ความคิดเห็นที่ 1 ผมก็ไม่ได้ขาย ซื้อเพิ่มอีก เม่ามั้ยล่ะ^^ จากคุณ : Petercopdi เขียนเมื่อ : 6 ส.ค. 54 23:52:03

ความคิดเห็นที่ 2 ตอนนี้คนที่ยังยืนหยัดเชียร์ หรือไม่หนี ก็คืนคนที่ยังถืออยู่ ขายไม่ทันเพราะมันเยอะ คิดเล่นๆว่าถ้ารายใหญ่เผ่น ตลาดจะเน่าขนาด ไหน แต่ถ้าเชียร์จนมีคนมารับไม้ไปหมดแล้ว เพิ่งมาบอกว่าปัจจัยพื้นฐานเปลี่ยนหรือไม่ก็ พบหุ้นใหม่พื้นฐานดีกว่า กว่าจะรู้ว่ารายใหญ่เผ่น รายย่อยก็มีหุ้นอยู่เต็มมือ คิดหรือว่ามีคนใจดี บอกว่าควรซื้อหรือขาย โดยเฉพาะคนที่กำลัง อยู่ในเกมส์เดียวกับเรา ไม่เราก็ท่านที่เสียเงิน จากคุณ : เออ (fullday) เขียนเมื่อ : 7 ส.ค. 54 00:01:20

ความคิดเห็นที่ 3 ควรจะติดตาม ดูภาพสถานการณ์ในชัดเจน มากกว่านี้           ถ้ามีเงินเย็นมาก ๆ   ก็ทยอย เก็บ  และต้องพร้อมที่จะติดดอย          ถ้ามีเงินไม่มาก   รอให้เหตุการณ์ใกล้สงบก่อน   แล้วค่อยลุย  จะได้ไม่เจ็บตัวมาก          งานนี้   ตาดีได้   ตาร้าย เสียนะครับ         เพราะของจริง  เวลาตลาดร่วง   อาจจะร่วงเป็นเดือน  แต่เวลามันกลับตัว จะกลับตัวอย่างรวดเร็ว  จนเก็บไม่ทัน นะครับ             แต่ถ้าไม่อยากเจ็บตัว  ต้องคอยควบคุมจิตใจให้ดี ๆ    พร้อมที่จะถือรอ  ไม่ต้องขาย  ไม่ต้อง cutloss   เมื่อทุกอย่างเข้าที่ แล้ว  เดี๋ยว ความรวยจะกลับมาเยือนครับ          ขอให้โชคดี เน๊อะ จากคุณ : รุ่งโรจน์ทวีคูณ (รุ่งโรจน์ทวีคูณ) เขียนเมื่อ : 7 ส.ค. 54 00:03:33

ความคิดเห็นที่ 4 ไม่ว่าจะซื้อแพงหรือถูก  ซื้อมาแล้วไม่ขาย ไงก็ไม่ขาดทุน ถือผ่านไป10 ปีดูซิ จะผ่านจุดดาวลบ 500 จุดได้ไหม  และหุ้นที่ถือ  ธุรกิจจะทำกำไรได้ตลอดไปไหม จากคุณ : ยาม (pifa1) เขียนเมื่อ : 7 ส.ค. 54 00:15:26

ความคิดเห็นที่ 5 ดร. แกไม่ขายเพราะ หุ้นส่วนใหญ่อยู่ในชื่อเมียแก อันนี้เรื่องจิง แต่เมียแกขายหรือเปล่าไม่รู้ จากคุณ : พ่อตุ๊ดตู๋ เขียนเมื่อ : 7 ส.ค. 54 00:24:17

ความคิดเห็นที่ 6 ไม่มีใครบอกได้หรอกครับ หรั่งทั้งหลายเท่านั้นที่รู้ ว่าจะเอาลงหรือเอาขึ้นดี อยู่ที่ใจหรั่ง แก้ไขเมื่อ 07 ส.ค. 54 02:07:44 จากคุณ : Z'H'Z เขียนเมื่อ : 7 ส.ค. 54 02:07:00

ความคิดเห็นที่ 7 สงสัยท่าน ดร. ไม่ยอม cut loss 5555 จากคุณ : BMWTurboman เขียนเมื่อ : 7 ส.ค. 54 03:02:18

ความคิดเห็นที่ 8 ค.2 ก็เข้าท่าครับ บางทีเราฟังเซียนในตลาดก็ต้องคิดบ้างว่า เขาก็อยู่บนเวทีเดียวกับเรา แต่เพื่อให้ความยุติธรรมกับอีกฝ่าย ก็อย่าเพิ่งไปด่วนสรุปแบบนั้นเลย พอร์ต ดร.เป็นพันล้านแล้ว ถ้าผมมีพอร์ตระดับนี้ผมไม่ดูราคาหรอก เงินปันผลก็ใช้ไม่หมดแล้ว จะมานั่งซื้อๆขายๆแบบนักลงทุนจนๆทำไม จากคุณ : Mr. Prodigy เขียนเมื่อ : 7 ส.ค. 54 05:45:37

ความคิดเห็นที่ 9 เห็นด้วยครับ คห.2  คห.3  คห.8 จากคุณ : sym@sum เขียนเมื่อ : 7 ส.ค. 54 07:29:45

ความคิดเห็นที่ 10 ...เชื่อว่า 500จุดคือ แผ่นดินไหวที่มาเตือน... ...ถ้ารอจนสึนามิมาค่อยเก็บของ ถึงตอนนั้นก็ทำอะไรไม่ทันแล้ว... ...ทยอยออกมายืนดูจะดีกว่า วิกฤตินี้จะเป็นโอกาสให้เรา"พลิก"พอร์ตอีกครั้ง... จากคุณ : เขียนบน iPhone (Trillionaire) เขียนเมื่อ : 7 ส.ค. 54 08:38:53

ความคิดเห็นที่ 11 อ.นิเวศน์ ดูแกออกจะใสๆ ไม่น่าจะประสงค์ร้ายกับรายย่อยนะ พวกประสงค์ร้าย ผมว่า พวกโบรคเกอร์ จากคุณ : Heinz เขียนเมื่อ : 7 ส.ค. 54 09:24:03

ความคิดเห็นที่ 12 กลุ่มสื่อสารดูจะปลอดภัยสุด เพราะวิกฤติแฮมเบอร์เกอร์รอบที่แล้ว ดูจากราคาย้อนหลัง advanc ราคาถือว่าทรุดลงเพียงไม่กี่ % จากคุณ : หนึ่งจอก เขียนเมื่อ : 7 ส.ค. 54 09:40:32

ความคิดเห็นที่ 13 บังเอิญไม่ได้เล่นแนว ดร. จากคุณ : Untrue เขียนเมื่อ : 7 ส.ค. 54 09:47:20

ความคิดเห็นที่ 15 ไม่อยากให้ดูถูก ดร. นะครับ คิดว่าแกหวังดีครับผม จึงบอกกล่าว ไม่ใช่บอกข่าวปล่อยของแน่ๆครับ จากคุณ : หมอคานู เขียนเมื่อ : 7 ส.ค. 54 10:40:35

ความคิดเห็นที่ 16 Margin of Safety ของ ดร. มหาศาลครับ ท่านเลยนิ่งๆ สบายๆ หุ้นตกมากๆ แหละดี แก จะได้ยิ่งรวย  เพราะมีแต่พวก Panic ขายออก มาถูกๆ  ผมก็เตรียมเงินสด รองาบของถูกๆ จาก พวก panic อยู่เหมือนกัน ลงมาแยะๆ ลงมาเหลือ สัก 400 - 500 จุด ก็จะสวยมากเลยครับ ... รออยู่ว่าเมื่อไร  จะได้ซื้อหุ้นดีราคาถูกๆ ปันผลปีละ 15-20% (จากเงินต้น) รอบที่แล้วไม่ยังไม่รู้เรื่องเลยอด ครับ  ไม่อย่างนั้นสบายไปแล้ว ... เคยเห็นกระทู้หนึ่ง ซึ่งคนโพสหายไปนานแล้ว คงเกษียณไปแล้ว เอาเช็คคืนภาษีเงินปันผลมาโพสให้ดูด้วย แถมว่าเยาะเย้ยพวกเราในนี้อีกว่า ทำไมไม่ซื้อ หุ้นดีๆ ราคาถูกๆ เงินปันผล 15%+ ช่วงนั้นมีให้ เลือกมากมาย โอ้พระเจ้า กลับไปดูข้อมูล เออจริงด้วย ถ้าซื้อช่วงนั้นแล้วถือไว้ยาวๆ ไม่ใช่ซึ้อๆ ขายๆ   สบายไปแล้ว จากคุณ : SuperY เขียนเมื่อ : 7 ส.ค. 54 10:46:13

ความคิดเห็นที่ 17 เท่าที่อ่านหนังสิอของท่าน ผมก็ว่าท่านเป็นคนดีนะครับ เหมือนคนที่มองอะไร ๆ ออกแล้ว อยากบอกกล่าวพวกที่ยังเข้ามาใหม่ ๆ ส่วนท่านที่เก่งแล้วมีแนวของตัวเองแล้วจะไม่เชื่อท่านผมว่าก็ไม่น่าผิดนะครับ สไตล์ใครก็สไตล์มัน ท่านคงห่วงพวกมือใหม่ที่ยังไม่มีสไตล์อย่างผม จากคุณ : wallak เขียนเมื่อ : 7 ส.ค. 54 10:51:00

ความคิดเห็นที่ 18 ดร.แกไม่สะเทือนหรอก ลงซักร้อยสองร้อยจุด หรือให้มากกว่านั้น แกก็ไม่สะเทือน ทุนแกอยู่ต่ำมาก หรือที่แน่ๆ กว่าแกจะลงมือซื้อแต่ละครั้ง หมายถึง คือระดับราคาที่ โคดแวยู่แล้วทั้งสิ้น อีกอย่าง แกก็บอกเองว่า สัดส่วนการถือครองเงินสด มันไม่ได้อยู่ที่ว่า กี่เปอเซนต์ของทรัพย์สินทั้งหมด เช่น อย่างแกน่ะ แค่ 1% ของพอร์ททั้งหมด ก็คือเงินสดที่แกจะสามารถดำรงชีวิตอยู่ได้ง่ายๆ 10ปี ชิวๆ ดังนั้น หากใครจะบริหารพอร์ทในแบบเดียวกับดร.เด๊ะๆเลย ก้มดูขนาดของพอร์ทของตัวเองก่อนว่า เงินสดเท่าไหร่ ที่สามารถอยู่ได้ในระยะเวลาที่รู้สึกว่าปลอดภัยอย่างแท้จริง ไม่เกี่ยวกับว่า ควรถือครองเงินสด เป็นกี่% ของสินทรัพย์ทั้งหมดของเรา อย่าหลงประเด็น อย่าท่องปาวๆตามตำรา สูตรการคำนวนของสำนักใดทั้งสิ้น ดูความเหมาะสมที่แท้จริงของตัวเองเป็นสำคัญ จากคุณ : 007-s เขียนเมื่อ : 7 ส.ค. 54 10:56:33

ความคิดเห็นที่ 19 7-11 cost ประมาณ 15 บาท ยี่สิบกว่าล้านหุ้น เป็นผมก็ถือต่อไปเรื่อยๆ ปันผลอย่างเดียวก็กินไม่หมดแล้ว ที่สำคัญธุรกิจยังไปได้อีกนาน จากคุณ : chairoj2000 เขียนเมื่อ : 7 ส.ค. 54 11:13:58

ความคิดเห็นที่ 20 เอ่อ เท่าที่พอทราบ ในห้อง tvi รับทราบว่า ดร.ถือ เซเว่น กันมาตั้งนานแล้ว และแนะนำซื้อมาตั้งแต่ก่อนเกิดซัพไพรมแล้วค่ะ(ในช่วงที่ฝุ่นตลบเซทลงติดดินตอนเทขายซัพไพร์ม แกก็ยังยืนยันซื้อมาตลอดในช่วงนั้น) ซึ่งทุนน่าจะอยู่ราวๆที่วงๆ ไม่น่าเกินนั้นค่ะ (แต่ภายหลัง จะมาซื้อเพิ่ม จนทุนเฉลี่ยเพิ่มเป็น 15 บาท ตามคห.19 ว่าหือไม่ อันนี้ไม่ทราบจริงๆค่ะ555) จากคุณ : 007-s เขียนเมื่อ : 7 ส.ค. 54 11:25:16

ความคิดเห็นที่ 21 @SuperY ==>"จะได้ซื้อหุ้นดีราคาถูกๆ ปันผลปีละ15-20% (จากเงินต้น)" ดูได้จากไหนคะ จากคุณ : ป้า Donky (ป้า donky) เขียนเมื่อ : 7 ส.ค. 54 11:28:04

ความคิดเห็นที่ 22 ท่าน คห 21 ตอนนี้ คงไม่มีแล้วครับ  ปันผลขนาดนั้น ท่านข้างบนเค้าหมายถึงตอน แฮมเบอร์เกอร์  หุ้นตกมามาก แต่บริษัทดี ๆ  มีเงินสดเหลือเยอะ ก็เลยปันผลเยอะ แต่ตอนนี้  มีแต่หุ้นราคาแพง ก็เลย ปันผล น้อย ประมาณ 3-5 % แต่ได้จากส่วนต่างราคาที่เพิ่มขึ้นมา ถ้าซื้อตั้งแต่ต่ำ ๆ จากคุณ : towel เขียนเมื่อ : 7 ส.ค. 54 11:37:18

ความคิดเห็นที่ 23 ดร มีเจตนา บริสุทธิ นะครับ ดร เสียสละเวลามาให้ข้อมูลผมว่า เป็นประโยชน์และมีคุณค่ามากแล้ว หากผมรู้ว่า การโพสต์ข้อมูลแบบนี้ ทำให้ ดร โดนกล่าวว่าเสียๆ หายๆ ต่อไปคงไม่โพสต์ดีกว่าครับ   ดร เป็นรายใหญ่ ที่โตมาจากรายย่อยนะครับ ส่วนแนวทางของแก ดร ก็ได้เขียนเป็นหนังสือ มาเป็น สิบๆ ปีแล้ว หากพวกเราติดตาม ก็น่าจะรู้ สไตล์ว่าเป็นอย่างไร แบบไหน และคนที่ดำเนินตามวิธีของ ดร ก็สามารถสร้างผลตอบแทนได้มหาศาล หลายๆร้อยเท่ามาหลายคนแล้ว  หากวิธีนี้ไม่ดีจริง หรือ ฟลุ๊ค ผมว่า คงไม่เห็นคนที่เดินตามแล้วประสบความสำเร็จหรอกครับ ""คำว่า ฟลุ๊ค มันคงไม่เกิดติดๆ กัน เป็นสิบๆ ครั้งหรอกครับ"" คนที่เล่นหุ้น คิดว่า เป็น เกม ก็คงได้ครับ เพราะทุกอย่างมาจาก จิตใจ ที่ทำให้เรา ต้องกลัว กล้า หลายคนจะมองเชิง จิตวิทยา ว่า รายใหญ่ต้องสร้างข่าว ให้รายย่อยติดกับ มองเป็นเกม ยังไงก็แล้วแต่  ""แต่ผมกล้าที่จะพูดได้เลยว่า  ดร นิเวศน์ อยู่เหนือเกม ครับ เพราะแกถือยาว ไม่หวั่นไหวต่ออารมณ์ใดๆ ทั้งนั้น""  หากจะเสียโอกาสบ้าง แต่สุดท้าย ชัวร์ จากคุณ : Jeonathan เขียนเมื่อ : 7 ส.ค. 54 12:13:26

ความคิดเห็นที่ 24 MOS สำคัญจริงๆ .. จากคุณ : มิ่งกลิ้ง เขียนเมื่อ : 7 ส.ค. 54 12:58:44

ความคิดเห็นที่ 25 อย่าคิดมากนะ ดร ท่านคงไม่คิดมากหรอก เพราะท่านดังแล้ว. จะมีคนแหน็บ หยอก ก้อเป็นเรื่องธรรมดา จากคุณ : pornchal เขียนเมื่อ : 7 ส.ค. 54 15:40:41

ความคิดเห็นที่ 26 จขกท. มีข่าวก็โพสต์นะครับ ศิษย์สำนักเดียวกันท่านอื่นๆจะได้ทราบข่าวสาร ถ้าท่านไม่มาโพสต์กระทู้นี้ ก็จะมีอีกหลายท่านที่ไม่ได้อ่าน จากคุณ : Heinz เขียนเมื่อ : 7 ส.ค. 54 16:58:10

ความคิดเห็นที่ 27 ตัวอิจฉามันเยอะครั บโพสต่อไปเถิด เหมือนเราดูเทนนิสระดับโลกนะครับ ไม่เก่งเท่าเขาแต่ก็ดูเป็นแนวทาง จากคุณ : Pu121 เขียนเมื่อ : 8 ส.ค. 54 13:47:10

ความคิดเห็นที่ 28 ขอโทษทีถ้าจะทำให้ใครรู้สึกเสียใจครับ เจตนาไม่ได้จะว่าใคร ถึงความเห็น 8 ถ้าใครว่ารวยจนกินแต่ปันผลไม่สะเทือนก็อยากบอกว่า เงินมันลดลงเป็นเปอร์เซ็นต์ครับ มีมากมีน้อยเวลาหุ้นลง ก็ลงตามส่วนเท่ากันครับ ผมมีร้อย ท่านมีหมื่นล้านเวลา ตก50เปอร์เซ็นต์ ผมหายไป 50 บาท ท่านหายไปห้าพันล้านบาท สมมุติว่าทุน หุ้นผม 45 บาท ราคาปัจจุบัน 100บาท ท้ายสุดตกไปเหลือ  50 บาท โดยที่ยืนยันว่าไม่ขาย เพราะทุนต่ำ แต่ถ้าว่ากันตามตรงคือคนที่มองตลาด ไม่ขาด ถึงได้ไม่ขายหุ้นตอน 100 มาซื้อหุ้นตอน 50บาท เงินที่ท่านๆได้ทุกๆบาทก็มาจากเงินที่รายย่อยเสียไปเช่นกัน ท่ารวยเพราะรายย่อยครับ เงินมีเท่าเดิม หมุนไปก็หมุนมา เงิน ไม่ได้งอกขึ้นครับ แค่เปลี่ยนมือเท่านั้น ท้ายสุดท่านไม่ได้ฟลุ๊คที่ร่ำรวย จะมีคนกี่คนในประเทศไทย ที่ซื้อหุ้นตัวหนึ่งแล้วมีคน พยายามเสาะหาว่าคนนั้นซื้ออะไรไป พยายามเอามานั่งดูว่าท่านคิดอะไร แล้วก็เชียร์กันออกนอกหน้า ถ้าผมซื้อหุ้นแล้วมีคนซื้อตามตลอด ผมก็คงไม่ใช้รายย่อยเช่นนี้ จากคุณ : fullday เขียนเมื่อ : 11 ส.ค. 54 12:28:43