ความคิดเห็นที่ 1 กองทุนรวมตลาดเงิน  - SCBTMF กองทุนรวมตราสารหนี้ - SCBSFF , กองทุนประเภท Term Fund กองทุนรวมตราสารทุน – SCBDV , SCBSE , SCBBANKING , SCBENERGY การลงทุนระยะยาว ตั้งเป้าหมายไม่ขายคืน สร้างโอกาสจากกาารลงทุนที่ต่อเนื่อง น่าจะเป็นการเลือก รูปแบบการลงทุนที่ให้โอกาสจากเงินปันผลมากกว่าการเปลี่ยนแปลงด้านราคา การเพิ่มหน่วยลงทุนได้ โดยการนำเงินปันผลที่ได้รับ หมุนเวียนกลับมาลงทุนใหม่ ทำให้เกิดมูลค่าเพิ่มด้าน ต้นทุนทดแทนการมุ่งเน้นราคาที่ไม่แน่นอนในอนาคตได้อย่างดี จากการที่หน่วยลงทุนถือว่าเป็นต้นทุนให้ สามารถเพิ่มค่าได้ตราบใดที่ยังมีหน่วยลงทุนอยู่นั่นเองครับ จากคุณ : pjuk เขียนเมื่อ : 3 ก.ค. 54 08:58:20

ความคิดเห็นที่ 2 สำหรับกองทุนประเภท Term Fund ที่เปิดจองซื้อในช่วงเวลาต่างๆ สามารถติดตามได้จาก http://www.scbam.com/inc/navmail.html หรือเข้าที่ SCBAM Quick Links --> Daily NAV ครับ จากคุณ : pjuk เขียนเมื่อ : 3 ก.ค. 54 09:02:52

ความคิดเห็นที่ 3 1.เช่นนี้ หมายความว่าผมต้องเลือกตัวที่มีเงินปันผล(ในแต่ละกองทุน)ถึงจะดีใช่ไหมครับ เพราะด้านราคาหน่วยลงทุน(ในอนาคต)เปลี่ยนแปลงไม่มาก หรือผมเข้าใจผิดครับ 2. อีกคำถามกองทุนประเภท Term Fund ที่เปิดจองซื้อในช่วงเวลาต่างๆนั้น ถ้าครบกำหนดแล้ว เค้าจะ(บังคับ)ซื้อคืนจากเราโดยอัตโมมัติหรือต้องทำอย่างไรครับ จากคุณ : Tomoon เขียนเมื่อ : 3 ก.ค. 54 10:24:08

ความคิดเห็นที่ 4 1. การเปลี่ยนแปลงราคา มาก/น้อย อาจจะบอกได้ยากครับ แต่ส่วนใหญ่แล้วกองทุนประเภทที่มีการจ่ายปันผล ราคาจะไม่ไปไหนไกล เพราะจะตัด จ่ายออกมาเป็นเงินปันผลไปแทนอยุ๋เรื่อยๆ ครับ 2. กองทุนประเภท Term Fund เมื่อครบกำหนด จะดำเนินการขายคืนให้ โดยอัตโนมัติ โดยไม่ต้องทำอะไรครับ ... ทั้งนี้การคืนเงินจะเป็นการนำเงิน ไปลงทุนต่อให้ใน SCBSFF หรือ อาจจะเป็น SCBTMF ในบางกรณี ซึ่ง ก็จะเป็นการลงทุนต่อเนื่องให้ได้โดยอัตโนมัติด้วยครับ จากคุณ : pjuk เขียนเมื่อ : 3 ก.ค. 54 10:40:46

ความคิดเห็นที่ 5 รบกวนถามคุณ pjuk ต่อนะครับ   เช่นนี้ ถ้าผมเลือกลงทุนใน SCBTMF กับ SCBSFF (ซึ่งไม่มีนโยบายจ่ายเงินปันผล)ในระยะยาวสัก 10 ปี ในระหว่าง 10 ปี จะได้ค่าตอบแทนอะไรไหมครับ  และเมื่อครบ 10 ปีแล้ว ขายคืน ก็จะได้เพียงส่วนต่างของราคาหน่วยลงทุน(ขณะขายอาจกำไรหรือขาดทุนก็ได้)ใช่ไหมครับ จากคุณ : Tomoon เขียนเมื่อ : 3 ก.ค. 54 10:55:50

ความคิดเห็นที่ 6 SCBTMF, SCBSFF เป็นประเภทตราสารหนี้ ที่ความเสี่ยงไม่มาก โอกาสผันผวนติดลบมีน้อยมากๆ .... ทำให้ระยะเวลาการลงทุนยิ่งมากโอกาสสะสมมูลค่ายิ่งสูงขึ้นได้ .... ดังนั้นจึงไม่จำเป็นที่ต้องรอรับปันผล เนื่องจาก เข้า-ออกเมื่อไหร่ ราคาก็มีโอกาสสูงขึ้นกว่าเดิมได้ตลอดครับ ถ้ามองตัวเลขผลตอบแทน เทียบกับกองทุนหุ้นแล้ว .... SCBSFF, SCBTMF อาจจะใช้เป็นเพียงแหล่งพักเงิน เพื่อรอขยับขยาย การลงทุนในรูปแบบต่างๆ มากกว่าที่จะใปนกองทุนหลักในการสร้างโอกาสหาผลตอบแทนครับ จากคุณ : pjuk เขียนเมื่อ : 3 ก.ค. 54 11:21:29

ความคิดเห็นที่ 7 อย่างงี้ตอนนี้ตั้งซื้อ/สับเปลี่ยน ล่วงหน้า (4 ก.ค.) scbse ก็ได้แล้วใช่ไหมคะพี่ juk จากคุณ : love2loveU เขียนเมื่อ : 3 ก.ค. 54 12:14:49

ความคิดเห็นที่ 8 SCBSE สามารถทำรายการล่วงหน้า ทั้งซื้อ และสับเปลี่ยนได้เลยครับ จากคุณ : pjuk เขียนเมื่อ : 3 ก.ค. 54 12:35:15

ความคิดเห็นที่ 9 ขอบคุณค่ะ จากคุณ : love2loveU เขียนเมื่อ : 3 ก.ค. 54 13:48:03

ความคิดเห็นที่ 10 ขอบคุณครับ  ได้ความรู้เพิ่มเยอะเลยครับ จากคุณ : Tomoon เขียนเมื่อ : 3 ก.ค. 54 15:54:54

ความคิดเห็นที่ 11 พี่จุกคะ...การนำเงินปันผลที่ได้รับกลับมาลงทุนใหม่ ถ้าทำในระบบ Easynet คือใช้วิธีการสับเปลี่ยนเงินปันผลนั้นกลับมาที่ TMF/SFF ก่อน แล้วค่อยนำเงินนั้นไปซื้อเพิ่มใหม่หรือใช้วิธีการขายคะ ... เพิ่งจะเริ่มลงทุนได้ 3 เดือน ยังไม่ทราบว่าจะบริหารเงินปันผลที่ได้มาอย่างไร โดยปกติ ราคาหน่วยลงทุนจะลดลงในวัน XD ถ้า NAV ของเราค่อนข้างสูงอยู่ เราควรล้างไพ่แล้วเข้าซื้อใหม่ทั้งหมดดีไหมคะ หมายความว่าเราต้องเตรียมเงินอีกก้อนไว้เพื่อเข้าซื้อในวันประกาศจ่ายเงินปันผลเพื่อให้ได้ราคาที่ถูกใช่ไหมคะ จากคุณ : Quilting bee เขียนเมื่อ : 3 ก.ค. 54 17:03:22

ความคิดเห็นที่ 12 เงินปันผล ที่ได้รับ จะนำเข้าบัญชีเดียวกับที่ใช้รับเงินค่าขายคืน (และที่ตัดเงินซื้อกองทุน) แล้วผู้ลงทุนค่อยทำรายการซื้อ โดยตัดเงินจากบัญชีธนาคารกลับเข้าไปเองอีกทีครับ ส่วนราคาต้นทุนการลงทุนที่อยู่ในระดับที่สูงกว่าราคาหน่วยลงทุนในปัจจุบันนั่น อาจจะใช้หลักการ เฉลี่ยต้นทุน โดยการลงทุนเพิ่มที่ราคาต่อหน่วยต่ำกว่าต้นทุนเดิม ก็จะสามารถทำให้ต้นทุนเฉลี่ยต่ำ ลงได้ เพื่อให้โอกาสการกลับคืนมาของตัวเลขกำไรได้เร็วขึ้นกว่าการรอเพียงอย่างเดียวครับ หรือถ้าเลือกที่จะขายออกเพื่อเริ่มต้นใหม่ ด้วยราคาต้นทุนใหม่นั่น อาจจะกลายเป็นดาบ 2 คมได้ จากภาวะขาดทุนที่เป็นตัวเลข กลายเป็นตัวเงินที่ขาดหายไปได้ทันที นั่นอาจจะหมายถึง แม้จะซื้อใหม่ ได้ที่ต้นทุนต่ำกว่าเดิม แต่ก็ยังต้องรอการชดเชยราคากว่าที่จะครอบคลุมตัวเลขขาดทุนเดิมอีกด้วยครับ อีกทั้งถ้าพลาดโอกาสที่จะซื้อกลับที่ราคาต่ำกว่าที่ขายคืนออกมา จากการที่หลังจากวันที่ตัดสินใจขายคืน แล้วภาวะตาดหุ้นกลับกลายเป็นแนวทางที่เพิ่มขึ้นแทนก็อาจจะเป็นไปได้ครับ จากคุณ : pjuk เขียนเมื่อ : 3 ก.ค. 54 18:40:30

ความคิดเห็นที่ 13 ราคาหน่วยลงทุนจะลดลงในวัน XD แต่กว่าจะถึงวันที่ XD อาจจะหมายถึงราคาหน่วยลงทุนที่สูงขึ้นมาก แล้วเมื่อประกาศจ่ายปันผลแล้ว NAV ลดลง แต่ถ้าลดลงมาไม่ถึงราคาที่เราขายออกไปก่อนหน้า ก็อาจจะหมายถึงเราซื้อได้ที่ราคาสูง อีกก็ได้นะครับ จากคุณ : pjuk เขียนเมื่อ : 3 ก.ค. 54 18:45:10

ความคิดเห็นที่ 14 เข้าใจหลักการโดยรวมแล้วค่ะพี่จุก ขอบคุณนะคะ ตอนนี้ NAV ตัว DV ของตัวเองอยู่ที่ประมาณ 11.1 รู้สึกว่ายังสูงไปหน่อยเมื่อเทียบกับราคา NAV ในวันที่ XD ตามที่ย้อนกลับไปดูเรคคอร์ดการจ่าย แต่ถ้าพิจารณาตามคำแนะนำของพี่จุกแล้ว คิดว่าน่าจะใช้วิธีการเฉลี่ยต้นทุนดีกว่า เพราะอย่างไรเสียก็ไม่คิดจะขายอยู่แล้ว อยากสะสมไว้เพื่อเงินปันผลในระยะยาวมากกว่าค่ะ... อยากทราบไว้เป็นความรู้ค่ะว่า ถ้าประกาศจ่ายเงินปันผลแล้ว เราสามารถขายคืนได้เลย หรือว่าต้องถือไว้จนถึงวันที่ได้รับเงินปันผล จึงจะมีสิทธิได้รับเงินปันผลนั้นคะ ตอนนี้มี DV กับ SE อยู่ทั้งสองกอง พี่จุกคิดว่าลงทุนโดยเน้นน้ำหนักไปที่กองใดกองหนึ่งหรือลงทุนเพียงกองเดียวไปเลย กับการลงทุนไว้ทั้งสองกองจะดีกว่ากันคะ ขอบพระคุณอีกครั้งนะคะ จากคุณ : Quilting bee เขียนเมื่อ : 3 ก.ค. 54 19:21:56

ความคิดเห็นที่ 15 วันที่ประกาศจ่ายปันผล (XD) คือวันที่ตัดสินว่าจะได้รับเงินปันผลตามอัตราที่ประกาศจ่ายหรือไม่ ขอเพียงมีหน่วยลงทุนอยู่ ตอนเช้าของวันที่ประกาศจ่ายปันผลเท่านั้นก็เพียง พแท่จะได้รับเงินปันผลในงวดนั่นด้วยครับ ..... ดังนั้นแม้จะขายคืน ในวันที่ประกาศจ่ายปันผล ... ที่จะทำให้จำนวนหน่วยลงทุนจะลดลงในสินวันนั้น ด้วยราคาที่หักอัตราการจ่ายปันผล ออกไปแล้ว ก็จะหมายถึงยังคงได้รับสิทธิ์ในเงินปันผลงวดนั้นด้วย โดยไม่ ต้องรอจนถึงวันที่ได้รับเงินจริงครับ ในทางกลับกัน ถ้าซื้อในวันที่ประกาศจ่ายปันผล จะได้รับการจัดสรรหน่วยลงทุน ด้วยราคาที่หักอัตราการจ่ายปันผลไปแล้ว ย่อมหมายถึงไม่ได้รับสิทธิ์ในเงินปันผลครับ จากคุณ : pjuk เขียนเมื่อ : 3 ก.ค. 54 20:58:54

ความคิดเห็นที่ 16 SCBDV กับ SCBSE สองกองทุนแม้นจะมีแนวทางการลงทุนที่มุ่งเน้นการลงทุนระยะยาวโดยการสะสมหน่วยลงทุนได้เช่นเดียวกัน แต่ด้วยรูปแบบการเลือกหุ้นที่แตกต่างกัน อาจจะทำให้แต่ละกองทุนช่วยลบช่องว่างของโอกาส ที่แตกต่างกันได้ จึงน่าจะเป็นทางเลือกที่ดีถ้าได้มีการลงทุนคู่ขนานไปพร้อมๆ กันครับ จากคุณ : pjuk เขียนเมื่อ : 3 ก.ค. 54 21:02:03

ความคิดเห็นที่ 17 ขอบพระคุณงามๆ ค่ะพี่จุก .. ชัดเจนค่ะ พี่จุกนี่สุดยอดจริง..กลับเข้ามาติดตามผลของกระทู้ที่ตอบไปแล้วด้วย จากคุณ : Quilting bee เขียนเมื่อ : 3 ก.ค. 54 22:09:56

ความคิดเห็นที่ 18 สวัสดีครับ ผมเป็นตัวแทนเต็มเวลาประกันฯ ของบริษัท อยุธยา อลิอันซ์ ซีพี ผมขอเวลาเข้าไปคุยเพื่อแนะนำโครงการของบริษัทฯ ซึ่งตอนนี้มีโครงการ ที่ผมเห็นว่าน่าจะเป็นประโยชน์สำหรับคุณ ตามที่คุณได้กล่าวมาข้างต้นนะครับ ไม่ทราบว่าสะดวกให้พบวันไหนดีครับ ติดต่อ อนันต์ jorenger@hotmail.com แก้ไขเมื่อ 05 ก.ค. 54 08:36:46 จากคุณ : โจ๋โรบอท เขียนเมื่อ : 5 ก.ค. 54 08:34:43