*** 01_11 ผ่า_โลกVI = P/E_P/B_ปันผล หุ้นโภคภัณฑ์
|
|
Thai_VI : Value_Way ; 11 กพ. 2011 อ. ดร.นิเวศน์ ยามที่เศรษฐกิจร้อนแรง หุ้นที่ร้อนแรง~มีสีสันที่สุดกลุ่มหนึ่งในตลาดหุ้นนั้น คือ หุ้นที่ผลิต/ขายสินค้าโภคภัณฑ์ ในเวลาเดียวกัน อาจจะมีหุ้นโภคภัณฑ์อีกตัวหนึ่งหรือกลุ่มหนึ่งที่ปรับตัวลงเหลือ1/2เดียวหรือต่ำกว่านั้น
ธุรกิจเรือเทกอง หุ้นเรือต่างก็ “จมลง” นั่นคือราคาที่เคยสูงลิ่ว_ตกต่ำลงไปเรื่อยๆ ตั้งแต่กำไรของบริษัทยังดีน่าประทับใจจนถึง ขณะนี้ที่กำไรเริ่มตกต่ำลงอย่างมาก Volumeซื้อขายหุ้นก็ลดลงไปเรื่อยๆ & คนก็เลิกพูดกันเรื่องเกี่ยวกับเรือ หุ้นผลิตฟิล์มสำหรับบรรจุอาหาร ในอดีตแทบไม่มีคนสนใจเลยเพราะกำไรของบริษัทไม่มีอะไรน่าประทับใจ การเติบโตก็ไปเรื่อยๆ จู่ๆ ราคาหุ้นก็วิ่งขึ้นราวกับติดจรวด สักระยะหนึ่งVolumeซื้อขายก็ตามมา หุ้นหลายตัวในกลุ่มกลายเป็นหุ้นยอดนิยม * วิเคราะห์เรื่องกำไรดูเหมือนจะถูกต้อง กำไรของบริษัทเพิ่มขึ้นมโหฬาร_ดังคาด แต่ราคาหุ้นถดถอยลงอย่าง_ผิดคาด ยาง เป็นตัวอย่างที่กำลัง “แสดงอยู่บนเวที” นั่นคือ ราคาหุ้นกำลังดีดตัวถึงขีดสุด กำไรของบริษัทเพิ่มขึ้นอย่างมากจนไม่น่าเชื่อ~จากราคายางในตลาดโลกที่ปรับตัวสูงสุดในประวัติศาสตร์ ต้องดูกันต่อว่าหุ้นจะไปทางไหนหลังจาก “จบการแสดง”
หุ้นโภคภัณฑ์ที่หวือหวาทั้งหลายที่กล่าวถึงนั้น ช่วงที่ราคาหุ้นปรับตัวขึ้นไปหลายเท่าแล้วนั้น บางทีจะพบว่า 1) ค่าP/E ยังต่ำมากเพียง 3-4เท่าก็มี ซึ่งถือว่าเป็นหุ้นที่ “ถูกมาก” ซื้อหุ้นแล้ว “เพียง 3-4 ปี ก็คืนทุนแล้ว” หุ้นโภคภัณฑ์_กำไรไม่สม่ำเสมอ ที่เห็นคือกำไรที่มากกว่าปกติมาก&ไม่ยั่งยืน กำไรโดยเฉลี่ย_จะต่ำกว่าหลายเท่า * หุ้นที่จะสามารถใช้ค่าP/E เป็นตัววัดความถูก~แพง ควรจะเป็นกิจการที่มีกำไรสม่ำเสมอหรือเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เท่านั้น
2) หุ้นโภคภัณฑ์ที่กำลังร้อนๆ นอกจากP/E_ต่ำ ค่าP/B (ราคา/มูลค่าทางบัญชี) ชี้ความถูก~แพง บางทีต่ำกว่า1เท่า~ไม่เกิน 2เท่า 2.1 ไม่มีบริษัทไหนคิดจะเลิกกิจการ 2.2 ถ้าเลิกจริง สินทรัพย์มีราคาอย่างที่ว่าจริงไหม บ่อยครั้งเวลาเลิกกิจการ_โรงงานมักจะกลายเป็นเศษเหล็ก นอกจากนั้น มูลค่าทางบัญชี_ลดลงได้ กรณีบริษัทขาดทุนในอนาคตเนื่องมาจากราคาของโภคภัณฑ์ที่ลดลง * สรุปแล้ว ค่าP/B เองก็ไม่ได้บอกอะไรที่มีความหมายมากนักในกรณีของหุ้นโภคภัณฑ์ที่เป็นโรงงาน
3) ค่า Dividend_Yield หรือผลตอบแทนเงินปันผลเมื่อเทียบกับ ราคาหุ้นโภคภัณฑ์ที่กำลังร้อนๆ มักจะสูงลิ่ว บางทีกว่า 6-7%ต่อปี เป็นการยืนยันความปลอดภัยของหุ้นอีกจุดหนึ่ง * ถ้าในอนาคตกำไรลดลง~ปันผลก็ต้องลดลง ผลตอบแทนที่บอกว่า 6-7% จึงเป็นปันผลเพียงครั้งเดียว !
4) สุดท้าย ฐานะการเงินหุ้นโภคภัณฑ์ยามร้อนๆก็จะดีเยี่ยม บางทีมีเงินสดเหลือเฟือด้วยซ้ำ แต่เป็นภาพลวงตา
==> ตัวเลข~การวิเคราะห์ตามหลักการแบบVI นั้น ใช้ไม่ได้กับหุ้นโภคภัณฑ์ ดีที่สุด ซื้อหุ้นก่อนวัฏจักรราคาสินค้าเป็นขาขึ้น_2-3เดือน โดยราคาหุ้นยังไม่ได้ขยับหรือปรับขึ้นเล็กน้อย
==> ขายหุ้นเมื่อทุกอย่างกำลังร้อนแรงสุดๆ & ราคาหุ้นขึ้นไปสูงมากจนไม่น่าเชื่อ !
จากคุณ |
:
ศิษย์ซุนวู
|
เขียนเมื่อ |
:
29 พ.ค. 54 10:13:03
|
|
|
|