ความคิดเห็นที่ 1 ไม่ว่าจะเป็นความสุข หรือความทุกข์ ก็มักจะมาโดยไม่ทันตั้งตัว บ่ายสองโมงกว่าแล้ว ของวันที่  1 กรกฎาคม 2554 อยู่ดีๆก็มีคนเอาล๊อตเตอรี่มาขาย แปดใบ ให้ช่วยซื้อหน่อย ล๊อตเตอรี่ก็เริ่มออกแล้วด้วย พอสี่โมงเย็น แปดใบนี้ ก็จะกลายเป็นเศษกระดาษ ด้วยความสงสาร เลยซื้อไว้ แปดใบ แปดร้อย จากคุณ : parad เขียนเมื่อ : 30 ส.ค. 54 20:56:42

ความคิดเห็นที่ 2 สี่โมงเย็น เลขท้ายสามตัว ออก 463 ลงทุนแปดร้อย ไม่ถึงสองชั่วโมง ได้มาสี่พัน ดีกว่าซื้อ LTF อีก เป็นความสุขมาโดยที่เราไม่ได้คาดฝัน จากคุณ : parad เขียนเมื่อ : 30 ส.ค. 54 20:57:31

ความคิดเห็นที่ 3 แต่ความทุกข์ก็มาโดยที่เราไม่ได้ตั้งตัวเช่นกัน ผมซื้อ LFT มาหกเจ็ดปี กับ SCB อย่างเดียว เพื่อสิทธิลดหย่อนภาษี รายได้หลายปีก่อน  เมื่อหักค่าใช้จ่าย ต้องเสียภาษีขึ้นไปถึงอัตรา 30% แต่ละปีก็ซื้อไม่มาก ไม่เกิน 15% ของรายได้สุทธิ ตามที่กำหนด ก็อยู่ที่ประมาณ 200,000 หรือ 300,000 บาทต่อปี ทุกปี ในระหว่างนี้ ก็มีการสับเปลี่ยนกองทุนบ้างเพียง สามสี่ครั้ง จากคุณ : parad เขียนเมื่อ : 30 ส.ค. 54 20:58:23

ความคิดเห็นที่ 4 ปี 2552 หรือ 2009 เป็นปีแรกที่ครบกำหนด ขายคืนเป็นปีแรก ได้ผลตอบแทนมาพอสมควร ปีที่แล้ว 2553 หรือ 2010  ขายคืนเป็นปีที่สอง แม้จะมีความรู้เรื่องLTF อยู่บ้าง แต่ก็ไม่ได้สนใจมากนัก อย่างที่บอก ซื้อเพื่อสิทธิทางภาษี รู้เพียงแต่ว่า ถ้าขายผิดปี สิทธิทางภาษีจะหมดไป ถ้าขาย LFT ผิดไป 100,000 บาท ฐานภาษีอยู่ที่ 30% ต้องไปตามใช้ภาษีคืนอีก 30,000 บาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 1.5 ต่อเดือน เพราะขายผิดปี อันนี้คือที่รู้และเข้าใจดี จากคุณ : parad เขียนเมื่อ : 30 ส.ค. 54 20:59:02

ความคิดเห็นที่ 5 เมื่อถึงคราวที่จะขายคืน ก็จะไปติดต่อที่สาขาของธนาคารทุกครั้ง เพราะว่า ในช่วง 5-6 ปี ที่ถือ LFT มีการสับเปลี่ยนกองทุนบ้างสามสี่ครั้ง เลยต้องให้เจ้าหน้าที่ช่วย ตรวจสอบให้ว่า LFT ที่ครบกำหนด จะขายได้ ในปีนั้น เป็นตัวไหน จำนวนเท่าไหร่ เพราะอาจจะไม่เหมือนตอนซึ้อ เพราะมีการสับเปลี่ยนบ้าง อันนี้คิดเองไม่ออก จากคุณ : parad เขียนเมื่อ : 30 ส.ค. 54 20:59:38

ความคิดเห็นที่ 6 ย้อนไปปี 2553 ก็ได้ไปติดต่อที่ SCB สาขาย่อย เทสโก้ โลตัส ใกล้ที่ทำงาน เพื่อจะขายกองทุนที่ครบกำหนดห้าปี เจ้าหน้าที่ที่ติดต่อ ทำรายการอยู่นาน แต่ก็ไม่แน่ใจ ไม่แน่ใจว่า LFT ตัวไหนที่ครบกำหนด ขายในปี 2553(2010) ผมเลยไปติดต่อที่สาขาใหญ่ประจำจังหวัดที่ซื้อ และเปิดบัญชี LFT .ตั้งแต่เริ่มแรก เจ้าหน้าที่เองก็ทำรายการอยู่นาน รวมทั้งปรึกษาคนที่อาวุโสกว่าด้วย ได้ออกมาว่า ในปี 2553 หรือ 2010 ผมต้องขาย LT1  17000 กว่าหน่วย ผมก็ขายไปตามที่เจ้าหน้าที่แนะนำ ตอนนั้นยังแปลกใจ เพราะ LFT ที่จะต้องขายในปี 2553(2010) นั้น ก็คือ LFT ที่ซื้อในปี 2549 (2006) ซึ่งซื้อ LT 1 เป็นจำนวน 17,000 กว่าหน่วย เหมือนกับที่แนะนำให้ขายเลย ระหว่างปี 2549-2553(2006-2010) ก็มีการ switch หรือสลับกองทุนบ้าง แต่ทำไมให้ขายเหมือนเดิม จากคุณ : parad เขียนเมื่อ : 30 ส.ค. 54 21:00:08

ความคิดเห็นที่ 7 แต่เมื่อได้มาปรึกษาคนที่เชี่ยวชาญกว่าแล้ว เขาแนะนำแล้ว จะไปขัดแย้งก็ใช่ที่ ก็ขายไปตามที่ได้คำแนะนำ คือ ปี 2553(2010) ขาย LT 1 ไป 17,000 กว่าหน่วย เท่าที่ซื้อมาในปี 2549(2006) คือลงทุนใน LT1 200,000 บาทถ้วน ตอนนั้น ได้ LT 1 มา 17,000 กว่าหน่วย เมื่อใบสรุปการขายมาภายหลัง ก็ยิ่งแปลก ขาย LT1 ที่ซื้อมาในปี 2549(2006) 17,000 กว่าหน่วย เป็นเงินลงทุนในปีนั้น 200,000 บาทถ้วน ซึ่งตอนนั้น ราคาน่าจะ 10 บาทนิดๆ ขายปีที่แล้ว 2553 (2010) แยกเป็นส่วนเงินทุน 170,000 กว่าๆบาท และเป็นกำไร 40,000บาท ที่ว่าแปลกคือว่า ต้นุทน ไม่น่าต่ำกว่า 200,000 คือไม่น่าจะน้อยกว่าเงินที่ลงทุนในต้อนเริ่ม แล้วเวลาก็ผ่านไปจนปี 2554 ปีที่ความทุกข์มาเยือน จากคุณ : parad เขียนเมื่อ : 30 ส.ค. 54 21:00:42

ความคิดเห็นที่ 8 ก่อนจะโพสวันนี้มาดูเอกสารที่ scan ไว้ ดูวันเดือนปีที่ขาย วันเดือนปีที่ลงทุนของ LFT ที่ขายไป อยากร้องไห้ 5555555555555 จากคุณ : parad เขียนเมื่อ : 30 ส.ค. 54 21:02:14

ความคิดเห็นที่ 9 ปีนี้ 2554 (2011) ได้ไปติดต่อที่ SCBสาขาย่อย เทสโก้ โลตัส ใกล้ที่ทำงาน  อีกครั้ง เพื่อขายกองทุน LFT ที่ครบกำหนดในปี 2554(2011) ก็เป็นกองทุนที่ซื้อในปี 2550 (2007) เจ้าหน้าที่สาขาลองทำรายการอยู่นาน จนได้ว่าในปี 2554(2011) จะขายอะไรได้บ้าง แต่ไม่แน่ใจ เลยขอให้มาติดต่ออีกที เพื่อให้คนที่เชี่ยวชาญกว่า ทำรายการให้อีกที สองสามวันถัดมา ผมไปติดต่ออีกครั้ง เจ้าหน้าที่ที่อาวุโสกว่า ก็ทำรายการให้อีกที และแจ้งกับผมว่า กองทุนที่ครบกำหนดปีที่แล้ว 2553(2010) ยังไม่ได้ขาย อ้าว เป็นไปได้ไง ปีที่แล้วก็ขาย งานเข้าแล้วเรา ก็ปี 2553(2010) ก็ขายไปแล้ว ได้เงินมาแล้ว ใช้ไปแล้วด้วย เจ้าหน้าที่ท่านนั้นก็ขอสมุด แล้วขอไปทำรายการทบทวนอีกที ให้มาติดต่อใหม่อีกครั้ง จากคุณ : parad เขียนเมื่อ : 30 ส.ค. 54 21:02:53

ความคิดเห็นที่ 10 สองสามวัน ผมไปติดต่อที่สาขาย่อย เทสโก้ โลตัสอีกที ได้รับแจ้งว่า ปีที่แล้ว 2553(2010) ผมขายผิด ขาย LFT ในส่วนที่ยังไม่ถึงเวลาขาย! ขายผิดจริงๆ ส่วนของที่จะควรจะขายปี 2553(2010) ยังอยู่ เนื่องจากปี 2553 ผมได้ขายที่สาขาใหญ่ประจำจังหวัด เจ้าหน้าที่ท่านนั้น ได้กรุณาติดต่อ และแนะนำให้ผมไปติดต่อที่สาขาประจำจังหวัด ผมก็ได้ไปที่สาขาประจำจังหวัด พบเจ้าหน้าที่ท่านหนึ่ง ได้ความว่า เจอได้เรื่อยแบบนี้ และส่วนใหญ่ ไม่ใช่ความผิดของลูกค้า หลังๆ ธนาคารรับเจ้าหน้าที่เข้ามามาก ทำให้บางคนอาจยังไม่ชำนาญ และยังแนะนำอีกว่า ความจริงทางบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวมไทยพาณิชย์ (SCBAM) น่าจะมีโปรแกรมเตือน เมื่อเจ้าหน้าที่ทำรายการ แล้วจะขาย LFT ที่ยังไม่ครบกำหนด เพื่อเป็นการเตือนเจ้าหน้าที่ ให้ดูให้ดีก่อน และได้ให้เจ้าหน้าทีอีกท่าน ประสานงานกับหน่วยที่สูงกว่าอีกที จากคุณ : parad เขียนเมื่อ : 30 ส.ค. 54 21:03:25

ความคิดเห็นที่ 11 หลายวันต่อมามีคนโทรมาหาผม ซึ่งผมไม่แน่ใจว่าเป็นส่วนของแบงค์ใหญ่ หรือ เป็นบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม ขอโทษในความผิดพลาด อย่างสุภาพสุดๆ จนผมเกรงใจ ผมบอกว่าไม่ต้องสุภาพขนาดนั้นก็ได้ เจ้าหน้าที่ท่านนั้นได้แนะนำผมอย่างนี้ครับ ท่านให้ผมไปกับเจ้าหน้าที่ธนาคาร ไปติดต่อกับสรรพากรด้วยกัน แจ้งว่ามีกรณีนี้ และทำโดยไม่ได้ตั้งใจ เพื่อขอยกเว้นการเสียภาษี (หรือเวฟ) (แต่ก็ไม่ได้โทรบอกกับเจ้าหน้าที่สาขา) ในกรณีนี้ ผมคิดว่าคงทำได้ยาก คงไม่มีข้าราขการยอมเอาตัวเข้ามาเสี่ยง ยกเว้นการเก็บภาษี เพราะก็คือการละเว้นการปฏิบัติหน้าที่อย่างหนึ่ง จากคุณ : parad เขียนเมื่อ : 30 ส.ค. 54 21:03:59

ความคิดเห็นที่ 12 พอดีมีคนรู้จักกัน รู้จักกับสรรพากรในอำเภอหนึ่งในจังหวัด ได้กรุณาโทรสอบถามให้ ท่านก็ได้แนะนำอย่างที่ผมเข้าใจ เงินลงทุน หรือเงินต้นที่ขาย LFT ผิดปี ในกรณีนี้ คือ 170,000 กว่า เกือบ 180,000 ต้องไปเสียภาษีตามที่ได้รับสิทธิยกเว้น ซึ่ง LFT ที่ขายไปเป็นเงินต้นที่ขายไปในสองปีภาษี แต่ละปีนั้น ผมเสียในอัตรา 30% แสดงว่าภาษีในส่วนที่ขายผิดปี ก็อยู่ที่ 54,000 บาท ถ้าเข้าใจไม่ผิด และต้องบวกด้วย ดอกเบี้ย 1.5 ต่อเดือน นับจากเดือนที่ต้องเสียภาษีจริง ส่วนผลกำไร เนื่องจากเป็นผลที่เกิดจากการขายผิดปีในปี 2553 ผลกำไรนี้ต้องยื่นเสียภาษีในปี 2554 คือปีนี้ อันนี้ผมเสียไปแล้ว ปีนี้เสียในอัตราสูงสุด 20% (รายได้หด) ปีนี้ ปีภาษี 2554 เสียภาษีส่วนนี้ไปแล้วประมาณ 9,000 บาท จากคุณ : parad เขียนเมื่อ : 30 ส.ค. 54 21:04:22

ความคิดเห็นที่ 13 ถึงตอนนี้ ก็ไม่มีทางออกอย่างไร เจ้าหน้าที่ของสาขาที่ติดต่อด้วย ก็บอกว่า เรื่องนี้ ได้เข้าที่ประชุมเขต และจะแก้ไขให้ แต่ก็ไม่มีข่าวคราวใดๆ ผมตั้งใจจะไปพบสรรพากร เพื่อแจ้งเสียภาษีในเดือนนี้ เพราะทุกเดือนที่ผ่านไป จะต้องเสียอีก ร้อยละ 1.5 ต่อเดือน จะขอผ่อน สักสามเดือน หรือมากกว่านั้น เพราะลองคิดดูเล่นๆแล้ว คงเสียภาษีเป็น แสน! จากคุณ : parad เขียนเมื่อ : 30 ส.ค. 54 21:04:53

ความคิดเห็นที่ 14 อยากฝากเรื่องนี้ไว้เป็นเรื่องเล็กๆของผู้ลงทุน LFT ทุกคน การลงทุนมีความเสี่ยง เสี่ยงที่จะเสียหาย ขาดทุน แต่ในกรณีนี้ ความเสียหาย ไม่น่าจะเป็นความเสียหายที่เกิดจากความเสี่ยงในการลงทุน ปีต่อไปคงไม่พลาดอีก ถ้าต้องไปขาย LFT ที่เหลือจากธนาคารนี้ เมื่อครบกำหนด เจ้าหน้าที่ที่ผมไปติดต่อ ควรจะต้องคีย์ข้อมูลจนได้เอกสารดังภาพ ซึ่งในใบนี้ จะเห็นถึงข้อมูลถึงวันปัจจุบัน ว่า LFT ที่ซื้อในแต่ละปี ตอนนี้อยู่ในรูปของ LFT ตัวไหนบ้างและจะขายตัวไหนได้บ้าง ถ้าเจ้าหน้าที่ท่านใดคีย์จนเห็นเหมือนที่รูปนี้ ก็จะดูออกและให้ข้อมูลที่ถูกต้องได้ ขอบคุณทุกท่านทีเสียเวลาอ่าน ผมต้องใช้เวลาอย่างมาก ในการเล่าเรื่องนี้ เนื่องจากผมเป็นคนเล่าไม่ค่อยรู้เรื่อง ปกติก็อยู่แต่ก้นครัว หรือ Blueplanet ขอบคุณครับ จากคุณ : parad เขียนเมื่อ : 30 ส.ค. 54 21:05:41

ความคิดเห็นที่ 15 ขอบคุณที่มาเล่าให้ฟังค่ะ ได้ความรู้เพิ่มอีกเยอะเลย   กำลังเล็งกลุ่มนี้ไว้อยู่เหมือนกัน.... ถ้าเจอแบบนี้คงเซ็งไปเป็นเดือน เอาใจช่วยค่ะ  ขอให้มีทางออกที่ดี (กว่านี้) ^^ จากคุณ : ทะลเรียบถึงมีคลื่นเล็กน้อย เขียนเมื่อ : 30 ส.ค. 54 21:35:53

ความคิดเห็นที่ 16 เป็นประโยชน์มากครับ ขอบคุณมากๆ จากคุณ : daemonview เขียนเมื่อ : 30 ส.ค. 54 21:37:13

ความคิดเห็นที่ 17 ผมก็ซื้อเช่นกัน แต่จะตรวจสอบผ่าน SCBEasy ซึ่งในระบบจะแจ้งจำนวนที่ขายได้ ที่ผ่านมา ก็ไม่เจอปัญหาว่าขายไม่ถูกต้อง ไม่เข้าใจว่าทำไม เจ้าหน้าที่ถึงแจ้งจำนวนหน่วยผิดพลาด ทั้งที่ใน SCBEasy ก็มี การคำนวนให้อย่างถูกต้อง เอาใจช่วยครับ จากคุณ : tsetwk เขียนเมื่อ : 30 ส.ค. 54 21:39:43

ความคิดเห็นที่ 18 ผมก็ซื้อเช่นกัน แต่จะตรวจสอบผ่าน SCBEasy ซึ่งในระบบจะแจ้งจำนวนที่ขายได้ ที่ผ่านมา ก็ไม่เจอปัญหาว่าขายไม่ถูกต้อง ไม่เข้าใจว่าทำไม เจ้าหน้าที่ถึงแจ้งจำนวนหน่วยผิดพลาด ทั้งที่ใน SCBEasy ก็มี การคำนวนให้อย่างถูกต้อง เอาใจช่วยครับ จากคุณ : tsetwk เขียนเมื่อ : 30 ส.ค. 54 21:40:14

ความคิดเห็นที่ 19 ควรมีการรับผิดชอบจากธนาคารนะครับ เพราะมันเป็นคำแนะนำจากเจ้าหน้าที่ ซึ่งทำหน้าที่ในฐานะของธนาคาร ไม่เหมือนการทำรายการพลาดทาง scbeasy ด้วยตัวของเจ้าของเอง จากคุณ : ปะเลอะปะเต๋อ เขียนเมื่อ : 30 ส.ค. 54 22:11:29

ความคิดเห็นที่ 20 #11 ... สรรพากร เขต อาจจะพอช่วยได้ในส่วนของค่าปรับ 1.5% ต่อเดือน ครับ แต่ในส่วนขอภาษีที่ยกเว้นไป คงต้องเป็นการคืนเสมือนไม่ได้มีการใช้สิทธิลดหย่อยภาษีไว้ครับ จากคุณ : pjuk เขียนเมื่อ : 30 ส.ค. 54 22:21:31

ความคิดเห็นที่ 21 ขอบคุณมากค่ะ ที่เอามาเล่าให้ฟัง  จะได้ระมัดระวังตอนขาย ว่าแต่เจ้าหน้าที่ไม่น่าพลาดขนาดนี้เลย ธนาคารน่าจะรับผิดชอบความเสียหายที่เกิดขึ้นกับลูกค้านะค่ะ โหวตด้วยจะได้อ่านกันเยอะๆ จากคุณ : จะไปลาสา เขียนเมื่อ : 30 ส.ค. 54 22:29:39

ความคิดเห็นที่ 22 อ่านตามแล้วเครียดแทนเลยครับ ผมว่า สรรพากรอย่างไรก็ไม่ยอมอยู่แล้ว ยิ่งกรณีนี้ ต่อให้ จนท. ธนาคารไปด้วยก็คงทำอะไรไม่ได้อยู่ดี จากคุณ : ชายลังเล1 (Fiberglass) เขียนเมื่อ : 30 ส.ค. 54 23:12:30

ความคิดเห็นที่ 23 ขอบคุณเพือนๆทีมารับฟัง ยังไงแบงค์ก็ปล่อยตายเดี่ยวอยู่แล้ว เพราะ คนสุดท้ายที่เจ้าหน้าที่สาขาบอกว่าจะติดต่อแก้ไขให้ผม เป็นผู้จัดการเขตของ SCB เขาเองบอกรู้จักผม เพราะเป็นเพื่อนผม !!!!!!!! เรียน ม.ต้น รุ่นเดียวกัน แต่ป่านนี้ยังเงียบ เขาคงไม่อยากเป็นเพื่อนผมแล้วตอนนี้ 55555 แต่ก็ขำดี คนที่สาขา บอกส่วนใหญ่หรือทั้งหมดเกิดจากพนักงานอย่างทีเล่ามาแล้ว ก็อย่างว่าอะ มี LFT แค่ ไม่กี่ตังค์ทำบ่น จากคุณ : parad เขียนเมื่อ : 30 ส.ค. 54 23:23:53

ความคิดเห็นที่ 24 ขอนิดนึงครับ อ่านแล้วมันขัดๆตา รบกวน จขกท เปลี่ยน LFT เป็น LTF ด้วยครับ จากคุณ : GoSaI เขียนเมื่อ : 31 ส.ค. 54 00:23:42

ความคิดเห็นที่ 25 ก็อย่างว่า พนักงานธนาคาร แทบไม่รู้เรื่องอะไรเกี่ยวกับกองทุนรวมเลย หาเอกสารใบทำรายการซื้อขายได้ก็เก่งแล้ว จากคุณ : natapolsri เขียนเมื่อ : 31 ส.ค. 54 00:27:32

ความคิดเห็นที่ 26 แอบ แซวจขกท. เป็นคุณหมอใช่ไหมครับ เลยใช้ LFT ตลอดเรย จากคุณ : อยู่อย่างเหงาเหงา เขียนเมื่อ : 31 ส.ค. 54 08:54:29

ความคิดเห็นที่ 27 ในแง่ของลูกค้า คงดูแค่ จำนวนหน่วยที่ขาย จำไม่ได้หรอกว่า lot ไหน จาก lot ไหน พนักงานคงต้องช่วยดู เหมือนเงินฝากประจำ ที่ก่อนหน้านี้ พนักงานต้องช่วยดูแล้วแจ้งลูกค้าว่า lot ไหนได้ดอกเบี้ยแล้ว lot ไหนยังไม่ได้ หรือรออีกหน่อย รอน้อยกว่าอีก lot นะ จะขายไหม ถ้ามี tool มาช่วยพนักงานตรงนี้ ก็น่าจะลดความผิดพลาดลงไปได้ หรือมี tool มาให้ลูกค้า ให้ช่วยดูว่าตัวไหนถึงกำหนดแล้ว ขายได้กี่ unit lot ไหน ก็น่าจะช่วยได้บ้าง เออ ว่าแต่จำได้ว่า สมัยรัฐบาลที่แล้ว จะยกเลิกการหักภาษี LTF RMF ไม่รู้เรื่องไปถึงไหนแล้ว ผ่านสภาหรือยัง, ออกเป็นกฎหมายหรือยัง หรือไม่มีการเปลี่ยนแปลงใดๆ จากคุณ : ยังอยากเป็นคนไทยอยู่ เขียนเมื่อ : 31 ส.ค. 54 09:03:59

ความคิดเห็นที่ 28 เหตุการณ์เช่นนี้ถ้าเกิดขึ้นที่ต่างประเทศธนาคารคงต้องโดนฟ้องเป็นแน่ และลูกค้าต้องเป็นฝ่านชนะธนาคารต้องเป็นฝ่ายรับผิดชอบ แต่เหตุการณ์นี้เกิดในประเทศไทย ลูกค้าเลยต้องเป็นฝ่ายก้มหน้ารับกรรมที่ไม่ได้ทำ โดยไม่มีการดำเนินการใดๆทั้งสิ้น น่าจะลองส่งฟ้องศาลให้เป็นกรณ์ศึกษานะ ถึงรู้ว่าโอกาสมันจะน้อยก็ตาม เข้ามาแซวด้วยขอเปลี่ยนเป็น LTF นะ แก้ไขเมื่อ 31 ส.ค. 54 09:36:16 จากคุณ : LittleNemoInBigWorld เขียนเมื่อ : 31 ส.ค. 54 09:23:06

ความคิดเห็นที่ 29 ถ้าธนาคารไม่รับผิดชอบ  ผมแนะนำว่าฟ้องศาลเลยครับ เพราะกรณีนี้เป็นละเมิดแน่นอน   ธนาคารมีความรู้และความเข้าใจในการปฏิบัติเกี่ยวกับกองทุน LTF อยู่แล้ว เป็นผู้ประกอบการ  แต่ไม่ได้ใช้ความระมัดระวังเพียงพอ  ทำให้ท่านได้รับความเสียหาย ฟ้องเรียกค่าเสียหายได้หมดเลยนะครับ ค่าเสียหาย  จากเงินที่ต้องเสียภาษีเพิ่มเติม พร้อมดอกเบี้ยของภาษีที่ต้องเสียไปด้วย ค่้าเสียโอกาส  จากเงินต้นพร้อมดอกเบี้ยที่คุณควรจะได้จากกองทุนที่ถูกถอนออกมาด้วย แต่ไม่แน่ใจว่าจะต้องฟ้องศาลไหนนะครับ ศาลแพ่ง  รึ  ศาลผู้บริโภค จากคุณ : ชื่อนี้ชอบ เขียนเมื่อ : 31 ส.ค. 54 11:33:16

ความคิดเห็นที่ 30 ผมเองก็ซื้ออยู่กับสองธนาคาร เจ้าหน้าที่ก็ไม่ค่อยรู้เรื่องเลย มุดหาเอกสารอยู่นานมาก จะทำอะไรทีต้องไปตาม ผจก ตลอด ผจก เองก็ไม่ค่อยรู้เรื่อง กลายเป็นว่าคนซื้อต้องหาข้อมูลเองทุกอย่าง ที่อำเภอผมอยู่ บลจ ไม่มีด้วย ต้องซื้อผ่านโบรกธนาคารอย่างเดียวเลย จากคุณ : Agent Molder เขียนเมื่อ : 31 ส.ค. 54 11:37:26

ความคิดเห็นที่ 31 #คห27-สมัยรัฐบาลที่แล้ว จะยกเลิกการหักภาษี LTF RMF ไม่ใช่ค่ะ มาตรการใช้การซื้อกองทุน LTF RMF มาหักภาษีรายได้นั้น ออกมาโดยมีจุดสิ้นสุดที่ปี 2559 ค่ะ คือเราจะซื้อและหักภาษีได้ปีสุดท้ายที่ 2559 แต่มีผู้เสนอในรัฐบาลที่แล้วว่าจะให้ใช้หักภาษีต่อไปได้เรื่อย ๆ ประโยชน์ของเรื่องนี้ นอกจากเรา ๆ ท่าน ๆ จะได้หักภาษีแล้ว ยังเป็นการระดมเงินเข้าตลาดวิธีหนึ่งด้วย แต่คิดว่าน่าจะยังไม่มีการพิจารณาอะไรในช่วงนี้หรอกค่ะ เพราะกว่าจะถึง 2559 ก็อีกตั้ง 5 ปี จากคุณ : ขอยืมล็อกอินพ่อไมโลมา (พ่อไมโล) เขียนเมื่อ : 31 ส.ค. 54 11:51:07

ความคิดเห็นที่ 32 อ้อ ขอให้กำลังใจเจ้าของกระทู้นะคะ ดิฉันเคยขายผิดแบบนี้เหมือนกัน แต่เป็นการนับเองขายเองใน easynet โกรธตัวเองที่สะเพร่ามากค่ะ และก็ต้องก้มหน้ารับกรรม กรณีเจ้าของกระทู้ เป็นไปตามคำแนะนำของพนักงาน น่าจะทำอะไรต่อได้นะคะ จากคุณ : ขอยืมล็อกอินพ่อไมโลมา (พ่อไมโล) เขียนเมื่อ : 31 ส.ค. 54 11:55:29

ความคิดเห็นที่ 33 ถ้าผมซื้อ LTF ผมจะไม่ซื้อของ บลจ.เดียวกันทุกปีครับ เพราะจะสับสนมากตอนขายคืน เช่น ปีนี้อยากซื้อของไทยพาณิชย์ ปีหน้าก็อาจเปลี่ยนไปซื้อของกสิกร ปีต่อไปซื้อของกรุงศรี ปีต่อไปซื้อของทหารไทย ปีต่อไปซื้อของกรุงไทย พอครบ 5 ปี ขายคืนแล้ว จึงค่อยกลับมาซื้อที่เดิมได้อีก จากคุณ : LimitBreak เขียนเมื่อ : 31 ส.ค. 54 12:26:20

ความคิดเห็นที่ 34 # คห 26 ถูกต้องนะคร๊าบ วันๆเลยจำได้แต่ LFT Liver Function Test # ขอบคุณทุกความเห็นครับ ก็อยากเตือนกันไว้ เมื่อเราไปปรึกษาผู้ที่เชี่ยวชาญกว่า แล้วแนะนำอย่างนี้ จะทำอย่างไร อย่าพลาดเหมือนผมครับ โชคดีทุกท่านครับ ไปด้วยกัน ไปได้ไกลจริงๆ จากคุณ : parad เขียนเมื่อ : 31 ส.ค. 54 12:40:53

ความคิดเห็นที่ 35 ขอบคุณมากค่ะ กำลังจะขายออกเหมือนกันค่ะ  ต้องดูให้ดีเสียแล้ว จากคุณ : oosuan เขียนเมื่อ : 31 ส.ค. 54 13:26:54

ความคิดเห็นที่ 36 ขอบคุณที่มาเตือนนะคะ เพิ่งซื้อLTFเป็นปีแรกด้วย ตอนขายจะได้ระวังๆ จากคุณ : Littleเจ๊ เขียนเมื่อ : 31 ส.ค. 54 13:30:08

ความคิดเห็นที่ 37 ชอบ จขกท. เขียนได้สุภาพและใจเย็นดีมาก ส่วนเรื่อง การขายก่อนครบเงื่อนไข   ถ้าเรายื่นเสียภาษีคืนภายใน มีนาคม ของปีถัดไป   กม. จะยกเว้นให้ จะไม่ต้องเสียเงินเพิ่ม 1.5 ครับ จากคุณ : จินหยง เขียนเมื่อ : 31 ส.ค. 54 13:56:40

ความคิดเห็นที่ 38 ชอบ จขกท. เขียนได้สุภาพและใจเย็นดีมาก ส่วนเรื่อง การขายก่อนครบเงื่อนไข   ถ้าเรายื่นเสียภาษีคืนภายใน มีนาคม ของปีถัดไป   กม. จะยกเว้นให้ จะไม่ต้องเสียเงินเพิ่ม 1.5 ครับ จากคุณ : จินหยง เขียนเมื่อ : 31 ส.ค. 54 14:02:46

ความคิดเห็นที่ 39 ขอบพระคุณคะ....ทำให้ ระมัดระวัง ในการลงทุนมากขึ้นคะ การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจลงทุน ^________^ จากคุณ : น้องนู๋ GaZib เขียนเมื่อ : 31 ส.ค. 54 16:30:10

ความคิดเห็นที่ 40 ผมขอเล่มใหม่ เลขใหม่ทุกปี  ทั้งที่เป็นธนาคารเดียวกัน จากคุณ : *Tan* เขียนเมื่อ : 31 ส.ค. 54 16:50:43

ความคิดเห็นที่ 41 น่ากลัวมากเลย ธนาคารจะไม่ช่วยอะไรเลยเหรอ จากคุณ : Master Obi-Wan เขียนเมื่อ : 31 ส.ค. 54 19:59:01

ความคิดเห็นที่ 42 ขายกองทุนพวกนี้มันต้องมี license ไม่ใช่หรอครับ น่าจะฟ้องร้องเอาได้นะครับ จากคุณ : หมูอ้วนพุงดำ เขียนเมื่อ : 1 ก.ย. 54 01:10:47

ความคิดเห็นที่ 43 ขอบคุณทุกท่านสำหรับคำแนะนำนะครับ เดือนนี้ กันยายน คงต้องไปสารภาพกับสรรพากรแล้วล่ะครับ ขอผ่อน สามเดือน ถ้ามากกว่าได้ก็ดี รวมกับเสียภาษีกลางปีอีก เหนื่อยเลย จากคุณ : parad เขียนเมื่อ : 1 ก.ย. 54 07:50:09

ความคิดเห็นที่ 44 เป็นคนหนึ่งที่ซื้อทุกปี ตั้งแต่ สามแสน ถึง สี่แสนบาท แต่ละปีไม่เท่ากัน กลัวมากว่าจะเกิดเหตุการณ์อย่างที่ จขกท เล่ามา(กลัวมาก่อนแล้ว) เพราะไม่ค่อยมีเวลา เลยไม่รู้ว่าบ้าหรือเปล่า เพราะแต่ละปีเราไม่เคยซื้อสาขาเดิมเลย แต่ธนาคารเดิม ข้อเสียคือ สมุด ธ เต็มไปหมด แต่ก็แยกปีไว้ จริง ๆ ต่างสาขาก็ใช้เล่มเดิมได้ แต่พนักงานก็เชียร์ให้เปิดใหม่สาขาของเขา ตอนแรกครบขายตั้งใจจะขาย แต่มีคนบอกว่า อย่าขายให้ซื้อเพิ่มไปเรื่อย ๆ เพราะครบปีแล้ว อยากขายตอนไหนก็ได้ที่อยากขาย แบลกใจตัวเอง พอเล่นหุ้นดัน 2-3 วัน เทรด แต่ LTF ดันเป็น VI ได้ ขอบคุณ จขกท ที่นำประสบการณ์เตือนใจมาเล่าให้ฟัง จากคุณ : มองได้..แต่อย่าชอบ เขียนเมื่อ : 1 ก.ย. 54 14:05:46

ความคิดเห็นที่ 45 เป็น กท.มีประโยชน์มากค่ะ เพราะเรื่องอย่างนี้ มีบ่อยจริงๆ... 1 กีบ แทนคำขอบคุณนะคะ จากคุณ : klutzy เขียนเมื่อ : 1 ก.ย. 54 14:33:52

ความคิดเห็นที่ 46 เห็นด้วยว่าธนาคารต้องรับผิดชอบ อย่ายอมนะครับ จากคุณ : ลิงไม่ใส่กางเกง เขียนเมื่อ : 1 ก.ย. 54 18:17:51

ความคิดเห็นที่ 47 ^^ ไม่ยอมก็ไม่รู้จะทำอย่างไร ต้องไปหาทนาย จ้าง ฟ้อง สู้กับทีมกฎหมายเป็นทีม ต้องเสียเวลาทำงาน สู้ก็ไม่รู้จะสู้ได้ไหม คนธนาคาร ก็อยู่แถวนี้ ก็บอกแล้วว่าต้องไปเสีย 55555 สงสัยนิดเดียว ธนาคารไม่มี QA QC HA กันบ้างหรือไร ขอบคุณนะครับ แค่ไม่อยากให้มีใครเหมือนผม เพราะเชื่อใจ(ในความสามารถ) จากคุณ : parad เขียนเมื่อ : 1 ก.ย. 54 18:33:04

ความคิดเห็นที่ 48 คุณ Parad ไม่คิดจะทวงถามความรับผิดชอบเลยหรือครับ เงินร่วมแสนที่จะโดนสรรพากรเรียกเก็บ อย่าลืมนะครับเขาไม่ได้นำเงินของเราไปลงทุนให้ฟรีๆ นะครับ ค่าบริหารกองทุน ค่าผู้ดูแลผลประโยชน์ ร่วม1.78% ยังไม่รวมVAT อีก ต่อปี ไม่น้อยนะครับ ...แล้วเรื่องอะไรที่คุณต้องมารับกรรมที่ตัวเองไม่ได้ก่อ ด้วย เงินเป็นแสน ความสุขในครอบครัวคงจะหดหายไปไม่น้อยที่เดียว...สู้ๆครับ อย่าให้คนที่ไม่รับผิดชอบ ได้ใจ....ทีอย่างนี้ละเงียบไปหมด จากคุณ : saiphat เขียนเมื่อ : 1 ก.ย. 54 19:17:19

ความคิดเห็นที่ 49 ^^ เงินไม่อยากเสียหรอกครับ แต่คิดว่า ไม่น่าจะต้องสู้ ก็ไม่ได้ทำผิดอะไร ถ้าใครคิดว่าทำไม่ถูก ก็น่าจะรับผิดชอบบ้าง เท่านั้นเอง จากคุณ : parad เขียนเมื่อ : 1 ก.ย. 54 21:41:17

ความคิดเห็นที่ 50 คิดซะว่าให้ภาษีรัฐบาลละกันนะครับ จริงอยู่เรื่องนี้แบงค์ผิดเต็มๆ แต่ผู้ลงทุนควรศึกษาด้วยตนเองด้วย การเชื่อใจแบงค์ก็ทำให้เกิดความเสี่ยงแบบนี้แหละครับ แนะนำสมัคร scbeasy และจัดการขายเองสิครับ ง่ายสะดวกสบายออก จากคุณ : Tamจัง เขียนเมื่อ : 2 ก.ย. 54 00:09:54

ความคิดเห็นที่ 51 โห... ทำงานกันชุ่ยจริง ๆ เลยพนักงาน ไอ้คนที่ซวยก็คือผู้บริโภคอย่างเราเนี่ยแหล่ะ จากคุณ : เด็กน้อยตัวแสบ เขียนเมื่อ : 2 ก.ย. 54 09:45:39

ความคิดเห็นที่ 52 แน่นอนครับ..คุณ parad ไม่ได้ผิดอะไร แต่คนที่ผิดไม่ยอมมารับผิดชอบ เป็น บมจ.เสียด้วย กอบโกย แสวงแต่ประโยชน์ แต่พอทำผิดกลับเงียบเฉย เช่นนี้แล้ว...น่าเห็นใจผู้ร่วมลงทุนท่านอื่น ที่คงจะเป็นเหยื่อรายต่อๆไป อย่างน้อยก็ควรจะร้องไปยัง กลต.ดูเผื่อจะได้เกิดความเป็นธรรมในสังคมนี้บ้าง จากคุณ : saiphat เขียนเมื่อ : 2 ก.ย. 54 09:49:40

ความคิดเห็นที่ 53 เห็นด้วยกับคุณ saiphat ค่ะ อย่างน้อยก็ทำเรื่องร้องเรียนเข้า สนง.ใหญ่ บมจ. และ กลต.นะคะ ถ้าเราสะเพร่าเอง เราก็ควรรับผิด แต่นี้เราทำไปตามคำแนะนำของเขานะคะ เขาควรเป็นผู้รับผิดชอบด้วย ลองดูค่ะ แค่ทำเรื่องร้องเรียน ไม่น่าจะเสียเวลามาก จากคุณ : ขอยืมล็อกอินพ่อไมโลมา (พ่อไมโล) เขียนเมื่อ : 2 ก.ย. 54 12:26:27

ความคิดเห็นที่ 54 ขอบคุณมากค่ะ มีประโยชนืมากเลย   จากคุณ : U Know Me a Little Go เขียนเมื่อ : 3 ก.ย. 54 07:56:29

ความคิดเห็นที่ 55 ขอบคุณมากค่ะ ที่เล่าให้ฟัง พนักงานบางทีก็มือใหม่อ่อนหัดค่ะ เราเจอหลายครั้งเวลาเข้าไปถามข้อมูล ถ้าคนไหนพูดอ้ำอึ้งดูเหมือนไม่ค่อยแน่ใจ เราจะใช้วิธีถามต่างสาขา2-3สาขาเพื่อเป็นการตรวจสอบสิ่งที่เจ้าหน้าที่บอกมา... จากคุณ : su_k3430 เขียนเมื่อ : 4 ก.ย. 54 07:50:54

ความคิดเห็นที่ 56 ขอบคุณครับที่มาช่วยแชร์จะได้ระวังไว้ CBC ESR FBS BUN CEA AFP AFB จากคุณ : ติดดอย...บ่อยไปไหม เขียนเมื่อ : 4 ก.ย. 54 17:38:15

ความคิดเห็นที่ 57 อ่านกระทู้SCBบ่อย พอเจอสโลแกนธนาคารนี้ผมมักจะรู้สึกอารมณ์ประมาณนี้ SCB : " ไปด้วยกัน(นะ) " เรา :   " ไปไกลไกล(เลย) " ไม่นับรวมคุณ Pjukนะ คุณPjuk ดีเสมอต้นเสมอปลาย จากคุณ : เส้นขอบฟ้าเวลาพระอาทิตย์ตกดิน เขียนเมื่อ : 4 ก.ย. 54 18:52:33

ความคิดเห็นที่ 58 คุณ parad น่าจะไปร้องเรียนกับทาง บลจ. ให้รับผิดชอบนะครับ ถ้าเป็นผม จะสู้สุดชีวิต เมื่อสองเดือนก่อนผมก็มีปัญหากับประกันภัยของแบงค์ยี่ห้อนี้ ผมก็ไม่ยอม ร้องเรียนไปทางหน่วยงาน เรื่องอะไรล่ะครับ ทีตอนขาย ก็ชวนกันเกลี้ยกล่อมสุดฤทธิ์ แล้วตอนมีปัญหาจะไม่รับผิดชอบได้อย่างไร เขาได้ค่าธรรมเนียมกองทุนของเราไปแล้วนะ ยังไงก็ยอมไม่ได้ ถ้าเขาไม่รับผิดชอบ ก็ต้องฟ้องศาลครับ ลองไปปรึกษาศาลดู ดีกว่าอยู่เฉย ๆ นะครับ ขอเป็นกำลังใจให้ จากคุณ : ลิงไม่ใส่กางเกง เขียนเมื่อ : 4 ก.ย. 54 21:15:37

ความคิดเห็นที่ 59 แปลกเนอะ  scb หายไปไหนหมด ไม่ตอบให้อุ่นใจเลย จากคุณ : พ่อน้องบุ๊ค เขียนเมื่อ : 4 ก.ย. 54 21:56:55

ความคิดเห็นที่ 60 ขอบคุณเพื่อนทุกท่านที่แนะนำ จากคุณ : parad เขียนเมื่อ : 4 ก.ย. 54 22:13:02

ความคิดเห็นที่ 61 คุณ parad ครับ ขอทราบชื่อ-นามสกุล และเบอร์ติดต่อกลับทางหลังบ้านด้วยนะครับ จากคุณ : pjuk เขียนเมื่อ : 5 ก.ย. 54 08:50:13

ความคิดเห็นที่ 62 หลายๆ คนยังรอฟังบทสรุปอยู่นะครับ scb จะปล่อยให้เจ้าของเงินเดือนร้อนอย่างนี้ไม่ได้นะครับ จากคุณ : ปะเลอะปะเต๋อ เขียนเมื่อ : 5 ก.ย. 54 14:08:43

ความคิดเห็นที่ 63 พอมีกระแสให้ร้องเรียนกันมากๆเท่านั้นแหละ ถึงจะโพล่มาได้ จากคุณ : saiphat เขียนเมื่อ : 5 ก.ย. 54 15:49:26