ความคิดเห็นที่ 1 SCBLTS ที่เป็นกองทุน LTF สับเปลี่ยนกับ SCBR1 ที่เป็น RMF ไม่ได้ครับ เนื่องจากเป็นกองทุนที่ได้รับสิทธิประโยชน์ ทางภาษี ที่มีเงื่อนไขที่แตกต่างกัน ทำให้ การสับเปลี่ยนต่างประเภทจะทำให้เกิดารผิดเงื่อนไขทางภาษีได้ครับ จากคุณ : pjuk เขียนเมื่อ : 13 ก.ย. 54 04:05:01

ความคิดเห็นที่ 2 ผมหมายถึงสับเปลี่ยนกับกองอื่นๆในประเภทเดียวกันครับ อย่างเช่นว่าใน LTF แต่ละกองมีจุดเด่นข้อดีข้อเสียอย่างไร ในสภาวะตลาดแบบนี้ ผมถือ SCBLTS อยู่ ควรจะสับเปลี่ยนไปกองอื่นหรือไม่? RMF ก็เช่นเดียวกัน ขอบคุณครับ จากคุณ : พนบ. เขียนเมื่อ : 13 ก.ย. 54 06:06:36

ความคิดเห็นที่ 3 ขออภัยครับ ตีความผิดไปครับ ^_^ ทั้ง LTF และ RMF สามารถสับเปลี่ยนกองทุนได้ภายใต้กองทุนประเภทเดียวกัน โดยไม่มีข้อจำกัดเรื่องจำนวนครั้ง และวันที่ ไม่ว่าจะใช่สิทธิ์ลดหย่อนภาษีไปแล้วหรือยังก็ตามครับ โดยการสับเปลี่ยนระหว่างกองทุนไม่มีค่าธรรมเนียมด้วยครับ ราคาสับเปลี่ยนออก = ราคาหน่วยลงทุน ราคาสับเปลี่ยนเข้า = ราคาหน่วยลงทุน + 0.0001 บาท และสำหรับการสับเปลี่ยนผ่านทาง SCB Easy Net สามารถทำได้ถึงเวลา 16:00 น. ของทุกวันทำการ โดยจะมีผลต่อราคาของวันที่ทำรายการ จากคุณ : pjuk เขียนเมื่อ : 13 ก.ย. 54 08:33:14

ความคิดเห็นที่ 4 สำหรับ ประเภทขของกองทุน LTF :: จะมีทั้งหมด 6 กองทุน แบ่งเป็น 2 รูปแบบตามความเสี่ยง เสี่ยงน้อย ด้วยลักษณะกองทุนที่ออกแบบมา เพื่อลดความผันผวนจากหุ้นให้ต่ำลง SCBLTS - ไทยพาณิชย์หุ้นระยะยาวสมาร์ท :: ไม่มีนโยบายการจ่ายปันผล :: มีการลงทุนใน SET50 Index Futures ในทิศทางที่ใช้หักล้างกับตลาดหุ้น ทำให้ลดความผันผวนจากตลาดหุ้นได้เกือบ 40% ครับ SCBLT1 - ไทยพาณิชย์หุ้นระยะยาวปันผล 70/30 :: มีนโยบายการจ่ายปันผล :: จะมีสัดส่วนการลงทุนไม่เกิน 70% ที่เหลือจะเป็นตราสารหนี้ เสี่ยงมาก ด้วยลักษณะการลงทุนในหุ้นอย่างเต็มที่ แต่ในบางช่วงเวลาก็จะมีการปรับเปลี่ยนสัดส่วนบ้างเล็กน้อย SCBLT2 - ไทยพาณิชย์หุ้นระยะยาว พลัส :: ไม่มีนโยบายการจ่ายปันผล :: ลงทุนในหุ้นกลุ่ม SET50 ที่เป็นหุ้นขนาดใหญ่ ประมาณ 90% SCBLT3 - ไทยพาณิชย์หุ้นระยะยาว เอ็มเอไอ :: ไม่มีนโยบายการจ่ายปันผล :: กระจายการลงทุนในหุ้นที่หลากหลาย   : กลุ่มหุ้น SET50 ประมาณ 40%   : กลุ่มหุ้นที่อยู่ในกลุ่มล่างของ SET100 และ MAI ประมาณ 40%   : ที่เหลือประมาณ 20% จะปรับเปลี่ยนตามสภาวะการณ์ รวมถึงมีการลงทุนใน SET50 Index Futures ด้วยครับ SCBLT4 - ไทยพาณิชย์หุ้นระยะยาวอินเตอร์ :: มีนโยบายการจ่ายปันผล :: มีการกระจายไปลงทุนในกองทุนต่างประเทศประมาณ 5 - 10% (SCBPGF, SCBAEM, SCBCE) SCBLTT - ไทยพาณิชย์หุ้นระยะยาวทาร์เก็ต :: มีนโยบายการจ่ายปันผล :: เป็นรูปแบบผสมที่หลากหลายการลงทุน เหมือนเป็นตัวรวมของ LTF ทั้ง 5 กองทุนข้างต้นครับ RMF :: จะมีทั้งหมด 4 กองทุน SCBR1 - ไทยพาณิชย์ตราสารหนี้ระยะสั้น เพื่อการเลี้ยงชีพ :: ลงทุนในตราสารหนี้ระยะสั้น เพื่อการลงทุนที่ปลอดภัย ไม่หวังผลตอบแทนที่สูงนัก เพื่อประโยชน์ทางภาษีเป็นหลัก   SCBR2 - ไทยพาณิชย์พันธบัตรรัฐบาล เพื่อการเลี้ยงชีพ :: เน้นการลงทุนในพันธบัตรรัฐบาล เพื่อผลตอบแทนในระยะยาว ความคู่กับประโยชน์ทางภาษีที่ได้รับจากการลงทุน   SCBR3 - ไทยพาณิชย์เฟล็กซิเบิ้ล ฟันด์ เพื่อการเลี้ยงชีพ :: ระดับความเสี่ยงปานกลาง ด้วยการเพิ่มการลงทุนในหุ้นที่ให้ผลตอบแทนที่สูง ควบคู่กับการลงทุนในตลาดตราสารหนี้   SCBR4 - ไทยพาณิชย์หุ้นทุน เพื่อการเลี้ยงชีพ :: ระดับความเสี่ยงสูง เนื่องจากมีการลงทุนในหุ้นกลุ่ม SET50 แบบเต็มที่ จากคุณ : pjuk เขียนเมื่อ : 13 ก.ย. 54 08:36:16

ความคิดเห็นที่ 5 สำหรับมุมมองภาวะตลาดหุ้น ..... ถ้ามองว่าเห็นโอกาสของการสร้างผลตอบแทนที่ดีได้ ก็อาจจะสับเปลี่ยนจาก SCBR1 ไปที่ SCBR4 ส่วน SCBLTS ก็อาจจะเลือกสับเปลี่ยนไป ยังกองทุนประเภทที่มีความเสี่ยงสูงขึ้นอย่างเช่น SCBLT2, SCBLT3 หรือ SCBLTT แต่สำหรับ SCBLT4 ที่มีความเสี่ยวเพิ่มสูงมากขึ้นจากที่มีบางส่วนไปลงทุนในกองทุน ต่างประเทศ ซึ่งมีความเสี่ยงทั้งภาวะตลาดหุ้น และอัตราแลกเปลี่ยน ก็อาจจะเสี่ยงสูง มาเกินไปก็ได้ครับ ทั้งนี้ถ้ายังชัดเจนกับภาวะตลาดหุ้น อาจจะเลือกครึ่งๆ คือ SCBR3 และ SCBLT1 เป็น กองทุนขยับโอกาสขึ้นมาจากเดิมอีกเล็กน้อยครับ จากคุณ : pjuk เขียนเมื่อ : 13 ก.ย. 54 08:41:35

ความคิดเห็นที่ 6 ขอบคุณมากครับ กระจ่างแล้วครับ จากคุณ : พนบ. เขียนเมื่อ : 13 ก.ย. 54 12:02:58