มาในรูปแบบของ Dollar / Euro Carry Trade ครับ
Carry Trade คือ การนำเงินที่ไม่ได้ลงทุน ไปลงทุนในที่อื่นที่ได้ผลตอบแทนดีกว่า ในความเสี่ยงที่ไม่มาก เช่น สมมติว่าดอกเบี้ยเงินกู้ของอเมริกา ดอกเบี้ย 1% ต่อปี (เพราะเศรษฐกิจไม่ดี ดอกเบี้ยจะถูกเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ) คนเหล่านั้นอาจจะกู้เงินมา แต่ไม่ได้เอาไปประกอบธุรกิจหรือ เสริมสภาพคล่องธุรกิจตัวเองทั้งหมด แต่จะนำไปลงทุนในส่วนอื่น ประเทศอื่นที่ให้ผลตอบแทนที่ดีกว่า ในระดับความเสี่ยงต่ำ เช่น การกู้มา แล้วเอามาซื้อพันธบัตรไทย ระยะเวลา 10 ปี ซึ่งได้ดอกเบี้ยประมาณ 4% ต่อปี ดังนั้นภาระดอกเบี้ยจ่าย 1% อีก 3% ก็เก็บเข้ากระเป๋า และยังมีโอกาสได้กำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนซึ่งเมื่อเกิดสภาพเศรษฐกิจไม่มีเสถียรภาพขึ้นในประเทศนั้นๆ หรือเหล่าประเทศนั้น สกุลเงินนั้นๆก็จะอ่อนลง
แต่อย่าคาดหวังว่าจะมาเข้าตลาดหุ้นนะครับ คนส่วนใหญ่มือใหม่มักจะคิดว่า เศรษฐกิจอเมริกายุโรป ไม่ดีแล้ว จะมาลงทุนในตลาดหุ้นแทน ไม่ใช่เลย เพราะถ้าสมมติว่า เศรษฐกิจเกิดตกสะเก็ดเป็นวิกฤตขึ้นจริงๆ มันจะกระทบไปทั่วโลก ภาคการส่งออกของประเทศอื่นๆจะชะงักเนื่องจากเงินจะแข็งค่า สภาพอุตสาหกรรมเมื่อมีปัญหาจากส่วนใหญ่ส่วนหนึ่งของโลก มันจะกระทบเป็นลูกคลื่นไปสู่ประเทศอื่นๆ เริ่มจากประเทศใหญ่ๆ ไปเรื่อยๆจนถึงประเทศเล็ก
เม็ดเงินที่จะเข้ามาลงทุนในช่วงวิกฤต ถ้าลงทุนจริงๆอาจจะเป็นธุรกิจที่มีโอกาสฟื้นตัวสูง หรือฟื้นตัวได้ก่อนธุรกิจประเภทอื่น ซึ่งต้องดูความเสี่ยงธุรกิจประกอบ แต่โดยส่วนมากแล้วจะเข้ามาในตลาดตราสาร พวกพันธบัตรหรือหุ้นกู้มากกว่า ส่วนตลาดหุ้นโดยมากมักจะขายและนำเงินโยกไปอยู่ในตลาดบอนด์แทน พูดง่ายๆคือเงินจะไหลออกจากทุนส่วนแล้วไปกระจุกกับตลาดบอนด์ซึ่งผลตอบแทนคุ้มค่ากับความเสี่ยง ซึ่งมีไม่มาก
ตลาดหุ้นทั่วโลกอย่างไรก็ดี ถ้ามันเป็นวิกฤตจริง มันก็จะพังลงมาทั่วโลก ประเทศที่เกิดวิกฤตจะวูบก่อน ส่วนประเทศที่ไม่ได้เกี่ยวข้อง อาจจะได้รับผลกระทบ แต่ก็ไม่ได้เป็นผลแบบน่าสะพรึงกลัวเช่นประเทศที่เกิดวิกฤตเอง เพราะประเทศที่ได้รับผลกระทบน้อย โอกาสจะฟื้นตัวจะเกิดได้ง่ายกว่าประเทศที่เกิดวิกฤต
ช่วงนี้จะเป็นเวลาที่เราได้ศึกษาหุ้นจริงจังมากขึ้น เพื่อรอเก็บของถูก คุณภาพดี
จากคุณ |
:
venezier
|
เขียนเมื่อ |
:
19 ส.ค. 54 12:33:59
|
|
|
|