ความคิดเห็นที่ 1 ทุกปี เงินเฟ้อ จะเพิ่มปีเฉลี่ยละประมาณ 3-5%  เป็นอย่างนี้มานาน และจะเป็นต่อไป และทุกคนไม่จำเป็นต้องกังวล เพราะนี้คือธรรมชาติ ดอกเบี้ยธนาคาร ปีละประมาณ 2-3% พันธบัตร ปีละ   5-6% ดัชนีอเมริกา  เฉลี่ยปีละ  9.8% เมืองไทย   ต่ำกว่า  ปีละประมาณ 6% แต่มีสิ่งหนึ่ง ถ้าคุณหาเจอ    สามารถทบต้นทบดอกได้ปีละ 20-30% ทุกปี                               หุ้นสามัญ  ที่มีกิจการดีมาก ราคาถูกหรือสมเหตุผล เป็นสิ่งหนึ่งที่คุณ  ต้องครอบครองให้ได้  และถือยาวเต็มพอร์ต  ไปกับมัน จากคุณ : Big Jump เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 54 09:02:39

ความคิดเห็นที่ 2 ผมก้ยังเต็มพอร์ตครับ เพียงแต่ตอนนี้กำลังจะเอาหุ้นเน่าออกแล้วไปเข้าหุ้นทีดีๆบ้างครับ จากคุณ : เด็กสะบ้าย้อย เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 54 09:14:08

ความคิดเห็นที่ 3 ลงทุนหลายทางเพื่อลดความเสี่ยง เอาสินทรัพย์ทุกอย่าง มาอยู่ในหุ้นอย่างเดียว การกระจายความเสี่ยงจะไม่มีนะครับ : ) จากคุณ : EarthQuakeZa เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 54 09:15:09

ความคิดเห็นที่ 4 มาวันนี้  ราคาทอง อยู่ ที่    1758  เหรียญ และได้ทบต้นทบดอก มาจาก 300 เหรียญ ในช่วงเวลา 5-7 ปีที่ผ่านมา ชดเชยกับที่เขาไม่ได้ทบต้นทบดอกช่วง 20 ปีที่ผ่านมา ในมุมมองของผม Big jump  คิดว่าจากนี้การทบต้นในอัตราเร่ง 20-30% ต่อปี เป็นไปได้ความลำบาก ยิ่งทบแรงก็เสี่ยงต่อการย้อนกลับแรง เพราะทองชนะเงินเฟ้อ  มานาน และแรงมาก แต่ถ้าทบต้นทบดอกจากนี้ไปปีเฉลี่ยปีละ 5-10% ก็ยังมีความเป็นไปได้อยู่บ้าง หรือจากนี้จะทบต้นทบดอกปีละ 3% ก็มีโอกาสอยู่มาก...... ถ้าผมหรือคุณ  มองเห็นหุ้นสามัญตัวหนึ่งที่มีกิจการมีอนาคต ราคาถูกและมีโอกาสทบต้นทบดอกได้ปีละ 20-30%                         ผมจะขายทอง   ซื้อหุ้นสามัญที่ดี ในประวัติศาสตร์ที่ผ่านมา   การทบต้นทบดอก  ไม่มีอะไรสามารถชนะหุ้นสามัญที่ดีได้ แต่คุณต้องอยู่กับหุ้นตลอดเวลา ต้องอยู่กับความรุ่งโรจน์ของบริษัทตลอดที่บริษัทยังเป็นบริษัทที่ดี                      ณ.. เวลาที่ผ่านมา ผมก็ยังมีหุ้นเต็มพอร์ต  ผมก็ได้รับข่าวสาร ร้าย ๆ พร้อม ๆ  กับพวกคุณ แต่ผมก็ดูแล้ว ไม่ได้มีผลต่อการดำเนินงานต่อบริษัทผม  ผมทำเป็นไม่ได้ยินเสียง ของกระต่ายตื่นตูม ผมไม่มีวันที่จะทิ้ง  ความรุ่งโรจน์ของบริษัทไปได้ ผมต้องการทบต้นทบดอก  ต่อไป ในระยะเวลาที่ยาวนาน ปีนี้ผมอาจกำไร หรือขาดทุน แต่เฉลี่ยระยะยาว(ขั้นต่ำ 10ปี)  ผมทบดอกทบต้นได้ 30% จากคุณ : Big Jump เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 54 09:16:29

ความคิดเห็นที่ 5 สวัสดีครับคุณ เด็กสะบ้าย้อย  และ คุณ EarthQuakeZa   มาต่อ.............. กันนะครับ   ผมไม่ได้แนะนำ  ให้คุณ เปิดสัญญา ขาย ทองคำ  ล่วงหน้า  ......   เพราะการทำอย่างนั้น ก็ยังมีความเสี่ยงอยู่มากในระยะยาว     และการได้กำไร  ในการเปิดสัญญา ขาย มันไม่ได้มากมาย เท่ากับ สัญญา ซื้อ   การเปิด สัญญา ขาย อะไรก็ตาม  กำไรมันมีจำกัด  แต่ขาดทุนไม่จำกัด   ส่วนการเปิด  สัญญา ซื้อ  กำไรไม่จำกัด  แต่ขาดทุน เท่ากับมูลค่าเต็มของสินค้า   ผมเพียงแค่แนะนำ  คนที่มีทองคำอยู่แล้ว ให้ขายเปลี่ยนมาซื้อหุ้นสามัญดี ๆ เท่านั้นเอง จากคุณ : Big Jump เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 54 09:24:54

ความคิดเห็นที่ 6 สวัสดีครับพี่ Big Jump เข้ามาอ่านแนวความคิดพี่ครับผม... จากคุณ : บัคจัง เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 54 09:26:58

ความคิดเห็นที่ 7 ปัญหาของคนส่วนใหญ่คือ หุ้นตัวไหนดีครับ ไม่เคยมีคนเฉลยสักที จากคุณ : เม่าก๊อตจิ เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 54 09:28:54

ความคิดเห็นที่ 8 คุณ EarthQuakeZa ครับ    ผมลงทุนในหุ้น  ก็กระจายความเสียงอยู่แล้วครับ    การกระจาย  ต้องการจายอย่างรอบรู้  จะเรียกว่า  กระจายความเสี่ยง    การกระจาย อย่างไม่รู้  อาจจะกลายเป็น   กระจายความเสียหาย    ผมคิดว่าถ้าลงทุนในหุ้นสามัญเป็น ถือว่าเป็นการกระจายความเสี่ยงได้อย่างสมบูรณ์ในตัวมัน   ผมมี   หุ้นเบญจภาคี  5  ตัว  สำรอง 1 ตัว   ทั้งหมดผมคิดว่าราคายุติธรรม บางตัวยังถูกมาก  1.) CENTEL   โรงแรง 7000 ห้อง อาหาร KFC มิสเตอร์โดนัท และอีกหลายแบนด์ดัง  2.) BLA  ประกันชีวิต  3.)  BCP  ปั้มน้ำมัน โรงกลั่น Solar Cell  4.) DSGT ผ้าอ้อมสำเร็จรูป  เด็ก และ ผู้ใหญ่   5.)  KTC  บัตรเครดิต   สำรอง  CPN   ศูนย์การค้า จากคุณ : Big Jump เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 54 09:31:38

ความคิดเห็นที่ 9 สวัสดีครับ คุณ บัคจัง  ว่าง ๆ จะตอบคำถามให้นะครับ สวัสดีครับ  คุณ  เม่าก๊อตจิ   ผมเฉลยให้ในความคิดเห็นที่ 8 นะครับ อันที่จริง  อาจมีปัญหาที่คาใจ  นักลงทุนในที่นี่  ว่าผมมี ความคิดแอบแฝง ซื้อหุ้นเต็มพอร์ตแล้ว ค่อยมาประกาศ  หาคนร่วมขบวนการ  ลากผมไป...... ผมขอตอบดังนี้ .............. 1.) หุ้นทุกตัว ผมทำการบ้านมาหนัก  ผมก็ต้องซื้อเก็บให้กับผม  และกองทุนส่วนตัวที่ผมดูแล  (การซื้อก็เพราะผมเห็นว่ามันดี)  และถ้าผมเห็นว่า มันยังราคาถูก และมีอนาคตในวันข้างหน้าอีก 2-5 ปี  ผมก็แนะนำให้ซื้อ  แต่ไม่ได้แนะน้ำเพื่อมาออกของ  เพราะผมต้องถือเต็มพอร์ต  และถือต่อไปตราบที่กิจการมันดี 2.)  ผมยกตัวอย่างหุ้น CPALL ถ้าผมเก็บตั้งแต่ 10-15  บาท         แล้ว ราคา 15 บาท ผมบอกเพื่อนสนิทให้ซื้อ          ราคา 17 บาท บอกให้เพื่อนที่ไม่สนิท        ราคา 18 บาท บอกเล่นแนวความคิดการลงทุนให้ทุกคนรับรู้        ราคา 18-30 ผมก็อาจจะซื้อเพิ่ม ไปพร้อม ๆ กับทุกคน ตามเรื่องราวที่บริษัทมีความเจริญก้าวหน้า       อย่างล่าสุด ผมก็ซื้อ BLA ราคา 53.5 - 56 เพิ่ม ถึงแม้ต้นทุนแรกผมจะต่ำมากก็ตาม แก้ไขเมื่อ 10 ส.ค. 54 09:46:41 จากคุณ : Big Jump เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 54 09:45:36

ความคิดเห็นที่ 10 แล้วถามว่า ทำอย่างนี้ได้อะไร     ก็ไม่ได้อะไรหรอกครับ  ได้แสดงแนวความคิด และเป็นการทบทวนแนวความคิดของตนเอง  นอกจากนั้น  อาจจะตรงกับ คำพูดของอาจารย์ผมโดยบังเอิญก็ได้    เบนเกรแฮม  เคยกล่าวกับเพื่อน ๆ ของเขา ตอนที่ป่วยอยู่โรงพยาบาลว่า   "ทุกวัน ผมอยากทำ บางสิ่งที่ดูโง่เขลา บางสิ่งที่ดูสร้างสรรค์ และบางสิ่งที่แสดงออกถึงความมีน้ำใจ"    ผมก็เลยมา โพสต์อะไรต่ออะไร เพื่อนผมบอกเสียเวลา ไปทำเงินกันดีกว่า  ผมทำในสิ่งที่ดูโง่เขลา เสียเวลา ไม่ได้ผลตอบแทน  ตอบคำถามให้เพื่อนนักลงทุนในที่นี่     เพราะผม  ต้องการมีน้ำใจ  และสร้างสรรค์สิ่งดี ให้เพื่อน ๆ  ในสินธร  กันครับ แก้ไขเมื่อ 10 ส.ค. 54 09:59:43 จากคุณ : Big Jump เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 54 09:55:52

ความคิดเห็นที่ 11 *** ปล.  แต่ก็มีมากในนี้นะครับ  ที่มาโพสต์ เพื่อออกของกันจริง ๆ จากคุณ : Big Jump เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 54 09:58:21

ความคิดเห็นที่ 12 พี่ big jump ครับว่าทั้ง 5 ตัวของพี่นี้อันไหนยังราคาถูกอยู่ครับ ผมเริ่มปรับพอร์ตเเล้ว ยอมรับตั้งเเต่ถือ bla กับ centel เเละ bcp มีความสุขดี เเต่ DSGT ช่วงนี้รู้สึกจะลงเเรงไปหน่อย ขอบคุณครับ จากคุณ : ขั้วแคโทด เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 54 10:38:37

ความคิดเห็นที่ 13 ตัวไหน  ลงแรง  ก็ซื้อเยอะ ๆ  .... จากคุณ : Big Jump เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 54 10:41:43

ความคิดเห็นที่ 14 เมื่อวานก็เข้าไปพอสมควรครับ   รอลงเเรงๆอีกสักรอบจะเข้าอีกครับ จากคุณ : ขั้วแคโทด เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 54 10:44:41

ความคิดเห็นที่ 17 KTC: ผลประกอบการดีกว่าที่ตลาดคาด 11% จากคุณ : ขั้วแคโทด เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 54 10:48:40

ความคิดเห็นที่ 18 ผมว่ามีทรัพย์สินหลายอย่างก็ดีนะครับ ถ้าบ้านมีมากไปชอบหุ้นมากกว่าก็ตามสบาย แต่อย่าถึงกับขายหมดแล้วไปเช่าอยู่ หรือต้องเอาไปจำนอง  อย่างนี้ไม่เห็นด้วยครับ    สำหรับทองคิดว่าขึ้นแรงไปก็แล้วแต่มุมมอง เพราะทองไม่ให้ผลตอบแทนอื่นเลย แต่สำหรับผมมีทองไม่น้อยกว่าร้อยละ 30ของยอดการลงทุนมานานละ อยากบอดว่ามีนิดหน่อยไว้ดีกว่าครับ   ในความคิดของผมสินทรัพย์มีราคาทุกอย่างที่คนทั่วโลกยอมรับ ทองคือสิ่งที่มั่นคงที่สุด  ไม่ว่าที่ดิน หุ้น ความมั่นคงสู้ทองไม่ได้เลย ไม่ต้องพูดถึงธนบัตรหรือพันธบัตรรัฐบาล อันนั้นปริมาณสามารถผลิตได้ตามที่กลุ่มผู้มีอำนาจต้องการ  ตอนนี้ความเห็นผมถ้าธนาคารกลางของประเทศต่างๆ ยังหาสิ่งที่ต้องสะสมความมั่งคั่งของประเทศดีกว่าทองไม่ได้ มันก็คงลงยากอยู่ จากคุณ : winsg เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 54 12:09:33

ความคิดเห็นที่ 19 ทำได้ดีครับ คุณ ขั้วแคโทด KTC ก็ใจเย็น ๆ  ค่อยเก็บ ไม่ต้องรีบ เขายังไม่ไปไหนหรอกครับ จากคุณ : Big Jump เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 54 13:04:31

ความคิดเห็นที่ 20 สวัสดีตอนบ่ายครับ  คุณ winsg ที่มาร่วมแจม  ยินดีมากครับ การมีทรัพย์หลากหลาย ก็ดีครับ ผมเห็นด้วย เพียงแต่ถ้า  ราคาของสินทรัยพ์เหล่านั้น ถ้ามันเอียงซ้าย หรือ ขวา มากไป ผมไม่ปล่อยโอกาสนั้น  ให้ผ่านไป อีกแล้วครับ รถยนต์ 4 คัน บ้าน 3 หลัง ที่ดิน 1 แปลง ทองคำแท่ง รูปพรรณ  ผมได้มา จากการขายหุ้นสามัญ ของผมออกไป  เพื่อแลกกับความสุขของสมาชิกในครอบครัว วันหนึ่งถ้าผมจะแลก  ทรัพย์สินที่มี  กลับไป  สู่  หุ้นสามัญ  ............ ก็คงจะดี วันที่  27 เดือน ตุลาคม 2008  ผมขายรถ civic ไป 650,000  ซื้อหุ้นสามัญ ตอนนั้น   STA 2.94 บาท CPALL 9.25 บาท PTTCH 35.00 CPF 3.20 มันน่า  แลกเปลี่ยนกันไหม  .......... วันนั้น ผมบอกกับทุกคน ............ ในบ้าน  (ดัชนี SET50 = 302) เราจะรวย ......... ทุกคนจะมีเรื่องสนุกได้ทำ  เราจะย้ายบ้านไปสู่บ้านหลังใหญ่กว่า ใหม่กว่า สิ่งแวดล้อมที่ดีกว่า  ..............  แต่ เราจะแวะพัก บ้านหลังเล็กก่อน ทุกคนตื่นเต้น  ........... และตกลงตามนี้ จากคุณ : Big Jump เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 54 13:21:27

ความคิดเห็นที่ 21 ผมตั้งใจ  ถ้า SET 250 จุด  ไปก่อน 1 หลัง                  SET 220 จุด  ไปอีก 1 หลัง                    SET 190 จุด ไปอีก  1 หลัง ในนั้น เราจะซื้อ หุ้นอสัมหาริมทรัพย์  เอาไว้ด้วย ...........   เพื่อ  เอาหุ้นสามัญของบริษัทบ้านจัดสรร  ไปแลกกับบ้านหลังใหม่ในวัดข้างหน้า แต่แล้วทุกอย่าง  ก็ผิดแผน ............ มันขึ้นตลอดไม่ได้คาดคิด แก้ไขเมื่อ 10 ส.ค. 54 13:24:58 จากคุณ : Big Jump เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 54 13:24:30

ความคิดเห็นที่ 22 เมื่อผมมอง ..................  ว่าจะขายทอง  วันนี้ ผมจะนำทองทั้งหมดที่มีไปขาย เพราะวันนี้  ผมซื้อ  BLA หุ้นสามัญชั้นดีของผม  เข้าไปอีกแล้ว  และไม่มีเงินต้องจ่าย ดังนี้น  ผมต้อง  เอาทองไปขาย  เพื่อนำเงินมาชำระค่าหุ้น แล้วมา  วัดกัน  ว่าทองที่มั่นคง ......ที่ราคานี้   1755 เหรียญ  กับ BLA (ที่มีพันธบัตรรัฐบาลไทยเป็นปึกๆหนุนหลัง)  ที่ผมซื้อวันนี้ 56 บาท  ใครจะให้ผลตอบแทนมากกว่ากัน ........ เมื่อเวลาผ่านไป 1 ปี 5 ปี 10 ปี แก้ไขเมื่อ 10 ส.ค. 54 13:30:35 จากคุณ : Big Jump เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 54 13:30:16

ความคิดเห็นที่ 23 หมายเหตุ...............        ข้อความในกระทู้ค่อนข้างอันตราย ต่อผู้อ่านทุกท่าน ไม่ควรเลียนแบบ การนำแนวความคิดไปใช้อาจก่อให้เกิดความเสียหายรุนแรงได้  และปัญหาครอบครัวตามมา  เพราะการที่จะทำได้   ต้องมองออกว่ากิจการไหนดี ไม่ดี  และประเมินราคาหุ้นปัจจุปัน และราคาหุ้นในอนาคตเป็น        สิ่งที่อยากจะบอก จริง ๆ จัง ๆ  ก็คือ  ไม่มีอะไรทบต้นทบดอกได้ดี กว่าหุ้นสามัญชั้นดี จากคุณ : Big Jump เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 54 13:36:03

ความคิดเห็นที่ 24 ขายทอง ไปซื้อ BLA กันดีกว่า จากคุณ : Big Jump เขียนเมื่อ : 10 ส.ค. 54 13:39:05

ความคิดเห็นที่ 25 โดยส่วนตัวคิดว่า CPN ดูดีกว่า KTC นะครับ เพราะการแข่งขันในธุรกิจบัตรเครดิตนั้นค่อนข้างรุนแรง แถมยังอ่อนไหวกับภาวะเศรษฐกิจอีก จากคุณ : shine-rise เขียนเมื่อ : 11 ส.ค. 54 02:17:46