ความคิดเห็นที่ 1 การดูพื้นฐาน เป็นการดูว่า ควรจะซื้อหุ้นตัวหนึ่งตัวใด โดยดูราคาเปรียบเทียบกับพื้นฐาน การซื้อหุ้นของผม จะใช้วิธีนี้ และไม่เคยดูกราฟ มีเข้าไปดูกราฟและการวิเคราะห์ดัชนีไทยของเวบต่างประเทศ ก่อนจะซื้อหุ้นตัวใด ที่ผมยังไม่เคยดูข้อมูล จะต้องเข้าไปดูข้อมูลก่อนจะตัดสินใจซื้อทุกครั้ง วิธีการก็ไม่ยุ่งยาก ไม่ต้องไปวิเคราะห์อะไร แค่ดูข้อมูลของหุ้นตัวนั้นก็พอ คือ 1. ดูว่าราคาสูงเกินพื้นฐานปัจจุบันหรือไม่ ก็ดูจาก P/E (Price/Earing) Ratio 2. ดูผลประกอบการที่ผ่านมา ย้อนหลังไป 4 ปี และผลประกอบการล่าสุด 3. ดูราคาที่ผ่านมา ย้อนหลังอย่างน้อย 4-6 เดือน 4. ดูอัตราการจ่ายเงินปันผลที่ผ่านมา 5. ดูสถานะทางการเงิน โดยดูจากงบการเงิน ถ้าเป็นหุ้นที่ผมจะซื้อถือเป็นหลัก ไม่ใช่ถือลุ้น Turn Around ซึ่งผมมีน้อยมาก ตัวไหนมีผลประกอบขาดทุน หรือยังมีขาดทุนสะสมอยู่ ไม่ซื้อ รวมทั้งถ้าผลประกอบล่าสุดขาดทุน หรือมีกำไรลดลงมาก ถ้าจะซื้อต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ การดูข้อมูล ก็เข้าไปดูที่เวบของตลาดหลักทรัพย์ ได้ตลอดเวลา ไม่ต้องไปดูที่อื่น เอาเม้าส์มาจ่อ แล้วคลิกซ้ายไปดูได้เลย http://www.set.or.th จะเล่นหุ้น ควรเข้าไปดูข้อมูลทุกเช้าและบ่ายก่อนตลาดเปิด เพราะจะมีข้อมูลแจ้งผลประกอบการล่าสุด การเพิ่มทุน/ลดทุน การประกาศจ่ายเงินปันผล และอื่นๆ จากคุณ : สาระขัน เขียนเมื่อ : 28 พ.ค. 54 08:18:42

ความคิดเห็นที่ 2 การดู P/E Price/Earning Ratio เป็นการดูว่า ราคาหุ้นสูงเกินไปหรือไม่ คำนวณได้จาก เอาราคาหารด้วยผลกำไรต่อหุ้น ออกมาเป็นกี่เท่า ถ้าสูง ก็แสดงว่า ราคาสูง P/E ควรจะอยู่ ไม่เกิน 10-12 เท่า หุ้นที่มี P/E สูงมากเช่น มากกว่า 30 เท่า ให้ประเมินในเบื้องต้น ได้เลยว่า เป็นหุ้นปั่น แม้จะเป็นตัวที่เขามาวิเคราะห์ว่าผลประกอบการจะเติบโต แบบก้าวกระโดด ผมก็ไม่เสี่ยงซื้อครับ เพราะมันเป็นสิ่งที่ยังไม่เกิด ยังไม่แน่นอน ดู PTL เป็นตัวอย่าง ก่อนหน้าวิเคราะห์อนาคตสดใส หลายคนไปซื้อที่ราคาสูงมาก ก่อนหน้าผมเคยเขียนเตือน แต่ราคาลงมาตอนนี้ ผมก็ซื้อ ข้อมูลในอดีตและปัจจุบัน เห็นได้ชัดเจน ไม่ต้องคาด ไม่ต้องเดา หุ้นมีหลายร้อยตัวในตลาด เราเลือกได้ หาดูให้ดีครับ การจะดู P/E ก็เข้าไปที่เวบของตลาด แล้วไปที่แถบ ข้อมูลบริษัท/หลักทรัพย์ ไล่ลงมาที่ ตราสารทุน ตามด้วย ข้อมูลรายบริษัท/หลักทรัพย์ ไปที่รายชื่อบริษัท ซึ่งเรียงตามตัวอักษร แล้วเลือกบริษัทที่ต้องการ แล้วไปคลิกที่แถบ งบการเงิน/ผลประกอบการ ก็จะได้ข้อมูลออกมา จะลองคลิกไปดูเลยก็ได้ http://www.set.or.th/set/companyhighlight.do?symbol=BANPU&language=th&country=TH ผมเอาข้อมูลของ BANPU มาให้ดูเป็นตัวอย่าง จะเห็นได้ว่า P/E 6.54 เท่า ณ ราคา 750 บาท ถ้าราคาตลาดเปลี่ยน P/E ก็จะเปลี่ยน ดู P/E ปี 2551 อยู่ที่ 6.54 เท่า เท่ากับตอนนี้พอดีเปะ ถ้ามีคนมาซื้อ P/E ขยับขึ้นไปเป็น 10 เท่า เท่ากับปี 2552 กับ 2553 ราคาก็จะขยับขึ้นไปที่ 910 บาท (คิดจากกำไรต่อหุ้น 91 บาท) แก้ไขเมื่อ 29 พ.ค. 54 09:34:53 แก้ไขเมื่อ 28 พ.ค. 54 12:27:57 แก้ไขเมื่อ 28 พ.ค. 54 11:08:20 จากคุณ : สาระขัน เขียนเมื่อ : 28 พ.ค. 54 08:21:34

ความคิดเห็นที่ 3 การดูผลประกอบการที่ผ่านมา ก็ดูที่เดียวกัน แต่ดูด้านบน ให้ดูที่ กำไรต่อหุ้น จะเห็นได้ว่า ตั้งแต่ปี 2550-2553 มีกำไรต่อหุ้น 24.49 33.96 52.36 และ 91.00 บาท ตามลำดับ งวดล่าสุด (งวด 3 เดือน) มีกำไรต่อหุ้น 33.72 บาท ถ้ากำไรต่อไปเท่าเดิม ทั้งปีจะมีกำไร 33.72 x 4 = 134.88 บาทต่อหุ้น กำไรเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง แม้ต่อไปจะลดลง ก็ไม่น่าจะต่ำกว่าปีก่อนหน้า จากคุณ : สาระขัน เขียนเมื่อ : 28 พ.ค. 54 08:23:56

ความคิดเห็นที่ 4 ขอบคุณค่ะ จากคุณ : nareesom เขียนเมื่อ : 28 พ.ค. 54 08:26:33

ความคิดเห็นที่ 5 การดูราคาย้อนหลัง ก็ไปดูในส่วนที่เดิม คลิกที่แถบ ราคาย้อนหลัง จะมีราคาให้ดูย้อนหลังไป 6 เดือน BANPU ผมก็เล็งไว้นานแล้ว เพราะราคาไหลลงมาต่ำกว่าพื้นฐานมาก แต่ตอนราคากำลังไหลลง แม้จะเป็นหุ้นพื้นฐานดีราคาต่ำ ก็ต้องใจเย็น เพราะเท่าที่อ่านมา เห็นว่า MSCI จะลดน้ำหนักการลงทุนของ BANPU ก็คือว่า ต่างชาติที่ซื้อไว้ก่อนหน้า จะเอาออกมาขาย อันนี้ ยิ่งน่าซื้อ เพราะราคาไม่ได้ลงเพราะผลประกอบการจะแย่ลง นึกถึง LH เมื่อไม่นาน ก็เป็นแบบนี้ MSCI ถอดออกจากการคำนวณ เหตุผลแค่นี้เอง ราคาไหลรูดลงไปต่ำกว่า 5 บาท ผมก็ซื้อครับ แล้วก็ขายทำกำไรไป 5 บาทกว่า ราคาตอนนี้ ยังเกิน 6 บาท BANPU ราคาเริ่มไหลลงมานานพอควร ผมก็จ้องอยู่ คิดว่า จะเข้าซื้อตอนใกล้ 720 บาท แต่ก็ใจยังร้อน ไปซื้อที่ 742 ยังไหลลงต่อ ก็ไปซื้อเพิ่มที่ 718 แล้วราคาก็ดีดกลับ ผมขายที่ 742 ครึ่งหนึ่ง ขึ้นต่อไปถึง 768 แล้วก็ไหลลงอีก ผมซื้อกลับที่ 722 ยังมีลงไป Low เดิม 718 แล้วขึ้นมาอีก ผมก็ขาย 742 ครึ่งหนึ่ง ตอนนี้อยู่ที่ 750 ผมยังเหลือ ๑ ไม้ ทะยอยซื้อ ทะยอยขาย ตามสไตล์ผม เพราะเล่นแบบปลอดภัยครับ ใครอ่านกระทู้ผมมาตลอด จะเห็นว่า ผมไม่มีขาย Cut Loss มีแต่ขายทำกำไร กับ ขายหมู ผมแสดงรายการซื้อขาย กับ พอร์ต ให้ดูโดยตลอด คือแสดงให้เห็นการเล่นของผม แม้จะต้องรอนานหน่อย ก็รอได้ อย่าง LHK ผมซื้อมาก่อนหน้า มีซื้อขาย ซื้อขาย มีขายไป แล้วซื้อกลับ ต้นทุนในพอร์ตสูงกว่า 3 บาท แต่ต้นทุนจริงต่ำกว่า 3 บาท ผมแนะนำให้ซื้อ ตอน 3 บาท หรือต่ำกว่า บางคนอาจซื้อที่ 2.96 ราคายังไหลลงไป 2.84 แล้วราคาก็ดีดกลับมาเกิน 3 บาท ผมเดาว่า หลายคนคงขายไป แต่หวังว่า จะไม่ขาย Cut Loss นะครับ แล้วราคาก็ขึ้นไปอีก เมื่อวานนี้ ผมก็ขายไป ๑ ไม้ 3.44 เหลืออยู่ ๒ ไม้ ราคาตอนนี้อยู่ที่ 3.32 อีกประการหนึ่ง แม้จะเป็นหุ้นที่พื้นฐานดี ราคาดูแล้ว ก็ไม่สูง P/E ก็ค่อนข้างต่ำ แต่เมื่อดูราคาย้อนหลังแล้ว ราคาขึ้นมาสูงมากแล้ว เช่น IVL อันนี้ ผมไม่ซื้อครับ เพราะโอกาสที่ราคาจะขึ้นต่อ มีไม่มาก มีโอกาสจะถูกเทขายทำกำไร ราคาไหลลง ยิ่งถ้าตลาดปรับฐานเป็นเวลานาน ราคามีโอกาสจะไหลลงต่อ เงินลงทุนเรามีจำกัด ไปเลือกตัวอื่นดีกว่า หรือ ถ้าจะซื้อก็ต่อเมื่อ ราคาไหลลงมา ถึงจุดที่อยากซื้อครับ แก้ไขเมื่อ 28 พ.ค. 54 09:21:46 แก้ไขเมื่อ 28 พ.ค. 54 09:19:47 แก้ไขเมื่อ 28 พ.ค. 54 09:15:52 จากคุณ : สาระขัน เขียนเมื่อ : 28 พ.ค. 54 08:28:11

ความคิดเห็นที่ 6 การดูอัตราการจ่ายเงินปันผลที่ผ่านมา ก็ดูที่เดิม ตั้งแต่ปี 2550 เป็นต้นมา จะเห็นว่า อัตราเงินปันผลน้อย แต่ก็ต้องดูราคาเปรียบเทียบด้วย เช่นราคาปี 2550 อยู่ที่ 400 บาท ปี 2551 อยู่ที่ 228 บาท ถ้าใครไปซื้อตอนนั้น คิดจากเงินปันผลตอนนี้ ก็อยู่ในอัตราสูงขึ้น อีกอย่างหนึ่งที่จ่ายไม่สูง เพราะยังมีภาระเงินกู้ที่ต้องชำระก่อน เพื่อลดค่าใช้จ่ายดอกเบี้ย แต่ได้ยินมาว่า กำลังจะออกหุ้นกู้เพื่อลดดอกเบี้ยลง หรือเขาอาจจะสำรองเงินไว้ เพื่อขยายธุรกิจ สร้างผลกำไรมากขึ้น แก้ไขเมื่อ 29 พ.ค. 54 09:39:17 แก้ไขเมื่อ 29 พ.ค. 54 09:38:35 จากคุณ : สาระขัน เขียนเมื่อ : 28 พ.ค. 54 08:29:44

ความคิดเห็นที่ 7 การดูสถานะทางการเงิน สิ่งสำคัญหลังสุดที่ควรดู ก็ไปดูจากงบการเงิน งบการเงินที่สำคัญก็มีงบดุลกับงบกำไรขาดทุน แต่สถานะทางการเงินก็ดูจากงบดุลหรืองบแสดงฐานะการเงิน ในส่วนของ งบการเงิน/ผลประกอบการ ก็คลิกที่ งบการเงินล่าสุด อยู่ด้านบนขวา ใต้ ราคาย้อนหลัง คลิกไปดูได้เลย http://www.set.or.th/set/companyfinance.do?type=balance&symbol=BANPU&language=th&country=TH สิ่งสำคัญที่ควรดู ในงบแสดงฐานะการเงิน ได้แก่ เงินสดคงเหลือ มี 15,152.87 ล้านบาท สินทรัพย์รวม 200,201.57 ล้านบาท หนี้สินรวม 123,632.42 ล้านบาท มีทุนที่ออกและชำระเต็มมูลค่าแล้ว 2,717.48 ล้านบาท มีกำไรสะสมยังไม่ได้จัดสรร 57,269.50 ล้านบาท (เหลือเยอะมาก เมื่อเทียบกับทุน) ในงบกำไรขาดทุน ที่สำคัญ ได้แก่ ต้นทุนทางการเงิน ก็คือค่าใช้จ่ายดอกเบี้ย 770.89 ล้านบาท จากคุณ : สาระขัน เขียนเมื่อ : 28 พ.ค. 54 08:31:12

ความคิดเห็นที่ 8 ลองเข้าไปดูข้อมูลของหุ้นยอดนิยมคือ TRUE สิครับ ถ้าใช้พื้นฐาน ราคา 4 บาท ก็ไม่ควรซื้อ แต่อย่างที่ผมบอก เล่นได้ทุกตัวครับ ถ้าพร้อมที่จะ Take Profit และ Cut Loss บางคน ไปเล่นหุ้นที่ราคามันสูงเกินพื้นฐานมากมาย ประเภทมีเจ้าเข้าประทับ พอถึงเวลา เขาออกของหมด แล้วเลิกเล่น ปล่อยให้คนที่ถืออยู่เล่นกันเอง ราคาก็จะไหลลง ไหลลง ใครไม่ยอมขาย Cut Loss ก็จะติดดอย และหุ้นพวกนี้ ส่วนมาก จะไม่มีเงินปันผล ถือไว้ ก็ไม่ได้อะไร ถ้าไม่ชอบ Cut Loss อยากเล่นเก็งกำไรเป็นหลัก ก็เล่นกับหุ้นพื้นฐานดี มีจ่ายเงินปันผลนะครับ ถ้าจะใช้เทคนิค ก็ไม่ต้องดูอะไร ดูกราฟอย่างเดียวครับ และต้องมีวินัย มีสัญญาณให้ขาย ก็ต้องขาย ขาดทุนก็ต้องขาย เดี๋ยวกลับไปซื้อใหม่ได้ อย่าไปหวังแบบเลื่อนลอยว่า เดี๋ยวราคามันคงจะดีดกลับขึ้นมา มั้ง จากคุณ : สาระขัน เขียนเมื่อ : 28 พ.ค. 54 08:48:11

ความคิดเห็นที่ 9 คุณสาระขันวิเคราะห์ SIRI บ้างไหมเอ่ย ? ( ตัวนี้อย่างอื่นดีหมดยกเว้นสถานะทางการเงินแต่ผมชอบเพราะเขาเริ่มมีแผนการลงทุนที่มาถูกทาง ^ ^ ) จากคุณ : everandever เขียนเมื่อ : 28 พ.ค. 54 08:56:30

ความคิดเห็นที่ 10 เรื่อง Banpu นี่ถ้าไจำไม่ผิดผมนี่ตัวบ้าคนแรกๆเลยนะตอนมันเริ่มอ่อนตัวลงมา แต่... อดนอยไม่ได้หากคิดเปรียบเทียบกับหุ้นกลุ่ม A-share ในจีน เพราะว่าถ้าหากโภคภัณท์อย่างถ่านหินจะมาแรงต่อๆไปจริงผมก็ไม่เข้าใจว่าทำไมมันถึงได้โดนกดราคากันทั้งโลกแบบนี้เหมือนกับว่าตลาดคาดการอะไรบางอย่างที่ผมไม่เข้าใจในอนาคตอันใกล้ ไอ้ผมพอไม่เข้าใจปัจจัยลบก็เลยไม่กล้าเข้าไปเล่นต่อ (เรื่องถอดจาก MSCI ผมว่าก็เป็นปัจจัยนะแต่ยิ่งทำให้ผมยิ่งกังวลมากกว่าเพราะหุ้นอย่าง Banpu มันโคตะระ Bluechip ไร้คู่แข่งแต่ทำไมถึงโดนถอดออก งงมาก???) ยิ่งงไปงงมาเลยไม่อยากเล่นไปเลย พอมามอง SIRI อย่างน้อยปัจจัยลบมันชัดเจนดี ไม่ว่าสถานะการเงินที่ค่อนข้างเสี่ยง, dilution effect หรือแม้แต่การขึ้นดอกเบี้ยหรือการเลือกตั้ง ผมชอบอะไรๆที่มันชัดเจนครับเพราะผมเป็นพวกชอบเทหมดหน้าตัก ^ ^ จากคุณ : everandever เขียนเมื่อ : 28 พ.ค. 54 09:02:29

ความคิดเห็นที่ 11 จริงๆผมชอบแนวคุณสาระขันมากๆเลยนะครับ มันอารมณ์แบบคนเลือกซื้อของเก่าตามคลองถมหรือสวนจตุจักร ผมก็แนวเดียวกับคุณนี่ล่ะ จากคุณ : everandever เขียนเมื่อ : 28 พ.ค. 54 09:05:49

ความคิดเห็นที่ 12 ขอบคุณสำหรับข้อมูลดีๆครับ จากคุณ : มิตรรักแฟนเพลง (suratanonin) เขียนเมื่อ : 28 พ.ค. 54 09:06:36

ความคิดเห็นที่ 13 แจ๋วไปเลย จากคุณ : แม่น้องคนจน (คนจนที่อยากรวย) เขียนเมื่อ : 28 พ.ค. 54 09:06:40

ความคิดเห็นที่ 14 แอบอ่านกระทู้คุณสาระขันมาตลอดเหมือนหลายๆคน เป็นอีกหนึ่งแนวทางที่ได้นำมาประยุกต์ใช้ (แม้ไม่เคยซื้อตามซักตัว) ยืนยันว่าได้ผลดีมากๆครับ (กำไร)  แต่ที่สำคัญที่สุดคือ .. ทำให้เล่นหุ้นมีความสุขขึ้นเยอะครับ ขอบคุณมากๆนะครับ จากคุณ : flight of the bumble bee เขียนเมื่อ : 28 พ.ค. 54 09:07:49

ความคิดเห็นที่ 15 จากคุณ : แจ้ห่ม47 เขียนเมื่อ : 28 พ.ค. 54 09:09:40

ความคิดเห็นที่ 16 -_-" '..อารมณ์แบบคนเลือกซื้อของเก่าตามคลองถมหรือสวนจตุจักร..' จากคุณ : everandever Like !!! 555+ จากคุณ : flight of the bumble bee เขียนเมื่อ : 28 พ.ค. 54 09:16:59

ความคิดเห็นที่ 17 แนวของคุณสาระขันนี่ผมขอเรียกว่า 'ตาดีได้ตาร้ายเสีย' ละกันนะครับ  ^ ^ จากคุณ : everandever เขียนเมื่อ : 28 พ.ค. 54 09:17:54

ความคิดเห็นที่ 18 ^^ ขอมองต่างมุม กับท่าน Everander   'ตาดีได้ตาร้ายเสีย' มันเหมือน 50 50 น่าจะเป็นการ เลือกซื้อ ของลดราคามากกว่านะครับ จากคุณ : K'DUS เขียนเมื่อ : 28 พ.ค. 54 09:33:02

ความคิดเห็นที่ 19 ขอบคุณมากๆ เลยครับ เป็นแนวทางที่ ดีมากๆ บางทีไม่รู้จะเริ่มยังไง ก็ได้แนวของคุณ สาระขัน นี่แหละ มาเป็นแนว ขอบคุณอีกคี้งที่แบ่งปันครับ จากคุณ : Mi Lady & Mi Lord เขียนเมื่อ : 28 พ.ค. 54 09:37:19

ความคิดเห็นที่ 20 ขอบคุณมากเลยนะครับ สำหรับการแบ่งปัน รอติดตามอ่านต่อนะครับ จากคุณ : murmur เขียนเมื่อ : 28 พ.ค. 54 09:39:07

ความคิดเห็นที่ 21 ดีครับ จากคุณ : Untrue เขียนเมื่อ : 28 พ.ค. 54 09:39:45

ความคิดเห็นที่ 22 คุณ everandever SIRI ผมซื้อก่อน XD ที่ 5.70 เพราะมีจ่ายทั้งเงินปันผล มีแจกหุ้นฟรี เฉพาะหุ้นฟรี 6:1 ก็มีส่วนลดแล้ว 16.66% แต่พอไปดู PRIN หลัง XD ราคาไหลลงตลอด SIRI พอขึ้น XD มีกำไร ผมก็ขายออกหมด กำไรลดลง เมื่อเทียบกับถ้าขายก่อน XD พอหุ้นใหม่เข้า ราคาเปิดเท่าวันก่อนหน้า 4.66 ผมก็ขายหุ้นฟรีออกหมด ได้กำไรมาเล็กน้อย เพราะผมดูอาการแล้ว ราคามันไหลลงไม่หยุด สังเกตุดูแล้ว คาดว่า ขาใหญ่กำลังทะยอยปล่อยของ อันนี้ จะทำให้ราคาขึ้นยาก ว่าซื้อได้ถูก มันจะมีถูกกว่า ลองดูนะครับ ช่วงภาคเช้า จะมี offer ไม่มาก มีเคาะทำราคาให้ออกเขียว 1-2 ช่อง พอมาในช่วงบ่าย Offer จะมากขึ้น แล้วก็มีทะยอยขาย ปิดออกแดง วันละช่อง สองช่อง ราคาทำ low ไปเรื่อย เมื่อวานนี้ ก็ปิดออกแดง จากที่ก่อนหน้าทำราคาปิดขึ้นไป 2 ช่อง อีกอย่าง ผลประกอบการ กำไรลดลง ข้อมูลเรื่องการขายบ้านหรือรายได้ข้างหน้า ผมไม่มีครับ อย่างที่บอก ผมดูผลประกอบการในอดีตกับหลังสุดเป็นหลัก เลยยังไม่แน่ใจที่จะเข้าซื้อ และมีตัวอื่นที่น่าสนใจกว่า เช่น BANPU KGI รอสอยเพิ่ม แก้ไขเมื่อ 28 พ.ค. 54 10:34:08 จากคุณ : สาระขัน เขียนเมื่อ : 28 พ.ค. 54 09:41:29

ความคิดเห็นที่ 23 ผมตามอ่านกระทู้คุณสาระ ทุกกระทู้ครับอ่านง่ายดี ผมก็เล็งๆ LHK ไว้เหมือนกันครับ เห็นเค้าเก็งงบกันว่าจะมีกำไรเพิ่มขึ้น แต่ผมก็ไม่กล้าที่จะเข้าที่ราคานี้ #9 คุณ ever ขออนุญาตแจมนะครับ SIRI มันมีหนี้เยอะครับถ้าเทียบกับตัวอื่นที่อยู่ในธุรกิจเดียวกัน ภาระมันหนักมากยิ่งปีนี้เค้าคาดว่ารายได้อาจจะไม่เท่ากับปีที่แล้ว เพราะ demand มันลดลง มีหนี้ขนาดนี้ก็ยิ่งมีภาระมากไปอีก จากคุณ : sweetoil เขียนเมื่อ : 28 พ.ค. 54 09:47:11

ความคิดเห็นที่ 24 ตามอ่านของคุณสาระขันทุกวันเลย คิดว่า น่าจะได้แนวทางในการเล่น และการมองหุ้นได้ดีขึ้น กำไรตอนนี้ ก็ยังได้อยู่ เก็บเป็นรอบ ๆ ชอบเป็นชาวสวนเหมือนกัน แต่ต้นทุน เพิ่งเล่น เมื่อต้นปีนี้เอง สูงกว่าคุณสาระขัน หลายอยู่ แต่ต้องท่องไว้ในใจเลย วินัย ๆ จากคุณ : บวกกันไปสุดขั้วเลย เขียนเมื่อ : 28 พ.ค. 54 09:51:04

ความคิดเห็นที่ 25 แฟนคลับหนาแน่นเช่นเดิม                   .............  สวดยอดค่ะ                                         ขอบคุณนะคะ จากคุณ : มองได้..แต่อย่าชอบ เขียนเมื่อ : 28 พ.ค. 54 09:57:27

ความคิดเห็นที่ 26 ใช่ครับคุณสาระขัน SIRI มันทำท่าแบบนั้นจริงๆ แต่สังเกตุดีๆตามเนื้อเรื่องนะครับ ผมมองว่าคุณเศรษฐาเข้ามาซื้อหุ้น SIRI ที่ 5 บาทแพงกว่าผู้ถือหุ้นเดิมเยอะ การทำการเพิ่มทุนเป็นกลเพื่อที่จะลดราคาต้นทุนในมือตัวเองให้เท่ากับคนอื่นๆและสามารถเพิ่มกระแสเงินสดเพื่อทำโรงงานผนังสำเร็จให้สำเร็จได้อีกด้วย ซึ่งกลตรงนี้ผู้ถือหุ้นใหญ่เขารู้ก่อนเลยเทขายทำกำไรออกมามากมายตั้งแต่ 5.70 - 6 บาท เรื่องกระแสเงินสดที่คุณ sweetoil กล่าวก็เป็นความจริงครับ แต่ผมมองว่าอาจเป็นกลเม็ดการทำตัวเลขให้เป็นไปดังกล่าวเพื่อที่จะเพิ่มทุนได้ยังไงล่ะครับ หลังจากที่คุณเศรษฐาได้ตัวเลขต้นทุนเท่าๆกับคนอื่นๆแล้ว ผมมองว่า SIRI กำลังจะเดินเครื่องครั้งสำคัญแล้วล่ะ ถ้าเริ่มเก็บตัวนี้ผมมองไปอีก 2 ปีครับคิดว่าไม่น่าพลาดเพราะเคยลองจังหวะ'เดินเครื่อง'ของ PS, LPN และ SPALI มาแล้ว เชื่อว่าครั้งนี้ก็มองจังหวะของ SIRI ไม่พลาดเหมือนกันครับ จากคุณ : everandever เขียนเมื่อ : 28 พ.ค. 54 10:01:18

ความคิดเห็นที่ 27 SIRI นี่'ตาดีได้ตาร้ายเสีย'แน่นอนครับ ผมเองก็ไม่รู้ว่าตาจะดีอย่างที่คิดจริงหรือเปล่า ? ภายในสิ้นปีนี้ก็รู้ เหอะๆ จากคุณ : everandever เขียนเมื่อ : 28 พ.ค. 54 10:03:11

ความคิดเห็นที่ 28 ลงชื่อว่าเป็นแฟนคลับ ..อิอิ.. จากคุณ : ส่งเสียน้องออส เขียนเมื่อ : 28 พ.ค. 54 10:11:28

ความคิดเห็นที่ 29 ขอบคุณ คุณ everandever สำหรับข้อมูลครับ เรื่องราคา ส่วนมาก ขาใหญ่ จะเป็นคนนำ ดูอย่าง CPALL เมื่อไม่นาน ถูกเทขาย ไหลลงตลอด ผมจ้องมานาน ซื้อได้ถึง 32.75 บาท ตั้งใจจะถือยาวบางส่วน แต่ก็ขายหมดหลังสุด 38.75 บาท กลายเป็นขายหมู เพราะราคามันวิ่งขึ้นไป 47 บาท แสดงว่า มีขาใหญ่ อีกฝ่าย  มาซื้อ ใครดู MCS เมื่อวานก็จะเห็น ราคาวันก่อนหน้า 11.30 บาท ผมก็รอซื้อกลับ มีตั้ง Bid รอซื้อไม่ใช่น้อย ถูกขาใหญ่ เทขายพรวด ไหลลงไป offer 10.80 แป๊บนึง ผมได้แต่จดๆจ้องๆ เอายัง เอายัง ปรากฎว่า ขาใหญ่อีกฝ่ายซื้อสวนกลับ ตั้ง Bid มากขึ้น แล้วเคาะซื้อสวน กลับขึ้นไปปิด 11.20 ออกแดงช่องเดียว จากคุณ : สาระขัน เขียนเมื่อ : 28 พ.ค. 54 10:11:32

ความคิดเห็นที่ 30 ส่วน PTL มีขาใหญ่ คอยกดราคาอยู่ฝ่ายเดียว ยังไม่มีขาใหญ่ มาซื้อสวน วิธีการ เหลือรับประทานครับ มีตั้ง Bid หลอก มีซื้อสวน ทำท่าจะขยับขึ้น แล้วก็วางขาย รายย่อย เคาะซื้อกันใหญ่ เขาก็เติมขวาไม่หยุด พอเริ่มจะเคาะซื้อน้อยลง เทขายพรวด มาตั้งราคาขายต่ำลง แล้วก็ทำแบบเดิมอีก ไปปิด Low ของวัน ผมก็โดนหลอก กับเขาด้วย ซื้อมา 24.60 กับ 24.10 ก่อนหน้า ก็ทำกำไร มาหลายรอบ จะจ่ายเงินปันผลอีก 1.35 บาทต่อหุ้น ใครซื้อ 23.50 บาท เท่ากับว่า ซื้อที่ราคา 22.15 บาท คาดว่าใกล้ XD คงจะมีคนมาซื้อเยอะ (เข้าข้างตัวเอง ) แต่ผมยังดูอยู่ครับ ถ้าคิดว่านิ่ง อาจจะซื้ออีก ๑ ไม้ จากคุณ : สาระขัน เขียนเมื่อ : 28 พ.ค. 54 10:22:24

ความคิดเห็นที่ 31 ขอบพระคุณค่ะ (`_´)ゞ จากคุณ : tua_tuanoi เขียนเมื่อ : 28 พ.ค. 54 10:32:43

ความคิดเห็นที่ 32 พอคุณสาระขันพูดถึง CPALL เลยนึกถึง CPALL เมื่อ 5 ปีก่อนตอนนั้นยังเป็น CP7-11 ราคาไหลไป 5 บาทกว่าๆเพราะเจ๊งมาจากธุรกิจเมืองจีนผมเคยยังเข้าเก็บไว้เลย (ตอนนั้นรวยจาก LPN พอดีที่มันขึ้นไป 5.25 บาท) Banpu ตอนเรือขนถ่านหินล่มไหลไป 127 บาทผมก็เคยลองช้อนเอาไว้พอ 176 ก้ปล่อยไปตามระเบียบ โอกาสเก็บหุ้นดีๆมันต้องสวนครับแต่จะทนทายาทถือได้นานๆต้องไม่โลภมาก ซึ่งอันหลังนี้ผมต้องไปฝึกฝนใหม่ :P พุดถึงหุ้นดีๆพวกนี้เวลาไหลจะมีอะไรแปลกๆเช่น โวลุ่มอยุ่ๆหายไป วิธีเก็บหุ้นดีๆพวกนี้ของผมคือเข้าตอนโวลุ่มหายไปสุดๆนี่แหละ ตอนเก็บ SPALI ช่วง 3.12 หรือ AP ตอน 2.30 นี่อารมณ์แบบเก็บ SIRI ตอน 4.56 นี่เลยคือซื้อได้แค่แสนหุ้นใน 1 ชั่วโมง หลังจากซื้อสำเร็จแล้วก็ทุบให้หลุด 1 ช่องแต่ไร้โวลุ่มแล้วพอไม่มีใครเก็บอีกซัก 1 ชั่วโมงค่อยมีโวลุ่มมาเสริมให้เสียวเล่นๆ ผมว่าไม่น่าพลาดนะครับ...ตึกๆๆ ( แอบมีเสียว อิ อิ ) จากคุณ : everandever เขียนเมื่อ : 28 พ.ค. 54 10:34:35

ความคิดเห็นที่ 33 ส่วน PTL นี่ผมเคยลองตอน 25 บาทขายไป 25.75 บาทก่อนไหลพรวดๆๆ หุ้นตัวนี้ทำให้ผมนึกถึง ATC ก่อนควบรวมเป็น PTTAR ยังไงไม่รู้ หุ้นปิโตรเคมีขึ้นมาจากตัวเลขหลักเดียว พอมาที่ 50 บาท PE ยังต่ำติดดินเพราะผลประกอบการออกมาดี หลังจากนั้นก็ ... หวาดเสียวจริงๆครับ หลังจากนั้นผมก็จำหุ้นปิโตรเคมีมาตลอดว่า 'ห้ามดูผลประกอบการในอดีตเป็นอันขาด' หุ้นอสังหาก็อีกตัวผลประกอบการปัจจุบันคือยอดขายในอดีตจะช้อนซื้อต้องตามดูยอดขายโครงการปัจจุบันเป็นหลัก จากคุณ : everandever เขียนเมื่อ : 28 พ.ค. 54 10:39:05

ความคิดเห็นที่ 34 ขอบคุณครับ ขอเป็ยสาวกด้วยคนครับ จากคุณ : Hippo_จอมพลัง เขียนเมื่อ : 28 พ.ค. 54 10:44:23

ความคิดเห็นที่ 35 ถามหน่อยครับว่า PTTAR กับ IRPC เปรียบเทียบกันได้ไหม จากคุณ : sweetoil เขียนเมื่อ : 28 พ.ค. 54 10:49:39

ความคิดเห็นที่ 36 PTL ผมคิด FW PE ที่ spread bopet คงที่ ROE 20 เทียบเท่าราคานี้ =PE 10 ใน 2 ปีข้างหน้า BV=2 จากคุณ : เขียนบน iPhone (opar156) เขียนเมื่อ : 28 พ.ค. 54 10:51:32

ความคิดเห็นที่ 37 คุณ sweetoil ผมไม่สันทัดกลุ่มพลังงานนะครับแต่แค่มีอารมณ์อยากแชร์ความเห็นด้วยหน่อยเอามันส์ ก็คือว่า PTTAR หรือ RPC เดิมเป็นโรงกลั่นเล็กๆก่อนควบรวม พอควบรวมเสร็จกลายเป็นบริษัทสต๊อกน้ำมันไว้เก็งกำไร บางไตรมาสกำไรเป็นพันล้านบางไตรมาสขาดทุนเป็นพันล้าน ผมล่ะมึนกบาลถ้าเอาแต่กลั่นน้ำมันขายปิโตรเคมีอย่างเดียวเชื่อว่าไม่สวิงกิ้งแบบนี้หรอก ไม่รู้เหมือนกันว่าหลังควบรวม PTTCH ทางบริษัทแม่จะมีนโยบายกับ AR ยังไงต้องติดตามต่อไป ส่วน IRPC ผมเล่นมาตั้งแต่เป็น TPI ตอนนั้นมีคนทักหลายคนว่าโรงกลั่นสนิมเขราะแบบนี้คงไปไม่ได้ไกลและสุดท้ายก้เป็นแบบที่เขาว่าจริงๆนั่นแหละ สรุปว่ากลุ่มพลังงานผมสนใจแต่หัวโจกพวก PTT, PTTEP และ Banpu เท่านั้น จากคุณ : everandever เขียนเมื่อ : 28 พ.ค. 54 10:58:08

ความคิดเห็นที่ 38 ขอบคุณพี่สาระขัน และทุกความเห็นคับ ได้ความรู้มากเลยคับ จากคุณ : YF-01 เขียนเมื่อ : 28 พ.ค. 54 10:58:17

ความคิดเห็นที่ 39 ไตรมาสแรกนี้ผมซื้อ PTTAR 37.50 บาทขายไป 42 บาทก็พอใจแล้วกับการเล่นเก็งกำไรสต๊อกน้ำมันปีนี้ จากคุณ : everandever เขียนเมื่อ : 28 พ.ค. 54 10:59:23

ความคิดเห็นที่ 40 ขอบคุณครับ นอกจากได้ความรู้ดีๆ จากคุณสาระขัน ยังได้ความคิดเห็นดีๆ จากคุณ everandever ด้วย น่าจะดันเป็นกระทู้แนะนำนะครับ จากคุณ : เด่นดวง เขียนเมื่อ : 28 พ.ค. 54 11:02:26

ความคิดเห็นที่ 41 สรุปว่าผมว่าหุ้นทุก sector มีตัวดีๆอยู่นั่นแหละครับแต่คนเล่นสมควรมีพื้นฐานความรู้ใน sector นั้นๆ และเลือกเล่นตัวดีๆใน sector นั้นๆที่ตัวเองถนัด เพื่อนผมคนนึงเขาอยู่ใน sector อุตสาหกรรมแถบมหาชัย ไอ้เราเคยบอกมันว่าธุริกจส่งออกน่าจะแย่เพราะดอลล่าห์แข็ง+เศรษฐกิจดลกทรุด มันว่าไม่แน่หรอกตัวมันเองยังแนะนำผมให้ซื้อ TUF ตอน 25 บาทเลยมันบอกว่าธุรกิจเขาดี ไอ้ผมไม่ได้อยุ่ด้านเดียวกับมันเลยไม่เชื่อ ตอนนี้ก็เฉลยแล้ว ผมว่าทุกคนควรเล่นหุ้นในกลุ่มธุรกิจที่ตัวถนัดจะดีที่สุดครับ ป.ล. แอบเข้าไปดู Thaivi ห้อง PTL แล้วอดอมยิ้มไม่ได้ กลายเป็นว่านักลงทุนรายย่อยหลายๆคนเข้าใจขั้นตอนการ Packaging มากกว่านัก Packaging จริงๆเสียอีกตอนนี้ จากคุณ : everandever เขียนเมื่อ : 28 พ.ค. 54 11:03:44

ความคิดเห็นที่ 42 เป็นประโยชน์มากจริงๆค่ะ จากคุณ : มือใหม่ (blhablhablabla) เขียนเมื่อ : 28 พ.ค. 54 11:09:57

ความคิดเห็นที่ 43 PTTAR นี่หุ้นตัวแสบเลยนะครับเพราะแม้แต่คนในวงการพลังงานยังเสร็จมาแล้วหลายรายตอนมัน IPO ก็ใครมันจะรู้ล่ะว่ามันจะกลายเป็นหุ้นเก็งกำไรสต๊อกน้ำมัน เหอะๆๆ แก้ไขเมื่อ 28 พ.ค. 54 11:13:32 จากคุณ : everandever เขียนเมื่อ : 28 พ.ค. 54 11:13:02

ความคิดเห็นที่ 44 พูดถึงเรื่อง'สี่เท้ายังรู้พลาด'นึกถึงตอนตัวผมเองไปเล่น BTS ตอนปีที่แล้วเพราะเห็นมันถางที่ดินตรงสถานีนานจะทำโรงแรม 6 ดาว มีอยู่วันนึงเห็นมันเอาป้ายก่อสร้างออกเกือบขายทิ้งแทบไม่ทัน ซื้อ .84 ขายไป .82 บาท แฮะๆ จากคุณ : everandever เขียนเมื่อ : 28 พ.ค. 54 11:15:33

ความคิดเห็นที่ 45 แวะมาเข้าคลาสครับ  ผมเล่นสายผสมครับ. จะได้ไม่เบื่อ 555 แต่หลักๆจะรอราคาเริ่มนิ่งๆค่อยเข้าครับ จากคุณ : Artelrooy เขียนเมื่อ : 28 พ.ค. 54 11:16:16

ความคิดเห็นที่ 46 ขอบคุณมากค่ะ กิ๊บขออนุญาตติดไว้ก่อน จากคุณ : nusarathi เขียนเมื่อ : 28 พ.ค. 54 11:16:34

ความคิดเห็นที่ 47 คุณ Artelrooy คลาสไม่คลาสมันขึ้นอยู่กับ sector ที่ตัวเราเองถนัดครับ เอาง่ายๆที่สุดเลยนะพอผมออกไปจากห้องสินธรนี่เป็นคนโง่บรมโข่งเลยนะครับ หน้าแหกกับเรื่องโง่ๆมาแล้วทั้งจากห้องรัชดา (น้ำมันดีเซลผสมไม่ผสมยังแยกไม่ออก), ห้องสัตว์เลี้ยง (โรคกลัวขี้หมา) และห้องศุภชลาศัย ( งบทีมฟุตบอลมาจากไหน ) ... จากคุณ : everandever เขียนเมื่อ : 28 พ.ค. 54 11:21:12

ความคิดเห็นที่ 48 โหวตให้เลยค่ะ.. ถ้านู๋หลุดดอยลงมาทุกตัว จะมาเอาดีแบบพื้นฐานม่างงงงง จากคุณ : จุ๊กกุ๊กจัง เขียนเมื่อ : 28 พ.ค. 54 11:22:37

ความคิดเห็นที่ 49 คุณสาระขันมีประสบการณ์ 10 ปีผมเลยชอบคุยด้วย เหมือนจานปลาที่แกผ่านร้อนผ่านหนวมาเยอะ ไอ้ตัวผมเองประสบการ์เล่นเองอาจจะน้อยซัก 5 - 6 ปี แต่ผมเป็นเด็กที่โตในตลาดหุ้นครับตั้งแต่สมัยยังใช้กล้องส่องทางไกลดูกระดานเขียน ตอนนั้นไม่รู้เรื่องอะไรหรอกครับรู้แต่เค้กอร่อยเติมไม่อั้น นั่งในรถก็มีคนท่องต้วเลขเร็วๆในวิทยุเพลงเพองไม่เคยได้ฟังกับใครเขา เรื่องอื่นไม่รู้เรื่องแบบเด็กคนอื่นเขาเลยครับเป็นวัยเด้กที่น่าเศร้า เรียนจบโตมาก็เลยทำมาหากินอย่างอื่นไม่เป็น พูดง่ายๆไปขายก๋วยเตี๋ยวขายกาแฟก็คงมีแต่ช้อนราคาถั่วงอกราคาน้ำตาลเก็งกำไรไปวันๆไม่รู้จักทำอย่างอื่นแน่ๆ ผมก้เลยจำเป็นต้องเล็งหุ้นพื้นฐานอย่างเดียวและ panic ล้างพอร์ตอยู่เรื่อยๆเพราะผมไม่สามรถติดอยเหมือนคนอื่นๆได้ หากผมติดดอยนานๆผมจะมีสภาพไม่ต่างจากคนตกงานนั่นเอง ... สิ่งเดียวที่ผมรู้แน่ๆคือ อาชีพรักเล่นหุ้นนั้นเศร้านัก ตอนประสบความสำเร็จก็ไม่มีใครชื่นชมพอพลาดท่ามีแต่คนจะคอยสมน้ำหน้าซ้ำเติม แก้ไขเมื่อ 28 พ.ค. 54 11:36:07 จากคุณ : everandever เขียนเมื่อ : 28 พ.ค. 54 11:34:38

ความคิดเห็นที่ 50 http://www.bloggang.com/mainblog.php?id=doctor-sajja&month=28-05-2011&group=12&gblog=355 ฝากไว้ให้คุณสาระขันและแฟนๆ BANPU ว่าควรจับตาเศรษฐกิจจีนดีๆนะครับเพราะเป็นผู้ใช้ถ่านหินรายใหญ่ที่สุดของโลก จากคุณ : everandever เขียนเมื่อ : 28 พ.ค. 54 11:54:40

ความคิดเห็นที่ 51 ต้องบอกว่า step ที่ผเข้ามาเล่นหุ้นใหม่ๆเหมือนคุณสาระขันอธิบายไว้ 90 % เลยครับ ต่างกันนิดหน่อย   ตอนนั้นผมดูไว้ 3 แบบคือ VI   แนวชาวสวน   และ ชาวไล่    แต่สุดท้ายก้อแพ้ความนอยของตัวเอง เลยเป็นเป็ดทำได้ไม่ดีสักอย่าง    ตอนนี้ผมเล่นแนวดูพื้นฐานแบบคุณสาระขัน  แต่กำลังพยายาม + Growth เข้าไปด้วยแต่ตัวหลังนี่หาข้อมูลเหนื่อยจิงๆ จากคุณ : Jungfrail เขียนเมื่อ : 28 พ.ค. 54 12:17:50

ความคิดเห็นที่ 52 .. จากคุณ : DarkEnemy เขียนเมื่อ : 28 พ.ค. 54 12:22:09

ความคิดเห็นที่ 53 คห.51 ^ เรื่อง Growth potential ตัวหลังนี่แหละที่ผมว่าต้องเอาหุ้น Sector ที่เราถนัดมาวิแคะ แก้ไขเมื่อ 28 พ.ค. 54 12:23:17 จากคุณ : everandever เขียนเมื่อ : 28 พ.ค. 54 12:22:48

ความคิดเห็นที่ 54 อันนี้ link ที่ผมอ่านหาข้อมูลช่วงแรกๆ เผื่อจะมีประโยชน์กับบางคนครับ http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=mhakkeaw&month=08-2005&group=1 http://inv4.asiaplus.co.th/cms/index.php?sc=educationzone-analyze http://kateep.com/forex/?page_id=38  อีกที่คือ ร้อยคนร้อยหุ้น ใน thaivi.com จริงๆมีเยอะกว่านี้แต่ link มันเข้าไม่ได้แล้ว จากคุณ : Jungfrail เขียนเมื่อ : 28 พ.ค. 54 12:27:17

ความคิดเห็นที่ 55 มือใหม่แนะนำให้อ่านครับกระทู้นี้ ตัวผมเน้นพื้นฐานเช่นกันครับ แต่จากเมื่อก่อนในพอร์ตมีหุ้นเกือบสิบตัว เริ่มโฟกัสให้เหลือน้อยลงเรื่อยๆ ทุกวันนี้เหลือแค่ 3 ตัวหลักๆ เน้นถือยาวๆโตไปกับบริษัทครับ จากคุณ : เข็มซ่อนคม เขียนเมื่อ : 28 พ.ค. 54 12:30:48

ความคิดเห็นที่ 56 การหา Growth เป็นเรื่องยากที่สุดครับ เพราะเป็นการคาดคะเน อนาคต เดาในสิ่งที่มันยังไม่เกิด ไม่แน่นอน มองจากปัจจุบัน อาจจะเห็นว่าอนาคตจะสดใสมาก แต่พอเวลาผ่านไป ปัจจัยที่เกี่ยวข้องมันเปลี่ยนแปลงได้ ใครคาดคะเน Growth ได้ถูกต้อง เข้าซื้อ แล้วถือนาน จะได้ผลตอบแทนสูงมาก ผมดูแค่ข้อมูลในอนาคตกับปัจจุบัน ก็ชัดเจน พอแล้วครับ อย่างน้อยก็ไม่ต้องไปซื้อแบบเดาสุ่ม เหมือนแทงไฮโลว์ แทงถูก ซื้อแล้ว ราคาขึ้น แล้วขายไปมีกำไร แทงผิด ซิ้อแล้ว ราคาไหลลงไม่หยุด ถ้าไม่ขายขาดทุน ก็อาจจะติดดอยนาน ยิ่งถือหุ้นที่ไม่มีเงินปันผล จิตใจจะหดหู่ เกิดความกังวล เกิดความเครียด อันนี้ หมายถึงคนที่ไม่ได้ใช้เทคนิคนะครับ ถ้าใครถือคติ ไม่ขายไม่ขาดทุน ยิ่งต้องดูราคาเปรียบเทียบกับพื้นฐานก่อนจะซื้อทุกครั้ง รวมทั้งดูราคาที่ผ่านมา ถ้าราคาขึ้นไปสูงมากแล้ว ไม่ซื้อ หรือแม้แต่ราคาจะเพิ่งย่อตัวลง ก็ไม่รีบซื้อ เพราะอาจจะถูกเทขายทำกำไร ราคาไหลลงไปใกล้จุดที่มันมา   แก้ไขเมื่อ 28 พ.ค. 54 12:45:16 จากคุณ : สาระขัน เขียนเมื่อ : 28 พ.ค. 54 12:43:04

ความคิดเห็นที่ 57 พื้นฐานของหุ้น STA ก็จัดว่ามีพื้นฐานดี Q1 ก็กำไร PE ต่ำที่ 8 แต่ตอนนี้ราคายางลดลงมามาก MACD ต่ำกว่า 0 ทำให้ราคาหุ้นไม่ไปไหนเลย ต้องร้องเพลงรออีกนานเท่าไร..... จากคุณ : Golf (Phensuk) เขียนเมื่อ : 28 พ.ค. 54 12:54:15

ความคิดเห็นที่ 58 ตอนนี้ผมเริ่มคลี่คลายแล้วว่าทำไมหุ้นโภคภัณท์หลายตัวงบออกมาดีแต่ร่วง เช่น PTL, Banpu, Sta และ TVO ความเห็นคือให้ดูจีนเท่านั้นในตอนนี้ มัวแต่ระวังหน้า-หลังกับเมกากับยุโรปอาจเจอสอยข้างจากวิกฤติในจีนได้เอาดื้อๆ จากคุณ : everandever เขียนเมื่อ : 28 พ.ค. 54 12:59:46

ความคิดเห็นที่ 59 ใครจะไปรู้การที่อยู่ๆจีนมาเปิดตลาดซื้อ-ขายทองคำและโลหะเงิน อาจจะเป็นการหาช่องทางให้นักลงทุนเขามี Safe Heaven บ้างก็ได้นะ เหอะๆ จากคุณ : everandever เขียนเมื่อ : 28 พ.ค. 54 13:03:07

ความคิดเห็นที่ 60 เดี๋ยวนี้พฤติกรรมการมองหุ้นผมเปลี่ยนไปกว่าเมื่อก่อนมาก เมื่อก่อนผมจะมองที่ p/e p/bv เดี่ยวนี้ผมให้ความสำคัญกับ ROE มากกว่าครับ pe 20 แต่ถ้า roe สูงผมไม่มายด์เท่าไหร่ครับ ที่สำคัญต้องมองให้ขาดถึง roe ที่จะปรากฏในอนาคต pe ในปีหน้าที่ราคาปัจจุบัน ถ้าปีนี้เราซื้อ pe 20 แต่ถ้าปีหน้า ณ ราคานี้คือ pe 10 -12 เท่าถือว่าเราซื้อไม่แพง ยกตัวอย่าง bla เมื่อปลายปีที่แล้ว 3 ไตรมาสได้กำไร 1.24 บาทต่อหุ้น ถ้าคิดรวมสี่ไตรมาสย้อนหลังได้ 1.37 บาทต่อหุ้น ถ้า pe 20 เท่าพึ่งจะ 27.4 บาท ณ ตอนนั้นราคา bla อยู่แถว 28 บาท แต่ ณ ปัจจุบันแค่ไตรมาสแรกไตรมาสเดียว ก็กำไร 0.82 บาทต่อหุ้นแล้ว ไตรมาสสองปี 53 กำไร 0.50 บาทต่อหุ้น เป็นที่คาดการณ์ว่า bla ในไตรมาสสองปีนี้ก็น่าจะได้มากกว่า 0.50 บาทต่อหุ้น การหาหุ้นที่ roe สูง ลักษณะของหุ้นกลุ่มนี้ที่สำคัญส่วนทุนจะน้อย ส่วนหนี้จะเยอะ(มีบ้างที่ทุนมากกว่าหนี้) สินทรัพย์ที่สร้างรายได้และกำไรเปรียบเหมือนการยืมเงินคนอื่นมาสร้างกำไร โดยที่ใช้ส่วนทุนไม่มาก หุ้นกลุ่มนี้จึงต้องเจาะให้ละเอียดเข้าไปตรงส่วนของหนี้สินที่เอามาสร้างรายได้สร้างกำไรว่ามีความปลอดภัยแค่ไหน อย่าง cpall หนี้มากกว่าทุน เพราะใช้เงินจากเจ้าหนี้การค้ามาหมุนก่อน ทำให้การเงินของกระแสเงินมีความคล่องตัว อย่าง bla คือเงินที่รับจากลูกค้าประกัน ไปบริหารต่อโดยลงในพันธบัตร หุ้นกู้ หุ้น เป็นเงินระยะยาวที่จ่ายผลตอบแทนคืนผู้เอาประกันน้อยกว่ากำไรระยะยาวจากเงินก้อนนี้ที่บริษัทสร้างได้ อีกจุดที่ต้องระวังคือมีเหตุใด้บ้างที่อาจทำให้บริษัทถึงขั้นขาดทุน หุ้น roe สูงที่ต้องระวังคือหุ้นคอมโมทั้งหลาย เพราะ npm บริษัทไม่สามารถกำหนดได้เอง แต่มันขึ้นกับราคาตลาดโลก เมื่อใดที่ทิศทางตลาดโลกไปในทางที่ส่งผลดีต่อบริษัทนั้นๆ npm จะถีบตัวสูงขึ้น ส่งผลให้ roe ดีดตัวสูงขึ้นตาม โดยที่รายได้อาจไม่ได้กระโดดเพิ่มเป็นเท่าตัว การซื้อหุ้นกลุ่มนี้ที่ pe ต่ำๆโดยเห็นว่าราคาปัจจุบันเมื่อเทียบกับกำไรในอดีตแล้วมีราคาถูกค่อนข้างอันตรายมากๆ ตัวอย่างมีให้เห็นแล้วในหุ้นกลุ่มเรือเมื่อสองสามปีก่อน จากคุณ : เข็มซ่อนคม เขียนเมื่อ : 28 พ.ค. 54 13:12:05

ความคิดเห็นที่ 61 เล่นหุ้น ควรใจเย็น ไม่ควรซื้อปุ๊บ จะให้ราคาขึ้นปั๊บ ให้ได้กำไรหลาย % ในเวลาไม่นาน เมื่อประมาณ 2-3 ปี ที่ผ่านมา ผมเคยซื้อหุ้นตัวหนึ่ง ไปขายวันที่ 4 ได้กำไรมากกว่า 100% แต่ไม่ได้ซื้อมาก เพราะมีเพื่อนมาบอกให้ซื้อ ก็ลองซื้อดู ซื้อช่วงเช้า แล้วราคาก็วิ่งขึ้นไปปิด + เกือบ 20% วันถัดไป ปิดที่ Ceiling ผมก็ยังไม่ขาย อีกวัน ก็ปิดที่ Ceiling ผมก็ยังไม่ขาย คือว่า Ceiling 2 วัน ติดกัน ไปขายราคาเปิด อีกวัน  เพราะเปิดสูงมาก กำไร 100 กว่า % หลังจากนั้น ราคาก็ไหลลง แต่แบบนี้ มันเหมือนถูกล๊อตเตอรี่ เลขท้าย ๒ ตัว มีไม่บ่อย หรืออาจจะมีใครโชคดี ไปซื้อตัวที่เจ้ามือเพิ่งจะเข้า แล้วไปขายตอนที่เขาลากขึ้นไปสูงลิบลิ่ว แล้วเลิก แต่อย่าไปหวังกับสิ่งเหล่านี้ ลงทุนแบบค่อยเป็น ค่อยไปจะดีกว่าครับ เมื่อไม่นาน อาจจะมีบางคน ถูกหวย SICCO ก่อนหน้า ก็มีข่าวว่า จะมีคนมาทำ Tender Offer แต่ราคาตกลงกันไม่ได้ บอกว่า คนซื้อว่า 4 บาท ก็ยังสูง บางกระแสบอกว่า น่าจะได้ 6 บาท แล้วข่าวก็หายเงียบไป ใครไปซื้อไว้ ตอน 4 บาทหรือต่ำกว่า แค่ไม่นาน เขาทำ tender Offer ราคา 6 บาทกว่า ใครซื้อแล้วถือไว้ ก็โชคดีครับ จากคุณ : สาระขัน เขียนเมื่อ : 28 พ.ค. 54 13:23:13

ความคิดเห็นที่ 62 เข้ามาอ่านครับ กิ๊บหมด จากคุณ : K-rozang เขียนเมื่อ : 28 พ.ค. 54 13:30:32

ความคิดเห็นที่ 63 คุณเข็มซ่อนคม การดู P/E ก็เพื่อเป็นแนวทางของหุ้นส่วนใหญ่ แต่ก็มีข้อยกเว้น ที่ยอมซื้อ P/E สูง เพราะผลประกอบการ มีกำไรเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องมาโดยตลอด และไม่มีแนวโน้มว่าจะลดลง เช่น CPALL ที่ผมมองเห็น แต่ราคาก็ขึ้นมาสูงมาก ผมก็ไม่ซื้อครับ ไม่ได้ก็ไม่เอา คราวที่แล้ว จาก 40 กว่าบาท ยังลงไปให้ผมซื้อได้ 32.75 แต่ก็เสียดายที่ขายหมด ไม่ได้เก็บถือยาวบางส่วน ถ้าราคาลงต่ำกว่า 40 บาท ผมก็หาจังหวะซื้อ BLA ที่คุณบอกมา ผมไม่เคยดูข้อมูล พอไปดูแล้ว ก็เข้าข่าย ทำนองเดียวกับ CPALL แต่มีข้อมูลให้ดูแค่ 2 ปี แก้ไขเมื่อ 28 พ.ค. 54 13:43:46 จากคุณ : สาระขัน เขียนเมื่อ : 28 พ.ค. 54 13:40:59

ความคิดเห็นที่ 64 ครับพี่สาระขัน จากคุณ : เข็มซ่อนคม เขียนเมื่อ : 28 พ.ค. 54 13:47:12

ความคิดเห็นที่ 65 ตัว bla ผมถือ 28 มันขึ้นไป 33 ผมก็ซื้อเพิ่มแถวนั้น จากนั้นมันก็ร่วงมาแถว 28 ผมเองก็ไม่ได้ขายครับ จากนั้นมันก็วิ่งกลับไป 33 แล้วก็ไป 34 35 36 ผมก็ซื้อเพิ่มมาตลอดทาง ไม้ล่าสุดเมื่อวานที่ราคา 47 บาทก็ซื้อครับ ยอมรับช่วง 47.5 ร่วงมา 42 กว่าๆผมก็ไม่ได้ทำกำไร แต่ได้โอกาสซื้อเพิ่ม ช่วง 33 ร่วงกลับไป 28 ผมก็ไม่ได้ทำกำไรแต่ได้โอกาสซื้อเพิ่ม อาจเป็นเพราะผมซื้อแล้วผมไม่ได้มีเป้าหมายเพื่อเอามาขายมั้งครับ ตราบใดที่ผมยังหาตัวอื่นที่ดีกว่าไม่ได้ noble ก็เหมือนกันขึ้นไป 7.35 มีโอกาสให้ผมทำกำไรที่ 7.35 ถึงสองครั้งสองครา แต่ผมก็ไม่ได้ขายครับ เพื่อนผมซื้อ noble วันที่งบปีออก กำไรเรียกว่าเอาไปดาวน์รถกันได้เลยครึ่งคัน แต่ผมถือมาปีกว่ากำไรยังไม่ได้ครึ่งของมันเลย มันเป็นสไตล์ติดตัวไปแล้วน่ะครับ เหมือนที่พี่สาระขัน ขึ้นขายลงซื้อ เพราะพี่สาระขันฝึกมาถนัดทางนั้น แต่อย่างไรก็แล้วแต่ หลักสำคัญเลยคือหุ้นต้องดีมีคุณภาพก่อนครับ จากคุณ : เข็มซ่อนคม เขียนเมื่อ : 28 พ.ค. 54 13:56:51

ความคิดเห็นที่ 66 คุณเข็มซ่อนคมครับ คุณอาจจะลองดู ถ้าราคามันสูงขึ้นมากแล้ว คิดว่า จะขึ้นต่อไม่ไหว ขายไปบางส่วน แล้วรอซื้อกลับ จะช่วยลดราคาทุนลงเรื่อยๆ ผมทำประจำ สำหรับตัวที่ไม่ได้เน้นรับเงินปันผล ดูตัวอย่าง LHK ครับ หลังสุด เมื่อวาน ขึ้นไป 3.44 ผมขายไปบางส่วน ปิดที่ 3.32 Bid ซื้อกลับ 3.30 เลยยังไม่ได้ซื้อคืน จากคุณ : สาระขัน เขียนเมื่อ : 28 พ.ค. 54 14:05:00

ความคิดเห็นที่ 67 ขอบคุณคะ จากคุณ : ฮาจิโกะซัง เขียนเมื่อ : 28 พ.ค. 54 14:11:26

ความคิดเห็นที่ 68 ขอบคุณค่ะ จากคุณ : มามี๊ของชิโร่ เขียนเมื่อ : 28 พ.ค. 54 14:12:06

ความคิดเห็นที่ 69 ใครที่อ่านมาแล้ว และเล่นหุ้นโดยไม่ได้ใช้เทคนิค ควรตัดสินใจว่า จะเล่นหุ้นแบบไหน อย่าซื้อแบบเดาสุ่ม เหมือนเล่นไฮโลว์ ถ้าชอบเล่นเก็งกำไรเป็นหลัก อยากรู้ผลเร็ว มีได้และมีเสีย ก็ควรไปเสียเงินเรียนรู้เทคนิคแบบจริงจัง ใช้เวลาไม่นานครับ แล้วก็ต้องมีวินัย รู้จัก Take Profit และ Cut Loss ใครที่ไม่ชอบ Cut Loss ก็ต้องเลือกซื้อหุ้น ตามที่ผมเขียนข้างบน ไม่ได้ยุ่งยากอะไร แล้วก็ต้องใจเย็น ซื้อปุ๊บ ราคาลงปั๊บ ก็ไม่ต้องกังวลใจ จะให้ดี ก็ต้องใช้แบบทะยอยซื้อ ซื้อแล้ว ลงต่อ รอให้นิ่ง แล้วซื่อเพิ่ม จะเอาแบบทะยอยซื้อ ทะยอยขายแบบผมก็ได้ จะสบายใจขึ้นเยอะครับ ขึ้นก็ดี ลงก็ได้ ไม่เครียด อย่าไปใช้ทะยอยซื้อกับหุ้นปั่น หรือหุ้นที่ราคาสูงเกินพื้นฐานโดยเด็ดขาด หรือถ้าใครจะใช้ผสมกันทั้งสองแบบ ก็ยิ่งดีครับ ใช้เทคนิค ดูจังหวะ เข้าซื้อ แต่วันก่อน มีคนส่งข้อความมาคุย ผมแนะนำ BANPU เขาก็บอกว่า ซื้อแล้วที่ 756 ขนาดดูกราฟแล้วนะ คุณสาระขัน ซื้อได้ถูกกว่าอีก แก้ไขเมื่อ 28 พ.ค. 54 14:19:32 แก้ไขเมื่อ 28 พ.ค. 54 14:17:34 จากคุณ : สาระขัน เขียนเมื่อ : 28 พ.ค. 54 14:14:26

ความคิดเห็นที่ 70 ตัวอย่างบ้านปู ที่เพิ่งซื้อ ใช้แบบ ทะยอยซื้อ ทะยอยขาย แต่ต้องถือยาวไว้บางส่วน ซื้อตอนแรก 742 ราคาทุน ตอนนี้ 707 ขายหลังสุด 742 ถ้าจะขึ้นต่อ ก็มีกำไรมากขึ้น ถ้าจะลงต่อ ลงต่ำกว่า 742 ก็หาจังหวะซื้อ ขึ้นก็ดี ลงก็ได้ = สบายใจ จากคุณ : สาระขัน เขียนเมื่อ : 28 พ.ค. 54 14:26:38

ความคิดเห็นที่ 71 เมื่อวานนี้ LHK มีอยู่ ๓ ไม้ ราคาขึ้นมาพอควร ก็ขายออกไป ๑ ไม้ แม่นเหมือนจับวาง โชคดีมากกว่าครับ ไปวางขายที่ 3.44 โดนครับ เป็น High ของวัน ตอน Call ไป Bid ไว้ 3.30 ปิด 3.32 ไม่ได้ของคืน สงสัยพวก Day Trade มาเล่นกันเยอะ ไว้วันต่อไป ค่อยไปสอยกลับ ไม่ได้ก็ไม่เป็นไร ยังเหลืออีก ๒ ไม้ BANPU ราคาในพอร์ต 722 แต่ต้นทุนจริง 707 เพราะเอาที่ขายทำกำไร มาคำนวณราคาทุนด้วยครับ จากคุณ : สาระขัน เขียนเมื่อ : 28 พ.ค. 54 14:39:54

ความคิดเห็นที่ 72 PTL อยู่พอร์ตที่ ๒ เดี๋ยวท่านจะสงสัยว่า หายไปไหน ที่ทำกำไรมาก่อนหน้า คืนเขาไปบางส่วน จากคุณ : สาระขัน เขียนเมื่อ : 28 พ.ค. 54 14:54:15

ความคิดเห็นที่ 73 ได้ความรู้มากเลยครับสำหรับวันนี้ ขอบคุณมากกครับสำหรับการแนะนำ นานนนจะได้เห็นกระทู้ดีดีอย่างนี้ครับ ที่แนะนำกันแล้วไม่มีการมาทะเลาะกัน ...อิอิ จากคุณ : superpor เขียนเมื่อ : 28 พ.ค. 54 15:01:00

ความคิดเห็นที่ 74 เป็นกำลังใจให้ครับ และส่วนตัวติดตามอยู่เรื่อยๆครับ จากคุณ : A_different_corner เขียนเมื่อ : 28 พ.ค. 54 15:23:13

ความคิดเห็นที่ 75 //เก็บข้อมูล มีประโยชน์ๆๆๆ จากคุณ : venezier เขียนเมื่อ : 28 พ.ค. 54 15:26:48

ความคิดเห็นที่ 76 คือผมดู PTTAR กับ IRPC ซึ่งเป็นโรงกลั่นเหมือนกัน (แต่รู้สึกว่า PTTAR จะทำวัตถุดิบหลังจากกลั่นด้วย) แต่ผมดูแล้วเห็นว่า PTTAR มี PE ต่ำกว่า IRPC นั่นแสดงว่า PTTAR น่าซื้อกว่า IRPC หรือป่าวครับ จากคุณ : sweetoil เขียนเมื่อ : 28 พ.ค. 54 15:31:52

ความคิดเห็นที่ 77 กระทู้ดี ๆ แบบนี้ ไม่กด like ไม่คลิก vote ไม่ได้แล้ว คนเก่ง ๆ มาแบ่งปันความรู้แบบนี้ ขอให้พอร์ตเขียว ๆ และร่ำรวยยิ่ง ๆ ขึ้นค่ะ ขอบคุณมาก ๆ ค่ะ จากคุณ : ยากแท้หยั่งถึง เขียนเมื่อ : 28 พ.ค. 54 15:33:46

ความคิดเห็นที่ 78 give แจกพี่ทุกวันจนหมดแล้ว กระทู้ดีมีประโยชน์มาก แต๊งค์กิ๊ว ครับพี่ที่ให้ความรู้ และขอบคุณอีกหลายๆความคิดเห็นที่ชว่ยเสริมเพิ่มความรู้ให้มากยิ่งขึ้นครับ จากคุณ : บัคจัง เขียนเมื่อ : 28 พ.ค. 54 15:47:48

ความคิดเห็นที่ 79 PTTAR กับ IRPC ดูแล้ว P/E ก็ไม่ต่างกันมากครับ เพียงแต่ที่ผ่านมา ไม่กี่วัน PTTAR ถูกเทขายทำกำไร ราคาไหลลง เป็น % มากกว่า ทำให้ P/E ต่ำกว่า แต่อัตราการเติบโตในอนาคต IRPC ดูดีกว่า ผมเลยเลือกที่จะซื้อ IRPC แต่ก็ขายไปบางส่วน เหลือ ๑ ไม้ รอซื้อกลับ ถ้าราคาลงมา 5.60 หรือต่ำกว่า ยังสงสัย วันที่ 1 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา IRPC เกิดอะไรขึ้น ราคาไหลลงต่ำกว่า 5 บาท ผมซื้อได้ 4.84 บาท จากคุณ : สาระขัน เขียนเมื่อ : 28 พ.ค. 54 15:50:40

ความคิดเห็นที่ 80 PTTAR บางปีบางไตรมาส PE ก็ต่ำเพราะสต๊อกน้ำมันที่มีกำไรมากมาย แต่หากไตรมาสไหนพลาดก็กลายเป็นขาดทุนทีนี้ PE ก็สูงขึ้นฟ้าเลยล่ะ จากคุณ : everandever เขียนเมื่อ : 28 พ.ค. 54 16:23:07

ความคิดเห็นที่ 81 ขอบคุณมากๆครับ จากคุณ : ExpressNet เขียนเมื่อ : 28 พ.ค. 54 16:50:34

ความคิดเห็นที่ 82 ขอบคุณ คุณสาระขัน และ คุณ ever ครับ จากคุณ : sweetoil เขียนเมื่อ : 28 พ.ค. 54 17:42:35

ความคิดเห็นที่ 83 ขอบคุณสำหรับความรู้ดีๆจากคุณสาระขันค่ะ อ่านแล้วชอบแนวที่คุณสาระขันเล่นค่ะ เลยอยากให้ช่วยดูข้อมูลของ PTT SCC BCP หน่อยค่ะ อันไหนเหมาะที่จะซื้อ แล้วถือรอน่ะค่ะ แบบทยอยๆอย่างที่คุณสาระขันว่าน่ะค่ะ แล้วควรจะรอรับที่ประมาณเท่าไรบ้างน่ะค่ะ เพราะดูราคาย้อนหลังไปแล้ว ทั้ง 3 ตัวราคาขึ้นมามากแล้วทั้งนั้นเลยค่ะ รบกวนด้วยนะคะ ขอบคุณค่ะ แก้ไขเมื่อ 28 พ.ค. 54 19:38:09 จากคุณ : มีสลึงพึงบรรจบให้ครบบาท เขียนเมื่อ : 28 พ.ค. 54 19:37:51

ความคิดเห็นที่ 84 ต้องเรียกอาจารย์สาระขัน แล้วหล่ะคับ   จากคุณ : +:+ ITIM +:+ เขียนเมื่อ : 28 พ.ค. 54 20:00:31

ความคิดเห็นที่ 85 ขอบคุณครับพี่ ผมซื้อน้อง Gen 0.35 หลังจากนั้นแอบมองปอดพี่สารขันมีน้อง Gen ด้วย  อิอิ   ไม่รู้ใครลอกการบ้านใครละงานนี้............แต่ตอนออกช่วยบอกผมด้วยนะ จากคุณ : electrician เขียนเมื่อ : 28 พ.ค. 54 20:38:26

ความคิดเห็นที่ 86 PTT ผลประกอบการ มีกำไรเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง P/E ก็ 10.67 เท่า ณ ราคา 354 บาท ราคาเคยขึ้นไปถึง 387 บาท เมื่อเดือนที่แล้ว ณ ราคานี้ ถือว่า เหมาะสมกับพื้นฐานและค่อนข้างต่ำ แต่ถ้าตลาดปรับฐาน หรือต่างชาติ โยกออกเงิน ตัวนี้จะได้รับผลกระทบมาก เพราะมี Market Cap. อันดับ ๑ จะหาจังหวะ ทะยอยซื้อ ได้ครับ ผลประกอบการ มีแต่จะกำไรดีขึ้นเรื่อย เพราะน้ำมัน เป็นปัจจัยที่ 5 ที่จำเป็น ซื้อไว้แล้ว ถ้าถือได้ยาว สบายใจ ปลอดภัยครับ BCP P/E แค่ 8.23 เท่า ณ ราคา 21.40 บาท ตัวนี้ ก่อนหน้าราคาไม่ไหน จนเขาเรียกกันว่า น้ำมันตราเต่า คงเป็นเพราะต่างชาติ หรือ กองทุน สนใจซื้อแต่ PTT จ่ายเงินปันผลในอัตราสูง มากกว่า PTT อัตราการเติบโตต่อไปจะมีสูง ณ ราคานี้ หาจังหวะ ทะยอยซื้อได้ครับ ราคายังมีโอกาสขึ้นไปได้ในอัตราสูงกว่า PTT ควรเลือกตัวเดียวในกลุ่มพลังงาน ดูแล้ว BCP ดีกว่าเยอะครับ แถมมีโครงการทำพลังงานทดแทน น่าจะไปได้ดี SCC P/E 10.78 เท่า ณ ราคา 357 บาท ผลประกอบการยังคงที่ อัตราเงินปันผลยังต่ำ ถ้าอยากซื้อ ควรรอไปก่อน ตัวนี้ ในปี 2551 ผมเคยซื้อที่ 80 บาท จำหน่ายสุกร ไปหมดเล้าสาระขันเลย จากคุณ : สาระขัน เขียนเมื่อ : 28 พ.ค. 54 20:44:53

ความคิดเห็นที่ 87 ท่าน ITIM ผมเคยเป็นอาจารย์พิเศษ สอนระดับปริญญาตรีและโท จบทางบัญชี แต่สอนวิชา Computer Audit กับ Management Information Systems ท่าน electricain GEN ผมซื้อไว้นาน จนได้ซื้อหุ้นเพิ่มทุน กับ ได้ GEN-W3 ฟรี ราคาทุนจริงสูงกว่าในพอร์ตครับ เพราะขายหุ้นเก่าออกไปที่ 0.50 บาท หลัง XA แล้วซื้อกลับที่ 0.35 บาท ผลประกอบการจากขาดทุน เริ่มกลับมามีกำไร ตรงตามที่ผมคิดไว้ ให้เป็นหุ้น Turn Around คงต้องถือไว้นานเป็นปีนะครับ เว้นแต่จะมีเจ้าเข้าประทับ ลากราคาขึ้นไปเร็ว ค่อยดูอีกที แต่ผมก็ยังสงสัย เหมือนมีคนกดราคาเพื่อเก็บของ ราคาก่อน XA ไม่ต่ำกว่า 0.70 บาท บางคนซื้อที่สูงกว่า  1 บาท เพราะราคาอยู่ช่วง 0.16-0.12 ตั้งนาน ตอนนั้นราคาพาร์ 1 บาท ตอนนี้ ราคาพาร์ 10 บาท ก็เท่ากับ 1.60 - 1.20 บาท และมีแค่ 61% ที่ไปซื้อหุ้นเพิ่มทุน 6:1 ที่ราคา 0.35 บาท แสดงว่า คนที่ไม่ซื้อหุ้นเพิ่มทุน ราคาทุน 0.70-1.60 บาท และเป็นส่วนน้อย ที่ราคาทุน 0.70 บาท ส่วนใหญ่ ราคาทุนสูงกว่า 1 บาท เอามาขายกันจนถึง 0.32 บาท ต่ำกว่าราคาหุ้นเพิ่มทุนอีก ทั้งที่ผลประกอบการเริ่มกลับมามีกำไร แถม GEN-W3 เข้าพอร์ตมานานแล้ว แต่ยังไม่อนุญาตให้ขาย เหมือนจะรออะไร หวังว่าจะเป็นสิ่งที่ดี แก้ไขเมื่อ 28 พ.ค. 54 21:24:35 แก้ไขเมื่อ 28 พ.ค. 54 21:22:04 จากคุณ : สาระขัน เขียนเมื่อ : 28 พ.ค. 54 20:53:28

ความคิดเห็นที่ 88 ขอบคุณมากคะสำหรับข้อมูลดีๆ อ่านกระทู้คุณสาระขันมาตลอดค่ะ แต่ไม่ค่อยได้โพส อยากทราบว่า หลักการทยอยซือ้ ทยอยขาย จะใช้ได้กับ คนที่ซื้อน้อยๆ ได้มั๊ยค่ะ แล้วมันจะคุ้มกับค่าคอมที่เสียไปหรือเปล่าคะ ถ้าเราทยอยซื้อ ทยอยขาย บ่อยๆ เราควรใช้หลักการอย่างไรดี  ขอบคุณมากค่ะ ปล. แอบซื้อตามคุณสาระขันไปหลายตัวเหมือนกัน แต่ซื้อไม่เยอะเท่าคุณสาระขันคะ จากคุณ : นกเอี้ยง_เอง เขียนเมื่อ : 28 พ.ค. 54 21:28:02

ความคิดเห็นที่ 89 ขอบคุณมากครับ.. จากคุณ : bornkung เขียนเมื่อ : 28 พ.ค. 54 21:29:17

ความคิดเห็นที่ 90 ขอบคุณมากค่ะ คุณสาระขัน ตอบได้รวดเร็วมากค่ะ จากคุณ : มีสลึงพึงบรรจบให้ครบบาท เขียนเมื่อ : 28 พ.ค. 54 22:56:10

ความคิดเห็นที่ 91 พี่สาระขันครับ ผมสงสัยว่าวันที่ของงบการเงินที่ใช้คำนวณค่าต่างๆของปีก่อนๆถึงใช้เดือน9 ไม่ใช้ที่เดือน12เหรอครับ แล้วล่าสุด ใช้ข้อมูลของวันที่31/03/2554 แสดงว่ากำไรต่อหุ้นที่ใช้คำนวณ P/E เป้นของ4ไตรมาสล่าสุด (2/53 - 1/54) ใช่เปล่าครับ จากคุณ : ยอร์ก (ยอร์ก150) เขียนเมื่อ : 29 พ.ค. 54 00:19:07

ความคิดเห็นที่ 92 กระทู้ที่รอคอย ชาบูชาบูจริงๆครับ ^_^ ขอบคุณมากๆครับ จากคุณ : FirstDate เขียนเมื่อ : 29 พ.ค. 54 00:46:11

ความคิดเห็นที่ 93 ขอบคุณมากครับ.. จากคุณ : You know me เขียนเมื่อ : 29 พ.ค. 54 01:11:33

ความคิดเห็นที่ 94 ขอบคุณมากค่ะ เขียนเข้าใจง่ายดี ขออนุญาตสมัครเป็นแฟนคลับอีกคนค่ะ จากคุณ : ลูกเป็ดขี้เกียจ เขียนเมื่อ : 29 พ.ค. 54 02:08:23

ความคิดเห็นที่ 95 คุณนกเอี้ยง_เองครับ ถ้ามีเงินน้อย จะใช้แบบทะยอยซื้อ ทะยอยขาย ก็ไม่ควรซื้อหลายตัวครับ การขายก็คือ เมื่อราคามันขึ้นสูงถึงจุดหนึ่ง สูงกว่าที่เราซื้อก็ขายออกไปบางสว่น เพราะปกติจะมีย่อตัว และลงมาให้เราซื้อกลับ ถ้าเราขายไปแล้วซื้อกลับได้ในราคาต่ำลง ก็เท่ากับมีกำไร หรือลดต้นทุนหุ้นที่เหลืออยู่ (ตัวเดียวกัน) คิดค่าคอมมิชชั่นยังไงก็คุ้มครับ คุณขึ้นไปดูที่ผมแสดงข้างบน วันศุกร์ ผมขาย LHK ไป 3.44 ปิด 3.32 ผมตั้ง Bid ตอน Call 3.30 เพราะเห็นทำท่าจะปิด 3.28 ยังไม่ได้ซื้อกลับ เพราะเห็นว่ายังเหลืออยู่ ๒ ไม้ ถ้าผมจะเอาให้ได้แน่ๆ ผมก็ Bid สูงกว่านี้ก็จะได้ จากคุณ : สาระขัน เขียนเมื่อ : 29 พ.ค. 54 07:08:04

ความคิดเห็นที่ 96 LHK เมื่อวันศุกร์ ผมโชคดี ขายได้ High ของวัน ปิด Low ครับ ผมก็ทำเหมือนกันทั้งสองพอร์ต มี 60,000 หุ้น ขายไป 20,000 หุ้น เหลือ 40,000 หุ้น ผมมีสองพอร์ต พอร์ตใหญ่ ผมแค่ดูแลให้เขา ส่วนพอร์ตเล็ก ของผมเองครับ จากคุณ : สาระขัน เขียนเมื่อ : 29 พ.ค. 54 07:15:45

ความคิดเห็นที่ 97 คุณยอร์ก ครับ การคำนวณค่า P/E ในเวบตลาดหลักทรัพย์ เท่าที่ผมดูครั้งก่อน คิดว่า เขาใช้ผลประกอบการ 4 งวดหลังสุดมาคำนวณ เพราะงบปีของแต่ละบริษัท สิ้นสุดไม่เหมือนกันครับ เข้าไปดูสูตรการคำนวณ P/E ของตลท. ได้ ตามนี้นะครับ http://www.set.or.th/th/market/files/SET_Formula_Glossary.pdf จากคุณ : สาระขัน เขียนเมื่อ : 29 พ.ค. 54 07:32:53

ความคิดเห็นที่ 98 การดูว่า หุ้นราคาสูงขึ้นมามากหรือไม่ ให้ดูเป็น % นะครับ อย่าดูแค่ตัวเลข มีคนถามเรื่อง BBL ดูว่า ราคาขึ้นมามาก แต่ราคาก็ลงมาพอควร คิดว่า BBL ราคาฐานประมาณ 150 บาท ขึ้นมา 160 บาท ก็ประมาณ 6% ไม่มากครับ ถ้าอยากจะซื้อ ก็หาจังหวะ ซื้อแบบทะยอย กลุ่มธนาคาร ส่วนใหญ่ จ่ายเงินปันผลไม่มาก ประมาณ 3% ต่อปี ถ้าจะเล่นช่วงสั้น ก็เก็งกำไร เอากำไรจากส่วนต่างราคา หรือ Captial Gain แต่ BBL กำไรเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ถ้าถือแบบลงทุนยาว ถ้าต่อไป ผลประกอบยังดีขึ้น จ่ายเงินปันผลมากขึ้น คิดจากราคาที่ซื้อตอนนี้ ก็จะเป็นอัตราที่สูงขึ้น ราคาก็จะปรับตัวขึ้นไป ก็ขึ้นกับผลประกอบการข้างหน้าครับ อย่าง BANPU บางวัน ขึ้น/ลง 20 บาท ไม่มากนะครับ เมื่อคิดจากราคาหุ้น ก็แค่ 2% กว่า ประมาณ 3 ช่อง เมื่อเทียบกับหุ้นส่วนใหญ่ จากคุณ : สาระขัน เขียนเมื่อ : 29 พ.ค. 54 08:30:24

ความคิดเห็นที่ 99 ขอบคุณครับ จากคุณ : ชาญดำ เขียนเมื่อ : 29 พ.ค. 54 11:11:56

ความคิดเห็นที่ 100 ขอบคุณครับ จากคุณ : ยอร์ก150 เขียนเมื่อ : 29 พ.ค. 54 21:56:03

ความคิดเห็นที่ 101 ติดตามเสมอเหมือนกัน ขอบคุณคร้าบ จากคุณ : Silencemind เขียนเมื่อ : 29 พ.ค. 54 22:15:09

ความคิดเห็นที่ 102 พี่สาระขัน ผมรักพี่จัง จากคุณ : เหมง เขียนเมื่อ : 29 พ.ค. 54 22:57:47

ความคิดเห็นที่ 103 บ้านปู ผมคิดเหมือนพี่สาระขันเลยครับ รอรับแถวนั้น ปล. ขอบคุณที่เขียนเทคนิคให้ได้อ่านกันนะครับ จากคุณ : ผมเป็นภูมิคุ้มกันอาหมวยบกพร่อง เขียนเมื่อ : 29 พ.ค. 54 23:10:44

ความคิดเห็นที่ 104 ขอบคุณคุณสาระขันครับ :) พอดี Bookmark ไว้(เห็นกระทู้ยาว)เพิ่งมีโอกาสได้อ่านเองครับ... ลึกๆแล้วผมอยากทำได้แบบคุณสาระขันบ้างจัง.. ซื้อ/ขายได้จังหวะตลอดเลย(ผม focus แต่น้องแอล) ... อิจฉาจริงๆ ปล.ทำไม่เป็น ก็ต้องดูมันทำอย่างเดียว อิอิ จากคุณ : มิ่งกลิ้ง เขียนเมื่อ : 30 พ.ค. 54 00:04:17

ความคิดเห็นที่ 105 ขอบคุณมาก ๆ ค่ะท่านสาระขัน เป็นแฟนคลับกระทู้คุรสาระขันนะคะ ^^ มีประโยชน์มาก ๆ  โหวตค่ะ จากคุณ : zelimony เขียนเมื่อ : 30 พ.ค. 54 10:44:31

ความคิดเห็นที่ 106 ขอขอบคุณมากๆครับคุณสาระขัน ที่แบ่งปัญความรู้ประสบการณ์ ยิ่งไปกว่านั้นยังนำ port มาโชว์ให้ดู เทคนิคต่างๆนำมาแชร์กัน บางอย่างหาซื้อไม่ได้ ดังเช่นน้ำใจ ที่เอามาแบ่งปันกันครับ ผมแฟนประจำ...  ต้องเข้ามาชมทุกๆวัน ขอขอบคุณอีกครั้งครับ ด้วยความนับถือ Yos3000 จากคุณ : yos3000trip2story เขียนเมื่อ : 30 พ.ค. 54 10:58:00

ความคิดเห็นที่ 107 ขอบคุณ คุณสาระขัน ครับ ขอเข้ามาศึกษาด้วยคนครับ ^__^ จากคุณ : auicoco เขียนเมื่อ : 30 พ.ค. 54 11:12:43

ความคิดเห็นที่ 108 ขอบคุณมากค่ะได้ประโยชน์จริงๆ   ติดกีบไว้ก่อนนะคะ มะรืนจะมาแจกให้ _/\_ จากคุณ : PenGuin-Doc เขียนเมื่อ : 30 พ.ค. 54 12:49:38

ความคิดเห็นที่ 109 ขอบคุณมากครับผม แบไต๋แบบหมดเปลือก ไม่มีกั๊กเหมือนท่านเซียนๆทั้งหลาย จากคุณ : นายฉิม เขียนเมื่อ : 30 พ.ค. 54 17:37:50

ความคิดเห็นที่ 110 ขอมอบกิฟท์ให้คนใจดีแทนคำขอบคุณนะคะ จากคุณ : ข้าวประดับดิน เขียนเมื่อ : 30 พ.ค. 54 18:19:21