ความคิดเห็นที่ 1 พวกที่ด่าเพราะเขาไม่เคยทำการบ้านอย่างหนักไงครับ ก็ปล่อยเขาไปเถอะครับ เรื่องของเขา ซื้อยังซื้อตามคนอื่นเลย ชีวิตนี้จะประสบความสำเร็จด้วยคนอื่นมันไม่มีวันหรอกครับ ยกเว้นจะดวงดีจริงๆ จากคุณ : ชายผู้ไร้ซึ่งความรัก เขียนเมื่อ : 3 ก.ย. 54 17:28:56

ความคิดเห็นที่ 2 คนย่อมไม่รู้ตัวตนของตนเอง ดังนั้นทุกคนจึงเดินทางค้นหาตัวเอง ยามเดินทาง แต่ละคนย่อมมีอารมณ์แตกต่างกันไป ตามแต่บุคคลิกของแต่ละบุคคล ใครจะออกอารมณ์อย่างไร ก็เป็นไปตามพื้นฐานและความรู้ที่มีมา และกรรมย่อมตามมาจากการกระทำของบุคคลนั้น จากคุณ : ฮะ ว่าไงนะ เขียนเมื่อ : 3 ก.ย. 54 17:46:00

ความคิดเห็นที่ 3 ผมยัง งงแล้ว VI ไปเกี่ยวอะไรด้วย ซื้อก็ ซื้อกันเอง พอได้กำไรก็แบ่งให้ใครรึก็เปล่า แต่พอขาดทุนก็มาโวยวาย ตอนนั้นซื้อเพราะอะไร ช่วยบอกหน่อยได้ไหม จากคุณ : ขี่รถถีบไปจีบเธอ เขียนเมื่อ : 3 ก.ย. 54 17:52:45

ความคิดเห็นที่ 4 ผมก็เบื่อ พวกที่ ซื้ออะไรไม่รู้หรอก ซื้อตามเค้าไป แต่พอติดดอยมาก ก็มาบอกว่า สงสัยต้องเป็น VI ซะแล้ว ผมขัดใจมากเลย เค้าเข้าใจคำว่า VI แค่ไหนกัน ไม่ใช่เอะอะ ติดดอย ก็แปลงร่างเป็น VI ละ ทั้งที่ก็ไม่รู้หรอก หุ้นตัวนั้น ทำอะไร รายได้ ผลประกอบการ เป็นยังไง แนวโน้มอนาคตไปทางไหน อย่างนี้ก็เป็น VI กันกระจายละครับ จากคุณ : polopc เขียนเมื่อ : 3 ก.ย. 54 17:58:56

ความคิดเห็นที่ 5 ผมว่ามันมีหลายๆอย่างผสมโรงเข้าไปด้วยกันนะ โดยเนื้อแท้ของ JAS ผมว่ามันไม่ใช่หุ้น VI เลย (แม้แต่นิดเดียว) ผมมองดูแล้วมันแค่หุ้นเทิร์นอะราวด์ เพราะมันได้ประโยชน์จากการสื่อสารเฉยๆ แต่พูดถึงการเติบโตมันก็คงได้แค่ระยะหนึ่ง เพราะยังไงก็ตามธุรกิจนี้แข่งขันกันสูงมาก นี่ยังไม่นับบริษัทรายย่อยอื่นๆที่ทำธุรกิจแบบเดียวกันแข่งขันกัน ส่วนการคิดแบบแนว VI เพื่อซื้อลงทุนก็คงใช่ อันนั้นคงเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้หุ้นยิ่งโตขึ้นได้ แต่ถึงอย่างไรมันก็มีคนจ้องจะหากินกับหุ้นอยู่แล้ว เราทุกคนที่อยู่ในตลาดหุ้น ไม่ว่าจะช้าหรือเร็ว จะเข้ามาวันแรก หรือจะเข้ามาแล้ว สามสิบปี ต่างก็รู้ว่าทุกคนเข้าตลาดหุ้นมาเพื่อหาเงินทั้งนั้น ใครทำเงินได้ไม่ว่าจะด้วยวิธีอะไร ก็คือหาเงิน คนที่ควรรู้ว่าไม่ควรจะเข้าไปยุ่งคือรายย่อย ในเมื่อรู้ว่าพื้นฐานที่แท้จริงของมันไม่ใช่อย่างที่เห็น ก็อย่าไปยุ่งกับมัน ผลประโยชน์แอบแฝงจากการคิดเหล่านี้ซึ่งทำให้หุ้นตัวนี้วิ่งขึ้นมาได้ มันประกอบด้วยหลายปัจจัย ไม่เพียงเฉพาะคำว่า VI แต่มันหมายถึงการที่มีกลุ่มบุคคลหนึ่งๆเข้ามาร่วมทำราคาไปด้วย หลอกล่อให้แมงเม่าติดกับ จนกลายเป็นเหยื่อไปโดยไม่รู้ตัว หลักเทคนิคง่ายๆของการปั่นหุ้นคงไม่ยาก คือการสร้างข่าว สร้างกระแส ปั่นกระแส สร้างความนิยมของหุ้นตัวนั้น ยิ่งกลายเป็นหุ้นติด Top Most Active Value อยู่ทุกวัน ยิ่งทำให้คนรู้สึกว่าหุ้นตัวนี้มันช่างเป็นหุ้นที่ดี หุ้นได้รับความนิยม ทั้งที่จริงอาจจะเป็นการโยนไปโยนมาสร้างวอลุ่มเพื่อให้คนเข้าไปเยอะๆ ยิ่งคนเข้าไปผสมโรงเยอะยิ่งดี สุดท้ายก็คือรถคว่ำ ... หลักการปั่นหุ้นมีแค่ไม่กี่อย่างคือการสร้างข่าว สร้างราคา จากนั้นก็ดันหุ้น ปล่อยของ เมื่อของใกล้จะหมด เกมกำลังจะจบ ก็ขายทำกำไรแบบรวดเดียวจบ พูดง่ายกว่านั้นก็คือ "ทุบ" ขายทิ้งทุกราคา (เพราะกำไรทุกราคา) และแล้วคนที่อยู่ข้างบนก็สั่นไหว สะบักสะบอม มึน งง ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น มันมีหลายปัจจัยเข้ามารวมกันไปหมด ทั้งเรื่องของ VI ทั้งการสร้างราคา สร้างข่าว ปั่นหุ้น นักเก็งกำไร รายย่อยรายใหญ่เข้ามาเล่นกันสนุกสนาน สุดท้ายจบเกม คนที่ชนะคือเจ้ามือเท่านั้น ... สุดท้ายแล้ว รายย่อยก็เป็นเหยื่อของรายใหญ่อยู่ดี ปล. นี่ชั้นเข้ามาบ่นอะไรเนี่ย !!! จากคุณ : venezier เขียนเมื่อ : 3 ก.ย. 54 18:05:56

ความคิดเห็นที่ 6 อย่าใส่ใจเลยครับพี่ คนเหมือนกันเพราะความโลภความกลัว ทำให้มีอารมณ์ต่างกัน เมื่อเสียผลประโยชน์เค้าก็หาเรื่องโทษคนอื่นไปทั่ว ไม่เคยมองโทษตัวเองซักครั้ง คนที่ไม่รู้จักตัวเอง คนที่ไม่ประมาณตัวเอง เป็นคนที่เห็นแก่ตัวที่สุด บางคนคิดว่าตัวเองเป็น VI แต่ไม่เคยเข้าใจถึงจิตวิญญาณเลยด้วยซ้ำคิดได้แต่ว่าซื้อและถือยาวคือ VI???? จากคุณ : opar156 เขียนเมื่อ : 3 ก.ย. 54 18:07:46

ความคิดเห็นที่ 7 อุ๊ป !!! ptl ก็วีไอ หนิ จากคุณ : chai012 เขียนเมื่อ : 3 ก.ย. 54 18:11:33

ความคิดเห็นที่ 8 พี่อ๋องแกน่ารักเนอะพี่venezier จากคุณ : ตี๋แก้มยุ้ย เขียนเมื่อ : 3 ก.ย. 54 18:16:52

ความคิดเห็นที่ 9 ถ้าหลักการลงทุนปีเตอร์ ลินซ์ คือ VI ผมว่าก็ไม่แปลกครับที่คนที่ลงทุนด้วยแนวคิดของ VI จะไปลงทุนใน JAS แค่อยากจะถามคนที่โวยวาย เพราะติดดอยแล้วไปโทษคนอื่น ว่าเหตุผลที่ท่านๆ ซื้อ JAS เพราะอะไรครับ? ท่านเห็น Value ของ JAS ที่ตรงไหนครับ? เพราะมันมีโอกาส Turn around หรือว่าเพราะมันมีเซียน เข้าไปเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่? อย่างที่หลายๆท่านเคยบอกซ้ำแล้วซ้ำอีก ว่าการลงทุนเราต้องวิเคราะห์หาเหตุผลให้ได้ก่อนซื้อ ใครๆก็คิดว่า ง่ายจะตาย เวลาจะซื้อก็หาข้อมูลๆ... แต่พอเอาเข้าจริงๆ พวกท่านๆ เล่นนั่นจ้องหน้าจอ พอหุ้นมันขึ้นไปเรื่อยๆ ท่านก็ระงับอารมณ์(โลภ) กันไม่อยู่ ก็เคาะขวากันไป เหตุการณ์มันก็สะท้อนกันไปกันมาแบบนี้...แล้วท่านยังจะไปว่าใครได้ครับ? มนุษย์เรามีแนวโน้มที่จะโทษสิ่งรอบข้างมากกว่าโทษตัวเองเสมอครับ...ลองใจเย็นๆ กลับมานั่งคิด เอาความผิดพลาดมาเป็นบทเรียน แค่นี้ก็น่าจะพอแล้วครับ... จากคุณ : proxies ความเหงาที่อบอุ่น เขียนเมื่อ : 3 ก.ย. 54 18:23:36

ความคิดเห็นที่ 10 Re#8 ตี๋แก้มยุ้ย น่ารักมากกกกกกๆๆๆๆ อยากได้ ตี๋ๆ ขาวๆ จ้ำม่ำ น่ารัก เห็นแล้วหิว แฮร่ จากคุณ : venezier เขียนเมื่อ : 3 ก.ย. 54 18:32:06

ความคิดเห็นที่ 11 คนที่ด่า คือคนที่ไม่รู้จักกระทั่งตัวเอง ไม่นานก็ต้องเปลี่ยนแปลง ถ้าเปลี่ยนไม่ได้ก็ต้องถูกคัดออกไปเองอยู่ดีครับ ผมส่วนตัวก็ไม่ชอบเท่าไหร่ที่คนมาโพสติดดอย เลยต้องกลายเป็น VI การถือหุ้นโดยใช้เวลา มันเป็นเศษเสี้ยวเดียวของกรรมวิธีการลงทุนแบบ VI เอง คนส่วนใหญ่ไม่เคยโทษตัวเองว่าพลาด แต่ชอบที่จะหาเรื่องอื่นเพื่อกลบความผิดพลาดของตัวเอง สุดท้ายเมื่อทำบ่อยเข้า จนความผิดพลาดทั้งหลายก่อตัวพร้อมๆกัน ก็จะเข้าสู่ช่วงวิกฤติของชีวิตจนได้... -- และคนๆนั้นก็จะไม่รู้ตัวเองด้วยซ้ำว่ามันเกิดจากอะไร -- ก็ทำไงได้ pantip มันไม่มีห้อง FAQ สำหรับคนใหม่นี่ครับ เหอๆๆๆ จากคุณ : SundayroyaL เขียนเมื่อ : 3 ก.ย. 54 18:39:52

ความคิดเห็นที่ 12 Re#10 พี่venezier ชอบแนวหน้าตี๋ มีแก้ม จมูกแหลม ตาคม หรอ พี่อ๋อง ใช่เลย หลังไม  คุยกับพี่เขายังครับ เชียร์ครับ....อยากเห็นคนเก่ง รักกัน รักกัน คริ คริ จากคุณ : ตี๋แก้มยุ้ย เขียนเมื่อ : 3 ก.ย. 54 18:52:09

ความคิดเห็นที่ 13 ถ้าพี่อ๋องเค้ารักผม แบบที่ผมรักเค้า ก็ดีสิ T^T จากคุณ : venezier เขียนเมื่อ : 3 ก.ย. 54 18:54:09

ความคิดเห็นที่ 14 หุ้น Thaivi เหรอ โดนเต็ม ๆ จากคุณ : por_sas_a เขียนเมื่อ : 3 ก.ย. 54 18:57:02

ความคิดเห็นที่ 15 แรงบันดาลใจ ไม่ได้มีกันง่ายๆๆ จากคุณ : Gazer_Rom เขียนเมื่อ : 3 ก.ย. 54 19:04:44

ความคิดเห็นที่ 16 สำหรับผม สมน้ำหน้าวีไอเก๊ไม่ทำการบ้าน คิดว่าวีไอมีแต่สไตล์บัฟเฟตเท่านั้นหรือ แล้วอาจารย์ของบัฟเฟต เบน แกรแฮมหายไปไหน แล้วปีเตอร์ ลินช์หล่ะ จากคุณ : ANUBIS[TJ] เขียนเมื่อ : 3 ก.ย. 54 19:07:00

ความคิดเห็นที่ 17 เห็นด้วยมาก ๆ ครับ   แท้จริงแล้ว “วีไอ” ไม่มีตัวตน แต่มันเพียง “แนวคิด” และ “จิตวิญญาณ” เท่านั้นเอง เห็น และก็ติดตามคุณ pak ทั้งทางหน้า web และก็ตาม TV ชื่นชมครับ กับการทำงานหนัก มุ่งมั่น ไม่หวั่นไหว (บอกตรง ๆ ผมไม่กล้าลงทุนแบบคุณ pak หุ้นขึ้น-ลง แต่ละครั้ง หัวใจจะวาย) แต่ความเห็นผม ผมว่าก็ปฏิเสธ ไม่ได้นะครับว่า ... บางครั้ง บางคน (โดยทั่ว ๆ ไป) ก็ต้องการให้ข้อมูล.. เหมือนเป็นการเชียร์หุ้น ที่ตัวเองถืออยู่เหมือนกัน เพราะฉะนั้น เราในฐานะนักลงทุน ต้องเลือกที่จะเสพข้อมูล โดยใช้วิจารณญาณ มากๆ เงินของเราเอง ต้องตัดสินใจด้วยตัวเอง โดยเฉพาะ นักลงทุนมือใหม่ ... ที่มักจะเห็นทุกอย่างดีไปหมด โดยเฉพาะในภาวะตลาดขาขึ้นที่ผ่านมาครับ จากคุณ : murmur เขียนเมื่อ : 3 ก.ย. 54 19:20:46

ความคิดเห็นที่ 18 ผมไม่คิดว่า เป็นความผิดของผู้ลงทุนแบบนั้นที่ไปลงทุนตาม นักลงทุนผู้มีชื่อเสียง แต่ผมคิืดว่า ระบบการเรียนการสอนของเราที่มีปัญหา ไม่ได้สร้างระบบการคิดที่ดีพอ ส่วนใหญ่มีแต่จำเอาไปสอบเท่านั้น ดังนั้นวิธีการลงทุนเลยต้องเลียนแบบนักลงทุนที่ประสบความสำเร็จ ดังนั้นจะไปว่ากล่าวกันผมว่าคงไม่ถูกต้องนัก ผมเคยไปอบรม New Entrepreneur Creation มีวิทยากรท่านหนึ่ง ตั้งโจทย์ เช่น เกิดเหตุการณ์อย่างนี้  แล้วถามผู้เข้าอบรม ทีละคนว่า คิดว่า จะมีผลกระทบกับบริษัทอย่างไร เป็นต้น   อีกตัวอย่างหนึ่ง ผมกับสตรีผู้เข้าอบรมอีกผู้หนึ่งนั่งติดกันอยู่หน้าชั้นเรียน วิทยากรท่านถามผู้เข้าอบรมที่ละคน (ผู้เ่ข้าอบรมมีประมาณ 30 กว่าคน) ซึ่งอยู่ด้านหลังของผมและสตรีที่นั่งข้างๆผมว่า ผมกับสตรีผู้นั้นต่างกันอย่างไร จุดประสงค์ก็คือ ฝึกหัดให้พิจารณาความแตกต่างของผลิตภัณฑ์ เพื่อจะทำ Product Positioning เป็นต้น วิืทยากรท่านหลังนี้ ที่มาให้ความรู้ คือ เจ้าของผลิตภัณฑ์ "อภัยภูเบศร์" ที่เรารู้จักกันดี จากคุณ : จิ้งจกเขียว เขียนเมื่อ : 3 ก.ย. 54 19:36:25

ความคิดเห็นที่ 19 อ่านมาทั้งอาทิตย์ ไม่เห็นมีใครบอกว่าเม่าไม่สมควรโดนซักคนนี่ครับ  ทั้ง webนี้และ web thaiVI  ใครเจอรบกวนเอามาแปะโชว์ให้ผมหายโง่หน่อยครับ ทำไมมีแต่คนมาแก้ตัวว่าเม่าสมควรโดนแล้วมาโวยวายอะไร เหมือนพูดคนละประเด็นกันจริงๆ   - -"     แต่ที่เขาสงสัยคือพฤติกรรมของเหล่าเซียนทั้งหลาย   จนถึงวันนี้ยังไม่มีคำตอบเลยว่า ท่านขายเพราะไร ตอนที่ท่านมาเชียร์หุ้นมาเพียบ เหตุผลร้อยแปด การบอกให้ขาย มันไม่สร้างความเสียหายมากเท่าซื้อ เพราะถ้ามันลงมันก็ขึ้นถ้ามันดีจริง แต่ถ้าบอกให้ซื้อ อันนี้สร้างความเสียหายวงกว้าง เพราะถ้ามันแพงมันก็ไม่ไปตรงนั้นอีก และคนที่เสียหายก็เป็นคนที่เคารพ คนที่เคยไหว้ท่านตอนเวลาไปประชุมเวป VI ทั้งนั้น   การหลอกคนโง่ไม่ได้แปลว่าคนที่ไปหลอกเขาไม่ผิดนี่ครับ  ระวังคนที่คิดแบบนี้ไปสมน้ำหน้าเขา  ผลกรรมจะส่งไปให้พ่อแก่แม่เฒ่าที่อยู่ลำพังที่บ้านจะโดนคนฉลาดๆมาหลอกฉ้อโกงเอาเงินไปแบบข่าวที่เห็นกันบ่อยๆนะครับ ส่วนที่บอกว่าการชวนให้คนอื่นซื้อ ขณะที่ตัวเองขายราคาแพงๆแบบนี้เรื่องธรรมดา มีมานมนานคู่กับตลาดหุ้น ไม่เห็นน่าจะมาเป็นประเด็นเป็นเรื่องเล็กน้อยปลาใหญ่กินปลาเล็ก   งั้นการที่คนอื่นจะเรียกว่าแกงค์ปั่นหุ้น หรือแกงค์ทมิฬก็เป็นเรื่องธรรมดา เขาก็เรียกคนพฤติกรรมคล้ายๆแบบนี้มานมนานแล้วเหมือนกัน ทำไมถึงใส่ใจไปโกรธคนว่าล่ะครับ  ถ้ารักเวป thaiVI จริง รักชื่อเสียงเวปหรือแม้แต่ชื่อเสียงตัวเองก็อย่าทำสิ่งที่สุ่มเสี่ยงจะโดนด่าแต่แรกสิครับ ที่ชื่อเสียงเสียเพราะว่าเม่าไปซื้อตามไม่คิดหรือเพราะมีการบอกให้ขายกันเฉพาะคนวงในล่ะครับ บอกเม่าไม่รู้ตัว เอาแต่โทษคนอื่น  แล้วที่ตัวเองเสียชื่อเสียงนี่มองตัวเองหรือยังครับหรือโทษคนมาว่าก่อน   จะเอาทั้ง 2 อย่างเลยเหรอครับทั้งเงินจากคนอื่น และคำยกย่องสรรเสริญจากคนอื่นด้วยวิธีหาเงินแบบนี้นี่นะ !! ปล.ผมหรือคนรู้จักผมไม่เคยมีหุ้นตัวนี้นะครับ จากคุณ : เบิกได้จ่ายตรง เขียนเมื่อ : 3 ก.ย. 54 19:40:55

ความคิดเห็นที่ 20 จากตัวอย่างที่สองนั้น สนุกมาก มีคน นั่งไกลออกไปด้านหลังสุด ตอบว่า ผมกับสตรีที่นั่งข้างหน้า ใส่รองเท้าไม่เหมือนกัน ทั้งๆที่เขาไม่มีทางที่จะเห็นว่า ผมหรือสตรีที่นั่งข้างๆผมใส่รองเท้าอะำไร จากคุณ : จิ้งจกเขียว เขียนเมื่อ : 3 ก.ย. 54 19:42:46

ความคิดเห็นที่ 21 ไม่เคยได้ยินว่า vi คนไหนเชียร์หุ้นตัวนี้ มีแต่เว็บต่างๆชอบลงข่าวเชียร์หุ้นนี่แหละตัวดีอ้าง viไปถือแล้วเชียร์กันมาก หุ้นขึ้นเร็วกว่าที่คิด เหล่า vi ขายแน่นอนตามหลักของเกรแฮม จากคุณ : โชคดีมีตังค์ เขียนเมื่อ : 3 ก.ย. 54 19:59:59

ความคิดเห็นที่ 22 . แก้ไขเมื่อ 03 ก.ย. 54 20:36:45 จากคุณ : Ascobic acid เขียนเมื่อ : 3 ก.ย. 54 20:09:23

ความคิดเห็นที่ 23 เรียน  คุณเบิกได้จ่ายตรง ส่วนตัวผมแล้ว ผมไม่เห็นด้วยกับ "การสมน้ำหน้าใครทั้งสิ้น"!!! เพราะผมเองก็เคยเป็น "นักเล่นหุ้น" ที่หมดตัวมาแล้ว ในปี 2540 (ที่มีการปิดไฟแนนซ์ในช่วงนั้น) ...ผมเข้าใจความรู้สึกของการสูญเสียได้เป็นอย่างดีครับ ผมเองนั่งทบทวนอยู่บ่อยครั้ง ในวันนั้นที่เราผิดพลาด และได้พยายามปรับปรุงตัวเองเรื่อยมา แม้ว่าในวันนี้ ผมเองยังไม่เก่งเหมือนใครๆก็ตาม แต่ผมรู้ว่า วันนี้ ผมได้พยายามทำอย่างดีที่สุดแล้วขอรับ ไม่ว่าจะเป็นการเรียนรู้งบการเงิน ,การประเมินมูลค่าของกิจการ และการเรียนรู้จากทั้งความสำเร็จและความล้มเหลวของผู้อื่น สำหรับผมแล้ว... แรงบันดาลใจแรกจาก "ไทยวีไอ" คือ ผมบอกตัวเอง ว่า... ผมจะเปลี่ยนตัวเองจาก "นักเล่นหุ้น" มาเป็น "นักลงทุนหรือเจ้าของกิจการ"!!! ...นั่นคือความสัตย์จริง "ไม่รู้คือเสี่ยง รู้คือไม่เสี่ยง(หรือเสี่ยงน้อยลง)"!!! ดังนั้น เมื่อเรารักจะเป็น "นักลงทุน" เราควรจะต้องตอบให้ได้ว่า... 1) เราลงทุนในกิจการนั้น เพราะอะไร? 2) มูลค่าที่แท้จริงของบริษัทฯนั้น ในห้วงเวลาต่างๆ ควรเป็นเท่าไหร่? 3) กลยุทธ์หรือแผนทางธุรกิจที่บริษัทฯวางไว้นั้น งบการเงินได้สะท้อนความสำเร็จตามเป้าหมายของบริษัทฯหรือไม่? 4) ช่วงเวลาใด คือ ช่วงเวลาที่เหมาะสมที่สุดในการขายทำกำไร? 5) ความเสี่ยงของการลงทุนในบริษัทฯของเรามีมากน้อยเพียงใด? (ทั้งนี้ เพื่อพิจารณาสัดส่วนในการลงทุน) แต่ถ้าวันหนึ่ง.. มี "กลุ่มรายใหญ่" หรือ "เจ้ามือ" เข้ามาร่วมผสมโรงซื้อหุ้นกิจการของเราด้วย มากกว่านั้น...ยังมี "เหล่ากองทุน" มากมายเข้ามาลุยซื้อหุ้นของเรา จนราคาเกินไปจากสิ่งที่เราทำ Forecast และประเมินมูลค่าเอาไว้อย่างมาก และแน่นอน "ที่ใดมีไฟ ที่นั้นย่อมมีแมงเม่า วิ่งเข้าใส่"...นั่นคือสัจธรรม หุ้นราคาถูก แต่ไร้สภาพคล่อง ใครจะสนใจ เหมือนที่ผมเคยเขียนไว้ในบทความ ว่า... ================================================= "ระหว่าง "หุ้นราคาถูก สภาพคล่องต่ำ" กับ "หุ้นราคาไม่ถูก แต่สภาพคล่องล้นหลาม" นักลงทุนส่วนใหญ่จะสนใจซื้อหุ้นตัวไหนมากกว่ากัน??? ซึ่ง "หุ้นราคาถูก สภาพคล่องต่ำ" ก็คงหมายถึงหุ้นก้นบุหรี่ ที่พอจะมองเห็นอนาคตบ้างทั่วๆไป(แต่ก็ไม่รู้ว่าวันไหน) และ "หุ้นราคาไม่ถูก แต่สภาพคล่องล้นหลาม" ก็น่าจะหมายถึง หุ้น IPO นั่นเอง ผมเชื่อว่า... หุ้นสภาพคล่องต่ำ ที่ราคาถูกแสนถูก ถูกกว่าราคาพาร์ และถูกกว่า Book Value ด้วยซ้ำไป และมีโอกาสในการเติบโตแอบซ่อนอยู่ หุ้นเหล่านี้ นักลงทุนส่วนใหญ่กลับมองข้ามไปอย่างสิ้นเชิง เพราะมันไม่มีสภาพคล่อง มันไม่มีคนเล่น มันไม่รู้ว่าจะมีโอกาสทำกำไรได้เมื่อใด? แต่ในทางกลับกัน... นักลงทุนส่วนใหญ่พยายามตะเกียกตะกาย อยากได้โควต้าหุ้นจอง IPO แม้ว่ามันจะมีราคาพาร์เพียง 1 บาท และตั้งราคาขายไว้สูงเพียงใดก็ตาม!!! นั่นเป็นเพราะ กำไรที่ค่อนข้างจะแน่นอนเมื่อเข้าเทรดวันแรก รวมกับ สภาพคล่องที่ล้นหลาม คนส่วนใหญ่ ไม่ชอบ "การรอคอย" คนส่วนใหญ่ อยากได้กำไรง่ายๆ เหมือน "มาม่า" ที่เทน้ำร้อนปิดฝา 3 นาทีก็เสร็จเรียบร้อย หรือที่เค้าเรียกกันว่า "Instant Noodle" IPO ในวันนี้ สำหรับผมแล้ว ผมขอย่อมันมาจากคำว่า "Instant Profit Opportunity" ก็แล้วกันนะครับ ...คนถึงได้ชอบกันจัง" ================================================= ผมมองว่า... นักลงทุนส่วนใหญ่ชอบ "ความเร้าใจ" และ "กำไรแบบด่วนๆ" ถ้าเราคิดตามหลักการ "เศรษฐศาสตร์แห่งความจริง" ของคุณพิชัย จาวลา ห้วงเวลาที่คนมั่นใจที่สุด นั่คือ ห้วงเวลาแห่งการขายทำกำไรนั่นเอง ดังนั้น... สิ่งที่เราควรตระหนัก คือ "การค้นหาแนวทางการลงทุนของตนเอง" โดยใช้ "แนวคิด" หรือ "ทฤษฎี" คอยสนับสนุนอยู่เบื้องหลัง และคำถามที่สำคัญ คือ... "ทำอย่างไรให้เราอยู่เหนือตลาด โดยไม่ตกเป็นเหยื่อ ที่โดนครอบงำทางอารมณ์โดยตลาด!!! และทำอย่างไรให้เราไม่ต้องเป็น "เม่า" อีกต่อไป" หุ้นไม่มีคนซื้อขาย เป็น หุ้นชั้นเลว(ที่ไม่มีความน่าสนใจ) แต่พอโวลุ่มเข้า กลายเป็น "หุ้นเทพ" ไปอย่างง่ายดาย เช่นกัน... หุ้นที่ดูดีทุกอย่าง ที่เค้าเรียกกันว่า "หุ้นเทพ" เผลอแป็บเดียวกลายเป็น "หุ้นเน่าไร้อนาคต" ไปเสียแล้ว พื้นฐานกิจการ...มันเปลี่ยนเร็วขนาดเลยหรือ? ถามตัวเองดีๆนะครับว่า... สิ่งที่เปลี่ยนไปคืออะไรกันแน่? ...ระหว่าง "พื้นฐาน" กับ "ความหวั่นไหวในหัวใจของเราเอง" ผมเชื่อว่า... ทั้ง "สินธร และไทยวีไอ" ต่างก็พยายามมุ่งเน้นให้ความรู้ เพื่อเป็นประโยชน์ต่อผู้อ่าน และนักลงทุน แต่อะไรที่กำลังป๊อบ มันก็ต้องตกเป็น "เครื่องมือ" ของผู้ล่า ที่แฝงตัวมาอย่างไม่อาจจะปฏิเสธได้ สังคมมีทั้งคนดีและคนเลว ผมจึงมองว่า... เราต้องรู้จักเลือก และมีสติในการเสพข้อมูลอ่ะนะขอรับ ตลาดหุ้น...ไม่เคยเสียน้ำตาให้ใคร ไม่มีใครจะมาคอยดูแลเรา นอกจากตัวเราเอง ทุกอย่างย่อมเกิดจาก "เหตุปัจจัย" "สติ" และ "ปัญญา"เท่านั้นครับ...ที่จะทำให้เราอยู่รอดปลอดภัยในตลาดทุนแห่งนี้ครับผม ด้วยความเคารพจริงๆ pak แก้ไขเมื่อ 03 ก.ย. 54 20:21:14 แก้ไขเมื่อ 03 ก.ย. 54 20:17:14 แก้ไขเมื่อ 03 ก.ย. 54 20:15:04 จากคุณ : Bata (Again-With-Love) เขียนเมื่อ : 3 ก.ย. 54 20:10:08

ความคิดเห็นที่ 24 "เมื่อฉัน นั้นทุกข์ แล้วใคร จะทุกข์ด้วย ถ้าฉัน มอดม้วย แล้วใคร จะเสียใจ ถ้าฉัน โชคร้าย ผู้ใด จะเห็นใจ ความรัก ความสนใจ มีบ้างไหม โปรดแบ่งปัน เพราะฉะนั้น ฉันจึงทรนง ในศักดิ์ของตน ไม่สนใจใคร ใครเล่า จะมาสนใจ อย่างจริงใจ กว่าใจตนเอง เพราะฉะนั้น ฉันจึงทรนง ในศักดิ์ของตน ไม่สนใจใคร ใครเล่า จะมาเห็นใจ อย่างจริงใจ กว่าใจตนเอง..." จากคุณ : Bata (Again-With-Love) เขียนเมื่อ : 3 ก.ย. 54 20:50:51

ความคิดเห็นที่ 25 บางที... เพลงนอกจากจะบอกอารมณ์แล้ว ยังบอกถึงอายุได้ด้วยอ่ะนะขอรับ (^_^) จากคุณ : Bata (Again-With-Love) เขียนเมื่อ : 3 ก.ย. 54 20:51:47

ความคิดเห็นที่ 26 กระทู้ที่ "น่าอ่าน" อีกกระทู้ครับ เรื่อง "ทศวรรษแห่ง VI" โดย ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร ที่ http://board.thaivi.org/viewtopic.php?f=1&t=49402 จากคุณ : Bata (Again-With-Love) เขียนเมื่อ : 3 ก.ย. 54 20:53:41

ความคิดเห็นที่ 27 vi ย่อมาจากอะไร ...ย่อมาจากแวลู่อินเวสเม้น ...หรือว่าย่อมาจากแวลู่อินเวสเทอร์ ถ้ามาจากแวลู่อินเวสเม้น มันก็เป็นหลักการลงทุนที่เหมาะสมอยู่ในความหมายของตัวมันอยู่แล้ว ...แล้วจะสนใจไปทำไม...กับสิ่งที่เกิดขึ้น...ที่เห็น...และเป็นไป... เหตุเพราะมันเป็นเพียง personal investment แก้ไขเมื่อ 03 ก.ย. 54 21:12:14 จากคุณ : นกเพนกวินอ้วน เขียนเมื่อ : 3 ก.ย. 54 21:10:59

ความคิดเห็นที่ 28 Benjamin Graham ให้คำนิยามไว้ว่า "การลงทุนเป็นการกระทำที่ตั้งอยู่บนพื้นฐานของการวิเคราะห์อย่างละเอียด ซึ่งจะปกป้องเงินต้นและสร้างผลตอบแทนที่เพียงพอให้ การกระทำใดๆที่ไม่เข้ากฎเกณฑ์นี้จะถือเป็น "การเก็งไร" ซื้อตามเซียน นอกจากทุนจะไม่เหมือนเซียนแล้ว ยังขายไม่พร้อมเซียนด้วย กว่าจะเห็นว่าเซียนซื้อขายเมื่อไหร่ ก็ต้องรอปิดสมุด ต้นทุน และ mos ก็ต่างกัน ผมว่าอย่าซื้อขายตามเซียนดีทุกสุดครับ บางครั้งถ้าเราวิเคราะห์ด้วยตัวเอง เราสามารถที่จะพบหุ้นดีก่อนเซียนก็ได้ครับ อย่างกรณีคุณ pak อ่ะครับ ม้า 3 ตัว แม้เป็นหุ้น turn around เซียนไม่สนใจก็สามารถทำกำไรหลายเด้งได้ หุ้นที่จะทำกำไรหลายเด้งได้ ไม่จำเป็นต้องตามเซียนครับ ถ้าเราเข้าใจหลักการผมว่าการลงทุนให้ชนะตลาดไม่ใช่เรื่องยากไม่จำเป็นต้องรอหลายปีครับ จากคุณ : Shimi เขียนเมื่อ : 3 ก.ย. 54 21:16:15

ความคิดเห็นที่ 29 jas  นี่แหละคือสุดยอดของการปั่นหุ้น  ส่วนคำพูดอันสวยหรูจะพูดยังไงก็พูดไปเถอะ จะอ้างคำพูดใครหรือทฤษฎีอะไรมาก็แล้วแต่   แต่การกระทำแบบนี้มันคือการปั่นหุ้น      คุณลองนึกภาพดาราที่ใช้  BB  สิ  ภาพออกสื่่อก็เห็นแต่ดาราใช้  BB  แต่เขาไม่ เคยบอกให้คุณซื้อหรอก  ไม่เคยบอกด้วยว่า  BB  มันดียังไง   ถามตัวเองว่าคุณอยาก ใช้ตามดาราหรือเปล่า     เหล่าคนดังที่ถือ jas  ออกทีวีกี่รอบ  สัมนา  สื่อหนังสือพิมพ์  บทความตามเวปบอร์ด ออกทีวีก็ไม่เคยพูดถึงหรอกว่าซื้อหุ้นตัวไหน   แต่ส่วนมากจะบอกว่าพอร์ตโตเท่าไหร่ จากเงินเท่าไหร่     แล้วก็ปล่อยให้สื่อมันทำงานของมันเอง  วางตัวให้น่าเชื่อถือแค่นั้น ก็พอ   พร้อมกับมีชื่อในผู้ถือหุ้นรายใหญ่นั่นยิ่งดี (วิธีนี้เสี่ย ป.เขาใช้มานานแล้ว)       คุณคิดว่าคนที่นั่งดูทีวีเขาคิดอะไร  อยากรวยเหมือนคนที่ออกทีวีหรือเปล่า  แล้ว เขาจะไปหาหุ้นเองได้เหรอ  หาได้เองมันก็ไม่ดีเท่าซื้อตามคนดังเพราะเหมือนมันได้คัด กรองมาแล้วว่าหุ้นตัวนี้ดี     คนที่โวยวายในนี้เชื่อเถอะว่าไม่ใช่คนที่เสียหายจาก  jas  ไปดูย้อนหลัง  6-7  เดือน ที่แล้วได้ (ถ้าข้อมูลยังอยู่นะ)   ส่วนมากก็เป็นคนที่ช่วยกันเตือนในช่วงนั้นมากกว่า   คนที่เสียหายส่วนมากไม่กล้าโวยวายหรอกเพราะส่วนมากจะอาย     จะเก็บตัวเงียบๆกัน มากกว่า จากคุณ : หนุ่มชุมชน เขียนเมื่อ : 3 ก.ย. 54 21:30:32

ความคิดเห็นที่ 30 เรียน  คุณ หนุ่มชุมชน ขอบคุณสำหรับการร่วมแชร์มุมมองครับ คนที่ขายหุ้นไปย่อมได้ "กำไร" แต่ก็สูญเสีย "ความเป็นเจ้าของ" ไปเช่นกัน ผมเองมองเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นยิ่งกว่าคุณ หนุ่มชุมชน อีกครับ ว่า... นี่ไม่ใช่แค่ "การปั่นหุ้น" แต่มันเป็น "ทุ่งสังหาร" ชัดๆ!!! ผมขอเปรียบเทียบเช่นนี้แล้วกันครับ... ถ้า "วีไอ" เปรียบเสมือน "ฝูงเหยี่ยว" ที่ค้นพบ "ทุ่งหญ้าแห่งความอุดมสมบูรณ์" และฝูงเหยี่ยวเหล่านั้น ต่างก็กำลังเพลิดเพลินอยู่ในทุ่งหญ้าแห่งความอุดมสมบูรณ์แห่งนั้น เรื่องราวทุ่งหญ้าแห่งความอุดมสมบูรณ์นี้...แพร่สะพัดไปอย่างรวดเร็ว!!! จนทำให้ "ฝูงกวาง" เดินทางเข้ามาสู่ทุ่งหญ้าแห่งนี้ เพื่อหาอาหารเช่นกัน แต่มิใช่เพียงฝูงกวางครับ... เหล่าเสือดาว ที่มีสัญชาติญาณการเป็น "ผู้ล่า" ย่อมได้กลิ่นเหยื่อครับ จมูกของผู้ล่าย่อมไวเสมอ ฝูงเสือดาวได้กลิ่นเลือดเพียงนิด ก็เดินทางเข้ามาสู่ทุ่งหญ้าแห่งนี้ เพื่อล่าเหล่าฝูงกวางทันที!!! เสือดาว...ก็เปรียบเสมือน "เจ้ามือ" หรือ "รายใหญ่ที่คร่ำหวอดในวงการ" และ ฝูงกวาง...ก็คงเปรียบเหมือน "นักลงทุน(ที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่อะไรด้วย)" เมื่อเหยี่ยวเห็นว่า เสือดาวเข้ามาแล้ว ซึ่งอาจเป็นอันตรายต่อตนเอง จึงได้ถอนตัวออกมา เพื่อหาผืนดินที่ปลอดภัยกว่านั้น บัดนี้... บนทุ่งหญ้าแห่งนั้น แม้จะพอเหลือความอุดมสมบูรณ์อยู่บ้าง แต่ฝูงกวางกลับไม่ตัวรู้เลยว่า... "ทุ่งหญ้าแห่งความอุดมสมบูรณ์ กำลังจะกลายเป็น ทุ่งสังหารไปเสียแล้ว!!!"   จบจาก "การล่า" แน่นอนครับ ว่า... เหยี่ยว...รอด เสือดาว...อิ่ม กวาง...ตาย!!! และ ทุ่งหญ้าแห่งนี้...ก็ยังจะคงความอุดมสมบูรณ์ต่อไป แล้วแต่เหตุปัจจัยในอนาคต เรื่องราวของ "ทุ่งหญ้าฯและการล่า" บทนี้ จบลงอย่างเงียบๆ ...เพื่อรอวันจะเปิดเรื่องราวบทใหม่ ทุ่งหญ้าแห่งนี้ ตราบใดที่มันยังมีความอุดมสมบูรณ์อยู่นั้น วัฏจักรแบบนี้...จะยังคงทำงานแบบนี้ซ้ำๆตลอดไป ตราบนานเท่านาน คำถามที่สำคัญที่สุด ก็คือ... "ทำอย่างไร ให้เรามีสายตาดุจเหยี่ยว เพื่อที่จะรอดพ้นการล่าจากเหล่าเสือดาวนี้ไปได้?" แต่ถ้าเรายังคงเป็น "กวาง" ที่ไม่มีสายตายาวไกลขนาดนั้น ก็จงอยู่ให้ห่างๆ "เสือดาว" ไว้แล้วกันครับ อะไรที่กำลัง "ร้อนแรง" ก็อย่าเข้าไปใกล้ครับ เหมือนที่เหล่าวีไอ มักจะพูดกันเสมอว่า... "อย่าโลภเกินความรู้" ...ผมรู้สึกแบบนี้จริงๆนะครับ และผมเองหวังว่า บทเรียนที่มีค่าบทนี้ จะเป็นสิ่งเตือนใจสำหรับนักลงุทนที่ได้มีโอกาสผ่านมาอ่านบ้างนะขอรับ ด้วยความเคารพ pak แก้ไขเมื่อ 03 ก.ย. 54 22:11:51 แก้ไขเมื่อ 03 ก.ย. 54 22:09:28 แก้ไขเมื่อ 03 ก.ย. 54 22:05:08 จากคุณ : Bata (Again-With-Love) เขียนเมื่อ : 3 ก.ย. 54 21:56:50

ความคิดเห็นที่ 31 ตอบได้ดีสมเป้นผู้ใหญ่ครับ คุณ Again-With-Love   จริงๆแล้วการที่เซียนเหล่านี้ไม่มาชี้แจงเป็นผลเสียกับเวปมากขึ้นเรื่อยๆ ถ้ารักเวป thaiVIจริงต้องการปกป้องเวปจริงควรออกมาชี้แจงด้วยตนเองครับ แต่ถ้าจงใจทำหรือเห็นเป็นเรื่องปกติก็สุดแล้วแต่ครับ   ส่วนข้อหาลบโพสที่เห็นต่างคุณซันไรซ์ก็ได้ออกมาชี้แจงแล้วว่าผิดกฏเวปเรื่องพาดพิงตัวบุคคล  แต่ผมก็มองว่าอาจเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดปัญหา ทำให้คนที่เห็นต่างไม่กล้าโพส แต่ ทำไมหุ้นตัวอื่น บ่นผู้บริหารห่วย  บ่นเรื่องการตัดสินใจพลาด หรือแม้กระทั่งบ่นให้ปลดผู้บริหาร ก็เป็นการพาดพิงเหมือนกันทำไมโพสได้   ทำไมหุ้นตัวนี้บ่นเรื่องพฤติกรรมน่าสงสัย เตือนให้ระวังเรื่องผุ้ถือหุ้นใหญ่ทิ้งหุ้นเป็นกลุ่มกลับโดนลบ ทั้งๆที่ก็เป็นปัจจัยเสี่ยงที่สำคัญ ตรงนี้ผมว่ายังไม่ค่อยเคลียร์นะครับ จะให้พูดแต่เรื่องธุรกิจได้อย่างไรในเมื่อหุ้นตัวนี้ความเสี่ยงที่สุดคือเรื่องผู้ถือหุ้นและการปั่นราคา แล้วจะให้เตือนยังไง หรือเวป thaivi ไม่มีนโยบายให้เตือนเรื่องพวกนี้ มองในแง่ดีสุดๆอาจจะไม่ได้อยู่ในแก๊งค์ด้วย   แต่ลบเพราะเกรงใจขาใหญ่ที่สนับสนุนเวปมาหลายอย่าง ซึ่งสุดท้ายก็ให้ผลเหมือนกันอยู่ดีนะครับ ด้วยความรักถึงเวปที่เคยดีมายาวนานอย่าง thaiVI ครับ แก้ไขเมื่อ 03 ก.ย. 54 22:55:11 จากคุณ : เบิกได้จ่ายตรง เขียนเมื่อ : 3 ก.ย. 54 22:05:27

ความคิดเห็นที่ 32 ลิ่วล้อจากโน่นมากสร้างกระแสเบี่ยงเบนประเด็นถึงนี่เลยหรอเนี่ย ตั้งกระทู้ VIทมิฬ แต่กลับไม่ยอมแตะต้องวิพากวิจารย์เค้า พูดถึงแต่คนซื้อตามแล้วเสีย ด่าเค้าสารพัด แต่ไม่ยอมขุดคุ้ย  เรื่องที่สังคมกำลังตั้งข้อสงสัย ว่า มีการปั่นหุ้นหรือไม่ เรื่องมันมีมูล มีเหตุการณ์แวดล้อมที่ทำให้น่าสงสัย เพียงแต่มันไม่มีหลักฐาน ผมไม่มี คุณก็ไม่มี การไม่มีหลักฐาน ก็จับไม่ได้ลงโทษไม่ได้ แต่ก็ไม่ได้แปลว่าไม่ได้ทำจริง นี่นา ขอให้เข้าประเด็นหน่อยเถอะ อย่าเบี่ยงเบน คนเสียหายเค้าร้องว่าถูกโกงถูกหรอก แทนที่จะตรวจสอบหาข้อเท็จจริง กลับ ไปด่าคนเสียหายเค้าซะอีก บ้านนี้เมืองนี้ ต่อไปคงต้องยกเลิก ความผิดฐานปั่นหุ้น หรือฐานฉ้อโกง ซะหล่ะมั้ง จากคุณ : Dr.Boy เขียนเมื่อ : 3 ก.ย. 54 22:08:32

ความคิดเห็นที่ 33 ตอนราคา.50บาทเงินสดกับเงินลงทุนหุ้นทีทีแอนด์ทีที่ราคาตลาดก็สามารถล้างหนี้ทั้งหมดได้แล้วนะครับใครมีหุ้นตอนนั้นถือมาถึงวันนี้รวมเงินปันผลที่ได้ยังรู้สึกสบายสบายนะครับ เจตนาผมคืออยากให้ดูมูลค่าหุ้นด้วยวิธีง่ายง่าย และไม่ต้องการตำหนิใครทั้งนั้น ตอนหนี้ยังมีหุ้นคล้ายคล้ายแบบนี้เป็นสิบตัวนะครับลองหาดูครับ โชคดีร่ำรวยครับ จากคุณ : @erawan (@erawan) เขียนเมื่อ : 3 ก.ย. 54 22:16:30

ความคิดเห็นที่ 34 เรียน  คุณ Dr.Boy ผมขออนุญาตออกตัวนิดหน่อยครับว่า... ผมเองไม่ใช่ "ลิ่วล้อ" ของใครครับ และผมเองก็เป็นเหมือน "แกะดำ" จากทางฝั่งโน่นเช่นกันครับ ถ้ายังไม่มีหลักฐาน เราก็ยังไม่ควรจะใส่ร้ายใครแบบลอยๆครับ "เสือดาวกินเนื้อกวางจนอิ่ม แต่เราไปโทษเหยี่ยว(ที่เป็นคนค้นพบทุ่งหญ้า)" ...มันอาจจะไม่ถูกต้องนะขอรับ แต่ที่ผมสนใจในประเด็นนี้มาก เป็นเพราะ... 1) ผมรักใน "ความเป็นวีไอ" และ เว็บไซต์ไทยวีไอ เพราะมันทำให้ผมมีวันนี้ 2) ผมสังหรณ์ว่า วันหนึ่ง ผมอาจจะโดนเหตุการณ์คล้ายๆแบบนี้ เช่นกันในอนาคต JAS...แม้แต่หุ้นเดียว ผมก็ไม่เคยซื้อครับ และถึงวันนี้ ยังไม่เคยมีใครกล่าวยอมรับเลยว่า... "pak เป็นนักลงทุนแบบ VI" และผมเชื่อว่า...ผมยังห่างจุดนั้นอยู่อีกมากทีเดียว แต่ถ้าวันหนึ่ง... เรามีหลักฐานว่า "เหยี่ยว" ทำตัวเป็น "เสือดาว" ซะเอง...ตรงนี้ไม่ถูกต้องแน่นอนครับ แต่ตอนนี้ ปัญหาสำคัญสำหรับพวกเรา มันอยู่ที่ว่า... "เราจะทำอย่างไร ไม่ให้เราต้องตกเป็น เหยื่อ ของผู้ล่า...ก็เท่านั้นเอง" ด้วยความรู้สึกจริงๆจากใจ pak ปล. นั่งดูพอร์ตตัวเองแล้วก็ ปวดใจ นิดๆครับ http://www.pantip.com/cafe/sinthorn/topic/I10927360/I10927360.html แล้วเผลออุทานในใจเบาๆ ว่า... "คุณ por_sas_a (คห.ที่ 14) เค้ามีแต่หุ้น ThaiVI แล้วทำไมตรูมีแต่หุ้นอะไรวุ้ย!!! เฮ้อ...นี่ตรูเป็นวีไอกับเค้าแน่หรือเปล่าฟร่ะเนี๊ยะ??? (ฮา...) (^_^) แก้ไขเมื่อ 03 ก.ย. 54 22:43:31 แก้ไขเมื่อ 03 ก.ย. 54 22:36:54 จากคุณ : Bata (Again-With-Love) เขียนเมื่อ : 3 ก.ย. 54 22:30:05

ความคิดเห็นที่ 35 you inspired me !! จากคุณ : ยัยนู๋งก เขียนเมื่อ : 3 ก.ย. 54 22:44:07

ความคิดเห็นที่ 36 สงสัยเหล่ากวางทั้งหลายต้องแยกกันให้ออกว่า หุ้นของชาวvi กับ หุ้นที่ซื้อตามหลัก vi จากคุณ : Ezlo เขียนเมื่อ : 3 ก.ย. 54 22:50:00

ความคิดเห็นที่ 37 อย่างคุณ Bata (Again-With-Love)   ทั้งประสบความสำเร็จ และก็การแสดงออกก็จริง ใจดีให้ความรู้  ให้แนวคิดออกตัวเองในการลงทุน  ไม่ได้มาสร้างกระแส เหมือนจะมา บอกว่าการลงทุนให้ประสบความสำเร็จมีหลายวิธี ขอให้รู้จริงแค่นั้นเอง คนอย่างคุณ Bata (Again-With-Love)  น่านับถือครับ   แต่หุ้นที่คุณถือผมก็ไม่กล้า เล่นเหมือนกันครับ...หุหุ จากคุณ : หนุ่มชุมชน เขียนเมื่อ : 3 ก.ย. 54 22:52:50

ความคิดเห็นที่ 38 ถึงคุณ Dr.Boy  ผมว่าคุณ Again-With-Love ไม่ได้เข้าข้างเวปโน้นมากมายนะครับดูจากลักษณะการตอบ (แต่คงมีลิ่วล้อมาจริงๆ เห้นหลายกระทู้และ ^^) แต่ก่อนที่จะไปด่าใครแรงๆอาจต้องแน่ใจ 100% ก่อนซึ่งในที่นี้ยังไม่มีใครแน่ใจถึงขนาดนั้นมีแค่สงสัยกัน    อย่าลืมมองอีกขานึงว่าจริงๆเซียนอาจไม่ได้ตั้งใจปั่นหุ้นแต่แรกก็ได้  แต่ไปๆมาๆด้วยความดัง ด้วยสื่อหลายๆอย่าง คนซื้อมาบูมเกินความคาดหมาย เกิดกลัวความเสี่ยงฟองสบู่แตกขึ้นมาเลยต้องขายลดportแต่บอกแต่คนใกล้ตัว บอกแต่เพื่อนสนิท  ซึ่งทำอย่างนั้นเท่ากับโดดเรือทิ้งคนอื่นไปอย่างเห็นแก่ตัว ไม่ยอมบอกว่าจะขายแล้วเพราะกลัวขายไม่ได้ราคา    ถ้าทำอย่างงั้นจริง ก็ทำตัวไม่สมกับเป้นผู้ใหญ่ที่พยายามโปรโมต ที่พยายามยกย่องกันเป้น idol  ต่อไปคงไม่มีใครนับถืออีก   แต่กรณีนี้ยังไม่เข้าข่ายตั้งใจปั่นหุ้นแต่แรกเป็นขบวนการแบบที่เราๆท่านๆหมายถึงเท่าไร   (คงไม่สงสัยผมว่าเป้นลิ่วล้อเหมือนกันนะ  เพราะผมจัดหนักมาหลายกระทู้แล้ว ^^) จากคุณ : เบิกได้จ่ายตรง เขียนเมื่อ : 3 ก.ย. 54 22:53:37

ความคิดเห็นที่ 39 คุณเคยรู้จักหรือสัมผัส กับ "ฝูงเหยี่ยว" บ้างไหม? เหยี่ยวมักจะบินสูง และมองอะไรไกลกว่าคนอื่นเสมอ... คุณเชื่อไหมว่า... เหยี่ยว...เค้าสามารถพูดเรื่องราวของทุ่งหญ้าอันอุดมสมบูรณ์ได้ยาวนานมากกว่าชั่วโมง ว่า...ทุ่งหญ้าแห่งนั้น มันดีอย่างไร? ไม่ดีอย่างไร? ว่า...ทุ่งหญ้าแห่งนั้น มันมีจุดแข็งอะไร? จุดอ่อนอะไร? ว่า...ทุ่งหญ้าแห่งนั้น มันมี "โอกาส" และ "ความเสี่ยง" อะไร รออยู่บ้าง? ว่า...ทุ่งหญ้าแห่งนั้น มันน่าจะยังคงอุดมสมบูรณ์ไปได้อีกนานเท่าใด? เสมือนว่า "ทุกๆอย่างอยู่ในการประเมินของเค้าหมดแล้ว" Downside หรือ Upside เป็นเท่าไหร่?...เค้ารู้หมด!!! แล้วเราหล่ะ... "เรารู้อะไร(ก่อนซื้อหุ้น)บ้าง?" ถ้าคุณได้มีโอกาสคุยกับคนเหล่านี้ คุณจะไม่แปลกใจเลยว่า "ทำไมเค้าจึงประสบความสำเร็จ" และคุณจะไม่แปลกใจเลยว่า ทำไมเค้าจึงสามารถขายหุ้น ในห้วงเวลาที่มันมัน Overvalue การทำการบ้านอย่างหนัก และการวิเคราะห์อย่างเข้มข้น คือ คำตอบสุดท้ายครับ ผมมองว่า... การกล่าวโทษคนอื่น โดยไม่มองความผิดพลาดตัวเอง ย่อมไม่เกิดประโยชน์ต่อตนครับผม แก้ไขเมื่อ 03 ก.ย. 54 23:04:57 แก้ไขเมื่อ 03 ก.ย. 54 23:01:55 จากคุณ : Bata (Again-With-Love) เขียนเมื่อ : 3 ก.ย. 54 22:57:24

ความคิดเห็นที่ 40 เรียน คุณ Bata (Again-With-Love) ผมต้องกราบขออภัยที่เข้าใจในเจตนาของคุณผิด แต่ผมรู้สึกได้ถึงความผิดปกติของเหตุการณ์ในครั้งนี้ กรณี คุณลุงคุณป้า ถูกแกงค์call center หลอกให้โอนเงินไปให้ เสียเงินเป็นแสนเป็นล้าน สังคมต่างสงสารคุณลุง คุณป้า เหล่านั้น ต่างสาปแช่งแกงค์call center กรณีป้าเชง ขายน้ำหมัก คนซื้อไปหยอดตา ตาบอด มีแต่คนสงสารคนเสียหาย ป้าเชงถูกจับไม่มีใครสงสาร แต่กรณีนี้ตรงกันข้าม ปฏิกริยาตอบสนองของสังคมไม่เหมือน2กรณีแรก คนเสียหาย ได้รับการประนามหยามเหยียด คนกระทำไม่มีการพูดถึง แถมยังมีการปกป้องจากกลุ่มไม่ทราบฝ่าย คอยเบี่ยงเบนประเด็น ให้กลายเป็นเรื่องความโง่ ความโลภ ของผู้เสียหายเอง ผมไม่สนว่าใครเป็นตัวอะไร แต่ผมสนใจพฤติกรรมที่แต่ละตัวแสดงออกมา ถึงสิ่งมีชีวิตนั้นจะมีสี่ตีนเดินมา หลังคามุงกระเบื้อง แต่ถ้ามันมีพฤติกรรมทำอันตรายคุกคามผู้อื่น ก็จำเป็นต้องจัดการ อย่างที่ผมกล่าวแล้วว่า ผมไม่มีหลักฐาน แต่ก็ไม่ใช่หน้าที่ผมที่จะหาหลักฐาน ผมไม่มีส่วนได้เสีย เพราะผมไม่เคยสนใจหุ้นตัวนี้ แต่ผมว่าพฤติกรรมตอบสนองของคน ต่อเหตุการณ์นี้มันผิดปกติ เว้นแต่จะใช้ ทรษฎีสมคบคิด หรือทรษฎีผลประโยชน์ทับซ้อนเข้ามาจับ หรือคุณมีทรษฎีอื่นมาเสนอ ผมก็ยินดีรับฟังครับ จากคุณ : Dr.Boy เขียนเมื่อ : 3 ก.ย. 54 22:57:51

ความคิดเห็นที่ 41 VI  ซื้อเมื่อราคาต่ำกว่ามูลค่าของหุ้น VI  ซื้อแล้วก็รอตลาดเห็นคุณค่าของมัน ระหว่างที่รอ  ปรากฏว่าราคามันขึ้นมาเกินมูลค่า(มาก)แล้ว ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใด   - หุ้นมันดีจริงๆ  - มี VI ประสงค์ร้ายมาปั่น - มีนักเก็งกำไรตีข่าวเพื่อหวังผล แน่นอนต้องมีคนตามเข้าไปเล่นอยู่แล้ว  ด้วยเหตุผลต่างๆ ราคาก็วิ่งๆๆๆๆๆ  ยิ่งวิ่งคนก็ยิ่งสนใจ  ยิ่งมีคนอยากเข้าไปมีส่วนร่วม VI  ตอนซื้อเพราะเห็นว่า  ราคาต่ำกว่ามูลค่าที่ควรจะเป็น VI  ขายเมื่อเห็นว่า  ราคาเต็ม/เกิน มูลค่าของมัน  มันไม่ใช่หุ้น Value อีกต่อไป VI  ก็เลยขายเพราะเขาซื้อขายตามหลักการของเขา แล้วเรื่องนี้ตกลงว่าใครเป็นคนผิด ? VI  ที่ตั้งใจปล่อยข่าว  สร้างกระแส  เป็นคนผิด ? รายย่อยที่เข้าตามเพราะกระแสที่กำลังมา  ผิดที่ไม่รอบคอบเอง ? หรือมีคนใช้กระแส VI ที่กำลังมา  หาผลประโยชน์ให้กับตัวเอง ? ตลาดหุ้นเป็นสถานที่อันตราย ทุกคนที่เข้ามาในตลาดหวังเงิน และผลกำไรทั้งนั้น แล้วคุณจะมาเชื่อแค่คำพูดของคนที่หวังจะมาเอาเงินในตลาดเหมือนกับคุณ โดยที่ไม่ศึกษาอะไรก่อนเลยหรือ ?     ThaiVI ก็เป็นสังคมหนึ่งเช่นกัน  คนดีที่ผมพบเจอ  ก็เยอะมาก แต่คุณคิดว่าสังคมนี้  จะมีแต่คนดีหรือ ? ฉันใดก็ฉันนั้น ในห้องสินธรก็เป็นสังคมหนึ่งเช่นกัน  คนดีที่ผมพบเจอ  ก็เยอะมาก แต่คุณคิดว่าสังคมนี้  จะมีแต่คนดีหรือ ?   ผมคงไม่สรุปว่าใครถูกใครผิด  (เพราะผมก็ไม่รู้) แต่ผมอยากจะบอกกับนักลงทุนทุกคนว่า " การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจลงทุน " แก้ไขเมื่อ 03 ก.ย. 54 23:57:30 แก้ไขเมื่อ 03 ก.ย. 54 23:13:25 แก้ไขเมื่อ 03 ก.ย. 54 23:05:01 จากคุณ : ตัวบรรจงเต็มบรรทัด เขียนเมื่อ : 3 ก.ย. 54 23:03:52

ความคิดเห็นที่ 42 # 39 ถ้าคุณสนใจเพียงแค่ 2 ประเด็นนี้ คุณก็ควรไปแก้ที่ต้นเหตุ เหตุเกิดที่ได ก็ไปแก้ที่นั่น อนาคตจะเป็นเช่นไร ก็เป็นผลมาจากการกระทำที่เกิด ณ ปัจจุบัน จากคุณ : นกเพนกวินอ้วน เขียนเมื่อ : 3 ก.ย. 54 23:14:28

ความคิดเห็นที่ 43 จาก คห.ที่ 30 ที่ผมเขียนไว้ว่า... ================================================ จบจาก "การล่า" แน่นอนครับ ว่า... เหยี่ยว...รอด เสือดาว...อิ่ม กวาง...ตาย!!! และ ทุ่งหญ้าแห่งนี้...ก็ยังจะคงความอุดมสมบูรณ์ต่อไป แล้วแต่เหตุปัจจัยในอนาคต ================================================ ผมไม่เคยศึกษา JAS แต่ลึกๆ...ผมปรารถนาและเอาใจช่วย อยากให้บริษัทฯเติบโตได้ต่อไปในอนาคต (เราจะได้มานั่งเม้าท์กันว่า เหยี่ยวขายหมูโว้ยยย...) แต่ผมมักสังเกตจากตัวเอง ว่า... "เมื่อเจ้ามือ เค้าไล่ราคาขึ้น...เราก็ต้องทุกข์เพราะ ความโลภ(อยากจะกำไร และกลัวตกรถ) เมื่อเจ้ามือ เค้าทุบราคาลง...เราก็ต้องทุกข์เพราะ ความกลัว(จะขาดทุน ถ้ายังถือต่อไป) แล้วความสุขของเราหล่ะ...มันจะอยู่ที่ไหน???" เพราะราคาหุ้นไม่มีวันนิ่ง สิ่งเดียวที่จะทำให้นิ่งได้ คือ "หัวใจของตัวเราเอง" สุดท้าย มันจึงอยู่ที่ว่า "เราทำการบ้านมามาก และมีความเชื่อที่มากพอแล้วหรือยัง?"...ก็เท่านั้นเองครับ ปล. ผมว่า อีกซักพัก ชรัส...คงจะมา "ครบทั้งอัลบั้ม" แล้วนะขอรับ แก้ไขเมื่อ 03 ก.ย. 54 23:18:54 แก้ไขเมื่อ 03 ก.ย. 54 23:17:59 จากคุณ : Bata (Again-With-Love) เขียนเมื่อ : 3 ก.ย. 54 23:15:42

ความคิดเห็นที่ 44 จากมิวสิควีดีโอด้านล่างนี้ "พื้นฐานกิจการ" อาจจะเป็นเหมือน "ท้องทะเลที่สวยงาม" เอ่อ...ว่าแต่ จะมีสักกี่คนที่ "มองทะเล" อ่ะนะขอรับ ^ ^ แหม ก็แบบว่า มันมีอย่างอื่นให้น่ามองกว่าทะเลตั้งเยอะนี่หน่า... จากคุณ : Bata (Again-With-Love) เขียนเมื่อ : 3 ก.ย. 54 23:31:40

ความคิดเห็นที่ 45 ประเด็นเรื่อง JAS มันไม่ใช่ใครผิดใครถูก ใครโง่ใครทมิฬหรอก ... มันเป็นเรื่องของ "จริยธรรม" ต่างหาก ... แต่ส่วนตัวผมเท่าที่ได้ประสบพบเจอมา ผมก็คิดว่าเซียน ๆ ทั้งหลายที่เป็นจำเลยสังคมคราวนี้ แต่ละท่านก็เป็นคนนิสัยดีทั้งนั้นนะครับ ... อาจจะพอบอกได้ว่าครั้งนี้ คือทุกขลาภ .. ความซวยในชีวิตของจริง แต่ถ้ามีใครในนั้น มีเจตนาอย่างที่ถูกกล่าวหา ... สิ่งที่เกิดขึ้นก็คงเป็นอะไรที่สมควรแล้ว ################### ข้อความข้างล่างไม่เกี่ยวกับ JAS นะครับ แค่เล่าสู่กันฟัง ประสบการณ์จากประชุมผู้ถือหุ้น ... ผมเคยไปประชุมผู้ถือหุ้นบริษัทหนึ่ง ... เป็นบริษัทที่ผมสามารถบอกใครต่อใครได้ว่า มีผู้บริหารซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ ที่มีธรรมาภิบาลอย่างมาก ผมยืนคุยกับท่านหลังประชุมผู้ถือหุ้นอยู่หลายสิบนาทีเกี่ยวกับบริษัท จนไม่มีเรื่องจะคุย ตอนจบ ... ได้คุยกันเรื่องประเด็นราคาหุ้นของบริษัทในตลาด ... ท่านพูดไว้พอจับใจความได้ว่า ผมไปออก Opportunity Day บ่อย ๆ เพื่อแนะนำบริษัทและพบปะผู้ถือหุ้น แต่ผมไม่ให้ข่าวหรือไปยุ่งอะไรเกี่ยวกับราคาหุ้น หรือชี้นำราคาหุ้นอะไรหรอก ... เพราะผมไม่อยากรวยมากกว่านี้ แลกกับการมีคนมาด่าพ่อ ให้ลูกผมฟังว่ารู้มั๊ยที่รวยเพราะได้เงินมายังไง ??? มันไม่คุ้มกัน ............. .......... ....... ข้างล่างนี่คือข้อความที่ผม post ไว้ในกระทู้คุณ shine-rise เมื่อช่วงมีนาคมที่ผ่านมา ตอน JAS กำลังร้อนแรงสุด ๆ http://www.pantip.com/cafe/sinthorn/topic/I11005362/I11005362.html แก้ไขเมื่อ 04 ก.ย. 54 00:16:29 จากคุณ : Morning Star เขียนเมื่อ : 3 ก.ย. 54 23:50:45

ความคิดเห็นที่ 46 ค่ำคืนที่ฝนตกแบบนี้... ผมขอจบกระทู้นี้ด้วยข้อความที่ผมอ่านเตือนตัวเองอยู่เป็นประจำนะขอรับ ============================================== บันทึกแห่งสัจธรรม โดย : ตะวัน สุรัติเจริญสุข นักเล่นหุ้นแทบทุกคนที่ถูกดึงเข้ามาสู่ตลาดหุ้น มักเชื่อมั่นว่าจะร่ำรวยกลับออกไป แต่คนที่ยืนอยู่บนเวทีแห่งนี้ได้ตลอดรอดฝั่ง กลับมีเพียงแค่หยิบมือ ตลาดหุ้นเป็นเวทีเดียวที่เปิดโอกาสให้กับคนที่ไม่จบปริญญา สู้กับคนระดับดอกเตอร์ได้อย่างเท่าเทียม บทเรียนในตลาดหุ้น มักไม่มีสอนในตำรา แม้แต่ "เซียน" ก็ตกม้าตายมาแล้วนับไม่ถ้วน ตลาดหุ้นมีกฎของมันเอง เป็นกฎของความไม่แน่นอน บางครั้งก็เป็นกฎที่อยู่นอกเหนือจากสิ่งที่คนส่วนใหญ่เชื่อ ด้านมืดที่สุดที่มองเห็น อาจเป็นจุดเริ่มต้นของโอกาส ทางที่คิดว่าปลอดภัยดีแล้ว อาจเป็นทางที่มืดสนิท ในขณะที่มนุษย์มีอิสระที่จะเลือกแนวทางของตนเอง ตลาดหุ้นกลับต้องเผชิญกับแรงกระเพื่อมของ "อารมณ์" จากเสรีภาพนั้น เหตุนี้หุ้นจึงจะสะท้อนเหตุการณ์ล่วงหน้าได้มากกว่าที่ควรจะเป็น และทิ้งช่องว่างของ "โอกาส" ให้ผู้คนเข้ามาแสวงหาความร่ำรวยตลอดเวลา กลไกนี้ทำงานโดยตัวมันเองไม่เคยเปลี่ยนแปลง ไม่มีทฤษฎีที่จะเอาชนะความไม่แน่นอนของตลาดหุ้นได้ ถ้าอยากจะเอาชนะตลาดหุ้น ต้องเอาชนะ ความโลภ ความกลัว และความคาดหวังของตัวคุณเองให้ได้เสียก่อน จงจำไว้...ไม่มีสักครั้งที่ตลาดหุ้น จะร้องไห้เสียใจให้กับใคร ทะเลถ้าปราศจากคลื่นฉันใด...ก็ย่อมไม่ใช่ทะเล นี่คือ สัจธรรม ============================================== ที่มา : จากปกหลังหนังสือเรื่อง "ขี่กระทิง วิ่งราวเซียน" (โดย ตะวัน สุรัติเจริญสุข) จากคุณ : Bata (Again-With-Love) เขียนเมื่อ : 3 ก.ย. 54 23:52:13

ความคิดเห็นที่ 47 #38 สิ่งที่แตกต่างกันระหว่าง ป้าแก่หรือลุงแก่โดน แกงค์คอลเซ็นเตอร์หลอก หรือ กรณีของป้าเช็ง กับ เรื่องของเม่าน้อยติดดอยก็คือ คนที่โดนหลอกเหล่านั้นไม่ได้อยู่บนพื้นฐานของความโลภครับ เค้าอาจจะโดนแกงค์คอลเซ็นเตอร์หลอกให้กลัว ว่าจะโดนจับ...หรือเค้าอาจจะมีความหวังว่าจะหายจากอาการเจ็บป่วย (คุณคงไม่เหมารวมความหวังจากความเจ็บป่วยเป็นความโลภนะครับ) ความโลภ ชักนำผู้คนให้ซื้อหุ้นร้อน... ความกลัวทำให้ผู้คนขายหุ้นทั้งๆที่ยังไม่ได้ดูเรื่องราวที่แท้จริง(หรือจริงๆก็คือไม่ได้รู้อะไรเลยตั้งแต่แรก) ถ้าหากคุณเหมารวมว่า การที่เซียนๆทั้งหลายผิดเพราะดันมีชื่อเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่แล้วยังไปออกทีวีรายการโน้นรายการนี้ ทำให้เม่าน้อยๆ หลงผิด ไปซื้อหุ้นตามเซียนเค้า ด้วยตรรกะของผมแม้มันจะไม่ได้ดีมาก ผมก็ยังนึกไม่ออกว่าเซียนเค้าทำอะไรผิดครับ ปล. เซียนในที่นี้ขอเอาจำกัดความถึงคนที่เค้าบริสุทธิ์จริงๆครับ ไม่รวมเสือดาว ปล2. ผมอาจจะโดนเหมารวมว่าเป็นลิ่วล้อไปเรียบร้อยแล้ว ^ ^ พอดีช่วงนี้ตังหมดอยากเสพย์มาม่าบ้างครับ จากคุณ : proxies ความเหงาที่อบอุ่น เขียนเมื่อ : 4 ก.ย. 54 00:01:44

ความคิดเห็นที่ 48 เข้ามาอ่านครับ Together จากคุณ : Gunner_Noy_Skywalker_5 เขียนเมื่อ : 4 ก.ย. 54 00:22:39

ความคิดเห็นที่ 49 อย่าพูดเรื่อง VI ในนี้เลยครับ มีแต่เก็งกำไรครับจริงๆ ผมเห็นนั่งลุ้นหุ้นรายวันเหมือนลุ้นหวยไม่มีผิดเลย น้อยคนนักที่จะมีการวิเคราะห์และถือเกินสัปดาห์ นอกนั้นบนรายวันตลอดครับ จากคุณ : ชายผู้ไร้ซึ่งความรัก เขียนเมื่อ : 4 ก.ย. 54 00:54:26

ความคิดเห็นที่ 50 หลังจากอ่านความเห็นทั้งสองฝ่ายมานานแล้ว คิดว่าที่หลายคนตั้งข้อสงสัยก็มีความเป็นไปได้อยู่เหมือนกัน แต่ลองมานึกอีกที ลองสมมุติกลับไปว่าคืนก่อนที่จะขาย กลุ่มรายใหญ่เขาออกมาโพสท์ส่งสัญญาณทำนองว่า "ตอนนี้หุ้นเริ่มไม่ดี ผมจะขายแล้วนะครับ" คนแรกๆที่เข้าไปเห็นข้อมูลในบอร์ดก็จะรีบเทขายและเอาตัวรอดไปได้ คนที่เห็นทีหลังก็รีบเทขายตามเพราะตกใจว่าเกิดอะไรขึ้น ซึ่งกลุ่มนี้อาจจะอ่านหรือไม่อ่านบอร์ดแต่อาศัยว่าหนีไว แล้วมันก็เป็นโดมิโน่ไปเรื่อยๆจนถึงคนที่ไม่ทันเห็นสิ่งที่รายใหญ่โพสท์ ถึงคนที่ไม่ได้อ่านบอร์ด ถึงคนที่บังเอิญว่า วันนั้นไม่ได้เข้าบอร์ด บังเอิญว่าวันนั้นไม่ได้อยู่หน้าจอ ฯลฯ ผลคือหนีไม่ทัน หากมีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้น โอกาสที่หุ้นจะลงชะรูดอย่างแรงมันเกิดขึ้นได้นะ สุดท้ายจะเป็นการลากพวกเขาไปติดดอยทางอ้อมอยู่ดีรึเปล่า? แถมยังกระทบคนที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่ได้อีก เพราะฉะนั้นถึงจะอย่างไร "เซียนที่มีตัวตน" ก็ต้องทำผิดอยู่ดีหรือเปล่า ต่อให้จะเจตนาหลอกหรือไม่เจตนาก็ตาม เพียงแต่ว่าเขาจะผิดต่อใคร และจะโดนใครด่าเพราะทำเขาติดหุ้นเท่านั้น Edit - เรียบเรียงประโยคใหม่ครับ แก้ไขเมื่อ 04 ก.ย. 54 01:51:20 จากคุณ : < h r i s t i A n Vi e ri >> เขียนเมื่อ : 4 ก.ย. 54 01:14:05

ความคิดเห็นที่ 51 เซียนPokerบอกไว้ว่าให้ระวังไพ่ดี เพราะเราจะเกหมดหน้าตัก อย่าโชว์พอร์ต หรือบอกว่าเรามีหุ้นอะไรเลยครับ คุณรู้อยู่แล้วว่าผลข้างเคียงคืออะไร คนจะซื้อตาม แต่บางคนก็โชว์นะ แต่ไปขายพอร์ตอื่น หรืออคติทำให้ต้องถือหุ้นนั้นไว้ แม้ว่าจะขาดทุนก็ต้องมีศักดิ์ศรี บอกไปแล้ว ก็ต้องถือ แล้วเขาก็เจ็บเอง หุ้นของเจ้าของกระทู้ ก็มีความคาดหวังสูงไม่แพ้Jasนะครับ น่าห่วง หนี้สินต่อทุนเยอะจัง(944:24)และเพิ่งกำไร หนี้ระยะสั้นเยอะ แล้วมันเป็นโครงการที่ต้องลงทุนยาวป่าว - - จากคุณ : ยิ้มไว้เมื่อหุ้นลง เขียนเมื่อ : 4 ก.ย. 54 01:24:35

ความคิดเห็นที่ 52 เครียดจัง จากคุณ : ที่คาดผม เขียนเมื่อ : 4 ก.ย. 54 01:27:30

ความคิดเห็นที่ 53 เรื่องเกิดจากผู้ถือหุ้นรายนึงและเป็นรายใหญ่ขาย แล้วไม่บอกกัน       -เลยมีคนมาโบ้ยว่า VIนั้นเลวทั้งบาง ลองมองในมุมกลับ ถ้าผู้ถือหุ้นรายใหญ่ท่านนั้นขาย แล้วต้องบอกด้วยหรือ?? MOSแต่ละคนก็ไม่เท่ากัน ใจเรารับความเสี่ยงได้แค่ไหน? เลยมาพาลว่า "อ้าย VIชั่ว เนื้อแท้นั้นเจ้าคือผู้หลอกลวง" ท่านจะมองโลกแง่ดีไปหน่อยแล้ว ตลาดหุ้นมีแต่พวกเขี้ยวลากดินทั้งนั้น VI trader fundmanager Broker banker ทั้งหลายทั้งแหล่เหล่านี้ ล้วนแล้วแต่อยากได้เงินจากท่าน!! (แน่นอนว่ารวมถึงผมด้วย) เพียงแต่จะต่างกันในเรื่องของวิธีการ เราเป็นเพียงผู้เล่นคนหนึ่งที่ต้องเลือกRole ในแต่ละอันไปตามองค์ความรู้ของท่านนั้นๆ ถ้ามีความรู้เน้นการลงทุนคุณค่า ผมเรียกว่าVI ถ้ามีความรู้เรื่องกราฟ ผมเรียกว่าเด็กเทคนิค ถ้ายังไม่มีความรู้แล้วกำลังเริ่มศึกษา ผมเรียกว่ามือใหม่ แต่ถ้าไม่มีความรู้อะไรเลย แล้วฟังสิ่งที่เรียกว่า "เขาว่ากันว่า" หุ้นตัวนี้ดีตัวนั้นดีแล้วคุณเคาะตามเนี่ย เค้าเรียกว่าวัดดวงแถมยังตาบอดอีก ตอนผมทำงานนะ นั่งใกล้ๆกันชวนเข้าหุ้นด้วยกัน เขาบอกแต่ตอนออกไม่เห็นเรียก ถามว่าต้องโกรธมั้ย? ตอบได้เลยว่า "อาจจะต้องโกรธ" แต่ลองถามตัวเองกลับว่า "ศักดิ์ศรีในการยืนด้วยลำแข้งตัวเอง ในการทำมาหากินน่ะมีมั้ย?" อาจจะได้คำตอบที่ต่างกันออกไป ดังนั้นคำว่าหุ้นดีมันอยู่ที่นิยามของแต่ละท่าน เฉกเช่นเดียวกับคำว่าVIและคุณค่า (warren ถึงไม่เคยพูดว่า ฉันเป็นVI เพราะนิยามเราไม่เหมือนกัน) คำว่า "ดี" ของแต่ละคนยังไม่เท่ากันเลยคุณ หุ้นดีของผมคือ "ผมเคาะซื้อแล้วมันต้องขึ้น" หุ้นดีของผมคือ "กราฟมาแล้วมันทำอย่างที่คิด" หุ้นเลวคือ "หุ้นที่กราฟมายังไงซื้อแล้วก็เสีย" แล้วสำหรับท่านหุ้นดีของท่าน ท่านนิยามว่าอย่างไร? หรือเราต้องซื้อตามคนดัง? จากคุณ : นักสืบจิ๋ว เขียนเมื่อ : 4 ก.ย. 54 04:28:25

ความคิดเห็นที่ 54 เรียน  คุณ ยิ้มไว้เมื่อหุ้นลง วันนี้เราเจ็บเพราะซื้อ JAS โดยไม่มีเหตุผลในใจที่ชัดเจน เราใช้ "อารมณ์" หรือ "เหตุผล" ในการซื้อหุ้นกันแน่? ถ้าเราใช้ "อารมณ์"...เราจะรู้สึกอย่างหนึ่ง แต่ถ้าเราใช้ "เหตุผล"...เราจะรู้สึกอีกอย่างนึง สำหรับการบอกว่าตนเองถือหุ้นอะไรอยู่บ้างนั้น มันเป็นการเรียนรู้ "แนวคิด" ของกันและกันครับ ซึ่งผู้อ่านมีสิทธิในการ เห็นด้วย และ ไม่เห็นด้วย อ่ะนะขอรับ สำหรับเรื่อง "การซื้อตาม" นั้น อาจจะไม่จริงหรอกครับ ยกตัวอย่างเช่น... ผมได้ไปสัมภาษณ์รายการ มือใหม่ และพูดถึง Case Study ของ NC แถมยกข้อดี ทั้งร้อยแปดพันประการ ที่ http://www.dcs-digital.com/moneychannel/program.php?listid=8 (ในเทปของวันที่ 31 สิงหาคม 2554 ช่วงเวลา 11.15 น.) ผมก็นั่งดูครับว่า หลังจากที่ผมพูดไปแล้ว จะเป็นอย่างไร? ผล คือ... "ไม่มีใครซื้อตามเลยครับ แม้แต่หุ้นเดียว!!!" ตลอด 3 วันที่ผ่านมา...โวลุ่มแทบจะเป็นศูนย์ครับ นั่นเป็นเพราะ หุ้นมันไม่มีสภาพคล่อง มันไม่มีโอกาสทำกำไร ลองคิดดีๆนะครับ ว่า... "เค้าซื้อตามเซียน หรือ เค้าซื้อตามเพราะโวลุ่มเข้า และราคาปรับขึ้นอย่างต่อเนื่อง(แล้วอ้างว่าเซียนยังซื้อ)กันแน่?" สรุปสุดท้าย(แบบไม่ค่อยเกี่ยวกัน) ว่า... "ผู้หญิงยังลืมยาก นักลงทุน...ก็ไม่ควรจะลืมอะไรง่ายๆนะครับ" ด้วยความจริงใจ pak ปล. ตารางสรุปเทปรายการ "มือใหม่" ของเดือน สิงหาคม 2554 วันที่ 2 - 3 ส.ค. 54   น้องฮง วันที่ 4 - 5 ส.ค. 54   พี่มนตรี วันที่ 9 - 10 ส.ค. 54   คุณภาววิทย์ วันที่ 11 - 12 ส.ค. 54   น้อง Shine-Rise วันที่ 16 - 17 ส.ค. 54   คุณหินกลิ้ง (Stock Tomorrow) วันที่ 18 - 19 ส.ค. 54   พี่วิบูลย์ วันที่ 23 - 24 ส.ค. 54   พี่ปุย วันที่ 25 - 26 ส.ค. 54   ดร.นิเวศน์ วันที่ 30 - 31 ส.ค. 54   พี่ pak ที่ http://www.dcs-digital.com/moneychannel/program.php?listid=8 แก้ไขเมื่อ 04 ก.ย. 54 08:46:10 จากคุณ : Bata (Again-With-Love) เขียนเมื่อ : 4 ก.ย. 54 08:42:38

ความคิดเห็นที่ 55 อะไรก็แล้วแต่ที่ It's good to be true ให้ระวังไว้เลยว่าเป็นเรื่องหลอกลวง คนที่แสดงตัวว่าเป็นคนดี  หวังดีต่อคนอื่นมากๆ  ก็ให้ระวังไว้เลยว่าจะมากินตับ หุ้นดีๆๆๆๆๆ ใครก็ซื้อๆๆๆๆๆ  ระวังไว้ว่ามันจะติดดอย แก้ไขเมื่อ 04 ก.ย. 54 08:54:50 จากคุณ : หมั่นเก็บหอมรอมริบ เขียนเมื่อ : 4 ก.ย. 54 08:53:28

ความคิดเห็นที่ 56 เรียน คุณ ที่คาดผม  (คห.ที่ 52) นั่นซิ...กระทู้แลดูเครียดนะครับ แต่มันก็เครียดจริงๆนั่นแหล่ะครับ พอดีตลาดหุ้นฯของเรา ไม่มี "ชอน ทงอี" นางในฝ่ายตรวจสอบ มาสืบหาข้อมูลให้อ่ะนะขอรับ กระทู้ของผม จึงพุ่งประเด็นไปที่ เราควรเรียนรู้จากเรื่องนี้ครับ ว่า... "ทำอย่างไร? เราจึงจะไม่ตกเป็นเหยื่อ ของเจ้ามือ ที่เค้ามีเครื่องมืออันทรงประสิทธิภาพที่สุด คือ การเล่นกับ "ความโลภ" และ "ความกลัว" ของคุณ" การแก้ปัญหาระยะยาว...เราควรจะทำอย่างไร จากคุณ : Bata (Again-With-Love) เขียนเมื่อ : 4 ก.ย. 54 09:01:51

ความคิดเห็นที่ 57 ซื้อก็ซื้อเอง ขายก็ขายเอง กำไรได้แบ่งเค้ามั้ย ขาดทุนเค้ามาแ่บ่งด้วยรึเปล่า เค้าปล่อยข่าวเชียร์หุ้น เราไม่ซื้อได้มั้ย มีใครมาบังคับมั้ย แล้วสุดท้ายความผิดใคร หุ้นทุกตัวคนมีเงินเล่นได้ทุกคน ไม่ว่าวีไอ กองทุน โบรค ต่างชาติ คุณรู้มั้ยว่าใครถือJASบ้าง มันก็มีทุกประเภทแหละ แล้วจะมาว่าวีไออย่างเดียวได้ยังไง วีไอก็คนโลภคนหนึ่ง ใครเค้าก็อยากกินเงินคุณทั้งนั้น ผมก็อยากกินเงินคุณ คุณก็อยากกินเงินผม อย่ามาซึนเดเระ!!! ให้ความยุติธรรมกับทุกคนด้วย โลกนี้มันโหดร้าย เมื่อมีเรื่องเงินหรืออำนาจมาเกี่ยว แม้แต่พ่อลูกกันยังฆ่ากันได้ จูดาสยังขายพระเยซูเพื่อเงินแค่เหรียญเดียว นับประสาอะไรกับเราท่านที่หน้ายังไม่เคยเห็น พูดคุยผ่านคอม ไม่มีใครทำดีแล้วไม่หวังผลตอบแทน อย่างน้อยยังทำดีเพื่อความสบายใจ จากคุณ : ANUBIS[TJ] เขียนเมื่อ : 4 ก.ย. 54 10:34:49

ความคิดเห็นที่ 58 เล่นตามใครไม่ใช่ประเด็น ประเด็นคือทำไมต้องรวมตัวกันเทขาย อย่างจงใจ จากคุณ : lottery เขียนเมื่อ : 4 ก.ย. 54 12:16:19

ความคิดเห็นที่ 59 แนวคิดแบบลวกๆของผม ลวกสุดๆแบบใช้สัญชาตญาณของสัตว์โลก โดยไม่ต้องมองประเด็นอื่น หุ้นอะไรที่มีขาVIไปมุงกันอยู่ แล้วเรายังไม่ได้เข้า มันมักจะแพงเกินไปเสมอ ถ้าอยากรวยหลายเด้ง กรุณาไปหาตัวอื่นเล่นแทน จากคุณ : baby_naked เขียนเมื่อ : 4 ก.ย. 54 12:38:38

ความคิดเห็นที่ 60 คุณคห.58 ครับ อย่างที่ผมได้โพสต์ไปครับ ตลาดหุ้นมันเป็นอย่างนี้โดยธรรมชาติครับ ถ้าคุณรู้ว่าหุ้นจะลงก่อน คุณจะไม่ทำการShortออกไปหรือครับ? เวลาผมขายหุ้นแล้วผมเห็นว่ามีผลต่อราคาแน่นอน ผมก็Short sellแถมยังจะทำSBLเพิ่มด้วยครับ จากคุณ : นักสืบจิ๋ว เขียนเมื่อ : 4 ก.ย. 54 13:06:23

ความคิดเห็นที่ 61 ตลอดเวลาที่ตามอ่าน TVI มา 6-7 ปีนะครับ เข้าใจดีว่าหลายท่านที่ให้ความรู้อย่างจริงใจ เป็นสังคมที่อบอุ่นระดับหนึ่ง มีการให้ความรู้เชิงลึก เราก็ได้รับความรู้ ประสบการณ์และข้อมูลดีๆจากที่นั่นมากมายเหมือนกัน รู้สึกว่าตัวเองโชคดี แต่บรรยากาศของเวบนั้นเสี่ยงต่อการโดนคนนอกหมั่นไส้ เพราะดูแล้วไม่ค่อยเป็นมิตรกับคนที่ไม่เข้าใจแนว VI เลย บางครั้งเห็นคนเข้าไปขอหุ้นหรือถามแนวรับแนวต้านแล้วโดนถามกลับมาว่า "คุณคิดว่าหุ้นตัวนี้มีมูลค่าเท่าไหร่ครับ" คิดแทนคนที่ถามได้เลยครับว่า เขาต้องหมั่นไส้คนในเวบแน่ เหมือนทำให้เขาอาย เรายังรู้สึกว่าน่าจะแนะนำเขาดีๆ ลิ้งค์กระทู้ห้องมือใหม่ หรือลิ้งค์โหลดแปะงบการเงินให้เขาอ่านแทนดีกว่า จริงอยู่ที่ว่าใครไม่พอใจไม่ต้องเข้าก็ได้ แต่การไม่สร้างศัตรูย่อมดีที่สุด บางครั้งชาว TVI อาจจะรู้สึกว่าไม่ยุติธรรมที่จะโดนตำหนิ แต่เป็นเรื่องธรรมดาครับ ยิ่งเวบมีภาพลักษณ์ที่ดี มีชื่อเสียงในสายตาคนอื่น แต่เขาแทรกตัวเข้าไปร่วมวงด้วยไม่ได้ เวบยิ่งโดนจ้องเล่นงาน ช่วงหลังที่มีการลบโพสท์เห็นแย้งโดยบอกว่าผิดกฎเวบ เราค่อนข้างไม่เห็นด้วย อย่างที่ #31 อธิบายเอาไว้นะครับ แต่เข้าใจว่าตอนนี้แก้ปัญหาได้ดีขึ้น ขอให้กำลังใจเวบ TVI ด้วยครับ ทำให้ดีที่สุด คนที่เข้าใจพวกคุณก็ยังมีเยอะ จากคุณ : < h r i s t i A n Vi e ri >> เขียนเมื่อ : 4 ก.ย. 54 13:45:07

ความคิดเห็นที่ 62 #58 เรื่องธรรมดาครับ ต่อให้เป็นรายย่อยก็ตาม ถ้าเขารู้จักกันแบ่งปันข้อมูลกันอยู่ แทบเป็นไปไม่ได้ที่จะไม่ขายตามกัน ยิ่งเป็นรายใหญ่ที่รู้จักมักจี่กันดีด้วย ถ้าเพื่อนบอกว่าจะขายแล้วนะ อีกคนจะเฉยๆปล่อยให้เงินหายวับเป็นร้อยล้านหรือ? คงไม่มีรายใหญ่คนไหนหรอกครับ ที่รู้แล้วจะปล่อยให้เพื่อนขาย ส่วนตัวเองถือเฉยๆหรือช้อนหุ้นช่วยรายย่อยก่อน ปกติคนในตลาดหุ้นก็ทำแบบนี้กันเยอะ เพียงแต่เป็นรายย่อยเทขายหุ้นไม่มีผลต่อตลาดมากนัก ไม่เหมือนรายใหญ่ จากคุณ : < h r i s t i A n Vi e ri >> เขียนเมื่อ : 4 ก.ย. 54 14:01:06

ความคิดเห็นที่ 63 สังคมที่ไหน ก้มีทั้งคนดี และคนไม่ดี  ผู้ถือหุ้นรายใหญ่ ขายหุ้นไม่ผิด แต่การขึ้นกระทู้เร่งเร้า กระตุ้นทุกทาง  ในช่วงเวลาที่จะเชือดจัส  คือก่อน วันที่3เดิอน5  คือผู้สมคบคิด คือวิไอทมิฬ ส่วนการเชียร์หุ้น นอกช่วงเวลาก่อนหน้านั้นไกลๆ แต่ไมได้เร่งเร้าเรียกเหยื่อ ในช่วงจะเชือด ผมถือว่าเค้าเชียร์เพราะมีหุ้นตามปรกติ ไม่น่าจะผิด แต่คนที่สมคบคิด เร่งเร้าเหยื่อในช่วงจะเชือด คือวิไอทมิฬ เพราะเค้าและพวกคือผู้วางขาย ที่ยอดของราคา ถ้าวิไอเชียร์หุ้นที่ไม่ได้สมคบคิด  จะขายตอนมันไหลลง ก้ไม่ใช่เรืองผิดปรกติ ........................................................................... อีกประเด็นที่ต้องดู คือ เวปไทยวีไอ ลบข้อความของผู้เห็นต่างทำไม ข้ออ้างที่ว่า ห้ามพาดพิงผู้อื่น นั้นฟังไม่ขึ้นครับ     ถ้าจะให้ฟังขึ้น ทางเวปก้ต้องห้ามพาดพิงในแง่ดีด้วย ไม่ใข่แง่ร้าย อย่างเดียว ถ้าเวปไทยวีไอ ให้เขียนแต่แง่ดี ของจัส ใครโพส แง่ร้าย ลบหมด  ก้ไม่น่าแปลกที่ สังคม จะสงสัยพฤติกรรมของทางเวปว่าปันหุ้นกับเค้าด้วยหรือไม่ จากคุณ : khonthai.tk. เขียนเมื่อ : 4 ก.ย. 54 14:11:05

ความคิดเห็นที่ 64 เคยซื้อหุ้น jas กะเขาเหมือนกัน ตั้งแต่ราคาไม่ถึงบาท ไปขาย 1.2 พอลงก็ซื้อใหม่ ทำแบบนี้บ่อยๆ เพราะ jas. เล่นวนเป็นรอบๆ (กำไรไว้จ่ายค่าโบรก) ราคาสุดท้ายที่ขายคือ 1.3x หลังจากวันนั้น จนถึงวันนี้ ยังไม่เคยซื้ออีกเลย บอกตรงๆ เห็นแล้ว กลัว ค่ะ ดูพื้นน่าจะแน่น ยิ่งเห็นกระทู้ในสินธรเยอะ ก็ยิ่งไม่กล้าซื้อ 555 ราคายิ่งวิ่ง ยิ่งกลัว เพราะความรู้สึกบอกได้ว่า ไม่น่าราคาขนาดนี้ แต่ราคา ณ ตอนนี้ เราก็ยังไม่กล้าซื้อนะ ไม่เกี่ยวกะ VI. เลยเน๊อะ ถ้ารอบสุดท้ายไม่ขาย ไม่กลัว กล้าเสี่ยงมากกว่านี้ เอาไปขาย 3 บาทนี่กำไรท่วมๆ เลยนะเนี้ย มีตั้งเป็นหมื่นหุ้น พอซื้อถูกตัวจะได้หลายเด้ง ใจก็ไม่กล้า เฮ้อ.. บ่นไปงั้นล่ะคะ เซ็ง ความใจไม่ถึงของตัวเอง จากคุณ : lemonsmile เขียนเมื่อ : 4 ก.ย. 54 14:13:23

ความคิดเห็นที่ 65 ผมมีเรื่องราวอยากจะเล่าสู่กันฟัง ซัก 3 เรื่องนะครับ เรื่องที่ 1) นิทานเรื่อง TFD-W1 คนที่อยู่ในห้อง Chat ของสินธร คงจะรับรู้เรื่องราวนี้เป็นอย่างดี เรื่องของเรื่องมีอยู่ว่า น้องบีเป็นน้องสาวคนหนึ่ง ที่ไม่มีประสบการณ์ในการลงทุนในหุ้นเลย เข้ามาตลาดครั้งแรก ก็ซื้อหุ้นตามเพื่อนวันที่เข้าแห่ซื้อกัน น้องเค้าซื้อหุ้น TFD-W1 ครับ ที่ราคาประมาณ 0.32 บาท ประมาณปลายปีที่แล้ว หลังจากที่น้องเค้าซื้อ เจ้าเลิกเล่นครับ ราคาลดลงอย่างต่อเนื่อง จนกลายเป็นหุ้นไร้สภาพคล่อง ไร้ Bid แต่ดันมี Offer!!! ราคาย่อลงมาเรื่อยๆ จนเหลือ 0.18 บาท และที่สุดน้องเค้าทนไม่ไหว ยอมขายขาดทุนไป แต่... วันนี้ หุ้นตัวนี้...กลับมาอีกแล้วครับ เช่น ในกระทู้นี้ http://www.pantip.com/cafe/sinthorn/topic/I11022569/I11022569.html จากหุ้นไร้สภาพคล่อง ไร้คนสนใจ แต่พอมีโวลุ่มเข้า >> Story ตามมาทันที >> เกิดการเก็งกำไรอย่างรุนแรง อยู่ดีๆ...คนหันมาให้ความสนใจ เทรดกันมากมาย โครมๆ นี่เป็นเรื่องจริง...ที่ผมพอจะรู้ล่วงหน้า แต่น้องบีอาจยังไม่เข้าใจ ถึง วัฏจักรของการเลือกเฟ้นหาหุ้นมาเล่นของรายใหญ่ ผมเล่าเรื่องนี้เพื่อบอกว่า... "ความจริงก็คือ...คนเราส่วนใหญ่มักสนใจโวลุ่มการเทรดมหาศาล ,สนใจแสงสี และสนใจโอกาสการทำกำไรมากกว่าพื้นฐานจริงๆ" เรื่องที่ 2) ผมชวนเพื่อนซื้อหุ้น XXX บทสนทนามีอยู่ว่า... เพื่อนผม : อ๋อง...หุ้น XXX ซื้อได้ไหมอ่ะ? ผม : ซื้อได้ซิ ไม่เสี่ยงหรอก ราคาน่าจะขึ้นไปได้อีกเยอะเลย เพื่อนผม : แล้วเมื่อไหร่หล่ะถึงจะขึ้น? ผม : อย่างช้าก็ปี 2558 และอย่างเร็วก็ประมาณปี 2555 ช่วงปลายปี เพื่อนผม : งั้น...เชิญแกตามสบายเถอะนะ!!! ชั้นรอไม่ไหวแน่ๆ เรื่องที่ 3) ผมกับพี่วิลลี่ บทสนทนาเป็นดังนี้ ผม : พี่วิลลี่ครับ ผมว่าหุ้น YYY นี่มันดีมากเลยนะ ผมจะเริ่มเข้าซื้อแล้วนะ พี่วิลลี่ : ไหน มาๆ เดี๋ยวดูกราฟให้ - - - เวลาผ่านไปซักพัก - - - พี่วิลลี่ : ไอ้บ้าอ๋อง หุ้นแม่ม ไม่มีสภาพคล่องเลยนี่หว่า จะซื้อไปทำไมฟร่ะเนี๊ยะ ผม : แต่ราคานี่ไม่แพงนะ พี่ไม่ซื้อเหรอ พี่วิลลี่ : เออ...กรูรู้ว่ามันถูก แต่กรูยังไม่ซื้อหรอก พี่รอโวลุ่มเข้าก่อนดีกว่า เดี๋ยวค่ากราฟเส้นนี้มันไปตัดกราฟเส้นโน่น พี่จะเริ่มเข้าซื้อแล้วกัน อ๋องซื้อถูก รวยไปคนเดียวเถอะนะ พี่เสียสละให้ พี่ยอมซื้อแพงหน่อยก็ได้ แต่รอให้สัญญาณเทคนิคมันชัดเจนก่อน พี่ขี้เกียจเอาเงินไปจมหว่ะ!!! (ยังมีต่อ) จากคุณ : Bata (Again-With-Love) เขียนเมื่อ : 4 ก.ย. 54 14:16:09

ความคิดเห็นที่ 66 ผมพยายามกำลังจะบอกว่า... "แท้จริงแล้ว คนเราไม่ได้ซื้อตามเซียนครับ!!!" แต่เค้าซื้อตามเจ้ามือหรือรายใหญ่ต่างหาก... ผมมองว่า วัฏจักรของมัน คือ... "หุ้นถูก >> เซียนซื้อ >> เจ้ามือหรือรายใหญ่ผสมโรงเข้าทำราคา >> โวลุ่มเทรดมหาศาลและราคาปรับขึ้นอย่างต่อเนื่อง >> รายย่อยตามแห่" จากนั้น... "หุ้นเริ่มแพงเว่อร์ >> เซียนขาย >> เจ้าทุบทำกำไร >> รายย่อยที่ตามแห่ด่าเซียน" - -" (ยังมีต่อ) จากคุณ : Bata (Again-With-Love) เขียนเมื่อ : 4 ก.ย. 54 14:20:43

ความคิดเห็นที่ 67 มาถึงบทสรุปในใจของผม... นิยามคำว่า "หุ้น" ของแต่ละคนคงไม่เหมือนกัน บางคนเค้ารู้สึกว่า "เล่นหุ้น" เพื่อหากำไรส่วนต่างเล็กๆน้อยๆ วันๆก็ต้อง "หาหุ้นเล่น"!!! หรือหาหุ้นที่โวลุ่มมากๆ และมี Gap ราคาให้เข้าทำกำไร แต่ผมหาได้คิดเช่นนั้นไม่!!! ผมคิดเสมอว่่า "หุ้น" มีความหมายว่า "หุ้นส่วน" (หรือ Partnership) หุ้นไม่ได้มีไว้เล่น แต่มีไว้เพื่อ "ลงทุน" คำว่า "เล่น" ควรใช้กับสิ่งอื่น เช่น เล่นไพ่ ,เล่นไฮโล ,เล่นม้า หรือเล่นบอล สำหรับผมแล้ว... "หุ้น" คือ เครื่องมือที่ดีที่สุด ที่จะ Shift Paradigm จากมนุษย์เงินเดือนธรรมดา ขึ้นไปสู่ความมั่งคั่งในระยะยาว มันคือการออมเงิน ในรูปของการลงทุนระยะยาว ...ผมรู้สึกแบบนี้จริงๆ ผมอาจไม่ใช่คนที่คิดถูก แต่ผมก็มีความฝัน คุณจะลองเปลี่ยนแนวคิดดูบ้างไหมครับ ประมาณว่า... "จากวิ่งเร็ว เป็นเดินช้า" อ่ะนะขอรับ ### จบบริบูรณ์ ### (^_^) แก้ไขเมื่อ 04 ก.ย. 54 14:33:15 จากคุณ : Bata (VI นอกคอก) (Again-With-Love) เขียนเมื่อ : 4 ก.ย. 54 14:30:02

ความคิดเห็นที่ 68 สังคมการลงทุนทางอินเตอร์เน็ต ใครจะเข้ามาแสดงทัศนะอย่างไรก็ได้ ข้อมูลเป็นสิ่งที่หาได้ง่ายมาก แต่การคัดกรองข้อมูลเป็นสิ่งที่สำคัญ... เหมือนการทำรายงานของเด็กสมัยนี้บางคนมองว่าง่ายกว่าแต่ก่อนมาก ไม่ต้องถ่อไปถึงหอสมุดแห่งชาติเพื่อไปขอซีรอกซ์หนังสืออนุรักษ์เก่าๆที่เปิดทีแทบจะหลุด แค่ Search google ข้อมูล หลายหมื่นหลายแสนหน้าก็แบออกมาให้เลือกใช้ สิ่งที่ยากคือการแยกขยะออกจากข้อเท็จจริง อันนั้นแหละดิฉันมองว่าเป็นสิ่งที่ยาก ไม่รู้ว่าอันไหนจริงอันไหนเท็จ ซึ่งอาจจะยากกว่าวิธีการหาข้อมูลจากหนังสืออ้างอิงในสมัยก่อนด้วยซ้ำ โดยส่วนตัวก็เพิ่งเป็นทายาทอสูรของหุ้นขึ้นชื่อตัวหนึ่งไป ไม่ได้รู้สึกว่าใครทมิฬเท่าไหร่ แต่รู้สึกว่าตัวเราเองนั่นแหละที่ทำการบ้านมาไม่ดีพอ ... ก็เป็นบทเรียนอีกหน้าหนึ่งสำหรับการลงทุนของคนไม่ทุ่มเทพอแต่หวังจะรวยเหมือนคนอื่น จากคุณ : เม่าศรี ณ.ดอยสูง (ไม้ไต่คู้) เขียนเมื่อ : 4 ก.ย. 54 14:57:10

ความคิดเห็นที่ 69 http://www.thaivi.com/2010/06/527/ VI Effect จากคุณ : solmore เขียนเมื่อ : 4 ก.ย. 54 15:00:53

ความคิดเห็นที่ 70 ต่อจาก #61 ตั้งแต่เล่นหุ้นและรู้จักแนว VI มา เราก็ตั้งใจเรียนรู้แบบค่อยเป็นค่อยไป ต่อมาก็มีเพื่อนๆพี่ๆน้องๆที่รู้จักอยากลงทุนหุ้นบ้าง เข้ามาถามว่าเล่นยังไง ซื้อตัวไหน เลยส่งเวบ TVI ให้อ่านเพียงเวบเดียว แนะนำให้อ่านทีละห้อง มีอะไรไม่เข้าใจมาถาม หรือถ้าอยากจะตั้งกระทู้ถาม ให้ทำความเข้าใจก่อนว่าในเวบไม่ให้ถามคำถามแบบไหน จากที่เคยแนะนำไปแล้วสิบกว่าคน ประมาณ 1/3 สนใจการลงทุนแนวนี้อย่างจริงจัง [ ส่วนอีก 2/3 เลิกยุ่งกับหุ้นไปแล้ว 555 ] ทุกวันนี้ก็เห็นพวกเขาวิเคราะห์หุ้นเป็นกันแล้ว ส่วนตัวไม่เคยทำประโยชน์ให้แก่ TVI เลย รู้สึกทำผิดที่วิจารณ์เวบไว้ที่ความเห็นข้างบน แต่อีกด้านภูมิใจตัวเองนิดๆครับที่ทำให้คนอีก 3-4 คนได้รู้จักการลงทุนจากแห่งเดียวกัน แก้ไขเมื่อ 04 ก.ย. 54 22:03:25 แก้ไขเมื่อ 04 ก.ย. 54 16:02:00 จากคุณ : < h r i s t i A n Vi e ri >> เขียนเมื่อ : 4 ก.ย. 54 15:56:42

ความคิดเห็นที่ 71 เอาใหม่ๆ http://www.youtube.com/watch?v=W_-IIFP7HRM แก้ไขเมื่อ 04 ก.ย. 54 16:22:25 จากคุณ : < h r i s t i A n Vi e ri >> เขียนเมื่อ : 4 ก.ย. 54 16:01:36

ความคิดเห็นที่ 72 คนเราเลียนแบบได้  แต่ไม่เหมือน เอาอย่างได้  แต่ก็ไม่ใช่ ซื้อตามได้  ขาดทุนโทษเขาไม่ได้ ตำราเดียวกัน  แต่ล้านคนก็นำมาใช้ไม่เหมือนกัน วิถีหุ้น  วิถีความคิด  วิถีชีวิต  โคลนนิ่งไม่ได้ จากคุณ : WTKn เขียนเมื่อ : 4 ก.ย. 54 18:07:10

ความคิดเห็นที่ 73 จริงๆ แล้วผมอยากจัดให้ตัวเองอยู่ในพวก "โลกสวยงาม" มากกว่าครับ แต่คงต้องยกเว้นไว้เรื่องที่เกี่ยวข้องกับผลประโยชน์ ผมก็ขอบอกว่าผมก็ไม่ใช่ลิ่วล้อใครที่จะมาเบี่ยงประเด็น แค่อยากบอกสักเล็กน้อย -------------------------------------------------------------- ความคิดเห็นที่ 11 [ถูกใจ] [แจ้งลบ] ติดต่อทีมงาน คนที่ด่า คือคนที่ไม่รู้จักกระทั่งตัวเอง ไม่นานก็ต้องเปลี่ยนแปลง ถ้าเปลี่ยนไม่ได้ก็ต้องถูกคัดออกไปเองอยู่ดีครับ ผมส่วนตัวก็ไม่ชอบเท่าไหร่ที่คนมาโพสติดดอย เลยต้องกลายเป็น VI การถือหุ้นโดยใช้เวลา มันเป็นเศษเสี้ยวเดียวของกรรมวิธีการลงทุนแบบ VI เอง คนส่วนใหญ่ไม่เคยโทษตัวเองว่าพลาด แต่ชอบที่จะหาเรื่องอื่นเพื่อกลบความผิดพลาดของตัวเอง สุดท้ายเมื่อทำบ่อยเข้า จนความผิดพลาดทั้งหลายก่อตัวพร้อมๆกัน ก็จะเข้าสู่ช่วงวิกฤติของชีวิตจนได้... -- และคนๆนั้นก็จะไม่รู้ตัวเองด้วยซ้ำว่ามันเกิดจากอะไร -- ก็ทำไงได้ pantip มันไม่มีห้อง FAQ สำหรับคนใหม่นี่ครับ เหอๆๆๆ -------------------------------------------------------------- ^ ข้างต้นที่ผมยกมา ไม่ได้จะซ้ำเติมใคร แต่แค่จะบอกถึงกฎพื้นฐานของการเอาชีวิตรอดในที่ๆเกี่ยวข้องกับผลประโยชน์ครับ ขอสรุปมาเป็น I.robot chart ง่ายๆ ที่จะบอกว่ามันแตกต่างจากcall centerทมิฬ หรือว่าน้ำป้าเชง... เพราะว่าเล่นกับความเชื่อ แต่ตลาดหุ้นต้นทางกับปลายทางมันจำกัดอยู่แค่นี้ ดังนั้นกระบวนการเกือบทั้งหมดจึงมาเล่นอยู่ที่ตัวราคา... และอันนี้เล่นกับความโลภ คนทำผิดแบบเจตนาสมควรประณามอันนี้แน่นอน คนที่หลงผิดไม่เจตนาน่าสงสารอันนี้ก็แน่นอน แต่ถามว่าเราจะประณามกันอีกกี่รอบ คนที่โดนก็ยังเสียหายอยู่ดี เพราะการประณามมักมาทีหลังเหตุการณ์เสมอ... กี่เรื่องที่ผ่านมาในอดีต x.เซียนหุ้นเก๊แห่งสินธร มาหลอกปล่อยของ x.คนเชียร์หุ้นมาเชียร์เพื่อดันราคา x.เซียนหลังบ้านมาหลอกซื้อขายหุ้นให้ x.... .. ... x.มาถึงแก๊งวีไอทมิฬ ..... และยังคงจะมีต่อไปไม่หยุด เมื่อมันเกี่ยวข้องกับผลประโยชน์ ต้องยอมรับกันก่อนนะครับว่าตลาดหุ้นนี้มันน่ากลัวมาก เกี่ยวข้องกับผลประโยชน์โดยตรง จะมามองโลกสวยงามคงไม่ไหว ถึงจะอยากให้เป็นก็ตาม ถ้าไม่เริ่มป้องกันที่ตัวเอง รับรองว่าจะโดนกลโกงแน่นอนไม่วันใดก็วันหนึ่งครับ คำโบราณว่าไว้ อยู่ใกล้ไฟ ให้ระวัง (ไฟ = อำนาจ,เงินตรา,... หรืออะไรก็ตามที่มันมีคุณอนันต์ก็จะมีโทษมหันต์ได้เช่นกัน) ให้หาวิธีการซื้อขายที่เหมาะกับตัวเราที่สุด ไม่งั้นคุณก็จะโดนคนอื่นมาโปรแกรมการซื้อขายให้โดยไม่รู้ตัว ..... และต่อเนื่องไม่รู้จบครับ   I am robot. ขอจบเท่านี้ครับ (ผมนี่ไม่เหมาะกับเรื่องเครียดๆ เลยให้ตายสิ ^^") จากคุณ : SundayroyaL เขียนเมื่อ : 4 ก.ย. 54 20:56:38

ความคิดเห็นที่ 74 ผมเป็นเเฟนอ่านบทความของคุณอยู่ครับ เมื่อก่อนผมหลงด่าใจว่าลอกบทความของPAKมาตอนนี้ผมเข้าใจเเล้ว แก้ไขเมื่อ 05 ก.ย. 54 08:23:31 จากคุณ : lex999 เขียนเมื่อ : 5 ก.ย. 54 08:23:03

ความคิดเห็นที่ 75 หนึ่งใน Margin of Satisfaction  ของผมคือ Self  Service  Investor   เสาะหาข้อมูลดิบเอาเอง   แล้วก็นำมาปรุงให้สุกด้วยตัวเองครับ ทำแบบนี้ไม่มีปัญหา  ไม่ว่าจะเป็น วีไอทมิฬ  วีไอสิงหล + จากคุณ : endophine เขียนเมื่อ : 5 ก.ย. 54 08:23:26

ความคิดเห็นที่ 76 ขอบคุณ คุณ Again-With-Love ที่เป็นแรงบันดาลใจให้กับผม ^^ จากคุณ : littletale เขียนเมื่อ : 5 ก.ย. 54 08:44:02

ความคิดเห็นที่ 77 เงินของเรา ถ้าจะเจ๊งก็ขอให้เจ๊งด้วยมือเราเองค่ะ เชื่อคนอื่นแล้วเจ๊งมันก็เจ็บใจเป็นธรรมดา  แต่จริง ๆ ก็เพราะความโลภของเราเองทั้งนั้น จากคุณ : คนน่ารักที่อยากรวย เขียนเมื่อ : 5 ก.ย. 54 08:53:36

ความคิดเห็นที่ 78 ถามตัวเองว่า "ตลาดหุ้น" เป็นสิ่งเรา "รัก" หรือแค่ความ "โลภ" .................. บรรดานักลงทุนที่ประสบความสำเร็จในระยะยาว ไม่ไช่ตื่นมา เปิดเวบบอร์ด เปิดตลาด ดูทกเกอร์ แล้วเลือกหุ้นในเวลา 2-3 ชั่วโมงเป็นแน่แท้ จากคุณ : KENG76 เขียนเมื่อ : 5 ก.ย. 54 09:28:41

ความคิดเห็นที่ 80 อ่านเนื้อหา ต้นกระทู้แล้ว ก็เห็นด้วยบางแง่ นะครับ แต่ก็มี ที่เห็นต่างอยู่บ้าง ฝากไว้ พิจารณาละกันครับ v v เนื้อหา โดยรวม เป็นการ Defend วิถีทางของ VI โดยกล่าวในแง่มุมของ ... แนวคิด และ จิตวิญญาณ ในความเห็น ส่วนตัว VI เป็นแค่แนวคิด ในการลงทุนครับ ส่วนเรื่อง จิตวิญญาณ น่าจะเป็น คนะละส่วน หรือ คนละประเด็น ส่วนที่น่าสนใจ คือ... Freudian Slip ในส่วนนี้ v v ซื้อเพราะ "แห่ตาม" ซื้อเพราะ "Volume เข้า" ซื้อเพราะ "สัญญาณเทคนิคดี" หรือซื้อเพราะ..."ความโลภ(ของเราเอง)" และใช้เหตุผลปลอบใจตัวเองว่า "พวกวีไอเค้ายังซื้อกันเลย" คำว่า “วีไอ” มันคือ เหตุผลที่ปกปิดเหตุผลที่แท้จริงลึกๆของเราอยู่...ใช่หรือไม่? ^ ^ โดยส่วนตัว ศึกษามาทั้งสองแนวทาง แม้จะไม่เชี่ยวชาญนัก แต่กล้าบอกได้เลยว่า ถ้าใครใช้เครื่องมือทางเทคนิค กับ JAS โดยที่มีความรู้ ความเข้าใจ ในพื้นฐานของศาสตร์ด้านนี้ เป็นอย่างดี ไม่มีทางขาดทุน หรือ บาดเจ็บ จากกรณีดังกล่าว ไม่ว่าจะใช้  แบบโดดๆ หรือ ผสมกับแนวทาง VI v v TA ก็เป็นศาสตร์ด้านหนึ่ง ซึ่ง ก็เป็นแนวคิดหนึ่ง ในด้านการลงทุน ในบริบทเดียวกัน ถ้ามีคนบอกว่า ท่าน จขกท เข้าใจแนวคิด ดังกล่าว ดีแล้วหรือยัง ก่อนที่ท่าน จะอ้างอิง ในลักษณะข้างต้น ท่านจขกท จะมีความเห็น เป็นประการใด ท่านเชื่อ แบบนั้น เพราะ ท่านได้ศึกษามาอย่างดีแล้ว หรือ เขื่อ เพียงเพราะ เชื่อตาม CI ที่ท่านยึดถือเป็นแบบอย่าง --- จากข้อสังเกต ข้างต้น ทำให้ ข้อเขียนนี้ น่าจะเกิด... Paradox คือ ในขณะที่ พยายามอธิบาย ให้คนเข้าใจในวิถีทางการลงทุนแบบหนึ่ง ที่เชื่อว่า ตนเองเข้าใจดี แต่อาจจะหลงลืมไปว่า กำลังแสดงความเห็น เชิงดูแคลน ในศาสตร์การลงทุน แนวอื่น ที่ตนเอง อาจจะขาดความรู้ หรือ ความเข้าใจ อย่างถ่องแท้ อยู่ในเวลาเดียวกันด้วย   ฝากไว้ ให้พิจารณา ละกันครับ     แก้ไขเมื่อ 05 ก.ย. 54 10:20:30 จากคุณ : The Rounder เขียนเมื่อ : 5 ก.ย. 54 10:04:28

ความคิดเห็นที่ 81 ...Freudian Slip... http://topicstock.pantip.com/klaibann/topicstock/H3758387/H3758387.html จากคุณ : The Rounder เขียนเมื่อ : 5 ก.ย. 54 10:07:13

ความคิดเห็นที่ 82 เรียน  คุณ The Rounder (คห.ที่ 80) หามิได้ครับ... ผมเองแอบชื่นชมคนที่มีความสามารถในการลงทุน "แนว Technical" เช่นเดียวกัน เพราะผมจบวิศวะฯ ไฟฟ้า ม.เกษตร และผมเองก็ "หลงใหล" ในวิชา "คณิตศาสตร์" เอามากๆเสียด้วย วิชา Math Doc. และวิชา Quantitative Analysis ล้วนแล้วแต่เป็นวิชาโปรดของผม ผมมองเสมอ ว่า... กราฟ...คือเครื่องมืออันทรงประสิทธิภาพ ที่สามารถเก็บข้อมูล และ History ในรูปแบบที่เราสามารถนำวิเคราะห์ได้ง่าย ผมเองเชื่อว่า เครื่องมือ หรือ สมการต่างๆ(Equation)...ที่ผ่านการศึกษามาหลายสิบปี ย่อมสามารถอธิบายความเป็นไป และธรรมชาติของการเคลื่อนไหวของราคาหุ้น สมการก็น่าจะสามารถ Represent นิสัยของหุ้นได้เช่นเดียวกัน เนื่องจากพฤติกรรมของนักลงทุนไม่เคยเปลี่ยน (กล่าวคือถูกขับเคลื่อนด้วยความโลภและความกลัวเสมอมา) ผมเชื่อว่า นี่คือหนึ่งใน "ปรากฏการณ์เกิดซ้ำๆ" วิชา Communication ที่ผมเคยเรียน "สัญญาณ Digital ของมือถือ" อันซับซ้อน...ยังสามารถอธิบายได้ด้วยวิชาคณิตศาสตร์ ผ่านสมการฟูเรียร์อันซับซ้อน ดังนั้น ผมเชื่อมั่นว่า... การเคลื่อนไหวของราคาหุ้น และพฤติกรรมของนักลงทุน ย่อมสามารถอธิบายได้ด้วยคณิตศาสตร์เช่นเดียวกัน การเลือกใช้ "เครื่องมือทางเทคนิค" ก็น่าจะเหมือน "การเลือกหัวไม้กอล์ฟ" เวลาเรา "ออกรอบ" กล่าวคือ "หัวไม้แต่ละประเภท" ก็ย่อมเหมาะสมแตกต่างกันไปใน "แต่ละ สถานการณ์" มันอยู่ที่เราจะต้อง "ฉลาด" ในการเลือกหยิบมาใช้ รวมทั้ง ผมพอรู้มาว่า การใช้เทคนิค เราเองก็ต้องอยู่เหนือสิ่งที่เรียกว่า "ความโลภ" และ "ความกลัว" เช่นเดียวกัน ด้วยกฏเหล็กที่คุ้นหู ที่ว่า "เราต้องมีวินัยการลงทุน!!!" ผมเองปรารถนาจะเรียนวิชาเหล่านี้ไว้ประกอบความรู้เช่นกัน เพียงแต่ผมยังไม่มีเวลา และโอกาสที่ดีเท่านั้น (ตอนนี้จึงยังรู้แบบงูงูปลาปลาอ่ะนะขอรับ) ถ้าผมมีเวลา ผมอาจจะสมัครที่กิมเอ็ง เพื่อที่จะเข้าอบรมการใช้ e-Finance เช่นกัน "รู้เขา-รู้เรา...ย่อมได้เปรียบ" ...ผมรู้สึกแบบนี้จริงๆครับ ด้วยความเคารพครับ pak แก้ไขเมื่อ 05 ก.ย. 54 10:26:16 แก้ไขเมื่อ 05 ก.ย. 54 10:23:16 จากคุณ : Bata (Again-With-Love) เขียนเมื่อ : 5 ก.ย. 54 10:18:38

ความคิดเห็นที่ 83 ^ ^ แสดงว่า เป็น ...Freudian Slip  จริงๆด้วย   ด้วยความเคารพ เช่นกันครับ จากคุณ : The Rounder เขียนเมื่อ : 5 ก.ย. 54 10:23:54

ความคิดเห็นที่ 84 555  วีไอสิงหล จากคุณ : Pigfarm เขียนเมื่อ : 5 ก.ย. 54 10:26:51

ความคิดเห็นที่ 85 คำว่า วีไอทมิฬ น่าจะมาจากการพาดหัวข้อข่าว ของหนังสือพิมพ์หละครับ ข่าวมีไว้ขาย มีการใส่ไข่เพื่อผลประโยชน์เป็นธรรมดา ส่วนคำว่า วีไอ ก็ไม่ได้มีคำแปลในพจนาณุกรรม ดังนั้นใครใคร่แปลเป็นแบบใดก็ได้ แต่หากให้ผมแปล ก็คง เป็นการลงทุนในกิจการ ดังนั้น การซื้อแต่ละครั้งก็ต้องมีการคิดอย่างดีแล้ว ซื้อแล้วถือไปตราบจนกว่าพื้นฐานจะเปลี่ยน แต่ หลายๆคนผมก็เห็นเก็งกำไรจากมูลค่าทั้งนั้นหละครับ น้อยคนที่จะซื้อแล้วถือยาว หลายคนได้กำไรจนเป็นที่พอใจก็ขาย โดยพื้นฐานยังไม่เปลี่ยน เงินไม่เข้าใครออกใครหรอกครับ บางคนว่า วีไอ คือ หากหุ้นต่ำกว่าพื้นฐานคือซื้อ เกินพื้นฐานคือขาย  หากแบบนั้นผมว่าเป็นการเก็งกำไรนะ เพราะ หากเป็นการลงทุน น่าจะขายตอนพื้นฐานกิจการเปลี่ยน บ้านเราคนที่มีจิตวิญญาณเป็น วีไอตัวจริง ผมว่านับคนได้หละครับ ทีเหลือ ก็อยากให้หุ้นตัวเองขึ้นทั้งนั้นหละ ส่วนรายย่อยก็เป็นธรรมด ที่ชอบโทษนั้นโทษนี้ ทั้งๆ ที่ไม่มีใครบังคับให้ซื้อขาย หากเขารู้จักโทษตัวเอง พัฒนาตัวเอง ก็คงไม่เป็นรายย่อยแบบนี้หรอกครับ จากคุณ : Jeonathan เขียนเมื่อ : 5 ก.ย. 54 11:03:32

ความคิดเห็นที่ 86 มีคนเคยเล่าว่า ตลาดหุ้นมีท่านเค้าอยู่เบื้องหลัง คอยควบคุมราคา ท่านเค้าที่ว่า ก็คือ ... เค้าว่ามา......... เค้าว่ารายใหญ่จะปั่น เค้าว่าเจ้ามือทุบ เค้าว่าหุ้น A จะวิ่งชนเพดาน เค้าว่าหุ้นตัวนั้น ตัวโน้นดีๆ เค้าว่ามา .... ! จากคุณ : shine-rise เขียนเมื่อ : 5 ก.ย. 54 12:14:53

ความคิดเห็นที่ 87 ขวัญอ่อน ก็ออกจากตลาดเถอะครับ จากคุณ : x-philes เขียนเมื่อ : 5 ก.ย. 54 12:58:17

ความคิดเห็นที่ 88 มันเป็นเกมเราเลือกที่จะเข้ามาเล่นเกมนี้แล้วเราจะไปโทษคนอื่นทำไม จากคุณ : ระวีรุ่งสว่าง เขียนเมื่อ : 5 ก.ย. 54 15:53:02

ความคิดเห็นที่ 89 ขอเก็บไว้เป็นตัวอย่างครับ จากคุณ : zylinz เขียนเมื่อ : 5 ก.ย. 54 17:25:48

ความคิดเห็นที่ 90 ตลาดหุ้น.. แนวทฤษฎีต่างๆ..  ไม่ต่างกับห่วงโซ่อาหาร ปัญหาไม่ได้อยู่ที่ว่า   ใครพูด หรือทำอะไร ความสำคัญ.   อยู่ที่เรา กำลังทำอะไร  ด้วยความเคารพ         แก้ไขเมื่อ 05 ก.ย. 54 18:21:22 จากคุณ : werasiri เขียนเมื่อ : 5 ก.ย. 54 18:15:26

ความคิดเห็นที่ 91 KU EE29 คารวะศิษย์พี่ครับ ^^ รุ่นท้ายๆก่อน dr.สุศักดิ์ แห่ง Math Doc. จะเกษียณครับ วิชาที่เครียดที่สุดตั้งแต่เรียนมา midterm "0" ไม่ดร๊อป เพราะ 0 และ 1 (เต็ม 30) กันเกือบครึ่งชั้นเรียน ^^" สุดท้ายตามตำนานเป๊ะ ผ่านมาได้ด้วย"ดี" ^^"_/|\_ จากคุณ : SundayroyaL เขียนเมื่อ : 5 ก.ย. 54 18:22:24

ความคิดเห็นที่ 92 ความจริงจะซื้อตาม VI เขาก็คงไม่ถึงกับเลวร้าย กรณี JAS / PTL ผมเชื่อว่าเกินครึ่งที่ซื้อตามน่าจะกำไรด้วยซ้ำ แต่ปัญหาคือกำไรแล้วไม่ขาย เห็นไป 3 บาทกว่าก็จะเอา 4 บาท นี่ถ้ามันไปต่อ 4 บาทกว่าก็คงไม่มานั่งด่าอยู่อย่างนี้ คงเปลี่ยนแนวตั้งกระทู้เทิดทูน VI  แถมเออออกันเอง ใส่เป้าใหม่กันเองรายวัน ยังหวังว่าศาสดาจะมาแจ้งให้ทราบตอนขายกันจริงๆหรือ ถ้าคิดสักนิดมองโลกอย่างเป็นธรรม ท่านก็น่าจะทราบได้เองว่าคงไม่มีใครเขาหยิบยื่นกันให้ขนาดนั้น ถ้าเราอาศัยกินปลาของคนอื่นโดยไม่รู้อะไรเลย หวังจะมาได้เท่าเขานั้นคงยาก เป็นผมจะ discount ราคาเป้าลงมาพอควรให้สมกับความรู้และความพยายามที่ผมใส่ไปในหุ้นตัวนั้น ถ้าหวังกำไรแค่ 10-20% ผมว่าส่วนใหญ่ได้ตังค์กันทุกคน ปัญหาคืออยากติดเด้งอยากถือยาว(ทั้งที่ซื้อเกือบปลายทาง)เหมือนพวก VI เขาก็เลยกลายเป็นเดี้ยงแทน มานึกถึง VI รายใหญ่ เป็นผมเองถ้าถือหุ้นหลักร้อยล้านหุ้นแล้วมีพรรคพวกถือหุ้นในระดับเดียวกับเราอยู่หลายคนนี่ก็คงเครียดมากว่าสบายใจ ในใจคงนั่งคิดเมื่อไหร่ทางโน้นมันจะขายหว่า ขายทีหลังนี่เงินหายไปเป็นสิบล้านเลยน๊ะนั่น ขอบคุณพี่ จขกท มากครับ บทความและความคิดเห็นของพี่มีประโยชน์มากครับ จากคุณ : ปอป้อง เขียนเมื่อ : 5 ก.ย. 54 22:19:59

ความคิดเห็นที่ 93 VI = Very Innocent จากคุณ : Joey999 เขียนเมื่อ : 6 ก.ย. 54 10:47:06

ความคิดเห็นที่ 94 เข้าซื้อตั้งแต่ 0.50 - 1 บาท เป็น VI (Value Investor) เข้าซื้อตั้งแต่ 3 บาท เป็น VI (Very Idiot) ราคาตั้งแต่ 3 บาทไม่มีเหตุผลสนับสนุน การซื้อที่ราคานั้นคือการ Speculate ไม่ใช่ Investment เพื่อนผมมี JAS ที่ 0.40 บาท มันยังเฉยๆเลยที่ลงมา มันแค่ลด Port จาก หลัก 10 ล้านหุ้นมาเหลือ 1 ล้านหุ้น ซึ่งก็ทยอยขายตั้งแต่ขาขึ้นเกิน 3.5 บาท ซึ่งเป็นราคาที่มันมองว่าไม่น่าจะไปถึงได้ใน 2 ปี จากคุณ : coolknott เขียนเมื่อ : 6 ก.ย. 54 11:45:24

ความคิดเห็นที่ 95 ซื้อแล้วติดดอยอ้างว่าเป็น VI VI = Very Idiot บอกเป็น VI ซื้อ ADVANC VI = Very Idiot หาคนที่ VI จริงๆได้แทบไม่เจอ VI ทมิฬ นั้นก็มีอยู่บ้าง ประเภทซื้อแล้วเชียร์ขึ้นออกสื่อ อะไรประมาณนี้ น่าจะเรียกได้ว่า VI ทมิฬ จากคุณ : น้องส้มเด็กดี เขียนเมื่อ : 6 ก.ย. 54 14:33:19

ความคิดเห็นที่ 96 ตลาดหุ้นก็แบบนี้  อะไรจริง อะไรเท็จ เราไม่รู้ ถ้าเรารู้จากเขา แปลว่า เค้าก็รู้กันแล้วถึงมาบอกเรา เพราะฉะนั้น เราต้องหาทางรู้เอาเองไปด้วย ตนเป็นที่พึ่งแห่งตน แก้ไขเมื่อ 06 ก.ย. 54 15:15:03 จากคุณ : นินจาคาปูชิโน่ เขียนเมื่อ : 6 ก.ย. 54 15:13:19

ความคิดเห็นที่ 97 ยังเป็นห่วงรายย่อย ที่เข้าไปดูใน 100 คนร้อยหุ้น ที่มีการเรียกแขกหุ้นบางตัวอย่างออกนอกหน้า ตอนนี้ หุ้นหวย ก็เริ่มมีการ post เรียกแขกแล้ว ไม่รู้ว่าเป็นพฤติกรรมซ้ำๆ ของ กลุ่มเดิมๆไหม หรือเป็นกลุ่มใหม่ เจริญรอยตาม จากคุณ : thrill เขียนเมื่อ : 9 ก.ย. 54 09:26:34