ความคิดเห็นที่ 1 สำคัญที่สุดก็คืออ่านสัญญาก่อนเซ็นรึเปล่าคะ จากคุณ : แพนด้าหน้าใส เขียนเมื่อ : 18 ก.ย. 54 12:20:18

ความคิดเห็นที่ 2 ผมเลือกที่จะวิ่งไปเซ็นเอกสารที่สาขาครับ เห็นตัวเป็นๆ มีกล้องวงจรปิดเห็นภาพเรา กรณีเกิดปัญหา จากคุณ : ORIGINAL.E.M. เขียนเมื่อ : 18 ก.ย. 54 12:21:40

ความคิดเห็นที่ 3 ส่วนใหญ่พนักงานที่โทรมาชักชวนให้ทำบัตรเครดิต เค้าจะมีบริการแมสเซนเจอร์จากธนาคารมารับเอกสารและเอาใบสมัครมาให้เซ็นต์ค่ะ เนื่องจากพนักงานบางคนเป็นเทเลเซลล์ ไม่สะดวกออกมารับเอกสารจากลูกค้าเอง หรือพนักงานบางคนก็ขี้เกียจออกมา (อิอิ) แนะนำว่าคุณควรอ่านรายละเอียดและกรอกเอกสารด้วยลายมือตัวเองดีที่สุดค่ะ สมัครกี่ใบ ก็ให้เอกสารไปตามจำนวนธนาคาร เช่น สมัคร 1 ธนาคารก็ให้เอกสารไปแค่ชุดเดียวพอ พนักงานบางคนขายควบหลายธนาคาร บางทีชวนเราสมัครหลายใบ แต่กลัวลูกค้าจะยุ่งยากเรืองเอกสารที่ต้องถ่ายหลายชุด เค้าก็จะให้เราถ่ายไปแค่ชุดเดียว แล้วบอกเราว่า ใช้เอกสารชุดเดียวก็พอค่ะ ที่เหลือเดี๋ยวบริการ copy ให้ (อย่าเชียวนะคะ เอกสารพวกนี้มีค่ายิ่ง และบัตรประชาชนต้องเซ็นต์ด้วยหมึกสด ถ่ายเอกสารไม่ได้จ้า) ถ้าไม่สบายใจก็ไปสมัครตามเคาน์เตอร์ธนาคารก็ได้ค่ะ อุ่นใจดี ^^ อีกนิดค่ะ ส่วนใหญ่แมสเซนเจอร์มักจะไม่รอให้เราอ่้านเอกสาร หรือ กรอกข้อมูลนานๆ เค้าจะอ้างว่า ต้องไปรับงานที่อื่นต่อ เดี๋ยวไปไม่ทัน ^^ แก้ไขเมื่อ 18 ก.ย. 54 12:32:57 จากคุณ : เบียร์น้อย เขียนเมื่อ : 18 ก.ย. 54 12:31:36

ความคิดเห็นที่ 4 ฮ่องกงแบงค์(ชื่อแปลกแฮะ) --> HSBC ดังนะครับอันดับสองรองจาก Citiเลย พวกนี้เขาจะมีบริการครับ จะได้สะดวกเราตัดสินใจทำได้ง่ายขึ้น จากคุณ : Define เขียนเมื่อ : 18 ก.ย. 54 12:40:55

ความคิดเห็นที่ 5 ช่วงนี้ฤดูกาลหาลูกค้าบัตรเครดิตหรา มีโทร.จากแบ้งค์ต่าง ๆ เข้ามาเบอร์มือถือ แอบงงว่าได้เบอร์ตรูมาได้งัยเนี่ย เพื่อนบางคนของเรายังไม่มีเบอร์เราเลย จากคุณ : ไม่อยากเป็นหนี้ล่วงหน้า (เลขาตาหวาน) เขียนเมื่อ : 18 ก.ย. 54 12:41:21

ความคิดเห็นที่ 6 ง่ายไป ระวังจะมีภัยตามมา จากคุณ : ฮันกาอิน เขียนเมื่อ : 18 ก.ย. 54 13:14:16

ความคิดเห็นที่ 7 ค่อนข้างปลอดภัย ยังไงเสีย การขีดคร่อมเอกสาร ช่วยแก้ปัญหาพวกนี้ได้ จากคุณ : ดอกหญ้าสีฝุ่น เขียนเมื่อ : 18 ก.ย. 54 15:13:38

ความคิดเห็นที่ 8 - เอกสารทุกฉบับอ่านก่อนเซ็นต์ - หลักฐานที่เกี่ยวกับตัวเรา ขีดฆ่าให้หมด - สงสัยอะไรให้ถามให้กระจ่าง เค้ามารับเอกสาร ก็เพราะว่าเค้าต้องการยืนยันว่าเรามีงานทำจริง ซึ่งก็คือหลักฐานของการยืนยันที่มาของรายได้ครับ เท่านั้นเอง วิธีนี้จะอนุมัติบัตรเร็วกว่าวิธีอื่นมากครับ จากคุณ : คุณวองก้า เขียนเมื่อ : 18 ก.ย. 54 15:21:35

ความคิดเห็นที่ 9 ขอบคุณทุกท่านที่มาตอบค่ะ เล่าต่ออีกนิด  สัญญามันก็ยาวมากเลยค่ะสองสามหน้า ตัวเล็กด้วย บางท่านคงเคยเห็น มีหลายข้อเต็มไปหมด แต่ละข้อ ก็ลองอ่านดูบ้าง ก็เป็นเรื่องทั่วๆไป ซะทั้งนั้น แต่ก็ต้องเป็นสัญญาตามพิธี ไ้อ้เราก็ไม่รู้ว่า ข้อความที่มันจะมามัดเราตอนหลังได้ มันจะไปซ่อนอยู่ตรงไหน  ถึงถ้าเราเห็น ก็อาจจะยังไม่รู้ตอนนั้นอยู่ดี ว่าข้อความนี้อันตราย และเราก็ไม่ได้มีเวลาจะไปพิจาณามาก ทีนี้บางคนอาจจะสงสัยว่า อ้่าว แล้วไปทำทำไม  แหะๆ คือว่า อีกไม่นานนี้อาจจะมีการต้องใช้เงินสดมาหมุนบ้างสักก้อน เลยต้องเตรียมที่กู้ยืมไว้สักสองสามที่ค่ะ พอดีธนาคารโทรมาก็เลยจะทำไว้ซะหน่อย แต่ที่เห็นหลายท่านตอบมาก็สบายใจขึ้นค่ะ ขอบคุณค่า แก้ไขเมื่อ 18 ก.ย. 54 16:25:10 จากคุณ : นู๋นัน เขียนเมื่อ : 18 ก.ย. 54 16:23:24

ความคิดเห็นที่ 10 ผมทำของแบงค์เขียวไป ก็โอเคครับ พอดีเค้าทำให้เป็นบัตรขั้นพิเศษกว่าเดิมก็เลยทำ ถ้าเป็นพนักงานแบงค์จริงไม่น่ามีปัญหาอะไร จากคุณ : gload เขียนเมื่อ : 18 ก.ย. 54 20:09:31

ความคิดเห็นที่ 11 พวกนี้ซับงานมาจากแบงค์อีกที ถามว่าปลอดภัยไหม ก็ถือว่าไม่หลอกลวง พวกนี้กินเปอร์เซ็นต์จากบัตร ส่วนใหญ่ก็ได้ใบละ 200-500 แล้วแต่ประเภทบัตร พวกนี้เปิดบริษัทโทรหากันเลยทีเดียว บางที่มีพนักงานหลายสิบคนกันเลยทีเดียว จากคุณ : Peet Reloaded เขียนเมื่อ : 18 ก.ย. 54 21:28:24