*** เพิ่มเพดานหนี้มะกัน เกมส์... การเมือง_ป่วนเศรษฐกิจโลก

ประชาชาติธุรกิจ   :
          เกมส์... การเมือง อันยืดเยื้อระหว่าง พรรคเดโมแครต VS รีพับลิกัน ของสหรัฐ กรณีปรับเพิ่มเพดานหนี้ภาครัฐยังไม่มีแนวโน้มจะหาข้อยุติได้
          ทั้งๆ ที่เสี่ยงจะผิดนัดชำระหนี้ & ถูกหั่นอันดับความน่าเชื่อถือ หากพลาดกำหนดเส้นตาย 2 สค.นี้ จนIMF_ทนไม่ได้ต้อง ออกมากระทุ้งแรง
          ฟากนานาชาติที่ถือพันธบัตรรัฐบาล_มะกัน ก็หนาวๆ ร้อนๆ ไปตามกัน ไม่มีใครทราบแน่ว่า ผลฯการสูญเสียอันดับ AAA ของสหรัฐ จะร้ายแรง?
          IMF เตือนว่า การถูกลดความน่าเชื่อถือ หรือ ล้มเหลว ที่จะเพิ่มเพดานหนี้ให้ทันกำหนด จะส่งผลกระทบต่อโลกอย่างใหญ่หลวง
          เพราะตราสารหนี้ของรัฐบาล_วอชิงตัน มีบทบาทสำคัญในตลาดการเงินระหว่างประเทศ โดยเฉพาะการถูกหั่นCredit นั้น
          เป็นภัยคุกคามต่อทั้งเศรษฐกิจสหรัฐ & ทั้งโลก จะสั่นสะเทือนตลาดหุ้น & กดดันให้อัตราดอกเบี้ยพุ่งๆๆ สูงขึ้น

จนท. ทางการจากหลายชาติ วิตกว่า
          การประเมินสถานะการคลังของสหรัฐฯ_รอบใหม่ อาจนำไปสู่การเสื่อมถอยของสภาวะการเงินโลก , กระแสเงินทุน ตลอดจนมูลค่าเงิน$ อาทิ
      1. เวน สวอน รมต.คลังของAusralia
          ที่ออกมาเร่งให้หาข้อยุติในเรื่องนี้ โดยเตือนว่ากระบวนการที่ไปไม่ถึงไหนบั่นทอนเสถียรภาพของโลก
      2. บลูมเบิร์ก
          2พรรคใหญ่ของสหรัฐฯ ดำเนินไปอย่างถึงพริกถึงขิง ก็เพราะแต่ละฝ่ายมองข้ามShot ไปยังการเลือกตั้งครั้งต่อไปที่จะมีขึ้นในปี 55

พรรคฝ่ายค้านนำโดย จอห์น โบห์เนอร์ ปธ. รัฐสภา เสนอแผนเพิ่มเพดานหนี้ 2ระยะ
           ช่วงแรก      จะเพิ่มวงเงินหนี้ภาครัฐอีก 0.90ล้านล้าน$ จากเดิม 14.29ล้านล้าน$ แลกกับการตัดลดรายจ่าย 1.20ล้านล้าน$
           ในระยะที่2  เพิ่มเพดานอีก 1.50ล้านล้าน$ พร้อมลดรายจ่าย 1.80ล้านล้าน$

ฝ่ายเดโมแครต ยอมรับ Package_นี้ไม่ได้
           เพราะ เพดานหนี้ที่เพิ่มขึ้นน้อยเกิ๊น... ส่งผลให้สภาคองเกรสต้องเผชิญกับเรื่อง Drama_ทำนองนี้ซ้ำอีกในต้นปีหน้า
           ซึ่งเริ่มมีการรณรงค์หาเสียงสำหรับการเลือกตั้งเทอม2 ของประธานาธิบดีบารัก โอบามาแล้ว
           อาจเปิดช่องให้คู่แข่งหยิบยกเรื่องนี้มาโจมตีจนอาจเพลี่ยงพล้ำ ไม่ได้ครองทำเนียบขาวต่อเป็นสมัยที่2

แฮรี่ รีด ผู้นำเสียงข้างมากในวุฒิสภาจากพรรครัฐบาลส่งอีกแผนหนึ่งเข้าประกวด
           เสนอให้ตัดลดรายจ่ายลง 2.70ล้านล้าน$ ในระยะเวลา 10ปี &ไม่มีการเพิ่มภาษีที่รีพับลิกันค้านหัวชนฝา พร้อม ขยายเพดานเงินกู้ 2.40ล้านล้าน$
           ซึ่งจะช่วยยืดเวลาก่อนเงินกู้ภาครัฐฯ ที่จะชนเพดานอีกครั้งออกไปจนถึงสิ้นปี 2555 ที่การเลือกตั้งผ่านพ้นไปแล้ว

สแตนดาร์ด แอนด์พัวร์ส สถาบันจัดอันดับบางแห่งส่งสัญญาณว่า การเพิ่มเพดานหนี้ได้ก่อน_เส้นตาย อาจไม่พอที่จะคงอันดับ AAA ของสหรัฐฯได้
            แผนการลดหนี้สาธารณะลง 4ล้านล้าน$ อย่างเป็นรูปธรรม คือ ปัจจัยสำคัญที่จะช่วยรักษาอันดับRating_สูงสุดของสหรัฐไว้ได้
            Package ของทั้ง 2พรรคไม่ได้ใกล้เคียงตัวเลขดังกล่าวเล๊ย หากถูกหั่นCredit จริง

NEWYORK_Time ประเมินว่า
            จะเกิดการเทขายหุ้น พันธบัตรสหรัฐ & เงิน$_ครั้งมโหฬาร  ,  ทองคำที่ราคาสูงเป็นประวัติการณ์อยู่แล้วจะพุ่งทำสถิติครั้งใหม่
            รัฐบาลวอชิงตัน จะมีต้นทุนการกู้ที่สูงขึ้น โดยรายจ่ายดอกเบี้ยที่เพิ่มอาจสูงถึง100,000$ ต่อปี จากปัจจุบันที่มีภาระส่วนนี้ปีละ250,000ล้าน$อยู่
            ไม่เพียงแต่ พันธบัตรรัฐบาลกลางที่โดนหางเลข ตราสารหนี้ที่ออกโดยรัฐบาลท้องถิ่น , สถาบันการเงินที่เป็นรัฐวิสาหกิจหรือตราสารอื่นๆ
            ที่ได้รับการหนุนหลังจากรัฐบาลสหรัฐ จะพลอยถูกลดCreditตามไปด้วย
            พันธบัตรมะกันยังถูก ธ.ทั่วโลกใช้เป็นหลักทรัพย์ค้ำประกันในตลาดซื้อคืน เพื่อระดมเงินกู้_ข้ามคืน ส่วนสำนักชำระบัญชีก็ใช้เป็นอนุพันธ์ทางการเงิน
            ดังนั้น หากมูลค่าของตราสารรัฐบาลสหรัฐหดลง สถาบันการเงินเหล่านี้อาจถูกเรียกหลักทรัพย์ค้ำประกันเพิ่ม สำหรับวงเงินกู้เท่าเดิม

มู ฮัมหมัด เอล - อีเรียน หน. นักเศรษฐศาสตร์จากบริษัทการลงทุน_พิมโก้  มองว่า
            การDown_Grade หมายถึง $_อ่อนค่า & อัตราดอกเบี้ยที่พุ่งสูง
            บ่อนทำลายความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจทั้งของผู้บริโภค & ภาคธุรกิจที่ย่ำแย่อยู่แล้ว นำไปสู่ภาวะชะลอตัวของการเติบโต & การจ้างงาน

Washington_Post  ตั้งข้อสังเกตว่า
            ตราสารของรัฐบาลสหรัฐนั้น เป็นเสมือนฐานค้ำจุนระบบการเงินโลก นักลงทุนเชื่อมั่นมากว่า มันจะไม่มีการผิดนัดชำระหนี้ ไม่ว่าในสถานการณ์ใด
            จนเรียกอัตราดอกเบี้ยจากพันธบัตรดังกล่าวว่า  " ระดับผลตอบแทนที่ปราศจากความเสี่ยง "
            เงินกู้เกือบทุกประเภทไม่ว่าจะเป็นหนี้จดจำนอง บัตรCredit เงินกู้ซื้อรถ เงินกู้ภาคธุรกิจ ต่างใช้พันธบัตรรัฐบาลมะกันเป็นหลักอ้างอิง
            ผู้เล่นรายใหญ่ในระบบการเงินก็ล้วนถือตราสารนี้เพื่อเป็นเบาะกันกระแทกจากปัญหาทางการเงินต่าง ๆ
            ปัจจุบัน หากต้องประเมินความเสี่ยงของพันธบัตรสหรัฐกันใหม่ วิกฤตการเงินที่จะตามมาอาจร้ายแรงกว่าหายนะทุกครั้งที่เคยเกิดในประเทศนี้

วอลล์สตรีต เจอร์นัล ระบุว่า
         * Asia_จะเป็นภูมิภาคที่ได้รับแรงสะเทือนอย่างรุนแรง มูลค่าทุนสำรองที่ธ.กลางหลายชาติครอบครองอยู่จะร่วงลงหนัก
            ถ้า พันธบัตรรัฐบาลมะกัน & ค่าเงิน$_ดิ่งเหว ตลาดหุ้นAsia ซึ่งมักเคลื่อนไหวในทิศทางเดียวกับตลาดในสหรัฐฯ จะร่วงลงอย่างหนัก
            ขณะที่ ผลตอบแทนที่สูงขึ้นของพันธบัตรผลักดันให้ต้นทุนการกู้ยืมพุ่งตาม
            ส่วนค่าเงินท้องถิ่นก็จะผันผวน สร้างความสูญเสีย & ไม่แน่นอนให้กับบริษัทผู้ส่งออกในAsia
            มีแนวโน้มด้วยว่า เงินทุนจากฝั่งตะวันตก_อาจหลั่งไหลมาAsia_มากขึ้น ผจก.กองทุนในมะกัน ยอมรับเริ่มลดการถือครองพันธบัตรสหรัฐ
            และ หันมาลงทุนในภาคธุรกิจที่ได้รับประโยชน์จากการเติบโตอย่างแข็งแกร่งของประเทศตลาดเกิดใหม่ หรือสินค้าโภคภัณฑ์อย่างทองคำ
ด้านธ. พัฒนาเอเชีย หรือADB เตือนว่า
         * การถูกลดอันดับCredit_ของสหรัฐ จะกดดันให้ค่าเงินอ่อนลง ส่งผลให้สินค้าส่งออกจากAsia_มีราคาแพงขึ้น กระทบต่อการค้าในภูมิภาคดังกล่าว

==>     นอกจากนี้ทำให้ชาติตลาดเกิดใหม่Asia โดยเฉพาะจีนที่ถือพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐเกิดความสูญเสียทางการเงิน          ------------- ###

จากคุณ	: ศิษย์ซุนวู
เขียนเมื่อ	: 30 ก.ค. 54 23:32:00