Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
ฟองสบู่ “อนุพันธ์” ? โอกาส-เสี่ยง “นักเก็งกำไร” ติดต่อทีมงาน

ความร้อนแรงของราคาทองคำ-สินค้าโภคภัณฑ์ที่แห่ดีดตัวขึ้น หลังตลาดเงินผันผวน ดันวอลุ่มตลาดอนุพันธ์ ทะลัก "โอกาส-ความเสี่ยง" นักเก็งกำไร

  นับตั้งแต่เกิดความวิตกกังวลต่อภาวะเศรษฐกิจถดถอยในสหรัฐอเมริกาและสหภาพยุโรป จนทำท่าว่าอาจจะเกิดวิกฤติเศรษฐกิจโลกละลอกใหม่ เป็น ดับเบิลเบอร์เกอร์ ความกังวลดังกล่าวส่งผลให้ตลาดการเงินทั่วโลก"ปั่นป่วน" ตลอด 2 เดือนที่ผ่านมา ไม่ว่าจะเป็นตลาดหุ้น หรือตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ โดยเฉพาะ "ราคาทองคำ" ที่วิ่งขึ้น "ขาเดียว"

โดยเกือบสองเดือนราคาทองคำวิ่งไปเกินกว่า 10 % ก่อนจะถูกเทขายทำกำไรอย่างหนักในช่วงปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา

ปรากฏการณ์ที่ว่านี้ ส่งผลให้ตลาดซื้อขายตราสารอนุพันธ์ (Derivertive) ทั่วโลกเกิดปริมาณซื้อขายหนาแน่นรวมถึงไทย จนตลาดอนุพันธ์แห่งประเทศไทยต้องออกมาตรการ “ดับร้อน” ด้วยการเพิ่มวงเงินหลักประกันขั้นต้น (Initial Margin) SET50 Index Future (สัญญาซื้อขายล่วงหน้าที่อ้างอิงดัชนี SET 50)  เพิ่มขึ้นจาก 38,000 บาทต่อสัญญา เป็น 53,200 บาทต่อสัญญา โกลด์ฟิวเจอร์ส (สัญญาซื้อขายทองคำล่วงหน้า) ขนาด 50 บาททองคำจาก 47,500 บาทต่อสัญญามาเป็น 62,700 บาทต่อสัญญา

ล่าสุดเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาตลาดอนุพันธ์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ต้องหยุดซื้อขายซิลเวอร์ฟิวเจอร์ส (สัญญาซื้อขายโลหะเงินล่วงหน้า) ชั่วคราวเนื่องจากราคามีการเปลี่ยนแปลงเกินกว่า 10 % จากการแห่เข้าเก็งกำไร ขณะที่วงการโบรกเกอร์ออกมายอมรับว่าลูกค้าบางส่วนถูกบังคับปิดสถานะซื้อขาย (Force Close) ในช่วงที่ผ่านมาเนื่องจากราคาแกว่งตัวอย่างรุนแรงภายในวันเดียว

ตามทฤษฎีการลงทุนในตลาดอนุพันธ์ Zero Sum Game จะต้องมีทั้งผู้ชนะ (กำไร) และแพ้ (ขาดทุน) คู่กันเสมอ ในภาวะที่ตลาดการเงินโลกกำลังปั่นป่วน เป็นจังหวะเดียวกับที่ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) กำลังเดินหน้าพัฒนาสินค้าตราสารอนุพันธ์ออกมาให้เป็นทางเลือกกับนักลงทุน

ทำให้ต้องชั่งใจระหว่าง "ผลตอบแทน" กับ "ความเสี่ยง" ในระดับสูง (High Risk - High Return)

จรัมพร โชติกเสถียร กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ให้ข้อมูลว่า ช่วงที่ผ่านมาได้เกิดความกังวลเรื่องภาวะเศรษฐกิจโลกว่าจะเข้าสู่วิกฤติอีกครั้งหรือไม่ เป็นผลให้ตลาดหุ้นทั่วโลกปรับตัวลดลง นักลงทุนทั่วโลกต่างย้ายเงินลงทุนเข้าสู่ตลาด “สินค้าโภคภัณฑ์” (Commodity) ซึ่งให้ผลตอบแทนสูงกว่าและเฮดจิ้ง (ประกันความเสี่ยง) เงินเฟ้อได้  เนื่องจากราคามีความเคลื่อนไหวไปในทิศทางเดียวกัน เช่นเดียวกับนักลงทุนไทยที่หันมาให้ความสนใจลงทุนในตลาดสินค้าโภคภัณฑ์

“ปีที่ผ่านมาตลาดอนุพันธ์ทั่วโลกมีอัตราการเติบโต 34% ส่วนตลาดอนุพันธ์ไทยเรามีการเติบโตสูงเป็นอันดับ 2 ของโลกเพราะยังมีฐานต่ำ คาดว่าปีนี้เราน่าจะมีอัตราการเติบโต 200% เป็นอันดับที่ 1 ขณะที่ตลาดโกลด์ฟิวเจอร์สเราเป็นตลาดที่ใหญ่อันดับ 5 ของโลกไปแล้ว” จรัมพร ระบุ

จะเห็นได้ว่ากลางปีที่แล้วไทยมีการซื้อขายตราสารอนุพันธ์รวมเพียง 18,000 สัญญาต่อวัน ปัจจุบันไทยมีปริมาณซื้อขายขึ้นมาเป็น 36,000 สัญญาต่อวัน หรือเพิ่มขึ้นกว่าเท่าตัว โดยโกลด์ฟิวเจอร์สมีสัดส่วนเกือบครึ่ง และยังมีโอกาสที่จะเติบโตมากกว่านี้

“หน้าที่ของตลาดหลักทรัพย์เราจะหาสินค้าเพื่อการลงทุนเป็นทางเลือกให้กับนักลงทุนโดยเฉพาะสินค้าใหม่ๆ อย่าง Equity ETF (กองทุนเปิดดัชนีที่จดทะเบียนและซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์) และตราสารอนุพันธ์ อนาคตจะออกมาอีกเรื่อยๆ”

http://www.bangkokbiznews.com/home/detail/business/bizweek/20110829/406730/%E0%B8%9F%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%AA%E0%B8%9A%E0%B8%B9%E0%B9%88-%E0%B8%AD%E0%B8%99%E0%B8%B8%E0%B8%9E%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B8%98%E0%B9%8C---%E0%B9%82%E0%B8%AD%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%AA-%E0%B9%80%E0%B8%AA%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%A2%E0%B8%87-%E0%B8%99%E0%B8%B1%E0%B8%81%E0%B9%80%E0%B8%81%E0%B9%87%E0%B8%87%E0%B8%81%E0%B8%B3%E0%B9%84%E0%B8%A3.html

จากคุณ : ขอบฟ้าบูรพา
เขียนเมื่อ : 30 ส.ค. 54 05:54:43




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com