ความคิดเห็นที่ 1 ตอนนี้ก็กำลังเป็นเช่นนั้นอยู่ครับ อันที่จริงเค้าเริ่มกันมานานมากแล้วครับ และสะสมเป็นเงินสกุลอื่นๆไปด้วย สกุลที่มีเสถียรภาพสูง ที่ไม่ใช่ดอลลาร์สหรัฐ จากคุณ : venezier เขียนเมื่อ : 11 ก.ย. 54 16:13:53

ความคิดเห็นที่ 2 แล้วเวลาจำเป็นต้องใช้เงิน ก็ต้องขายทอง แล้วจะรับเงินเป็นสกุลอะไรดี ถ้าถามว่าเป็นไปได้มั๊ย ที่ทั่วโลกจะเปลี่ยนเงินทุนสำรองจากเงินสกุลดอลล่า ก้เป็นไปได้ เมื่อโลกพร้อมใจกัน เลิกใช้เงินดอลล่า เป็นเงินกลางในการซื้อขายสินต้า จากคุณ : delight เขียนเมื่อ : 11 ก.ย. 54 16:17:26

ความคิดเห็นที่ 3 ส่วนประเทศที่มีทุนสำรองเป็นดอลลาร์สหรัฐ (หน่วยเป็น พันล้านเหรียญ)/ข้อมูลอัพเดท กลางปี 2011 1. จีน 3,197 2. ญี่ปุ่น 1,138 3. รัสเซีย 531 4. ซาอุดิอารเบีย 497 5. ไต้หวัน 400 6. บราซิล 352 7. อินเดีย 318 8. เกาหลีใต้ 311 9. สวิตเซอร์แลนด์ 289 10. ฮ่องกง 277 11. สิงคโปร 249 12. เยอรมัน 231 13. ไทยแลนด์ 186 <<<<< 14. ฝรั่งเศส 182 15. อิตาลี 170 16. อัลจีเรีย 155 17. สหรัฐอเมริกา 143 18. แมกซิโก 136 19. มาเลเซีย 134 20. อินโดนีเซีย 122 คำถามคือประเทศไทยจำเป็นต้องมีทุนสำรองเป็นสกุลดอลลาร์สหรัฐ "มากมาย" ขนาดนี้เลยเชียวหรือ? ซึ่งมีมากกว่าประเทศฝรั่งเศสเสียอีก และยังมากกว่าสหรัฐอเมริกาเจ้าของเงินซะด้วย ในช่วงที่ผ่านมาเราสะสมเงินสกุลดอลลาร์มากเกินไป มันจึงเป็นคำถามกับนักเศรษฐศาสตร์ในช่วงนี้ว่า ประเทศไทยเรามั่งคั่งขึ้น หรือว่าผู้ดำเนินนโยบายการคลังของเรา ความรู้น้อย ปัจจุบันดอลลาร์สหรัฐ ด้อยค่าลงเรื่อยๆ แน่นอนทุนสำรองเราก็จะด้อยค่าลงไป จะดีกว่ามั้ยถ้าหากเราเอาเงินเหล่านี้ไปลงทุน? หรือว่าแปลงเป็นทรัพย์สินสกุลเงินอื่นๆ? หรือเร่งสะสมเป็นทองคำให้มากขึ้น? หรือเอามาพัฒนาสาธารณูปโภค และการศึกษาสำหรับประชาชน? จากคุณ : venezier เขียนเมื่อ : 11 ก.ย. 54 16:21:08

ความคิดเห็นที่ 4 ทองคำที่ฟอร์ทน็อกของอเมริกามีแค่1500ตัน ส่วนไทยมี130ตันซึ่งคิดเป็นเพียง3%ของทุนสำรองฯของไทย ถ้าไทยจะซื้อทองจากธนาคารกลางของอเมริกามาทั้งหมดก็ยังมีมุลค่าแค่สามสิบเปอร์เซ็นต์ของทุนสำรองเอง มูลค่าเงินหมุนเวียนในโลกนี้มันมีมากมายเกินกว่าจะใช้ทองคำมาเป็นทุนสำรองได้แล้วละครับ จากคุณ : พ่อมดหมอดู เขียนเมื่อ : 11 ก.ย. 54 16:31:53

ความคิดเห็นที่ 5 คุณ  venezier ไม่น่าแปลกใจนะ มีทำไมประเทศยุโรปมีเงินสำรองเป็นเงินดอล่าน้อยซะส่วนใหญ่ ก็เขาค้าขายกันเองในยูโรโซนซะมาก ก็ต้องสำรองเป็นเงินยูโรมากกว่าเงินดอลล่า ก็ไม่เห็นมีอะไรแปลก  แต่ประเทศไทย ค้าขายกับยุโรป น้อยกว่า อมริกา และเอเชียด้วยกัน เราซื้อของจากจีน จีนก็โค้คราคาเป็นดอลล่า แล้วจะให้เราสำรองเงินสกุลอะไรดีละ จากคุณ : delight เขียนเมื่อ : 11 ก.ย. 54 16:43:49

ความคิดเห็นที่ 6 #5 ผมว่าลดการสำรองเป็นดอลล่าร์ ไปอยู่ในรูปแบบอื่นๆบ้างก็น่าจะยืดหยุ่นกว่านะครับ ทำไมต้องยึดติดในสิ่งที่ดูแล้วมีแนวโน้มเสี่ยง เขาให้คนเก่งมาดูแลแบงค์ชาติ ไม่ใช่เข้ามาแล้วไม่ทำอะไรที่ดีขึ้นแต่ยึดอยู่แบบเดิมๆโดยไม่ใส่ใจอะไรทั้งสิ้นมันโง่มากครับ จากคุณ : kriengchai เขียนเมื่อ : 11 ก.ย. 54 16:49:12

ความคิดเห็นที่ 7 หากถามต่อไปอีกว่าเราควรจะทำอย่างไรกับระบบสกุลเงินของโลกต่อไปดีล่ะ? หากดูจากผังแบบง่ายๆจะเห็นว่าดอลลาร์มีปริมาณการสำรองน้อยลงเรื่อยๆนับตั้งแต่ยูโรมีบทบาทมากขึ้น ดังนั้นคนจึงหันเข้าหายูโรแทน ส่วนเงินยูโรก็มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆเล็กน้อย แต่พักหลังๆก็หักหัวลงจากปัญหาหนี้ยุโรป ส่วนญี่ปุ่นนี่ขึ้นๆลงๆเอาแน่เอานอนไม่ได้ และเช่นเดียวกับปอนด์สเตอร์ลิง ที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเล็กน้อยมาโดยตลอดเช่นกัน คำถามคือเราควรสะสมเงินสกุลไหนดีล่ะ? - ดอลลาร์? อเมริกามีหนี้มาก และเงินสกุลดอลลาร์กำลังอ่อนค่าลง โดยเฉพาะมาตรการ QE ต่างๆยิ่งเร่งให้เงินดอลลาร์อ่อนค่าลง - ยูโร? มีหนี้มาก มีปัญหาหนี้ ในระยะสั้นและระยะกลาง เงินยูโรจะยิ่งอ่อนค่าลง ก็ยังไม่ดีอีก - สวิสฟรังก์? ตอนนี้เริ่มสู้ค่าเงินมากขึ้น กำหนดอัตราแลกเปลี่ยนใหม่ พูดให้ง่ายคือสวิสเองก็พยายามกดค่าเงินตัวเองลงมา - เยน? ญี่ปุ่นเองเป็นประเทศผู้ส่งออก และมีการแทรกแซงค่าเงินอยู่เป็นประจำเพื่อให้การส่งออกได้กำไรมากขึ้นจากค่าเงินที่อ่อนค่า - ปอนด์? อังกฤษเองก็น่าสนใจ ฐานะและระบบการคลังดี แต่อยู่ในกลุ่มยูโรโซน หลีกเลี่ยงไม่ได้ที่ต้องเจอหางเลขเข้าไปด้วย - หยวน? เศรษฐกิจจีนเองยังไม่มีเสถียรภาพมากพอที่จะกอบกู้วิกฤตการเงินโลก และจีนเองก็ถือเงินดอลลาร์ไว้มาก ไม่เวิร์ค อันนี้เริ่มดูดีขึ้นมาหน่อย - ดอลลาร์ ออสเตรเลีย? ประเทศใหญ่ แต่ใจเล็ก ไม่ได้มีเสถียรภาพมากพอที่จะให้ประเทศอื่นๆถือครองเงินตัวเองมากมายได้อยู่แล้ว (แต่ก็น่าเก็บไปคิด เพราะออสเตรเลียพักหลังมีความสามารถในการหลบหลีกปัญหาเศรษฐกิจโลกได้เป็นอย่างดี) - รูเบิ้ลรัสเซีย? ประเทศใหญ่ ทรัพยากรเยอะ เป็นหนึ่งในประเทศเศรษฐีใหม่ ความสามารถที่แอบแฝงมีอยู่เยอะ แต่ระบบเศรษฐกิจ ของรัสเซียเองก็ไม่ได้นับว่าจะดีมาก ก็ไม่แน่ในอนาคตรัสเซียอาจกลับมาเป็นพี่ใหญ่ของโลกแทนสหรัฐก็ได้ ใครจะไปรู้ และไทยเองก็ มีสัมพันธ์อันดีกับรัสเซียอยู่มากพอสมควรอยู่แล้ว ประเทศอื่นๆจะเข้ารัสเซียต้องขอวีซ่าเป็นการใหญ่ ประเทศไทยใช้พาสปอร์ตเข้าได้เลยนะจ๊ะ หรือจะทำเป็นรูปแบบใหม่ อันนี้แบบที่ผมคิดเอาไว้เองอย่างคร่าวๆ 1. ให้ IMF ออกผลิตภัณฑ์ใหม่เป็น "ตราสารสกุลเงิน IMF" ออกมา โดยเป็นสกุลเงินหลักสกุลเงินใหม่ของโลกไปเลย 2. เมื่อ IMF ออกตราสารออกไปให้ประเทศต่างๆ สมมติ ไทย แลก 1 IMD (IMF Dollar) = 1 IMD / 1 USD แลกไปจำนวน 100 ล้าน USD ได้มา 100 ล้าน IMD โดยค่าเงิน IMD มัน FIX ตายตัวอยู่แล้ว และ IMF ไม่ได้ให้ผลตอบแทนใดๆ กับตราสารสกุลเงิน (อย่างพันธบัตรมีผลตอบแทนดอกเบี้ย แต่ IMD ไม่มี) แน่นอนว่าไม่ได้ผลตอบแทน แต่ได้ความมั่นคง ประเทศที่มี ตราสาร IMD ก็สามารถพิมพ์ธนบัตรออกมาได้ตามปกติ ส่วนสกุลเงินของเราที่ซื้อตราสาร IMD จำนวนเงินเหล่านั้น IMF ก็อาจจะใช้ในการซื้อทองคำสะสม หรือนำเงินของเราไปปล่อยกู้กับประเทศอื่นๆ เพื่อสร้างฐานะรายได้ของ IMF ขึ้นมา แน่นอนว่าในโครงการนี้มีความเสี่ยง และที่สำคัญคือ IMF จะมีฐานะที่มั่นคงขึ้นเรื่อยๆจากการที่ไม่มีรายจ่ายจากภาระดอกเบี้ย เพราะฉะนั้น IMF จะกลายเป็นองค์กรกลางในการดูแลค่าเงินของโลก และเสถียรภาพของ IMF ค่าเงินจะแข็งค่าลงไปเรื่อยๆ ดังนั้นมันจะเหมือนสภาพคล่องของโลกถูกดูดซับออกไปโดย IMF และ IMF จะยิ่งรวย แต่มันมีทางแก้คือในแต่ละปี หาก IMF ดูแล้วว่า สภาพคล่องของโลกถูกดูดซับมากเกินไป รวมถึง IMF ได้ดอกเบี้ยจากการปล่อยกู้ประเทศต่างๆเยอะมาก ดังนั้น IMF อาจจะพิจารณา ในการคืนดอกเบี้ยให้กับประเทศที่ซื้อตราสาร IMD ออกไปเพื่อเป็นการคืนเงินให้กับประเทศต่างๆเหล่านั้น นำสภาพคล่องกลับไปหมุนเวียนในโลก และมันก็จะเกิดเป็นการหมุนเวียนต่อระบบเศรษฐกิจออกไป และก็เป็นการวนๆ ไปเรื่อยๆ ของระบบเศรษฐกิจ อันนี้มันแค่ความคิดแบบเบื้องต้น ถ้าจะทำจริงคงต้องพิจารณากันอีกยาวไกลถึงรายละเอียดและหลักเกณฑ์มหาศาล แก้ไขเมื่อ 11 ก.ย. 54 16:57:09 จากคุณ : venezier เขียนเมื่อ : 11 ก.ย. 54 16:50:08

ความคิดเห็นที่ 8 ตราบใดที่สหรัฐยังคุมบ่อน้ำมันทั่วโลกไว้ และบังคับให้ประเทศผู้ส่งออกน้ำมันให้ซื้อขายด้วยสกุลเงิน us ดอลล่าห์ ตราบนั้นโลกก็ยังต้องการเงินดอลล่าห์อยู่ ถึงแม้มันจะเสื่อมค่าไปแค่ไหนก็ตาม โอเปกเคยพยายามจะไม่ใช่เงินสกุลสหรัฐ แต่ก็ถูกขอร้องแกมบังคับให้กลับมาใช้เหมือนเดิม ทำให้ประเทศต่าง ๆ ทั่วโลกต้องสำรองเงินสหรัฐไว้ จากคุณ : เทวดาน้อย เขียนเมื่อ : 11 ก.ย. 54 17:07:12

ความคิดเห็นที่ 9 ปัญหาคือทองคำในโลกมีปริมาณเท่าไหร่ และเพียงพอที่จะทดแทน USD รึมั้ย สมัยก่อนที่จะมี USD เป็นที่ยอมรับ จำได้ว่าเคยใช้ทองกันไปรอบนึงแล้ว และเพราะมันมีปริมาณไม่เพียงพอทำให้ USD ได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ จนทองคำลดความนิยมไป ก็ไม่รู้ว่าโลกกำลังหมุนไปในทางไหนนะครับ จับทางยังไม่ถูกเลย จากคุณ : hunchback เขียนเมื่อ : 11 ก.ย. 54 18:07:16

ความคิดเห็นที่ 10 เวลาเราบอกว่า มีทุนสำรองเป็นดอลลา สรอ. ไม่ใช่หมายความว่า เราถือเงินสดของเขานะครับ ถ้าหาข้อมูลเพิ่มจะรูว่า แบงค์ชาติถือพันธบัตรของสหรัฐ ถามว่า ทำไม จึงยังถืออยู่มาก เพราะค่าเงิน สรอ ลงมาเรื่อยๆ ไม่ใช่ไทยประเทศเดียว ลองไปดู จีน ญี่ปุ่น เกาหลี ว่า เขาถือพันธบัตร สรอ มากไหม ถ้าเช้นนั้น ธนาคารกลางของทั่วโลก คงจะโง่มากๆ โดยพร้อมเพรียงกัน ปัจจัยสำตัญมากๆ ที่ ทั่วโลกยังถืออยู่มาก คือ ความมีสภาพคล่องสูง และความลึกของตลาดสูงมากครับ เวลาต้องการเงิน สามารถเปลี่ยนเป็นเงินสดได้เร็ว และในจำนวนมากๆ ได้ นอกจากนี้ ธนาคารกลางส่วนใหญ่จะถือยาวมากๆ ทำใหผลกระทบจากค่าเงืนต้องดูในระยะยาวมากกว่าระยะสั้นครับ ถามต่อว่า ธนาคารกลางไม่ทำอะไรเลยหรือ ก็ไม่ใช่อีกแหละครับ ผมว่า ทุกประเทศ ก็พยามกระจายการลงทุน แต่คงไม่สามารถบอกสาธารณะได้ เพราะจะมีผลกระทบต่อราคา ส่วนตราสารของ IMF นั้น เรียก SDR ครับ เดี๋ยวนี้ไม่ค่อยมีกันแล้ว ลองค้นดูครับ จากคุณ : ปะป๊าหนูกริ๊ง เขียนเมื่อ : 11 ก.ย. 54 18:31:38

ความคิดเห็นที่ 11 SDR นั่นเข้าใจดีครับ โดยหลักที่ผมคิดมันก็มาจาก SDR เพียงแต่ SDR มันมีข้อจำกัดหลายประการเช่น เรื่องของสกุลเงินและความแพร่หลาย รวมถึงหลักการใช้งานก็ไม่เกิดความคล่องตัวเช่นกัน แล้วมันก็ไม่ได้เป็นสื่อในการแลกเปลี่ยนได้ด้วย ดังนั้นความสำคัญมันจึงลดลง อันที่จริงเราคงไม่ต้องคิดอะไรกันมากมายถ้าหากสหรัฐใช้เงินอย่างถูกวิธีและไม่ออกมาตรการประหลาดๆให้ค่าเงินของตัวเองอ่อนค่าลง แน่นอนว่าสหรัฐเองอยากให้ค่าเงินตัวเองอ่อนเพื่อให้ได้ดุลการค้า เพียงแต่สหรัฐเองบางทีใช้มาตรการเหล่านั้นซึ่งเป็นการ "เร่ง" ให้เงินตัวเองอ่อนค่าลงอย่างรวดเร็ว แทนที่จะค่อยๆให้มันอ่อนลงมาเรื่อยๆ อาจจะใช้มาตรการอะไรก็ได้ แต่ให้เป็นไปอย่างช้าๆ ซึ่งผลกระทบคือแน่นอนสหรัฐเองได้ดุลการค้าในเวลาอันรวดเร็ว แต่ในขณะเดียวกันประเทศอื่นๆก็เสียดุลการค่าอย่างน่ากลัวเช่นกัน เช่นเดียวกับประเทศที่ส่งออกอื่นๆ จะทำอะไรก็ไม่ได้ นอกจากทำใจ ยอมรับสภาพเพราะพี่ใหญ่ของเราต้องการให้เป็นก็ต้องเป็น ปริมาณเงินและสภาพคล่องมหาศาลอันนั้นก็เข้าใจดี และแน่นอนผมเข้าใจด้วยว่าการมองในระยะยาวมันถูกต้องอยู่แล้ว แต่ยิ่งสหรัฐทำแบบนี้ และยิ่งคาดว่าจะมีเพิ่มเติมอีกในอนาคต ก็ยิ่งมั่นใจได้เลยว่าดอลลาร์สหรัฐ คงเป็นสกุลเงินที่ไม่น่าไว้ใจเสียแล้ว สุดท้ายสหรัฐพัง ก็พังทั้งโลกอยู่ดี จากคุณ : venezier เขียนเมื่อ : 11 ก.ย. 54 19:02:12

ความคิดเห็นที่ 12 ทองคำของสหรัฐ เท่าที่มีคือประมาณ 8 พันตัน ซึ่งเป็นจำนวนที่นิดหน่อยมากเมื่อเทียบกับโลกของเราที่มีทองคำอยู่ประมาณ 160,000 ตัน (ข้อมูลจาก NGM ม.ค.52) ซึ่งหากเรามาลองคำนวณดูจากปริมาณทองคำ "ทั้งโลก" ที่มีประมาณ 160,000 ตัน จะมีมูลค่าประมาณ 9 ล้านล้านเหรียญเท่านั้นเอง ในขณะที่สหรัฐปัจจุบันมีหนี้สูงเกือบ 15 ล้านล้านเหรียญ ดังนั้นต่อให้สหรัฐเป็นเจ้าของทองคำทั้งโลก ทั้งที่อยู่บนนิ้ว บนคอ ของคนทั้งโลกด้วย ก็ไม่สามารถชำระหนี้สินได้หมดอยู่ดี ทองคำจึงตัดทิ้งไปได้เลยว่าจะใช้หนี้ให้สหรัฐได้ -  32.1508 ทรอยออนซ์ = 1 กิโลกรัม x 1,000 กิโลกรัม = 1 ตัน ดังนั้นเท่ากับ 32,150.8 ทรอยออนซ์ คือ 1 ตัน -  160,000 ตันที่โลกมี (โดยประมาณ) x 32,150.8 = 5,144,128,000 -  1 ทรอยออนซ์ = 1,900 เหรียญ (ราคาสมมติฐานสูงสุดไปเลย) x 5,144,128,000 = 9,773,843,200,000 เหรียญ ณ เวลานี้ ปัญหาหลักอยู่ที่ระบบการคลังของสหรัฐมากกว่า ... น่าจะถึงเวลาแล้วที่สหรัฐต้องใช้มาตรการรัดเข็มขัด ใช้หนี้ และขายทรัพย์สิน ผลที่ตามมาคือในช่วงระยะหนึ่งประเทศอื่นๆจะขาดดุลการค้าเพราะสหรัฐจะไม่มีแรงซื้อมากอย่างแต่ก่อน แต่ก็แน่นอนว่าสภาพเศรษฐกิจ มันจะถูกปรับตัวได้ด้วยตัวของมันเอง และสหรัฐเองก็คงจะฟื้นได้ในระยะเวลาไม่นาน แต่ยิ่งสหรัฐยื้อหนี้สินออกไป ก็ยิ่งมีแต่จะเพิ่มพูน สภาพเศรษฐกิจโลกที่พึ่งดอลลาร์ สุดท้ายก็จะทรุดลงไปด้วย ไม่ว่าจะอย่างไร ไม่ว่าจะวันใดวันหนึ่ง มันก็จะ Crash อยู่ดี เพียงแต่จะวันไหนเท่านั้นเอง จากคุณ : venezier เขียนเมื่อ : 11 ก.ย. 54 19:08:31

ความคิดเห็นที่ 13 ผมว่า นะ ทุกประเทศ ไม่ต้องการให้ค่าเงินของตัวเองแข็งขึ้นหรอกครับ เพราะฉนั้นเค้าก็จะผูกกับ ดอลล์ล่า ต่อไป เพราะคุณจะไม่ยอมศูนย์เสีย งานในประเทศไป ลองคิดดูว่าถ้าค่าเงินแข็ง อุตสาหกรรม การผลิต ก็จะต้องไหลไปที่ๆ ค่าแรงถูก เค้าจึงจงใจทำให้ค่าเงินตัวเองต่ำๆ จากคุณ : rinPCB เขียนเมื่อ : 11 ก.ย. 54 20:03:51

ความคิดเห็นที่ 14 เหล็กดีกว่าครับ จากคุณ : chai012 เขียนเมื่อ : 11 ก.ย. 54 20:35:18

ความคิดเห็นที่ 15 ผมว่า น่าจะตุนเงินหยวน ไว้นะครับ  เพราะยังไง  เสีย อีกไม่นานก็ต้องแข็งค่าขึ้นไปเรื่อยๆ   ก็พวก ค้าขายได้แต่เงินประเทศอื่นๆมากองเป็นภูเขาจนจะทับตายอยู่แล้ว    ประหลาดคือ  ไทยได้ดุลย์การค้าจีนเป็นจำนวนมาก  ตอนแรกก็เข้าใจว่าเปิดเสรีการค้ากับจีนเราตายแน่  สินค้าจีนต้องมาถล่มเมืองไทย   กลับเป็นว่า สินค้าไทยเข้าไปถล่มตลาดจีนเป็นว่าเล่นเลย   ที่คิดว่า  ผิดคาด ก็มี   หอมแดง  จีน ชอบของไทย  เขาว่ามีปริมาณยาสูงดี   กระเทียม  จีนชอบ  มันหอมฉุนดีกว่าของจีน   ตอนนี้เขาชอบเอาไปกินสดๆ วันละสองสามหัว  ช่วยขับลม เร่งการย่อย  ขับไขมัน ทำให้ลดความอ้วน      ยาง   ข้าว   อีกหลายๆอย่าง จากคุณ : ไม่รู้เป็นไร เขียนเมื่อ : 11 ก.ย. 54 22:06:56

ความคิดเห็นที่ 16 สหรัฐฯ นั้น เลือกที่จะแก้ปัญหาตัวเองโดยการใช้ค่าเงินอ่อน แต่ไม่เลือกที่จะขายทรัพย์สินของตนให้ต่างชาติ (เหมือนที่ IMF บอกให้ไทยเราทำ) แต่ใช้วิธีที่ให้ทรัพย์สินตกมาเป็นของภาครัฐ แทนการให้ต่างชาติมาซื้อไป เช่น AIG GM ไม่งั้น จีนซื้อหมด เดี๋ยวนี้ จีนเพียงทำได้แต่ซื้อพันธบัตร สรอ แทน ดังนั้น เขาก็มีความรักชาติรุนแรงอยู่มาก และเลือกที่จะปกป้ปองผลประโยชน์ของตัวเองอย่างมากๆ ถ้าจะบอกว่า ถูกหรือผิด เนื่องนี้ยากที่จะบอก ต้องให้เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์ แต่นี่คือ ความพยายามที่จะให้ประเทศขนาดใญ่ปรับตัว อย่างค่อยเป็นค่อยไป ดังนั้น ค่าเงิน สรอ ต้องปรับตัวลดลง จนกว่า ศก สรอ จะเพิ่มการส่งออกทดแทนการบริโภคภายในประเทศที่จะลดลงอย่างต่อเนื่องเช่นกัน ซึ่งน่าจะคล้ายวัฏจักรของไทย ที่ค่าเงินเคยอ่อนมาก ส่งออกพุ่งกระฉูด สักระยะค่าเงินก็จะกลับมาแข็งค่าอีก อะไรทำนองนี้ นี่คือ economic cycle ครับ ถ้าเขาสามารถทำเศรษฐกิจค่อย ๆ ปรับตัวได้ ก็จะเป็นไปตามทางที่เขาวางแผนไว้ โอกาสที่จะเกิด crisis รุนแรงอีก จึงไม่น่าจะเกิดจาก สรอ ดังนั้น ค่าเงิน สรอ ในระยะยาวจึงไม่น่าจะ crash ครับ ถ้าโลกจะเกิดวิกฤติรอบใหม่น่าจะเกิดจากยุโรป กล่าวคือ ถ้าเยอรมัน เอาแต่ปกป้องตัวเองมาก ๆ แล้วปล่อยให้ กรีซ ล้มละลาย หรือให้ออกจากยูโร นั่น ก็คือ ระเบิดที่จะเกิดกับโลกเลยทีเดียว เพราะจะคล้ายกับการปล่อยให้เลแมนล้มละลาย (อเมริกายอมรับแล้วว่า ต้นทุนที่จะอุ้มเลแมนนั้นน้อยกว่า เหตุการณ์ที่ตามมา ที่ต้องใช้เงินอุ้ม ศก ทั้งประเทศ มากมายนัก) แต่คราวนี้ คือประเทศล้มละลาย รุนแรงมากกว่าเลแมนมากมายนัก  แต่ถ้ามีเหตุที่ผมว่าไว้ มีหุ้นต้องขายออกหมด และขายทุกราคาด้วย และห้ามไปรับเด็ดขาด เพราะต่อจาก กรีซ who gonna be next. ECB ต้องใช้เงินมากมายขนาดไหนที่จะอุ้มประเทศ ไม่อยากอธิบายต่อแล้ว น่ากลัวเกินไป วกกลับมาประเทศไทย ถามว่า เราคาดการณ์ เรื่องดังกล่าวบ้างไหม ตอบว่าใข่ครับ แต่สถานะประเทศเราดีกว่าทั้ง สรอ ยุโรป มาก ดังนั้น น่าจะผ่านมรสุทลูกนี้ได้ อย่างพอท้วม ๆ ไม่สะบักสะบอมมากนัก จากคุณ : ปะป๊าหนูกริ๊ง เขียนเมื่อ : 11 ก.ย. 54 22:31:24

ความคิดเห็นที่ 17 http://www.financialsense.com/contributors/chris-puplava/2011/09/09/usd-long-term-and-short-term-picture-collide จากคุณ : solstice เขียนเมื่อ : 11 ก.ย. 54 22:40:42

ความคิดเห็นที่ 18 เห็นด้วยกะป๋ากริ๊ง (ชื่อพิมพ์ย๊ากยาก) กำลังคิดอยู่ว่ายุโรปจะเอายังไง คือถามว่าถ้าช่วยไปเรื่อยๆแล้วเมื่อไหร่จะถึงจุดสิ้นสุดของการช่วย เพราะยิ่งยื้อยังไงมันก็ไม่รอด แน่นอนวันนี้เยอรมันยังคงเป็นประเทศที่รวย แต่ยิ่งช่วยต่อไป เงินก็หมดได้ ... สุดท้าย ผมว่ายังไง ก็ต้องเกิดอยู่ดี เพราะกรีซไม่เพียงประเทศเดียวที่กำลังเป็นปัญหา ยังมีสเปนและอิตาลีที่กำลังหมดสติ และใกล้ๆจะโคม่าแล้ว ปริมาณเงินที่จะเอามาช่วยเหลือก็ไม่น่าจะเพียงพอ ที่เยอรมันและฝรั่งเศส จะอุ้มทั้ง EU เอาไว้ให้รอดพ้นวิกฤตแน่ๆ จากคุณ : venezier เขียนเมื่อ : 11 ก.ย. 54 22:58:37

ความคิดเห็นที่ 19 ขออภัยครับ ชื่อนี้ภรรยาสุดที่รักเป็นผู้ตั้งให้ เพราะเรามีลูกสาว ชื่อ กริ๊ง ครับ (เป็นแมวเปอร์เซีย) เมื่อเหตุการณ์ในยุโรปรุนแรงมาก ๆ ECB ยังมีไม้ตายอยู่ ที่ยังไม่เอาออกมาใช้ นั่นก็คือ พันธบัตรยูโร หรือพันธบัตรของกลุ่มประเทศยุโรป ซึ่งพี่ใหญ่ทะ้งเยอรมัน ฝรั่งเศส ยังไม่อยากเอามาใช้ตอนนี้ เพราะเร็วเกินไป และมีต้นทุนกับประเทศของตัวเอง กล่าวคือ เหมือนกับการเอาเครดิตของทั้งสองประเทศไปถัวกับประเทศอื่น ๆ ที่แย่กว่า ซึ่งก็มีแต่เสมอตัว กับแย่ลง (ใช้ตอนนี้มีแต่จะแย่ลงมากกว่า) ซึ่งผมก็เชื่อมั่นว่า ถ้านี่คือ ปลายทางที่เขาเลือก โลกยังพอมีหวัง จะ soft landing แต่ถ้าพี่เบิ้ม เห็นแก่ได้ระยะสั้น เอาตัวเองรอดเท่านั้น มีหวังลากกันลงเหวทั้งทวีป ภาคธนาคารยุโรปจะโดนก่อน คือ โดนธนาคารอื่นตัด credit line ซึ่งก็เริ่มได้ยินข่าวบ้างแล้ว แต่ใจลึกลึก พี่เบิ้มน่าจะเอาตัวรอดก่อน ซึ่งสัดท้าย ก็จะไม่รอด ถ้าเหตุการณ์เปี่ยน ค่อยมาแลกเปลี่ยนความเห็นกันใหม่ครับ จากคุณ : ปะป๊าหนูกริ๊ง เขียนเมื่อ : 11 ก.ย. 54 23:12:50

ความคิดเห็นที่ 20 เยี่ยมเลยป๋า ! แต่ตอนนี้ดูเหมือนสถานการณ์ยังคงไม่ไหว และยังเชื่อว่าถ้ากรรมการคนหนึ่งลาออก (ไม่รู้ว่าเพราะทะเลาะกันจริงหรือชิ่งไม่ขอร่วมหัวจมท้ายด้วยแล้ว) งานนี้ถ้ามีคนอื่นๆลาออกตามกันมาอีก สุดท้ายคงเน่า เพราะคนมีอำนาจก็ไม่อยากเอาด้วยแล้ว ก็ไม่รู้เหมือนกันจะเป็นยังไงต่อไป ศึกนี้ น่ากลัว จากคุณ : venezier เขียนเมื่อ : 11 ก.ย. 54 23:28:09

ความคิดเห็นที่ 21 คุยเรื่องนี้กับท่านผู้รู้แล้ว รู้สึกดีเช่นกันครับ ผมติดตามอ่านความเห็นของท่านในหลายกระทู้แล้ว ชื่นชมมาก ว่า ท่านเป็นคนดี คอยเตือนผู้อื่นเสมอ ๆ จึงเป็นแรงดลใจให้ผมใช้เวลาที่นี่บ้าง อย่างน้อย ๆ ให้หลายคนมีความเห็นที่หลากหลายมากขึ้นครับ (ปกติ ไม่ค่อยมีเวลาใน social network มากครับ แต่ชอบที่จะอ่านความเห็นต่าง ๆ ใน web นี้ครับ) จากคุณ : ปะป๊าหนูกริ๊ง เขียนเมื่อ : 11 ก.ย. 54 23:45:35

ความคิดเห็นที่ 22 ดีครับป๋า เรามา discuss กัน ยิ่งคุยมาก ยิ่งมีข้อมูลมาก เราก็ยิ่งเก่งขึ้นมากครับ ผมชอบนะเวลามีใครมาด้วย มีอะไรมาแลกเปลี่ยนมุมมองกัน บางทีบางอย่างที่เรายังไม่รู้ เราก็ได้รู้เพิ่มอีกเยอะ ^^" จากคุณ : venezier เขียนเมื่อ : 12 ก.ย. 54 00:29:09

ความคิดเห็นที่ 23 #7 คุณคิดเหมือนพวกบิลเดอร์เบิร์กคิด แต่พวกเขาไม่ได้ใช้ IMF ทำ ส่วนจะใช้ใครทำนั้นคงต้องรอดูเพราะเขายังไม่ส่งสัญญานมา แค่ส่งสัญญานว่าจะทำเท่านั้น จากคุณ : Peet Reloaded เขียนเมื่อ : 12 ก.ย. 54 10:53:58