*** 17_27 ผ่า_หัวใจยักษ์ = วัฏจักร... หุ้นปั่น & ธุรกิจ

Thai Value Speculator   :
        ถ้าเล่น “หุ้นปั่น” ซื้อน้อยๆ_เกาะตู้เย็น หาค่ากับข้าวได้ อย่าไปทุ่ม เดี๋ยวเจ้ามือมันจะโยนหุ้นใส่
        หุ้นเรียกแขก : เชิญครับ! เชิญ... มารวย... พี่น้อง  ในตลาด_มักจะมีหุ้นปั่น สลับกันขึ้นมาหวือหวา

    1) ข้อสังเกตของหุ้นปั่น
        1.1 ต้องมี “เจ้ามือ” = กลุ่มก๊วนคอยทำราคา)
        1.2 ผู้ถือหุ้นใหญ่        มักจะรู้เห็นเป็นใจด้วย  ในลักษณะช่วยกันออกข่าวดี
              ในหลายกรณี ผู้ถือหุ้นใหญ่มักจะโอนหุ้นบางส่วนไปไว้ในPort_นอมินี หรือ ให้ตัวแทนเข้าไปเก็บหุ้น_ก่อนจะทำราคา
        1.3 ดูด Supply = ปริมาณหุ้นหมุนเวียน_ออกไปให้มากที่สุด จากนั้นหุ้นจะวิ่ง... พักนิดหนึ่ง... แล้วก็วิ่งต่อ
           * ระหว่างที่หุ้นวิ่งแรงๆ_เจ้ามือจะรอกินเราอยู่  ถ้ายังไม่ถึงเป้าหมาย ก็ประคองราคาไว้จนมี “เหยื่อ” กลุ่มใหญ่เข้ามา
              แต่หุ้นพวกนี้สุดท้ายแล้ว “เสือ” จะกิน “เนื้อเสือ” คือ กินพวกเดียวกันเองด้วย
       
    2) หุ้นIPO หลายๆตัว พอเข้าตลาดมาใหม่ๆ หุ้นมักจะถูก “ทุบ” ลงไปก่อน แล้วค่อย “ลาก” ขึ้นมาทีหลัง
        2.1 สมัยก่อน ซื้อหุ้นIPO จะได้กำไรมหาศาล เพราะเจ้าของหุ้นไม่เอาหุ้นมาหมุนในตลาดเยอะเหมือนสมัยนี้
        2.2 สมัยนี้ เจ้าของหุ้น (ผู้ถือหุ้นใหญ่) ปล่อยหุ้นออกมาเอง แล้วค่อยรอเก็บราคาต่ำ “เพื่อลดต้นทุน” แล้วเล่นรอบขึ้นมาใหม่
        2.3 บริษัทไหนที่เจ้าของหุ้นลงมาเล่นหุ้นตัวเอง (เล่นหุ้นผ่านนอมินี) สุดท้ายจะ “เจ๊ง” เพราะ หุ้นตัวนั้นขาดความน่าเชื่อถือ

    3) หุ้นที่เจ้าของบริษัทมี “IQ” (Intelligence_Quotient) เหนือกว่าเรามาก ตัวอย่างเช่น หุ้นกลุ่มCP (เครือเจริญโภคภัณฑ์)
        เคยอ่านข่าว เจ้าสัว พูดออกมาว่า… สิ่งที่ทำผิดพลาดที่สุดในชีวิต คือ ไม่ยอมขายหุ้นเทเลคอมเอเซีย (TRUE) ที่70กว่าบ.
     * ถ้าบริษัทไหนก็ตามที่เรารู้สึกว่า IQเราสู้เจ้าของบริษัทไม่ได้ ใครเจอหุ้นแบบนี้ ชีวิตนี้อย่าไปแตะ เพราะ คุณจะไม่มีทางรวย
       
    4) ลักษณะของหุ้นที่ซื้อแล้วมีโอกาส “ฟลุ้ค” Jackpot_แตก
     * ต้องเป็นหุ้นประเภท Community_สินค้าโภคภัณฑ์ เช่น น้ำมัน ปิโตรเคมี เดินเรือ ฯลฯ ซึ่งหุ้นประเภทนี้จะมีCycleของมัน
       วันหนึ่งที่ถึงCycleของมัน (ช่วงTurn_อะราวด์) มีโอกาสรวยได้ง่ายๆ แต่คุณต้องรู้ว่าCycleของธุรกิจอะไรที่กำลังจะมา
       จังหวะซื้อ จะต้องเป็นรอยต่อของช่วง ตกต่ำ_Depression มาสู่ช่วง ฟื้นตัวใหม่_Revival   ซื้อแล้ว “ถือ”        
       
    5) วัฏจักรธุรกิจ  จะแบ่งออกเป็น 5 ช่วง คือ
        ขยายตัว      ~  รุ่งเรือง ~  ถดถอย       ~  ตกต่ำ          ~   ฟื้นตัวใหม่
        Expansion  ~  Boom  ~  Recession  ~  Depression  ~  Revival
        หลังจากหุ้น ปตท.ที่เสี่ยยักษ์ได้กำไรจำนวนมากแล้ว มาเจอหุ้นในดวงใจอีกตัว อีกตัวที่น่าจดจำ คือ หุ้น TPI (IRPC)

    6) ปลายปี 48 ตอนนั้นราคา10บ.กว่า ยังไม่เพิ่มทุน 1 ต่อ 2 ที่ราคา 3.30บ.
     * ก่อนหน้ากลุ่มรายใหญ่คุยกับอดีตผู้บริหารแน่ใจว่า ปตท.เป็นแกนดึง กบข.-วายุภักษ์-ธ.ออมสิน มาเพิ่มทุน ที่ราคา 3.30บ.
        โอ้ย! หุ้นอย่างนี้ดีซิ!   มันกำลังจะเปลี่ยนโครงสร้าง ทำอะไรใหม่ เราไม่ต้องกลัว เพราะหลังเพิ่มทุน ต้นทุนเราเฉลี่ย 5บ.กว่า
        กลุ่มปตท.+ ...   ลงทุนตั้งหลายหมื่นล้านบาท ของเราลงทุนแค่นิดเดียว จะไปกลัวมันทำไม!
        6.1 ช่วงที่ราคาหุ้น TPI แถวๆ 10บ.กว่า เสี่ยยักษ์ก็ทยอยซื้อเข้าPort หลังจากนั้นวิ่งขึ้นไป 18บ.
        6.2 พอกลุ่มปตท.กำลังจะเข้ามา (ขึ้น XR วันที่ 14 พ.ย.48) กลุ่มประชัย เลี่ยวฯ ก็ฟ้องศาลคัดค้าน ราคาก็หล่นเหลือ 15-16บ.
        6.3 ช่วงราคาทรุดลง... ผมก็จะแย่ พอศาลตัดสินว่าคุณประชัยแพ้ กลุ่มปตท.เพิ่มทุนได้
        6.4 ต้นปี49_หลังเพิ่มทุน ขึ้นไปสูงสุด 8.95บ. ถือหุ้นTPI กว่า100ล้านหุ้น ตัวเดียว1,000ล้านบาท ชอตนี้_ได้กำไรเยอะ

==> เวลาที่จะลงทุนหุ้นตัวไหนหนักๆ จะต้องทำการบ้านอย่างละเอียด โดยเฉพาะข้อมูลสำคัญของหุ้น    ต้องรู้ให้ลึก_รู้ให้จริง  

==> Ex. ซื้อหุ้น TPI เก็บข้อมูล : ลูกหุ้นเข้าวัน ? ขาดทุนน้ำมัน & กำไรอัตราแลกเปลี่ยนเท่าไร  ...
               ราคาเม็ดพลาสติกตอนนี้เป็นอย่างไร  พื้นฐานพวกนี้จะตัดข้อมูลเก็บเอาไว้หมด                      ----------- ###

จากคุณ	: ศิษย์ซุนวู
เขียนเมื่อ	: 23 พ.ค. 54 23:39:13