ความคิดเห็นที่ 1 ตัวอย่างการยืมหุ้นมาชอร์ตเซล อย่างกรณีนี้ผมชอร์ตหนักๆ ที่ 129.5  สังเกตตรงที่เขียนว่า S คือผมยืมหุ้นมาชอร์ต จากคุณ : Diamondoid เขียนเมื่อ : 29 ก.ย. 54 01:37:42

ความคิดเห็นที่ 2 สมมติผมชอร์ต pttch 10000 หุ้นที่ราคา 130 บาท มูลค่ารวม = 1,300,000 ผมซื้อ pttch กลับคืนให้เจ้าของที่ราคา 110บาท = 1,100,100 ผมได้กำไร 200,000 บาท   1.3ล้าน- 1.1ล้าน (ไม่นับดอกเบี้ยและค่าคอม) คนที่ด่าผมรู้ตัวเองนะ  ชอร์ตไม่เป็นก็บอกดิ สอนให้ก็ได้ อย่าเอาพอร์ทมาข่มกัน แก้ไขเมื่อ 29 ก.ย. 54 01:44:06 จากคุณ : Diamondoid เขียนเมื่อ : 29 ก.ย. 54 01:42:12

ความคิดเห็นที่ 3 สวดยอดเลย ถ้ายังเล่นต่อ รวยปลิ้นแล้ว ยินดีด้วยครับ ^^ จากคุณ : SundayroyaL เขียนเมื่อ : 29 ก.ย. 54 01:54:31

ความคิดเห็นที่ 4 เยี่ยมครับ แต่ในชีวิตจริง คนส่วนใหญ่เล่นหุ้น ก็คือ ทางซื้อ เวลาหุ้นลง ทุกคนเศร้า เวลามีใครมาเปิดเผยว่า หุ้นลงยังได้กำไร โดยชอร์ท มันเลยดูเป็นผู้ร้ายนะครับ เหมือนคนเล่นหุ้น เวลากำไรๆ ถ้าไปเล่าให้คน ไม่เล่นรู้เข้าเค้าจะรังเกียจนะ เหมือนคิดว่าทำนาบนหลังคนอื่น กรูทำงานแทบตาย ก็โดนกันเป็นทอดๆ จากคุณ : :::GANTZ::: เขียนเมื่อ : 29 ก.ย. 54 01:56:20

ความคิดเห็นที่ 5 ใครเป็น VI จริงๆ ผมว่าได้ค่า SBL มาเพิ่มจากปันผลก็ดีนะครับ ส่วนคนที่ติดดอยตอนหุ้นลง อันที่จริงไม่ต้อง SBL ก็ได้ครับ ง่ายๆแค่ขายหุ้นที่ตัวเองถือออกมา แค่นี้ก็คงไม่มีบ่นแล้วมั้งครับ แต่การ SBL ได้ เวลาหุ้นลง มันก็ลงแรงขึ้นจริงๆนะครับ ตลาดจะผันผวนมากขึ้น ลากขึ้นลงแรงขึ้น ไกลขึ้น ถ้ามองในมุมดี ก็มีโอกาสทำกำไรได้มากขึ้น แต่ถ้ามองมุมไม่ดีก็ เสี่ยงสุดๆเช่นกัน แล้วแต่มุมมองครับ ถ้า SBL ไม่ดีจริงๆ คงไม่มี VI คนไหนให้ยืมหุ้นหรอกมั้งครับ จากคุณ : LP. E. no SAINT เขียนเมื่อ : 29 ก.ย. 54 02:05:40

ความคิดเห็นที่ 6 งง อ่ะครับ O_o อันนี้ไม่ใช่ TFEX ใช่ม่ะ การทำ Short กับ การทำ SAP มันหลักการเดียวกันหรือป่าวครับ ?? แลดูเหมือนคล้ายกัน แล้วเจ้าของหุ้น จะได้อะไรหรอครับ ?? ในเมื่อ ถ้าได้จำนวนหุ้นเท่าเดิม แต่มูลค่าลดลง ก็แสดงว่า เงินก็ต้องลดลงแทนสิ ?????? เงินที่ลดลงแต่ได้ดอกเบี้ย 3% คุ้มหรอครับ ??? ถ้ามองในแง่เป็นเจ้าของหุ้นเอง คงทำ short ตัวเองไม่ได้หรอกใช่ม่ะครับ ทำได้แต่ SAP ถ้ามองในแง่จะไปยืมหุ้นคนอื่น ก็คิดว่าน่าจะยืมได้แค่กับโบรค เพราะยังไงโบรคก็ต้องถือเป็นส่วนใหญ่ๆ คนยืมก็ได้ส่วนต่าง ถ้าราคาลงจริง เข้าใจถูกหรือป่าวครับเนี่ย ??? จากคุณ : RakRok12 เขียนเมื่อ : 29 ก.ย. 54 02:13:51

ความคิดเห็นที่ 7 SAP - short against port เรามีหุ้น คาดว่าจะลงอีก ขายไปก่อน รอซื้อคืนถูกกว่า ได้หุ้นมากขึ้น Short Sale เราไม่มีหุ้น ไปยืมมา เสียค่าธรรมเนียม เอามาขาย ถ้าลงไปก็ซื้อคืน ได้กำไรส่วนต่าง            ถ้าชอร์ตแล้วไม่ลง เจ็บเพราะ เสียค่าซื้อคืนแพงกว่า เสียค่าธรรมเนียมอีกด้วย จบข่าว จากคุณ : :::GANTZ::: เขียนเมื่อ : 29 ก.ย. 54 02:17:59

ความคิดเห็นที่ 8 แสดงว่า เจ้าของหุ้นถ้ามั่นใจมากว่าตัวที่ถือนี้ขึ้นแน่นอน เอาไปฝาก SBL เพื่อขอเดิมพันด้วยแบบนั้นหรือป่าวครับ เพื่อให้ได้ดอบเบี้ยเพิ่มเติมอีก แต่ถ้าหุ้นตก เจ้าของหุ้นก็รับเคราะห์ไป แต่ได้เงินปลอบขวัญจากดอกเบี้ยมาแทน มันก็คือรูปแบบ TFEX นี่หว่า ??? สภาพคล่องแบบนี้สูงหรือป่าวครับ จากคุณ : RakRok12 เขียนเมื่อ : 29 ก.ย. 54 02:22:27

ความคิดเห็นที่ 9 ^ มันคือการเก็งทิศทางหุ้นดีๆเนี่ยแหล่ะครับคล้ายๆ TFEX แบบที่คิดนั่นแหละเพียงแต่อาจจะได้น้อยกว่านิดหน่อยเพราะต้องเสียค่าดอกเบี้ย จากคุณ : ZdNut เขียนเมื่อ : 29 ก.ย. 54 02:46:54

ความคิดเห็นที่ 10 TFEX ฝ่ายนึงเสีย ฝ่ายนึงได้ แต่ SBL ฝ่ายนึงได้ค่าดอกเบี้ย อีกฝ่ายนึงไปลุ้นเอาว่าจะได้กำไรหรือเปล่า ออกแนว Option มากกว่านะครับ แต่เอาเข้าจริงๆ SBL มีเงื่อนไขเยอะเหมือนกันครับ เช่น ปันผลก็ไม่ได้ (เข้าใจว่าถ้า SBL ไม่ได้วัน XD อะไรประมาณนี้นะ ต้องซื้อหุ้นคืนก่อน) นู่นนี่วุ่นวายไปหมดเหมอืนกัน ถ้าคนทำไม่ได้มั่นใจว่ามันจะลงจริงๆ การ SBL ก็เสี่ยงครับ จากคุณ : LP. E. no SAINT เขียนเมื่อ : 29 ก.ย. 54 02:57:24

ความคิดเห็นที่ 11 ส่วนประโยชน์ของ VI ที่ให้ยืมหุ้น เท่าที่คิดได้นะครับ (เผอิญไม่มีความรู้ด้านนี้ แต่พอเข้าใจ Concept ครับ) คนที่ได้ประโยชน์แบบเห็นได้ชัดเลยก็คือ เจ้าของบริษัท เพราะยังไงเขาก็ต้องถือหุ้นแน่นอน นอกจากนี้เขา SAP ไม่ได้แน่ๆ เพราะถ้าขายไป อาจจะเสียสัดส่วนการถือหุ้น ทำให้มีผลต่ออำนาจบริหาร ดังนั้น การที่มี SBL ขึ้นมา ทำให้เขาได้รับดอกเบี้ยเพิ่มขึ้นมาฟรีๆ แทนที่จะได้รับผลตอบแทนจากเงินปันผลเพียงอย่างเดียว นอกจากนี้ การ SBL ทำให้หุ้นราคาตกแรงขึ้น ซึ่งจะไม่ดีในระยะสั้นเท่านั้น (เพราะพื้นฐาน บ. ไม่ได้เปลี่ยนแปลง) เจ้าของก็จะสามารถซื้อหุ้นตัวเองเพิ่มขึ้นได้ ในราคาที่ถูกลงกว่าไม่มี SBL ครับ คิดออกคร่าวๆแค่นี้ แฮะๆ แก้ไขเมื่อ 29 ก.ย. 54 03:03:30 จากคุณ : LP. E. no SAINT เขียนเมื่อ : 29 ก.ย. 54 03:02:43

ความคิดเห็นที่ 12 ถ้าเราเป็นนักลงทุน เราอย่ามองว่ามีงี้ๆแล้วตลาดจะพัง  มีงี้ๆแล้วเป็นคนไม่ดี ตราบใดที่ตลาดมันยังมีเครื่องมือต่างๆให้ใช้ ผมว่าก็ใช้ไปเหอะ ถึงเราไม่ใช้มันก็มีให้ใช้อยู่ทนโท่ เดี่ยวคนอื่นก็มาใช้เองแหละ ถ้ามันไม่ดีเดี๋ยวมันก็ถอดออกเองแหละ ** พวกที่ได้ประโยชน์จาก SBL อีกพวกคือพวกปันผลไงครับ ไม่รู้ ไม่หือไม่อือ  ฝากไว้ได้ดอกเบี้ยเพิ่มอีกปีละ 3% ทั้งๆที่ถ้าถือหุ้นไม่ทำ sap มันก็มีมูลค่าเท่าเดิม แต่ถ้าจะดึงหุ้นกลับ มันก็ดึงได้ สำหรับเจ้าของหุ้นนะ ปล.การยืมหุ้นมาชอร์ตถ้าจำไม่ผิดมีมาก่อนสงครามโลกครั้งที่2อีกมั้ง จากคุณ : Diamondoid เขียนเมื่อ : 29 ก.ย. 54 03:18:13

ความคิดเห็นที่ 13 สงสัยระบบนี้  ถ้าเจ้าของหุ้น(คนที่ให้ยืม) ต้องการหุ้นกลับคืนโไดยพร้อมเพรียงกันทั้งตลาด แล้วคนที่ซ๊อตเอาไว้จะพร้อมใจกันไม่คืนได้มั๊ยคับ จากคุณ : . (รู้คุณ) เขียนเมื่อ : 29 ก.ย. 54 05:32:30

ความคิดเห็นที่ 14 เหมือนมีอาวุธหลายแบบ ถ้าคุณนำมาใช้ทั้งหมดก้อจะได้เปรียบ SBL ผมไม่เคยใช้ ไม่รู้ยุ่งยากแค่ไหน แต่คิดว่ามันต้องมีขั้นตอนมากกว่าการชอตฟิวเจอร์แน่นอน ชอตฟิวเจอร์น่าจะคล่องตัวกว่า หุ้นลงกรณีลงทั้งตลาดไม่จำเป็นต้องชอตตัวที่เรามีก้อได้ อย่าง pttch ไม่มีฟิวก้อชอต top แทน คงไม่ต่างกันมากมาย แต่ถ้าลงเป็นรายตัวเพราะมีข่าว SBL เจ๋งสุด หุ้นขาลงไม่ติดดอยก้อรอดีกว่า ถ้าติดดอยก้ออย่าใส่เงินเพิ่ม ทะยอยขายตัวลงน้อยไปทะยอยซื้อตัวลงเยอะ ทำไปเรื่อยแก้เครียด จากคุณ : พ่อตุ๊ดตู๋ เขียนเมื่อ : 29 ก.ย. 54 05:52:22

ความคิดเห็นที่ 15 อยากบอกจขกท.ว่า กิ๊ฟกับพอร์ทมันคนละอย่างกันค่ะ มีอยู่เดือนนึง ได้กิ๊ฟเยอะมาก แต่พอร์ทไม่เยอะกว่าปกติ แต่เดือนที่แล้วกิ๊ฟได้ไม่เยอะกว่าปกติ แต่พอร์ทมากันบาน ได้กิ๊ฟเยอะ ไม่ได้แปลว่าได้พอร์ทไปแลกของรางวัลเยอะค่ะ แต่เราก็ให้ ฮ่าๆ จากคุณ : khumchalong เขียนเมื่อ : 29 ก.ย. 54 06:08:04

ความคิดเห็นที่ 16 แล้วยังงี้ ทุกคนก็กำไร สบายใจกันทุกคน แต่อยากรู้จริงๆ ใครขาดทุนครับ มีคนกำไร มันก็ต้องมีคน ขาดทุน ดิ จากคุณ : Mi Lady & Mi Lord เขียนเมื่อ : 29 ก.ย. 54 07:20:18

ความคิดเห็นที่ 17 ทุกเกมมีกติกา ใครเข้ามาอยู่ในเกมก็ควรยอมรับกติกา ใครไม่ยอมรับในกติกา ก็ควรออกจากเกม จากคุณ : modpon เขียนเมื่อ : 29 ก.ย. 54 08:12:26

ความคิดเห็นที่ 18 ความจริงการให้ยืมหุ้นมันเป็นการเพิ่มรายได้ (จากค่าให้ยืม) นะครับ improve yield นั่นแหละ โบรกที่ผมใช้อยู่ (เผอิญเป็นเจ้าเดียวกับเจ้าของกระทู้) ถ้าคุณเซ็นเอกสารอนุญาตให้เขาเอาหุ้นคุณไปให้ยืม วันไหนที่เขาเอาหุ้นคุณไปให้คนอื่นยืม คุณก็ได้ค่ายืมมากินขนมเล่น แต่ถ้าคุณเปลี่ยนใจอยากขาย ก็สามารถสั่งขายได้เลยนะครับ เขาีก็จะไปเอาจากคนอื่นมาทดแทนให้คนที่ยืม ดังนั้นคุณแทบไม่เสียประโยชน์อะไรเลย ถือหุ้นไว้ถ้าเขาเอาไปให้คนอื่นยืมก็ได้ตังค์ แต่ถ้าไม่อยากถืออยากขายก็ขายได้ เหมือนวันดีคื์นดีก็ได้เงินมาฟรีๆ ส่วนการยืม ผมว่ามันก็อยู่ที่ว่าคุณมั่นใจในทิศทางขาลงแค่ไหน ถ้ามั่นใจก็ชอร์ตไปเลย แต่อีกเทคนิคหนึ่งคือการทำ Pair Trade คือซื้อตัวหนึ่งแล้วขายอีกตัวหนึ่ง (เหมือนกับที่บางทีเราชอบซื้อหุ้น -F และขาย local แหละ แต่ว่าคราวนี้มันเป็นหุ้นคนละตัวกัน) การทำ Pair Trading ทำให้คุณลดความเสี่ยงจากความผันผวนของตลาดไ้ปได้มาก เพราะคุณ long กับ short พร้อมกัน มันเป็นการที่คุณ bet ว่าหุ้นตัวนึงจะ perform ดีกว่าอีกตัวหนึ่ง ตัวอย่างเช่นเมื่อวันก่อนมีสมาชิกท่านนึงพูดเรื่องราคา PTT แซงปูนใหญ่ไปแล้ว ซึ่งถ้าเราคิดว่ามันไม่สมเหตุสมผล เราก็ชอร์ต PTT แล้วซื้อ SCC เมื่อ spread ของราคามันกลับมาสมเหตุสมผล เราก็จะได้กำไร โดยที่ตลาดอาจจะขึ้นหรือลงก็ได้ (เพราะถ้าขึ้นก็ขึ้นทั้งสองตัว ลงก็ลงตั้งคู่ อันนี้หมายถึงสภาวะตลาดทั่วไปนะ) จากคุณ : Jammer เขียนเมื่อ : 29 ก.ย. 54 09:24:35

ความคิดเห็นที่ 19 เคส ptt กะ scc  เป็นเคสที่เหมาะแก่การทำ Pair Trading มากๆ จากคุณ : hs9jls เขียนเมื่อ : 29 ก.ย. 54 11:24:43

ความคิดเห็นที่ 20 อยากถาม จขกท. หรือผู้ที่ใช้ SBL อยู่ ว่าต้องมีการวางเงินประกันเท่าไหร่ในการเปิดพอร์ท SBL นี้ครับ จากคุณ : IX_XI เขียนเมื่อ : 29 ก.ย. 54 15:20:06

ความคิดเห็นที่ 21 ^ ผมวางไว้8ล้านอ่ะ เทรดได้เซฟๆประมาณ13 ล้านครับ  มาร์บอก จากคุณ : Diamondoid เขียนเมื่อ : 29 ก.ย. 54 17:33:57