|
#12
แต่ละคนก็มีวิธีการลงทุนครับ เช่นบางกลุ่มดูกราฟ บางกลุ่มดูพื้นฐาน
เช่นกลุ่มดูกราฟ อาจจะเห็นสัญญาณมัน oversold rsi macd หักหัวตัดขึ้นอะไรก็ว่าไป (มั้ง) สำหรับผมดูกราฟไม่เป็น
ก่อนซื้อผมพยายามประเมินพื้นฐานราคาที่เหมาะสม (ราคาที่เหมาะสมของแต่ละคนอาจจะไม่เท่ากัน) หุ้นราคาปัจจุบันแพงไหมมันมี mos เพียงพอปล่า
อาจจะใช้หลักการของ benjamin graham
mos = margin of safety คือ ส่วนเผื่อความปลอดภัย = ราคาหุ้นที่สามารถเข้าซื้อได้โดยมีความเสี่ยงต่ำ
เช่น
- บริษัทใหญ่มียอดขายดี - บริษัทมีการจ่ายปันผลสม่ำเสมอ - บริษัทมีสภาพคล่องสูง มีหนี้ต่ำ - วิเคราะห์จากอัตราส่วนต่างๆ PE, P/BV, Book value - ฯลฯ
ถ้าบริษัทพวกนี้อยู่มาวันหนึ่ง ราคาลดลงจากสูงสุดลงมา 80-100% แล้วราคาหุ้นยังต่ำกว่าที่เราประเมิน มันก็น่าเสี่ยงที่จะเข้าซื้อครับ เพราะพื้นฐานมันไม่ได้เปลี่ยนกันง่าย แต่หุ้นลดราคาให้เรา
สมมุติมีบริษัทหนึ่งมีโรงงานอยู่ แล้วเกิดไฟไหม้ ต่อมา 1-2 วันหุ้นก็ตกยังหนัก หลายๆคนก็ยังอุตส่าจับโยงหุ้นตกเพราะไฟไหม้ (ถ้าเราลองมานั่งคิดดูปิดไปสักโรงงาน ยอดขายจะตกมากไหม ปัญหาที่เข้ามา สุดท้ายมันก็จะผ่านไปเมื่อปัญหานั้นได้รับการแก้ไข สุดท้ายราคาก็จะกลับมา)
หรืออีกบริษัทมีข่าวดีแค่บอกจะเข้าไปซื้อที่นู้นนี่นั่น หุ้นวิ่งขึ้นทันที (แค่ซื้อคิดจะซื้อยังไม่รู้จะทำอะไรเลย งบจะเปลี่ยนแล้วหรอเร็วจังเนอะ)
เหมือนที่ผ่านมา PTT ก๊าซรั่ว พอหุ้นตกก็ยังอุตส่าจับโยงกันเข้าไปอีก หุ้นตกเพราะก๊าซรั่ว แล้ว PTT จะปล่อยให้รั่วตลอดไหมครับ
**พวกนี้มันเป็นปัญหาชั่วคราวครับ เข้ามาแล้วก็ผ่านไป**
ในระยะสั้นราคาหุ้นขึ้นลงตามอารมณ์ของคน แต่ระยะยาวแล้วผลประกอบการบริษัทจะดันราคาหุ้นเองครับ
**ถ้าวิธีการที่ใช้อยู่มันไม่ได้ผล ผมอยากให้ลองศึกษาวิธีอื่นครับ
แก้ไขเมื่อ 08 ต.ค. 54 16:10:13
จากคุณ |
:
Shimi
|
เขียนเมื่อ |
:
8 ต.ค. 54 16:06:05
|
|
|
|
|