เรื่องที่ควรรู้ก่อนทำประกัน(อีกซักรอบเถอะนะ!)
|
|
เรื่องที่ควรรู้ก่อนจะทำประกัน
สำนวน Hard core นะครับ ผมชอบคุยภาษาชาวบ้าน คุยประกันภาษากฏหมายแล้วปวดหัวครับ
เห็นหลายๆท่านทำประกันไปโดยไม่ได้รู้เงื่อนไขก็มีมาก
วันนี้ว่างๆเลยจะมาแนะนำข้อมูลที่อาจจะเป็นประโยชน์กับคนที่กำลังจะทำประกันได้ครับ
1.ใบคำขอ -ผมอยากให้ดูข้อมูลในส่วนนี้ให้ถูกต้องนะครับ ชื่อ อายุ เพศ แม้แต่อาชีพ ห้ามกรอกผิด! "ทุกข้อที่มีในใบคำขอ เช่น อาชีพ ถือว่าเป็นสาระสำคัญหมดครับ" ผมจะบอกให้แค่ว่าลายเซ็นไม่เหมือนกันในใบคำขอ ลูกค้าตาย! ผมใช้คำว่าตายนะเห็นภาพดีครับ บริษัทประกันไม่จ่าย! เพราะถือว่าใบคำขอไม่สมบูรณ์ แค่ลายเซ็นที่ตัวแทนหวังดีปลอมลายเซ็นในใบคำขอเพราะไม่อยากถูกลูกค้าด่าเพราะเซ็นไม่ครบ แค่เนี้ย บริษัทมีข้ออ้างไม่จ่ายแล้ว ถูกกฏหมายด้วย
2.ประกันชีวิต ก็คือประกันชีวิต ส่วนประกันสุขภาพนั่นเป็นเพียงสัญญาพ่วง จ่ายทิ้ง อย่าหลงคารมตัวแทนว่า จ่าย20ปีแล้วคุ้มครองจนเสียชีวิต มันคุ้มครองแต่สัญญาหลัก แต่สัญญาสุขภาพคุณจ่ายทุกปีถึงอายุ70 เบี้ยเพิ่มตามอายุ ดูเงื่อนไขดีๆ อย่าเชื่อตัวแทนมาก
3.อย่าปกปิดประวัติสุขภาพ - ถ้าคุณปกปิด ปกปิดให้ถึง2ปี หากเกิดเหตุขึ้นมา แล้วออกเล่มกรมธรรม์ไม่ครบ2ปี ประกันไม่จ่ายนะครับ อย่าโวยวายทีหลัง เช่น เป็นเบาหวาน แต่ไม่บอกประกัน เกิดอะไรขึ้นมาประกันไม่จ่ายนะครับ
4.พวกประกันโรคร้ายแรง อ่านเงื่อนไขดีๆว่าตรวจพบ จ่ายเลยน่ะ จากประสบการณ์ดูกรมธรรม์ของหลายๆบริษัทมาเยอะ พบจุดที่เหมือนกัน1เรื่องคือ บางที่นั้นเมื่อเจอโรคร้ายแรง เช่นมะเร็ง จ่ายน่ะจ่ายครับ แต่ต้องเป็นขั้น3ถึงจะจ่าย - นี่ไม่ใช่เรื่องตลก และตัวแทนส่วนมากก็ไม่บอก ผมอยากให้ดูตรงนี้ดีๆนิดนึง แต่บางที่แบ่งจ่ายก่อนก็มีครับ แต่ส่วนใหญ่จะเป็นอย่างที่ผมกล่าวมาข้างต้น
5.ประกันอุบัติเหตุ - อันนี้เกิดอุบัติเหตุก็เคลมได้เลย ง่ายๆ แต่! ถ้าคุณเป็นความดันขึ้นแล้วช๊อคขณะขับรถ แล้วทำให้เกิดอุบัติเหตุ แบบนี้ประกันไม่จ่ายครับ เพราะถือว่าสาเหตุมาจากโรคภายในตัวคุณเอง
6.ประกันแยกเป็น2ประเภทใหญ่ๆคือ -ประกันชีวิต - ตัวนี้จะมีเงินเก็บสะสม อยากปิดเมื่อไหร่ก็จะได้เงินคืนบางส่วน(ถ้ายังไม่ถึงจุดคุ้มทุน ก็ไม่ได้เต็มที่ฝากไป) -ประกันวินาศภัย - เช่นประกันสุขภาพ อุบัติเหตุ ตัวนี้จ่ายทิ้ง ถ้าไม่เกิดอะไรขึ้นในปีนั้นๆค่าเป็น 0 ฉะนั้น หากคุณทำประกันชีวิตโดยทั่วไป แล้วมีค่ารักษาพยาบาล หมายความว่าประกันของคุณนั้น มี2สัญญาพ่วงกันอยู่ คือสัญญาประกันชีวิต และสัญญาประกันสุขภาพ ซึ่งถ้าปีไหนคุณร้อนเงิน หรือขาดสภาพคล่อง คุณก็ยกเลิกตัวสุขภาพ หรืออุบัติเหตุออกไปได้ ไอตัวนี้แหละสำคัญสำหรับคนที่กำลังมองประกันสุขภาพและอุบัติเหตุ เพราะหากคุณไม่มีสัญญาหลักเป็นประกันชีวิต แต่ซื้อพวกนี้เพียว คุณเคลมหนักๆเขาตัดสัญญาทิ้งได้เลย ปีหน้าไม่ต่อให้
7.ขณะคุยกับตัวแทน - บอกไว้ก่อนเลยว่าถ้าน้องขายผิดเงื่อนไขพี่จะตามบี้น้องจนถึงที่สุดนะ พี่เตือนไว้ก่อน ถ้าจะให้ดีขอให้เขาอธิบายเคลียร์ๆแล้วเชคกับบริษัทอีกครั้ง
8.อย่า!!! เชื่อใจตัวแทนมาก แม้จะเป้นญาติ เพื่อน ผมเคยเจอมาหลายรายแล้ว ที่สนิทๆกันโกงกันเอง อย่า!!! เชื่อว่าแบบประกันของคุณดีที่สุด อย่ายึดติดกับเพื่อนหรือตัวแทน เพราะวันใดวันหนึ่งคุณก็ต้องจากตัวแทนคนนั้นอยู่ดี สิ่งที่จะเหลืออยู่คือผลประโยชน์ของคุณเท่านั้น ดังนั้นหากมีตัวแทนมาขอเทียบกรมธรรม์ ผมแนะนำว่าให้เทียบดูมันก็ไม่เสียหาย แต่การยึดมั่นในตัวแทนเดิมมากเกินไป มันคือการเสียผลประโยชน์ของครอบครัวคุณเอง
9.ใบเสร็จรับเงิน! สำคัญมาก เก็บไว้ให้ดีอย่าฝากตัวแทน คงเคยได้ยินตัวแทนโกงเงินประกันชีวิตกันมาบ้าง แต่! หากคุณได้รับใบเสร็จรับเงินที่มี"สัญลักษณ์บริษัท" ประทับอยู่ แม้ตัวแทนจะไม่นำเบี้ยเข้าบริษัท แต่ตามกฏหมายให้ถือว่าผู้เอาประกันได้ชำระเบี้ยแล้ว เนื่องจากถือว่าบริษัทได้มอบอำนาจให้ตัวแทนแลว้ บริษัทจึงต้องรับผิดด้วย
แต่ยุคนี้บริษัทประกันเล่ห์เหลี่ยมเยอะ หากเกิดเหตุมาจริงๆคงมีการฟ้องร้องกันบ้าง แต่อย่าไปกลัว หากคุณมีใบเสร็จรับเงิน! สำคัญมาก เก็บไว้ให้ดี
10.อ่านกรมธรรม์ของคุณให้เข้าใจ ผลประโยชน์ของคุณเอง เอาไปแขวนไว้กับตัวแทนคงดูไม่ดี เนื่องจากเราไม่รู้ตัวแทนจะจากเป็นหรือจากตาย ตัวแทนคนใหม่จะดีหรือไม่ ดังนั้น ซักถามเข้าไป สงสัยตรงไหนอย่างเกรงใจตัวแทนครับ
11.ประกันสุขภาพ มีระยะเวลารอคอย30วัน และโรคเฉพาะ(เช็คเองนะครับ)มีระยะเวลารอคอย 120วัน ระยะเวลารอคอยหมายถึง ถ้าคุณเป็นอะไรในช่วงนี้ เขาจะไม่เคลมให้นั่นแหละ
12.เวลาทำประกันออมทรัพย์ พวกมีปันผลเยอะๆ อย่าไปหลงคารมเขา สัญญา21ปีจ่ายเบี้ยประกันปีละหมื่นได้คืนปีละ5000ผมก็เจอมาแล้ว แต่คำนวณ IRR ออกมาแล้วได้ 0.65 น้อยกว่าเงินฝากอีก(IRR พูดง่ายๆก็อัตราดอกเบี้ยทบต้นนั่นแหละ) แถมยังต้องเอาเงินไปดองไว้21ปี ถ้าทำเพื่อลดภาษีอาจจะคุ้ม แต่ส่วนใหญ่จะไม่ใช่ เพราะงั้นนะครับผู้ปกครองหรือใครที่จะทำประกันออมทรัพย์ IRR ถือเป็นที่สุด
13.ทำไมตัวแทนถึงชอบให้จ่ายเบี้ย2ปี หรือเวลามีปัญหาอะไรตัวแทนบอกให้จ่ายให้ครบสองปี เพราะมันมีผลกับเรื่องเงินเดือน โบนัสเขาไงละครับ ถ้าคุณจ่ายครบ2ปีปุ๊ป ก็เสร็จ เพราะมันจะไม่มีผลกระทบใดใดกับตัวแทนอีกเลย คุณจะจ่ายเบี้ย ไม่จ่ายเบี้ย ตัวแทนก็ไม่เดือดร้อน
14.ทำประกันอย่าฝากความหวังไว้ที่ตัวแทนมาก หนูจะดูแลพี่ไปตลอดชีวิตนะคะ! ถามจริงๆถ้าตัวแทนตายไปก่อนลูกค้าทำไง? แต่เอาแบบนี้มั้ย ให้ตัวแทนคุณสรุปเป็นภาษาชาวบ้านง่ายๆลงกระดาษ A4 ชี้แจงผลประโยชน์และวิธีเคลมง่ายๆ รวมถึงขอเบอร์ผู้จัดการหรือระดับที่สูงกว่าเขาขึ้นไป เวลามีปัญหาอย่างน้อยก็พอรู้เรื่องว่าจะไปที่ไหน ผมเจอมาเยอะแล้ว หนูจะดูแลพี่ตลอดไปนะคะ อีก2เดือนย้ายบริษัท ถูกบริษัทประกันอื่นดูดไป
15.ประกันออมทรัพย์ส่วนใหญ่จะมีการประมาณการผลประโยชน์ สมมติประมาณการว่าจะจ่ายโบนัสก้อนสุดท้าย4,000,000 บริษัทจะจ่าย 2,000,000ก็ได้ใครจะทำไม ตามผลประกอบการ แต่ตัวแทนส่วนใหญ่ไม่บอก เอาตัวเลขเว่อร์ๆเอาไว้ก่อน แล้วไม่บอกลูกค้าด้วยนะครับ เรื่องนี้ต้องระวัง
ทำประกันให้มองลบไว้ก่อน ว่าเฮ้ย มันจะจ่ายง่ายขนาดนั้นเลยเหรอ ผลประโยชน์มันเยอะอย่างนั้นเลยเหรอ แต่เวลาทำ ให้ทำบวก "คิดลบ ทำบวก"
ประกันน่ะดี แต่ที่ไม่ดีน่ะตัวแทน ถ้าเจอดีก็ดีไป ถ้าเจอไม่ดีก็ไม่ดี แต่ส่วนใหญ่ผมเจอไม่ดีซะมาก ฮ่าๆ แต่ขอร้องนะครับได้โปรดแยกแยะครับ
อ้อ เดี๋ยวนี้ตัวแทนปลอมเอกสาร ปลอมลายเ็ซ็น คุกครับ กฏหมายเข้มงวดมาก
เรื่องร้องเรียน มีปัญหากับประกัน สายตรง คปภ.1186 นะครับ ลองไปคุยกับเค้าดู
จากคุณ |
:
Diamondoid
|
เขียนเมื่อ |
:
13 พ.ค. 54 10:11:12
|
|
|
|