*** ฟัง... อนุสรณ์ ทัม_ใจ

กรุงเทพธุรกิจ : จากหนี้เอกชน สู่ หนี้สาธารณะ >>> ปัญหาเศรษฐกิจโลกถดถอยรอบใหม่

Decent Cap. ก็คือ ทุนนิยมที่เหมาะสม ที่พอเหมาะพอดี เวลานี้มันมีความไม่พอดีอยู่มากในระบบทุนนิยมโลก มันถึงเกิดวิกฤตการณ์ซ้ำแล้วซ้ำอีก โดยเฉพาะวิกฤติการเงินการคลัง มีกิจกรรมเก็งกำไรสูง เศรษฐกิจผันผวนสูง ราคาสินค้าโภคภัณฑ์และค่าเงินแปรปรวนไร้เสถียรภาพ ภัยพิบัติทางธรรมชาติก็รุนแรงหนักข้อขึ้น อันเป็นผลการมาจากการพัฒนาทางเศรษฐกิจแบบ_ไร้สมดุล และการเติบโตของเมืองและอุตสาฯแบบ_ไร้ขอบเขตและไม่ยั่งยืน

แนวคิดแบบ Demand-side Economics เพียงอย่างเดียวนั้นไม่เพียงพอ เพื่อกระตุ้นอุปสงค์ ประคองเศรษฐกิจ อุ้มสถาบันการเงิน อุ้มภาคเอกชนที่มีปัญหา สร้างตำแหน่งงานชั่วคราว เพราะถึงที่สุดแล้ว เราจำเป็นต้องมีการปฏิรูปเศรษฐกิจและปรับโครงสร้างระบบการเงินและระบบเศรษฐกิจโลกครั้งใหญ่  มาตรการรัดเข็มขัดเข้มงวดมากขึ้นต้องเลือกใช้ให้สอดคล้องกับสถานการณ์ ปัญหาพื้นฐานต้องได้รับการแก้ไขมากกว่าการผลักภาระไปในอนาคตเรื่อยๆ

ปัญหา หนี้เอกชน โดยเฉพาะสถาบันการเงิน ได้แปลงเป็น หนี้สาธารณะ ทั้งในสหรัฐ & ยุโรป ก็เป็นผลมาจากการอุ้ม เอกชนที่ใหญ่เกินกว่าจะล้มได้ทั้งสิ้น

เวลานี้ เราเห็นสัญญาณที่ชัดเจนว่า เศรษฐกิจโลกกำลังชะลอตัวลง อัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจที่วัดด้วย GDP ลดลงจากประมาณ4% ในปี 2010 เป็น3% ในปี 2011 ยิ่งเศรษฐกิจของประเทศพัฒนาแล้วมีอัตราการขยายตัวเพียง1.5% ถึง 2%ในปี 2011 ***

ก่อนปี พ.ศ. 2552 สหรัฐ ยุโรป & ญี่ปุ่น มีปัญหาฐานะทางการคลังอยู่แล้ว พอเกิดวิกฤตการณ์สถาบันการเงินเมื่อ2ปีที่แล้ว หนี้สาธารณะของบางประเทศเพิ่มมากขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ จากนโยบายแปลงหนี้เอกชนเป็นหนี้สาธารณะ โดยการใช้เงินสาธารณะจำนวนมากเข้าไปประคองยักษ์ใหญ่ทางธุรกิจ องค์กรธุรกิจบางแห่งถูกแปลงสภาพกลายเป็นรัฐวิสาหกิจ

พอสถานการณ์ดีขึ้น >>> ก็ผ่องถ่ายหุ้นแปลงสภาพกลับไปเป็นเอกชน ส่วนหนี้สาธารณะจำนวนหนึ่งยังเป็นภาระตกค้างต่อไปของผู้เสียภาษีและต้นทุนของระบบเศรษฐกิจ

มาตรการแปลงหนี้เอกชน มาเป็น หนี้สาธารณะ จากการแก้ปัญหาวิกฤติการเงินโลกก่อนหน้านี้ กำลังสร้างปัญหาให้เกิดเศรษฐกิจโลกถดถอยรอบใหม่นั้น เราสามารถทำให้ผลกระทบเบาลงด้วยการมีมาตรการสกัดกั้นการเก็งกำไรซึ่งทำลายความมีเสถียรภาพของระบบการเงินและระบบเศรษฐกิจ

โจทย์ของปัญหาวิกฤติเศรษฐกิจโลกครั้งนี้เทียบกับปี 2552 แล้วไม่ได้ยากกว่า แต่ความยากอยู่ที่ เวลานี้ประเทศพัฒนาแล้วมีข้อจำกัดทั้งนโยบายการคลัง (หนี้สาธารณะสูง) และนโยบายการเงิน (ดอกเบี้ยต่ำมากแล้ว) ขณะที่ประเทศในเอเชียเองก็เริ่มมีสัญญาณของการชะลอตัวทางเศรษฐกิจ

แม้ปัจจัยพื้นฐานทางเศรษฐกิจของไทยยังแข็งแกร่งแต่อย่าได้ประมาทเตรียมรับมือเศรษฐกิจโลกถดถอยรอบใหม่ตั้งแต่เนิ่นๆ

จากคุณ	: ศิษย์ซุนวู
เขียนเมื่อ	: 16 ก.ย. 54 19:32:16