*** ไทยพาณิชย์ หวังสูง... แค่แตะ1,200จุด ในไตรมาส4 ?

ไทยรัฐ    :
          บ.ลจ ไทยพาณิชย์  ฟันธง ฟันธง & ฟันธง... ไตรมาส4 หุ้นไทยแตะ1,200จุด

          บ.ลจ ไทยพาณิชย์ฟันธงหุ้นไทยจะผ่านจุดต่ำ สุดไตรมาส3 ที่ระดับ 1,030จุด ก่อนทะยานขึ้นไปสูงสุดที่ 1,200จุด ในไตรมาส4
          เนื่องจากตลาดยังคงเผชิญหน้ากับปัจจัยลบหลายด้าน แนะนักลงทุนทยอยซื้อสะสมหุ้นเมื่อดัชนีอ่อน ตัวที่บริเวณ 1,030จุด
         
เกียรติศักดิ์ เจนวิภากุล กรรมการผู้จัดการ สายงานวิจัย บ.ลจ ไทยพาณิชย์ เปิดเผยว่า
          ตลาดหุ้นไทยยังคงเผชิญหน้ากับปัจจัยลบหลายด้านด้วยกัน ในช่วงที่เข้าสู่ไตรมาส3 ปี 54 ทั้งภาวะเศรษฐกิจทั่วโลกชะลอตัว
          การสิ้นสุดมาตรการQE2 & วิกฤตหนี้ยุโรปที่ยืดเยื้อ SETจะทำจุดต่ำสุด ในไตรมาส3 นี้ โดยตลาดเริ่มมีการปรับฐานมาตั้งแต่ปลายเดือน เม.ย
          สะท้อนให้เห็นว่าอย่างน้อย ตลาดก็รับรู้ความไม่แน่นอน & ความเสี่ยง ไปแล้ว+แรงกดดันเงินเฟ้อมีแนวโน้มที่จะผ่อนคลายในช่วงปลายไตรมาส3
          เนื่องจากMomentum_การปรับตัวขึ้นของราคาสินค้าCommodity โดยเฉพาะราคาน้ำมันดิบชะลอตัวลง

       * ในส่วนปัจจัยทางการเมืองนั้น คาดว่าจะกลับมามีเสถียรภาพมากขึ้นจากการที่ พรรคเพื่อไทยชนะการเลือกตั้ง
          ได้จำนวน ส.ส.มากกว่าครึ่ง & สามารถจัดตั้งรัฐบาลได้ด้วยจำนวน ส.ส. ถึง 300ที่นั่ง จาก ส.ส.ทั้งหมด 500ที่นั่ง
          อย่างไรก็ดี SET_ยังคงมีโอกาสปรับตัวขึ้นไปได้ถึง 1,200จุด ในช่วงไตรมาสที่4 ซึ่งเป็นเป้าหมายเดิมที่คาดการณ์ไว้ตั้งแต่ต้นปี
          ประเมินว่าเงินทุนต่างชาติมีโอกาสไหลกลับเข้ามาลงทุนในตลาดหุ้นไทยหลังจากมีความชัดเจนในเรื่องรัฐบาล & นโยบาย
          ในด้านพื้นฐานนั้น ยังคงคาดการณ์ว่าGDPของไทยในปี 54 จะเติบโตได้ 4-5% อัตราเงินเฟ้อทั่วไปอยู่ในกรอบ 3.5-4.0%
          ขณะที่ ผลการดำเนินงานของบริษัทจดทะเบียนภายใต้การศึกษาของสายงาน วิจัย บ.ลจ ไทยพาณิชย์ คาดว่าจะเติบโตได้ 33% จากปีก่อนหน้า
         
สุกิจ อุดมศิริกุล ผอ. อาวุโส ฝ่ายกลยุทธ์การลงทุนลูกค้าบุคคล สายงานวิจัย บ.ลจ ไทยพาณิชย์ เปิดเผยถึง
          กลยุทธ์การลงทุนในช่วงไตรมาสที่3 นี้ว่า แนะนำให้นักลงทุนทยอยซื้อสะสมหุ้น เมื่อ SET_อ่อนตัว
          โดยประเมินว่าระดับดัชนีฯ ที่ปลอดภัย คือบริเวณ 1,030จุด ซึ่งเป็นระดับของค่า P/E ที่ประมาณ 11.7เท่า โดยระดับค่า P/E ดังกล่าวถือว่า
       * เป็นระดับที่สามารถรองรับสถานการณ์ความเสี่ยงหลายครั้ง ที่เกิดขึ้นในช่วงหลังวิกฤติเศรษฐกิจปี 50

         วิทยายุทธ์ & กลยุทธ์ในการเลือกกลุ่มอุตฯนั้น
         เลือกกลุ่มอุตฯที่คาดว่า จะให้ผลตอบแทนที่ดีกว่าSET ในวัฏจักรของเศรษฐกิจปัจจุบันที่เริ่มเข้าสู่การขยายตัวในช่วงกลาง-ปลาย
         ให้ทยอยซื้อสะสมหุ้นเมื่อดัชนีฯอ่อนตัว โดยประเมินว่าระดับที่ปลอดภัย คือ หุ้น 6ตัวเป็น Top_Picks ในไตรมาส3 ปี 54 ได้แก่
         ADVANC , BIGC , KBANK , STEC , SCC & PTTAR

         โดยหุ้น Top_Picks 3ตัวแรก (ADVANC , BIGC & KBANK)
         อิงกับการคาดการณ์ว่าวัฏจักรธุรกิจกำลังจะเปลี่ยนจากช่วงของการขยายตัวในระยะแรกๆ เข้าสู่ช่วงของการขยายตัวในระยะท้ายๆ
         ซึ่งเหมาะสำหรับการเข้าลงทุนในหุ้นกลุ่ม Defensive มากขึ้น เช่น กลุ่มสื่อสาร สินค้าอุปโภคบริโภค & สถาบันการเงิน

         Top_Picks 3ตัวหลัง (STEC , SCC & PTTAR)
         อิงกับปัจจัยเฉพาะอุตฯ & บริษัท โดย STEC จะได้รับประโยชน์จากการใช้จ่ายลงทุนด้านโครงสร้างขั้นพื้นฐานหลังเลือกตั้ง
         ส่วน SCC ก็มีแนวโน้ม Upside จากการลงทุนเข้าซื้อสินทรัพย์ & ควบรวมกิจการ
         PTTAR น่าจะได้ประโยชน์ จากการควบรวมกิจการ & แนวโน้มผลิตภัณฑ์พาราไซลีนที่สดใสขึ้นในงวดครึ่งหลัง ของปี 54
         จากการเริ่มเดินเครื่องโรงงาน PTA ในตลาดภูมิภาคตามกำหนด

จากคุณ	: ศิษย์ซุนวู
เขียนเมื่อ	: 27 ก.ค. 54 09:35:56