*** 05_11 ผ่า_โลกVI = กระแสเงินสดๆ กับ อนาคต...

Thai_VI   :  Value_Way      ;     05 กพ. 2010  ~  มนตรี นิพิฐวิทยา
           หุ้น บริษัทนี้มีมูลค่าเท่าไร ?  & ทำอย่างไรถึงจะ ประเมินมูลค่าได้ คำถามเหล่านี้มีขึ้นตลอดเวลา
           การประเมินมูลค่าสินทรัพย์ในโลก = การคิดลดกระแสเงินสดในอนาคต (Discounted Future Cash flow = DFCF)
           คือ สินทรัพย์ใดๆจะมีมูลค่าได้นั้น สินทรัพย์นั้นต้องสามารถสร้างกระแสเงินสดให้แก่เจ้าของได้ในอนาคต

Ex.      สมัยวิกฤติฯ ปี 40 ก่อนหน้านั้นรู้กันว่าเป็นตลาดที่ราคาหุ้นซื้อขายกันเกินมูลค่ามาก (Over_Value) หรือ เกิดฟองสบู่
           สิ่งที่พบเห็นคือ มีหุ้นกลุ่มหนึ่งราคากลับมายืน & ปรับตัวสูงขึ้น นั่นคือหุ้นกลุ่มส่งออก ทำไมเจ้าหุ้นกลุ่มนี้มันยังขึ้นได้?
           ได้ประโยชน์จากค่าเงินที่อ่อน ส่งผลให้ขายได้มาก~เปลี่ยนเป็นเงินตราต่างประเทศ_ของถูกลงมาก กำไรก็มากขึ้น
           แนวโน้มกำไรในอนาคต~หุ้นก็ดีขึ้น คนรู้&เข้าใจการประเมินมูลค่าจะรอดจากวิกฤติ&หาประโยชน์จากวิกฤติได้

หน้าที่ที่สำคัญของนักลงทุนที่ ต้องการผลตอบแทนที่เหนือกว่าตลาด
           จะต้องค้นหาหุ้นที่มีอัตราการเติบโตของยอดขาย กำไร กระแสเงินสดได้สูงอย่างต่อเนื่อง ความเสี่ยงในการลงทุนที่ต่ำ
           P/E_ไม่สูงเกินไป เทียบกับอัตราการโต ความสามารถในการทำกำไร ทั้งหมดต้องวิเคราะห์กิจการอย่างรอบครอบ

Book_Value = มูลค่าตามบัญชี คือ มูลค่าส่วนผู้ถือหุ้น = มูลค่าของทรัพย์สิน - ด้วยหนี้สินแล้ว
           การลงบัญชีนั้นแต่ละบริษัทอาจบันทึกสินทรัพย์และหนี้สินแตกต่างกันไป
           มูลค่าทางบัญชีนี้ ถ้าหากเข้าใจ_ลึกซึ้ง สามารถช่วยให้เราค้นพบบริษัทที่น่าลง ทุนได้ไม่ยากส์
           สินทรัพย์ถูกกำหนดให้บันทึกมูลค่าที่ราคาทุน คือ ราคาที่ได้สินทรัพย์นั้นมา  เช่น

       1) มีที่ดินที่บันทึกไว้เมื่อ 20ปี ที่แล้ว
           พอมาถึงปัจจุบันมูลค่าของที่ดินเพิ่มขึ้นมาหลายเท่าตัว แต่มูลค่าที่บันทึกลงในบัญชีนั้นยังมีมูลค่า=เมื่อ20ปี ที่แล้ว
           หากไม่มีการประเมินมูลค่า & บันทึกบัญชีใหม่มูลค่าก็ยังคงบันทึกเอาไว้เท่าเดิม

       2) บริษัทมีเครื่องจักรผลิตสินค้าอยู่เครื่องหนึ่ง สามารถผลิตสินค้าที่เป็นที่ต้องการของตลาดในขณะนั้นได้เป็นอย่างดี
           เวลาผ่านไป มีผู้ผลิตสินค้าเดียวกันออกมามากเข้า_ผลกำไรที่เคยมีกลับกลายเป็นผลขาดทุน บางบริษัทคู่แข่งเลิกไป
           ส่วนบริษัทยังทน_ผลิตสินค้าต่อไป หุ้นตกมากๆเทียบกับการสร้างเครื่องจักรใหม่~ใช้เงินทุนมากกว่าราคาหุ้นตอนนั้น
           ฉะนั้น หุ้นของบริษัทนั้นจึงถือได้ว่าถูกมากๆเมื่อเทียบกับราคาที่จะต้องไปลงทุนสร้างเครื่องจักรใหม่
           ลักษณะนี้เคยเกิดขึ้น ราคาหุ้นปิโตรเคมีบางบริษัทต่ำกว่ามูลค่าทางบัญชี & ต่ำกว่ามูลค่าสร้างโรงงานใหม่มาก
           พอธุรกิจกลับมาเริ่มมีกำไร ราคาหุ้นก็วิ่งขึ้นหลายเท่าตัว

จากคุณ	: ศิษย์ซุนวู
เขียนเมื่อ	: 4 มิ.ย. 54 14:57:41