Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
*** 36ปี ตลาดหุ้นไทย จากปี 2518-54 ศร้าววว มากกว่า สุข ... นะจ๊ะ ติดต่อทีมงาน

กรุงเทพธุรกิจ    :
บทสรุปของตลาดหุ้นในรอบ 36ปี นับตั้งแต่เปิดซื้อขายครั้งแรกวันที่ 30 เม.ย 2518 ผจก.ฅนแรก ศุกรีย์ แก้วเจริญ ถึงปัจจุบัน จรัมพร โชติกเสถียร SET ผ่าน "ช่วงเศร้า" (ตลาดหมี และตลาดSite_Way) มากกว่าผ่าน "ช่วงสุข" (ตลาดกระทิง)

ช่วงปี 2520-21 ตลาดหุ้นเข้าสู่ "ภาวะกระทิง" เป็นครั้งแรก ภาวะเศรษฐกิจช่วงนั้นขยายตัวสูง บริษัทต่างๆ แห่เข้าจดทะเบียนเป็นจำนวนมาก ถึงสิ้นปี 2521 มีหลักทรัพย์จดทะเบียน 71บริษัท Volumeการซื้อขายในปี 2521 ทะยานขึ้นมาสูงถึง 57,275ล้านบ. เทียบกับปี 2519 ทั้งปีมีวอลุ่มซื้อขายเพียง 1,681 ล้านบาท มีหุ้นจดทะเบียน 32 บริษัท เพียง 2ปี SET เพิ่มขึ้นจาก 82จุด ขึ้นไป 266จุดในเดือน พย. 2521 ปรับตัวเพิ่มขึ้นกว่า 220%

หลังผ่านช่วงดื่มด่ำกับเงินทองที่ไหลมาเทมายังกับสายน้ำ ตลาดหุ้นก็ตกต่ำยาวนานถึง "3 ปีครึ่ง" (ปี 2522-กลางปี25) เกิดวิกฤติราคาน้ำมัน เงินเฟ้อในประเทศเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ตามมาด้วยอัตราดอกเบี้ยที่ถีบตัวสูงขึ้น การลงทุนภาคเอกชนซบเซา ทุนสำรองระหว่างประเทศร่อยหรอ ในที่สุดรัฐบาล พล.อ.เปรม ตัดสินใจลดค่าเงินบาท 9% เมื่อวันที่ 1 กค. 24  ช่วงนั้นเกิดสงครามเวียดนาม และตามมาด้วยวิกฤติราชาเงินทุน  

ดัชนีตกจาก 266จุด ในเดือน พย. 2521 ลงไปต่ำสุด 102จุดในเดือนเม.ย 25 ตกต่ำยาวนานถึง "3 ปีครึ่ง" SET เริ่มฟื้นตัวในช่วงครึ่งหลังของปี25 ถึงครึ่งแรกของปี29 ช่วงนี้ตลาดหุ้น "Side_Way" ยาวนานถึง "3 ปี" (2526-29) มีช่วงขาขึ้น 40-50% เพียงช่วงสั้นๆ เป็นช่วงคาบเกี่ยวระหว่างปี 2525-26

ตลาดหุ้นกลับมาBoom_อีกครั้งในช่วงครึ่งหลังปี29 ถึงเดือน ตค.30 ผลพวงจากการลดค่าเงินบาท เศรษฐกิจกลับมาเฟื่องฟูในปลายสมัยรัฐบาล พล.อ.เปรม ดัชนีขึ้นจาก 127จุด ขึ้นไปสูงสุด 472จุด ปรับตัวเพิ่มขึ้น 270% เป็นช่วงที่นักลงทุนต่างร่ำรวยและฟู่ฟ่า หลังสุขใหญ่..ทุกข์ใหญ่ก็ตามมาติดๆ เกิดเหตุการณ์ Black Monday ในวันจันทร์ที่ 19 ตค. 30 ตลาดหุ้นไทยดิ่งจาก 472จุด ลงไปต่ำสุด 243จุด ดัชนีลดลง 48% ภายในระยะเวลาเพียง 3เดือน

สรุปว่า หลังตลาดหุ้นBoom_ช่วงปี 2520-21 (หุ้นขึ้น 220%) กลับมาบูมอีกครั้งช่วงปี 2529-30 (หุ้นขึ้น 270%) ทิ้งช่วงห่างยาวนาน "7 ปีครึ่ง" = ในรอบ 12ปีแรก (2518-2530) มีช่วงสุขประมาณ 4-5ปี มีช่วงศร้าววว... ยาวนาน 7-8ปี  

หลังเหตุการณ์ Black Monday ปี30 หุ้นไทยฟื้นตัวอย่างรวดเร็ว จาก 243จุดในเดือน ธค. 30 ทะยานขึ้นไปสูงสุด 1,143จุด ในเดือนกค.33 เป็นขาขึ้นยาวนาน "2 ปีครึ่ง" (รอบนี้ SET ก็สูงสุด 1,148จุด วันที่ 1 สค. 54 คล้ายกันเด๊ะ! ตลาดหุ้นขึ้นมาประมาณ 2 ปีครึ่งเหมือนกันอีก) ขณะนั้นไทยฝันจะเป็น เสือตัวที่5_แห่งเอเชีย ต้อนรับ พล.อ.ชาติชาย ชุณหะวัณ เข้ารับตำแหน่งนายกฯ ฅนที่17 ของไทย

ปี33 ช่วงที่พล.อ.ชาติชาย "เรืองอำนาจ" ช่วงนั้นธุรกิจของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร กำลังเริ่มเติบโต มีเหตุการณ์ปลดฟ้าผ่า กำจร สถิรกุล ออกจากผู้ว่าBank_ชาติ เดินหน้าแปรรูปรัฐวิสาหกิจ อสังหาริมทรัพย์บBoom_สุดขีด แต่ปีนั้นก็เกิดเหตุการณ์  "อิรักบุกคูเวต" ถือเป็น "จุดจบ" ของตลาดหุ้น (ครั้งนี้จุดจบตลาดหุ้นเกิดวิกฤติหนี้ยุโรป-เศรษฐกิจสหรัฐอ่อนแอ)  

หุ้นดิ่งจาก 1,143จุด ลงไปต่ำสุด 536จุด ภายในระยะเวลาเพียง 4เดือน ลดลงถึง 53% หลังจากนั้น 5เดือนต่อมาก็ทะยานขึ้นไปสูงสุด 911จุด รีบาวด์ 70% แต่ก็ไม่สามารถขึ้นไปถึงจุดสูงสุดเดิมที่ 1,143จุดได้ ตลาดหุ้น "Side_Way" เป็นฟันปลายาวนานถึง "ปีครึ่ง" (2534-ครึ่งปีแรก 2535) ก่อนจะทะยานขึ้นไปได้อย่างบ้าเลือดขึ้นไป 1,789จุด ภายในระยะเวลาเพียง "ปีครึ่ง" (มิ.ย 35-มค. 37)    

ในระหว่างปี 2534-35 ได้เกิดเหตุการณ์สำคัญ พล.อ.สุนทร คงสมพงษ์ หัวหน้าคณะ รสช. "ปฏิวัติ" ล้มรัฐบาล "บุฟเฟ่ต์คาบิเนต" ของ พล.อ.ชาติชาย ตั้งข้อกล่าวหารัฐบาล "เผด็จการ" และ "ฉ้อราษฎร์บังหลวง" แต่คณะรสช.ก็ไปได้รอดเมื่อตั้ง พล.อ.สุจินดา คราประยูร ขึ้นมา "สืบทอดอำนาจ" จนนำไปสู่เหตุการณ์ "พฤษภาทมิฬ" ในปี35  อานันท์ ปันยารชุน กลับมาเป็นนายกฯ อีกครั้ง

ต่อมาในปี36 พรรคปชป. ได้กลับมาเป็นรัฐบาล ชวน หลีกภัย เป็นนายกฯ ช่วงนั้นGDP ไทยเติบโต 7-8% SETทำลายจุดสูงสุดเป็นประวัติการณ์ 1,789จุด ในวันที่ 4 มค. 37 แต่อะไรที่Boom_สุดขีดก็ตกอย่างน่าใจหายได้เช่นกัน ตลาดหุ้น Side_Way นานถึง "2 ปีเต็ม" (2537-2538) ก่อนจะแปรสภาพเป็น "ขาลงใหญ่" ในปี 2539 หลัง บรรหาร ศิลปอาชา เข้ามาเป็นนายกฯ

พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ เข้ามาเป็นนายกฯ ไม่นานก็เกิดวิกฤติ "ต้มยำกุ้ง" ปี 2540 แต่ตลาดหุ้นเริ่มเป็น "ขาลงล่วงหน้า" มาตั้งแต้ต้นปี39 แล้ว และลงมาอย่างต่อเนื่องยาวนาน "2 ปีครึ่ง" (2539-กลางปี41)

สรุป ก็คือ ตลาดหุ้นในช่วงปี 2530-40 เป็นขาขึ้น "2 ปีครึ่ง" (2531-กลางปี33) หุ้นขึ้นประมาณ 370% (243-1,143 จุด) พักตัว "ปีครึ่ง" แล้วเป็นขาขึ้นต่ออีก "2 ปี" (2535-36) ขึ้นอีกประมาณ 170% หลังจากนั้นตลาดก็ "Side_Way" อีก 2 ปี (2537-38) แล้วก็เกิด "หมียักษ์" ในปี 2539-40 นักลงทุนสิ้นเนื้อประดาตัวจำนวนมาก ***

เท่ากับว่าช่วง 10ปีนี้ "สุข" 4 ปีครึ่ง "เศร้า" อีก 5 ปีครึ่ง

หลังปี 2540-54 หรือในรอบ 14ปีที่ผ่านมา ตลาดหุ้นไทยมีช่วง "กระทิง" เพียง 4รอบเท่านั้น รอบแรกคือช่วงปี41 สมัยรัฐบาล ชวน 2 เป็นช่วง "ฟื้นตัวชั่วคราวจากวิกฤติ" ดัชนีขึ้นจาก 204จุด (กย. 41) ขึ้นไป 551จุด (มิ.ย 42) ปรับตัวเพิ่มขึ้น 170%

รอบที่2 คือ ช่วงตค.35-ธค.36 หลัง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เข้ามาบริหารประเทศเป็นปีที่3 นโยบายประชานิยมกำลังเบ่งบาน มีการโยกย้ายข้าราชการระดับสูงจนสามารถสั่งซ้ายหันขวาหันได้หมดแล้ว ดัชนีขึ้นจาก 323จุด ขึ้นไป 802จุด ปรับตัวเพิ่มขึ้น 148% แต่ พ.ต.ท.ทักษิณ ก็ไปไม่รอดถูก "ปฏิวัติยึดอำนาจ" คล้ายรัฐบาล พล.อ.ชาติชาย

รอบที่3 คือ ในสมัยรัฐบาล พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ หลังเกิดเหตุการณ์หุ้นตกใหญ่ 108จุด ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล ประกาศมาตรการสำรอง 30% สกัดการเก็งกำไรค่าเงินบาท ในเดือนธค.49 ตอนนั้นหุ้นตกลงไปจาก 748จุด เหลือ 587จุด ลดลง 21% หลังหุ้นตกใหญ่พอข้ามปีในปี 2550 ตลาดหุ้นเกิด "ภาวะกระทิงย่อมๆ" ทะยานจาก 587จุด ขึ้นไปสูงสุด 924จุด เพิ่มขึ้น 57%

ก่อนที่ตลาดหุ้นจะกลับมา Boom ใน "ยุคสุดท้าย" (รอบที่4) หลัง SET "ล่มสลาย" จากวิกฤติSub_Prime หุ้นตกหนักจาก 924จุด ลงมาต่ำสุด 380จุด ลดลง 58% ก่อนจะทะยานจาก 380จุด ขึ้นไปสูงสุด 1,148จุด เพิ่มขึ้น 202% ในระยะเวลาประมาณ "2 ปี 8 เดือน" (ธค. 2551-กค.54)

ในรอบ 14ปี นับจากปี 2540-54 ตลาดหุ้นไทยมีช่วง "สุข" (ขาขึ้น) 4รอบใหญ่ รวมระยะเวลาสั้นมากเพียง 5-6ปี เท่านั้น ส่วนที่เหลือ 8-9ปีเป็นช่วงที่ตลาด "Side_Way" และเป็น "ขาลง"

หากประเมินจาก "ภาพใหญ่" ของเศรษฐกิจโลกที่มี "ความเสี่ยงสูง" (มาก) ในขณะนี้ นำมาเทียบเคียงกับสถิติของ SET Index ในอดีต พอจะสรุปได้ว่า จุดสูงสุดของดัชนีที่ระดับ 1,148จุด ที่ทำไว้เมื่อวันที่ 1 สค.54 อาจจะเป็น "จุดPeac" ของตลาดหุ้นไทยไปแล้วในช่วง 1-2ปีข้างหน้านี้ก็เป็นไปได้

*** บทสรุป ก็คือ ดีที่สุดถ้า SET ไม่เป็น "ขาลง" ทำจุด "ต่ำสุดใหม่" ตลาดก็จะ "Side_Way" ออกด้านข้าง แต่ขึ้นไม่น่าจะถึง 1,150จุด เพราะฉะนั้นกลยุทธ์การลงทุนที่ดีที่สุดในช่วง 1-2ปีข้างหน้า "ขึ้นขาย-ลงซื้อ" เป็นตลาดของการ "เล่นรอบ"  เหมาะกว่า ลงทุนระยะยาวๆ .... นะจ๊ะ

 
 

จากคุณ : ศิษย์ซุนวู
เขียนเมื่อ : 4 ต.ค. 54 21:57:20




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com