ความคิดเห็นที่ 1 15%. ครับ หลุดมาขนาดนี้หนีไม่ออกทำใจไม่ได้ จากคุณ : กิ่งกัลปพฤกษ์ เขียนเมื่อ : 26 ก.ค. 54 08:51:50

ความคิดเห็นที่ 2 อีกไม่กี่เดือนจะครบ2ปี(อุ๊เหม่ผมยังเม่าอยู่เลย) เรโชผมของน่าจะซักประมาณ0.80^^ จากคุณ : มิ่งกลิ้ง เขียนเมื่อ : 26 ก.ค. 54 08:58:46

ความคิดเห็นที่ 3 ไม่มีตัวเลขที่ชัดเจนค่ะ เคยติดหุ้น จนถึงขนาดห้ามซื้อขายอยู่หลายปีเลยค่ะ (จ้าวโลก) จากคุณ : Attention Please* เขียนเมื่อ : 26 ก.ค. 54 09:01:17

ความคิดเห็นที่ 4 ผม อยุ่เกือบ 2 ปี  เรโซของผม ขึ้นอยู่กับการทำกำไรครั้งที่แล้ว หากครั้งที่แล้ว ได้ +0.50  ผมรับขาดทุนได้ที่ 0.25 x 2 หากครั้งที่แล้ว ได้ +0.10  ผมรับขาดทุนได้ที่ 0.05 x 2 คือ ได้ 1.0  ยอมเจ็บตัว  0.5 x  2  เสมอไป จากคุณ : ยางบง (B_byHand) เขียนเมื่อ : 26 ก.ค. 54 09:04:28

ความคิดเห็นที่ 5 เข้ามาสินธรครั้งแรกตั้งแต่งานแต่งงานตัวเอง เพราะสะดุดกระทู้เฮีย endo ต้องขอขอบคุณเฮียที่มาร่วมเป็นเกียรติครับ ช่วงหลายปีที่ไม่ได้เข้ามานี่ ผมไปศึกษากระบวนฝีมือมามายมาย ได้มีโอกาสทักทายเพื่อนๆพี่ๆรุ่นเก่า ที่เคยถกหุ้นกันมานานๆ ก็คุยกันเล่นๆถึงเรื่องว่าการทำอะไรให้ง่าย (KISS-Keep It Simple and Stupid) คือ สิ่งที่ดีที่สุด ก็มาย้อนถึงวิธีการคิดของเฮีย ที่เจ๋งเป้ง ซ่อนแนวคิดลึกซึ้งด้วยคารมคมคายที่เข้าใจง่ายและน่าสนใจเสมอ สำหรับผมสัญญาณการขายหลักเกิดจาก Trailing Stop Loss ครับ จากคุณ : Muffin เขียนเมื่อ : 26 ก.ค. 54 09:12:51

ความคิดเห็นที่ 6 ขอบคุณทุกๆท่านที่ร่วมเข้ามาออกความเห็นครับ ผมมีความเชื่อว่า ยิ่งเราอยู่ในตลาดหุ้นนานขึ้นเท่าไร     ค่าติดดอยเรโชในใจเรา จะยิ่งลดลงตามลำดับ นอกจากจะผกผันกับประสบการณ์ตรงแล้ว ก็ยังขึ้นอยู่กับ  กำไรหรือขาดทุนจริงที่เราได้รับมาทั้งหมดด้วย ถ้าอยู่ในตลาดนานๆเกินซักห้าปีแล้ว ค่าติดดอยเรโชในใจเราไม่ลดลง   ควรจะยอมรับว่า เรากำลังมีปัญหาด้านการบริหารสุขภาพจิตในการลงทุน และเครื่องมือในการลงทุนของเรา ต้องได้รับการปรับเปลี่ยน ในปัจจุบันค่าติดดอยเรโชในใจผม   อยู่ที่.....ศูนย์...... .๐๒๙ + แก้ไขเมื่อ 26 ก.ค. 54 12:06:56 แก้ไขเมื่อ 26 ก.ค. 54 09:31:38 จากคุณ : endophine เขียนเมื่อ : 26 ก.ค. 54 09:15:05

ความคิดเห็นที่ 7 ถ้าตัวเลขก็ 15% ครับ ถ้าหารแบบเฮียก็ซักประมาณ 0.85 ส่วนความรู้สึกดอยไม่ดอยนี่ผมว่ามันอยู่ที่ว่าจะคืนได้เร็วเท่าไหร่ด้วยนะ หมายถึงว่าถ้าติดอยู่เดือน สองเดือนไรงี้ก็ไม่ดอยหรอก ผ่านไปสองเดือนออกได้เพระาตลาดตกใจตอนนั้น ต่อให้มันเป็น 0.5 ก็เถอะ (สมมติ) แต่ถ้าติดอยู่นานกว่านั้น แต่ปันผลมันโอเค บริษัทมันยังทำกำไรดี ผมก็ว่ามันไม่ดอยอยู่ดีนะ ฮ่าๆๆ แต่ถ้าบริษัทเน่าด้วย ดอยด้วย นานด้วยนี่ ... หนาว ... แต่ถ้ามันถึงขนาดนี้ก็ขายทิ้งไปดีกว่า ไร้อนาคต ฮ่าๆ สรุปแล้วอยู่ที่ความรู้สึกมากกว่าตัวเลขฮะ "หนาวมั้ย?" จากคุณ : Nong-KiD เขียนเมื่อ : 26 ก.ค. 54 09:16:19

ความคิดเห็นที่ 8 อาการรู้สึกว่าติดดอย ขึ้นอยู่กับหุ้นแต่ละตัวค่ะ เพราะต้องย้อนกลับไปดูพื้นฐานหุ้นก่อนค่ะ อย่าง mcs หนูเคยซื้อที่ 3.84 บาท แล้วช่วง sub-prime crisis มันลงไปแตะ 1.7 กว่า ยังไม่รู้สึกว่าติดดอยเลยค่ะ กลับซื้อเพิ่มเรื่อย ๆ ขนาดราคาหุ้นลงไปกว่า 50% ยังใจดีสู้เสืออยู่เลยค่ะ จากคุณ : หวานใจกัปตัน เขียนเมื่อ : 26 ก.ค. 54 09:18:40

ความคิดเห็นที่ 9 จากคุณ : yai-cho เขียนเมื่อ : 26 ก.ค. 54 09:21:26

ความคิดเห็นที่ 10 เข้ามาตามดู "ติดดอยเรโช" ด้วยคนก๊าบบบ เข้าตลาดใหม่ๆ ก็ไม่รู้หรอกครับว่า ในตลาดมีดอยด้วยหรือ เพราะซื้อแล้วก็ขายได้สูงกว่าซื้อทุกทีเลย คิดว่าเราเก่งว่ะ   เล่นไปเล่นมานานเข้า เอ้ยทำไมซื้อแล้วไม่ขึ้นอ่ะ ไม่เป็นไรลงมาซื้อเพิ่มดิ ต้นทุนจะได้ถูกลง เดี๋ยวก็ขายได้ แต่แล้วทำไมมันเด้งขึ้นนิดเด๋ยวว่ะ ยังขายไม่ได้เลย งันรอก่อน ไม่เป็นไร เด๋ยวมันก็มา ขาดทุนนิดหน่อยเอง ไม่นาน หุ้นที่ซื้อก็ยิ่งตก ยิ่งตก เอ้ยเอาไงดีล่ะตอนนี้ ขาดทุนไป 10% แล้ว แต่ก็ยังรอได้นะ หวังว่ามันขึ้นมาให้ขายได้ ไม่ ไม่นะ ทำไมเป็นอย่างงี้ ทำไมลงต่ออีก เริ่มหาเหตุทำไมมันลงเยอะขึ้นอ่ะ หุ้นเราไม่ดีเหรอ โบรกก็เชียร์ให้ซื้อ แล้วทำไมลงอีก หายไป 25% แล้ว จะขายได้ไง ขาดทุนเยอะแล้วนะ ถือรอแล้วกัน แล้วก็ถือรอ รอ รอ   แล้วมันก็ลง ลง ลง   เอ้ยนี่เรา ติดดอยแล้วนิหว่า จากคุณ : nong2011 เขียนเมื่อ : 26 ก.ค. 54 09:24:12

ความคิดเห็นที่ 11 คุณมัฟฟิน   เข้าขั้นเซียนหุ้น เลยไม่มีค่าติดดอยเรโชในใจ อีกต่อไป จะว่าไปแล้ว  ค่าติดดอยเรโชในใจ มันสะท้อนปัจจัยพื้นฐานสะสมของนักลงทุนแต่ละคน ไม่สามารถคำนวณออกมาเป็นค่าที่แน่นอนได้ นักลงทุนแนววีไออาจจะบอกว่า ไม่มี"ราคาหุ้น" ติดดอย   ตราบใดที่ "ปัจจัยพื้นฐานของหุ้น" ยังดีอยู่ นักลงทุนแนวพีเอส (price speculator) ค่าติดดอยเรโช จะขึ้นอยู่กับประสบการณ์บวกกับเครื่องมือที่ใช้ พีเอสระดับมืออาชีพที่ผ่านสมรภูมิราคาหุ้นมาอย่างโชกโชน   ก็ไม่มีค่าติดดอยเรโชอยู่ในใจเหมือนกัน ที่ผมเห็นๆด้วยตัวเองคือ คุณธราธิป  เซียนกราฟจากชุมพร + แก้ไขเมื่อ 26 ก.ค. 54 12:08:05 จากคุณ : endophine เขียนเมื่อ : 26 ก.ค. 54 09:29:37

ความคิดเห็นที่ 12 ผมอยู่ในตลาดมา 4 ปีกว่า ติดดอย Ratio ผมอยู่ที่ -10% เคยติดหนักๆที่ วิกฤติ -15% ปัจจุบันเล่นกับ Time frame ซื้อเวลาด้วยความรู้+ประสบการณ์ลงทุนด้วยหุ้นคุณค่า+เทคนิค ต้นทุนผมใกล้เคียง 0 จากคุณ : เขียนบน iPhone (opar156) เขียนเมื่อ : 26 ก.ค. 54 09:35:31

ความคิดเห็นที่ 13 เห็น พอร์ต จขกท หุ้นแต่ละตัว -*-  ยิ่งเห็นราคา ไดโดมอน แล้วมาดูกิจการ ไดโดมอน ปัจจุบัน คงยากมาก ที่จะกลับไปราคานั้น จากคุณ : ฉอยจ้า เขียนเมื่อ : 26 ก.ค. 54 09:35:47

ความคิดเห็นที่ 14 สวัสดีค่ะตุณอาคค. เข้ามาจองที่ก่อน...คำตอบยังนึกไม่ออก (^___^)/ จากคุณ : เขียนบน iPhone (tua_tuanoi) เขียนเมื่อ : 26 ก.ค. 54 09:35:52

ความคิดเห็นที่ 15 สวัสดีครับเฮีย รอแจมกระทู้เฮียอยู่ ..แต่กิ๊ฟหมดแล้วครับ ดูจากsetที่วิ่งขึ้นไปรอบนี้ ไม่น่าจะมีคนติดดอยเหลือสักเท่าไหร่ เว้นแต่.. ถือหุ้นผิดตัว ไม่ขึ้นตามset  หรือโดนข่าวเล่นงาน กดหุ้นไม่ได้โผล่ จากคุณ : ริชแมน เขียนเมื่อ : 26 ก.ค. 54 09:36:45

ความคิดเห็นที่ 16 #11 เฮียสรุปให้ละ ของตัวเอง..ถ้าพื้นฐานมั่นใจจริงๆ ยิ่งลงยิ่งซื้อค่ะ กลายเป็นว่าตัวที่ทำกำไรให้่มากๆ มักเป็นตัวที่ติดดอยตอนช่วงแรกๆ เพราะทำให้มีเงินเข้ามาเติมมากขึ้น เอ..หรือว่าเราคัสลอทไม่เป็นหว่า จากคุณ : Mali_Mama เขียนเมื่อ : 26 ก.ค. 54 09:38:11

ความคิดเห็นที่ 17 ตอบคุณฉอยจ้า หุ้นที่เห็นแดงจัดในพอร์ต ส่วนใหญ่เป็น  สารพิษตกค้าง   มาจากยุค  "ไม่ขาย ไม่ขาดทุน" ครับ ถ้าเป็นตอนนี้   ขายทิ้งทุกราคาที่ปัจจัยพื้นฐานเปลี่ยนอย่างรุนแรง + จากคุณ : endophine เขียนเมื่อ : 26 ก.ค. 54 09:48:55

ความคิดเห็นที่ 18 ไม่รู้ ไม่รู้จัก ไม่เคยติดดอย 555 ที่พูดมาโม้ท้างน้าน อิอิ จากคุณ : janistar เขียนเมื่อ : 26 ก.ค. 54 09:49:39

ความคิดเห็นที่ 19 เห็นด้วยเลยครับ ปัจจัยพื้นฐานของหุ้น เกิดจากการกระทำของคนในบริษัท จดทะเบียน ผมไม่เข้าใจ ว่าเขาบริหารงานยังไง ทำไมไม่มีการ ปรับปรุงแบรนด์ ปรับปรุงสินค้า บริการ ปล่อยให้มัน เน่าลงทุกวันๆ เมื่อก่อน(10ปีก่อน) ผมไปกินบ่อยมาก ไดโดมอน หลังๆมา รสชาติ นี่ อยากจะบอกว่า ซื้อหมู มาทอดแล้ว จิ้มซีอิ๊วกินเอง ก็อร่อยพอๆกัน ทุกวันนี้ที่ยังหลงเหลืออยู่ บางสาขาผมว่า เป็นอนิสงฆ์เก่า จากแบรนด์ เมื่อ 10 กว่าปีก่อน ถ้ามีใครซักคน มีทุนเข้าไปเทคโอเวอร์ แล้วปรับปรุงใหม่ เอาวัตถุดิบดีๆ มาเป็นจุดขาย ทำการตลาดใหม่ ออกโปรโมชั่น ลงโฆษณาใหม่ ผมว่า ยังแข่งกับพวก โออิชิ ได้นะ เพราะยังไง แบรนด์ ไดโดมอน คนก็ยังรู้จักอยู่ แล้วคนไทยชอบกินอยู่แล้ว พวกบุฟเฟ่ท์ จากคุณ : ฉอยจ้า เขียนเมื่อ : 26 ก.ค. 54 10:05:30

ความคิดเห็นที่ 20 สวัสดีครับ เฮียเอ็นโดและทุกท่านครับ.. พื้นฐานเปลี่ยน... ราคาปรับ ราคาปรับ... พื้นฐานเปลี่ยน ยากที่จะบอกจริงๆครับ.. ได้รับคำแนะนำสั่งสอนจากเฮียเอ็นโดมาตลอด ขอบพระคุณเฮียมากครับ จากคุณ : ธราธิป เขียนเมื่อ : 26 ก.ค. 54 10:34:33

ความคิดเห็นที่ 21 เฮียตั้งกระทู้โดนจาย จากคุณ : หมึกสด เขียนเมื่อ : 26 ก.ค. 54 11:20:49

ความคิดเห็นที่ 22 อายุ 32 ค่ะ ลงทุนในหุ้นมาเกือบๆ ปี เริ่มเล่นตอนธันวาคมปีที่แล้ว ถ้าเป็นเปอร์เซนต์ก็ 15% ค่ะ แต่ส่วนใหญ่จะเลือกหุ้นที่พื้ฐานดี มีปันผล เวลาราคาลงก็เฉยๆ ค่ะ ถ้ามีเงินเหลือก็ซื้อเก็บเพิ่มถ้ายังมั่นใจในหุ้นตัวนั้นอยู่ จากคุณ : tookkatabarbie_rich เขียนเมื่อ : 26 ก.ค. 54 11:25:44

ความคิดเห็นที่ 23 เมื่อไร สินธร มี meeting ขำๆเฮียส่งข่าวบ้างนะครับ จากคุณ : Muffin เขียนเมื่อ : 26 ก.ค. 54 11:40:23

ความคิดเห็นที่ 24 "ถ้าเป็นตอนนี้ พื้นฐานเปลี่ยนอย่างรุนแรง ขายทิ้งทุกราคา" ขอบคุณมากครับเฮีย จากคุณ : ลงทุนด้วยใจ เขียนเมื่อ : 26 ก.ค. 54 11:42:32

ความคิดเห็นที่ 25 คุณมัฟฟิน ขอวีซ่าจากทางบ้าน ยากหรือเปล่าครับ เมื่อไรที่คุณธราธิปขึ้นมาจากชุมพร ผมก็จะนัดพวกเพื่อนๆสมาชิกที่อยากพบกันนอกเวบ   ไปพบปะพูดคุยกันแบบตัวจริงเสียงจริง น่าจะเป็นปีหน้า ช่วงตรุษจีนครับ + แก้ไขเมื่อ 26 ก.ค. 54 11:56:07 จากคุณ : endophine เขียนเมื่อ : 26 ก.ค. 54 11:55:04

ความคิดเห็นที่ 26 ปกติผมมันประเภทเก็งกำไร มีบ้างที่จะลงทุนแบบถือกินยาวๆ (แต่จำนวนน้อยมาก) สำหรับผมถ้าดอยนั่นหมายถึงมันตกลงมาพรวดเดียวแล้วคัทไม่ทัน มากกว่า 30% อันนั้นอะผมว่าดอย แต่ปกติแล้วด้วยวินัยในการเทรด ยังไงก็ตามไม่ว่ามันจะแค่พักฐานหรืออะไรก็แล้วแต่ 5% ผมก็ต้องคัท แต่มีดอยหุ้นตัวนึงของตระกูลที่ผมคิดแล้วก็ยังรู้สึกแย่กับมัน คิดแล้วก็แย่ เห็นแล้วก็แย่ แค่เดินผ่านสาขายังแย่ "TMB" ซึ่งเขาซื้อเอาไว้ช่วง 2536 แถวราคา 50-70 บาท ผมไม่รู้ว่าราคาเป๊ะๆเท่าไหร่ แต่ดูจากกราฟก็แถวเนี้ย ปัจจุบันมันเหลือ 2 บาท !!! โห ดอยอย่างสูง ติดดอยสูงสุด ถ้าเอาแค่ราคาแบบต่ำสุดที่ผมคิดไว้ 50 บาท ปัจจุบันเหลือ 2 บาท นั่นเท่ากับว่าตอนนี้พอร์ทติดลบแล้วกว่า -96% = =" เป็นผมคงช็อคตาย เมื่อไม่นานพึ่งลดพาร์และจ่ายปันผลครั้งแรกในรอบ สิบกว่าปี ... สุทธิหลังจากต้มยำกุ้ง ได้ปันผลไม่กี่สิบบาท ประสบการณ์ของหุ้นในตระกูลอันน่าอัปยศ TMB ตัวนี้สอนผมว่า จงมีวินัยในการคัทลอส -*- หลังๆมานี่ไปค้นในห้องหนังสือเจออะไรดีๆเยอะมาก ตั้งแต่ใบหุ้น TMB ใบหุ้น SCB KBANK ใบหุ้นบริษัทอะไรซักอย่างเป็นดาวๆ เหมือนน้ำโพลาริส แล้วก็บริษัทการเงินไรไม่รู้เต็มไปหมด มานั่งคิดๆแล้วลองย้อนราคากลับไปดู ก็ตกใจ โอบ้านเรานี่มันอยู่บนดอยชัดๆ !!! หลังๆมานี่ไปศึกษาวิกฤตเศรษฐกิจมากขึ้น พยายามป้องกันความเสี่ยงให้ได้ทุกทาง แม้ว่าไม่ได้ผ่านประสบการณ์ช่วงนั้นมาด้วยตัวเอง แต่ก็อาศัยจากการเรียนรู้นี่แหละเอามาเป็นเครื่องมือในการตัดสินใจ ... ตลาดหุ้นนี่บางครั้งมันก็น่ากลัวเกินไปจริงๆ ส่วนซัพไพรม์ช่วงนั้นผมยังไม่ได้เข้าตลาดหุ้น แต่ก็ศึกษาหุ้นมาโดยตลอด ก็ต้องยอมรับเลยว่าแม้วิกฤตไม่ว่าจะเล็กใหญ่ มันก็น่ากลัวด้วยกันทั้งนั้น ... ผมคงใจแข็งไม่พอที่จะถือหุ้นแบบเฮียอะครับ ผมเห็นพอร์ทแล้วคงรู้สึกใจไม่เป็นสุขแน่ๆ T^T จากคุณ : venezier เขียนเมื่อ : 26 ก.ค. 54 12:27:42

ความคิดเห็นที่ 27 สำหรับผม0.3 คงถือว่ากู่ไม่กลับแล้ว แต่เคยแค่0.5 แล้วตีกลับ จากคุณ : เต่าหยวนเปียว เขียนเมื่อ : 26 ก.ค. 54 12:30:50

ความคิดเห็นที่ 28 พอร์ทของเฮียเอ็นโด ยืนยันบางตัวทำ kkr ไปเรียบร้อยแล้วครับ จะเขียวจะแดง คงไม่มีนัยยะ ------------- สวัสดีครับ คุณเต่าหยวนเปียว จากคุณ : ธราธิป เขียนเมื่อ : 26 ก.ค. 54 12:41:12

ความคิดเห็นที่ 29 เฮียครับ ถ้ามีมีทติ้งอีก ขอเสนอเป็นมื้อกลางวันได้มั้ยครับ คือว่าลูกๆยังเล็กอยู่ และก็จะได้ไม่กลับถึงบ้านดีกครับ จากคุณ : หยงอัน เขียนเมื่อ : 26 ก.ค. 54 13:03:16

ความคิดเห็นที่ 30 //ลุกสาว ขอบคุณครับ จากคุณ : THE FINAL 2 เขียนเมื่อ : 26 ก.ค. 54 14:26:12

ความคิดเห็นที่ 31 เฮียendophineครับ พอจะเล่าเหตุการณ์สมัยหุ้นDAIDOตกได้มั้ยครับ จำได้ตอนเรียนม.ปลาย ไปกินร้านนี้บ่อย คนเต็มร้านตลอด หลังจากนั้นก็ไม่ค่อยได้กินแล้ว ไม่รู้สาเหตุทำไมอยู่ๆกิจการจึงแย่ลงครับ จากคุณ : ข้าวกระเพรา เขียนเมื่อ : 26 ก.ค. 54 14:50:24

ความคิดเห็นที่ 32 ลอกคำตอบพี่ซันนี่ค่ะ   จากคุณ : Kading เขียนเมื่อ : 26 ก.ค. 54 14:52:05

ความคิดเห็นที่ 33 สวัสดีครับเฮียเอ็นโดฯ และทุกท่าน ขอบคุณเฮียมากครับสำหรับกระทู้กระตุกใจให้คิดอีกแล้ว สำหรับผมแล้ว การลงทุนในหุ้น เหมือนกับการเปิดกิจการร้านขายอะไรสักอย่างที่เราอยากทำมากแล้ว ความคิดเรื่องติดดอยก็ลดน้อยลง เพราะแม้ว่าจะซื้อมาแพงกว่าที่ราคาตลาดตั้งไว้ เราก็ยังอยากเปิดกิจการนั้นอยู่ดี และก็ยังหวังว่ากิจการในอนาคตก็จะดีขึ้นเรื่อยๆ ตอนแฮมเบอเกอร์ โดนไป 0.5-0.6 ครับ ปล่อยไว้ถึงปัจจุับัน ทุกอย่างก็ดีขึ้นเองตามลำดับ แต่ยังงัยเห็น ติดดอยเรโชกับหุ้นที่มีอยู่ ก็ยังใจเสียนะครับ สรุปว่า ก็ยังใจไม่แข็งพออะครับ จากคุณ : gongort2 เขียนเมื่อ : 26 ก.ค. 54 15:09:39

ความคิดเห็นที่ 34 ถ้าเล่นกับราคา จะสามารถอนุมานดอยเรโชได้ว่า ราคาตลาด/ราคาทุน = ราคาstop lossที่กำหนด <<ถ้าทำอย่างนี้ได้เราเรียกว่าเทรดอย่างมีระบบครับ(ถึงปุ๊บแล้วออกเลย) แต่ถ้า ราคาตลาด/ราคาทุน < ราคาstop lossที่กำหนด << เราจะเรียกว่า ไม่ขายไม่ขาดทุน ราคาตลาด/ราคาทุน > ราคาstop lossที่กำหนด << เราเรียกว่า Let profit run ราคาตลาด/0 > ราคาStop loss << เราเรียกว่า ขายหมู ครับ ถ้า ราคาตลาด/ราคาทุน < 0.70-0.85 แล้วละก็ อันนี้ต้องเตรียมเสื้อกันหนาวแล้วครับ เพราะมรสุมน่าจะมาอีกหลายปีครับ แก้ไขเมื่อ 26 ก.ค. 54 17:40:36 แก้ไขเมื่อ 26 ก.ค. 54 17:36:07 จากคุณ : นักสืบจิ๋ว เขียนเมื่อ : 26 ก.ค. 54 17:34:44

ความคิดเห็นที่ 35 ขอบคุณทุกๆท่าน ที่แวะเข้ามาอ่านและร่วมออกความเห็นดีๆครับ ต้องขออภัยที่แจกกิฟท์ให้ไม่ครบ เพราะมีเหลือจำกัด ขอแตกประเด็นไปคุยต่อเรื่อง ติดดอยเรโชอีกนิดนะ และตอบคำถาม ที่มีเพื้่อนสมาชิกถามเอาไว้ครับ จากคุณ : endophine เขียนเมื่อ : 27 ก.ค. 54 08:36:53

ความคิดเห็นที่ 36 ติดดอยคือ 1.ส่วนของผู้ถือหุ้นติดลบ 2.โดนเจ้ามือเรียกเพิ่มทุน ประมาณนี้ครับ จากคุณ : KENG76 เขียนเมื่อ : 28 ก.ค. 54 05:59:41

ความคิดเห็นที่ 37 เรโชของผมไม่ใช่ราคา แต่เป็นเวลา เช่น ถ้าซื้อ ซักปี ยังแดงอยุู่ นั่นคือดอยยย จากคุณ : Laganus เขียนเมื่อ : 28 ก.ค. 54 17:06:00