ความคิดเห็นที่ 1 หุ้นตก ใครที่มีหุ้นอยู่ทำไมจะไม่กลัวละครับ ^^ นอกจากปอดว่างเท่านั้นแระ เลือกตั้งไม่ค่อยกลัวครับ ว่าจะตั้งรัฐบาล กว่า กกต จะประกาศรับรอง กว่าจะได้รับการแต่งตั้ง อีกนาน ยังมีเวลาให้ทำอะไรอีกแยะ ระหว่างนี้ก็ให้กอง ให้หรั่ง ลากไปเรื่อยๆก่อนก็แล้วกัน จากคุณ : JayJekKen เขียนเมื่อ : 3 ก.ค. 54 00:06:09

ความคิดเห็นที่ 2 เศรษฐกิจสหรัฐมีสัญญาณว่าน่าจะฟื้น คิดว่าประเด็นเรื่องการเมืองและเลือกตั้งน่าจะเป็นรองๆลงมาแล้ว เพราะอเมริกาฟื้น ย่อมให้น้ำหนักความอยากลงทุน มากกว่าการเมืองต๊องๆในประเทศไทย จากคุณ : venezier เขียนเมื่อ : 3 ก.ค. 54 00:20:44

ความคิดเห็นที่ 3 หุ้นตก-->กังวลการเมือง(อีกแล้ว) หุ้นขึ้น-->คลายกังวลการเมือง(แล้วน่ะจ่ะ) ปล.ผลเกิดก่อน แล้วค่อยหาเหตุ(ตามใจฉัน)มาใส่   จากคุณ : Pogio เขียนเมื่อ : 3 ก.ค. 54 00:35:16

ความคิดเห็นที่ 4 ปัญหาการเมืองไทยจิบจ๊อยมากสำหรับฝรั่งหากไปเทียบกับปัญหาหนี้สินของกรีซที่อาจจะมี Domino Effect ไปทั่ว EU 5 วันที่ผ่านมา Dow Jones ขึ้นมาเกือบ 650 จุดหรือกว่า 5% แสดงให้เห็นถึงความเชื่อมั่นของนักลงทุนต่างชาติว่าปัญหาหนี้สินของกรีซจะคลี่คลายไปในทางที่ดี จากคุณ : Macadamia เขียนเมื่อ : 3 ก.ค. 54 00:49:41

ความคิดเห็นที่ 5 หรั่งซื้อผมเฉยๆ แต่กองทุนซื้อนี่สิ เค้ามั่นใจอะไร ?? หรือว่ารู้ผลเลือกตั้ง?? หรือถ้าเป็นแค่วินโดว์เดรสซิ่ง วันจันทร์เค้าจะขายหนักรึเปล่า น่าลุ้นจริงๆ จากคุณ : Mea Culpa เขียนเมื่อ : 3 ก.ค. 54 01:03:18

ความคิดเห็นที่ 6 ในตลาดหุ้นมีเรื่องที่พวกเม่าอย่างเราไม่รู้อีกเยอะ อย่าคิดมากนะ เอาเป็นว่า ใช้สติในการตัดสินใจ จากคุณ : ฉลามบุก เขียนเมื่อ : 3 ก.ค. 54 01:22:11

ความคิดเห็นที่ 7 เดือนที่แล้ว หรั่งขายมาทั้งเดือน ไม่กลัวหุ้นขึ้นบ้างเหรอ แปลกไปอีกแบบนึงนะครับ จากคุณ : Abell 1367 เขียนเมื่อ : 3 ก.ค. 54 01:26:24

ความคิดเห็นที่ 8 การเมืองแค่ส่วนหนึ่งเท่านั้น กรีซประท้วงกันสนุกนาน ข่าวก็ออกมานิดนึง Downjones ก็ขึ้นเอาๆ จากคุณ : Cariska เขียนเมื่อ : 3 ก.ค. 54 05:53:22

ความคิดเห็นที่ 9 ผมดูมานานแล้วครับ อารมณ์ตลาดไปตามดัชนี ดัชนีขึ้นตามอารมณ์ เหตุผลบางครั้งแทบไม่เกี่ยว แล้วคนที่บอกว่าเข็ดๆ พอวันรุ่งขึ้นตลาดปรับตัวขึ้นอารมณ์ก็เปลี่ยนอีกแล้วครับ แก้ไขเมื่อ 03 ก.ค. 54 07:58:56 จากคุณ : ทองเนื้อเก้า เขียนเมื่อ : 3 ก.ค. 54 07:45:51

ความคิดเห็นที่ 10 นักวิเคราะห์หลังเกิดเหตุการณ์ยังไงก็แม่นครับ ถ้าผมทายว่าขึ้นแล้วจริงๆมันขึ้น หรือทายว่าลงแล้วมันลงจริงๆ ...กรูเก่ง กรูเทพ กรูอ่านขาด กรูมันโคตรเซียน ถ้าผมทายว่าลง แล้วมันดันขึ้น ...เนื่องจากนักลงทุนมั่นใจในเสถียรภาพของรัฐบาลใหม่ ประกอบกับวิกฤตการณ์ของกรีซคลี่คลายไปในทางที่ดีขึ้น จึงทำให้ความมั่นใจของนักลงทุนเพิ่มขึ้น ทิศทางที่พยากรณ์ไว้จึงเปลี่ยน ถ้าผมทายว่าขึ้น แล้วมันดันลง ...เนื่องจากนักลงทุนไม่ค่อยมั่นใจในเสถียรภาพของรัฐบาลใหม่นัก ประกอบกับวิกฤตการณ์ของกรีซก็ยังไม่คลี่คลายเท่าที่ควร จึงทำให้ความมั่นใจของนักลงทุนลดลง ทิศทางที่พยากรณ์ไว้จึงเปลี่ยน แล้วต้องอย่าลืมตบท้ายด้วยว่า การลงทุนมีความเสี่ยง การพยากรณ์นี้เป็นไปตามหลักการ(ของกรู)เท่านั้น โปรดใช้วิจารณญาณในการซื้อขายหุ้นด้วยตัวท่านเอง ...แปลว่า ถ้าดันโง่เชื่อผม แล้วดันเจ๊งก็อย่ามาโทษเค้านะ จากคุณ : ไม่เก่งแต่อยากตอบ เขียนเมื่อ : 3 ก.ค. 54 08:19:58

ความคิดเห็นที่ 11 ไม่กังวลแล้วครับ สัปดาห์นี้ได้ขายแน่ๆ ^ ^ จากคุณ : everandever เขียนเมื่อ : 3 ก.ค. 54 09:28:59

ความคิดเห็นที่ 12 หุ้นขึ้นลงไม่ต้องหาเหตุผล มีคนขายมันซื้อ มีคนซื้อมันขาย ถ้าไม่มีคนซื้อมันลากขึ้นไปแพงจนเราต้องซื้อ ถ้าไม่มีคนขายมันทุบจนเราต้องขาย จากคุณ : น้ำมันก๊าด เขียนเมื่อ : 3 ก.ค. 54 09:39:03

ความคิดเห็นที่ 13 สองวันล่าสุด SET เปิด GAP ไว้ทั้งสองวัน ผมเดาเอาว่ามันน่าจะลงมาปิดให้สนิทก่อนที่จะขึ้นต่อ จากคุณ : MCoalAsh เขียนเมื่อ : 3 ก.ค. 54 11:01:46

ความคิดเห็นที่ 14 รู้แล้วอย่าทำ เปลี่ยนใหม่เสียที ถ้าเธอ เปลี่ยนใหม่เสียเลย ไม่เหมือนเก่า .. จากคุณ : เด็กเกาะสมุย เขียนเมื่อ : 3 ก.ค. 54 19:18:24

ความคิดเห็นที่ 15 เรื่องความลำเอียงในตลาดหุ้นนั้น  ผมคิดว่ายังมีอีกมาก  สิ่งที่เราควรเข้าใจก็คือ  ตลาดหุ้นนั้น  เป็นที่อยู่ของคนที่มักจะมองโลกในด้านที่บวกสูงกว่าคนปกติ  เป็นที่อยู่ของคนที่มีความหวังหรือความฝันที่สูงกว่าคนทั่วไป  พวกเขาฝันที่จะรวยอย่างรวดเร็วหรือสามารถทำเงินได้เป็นกอบเป็นกำ  ไม่ว่าเมื่อวานตลาดหุ้นจะเลวร้ายแค่ไหน  ก่อน 10 โมงเช้าที่ตลาดเปิด  คนเล่นหุ้นก็มักจะมีความหวังเสมอ  การมองโลกที่สดใสกว่าปกตินั้น  ผมคิดว่าทำให้คนในตลาดหุ้นส่วนใหญ่มี  “ความลำเอียง”  ที่จะมองการลงทุนหรือการซื้อขายหุ้นในแง่ที่ดีกว่าความเป็นจริง  ถ้าลองถามคนที่ลงทุนเล่นหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ว่าเขาคิดว่าจะได้รับผลตอบแทน  “ปีนี้” กี่เปอร์เซ็นต์  ผมเชื่อว่าคำตอบเฉลี่ยคงเป็นอย่างน้อย 20-30% ขึ้นไป  ทั้ง ๆ  ที่ผลตอบแทนต่อปีในอดีตของตลาดหุ้นนั้นเท่ากับประมาณ 10% เท่านั้น จากคุณ : maruman เขียนเมื่อ : 3 ก.ค. 54 19:51:51

ความคิดเห็นที่ 16 Rep 15 คุณ Maruman ก็อบข้อความของ อ.นิเวศน์แปะไปทั่วเลยนะครับ :S จากคุณ : Tyd8 เขียนเมื่อ : 4 ก.ค. 54 01:02:26