ความคิดเห็นที่ 1 Q: ทำไมอยู่ๆ แบงค์ถึงออกแคมเปญเงินฝากมากมายเลย? A: ผมเข้าใจว่า ปัจจุบัน ธพ. เริ่มมีแรงกดดันด้านสภาพคล่องขึ้นมาบ้างแล้ว (ไม่ได้แปลว่าเค้ามีปัญหาสภาพคล่องนะครับ แต่เค้าอาจมีปัญหาในการปล่อยกู้ในอนาคตได้ ถ้าวันนี้เค้าไม่ทำอะไรเพิ่มเติม) จากรูป จะเห็นว่า สินเชื่อของ ธพ. ไทย (เส้นสีส้ม) โตขึ้นต่อเนื่องปีก่อน (ตามการขยายตัวของเศรษฐกิจละครับ ปกติ) ขณะที่การขยายตัวของเงินฝาก (สองเส้นที่เหลือครับ ต่างกันว่า เส้นหนึ่งรวม B/E อีกเส้นไม่รวม) นั้น มันสูงไม่ทันกับสินเชื่อครับ นั่นแปลว่า ถ้าเค้าอยากปล่อยกู้เพิ่มเติม เค้าอาจจะต้องหาเงินฝากมาเพิ่มขึ้น เพื่อนำเงินฝากนั้นมาปล่อยกู้ครับ (เพราะถ้าไม่มีเงินฝาก เค้าก้อไม่รู้จะเอาเงินที่ไหนมาปล่อยให้คนทั่วไปกู้ครับ) ปล. รูปจากเวปไซต์แบงค์ชาติครับ จากคุณ : m_ple เขียนเมื่อ : 16 พ.ค. 54 21:00:47

ความคิดเห็นที่ 2 Q: แล้วทำไมเค้าไม่ขึ้นดอกเบี้ยเงินฝากล่ะ คนจะได้เอาเงินมาฝากเยอะๆ ? A: จากรูป พี่ๆ จะเห็นว่า แม้แบงค์ชาติจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายมาต่อเนื่อง ตั้งแต่กลางปีก่อน แต่อัตราดอกเบี้ยเงินกู้กับเงินฝากของ ธพ. ไทย ยังคงปรับขึ้นช้าอัตราดอกเบี้ยนโยบายครับ ให้ผมเดา ผมคงเดาว่า ที่ ธพ.  ยังคงระมัดระวัง ไม่กล้าปรับดอกเบี้ยขึ้นเร็วนัก เพราะเกรงว่าการขึ้นดอกเบี้ยเร็วมาก จะไปกระทบกับความสามารถในการผ่อนชำระของลูกหนี้ (กลัวว่า ถ้าขึ้นดอกเบี้ยไปเยอะ จะทำให้ผู้กู้ต้องจ่ายดอกเบี้ยเพิ่มขึ้น และอาจมีบางรายจ่ายไม่ไหว จนกลายเป็นหนี้เสียได้ครับ) ในเมื่อดอกเบี้ยเงินกู้ขึ้นเร็วมากไม่ได้ ถ้าให้แบงค์ขึ้นดอกเบี้ยเงินฝากขาเดียว มันก้อจะกระทบกับการทำกำไรของเค้า คำถามคือ ทำอย่างไร ถึงจะได้เงินฝากมากขึ้น โดยที่ดอกเบี้ยที่จ่ายให้ผู้ฝากเงินไม่เพิ่มขึ้นมากนัก? จากคุณ : m_ple เขียนเมื่อ : 16 พ.ค. 54 21:01:23

ความคิดเห็นที่ 3 Q: นั่นคือที่มาของแคมเปญทั้งหลายสินะ? A: ใช่ครับ ธพ. จึงแข่งกันออกโปรโมชั่นระดมเงินฝากกัน โดยมีแรงจูงใจสำคัญคือ ได้ลุ้นรางวัลต่างๆ ดังเช่นที่เราเห็นในหน้าโฆษณาทุกวันนี้ครับ โดยมีจุดมุ่งหมายสำคัญคือ หวังให้คนมาฝากเงินกับแบงค์ตัวเองให้มากขึ้นครับ จากคุณ : m_ple เขียนเมื่อ : 16 พ.ค. 54 21:01:51

ความคิดเห็นที่ 4 Q: ประเด็นคือ แล้วมันไม่ดีตรงไหน? A: มันทำให้ประชาชนทั่วไปไม่สามารถทราบได้ว่า ผลตอบแทนที่ได้ หรืออัตราดอกเบี้ยที่ได้ เท่ากับเท่าไรกันแน่? และเมื่อเค้าไม่ทราบ เค้าก้อไม่สามารถเปรียบเทียบผลตอบแทนระหว่างทางเลือกต่างๆ หรือระหว่างธนาคารได้ ส่งผลให้ตลาดการเงินถูกบิดเบียนในท้ายที่สุด อีกทั้ง บางธนาคารอาจจะออกแคมเปญเงินฝากดอกเบี้ยต่ำๆ แต่ให้รางวัลอื่นๆ ล่อใจแทน  เพื่อปกปิด/ซ่อนเร้น อัตราดอกเบี้ยที่ให้ต่ำๆ ทำให้ผู้บริโภคขาดสิทธิ (ข้อมูลหรือผลตอบแทน) ที่ควรจะได้รับ ที่สำคัญ แคมเปญดังกล่าว ขัดกับหลักพื้นฐานของการคุ้มครองผู้บริโภค ที่ว่า ผู้บริโภคมีสิทธิที่จะได้รับข้อมูลที่ถูกต้อง (Right to be informed) ครับ ผมเปิดเวป สคบ.  จะเห็นว่า สิทธิของผู้บริโภค 5 ประการ ข้อแรกเขียนไว้ว่า "1. สิทธิที่จะได้รับข่าวสารรวมทั้งคำพรรณนาคุณภาพที่ถูกต้องและเพียงพอเกี่ยวกับสินค้าหรือบริการ ได้แก่ สิทธิที่ จะได้รับการโฆษณาหรือการแสดงฉลากตามความเป็นจริงและปราศจากพิษภัยแก่ผู้บริโภค รวมตลอดถึงสิทธิที่จะได้รับทราบ ข้อมูลเกี่ยวกับสินค้าหรือบริการอย่างถูกต้องและเพียงพอที่จะไม่หลงผิด ในการซื้อสินค้าหรือรับบริการโดยไม่เป็นธรรม " ซึ่งผมก้อเห็นด้วยว่า แคมเปญของ ธพ. ต่างๆ ในปัจจุบัน ออกจะขัดกับหลักการดังกล่าวครับ จากคุณ : m_ple เขียนเมื่อ : 16 พ.ค. 54 21:03:08

ความคิดเห็นที่ 5 สุดท้าย ผมเชื่อว่า สินธร คือ สังคมที่มีความรู้เรื่องการเงินดีที่สุด สังคมหนึ่งในประเทศไทย มาคุยกันขำๆ ไหมครับ พี่ๆ ว่า สองแคมเปญนี้ แคมเปญไหน ให้ผลตอบแทนมากกว่ากัน ระหว่าง 1. เงินฝาก 8 เดือน ดอกเบี้ย 2.05 ลุ้นชิง iPad 100 เครื่อง จับรางวัลทุกอาทิตย์ 2. เงินฝาก 7 เดือน ดอกเบี้ย 1.50 ลุ้นชิง รถเบน EClass 6 คัน เดือนละคัน   เดากันขำๆ ครับ สนุกๆ ;) จากคุณ : m_ple เขียนเมื่อ : 16 พ.ค. 54 21:03:40

ความคิดเห็นที่ 6 จบแล้วครับ จริงๆ ก้อไม่เกี่ยวอะไรกับผมเท่าไรหรอกครับ เงินเก็บไม่มีกะเค้าสักบาท มีแต่หนี้ ^^" เออ ถ้าพวกหวยออนไลน์ก้อว่าไปอย่าง 55+ (ยังเซ็งหวยเมื่อเย็นไม่หาย 05 เฉียดไปนิดเดียว T-T ) หวังว่าคงตอบคำถามพี่ๆ บ้างนะครับ พบกันใหม่โอกาสหน้าครับ สวัสดีครับ จากคุณ : m_ple เขียนเมื่อ : 16 พ.ค. 54 21:04:42

ความคิดเห็นที่ 7 ขอบคุณครับ มีประโยชน์ดีครับ จากคุณ : เจ้าภาพจงเจริญ เขียนเมื่อ : 16 พ.ค. 54 21:22:24

ความคิดเห็นที่ 8 IpadหรือEclass คุ้มกว่าผมว่าขึ้นกับเงินต้น ถ้าเงินต้นน้อยๆโปร Eclass คุ้ม ถ้าเงินต้นมาก Eclass อาจจะไม่คุ้ม จากคุณ : opar156 เขียนเมื่อ : 16 พ.ค. 54 21:26:50

ความคิดเห็นที่ 9 ขอบคุณ น่าคิดๆ จากคุณ : ORIGINAL.E.M. เขียนเมื่อ : 16 พ.ค. 54 22:03:33

ความคิดเห็นที่ 10 รางวัลที่ได้รับ ต้องนำไปคิดภาษีด้วยใช่มั๊ยครับ ผมคิดว่าอัตราดอกเบี้ยเท่ากับที่แจ้งไว้ ส่วนรางวัลไม่มีผลกับดอกเบี้ยนะครับ ไม่ได้รางวัลก็เท่ากับเสมอตัว ถ้าได้รางวัล บางทีอาจจะเจ็บตัวเสียด้วยซ้ำ.. ขำๆ ครับ จากคุณ : Ultraman_Denis เขียนเมื่อ : 16 พ.ค. 54 22:12:55

ความคิดเห็นที่ 11 ขอบคุณสำหรับข้อมูลคะ อ่านแล้วมันน่าเจ็บใจจริงๆ จากคุณ : ไข่เจียวมิชิลิน เขียนเมื่อ : 16 พ.ค. 54 23:06:24

ความคิดเห็นที่ 12 คห.5 ถ้าถามอีกว่า แคมเปญไหนคุ้มกว่ากัน และคุ้มกว่ากันกี่เปอร์เซ็นต์ อันนี้คงงงตาย.. ผมคิดว่า ธนาคารแห่งประเทศไทยทำถูกแล้วล่ะครับ ที่มาเบรคแคมเปญเงินฝากประจำของแบงค์ม่วง ส่วนคนที่แย้งว่า ทำไมสลากธกส.ทำได้ สลากออมสินทำได้.. ก็เพราะว่าสลาก ธกส. และสลากออมสิน ไม่ใช่การฝากประจำครับ แต่เป็นการออมเงินแบบลุ้นรางวัลมากกว่า ถึงแม้จะมีอัตราดอกเบี้ยให้ แต่นั่นก็ไม่ใช่เกณฑ์หลักของสลากครับ จากคุณ : หมอก้อนหิน เขียนเมื่อ : วันวิสาขบูชา 54 00:12:49

ความคิดเห็นที่ 13 1. เงินฝาก 8 เดือน ดอกเบี้ย 2.05 ลุ้นชิง iPad 100 เครื่อง จับรางวัลทุกอาทิตย์ 2. เงินฝาก 7 เดือน ดอกเบี้ย 1.50 ลุ้นชิง รถเบน EClass 6 คัน เดือนละคัน   สมมติให้ ธนาคารหาลูกค้าใหม่ได้ 100,000 ราย 1. 3.075% ต่อปี และมูลค่าของ ipad อยู่ที่ 100/100,000*15,900 = 15.9 บาท (โอกาสได้รางวัล 100 ในแสนคน) 15,900 ประมาณราคาไอแพด 2. 2.57% ต่อปี และมูลค่าของ EClass 6/100,000*3,500,000 = 210 บาท (โอกาสได้รางวัล 6 ในแสนคน) 3,500,000 ประมาณราคา EClass อาจจะตกหรือคำนวณผิดไปบ้าง แต่มูลค่าของการชิงโชคมันน้อยนิดพอสมควร นักคณิตศาสตร์ผู้ออกรางวัลคงได้คำนวณไว้แล้ว ผมคงไม่จริงจังไปนะครับ -.- จากคุณ : trusthaha เขียนเมื่อ : วันวิสาขบูชา 54 00:31:35

ความคิดเห็นที่ 14 มันเป็นอย่างงร้นี่เอง ขอบคุณมากครับ จากคุณ : หมึกสด เขียนเมื่อ : วันวิสาขบูชา 54 00:36:40

ความคิดเห็นที่ 15 คห.13 ข้อแตกต่างของการจับสลากชิงโชค กับการออกเบอร์ คือ การจับสลากชิงโชค เราไม่รู้ว่าความเป็นไปได้ที่เราจะโชคดีมีกี่เปอร์เซ็นต์ เพราะเราไม่รู้จำนวนลูกค้าที่ฝากแคมเปญนี้ แต่การออกเบอร์สลากออมสิน หรือ ธกส. เราคำนวณความเป็นได้ ได้ครับ จากคุณ : หมอก้อนหิน เขียนเมื่อ : วันวิสาขบูชา 54 01:28:43

ความคิดเห็นที่ 16 อีกเรื่องที่ทำให้เงินฝากใน ธพ ลดลงคือการเข้าซื้อกองทุนตราสารหนี้ต่างๆ ที่ตอนนี้คลอดกันออกมาทุก ธพ  แต่ถ้า ธนาคารจะเอาเงินตรงนั้นมาปล่อยกู้ ก็ต้องไปทำเรื่องกู้ยืมกับ บลจ.กองทุนที่เป็นบริษัทลูก  ซึ่งก็ต้องไปดูว่ากองทุนนั้นๆ มีสิทธิปล่อยกู้เอกชนป่าว อย่าง ธนรัฐ ก็หมดสิทธิให้เอกชนกู้ไป เพราะต้องลงในตราสารหนี้ของรัฐ  แต่รู้สึกว่า ธนวัฒน์จะปล่อยได้เหมือนกัน  แต่ก็ปล่อยได้กับรายใหญ่ๆ ที่มีการจัดเรทเท่านั้น ซึ่งรายละเอียดเหล่านี้อยู่ในหนังสือชี้ชวน ซึ่งมันเริ่มทำให้ ธพ เริ่มกุมขมับ จากคุณ : แมวน้ำขี้เซา เขียนเมื่อ : วันวิสาขบูชา 54 03:04:43

ความคิดเห็นที่ 17 สำหรับผมไอ้รางวัลชิงโชคไม่เคยเป็นตัวเลือกในการตัดสินใจเลย เพราะไม่เคยได้รางวัลพวกนี้ครับ จากคุณ : vacuum_car เขียนเมื่อ : วันวิสาขบูชา 54 06:39:43

ความคิดเห็นที่ 18 ออกเบอร์สลากออมสิน เราก็ไม่รู้ว่า เค้าล็อกเลขรางวัลใหญ่ๆไว้ให้ออกเลขที่ยังไม่ขายได้รึป่าว จากคุณ : kopbirt เขียนเมื่อ : วันวิสาขบูชา 54 07:55:52

ความคิดเห็นที่ 19 รางวัล  บล๊อคไว้ให้คนนามสกุลใหญ่ๆโตๆ พวกเงินหนาล้นแท๊งก์ได้ไป เราฝากย่อย ไม่สนโปรโมชั่นจับรางวัลหรอก สนอย่างเดียวแจกดอกเบี้ยให้ทั่วๆเท่ากันทุกคนเลย อันนั้นเรียกเงินไปเพิ่มได้แน่ เรื่องจับรางวัลไม่สนหรอก เพราะของรางวัลบางทีก้เริ่มตกรุ่น หรืออัพราคาเวอร์เกินไป แถมต้องไปยุ่งกับสรรพากรอีก จากคุณ : sitthto เขียนเมื่อ : วันวิสาขบูชา 54 08:01:55

ความคิดเห็นที่ 20 ขอบคุณค่ะ  ประเด็นเรื่องของแจก ออกจะเหมือนชิงโชคซองมาม่าไปนิดแต่ก็ช่วย ให้ตลาดการออมคึกคักดีนะคะ ^^   แบงค์สมัยนี้แข่งขันกันสูงก็ดีเหมือนกัน จะได้พัฒนาคุณภาพการบริการ เพิ่มประสิทธิภาพการเป็นกลไกสำคัญในระบบหยั่งที่ควรจะเป็น แต่ดอกเบี้ยฝากขนาดนี้  หุ้นธนาคารยังปันผลมากกว่าตั้งเยอะนะคะ - -a จากคุณ : nusarathi เขียนเมื่อ : วันวิสาขบูชา 54 10:08:40

ความคิดเห็นที่ 21 เป็นประโยชน์มาก ๆ เลยครับ ขอบคุณพี่ m_ple มากครับ จากคุณ : @power เขียนเมื่อ : วันวิสาขบูชา 54 10:58:54

ความคิดเห็นที่ 22 #12 ที่ ธกส กะ ออมสินทำได้ เพราะทั้งคู่เป็นธนาคารเฉพาะกิจ จัดตั้งขึ้นมาด้วนกฏหมายเฉพาะ ไม่ได้อยู่ภายใต้การควบคุมของ ธปท ครับ จากคุณ : Dark Archon เขียนเมื่อ : วันวิสาขบูชา 54 12:56:47

ความคิดเห็นที่ 23 ขอบคุณครับ ;) จากคุณ : มิ่งกลิ้ง เขียนเมื่อ : วันวิสาขบูชา 54 13:30:50

ความคิดเห็นที่ 24 people แล้วการแข่งขัน  ในเชิงพาณิชย์ดีต่อประชาชนอย่างไร คนไทยก็มีสิทธิเลือกได้  สมาคมคุ้มครองผู้บริโภค และอีกหลากหลาย ก็สามารถวิเคราะห์ให้ข่าวสาร ข้อมูลต่อประชาชนได้ ใครหลอกลวง ใครเอาเปรียบ ตลาดผู้ซื้อจะเป็นผู้บอก เฉลย ห้ามนั่น ห้ามโน่น ห้ามนี่  มันทำง่ายจังน้า จากคุณ : ติดตาม เขียนเมื่อ : วันวิสาขบูชา 54 14:37:30

ความคิดเห็นที่ 25 ธปท. อนุมัติเอง ..... เพียงไม่ถึงสัปดาห์ ก็ขอให้ยกเลิก เหตุผลเหมือนดูพื้นๆ น่าจะคิดได้ก่อนอนุมัติหรืเปล่าครับ จากคุณ : pjuk เขียนเมื่อ : วันวิสาขบูชา 54 15:14:31

ความคิดเห็นที่ 26 อ่านกฎหมายต้องอ่านทั้งฉบับแล้วจะเห็นว่าแต่ละคน องค์กรในประเทศมีสิทธิและหน้าที่อย่างไรบ้าง ก็จริงที่ผู้บริโภคมีสิทธิได้รับความคุ้มครอง แต่ในขณะเดียวกัน บุคคลก็มีสิทธิในทรัพย์สิน สิทธิเสรีภาพในการประกอบอาชีพ (อยากให้ ธปท ชี้แจงว่า กม มาตราไหนให้อำนาจจำกัดสิทธิตามที่ออกซักซ้อม) เงื่อนไขที่ธนาคารแต่ละแห่งใช้ในการระดมเงินฝากพ่วงชิงโชคก็น่าจะชัด ว่าสิ่งที่ได้แน่ๆ คือ ดอกเบี้ย  ส่วนความไม่แน่นอนคือรางวัลต่างๆ ซึ่งสำหรับหลายคนก็น่าจะรู้ได้ว่าความไม่แน่นอนนี้คือความแน่นอนที่จะไม่ได้รางวัลแน่ๆ   สำหรับที่บ้าน แทบไม่เคยได้รางวัลอะไรเลย ฉะนั้น ถ้าเราจะเลือกฝากที่มีชิงโชค เราถือว่ามันเป็นผลพลอยได้เท่านั้น เวลาเทียบก็เอาอัตราดอกเบี้ยมาเทียบกันก็พอ รางวัลไม่ต้องนำมาคิด จากคุณ : BeeZ เขียนเมื่อ : วันวิสาขบูชา 54 18:08:34

ความคิดเห็นที่ 27 แฮะๆ ไม่ผิดหวังจริงๆ ;) ใช่ครับ ถูกอย่างที่พี่ๆ หลายท่านว่าไว้ คอนเซปการคำนวณตามที่พี่ trusthaha ว่าไว้ใน คห. 13 เอา (ไม่จริงจังไปครับ ขอบคุณอย่างสูงเลยครับ อยากให้มีสักคนเห็นตอบแบบนี้ ผมจะได้ไปต่อถูก 55+ ) ผลตอบแทนที่ได้คูณกับโอกาสที่จะได้รางวัลแล้ว จะได้ expected return แต่อย่างที่พี่ trusthaha ว่าไว้ มันต้องกำหนดสมมติฐานบางอย่าง เช่น ที่พี่กำหนดว่า มีคนมาร่วมแย่งรางวัลกับเรา 1 แสนคน นี่ล่ะ ประเด็นเลยครับ ดั่งที่พี่ หมอก้อนหิน ว่าไว้ใน คห. 15 คือ เราไม่มีวันทราบแน่นอนว่า จะมีคนเข้ามาแย่งรางวัลกับเราเท่าไร (แม้ธนาคารเองก้อตอบไม่ได้ เพราะเค้าก้อไม่รู้เหมือนกัน) ดังนั้น เราจึงไม่มีวันหา expected return ได้ และเมื่อเราไม่สามารถหา expected return ได้ เราจึงไม่สามารถเปรียบเทียบผลตอบกับทางเลือกการลงทุนอื่นๆ ได้ครับ จากคุณ : m_ple เขียนเมื่อ : วันวิสาขบูชา 54 19:45:17

ความคิดเห็นที่ 28 แล้วมัต่างยังไงกับธนาคารออมสินออกฉลากออมสินล่ะครับ ของมันก็คือๆกันนะ จากคุณ : carbonnet เขียนเมื่อ : วันวิสาขบูชา 54 19:49:41

ความคิดเห็นที่ 29 ตัวอย่างใน คห. นี้ ผมคำนวณผิด ขอบคุณคุณ Beez คห. 32 ที่ช่วยแก้ไขให้นะครับ อีกประเด็นที่ผมอยากชี้ให้เห็นคือ ขนาดๆ เราๆ ท่านๆ ยังต้องคิดแล้วคิดอีกว่า มันคุ้มไหม เผลอๆ ต้องหิ้วเครื่องคิดเลขไปธนาคาร แล้วตาสีตาสา คนธรรมดาทั่วๆ ไปล่ะครับ? เขาจะเข้าใจไหม เขาจะทราบไหม ผมเข้าใจ (เอาเองด้วย ไม่รู้ถูกเปล่า) บางทีแบงค์ชาติอาจจะต้องการป้องกันเผื่อในอนาคต บางธนาคารอาจใช้ความไม่รู้ตรงนี้ ไประดมเงินฝาก ต้นทุนต่ำๆ ได้ครับ เช่น สมมติว่า อัตราดอกเบี้ยฝากออมทรัพย์ในตลาดอยู่ที่ 3% ธนาคาร Z ต้องการระดมเงินฝาก 1 พันล้านบาท แต่ไม่อยากจ่ายดอกเบี้ยในราคาตลาด ธนาคาร Z เลยออกแคมเปญว่า ถ้าฝากเงินกับผมโครงการนี้ ครบหนึ่งปี ได้ดอกเบี้ย 0.1 % แต่ได้ลุ้นจับสลากเงินสด 10 ล้านบาท! ผมว่านะ แคมเปญนี้ ฮิตถล่มถลาย เงินไหลเข้าแบงค์ Z มหาศาลแน่ (แค่ 1 แสนคน กำเงินคนละหมื่น ก้อได้ แล้วนะครับ 1 พันล้านบาทเนี่ย) แต่ถามว่า ครบปี แบงค์ Z จ่ายดอกเบี้ย กะเงินรางวัลเพียง 10 + 1 = 11 ล้านบาทเองนะครับ แทนที่จะต้องจ่าย 30 ล้าน ตามอัตราดอกเบี้ยตลาด แม้สถานการณ์วันนี้จะไม่ใช่แบบนั้น แต่นี่อาจเป็นหนึ่งในเหตุผลที่แบงค์ชาติประกาศห้ามก้อได้ครับ แบงค์ชาติคงไม่อยากปล่อยให้สถานการณ์มันลามไปถึงแบบนั้น เดี๋ยวตลาดการเงินจะปั่นป่วนครับ ถูกเปล่าไม่ทราบนะครับ ผมเดาเอา ;) แก้ไขเมื่อ 17 พ.ค. 54 20:31:18 จากคุณ : m_ple เขียนเมื่อ : วันวิสาขบูชา 54 19:55:17

ความคิดเห็นที่ 30 พี่ๆ หลายท่าน ถามว่า ทำไมสลากออมสินทำได้ ตอบแบบกำปั้นทุบดินคือ ออมสิน ไม่ได้อยู่ภายใต้กำกับของแบงค์ชาติครับ ออมสินเป็นสถาบันการเงินเฉพาะกิจ (Special Financial Institutions: SFIs) อยู่ภายใต้การกำกับของกระทรวงการคลังครับ SFIs คือ "เครื่องมือ" ของภาครัฐบาลที่ออกมาเพื่อเป้าหมายบางอย่างครับ อาทิ faciliate ให้กับประชาชน "บางกลุ่ม" เช่น ธกส เน้น เกษตร, Exim Bank เน้นผู้นำเข้าส่งออก, หรือ SME Bank เน้น SME ครับ ถ้า ออมสินเข้ามาเป็นสถาบันการเงินเหมือนธนาคารอื่นๆ ผมเข้าใจว่า คงออกสลากออมสินไม่ได้เหมือนกันครับ จากคุณ : m_ple เขียนเมื่อ : วันวิสาขบูชา 54 20:00:25

ความคิดเห็นที่ 31 พี่ pjuk  คห. 25. อันนี้ผมไม่ทราบตื้นลึกหนาบางนะครับ ต้องรบกวนสอบถามทางเค้าเองครับ ไหนๆ แล้ว ขออีกประเด็น (ปรัญชาหน่อยนะครับ ถกกันยาว ถ้าจะคุยกันจริงๆ ^^" ) ส่วนตัวผมคนหนึ่งล่ะ ไม่เชื่อในตลาดแข่งขันสมบูรณ์ เพราะผมไม่เชื่อว่า ทุกคนสามารถเข้าถึงข้อมูลข่าวสารได้เท่ากัน (หรือตลาดมี asymmetric information) ดังนั้น คนที่มีข้อมูลมากกว่า จึงมักเอาเปรียบ คนที่มีข้อมูลน้อยกว่าเสมอๆ ด้วยเหตุนี้ ในบาง sector ที่มีผลกระทบต่อประชาชนทั่วไปกว้างขวาง เราจึงต้องการ Regulator ครับ ธุรกิจธนาคารเป็นธุรกิจที่ไม่เหมือนใครครับ และต้องการ regulator ที่เข็มงวด มีธุรกิจไหนไหมครับ ที่บริษัทหนึ่งๆ จะมีเจ้าหนี้เป็นล้านๆ คน มีธุรกิจไหนไหมครับ ที่บริษัทหนึ่งๆ แทบไม่ต้องลงทุนเงินตัวเองเลย แต่ไปกู้เงินมาลงทุนได้ debt ratio เกือบเป็น 1 มีธุรกิจไหมครับ ที่บริษัทกลางๆ ในตลาด บริษัทเดียว ถ้าเกิดล้มละลาย จะฉุดให้เศรษฐกิจประเทศนั้น ลงเหวตามไปด้วย? อย่างที่ผมเคยพูดไว้ในกระทู้ก่อนๆ โลกเรามี shock เพียงสองอย่างเท่านั้นล่ะครับ ที่ฉุดเศรษฐกิจให้ตกต่ำได้ นั่นคือ Financial shock และ Oil shock Financial shock แทบทุกครั้ง ก้อมาจากการที่ Regulator ไม่สามารถกำกับสถาบันการเงินได้ดีพอครับ (ไม่ต้องนึกไกลครับ Subprime ครั้งล่าสุดเนี่ยล่ะ) อย่างไรก้อดี ผมเห็นด้วยว่า การกำกับที่เข้มงวดเกินไป จะไม่ทำให้เกิดการพัฒนา balance อยู่ตรงไหน? นี่ล่ะประเด็นสำคัญที่เราๆ ท่านๆ สมควรจะพูดคุยกันให้กว้างขวางครับ ;) จากคุณ : m_ple เขียนเมื่อ : วันวิสาขบูชา 54 20:15:37

ความคิดเห็นที่ 32 #29 คิดคำตอบผิดแล้วค่ะ 3 % ของ 1 พันล้าน ก็แค่ 30 ล้านเท่านั้น รวมต้องจ่าย 1030 ล้านบาท แต่ถ้าให้ดอก 0.1%  ก็จ่าย 1001 ล้านบาท บวกค่าชิงโชคอีก หนึ่งพันล้าน พร้อมกับอาจต้องปิดกิจการ 555 คิดว่าไม่มีธนาคารไหนออกแคมเปญที่ว่า ถ้ามีจะไปลงสักหน่อยลุ้นดี ลงหมื่น ได้ พันล้าน จากคุณ : BeeZ เขียนเมื่อ : วันวิสาขบูชา 54 20:22:55

ความคิดเห็นที่ 33 ^ ^ ต๊าย ปล่อยไก่ ^^" เด๋วแก้ให้ ^^" จากคุณ : m_ple เขียนเมื่อ : วันวิสาขบูชา 54 20:27:16

ความคิดเห็นที่ 34 ได้ความรู้ทีเดียว ขอบคุณคุณ m_ple และทุกท่านมากๆที่มาแบ่งปันข้อมูล จากคุณ : เหมียวเล็กน้อย เขียนเมื่อ : วันวิสาขบูชา 54 22:58:59

ความคิดเห็นที่ 35 ควบคุมไม่ให้ธนาคารขายประกันโดยบอกว่าเป็นการฝากออมทรัพย์ให้ได้ น่าจะได้อานิสงค์มากกว่า ตาสีตาสาเนี่ยจะอยากได้ไอแพด ได้เบ็นซ์ไปทำไม เรายังไม่อยากได้เลย จากคุณ : ฉลาดหน้าตาดีมีเงินใช้ เขียนเมื่อ : 18 พ.ค. 54 00:04:07

ความคิดเห็นที่ 36 กระทู้อย่างนี้แหล่ะที่เราต้องการอ่าน ให้รายละเอียดความรู้ครบเครื่อง ขอบคุณทุกท่านที่ร่วมแสดงความคิดเห็นด้วยค่ะ อยากให้ห้องนี้มีกระทู้ลักษณะอย่างนี้ทุกวัน  ชอบอ่านจริงๆ จากคุณ : OKANEMOCHI เขียนเมื่อ : 18 พ.ค. 54 00:13:36

ความคิดเห็นที่ 37 ทราบจากเพื่อนที่อยู่SCBเหมือนกันว่าธปท.อนุมัติแล้วก่อนมากลับลำ อย่างนี้ค่าใช่จ่ายที่SCBโฆษณาไปล่ะ ได้ข่าวว่าเงินที่ลูกค้าลงไปก็ต้องจ่ายคืนพร้อมดอกด้วย จากคุณ : Searchlady (Searchlady) เขียนเมื่อ : 18 พ.ค. 54 09:15:51

ความคิดเห็นที่ 38 ชอบกระทู้การเงินแบบสร้างสรรค์ครับ ผมเห็นด้วยกับจขกท.ตรงคห.31 ตรงที่ว่ายังไง๊ยังไงก็ไม่มีทางแข่งขันสมบูรณ์ แม้ว่าจะเข้าใกล้คำว่าแข่งขันสมบูรณ์ อันที่จริงต้องพูดว่า"ผูกขาดน้อยลง" ไม่ใช่แข่งขันสมบูรณ์มากขึ้น ฮ่าๆๆ ส่วนเรื่องการคำนวนต้นทุนของธนาคารนั้นก็ตามคุณtrusthahaเลยครับ (อันที่จริงถ้าจะให้สมบูรณ์ละก็ เราต้องรู้จำนวนความน่าจะเป็นของคนที่จะใช้บริการด้วยครับ ในกรณีนี้อาจจะใช้ค่าเบต้าของความต้องการใช้Ipodเมื่อเทียบกับราคาแทนได้ครับ) นำต้นทุนข้างต้นมาหักกับดอกเบี้ยที่ธนาคารต้องเสียในเคสที่ว่า"ธนาคารไม่มีแคมเปญ" ครับผม อยากคำนวนให้ดู แต่พอดีแอบหนีงานมาเม้นก่อน อิอิ จากคุณ : นักสืบจิ๋ว เขียนเมื่อ : 18 พ.ค. 54 09:46:22

ความคิดเห็นที่ 39 เห็น SCB บอกจะให้อะไรแทนการจับรางวัล ให้สาสม กับที่ลงทุนไปนะ จากคุณ : sitthto เขียนเมื่อ : 18 พ.ค. 54 09:52:31

ความคิดเห็นที่ 40 อืมมันไม่สามารถหากำไรคาดหวังที่แน่ชัดได้เพราะว่าธนาคารไม่ได้กำหนดผู้ที่จะมาฝากเงินเอาไว้นี่นา แต่ถ้าเขาเปลี่ยนไปใช้วิธีแบบสลากออมสินที่แน่นอนแล้วก็ลงค่ากำไรคาดหวังให้เห็นโต้งๆไปเลยก็น่าจะผ่านเกณฑ์ได้แล้วรึเปล่า? ตัวเลขจะออกมาคล้ายๆกับ#13 แต่ว่าต้องกำหนดเลขที่ๆมีสิทธิ์รับรางวัลที่แน่ชัดไปเลยประมาณนั้นครับ จากคุณ : Zkizzik เขียนเมื่อ : 18 พ.ค. 54 10:39:25

ความคิดเห็นที่ 41 เห็นด้วยกับความคิดเห็นหลายท่าน  สำหรับผมนั้นก่อนจะซื้อ สลากออมสิน และ สลาก สลาก ธกส. ผมไม่ได้คำนึงถึงดอกเบี้ยที่จะได้เมื่อซื้อครบกำหนดเท่าไหร่ ?   ผมเชื่อเรื่องดวงอยู่บ้าง  จึงเสี่ยงโชคซื้อสลากรัฐบาลไว้เป็นครั้งคราว  แต่ทนไม่ไหวกับ การที่ปล่อยให้มีเสือนอนกิน  ทำให้ผู้ขายรายย่อยทำผิด กม. ขายเกินราคาอย่างน่ารังเกียจ โดยรัฐบาลไม่พยายามแก้ไข ฯลฯ  จึงไม่ซื้อมันเลย  มาซื้อสลากออมสิน ก็เพราะไม่ขึ้นราคาและนำเงินไปให้คนจนกู้ ฯ  แต่ก็มีข้อเสียบริการไม่ค่อยจะดี  และค่อนข้างจะเอาเปรียบลูกค้า    เมื่อเปลี่ยนผู้อำนวยการเป็นคนปัจจุบัน  ได้แก้ไขการตั้งรางวัลและเงื่อนไขในการซื้อสลากคืนให้เป็นธรรมมากขึ้น  รุ่นก่อนกำหนดสามปี ขายคืนก่อนก็ต้องโดนหักอย่างเดียว รางวัลก็ไม่จูงใจเลย  กำหนดการมีสิทธิ์ถูกรางวัลก็ดีขึ้น (แม้ว่าจะไม่มีผลในจำนวนครั้งก็ตาม) สลาก ธกส. ก็เอาไปให้เกษตรกรกู้  เพราะยังมีส่วนช่วยเกษตรกรที่มักโดนธรรมชาติเล่นงานให้เขาต้องล้มลุกคลุกคลาน ฯ ได้บรรเทาความทุกข์ ฯลฯ  แต่ธนาคาร ธกส.ก็ ยังเอาเปรียบคนซื้อ ผมซื้อที่ศูนย์สิริกิตติ์ __วันที่ ๘ พค.๕๑ วันเริ่มมีสิทธิ์ถูกรางวัล ๑๖ กรกฎาคม ๕๑  ครบกำหนดถอนเงิน ๒๐ มิถุนายน ๕๔ ซึ่งต่างกับของธนาคารออมสิน ฯ  แถมไปถอนเงินให้ออกเช็คยังคิดเงินอีก  แต่ไปซื้อครั้งหลังนี่ใช้เวลาเพียงหนึ่งเดือน ก็มีสิทธิ์ถูกรางวัลแล้ว  แต่สาขามีน้อยจังเลย  บัตรเศรษฐี ของ SCB ผมต้องการถูกรางวัลรถ BENZ  ผมชอบ PJUK และบริการ ของพนักงาน SCB  ขอให้ถูกรางวัลเถอะภาษีไม่เกี่ยง( อย่างไรก็ไม่เกิน ๑๐๐ % )๕๕๕๕๕๕๕๕๕๕ แก้ไขเมื่อ 18 พ.ค. 54 12:56:06 จากคุณ : jinvet เขียนเมื่อ : 18 พ.ค. 54 12:50:31

ความคิดเห็นที่ 42 เมืองนอกไม่มีแบบนี้ น่าคิดว่าทำไมเราคิดที่จะมี จากคุณ : Godgate เขียนเมื่อ : 18 พ.ค. 54 14:04:10

ความคิดเห็นที่ 43 ธปท. ก็อย่างนี้แหละครับ จำตอน ธปท. แจ้งไปยัง ธพ. ให้ยกเลิกตราประทับบนเช็คได้หรือเปล่าครับ ธพ. ก็แจ้งลูกค้าให้ยกเลิก ซึ่งก็มียกเลิกได้บ้างไม่ได้บ้าง ช่วงหลัง ๆ ลูกค้าร้องเรียนเยอะ บอกว่าตราประทับเป็นตัวช่วยในการสั่งจ่ายกันการปลอม ธปท.บอกว่าอย่างไรทราบมั้ยครับ ธปท.แค่ขอความรวมมือเฉย ๆ ไม่ได้บังคับ(เพราะไม่มีอำนาจ) ธปท. เรื่องเยอะครับ ตอนนี้ก็ยังมีเรื่อง ICAS อีก ไปประชุมที่ ธปท. บ่อย ๆ ปวดกบาลครับ จากคุณ : พนังงาน ธพ. คนหนึ่ง (เทวิน) เขียนเมื่อ : 18 พ.ค. 54 15:37:47

ความคิดเห็นที่ 44 # 37 ผมก็ทราบจากเพื่อนที่ทำงานที่นั่นเหมือนกัน แต่ทำไมเขาบอกตรงข้าม ว่าแบงก์รู้อยู่แล้วว่าอาจโดนยกเลิก แต่ก็ยังเข็นออกมาก่อน # 39 เท่าที่ทราบมานะครับ ให้พนักงานแต่ละสาขาโทรเรียกลูกค้าที่มาซื้อบัตรฯ มาถอนเงินคืน พร้อมให้ดอกเบี้ยตามระยะเวลา จากคุณ : micaho2 เขียนเมื่อ : 19 พ.ค. 54 10:48:02

ความคิดเห็นที่ 45 ขอบคุณสำหรับกระทุ้ดีๆอีกแล้วครับ จากคุณ : Sylphs เขียนเมื่อ : 19 พ.ค. 54 22:29:42

ความคิดเห็นที่ 46 คคห.ผลตอบแทนรวมรางวัลเท่าไรไม่รู้ครับ รู้แต่ว่ากิเลสวัยรุ่นเงินน้อยเกาะที่ไอแพด และ กิเลสของอาเสี่ยอาอึ้มเกาะที่รถเบนซ์มากที่สุด จากคุณ : teeranet เขียนเมื่อ : 20 พ.ค. 54 10:29:40

ความคิดเห็นที่ 47 ผมว่า ธปท. ทำงานชุ่ยครับ หากท่านห้ามแต่แรกก็จบเรื่อง นี่ท่านกลับลำไปมาทำเอกชนเค้ามีค่าใช้จ่าย แล้วท่านจะรับผิดชอบอย่างไรครับ ผมเห็นด้วยนะครับกับการห้ามเคมเปญแบบนี้ แต่วิธีการทำงานของท่านรับไม่ได้จริงๆ ส่วนเรื่อง Image Cheque เรื่องไม่ให้ลงนามประทับตราบริษัท ทั้งคนแบงค์ ทั้งลูกค้า เค้างงกับท่านจริงๆ ครับ ว่าเป็น กฏ หรือ ขอความร่วมมือ จากคุณ : นับหนึ่ง เขียนเมื่อ : 21 พ.ค. 54 19:26:36

ความคิดเห็นที่ 48 ... เข้ามาดู จากคุณ : Mr. Fusion เขียนเมื่อ : 27 พ.ค. 54 22:26:17