กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ การลงทุนทางเลือก
|
|
ทำไมต้องพิจารณาการลงทุนทางเลือก มีประโยชน์อย่างไร เกี่ยวข้องกับเราทุกท่านหรือไม่
แน่นอนการลงทุนทางเลือก จะมีความสำคัญมากขึ้นเรื่อยๆ หากอัตราเงินเฟ้อยังคงวิ่งไม่หยุด อีกทั้งผู้ออมต้องเผชิญกับการจำกัดวงเงินคุ้มครองของสถาบันคุ้มครองเงินฝาก ซึ่งตั้งแต่วันที่ 11 สิงหาคม 2554-10 สิงหาคม 2555 กฎหมายคุ้มครองเงินฝากจะเริ่มใช้บังคับ โดยเงินฝากจะได้รับความคุ้มครองไม่เกิน 50 ล้านบาท ต่อรายผู้ฝากต่อรายสถาบัน และวันที่ 11 สิงหาคม 2555 เป็นต้นไป จะคุ้มครองเงินฝากวงเงินไม่เกิน 1 ล้านบาท ต่อรายผู้ฝากต่อรายสถาบัน
ผู้ออมหรือนักลงทุนคงต้องศึกษา และสรรหาทางเลือกในการลงทุนใหม่ๆ เพื่อให้เกิดการกระจายความเสี่ยงให้มากที่สุด
หลายๆ ท่านที่เป็นผู้ออมปัจจุบัน ก็เป็นนักลงทุนที่มองหาช่องทางในการลงทุนนอกจากเงินฝากอยู่แล้ว ซึ่งหากพิจารณาลักษณะการลงทุนนอกเหนือจากเงินฝาก จะพบว่าผลิตภัณฑ์การลงทุนโดยทั่วๆ ไป จะประกอบไปด้วย กองทุนรวมตลาดเงิน กองทุนรวมตราสารหนี้ กองทุนรวมตราสารทุน ซึ่งเป็นรูปแบบขั้นพื้นฐานที่เป็นทางเลือกให้นักลงทุนได้เห็นอยู่ทั่วไปอยู่แล้วขึ้นอยู่ว่า นักลงทุนจะรับความเสี่ยงได้มากน้อยอย่างไร
กองทุนรวมตลาดเงิน ถือเป็นการลงทุนประเภทความเสี่ยงค่อนข้างต่ำ หากเทียบกับกองทุนตราสารหนี้ทั่วไป และแน่นอนผลตอบแทนก็จะเบาบางตามระดับความเสี่ยง
กองทุนรวมตราสารทุนถือเป็นการลงทุนที่มีความเสี่ยงสูง ผลตอบแทนที่คาดหวังก็ย่อมจะสูงตามความเสี่ยง แต่นักลงทุนต้องยอมรับภาวะความผันผวนระหว่างระยะเวลาในการลงทุน
หลายๆ ครั้งผู้เขียนถูกถามว่า มีอะไรที่นอกเหนือไปจากการลงทุนประเภทดังกล่าวหรือไม่ ที่น่าจะเป็นทางเลือกให้กับนักลงทุนได้ศึกษา คำตอบที่ส่วนมากจะได้ยินคือ มีแน่ แต่ความเสี่ยงก็อาจจะเพิ่มขึ้น เช่น สินค้าโภคภัณฑ์ ทองคำ ซึ่งเป็นที่นิยมลงทุนกันในปัจจุบัน หรือกองทุนพลังงาน น้ำมัน ฯลฯ เหล่านี้ล้วนเป็นทางเลือกที่ความเสี่ยงต้องอธิบายกันให้ลึกซึ้ง และยอมรับภาวะความผันผวนระหว่างทาง
ในการลงทุนทางเลือกเหล่านี้ ก็ยังมีอีกทางเลือกที่ผู้เขียนจะแนะนำให้ลงทุน คือ การลงทุนใน "กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์" ถามว่าทำไม เหตุผลที่ให้ก็จะเป็นเหตุผลที่เข้าใจง่ายๆ คือ มีอะไรบ้างที่เราชอบสะสมให้ลูกหลานเมื่อแก่ตัว
นอกจากเงินฝาก ของมีค่าต่างๆ สิ่งที่เราชอบมากที่สุดของการลงทุน คือ อสังหาริมทรัพย์ ด้วยความเข้าใจตรงกันว่า อสังหาริมทรัพย์ เป็น Inflation Hedge หรือเป็นการป้องกันทรัพย์สินจากภาวะเงินเฟ้อ ซึ่งไม่ใช่ตัวเลขเงินเฟ้อจากธนาคารแห่งประเทศไทย หรือกระทรวงพาณิชย์ แต่เป็นตัวเลขที่เกิดจากชีวิตจริง ที่วันหนึ่งข้าวแกงจานละ 10-15 บาท 30 กว่าปีให้หลัง ข้าวแกงปริมาณเท่ากันราคาขึ้นมาเป็น 30-40 บาท อย่างถูกที่สุด 300% ของอัตราเงินเฟ้อจริงภายใน 30 ปี หรือเฉลี่ย 10% ต่อปี หรือราคาที่ดินใจกลางเมืองขึ้นจากหลักไม่ถึง 100,000 บาทต่อตารางวา เป็น 1,000,000 บาท ต่อตารางวา เป็นตัวเลขที่น่าตกใจว่าเงินในกระเป๋าเรายังมีสุขภาพดีอยู่หรือไม่ หากเราไม่หาเครื่องมือการลงทุนที่รับกับค่าของเงินที่แท้จริงในอีก 20-30 ปีข้างหน้า
กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ จึงถือเป็นทางเลือกที่น่าลงทุนหลายประการ เช่น นักลงทุนไม่จำเป็นต้องมีเงินมหาศาลเพื่อจะเข้าไปลงทุนในอสังหาริมทรัพย์เพื่อเป็นเจ้าของทั้งหมด หรือเราไม่ต้องเข้าไปบริหารจัดการ เพราะกองทุนเป็นผู้เลือกผู้บริหารอสังหาริมทรัพย์มืออาชีพมาให้แล้ว หรือการบริหารจัดการที่โปร่งใส
ทั้งนี้สามารถตรวจสอบได้ เพราะถือเป็น Public Fund ที่นักลงทุนทุกคนสามารถมีส่วนร่วม กองทุนอยู่ภายใต้กฎเกณฑ์ของสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ หรือ เป็นการบริหารที่ปลอดหนี้ เพราะตามหลักเกณฑ์
แม้จะกู้ยืมได้ก็เป็นเพียงส่วนน้อย (ปัจจุบันไม่เกิน 10% ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ) และต้องได้รับความเห็นชอบจากผู้ถือหน่วยจึงจะสามารถกู้ยืมได้ หรือผลประกอบการที่เป็นกำไรสุทธิต้องจ่ายคืนให้กับนักลงทุนไม่ต่ำกว่า 90% ของกำไรสุทธิทั้งหมด ซึ่งนักลงทุนสามารถรับรู้รายได้ทุกปี เหล่านี้เป็นเพียงตัวอย่างข้อดีของการลงทุนในกองทุนดังกล่าว
การพิจารณาลงทุน นักลงทุนต้องคำนึงถึงความเสี่ยงเช่นเดียวกัน หากเราเลือกที่จะลงทุนต้องคำนึงถึงอะไรบ้างเป็นสำคัญ สิ่งที่จำเป็นต้องนำมาพิจารณาหลักๆ คงต้องดูที่ประเภทของทรัพย์สิน เราเข้าใจประเภททรัพย์สินนี้เพียงพอหรือไม่ เช่น ศูนย์การค้า สำนักงาน Serviced Apartment โรงงาน หรือโรงแรม เป็นต้น ทรัพย์สินแต่ละประเภทก็มีความเสี่ยงไม่เท่ากัน ทำเลที่ตั้งก็จำเป็นอย่างยิ่งที่จะนำมาพิจารณาว่าเหมาะสมกับการประกอบธุรกิจหรือไม่
การอยู่ในทำเลที่ตั้งที่ดี ก็ต้องมาพิจารณาต่อว่าผู้บริหารเป็นใคร ไว้ใจได้มากน้อยเพียงใด มีประวัติความเป็นมาและชื่อเสียงเป็นอย่างไร และที่สำคัญผลตอบแทนที่เราคาดว่าจะได้จากทรัพย์สินนั้น คุ้มค่ากับความเสี่ยงที่จะลงทุนหรือไม่
นอกจากนี้ยังมีปัจจัยอีกหลายอย่างที่ต้องนำมาพิจารณา ซึ่งนักลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการลงทุน เมื่อเข้าใจชัดเจนแล้ว เชื่อว่าการลงทุนจะสามารถนำท่านไปสู่วัตถุประสงค์ที่ต้องการได้
ทั้งนี้ ผู้ที่จะทำหน้าที่ตอบคำถามท่านได้ก็คือ ผู้จัดการกองทุนที่มีหน้าที่รักษาผลประโยชน์ของกองทุนให้กับผู้ถือหน่วย
ชวินดา หาญตระกูล KTAM FOCUS http://www.bangkokbiznews.com/home/details/business/ceo-blogs/chanida/20110629/397745/กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์-การลงทุนทางเลือก.html
จากคุณ |
:
ขอบฟ้าบูรพา
|
เขียนเมื่อ |
:
30 มิ.ย. 54 00:26:14
|
|
|
|