ความคิดเห็นที่ 1 RMF ... 5 ปีการลงทุน ต้องนับแบบวันชยวัน ดังนั้นการลงทุนครั้งแรกในปี 2548 ต้องดูวันที่ ที่ลงทุนด้วยครับ และการครบรอบปีการลงทุน จะครบในวันที่เดียวกับวันที่ซื้อครั้งแรก แต่เป็นปี 2553 ครับ (RMF ปีที่ลงทุนนับเป็นปีที่ 0) แต่ถ้าเป็น LTF ที่นับปีปฏิทิน การครบช่วงเวลาที่กำหนด ดูจากเลขปี พ.ศ. เท่านั้นดังนั้น การครบ 5 ปีปฏิทิน จึงเทียบเท่าเพียงประมาณ 3 ปีกว่า ของรอบปีการลงทุน (LTF ปีที่ลงทุนนับเป็นปีที่ 1) 2. LTF ... อาจจะเลือกจากระดับความเสี่ยง ความผันผว และมุมมองของโอกาสสำหรับ ภาวะการณ์ของตลาดหุ้นในปัจจุบัน ...... ถ้ามองดูว่าแนวโน้มตลาดหุ้นจะมีโอกาสเพิ่มค่าได้อีกมาก และพร้อมที่จะรุกไปข้างหน้า อาจจะเลือกที่ SCBLT2, SCBLT3 หรือ SCBLTT แต่ถ้ามองไปถึงภาพรวมของตลาดหุ้น ต่างประเทศด้วย อาจจะเลือกที่ SCBLT4 ครับ แต่ถ้ามองว่าควรแบ่งรับ แบ่งสู้ ไม่ควรเสียงจนสุดตัวอาจจเลือกที่ SCBLT1 ก่อนครับ แต่ถ้ามองว่าตลาดหุ้นมีความเสี่ยงสูงเกินกว่าจะยอมรับได้แล้ว อาจจะถอยมาตั้งรับ อยู่ที่ SCBLTS ก่อนก็ได้ครับ 3. ช่วงเวลาในภาวะดอกเบี้ยที่มีโอกาสปรับตัวสูงขึ้น น่าจะเป็นโอกาสของ SCBTMF มากกว่า SCBSFF โดยเฉพาะช่วงเวลานี้ครับ จากคุณ : pjuk เขียนเมื่อ : 15 มิ.ย. 54 11:25:46

ความคิดเห็นที่ 2 ขอถามอีกนิดค่ะ 1)ถ้างั้น ปี 52 ที่เราซื้อ  ก็ต้องนับวันที่ชนปีกับวันที่ซื้อในปี 57 ด้วยหรือเปล่าค่ะ 2) ถ้าไม่ต้องนับให้ครบ 5 ปีที่เราซื้อในปี52  งั้นเราก็ขายทุกยอดที่ซื้อตั้งแต่ซื้อปี 48-52 ได้แล้วใช่ไหมค่ะ เพราะซื้อคร้งแรก ปี 48 เดือนธันวาคม  ตอนนี้ก็ 5 ปีกว่าแล้ว ขอบคุณค่ะ จากคุณ : Carlo เขียนเมื่อ : 15 มิ.ย. 54 14:04:36

ความคิดเห็นที่ 3 1. RMF .. ดูระยะเวลาการลงทุนเฉพาะ รายการแรกที่ซื้อเท่านั้นครับ    LTF ... นัลปีปฏิทิน แต่ละรายการแยกจากกันครับ 2. RMF ... เมื่อรายการแรกครบตามเงื่อนไข ... รายการอื่นๆ ทั้งหมดก็จะครบเงินไขไปด้วยครับ จากคุณ : pjuk เขียนเมื่อ : 15 มิ.ย. 54 14:39:41

ความคิดเห็นที่ 4 ชัดเจนมากค่ะ ขอบคุณค่ะ คิดว่าจะขายเอากะตังค์มาซื้อใหม่อีกรอบ  ดูจังหวะอยู่ค่ะ จากคุณ : Carlo เขียนเมื่อ : 15 มิ.ย. 54 14:59:45