ที่ปิดเรื่องไว้เพราะอยากให้พ่อดีใจและเซอร์ไพรส์ แต่ที่ไหนได้ ... ตั้งใจอ่านหนังสือใหม่ ในที่สุดก็ได้โควตา คณะทันตแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ตั้งแต่ต้นปี แม่บอกว่า ดีแล้ว ให้เอาอาชีพที่มันมั่นคงก่อน แล้วสิ่งที่เราชอบมันจะตามมาเองทีหลัง
อีกไม่ถึงเดือนก็จะเปิดเทอมแรกของชีวิตมหาลัยแล้วครับ แต่ก็ไม่ได้ตื่นเต้นอะไร เพราะเราเป็นเด็กสาธิต ใช้ชีวิตอยู่ในหอพักใกล้มหาวิทยาลัย เรียนในรั้วมหาลัยมาตลอด ต้องบริหารเงินเองมาหลายปีแล้วเพราะแม่โอนให้เป็นเดือน
ตอนนี้รู้แล้วว่าเราจะได้เงินใช้ในมหาวิทยาลัยเท่าไหร่ พ่อกับแม่รวมกันได้ 7,000 บาทต่อเดือนครับ (นี้คือข้อดีที่พ่อแม่ไม่ค่อยคุยกัน) อีกทั้งถ้ามีกิจกรรมที่ต้องใช้เงินขอจากแม่เพิ่มได้อีก 55 ผมเลยวางแผนว่าจะเก็บเงินเดือนละ 2,000 บาท เอาเข้าบัญชีฝากประจำพันบาท สลากออมสินพันบาท
ผมก็เลยรื้อทรัพย์สินของผมทั้งหมดออกมาวันนี้ (ขอบอกก่อนเลยว่าเก็บตังค์เอง ล้วนๆ แม้พ่อผมจะเป็นคนจีนก็ไม่มีอั่งเปาวันตรุษจีน ให้เก็บตังค์เอง แม่เป็นคนไทย ยิ่งประหยัดเข้าไปใหญ่ เพราะบอบช้ำจาก ปี 40 เดี๋ยวเล่าให้ฟังตอนท้าย)
ทองคำแท่ง 1 บาท กับ 0.5 บาท ต้นทุนประมาณ 18,000 บาท ตอนนี้มูลค่าประมาณ 31,500 บาท สลากออมสิน 4,500 บาท (ถูกรางวัล 5,750 บาท เฮงไหมครับบบ คือผมค่อยๆ ซื้อ ถ้าแม่โอนเงินมาให้ 2000 ก็จะเอาซื้อสลากก่อนประมาณ 200 บาท มาซื้อบ่อยจนพนักงานเค้าไม่ให้ซองพลาสติกใส่สลาก) ถ้าถอนสลากตอนนี้ได้ 10,250 บาท ไม่รู้ได้ดอกเบี้ยเท่าไร คงไม่มากครับ เงินฝากในธนาคารประมาณ 15,000 บาท
ผมกะว่าถ้ากิจกรรมปีหนึ่งเพลา ๆ ลงจะเริ่มปันเงินไปซื้อหุ้นบ้าง หลังจากเล่นใน click2win มานาน
ก็จะเล่าถึงที่มาของผมว่าทำไมผมแก่แดด (เพื่อนมักจะพูดแบบนี้) วางแผนเก็บเงินตั้งแต่เด็ก เพื่อนบางคนหัวเราะทุกครั้งที่ผมพูดเรื่องเศรษฐกิจ การเงิน เพื่อนผมแต่ละคนไฮโซทั้งนั้น ไม่รู้ว่าเป็นเพื่อนกันได้ไงครับ
เข้าเรื่องดีกว่าสาเหตุมันมาจากตอนที่ผมอายุ 4 ขวบ เหตุการณ์ที่คนไทยและเอเชียได้รับผลกระทบ ใช่ครับ มันคือวิกฤติการณ์ต้มยำกุ้ง แม่ผมเล่นแชร์ หุ้น เก็งกำไรที่ดินและร่วมหุ้นสร้างบ้านจัดสรร มันครบสูตรฟองสบู่เลยครับ ผมจำได้ลางๆ ว่า แม่ผมวันๆ อยู่บ้าน โทรศัพท์คุยกับใครไม่รู้ ออกบ้านไปก็ไปโอนเงินถอนเงิน ทำบัญชี เช็คนั้นเช็คนี้ จำได้ว่าไปโรงเรียนนั่งรถ Sport สีแดงไปโรงเรียน จำได้ว่าใต้ลิ้นชักโต๊ะเครื่องแป้งห้องนอนแม่จะมีเงินและทองขดไปขดมายั่วเยี้ยไปหมด จำได้ว่ามี sound about เป็นของตัวเอง จำได้ว่าซื้อ VDO การ์ตูนมาดูทุกอาทิตย์ แต่แล้วไม่นาน ของทุกอย่างในบ้านมันก็หายไปทีละอย่างสองอย่าง กิจการทุกอย่างจบ ปิดตัวลง ยังจำได้ดีว่า วันนึง แม่ร้องไห้แล้วเข้ามากอดเรา แล้วพูดว่า "แม่ไม่เหลืออะไรแล้ว" คำนั้นทุกวันนี้มันยังเวียนอยู่ในหัวเราอยู่
มันอาจจะเป็นเพราะว่าวิกฤติมันหนักมาก แม่เราไม่วางแผนการเงินหรือเพราะแม่เราจบแค่ชั้น ป.4 การโตมาพร้อมกับการล้มของแม่ ทำให้ผมเป็นคนประหยัดถึงขั้นว่าที่เพื่อนๆ หลายคนพูดว่า "งก" ครับ เพราะผมคิดเสมอเงินทุกบาทมีค่า ทุกครั้งที่ผมมีเงินจะไม่คิดว่าจะเอาไปใช้อะไรดี ผมจะได้คิดว่าเอาเงินไปทำยังไง ถึงจะได้มากขึ้นกว่านี้ ทุกครั้งที่ใช้เงินจะต้องคิดก่อนว่า มันจำเป็นหรือเปล่า ผมเห็นเด็กบางคนซื้อ BB มามีแค่ 5 Contacts มันไม่เห็นจำเป็นอะไร เจอกันที่โรงเรียนก็ทุกวัน ได้คุยกันทุกวัน ไม่เห็นต้องใช้ BB เลย จำเป็นจริง ๆ ก็โทรหากัน
"ยิ่งโตยิ่งเห็นช่องทาง แต่ก็ต้องศึกษาก่อนที่จะลงทุนอะไร" พ่อผมสอนแบบนี้ เรื่องหุ้นเป็นสิ่งที่ผมอยากจะกระโดดเข้าไปเล่น แต่พ่อแม่ก็เตือนตลอด ว่าเราศึกษาดีแล้วหรอ? แหม แม่ก็รู้ว่าผมเริ่มศึกษาตั้งแต่ PTT เข้าตลาดวันแรกแล้ว (มันเกิดจากการที่เราต้องจดหวยหุ้นให้แม่ 55 เรื่องนี้ไม่ดีมากๆ ครับ 55) ครับ แต่ยังไงก็ต้องศึกษาและใช้ประสบการณ์ตลอด ห้องสินธรก็เป็นแหล่งข้อมูลของผม
ตั้งแต่นี้ไป ผมขอฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะครับ
จากคุณ |
:
kantakawee
|
เขียนเมื่อ |
:
12 พ.ค. 54 21:39:49
|
|
|
|