ความคิดเห็นที่ 1 เฟสบุคของเรา ให้อะไรมากกว่าที่คุณคิด (บางครั้งมีสาระบ้าง ไม่มีสาระบ้าง) จากคุณ : venezier เขียนเมื่อ : 9 ต.ค. 54 20:28:41

ความคิดเห็นที่ 2 ขยันจังนะตัวเงง แก้ไขเมื่อ 09 ต.ค. 54 20:58:57 จากคุณ : WTKn เขียนเมื่อ : 9 ต.ค. 54 20:56:46

ความคิดเห็นที่ 3 คนขยัน = คนสวย นะเทอว์ !!! จากคุณ : venezier เขียนเมื่อ : 9 ต.ค. 54 21:05:28

ความคิดเห็นที่ 4 คนขยัน คือ คนที่จะรวยจากการลงทุน เพราะมีข้อมูลแน่นดี จากคุณ : teety เขียนเมื่อ : 9 ต.ค. 54 21:20:12

ความคิดเห็นที่ 5 ต่อไปเราจะพยายามขยัน เผื่อจะสวยขึ้น จากคุณ : WTKn เขียนเมื่อ : 9 ต.ค. 54 21:21:16

ความคิดเห็นที่ 6 คุณ venezier อย่าแย่งพี่เม่าสวยสิคับ จากคุณ : corner_newc เขียนเมื่อ : 9 ต.ค. 54 21:32:34

ความคิดเห็นที่ 7 ขอบคุณครับ สอบถามเพิ่มเติมครับ ECB มีโอกาจะทำกับประเทศยุโรปอื่นๆแบบเดียวที่ทำกับกรีซได้เปล่าครับ? จากคุณ : Pogio เขียนเมื่อ : 9 ต.ค. 54 21:34:00

ความคิดเห็นที่ 8 รออ่านข้อมูลของคุณเวเนเซียร์ตลอดค่ะ จากคุณ : chittha (chittha) เขียนเมื่อ : 9 ต.ค. 54 21:41:21

ความคิดเห็นที่ 9 จากคุณ : มิ่งกลิ้ง เขียนเมื่อ : 9 ต.ค. 54 21:42:18

ความคิดเห็นที่ 10 Re#7 ECB ไม่ปล่อยให้สเปนอิตาลีล้มแน่ๆครับ คือเขาอัดทุกมาตรการช่วยเหลือเข้าไปจริงๆ แต่จะช่วยเหลือแบบยั่งยืนได้หรือไม่อันนั้นต้องรอดูครับ เพราะอย่างไทยช่วง 40 ของเรา การฟื้นตัวคือเราปล่อยให้มันดิ่งลงเหวไปจนเละที่สุด แล้วเราบูรณาการขึ้นมาใหม่ ซึ่งมันทำให้เศรษฐกิจยั่งยืน เสมือนกับการผ่าตัดเอาเนื้องอก และมะเร็งออกจากทุกส่วนจนร่างกายเราแหลกสลาย แต่พอเราโตได้ใหม่ เราก็จะเติบโตอย่างมีความสุขเพราะสิ่งเลวร้ายในตัวมันออกไปหมดแล้ว แตกต่างจากตอนนี้ยุโรป กำลังเลี้ยงไข้กันซึ่งยิ่งเลี้ยงก็ยิ่งแย่ ดีไม่ดีจะฉุดลงเหวลงนรกไปทั้งโลก ด้วยระยะเวลาที่ยาวนาน ความเหมือนที่แตกต่างให้ลองดูที่ช่วงซัพไพรม์ ที่เศรษฐกิจสหรัฐตกเหวลงไปถึงขีดสุดแล้วก็ตีกลับขึ้นมาได้ แม้ทุกวันนี้ภาคการจ้างงานสหรัฐและเศรษฐกิจยังอ่อนแอ แต่ที่แน่ๆภาคการธนาคารสหรัฐตอนนี้แข็งแกร่งมาก เช่นกันกับไทย ช่วง 40 ก่อนหน้านั้นภาคการธนาคารเละ ธนาคารไหนเพิ่มทุนไม่ได้ก็ตายไป ช่วงนี้เราจึงเห็นธนาคารของไทยเราค่อนข้างแข็งแกร่งในด้านความมั่นคง (แต่ศักยภาพแข่งขันคงต้องดูอีกแบบ) สิ่งที่น่ากังวลไปกว่านั้นคือเมื่อภาคการเงินประสบปัญหาไประยะหนึ่งแล้ว สิ่งที่ตามมาคือ Recession ครับ ณ เวลานี้มันเริ่มเกิดขึ้นแล้วจริงๆ เศรษฐกิจของกลุ่มยูโรโซนเริ่มชะลอตัวลง เศรษฐกิจของสหรัฐเองก็ยังดูไม่ดี คงต้องรออีกระยะถึงจะตอบได้หรือไม่ว่า Recession จะเกิดขึ้นจริงๆหรือไม่ เพราะ ณ ข้อมูลที่มีตอนนี้ มันยังไม่ได้สะท้อนออกมาทุกอย่าง แต่ก็แน่นอนว่าความน่าจะเป็นมันเริ่มสูงขึ้นแล้ว ยุโรปเวลานี้มีแค่สองชาติเท่านั้นที่สามารถพยุงเอาไว้ได้คือฝรั่งเศส และเยอรมัน ซึ่งมันแตกต่างกับช่วง 2000 - 2007 ที่ช่วงเวลานั้นยุโรปมีความแข็งแกร่งถึงขีดสุด เพราะแต่ละประเทศเศรษฐกิจแข็งแกร่งมาก แต่เวลานี้คือมันโดนหลายทาง และความเป็นใหญ่ของซีกตะวันตกเริ่มหมดไป ยุคใหม่ของซีกโลกตะวันออกก็เข้ามา เงินของชาติที่ร่ำรวยเหล่านั้นจึงไหลมาอยู่สองที่ด้วยกัน ที่แรกคือจีน และที่ที่สองคือตะวันออกกลาง ซึ่งตะวันออกกลางก็มีเงินสดเยอะมากไม่แพ้กัน เร็วๆนี้พึ่งแจก 1 ล้านล้านเหรียญ ให้ประชาชนของชาติโอเปค การพยุงของ ECB ที่จะพยุงให้ชาติอื่นๆ คงไม่ได้มีมากมายเท่าไหร่ เพราะยิ่งพยุงเงินก็ยิ่งหมด หนี้สินของกรีซกว่า 14 ล้านล้านบาท มากเป็น 5 เท่าของอาร์เจนตินาที่เคย Default ไปเมื่อสิบปีก่อน และมากกว่าไทยถึง 23 เท่าสมัยต้มยำกุ้ง ยังไม่นับอีกหลายชาติทั้งสเปน อิตาลี โปรตุเกส ไอร์แลนด์ และยังมีภาคการธนาคารที่รอรับความช่วยเหลืออีกนับร้อยแห่งที่จะได้รับผลกระทบลูกโซ่ขนาดยักษ์ คิดว่ายุโรปจะรอดไหมครับ? ทุกปัญหามีทางแก้ก็จริง แต่ทางแก้บางครั้งก็คือการปล่อยให้พังลงไปแล้วฟื้นมาใหม่นั่นเอง จากคุณ : venezier เขียนเมื่อ : 9 ต.ค. 54 22:00:07

ความคิดเห็นที่ 11 GDP Eurozone 0.2% [5 ตุลาคม 2011] แก้ไขเมื่อ 09 ต.ค. 54 22:02:16 จากคุณ : venezier เขียนเมื่อ : 9 ต.ค. 54 22:01:39

ความคิดเห็นที่ 12 GDP UK -0.1% [5 ตุลาคม 2011] จากคุณ : venezier เขียนเมื่อ : 9 ต.ค. 54 22:03:21

ความคิดเห็นที่ 13 GDP US 1.3% [29 กันยายน 2011] จากคุณ : venezier เขียนเมื่อ : 9 ต.ค. 54 22:04:40

ความคิดเห็นที่ 14 GDP ไม่สามารถบอกทุกอย่างได้ แต่มันบอกภาพรวมแบบกว้างๆให้เราดูได้ ซึ่งการจะบอกว่าเศรษฐกิจจะเป็นอย่างไรต้องอาศัยข้อมูลอื่นๆประกอบอีกเยอะแยะมาก แต่โดยรวมเมื่อ ยุโรปดูแย่ สหรัฐเองก็จะแย่ไปด้วยเพราะเป็นคู่ค้าสำคัญ และยิ่งจะเป็นผลกระทบต่อไปเป็นทอดๆกับชาติที่ทำการค้าสหรัฐ และสุดท้ายก็คือโลกหยุดนิ่ง เศรษฐกิจไม่ไปไหน อาจจะแค่ Slow Down สักระยะแล้วกลับขึ้นไปใหม่ก็ได้ (มองโลกในแง่ดี) หรืออาจจะพยุงไม่ไหวกลายเป็น Recession ไปเลยก็ได้แล้วค่อยกลับขึ้นมา (มองโลกในแง่ร้าย) ตอนนี้สิ่งที่ผมรอคือการแก้ไขปัญหาหนี้กรีซ ยังไม่จบ เพราะมันยังไม่มีการแก้ไขปัญหาอะไรเลย ที่ออกมาเป็นรูปธรรมว่า "กรีซจบแล้วจริงๆ" ตอนนี้คือเหมือนยังยื้อ ยังรอ ยังหน่วงอยู่ ส่วนปัญหาอื่นๆข้างหน้ากำลังรออีกเพียบ แล้วก็ยังไม่รู้ว่าจะแก้ไขได้จริงๆหรือไม่ การหั่นอันดับของอิตาลีและสเปน เป็นผลเสียอย่างร้ายแรง แม้เมื่อคืนวันศุกร์เราเห็นดาวโจนส์ลบไม่แรง แต่ดัชนีนั้นเราต้องเข้าใจว่ามันเป็นดัชนีค่าเฉลี่ยราคาดาวโจนส์ ไม่ใช่ดัชนีที่คำนวณบ่งบอกสภาพตลาดจริงๆ ในค่ำคืนวันศุกร์มันมีตัวเลขการจ้างงานสหรัฐที่ดี กลุ่มอุตสาหกรรมจึงยังคงพอพยุงตลาดได้ ส่วนธนาคารสองตัวที่เข้าคำนวณในดาวโจนส์ทั้ง Bank of America และ JP Morgan ติดลบกันไปตัวละ 5% ส่วนดัชนี Nasdaq Banking Sector ติดลบไปกว่า 4% เพราะสองประเทศนี้เมื่อโดนลดอันดับลง ก็จะมีสิ่งที่ตามมาคือความเคลื่อนไหวในตลาดบอนด์และตลาดเงินที่เคลื่อนตัวออกจากประเทศเหล่านั้น การหั่นอันดับเครดิตไม่เคยเกิดผลดี เพราะบางกองทุนที่มีการลงทุนในพันธบัตรประเทศที่มีอันดับเครดิตสูงๆ เมื่อประเทศเหล่านั้นโดนหั่นอันดับ ผลก็คือกองทุนต้องขายบอนด์ออก ซึ่งจะไปเร่งให้ Yield สูงขึ้น และเป็นภาระการคลังแก่ประเทศเหล่านั้นที่ต้องเจอกับดอกเบี้ยสูงขึ้น และความเชื่อมั่นก็หดหายออกไปด้วย จากคุณ : venezier เขียนเมื่อ : 9 ต.ค. 54 22:12:30

ความคิดเห็นที่ 15 "ความเป็นใหญ่ของซีกตะวันตกเริ่มหมดไป ยุคใหม่ของซีกโลกตะวันออกก็เข้ามา" ถึงปัจจุบันตลาดจะเป็นแบบเปิด ในเมื่อซีกตะวันตกแย่ ย่อมส่งผลต่อซีกตะวันออก แต่เมื่อพื้นฐานฝั่งตะวันออกแข็งแรงกว่าแต่ก่อนประกอบกับฝั่งตะวันตกแย่ จึงทำให้ซีกตะวันออกตลาดไม่ได้crackตามไป แต่จะเป็นแนว"ยังเติบโต"ได้ช้าแทน(ไม่แย่ลง) ส่งออกไปทางนู้นลดลง มาบริโภคค้าขายกันเองมากขึ้น ปรับสมดุลใหม่ โดยเฉพาะกลุ่มอาเซียน อยากฟังความคิดเห็นคุณเวนิสประเด็นนี้ด้วยครับ จากคุณ : Pogio เขียนเมื่อ : 9 ต.ค. 54 22:44:07

ความคิดเห็นที่ 16 มันต้องได้รับผลกระทบครับ แต่ประเทศที่มีฐานะการคลังแข็งแกร่งจะได้รับผลกระทบน้อยหน่อย โดยเฉพาะประเทศในเอเชีย ก็เริ่มดีขึ้นมามาก ไม่ว่าจะในตะวันออกกลาง จากที่เราเคยเห็นดูไบเกือบเกิดวิกฤต เพราะขยายเศรษฐกิจมากเกินไปจนเกิดฟองสบู่ในภาคอสังหา แต่ถูกแก้ปัญหาอย่างรวดเร็วด้วยการสนับสนุน จากชีค คาลิฟะห์ ที่เข้ามาสนับสนุนทางการเงินอย่างเต็มรูปแบบ จนชื่อตึกที่สูงที่สุดในโลก Burj Dubai ก็ต้องเปลี่ยนชื่อไปเป็น Burj Khalifa ไปแทน แต่เศรษฐกิจในตะวันออกกลางปัจจุบันพึ่งพาน้ำมันมาก ซึ่งหลายประเทศก็เริ่มปรับโครงสร้างเศรษฐกิจให้พึ่งพาธุรกิจและการท่องเที่ยวมากขึ้น จากเดิมที่มีน้ำมันเยอะ ก็มาทำธุรกิจแทน ดังนั้นเราจึงเห็นเงินทุนจากตะวันออกกลางมักจะเข้าซื้อหุ้นหรือธุรกิจในช่วงธุรกิจซบเซาอย่างมาก คล้ายกองทุน SWF ที่เราจะทำ หรือเทมาเสคของสิงคโปร ซึ่งจะเป็นแหล่งสร้างรายได้ให้กับตะวันออกกลางแทนน้ำมันในอนาคต การเติบโตเศรษฐกิจของยักษ์ใหญ่ในเอเชียเช่นจีนปกติเติบโตเฉลี่ย 8% (หรือต่ำที่สุดก็ไม่ต่ำไปกว่า 7) อาจจะต้องปรับประมาณการลง ไปเหลือ 1-3% แทนในช่วงที่โลกกำลังเผชิญภาวะวิกฤต (หากเกิดขึ้นจริง) แต่ก็แน่นอนว่าผลกระทบมันจะขยายวงกว้าง ไปทั่วทั้งภาคการเงินและเศรษฐกิจ เนื่องจากประเทศเหล่านั้นก็ต้องมาถอนสินทรัพย์ออกไปอุดประเทศ/ธุรกิจ อยู่ดี ส่วนประเทศในแถบบ้านเราเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (โฟกัสเฉพาะไทย) ก็มีเศรษฐกิจที่พึ่งพาอเมริกาอยู่ไม่น้อย แต่ก็ไม่มากขนาดว่า ฉันขาดเธอเราขาดใจ แต่คือเรายังมีภาคเกษตร ภาคอุตสาหกรรม และการท่องเที่ยว เรามีรายได้หลายทาง ซึ่งการเติบโตของเรายังมีอยู่ (แต่ยังไม่ได้ Adjust เรื่องน้ำท่วมเข้าไปซึ่งจะกระทบการเติบโต) ภาคเกษตรเราค้าขายได้กับหลายประเทศ (แต่ไม่ใช่รายได้หลักของเรา) แต่เราก็สามารถเลือกขายได้ เพราะมันเป็นสิ่งที่ ทุกคนบนโลกนี้ต้องการ (แต่อาจส่งออกได้น้อยลงเพราะข้าวเสียหายน้ำท่วมเยอะ) ส่วนอุตสาหกรรมนี่ต้องประเมิณกันหน่อย เพราะบางอย่างคือเหมือนเราเป็น Diversified คือผลิตชิ้นส่วนส่ง ประกอบชิ้นส่วนส่ง อะไรแนวนั้น ซึ่งพึ่งพาหลายชาติ ทั้งญี่ปุ่น จีน และอเมริกา ส่วนนี้อาจจะได้รับผลกระทบครับเพราะดีมานด์จะลดลง (แต่ซัพพลายก็น่าจะลดลงมั้งเนี่ยเพราะน้ำท่วม) = =' ในเรื่องของการท่องเที่ยวเราก็ปรับตัวได้ง่าย แต่พวกปรับตัวยากคือพวกโรงแรม 5 ดาว เพราะกลุ่มที่มาพักโรงแรมแนวนี้มักจะเป็น พวกยุโรป หรืออเมริกา (รวมรัสเซีย แต่รัสเซีย OK) กลุ่มนี้อาจได้รับผลกระทบ ส่วนกลุ่มที่ยังคงดีน่าจะเป็นกลุ่มโรงแรม 4 ดาว ซึ่งจะเป็นพวกนักท่องเที่ยวชาวจีน สิงคโปร ฮ่องกง ออสเตรเลีย ญี่ปุ่น แนวๆนี้เยอะ และยิ่งเป็นโอกาสอันดีที่เราจะทำตลาดให้มากขึ้น ตอนนี้ก็ต้องดูไปก่อนเพราะมันเหมือนผีซ้ำด้ามพลอยที่เศรษฐกิจทั่วโลกมันเริ่ม Slow down ส่วนบ้านเราเองกำลังเจอน้ำท่วม ซึ่งตามที่คาดการณ์ และจากสัมภาษณ์ของรมว.คลัง ระบุว่าน้ำท่วมครั้งนี้เรารุนแรงที่สุดในรอบ 50 ปี และมูลค่าความเสียหาย ประเมิณ (แบบกว้างๆ คร่าวๆ) เป็นแสนล้าน ซึ่งตรงนี้เราต้องมารื้อกันใหม่หมดว่าไทยเราจะย้อนไปเหมือนปี 2008 หรือไม่ เพราะเศรษฐกิจเริ่มตกต่ำ แฮมเบอร์เกอร์เริ่มเน่า และเรามีปัญหาการเมืองในประเทศที่มีการปิดสนามบินจนการค้าชะงักตัวลงไปด้วย สถานการณ์นี้มันยิ่งตอกย้ำให้ผมมองหุ้นในมุมมองที่เป็นลบมากกว่าบวก แค่น้ำท่วมก็นับว่าเรื่องใหญ่แล้วหละ และยังรอดูว่าหากมีการช่วยเหลือระดมทุนจากต่างชาติ เงินบาทจะยิ่งแข็ง และทำให้ภาคการส่งออกของเรากำไรน้อยลงไปด้วย จากคุณ : venezier เขียนเมื่อ : 9 ต.ค. 54 23:00:02

ความคิดเห็นที่ 17 ท่านvenezier ของเราก็ใช่ว่ามะเร็งจะหมดไปนะครับ แค่หลักๆภาคธนาคาร เอกชนดีขึ้น แต่มะเร็งมันกระจายตัวไปที่อื่น หนี้สาธารณะปี37ประมา1x%ของGDP ตอนนี้GDPโตขึ้นประมาณ2เท่า แต่หนี้สาธารณะอยู่ระดับ4x%กดไม่ลงสักที ยังไม่รวมหนี้หน่วยงานรัฐ รัฐวิสาหกิจ หนี้ที่รัฐบาลค้ำประกัน หนี้กองทุนฟื้นฟูอีก1.1ล้านๆ ก็ไม่นับรวมด้วยนะ ธปท.บอกว่าหนี้ส่วนนี้ธปท.ไม่ขอจ่ายดอก เงินต้นต้องรอมีกำไร ทั้งยังบอกว่า หนี้ส่วนนี้ไม่ใช่ของธปท.เป็นของรัฐบาลอีก ผมหล่ะงง สรุปมันของใครกันแน่ ถ้าธปท.ไม่ยอมรับทำไมไม่บอกตั้งแต่40 ปล่อยให้รัฐบาล(พวกเรา/กรูนี่แหละ)จ่ายดอกปีละ5หมื่นล้านมาสิบกว่าปี รวมๆก็5แสนล้าน แต่ธปท.กลับจ่ายเงินต้นได้แค่1แสนล้านในเวลาที่ผ่านมา ถ้าบอกมาตั้งแต่แรกคงให้รัฐบาล ตั้งงบจ่ายทั้งเงินต้นทั้งดอกเบี้ยไปนานแล้ว ฮวย(บ่อข่วย) ยิ่งตอนนี้ประชานิยมกันหนัก (หนักมาตั้งแต่ทักษิณถึงพี่มากและเจ้ปู) จนชาวบ้านติดงมแงมยิ่งกว่าติดยาบ้า ก็ไม่รู้ว่าระเบิดหนี้ ที่ซุกไว้ใต้พรมจะตูมเมื่อไหร่ ไม่แน่ภายใน10ปีหน้าอาจได้ดู วิกฤติ"ต้มยำกุ้ง2" ภาคช้างน้อยกรูอยู่ไหน ก็เป็นได้ จากคุณ : ANUBIS[TJ] เขียนเมื่อ : 9 ต.ค. 54 23:16:55

ความคิดเห็นที่ 18 โรงแรมผมว่าอีกนานเพราะover supplyมานาน อีกทั้งเมกา EUซึม คงไม่ฟื้นง่ายๆ จะหวังได้คงต้องบุกemerging market S-america รัสเซีย จีน อินเดีย ออส ซึ่งต้องใช้เวลา จากคุณ : ANUBIS[TJ] เขียนเมื่อ : 9 ต.ค. 54 23:25:55

ความคิดเห็นที่ 19 อันนั้นก็ต้องดูกันไปครับคุณ ANUBIS แหะๆ แต่คือถ้าลองเปรียบเทียบถึงรายจ่ายมาก แต่รายได้เรายังมีมากได้จากหลายทาง ก็โอเคอยู่ครับ ส่วนกรีซเราต้องยอมรับว่าเป็นความผิดพลาดของการคลังที่ไม่เปิดเผยข้อเท็จจริง อีกทั้งประเทศไม่ได้มีรายได้มากมาย เพราะการเดินเรือก็หดตัว และการท่องเที่ยวกรีซก็ไม่ได้นับว่าดีนัก แต่ของไทยเรายังมีความสามารถได้หลายทาง แต่ก็ใช่ว่าจะเป็นแบบกรีซไม่ได้ครับ ตรงนี้ก็ต้องรอดูกันไป ... จากคุณ : venezier เขียนเมื่อ : 9 ต.ค. 54 23:26:26

ความคิดเห็นที่ 20 italy มีหนี้ 118.1% of GDP และงบขาดดุลตอนนี้ -5% of GDP spain มีหนี้ 63.4% of GDP และงบขาดดุลตอนนี้ -9.7% of GDP short term อิตาลีน่าห่วงกว่า (หนี้เยอะ) long term สเปนน่าห่างกว่า (ขาดดุลเยอะ) ที่น่าสนใจคือ 2ประเทศนี้จะทำอย่างไรให้งบประมาณกลับมาอยู่ในแดนบวกได้ จะมีอะไรที่ทำให้การใช้จ่ายอย่างบ้าคลั่งเกินงบขนาดนี้ลดลงได้ หรือจะหาเงินเข้าประเทศด้วยวิธีใด วิธีเหล่านี้จะโดนประชาชนประท้วงเหมือนกรีซหรือไม่ อิตาลี เป็นเจ้าภาพการจัด Expo 2015 น่าสนใจว่าอิตาลีจะได้หรือเสียจากการจัดงานนี้ (Expo 2010 จัด ณ.เซี่ยงไฮ้ ว่ากันว่าใช้งบไป 3.7 พันล้าน USD ) จากคุณ : Metalloids เขียนเมื่อ : 9 ต.ค. 54 23:34:34

ความคิดเห็นที่ 21 บ้านเราคงต้องฝากไว้กับภาคเอกชนแล้วครับ ถ้าเอกชนเจ๊งก็จบเพราะรัฐบาลไม่มีแรงมารับหนี้ ภาคเอกชนได้เหมือนปี40แล้ว แรงอัดฉีดเงินก้ไม่ค่อยมี แต่ตราบใดที่ภาคเอกชน ยังบริหารจัดการได้ดี+ไม่ลืมวิกฤติ40 ก็คงไม่ล้มง่ายๆ ผมกลัวว่าผ่านไปนานๆแล้วจะหลงระเริง จนลืมหน่ะสิครับ  ถ้ามันเกิดในอีก20ปีข้างหน้า ถ้านับจากปี40ก็30ปี1genพอดี แล้วภาคเอกชนล้ม ผมไม่อยากคิดถึงตอนที่ผมต้องมาตกงานตอนอายุ40 ตอนนั้นผมคงมีห่วงรัดคอแล้วมั้ง แต่อีกแง่หนึ่ง ภาคเอกชนเราก็พอตัว ส่งออกเกินดุลได้อยู่เรื่อยๆแม้จะไม่มากและเป็นปริมาณ ที่ลดลง(ซึ่งคงต้องลดการรับจ้างการผลิตแล้วเพิ่มvalue addedให้มากขึ้น) ภาคเกษตรเราก็เก่งเลี้ยงคนได้ทั่วโลก ภาคท่องเที่ยวเราก็มีจุดเด่นแข่งขันได้ อีกทั้งทำเลที่เป็น ฮับเชื่อมระหว่างแปซิฟิกกับมหาสมุทรอินเดีย ทำให้เราได้เปรียบ แต่ต้องลงทุนโครงสร้าง พื้นฐานโดยเฉพาะระบบรางคู่ทั้งขนคนขนสินค้า ไม่งั้นเราอาจเสียโอกาสนี้ให้พม่าหรือ เวียดนามก็เป็นได้ จากคุณ : ANUBIS[TJ] เขียนเมื่อ : 9 ต.ค. 54 23:50:43

ความคิดเห็นที่ 22 ขออนุญาต จขกท ครับ พอดีสะดุดนิดหนึ่งตรง CPI น่าจะหมายถึง ดัชนีราคาผู้บริโภค (บอกอัตราเงินเฟ้อ) มากกว่าที่จะเป็นความเชื่อมั่นผู้บริโภคตามเนื้อหาด้านบนครับ จากคุณ : Poirot เขียนเมื่อ : 10 ต.ค. 54 00:22:09

ความคิดเห็นที่ 23 เอ่อออ ขออภัย อาทิตย์นี้วุ่นวายกะการเตรียมการรับน้ำท่วมอยู่เลยไม่ได้วาดการ์ตูนคร่า ^^'' จากคุณ : ไม้ไต่คู้ เขียนเมื่อ : 10 ต.ค. 54 00:22:18

ความคิดเห็นที่ 24 แง้ ๆ ๆ น้องเม่าฝากบอกการ์ตูนคืนนี้สนุกสุดยอดส์ = ไม่มีการ์ตูน TT^TT จากคุณ : corner_newc เขียนเมื่อ : 10 ต.ค. 54 00:22:29

ความคิดเห็นที่ 25 Re#22 ขอบคุณสำหรับการแจ้งข้อมูลครับ เข้าไปเช็คจากต้นฉบับตอนนี้มันเด้งหายไปไหนแล้วก็ไม่รู้ด้วย จีนนี่เดาใจยากจริงๆเพราะวันประกาศอะไรแต่ละอย่างจะบอกมาแค่สัปดาห์นี้สัปดาห์นั้น สรุปแล้ว CPI ยังไม่น่าจะประกาศวันจันทร์ เพราะตอนนี้เจ้าต้นฉบับก็ย้ายออกไปแล้ว = =" จากคุณ : venezier เขียนเมื่อ : 10 ต.ค. 54 00:38:53

ความคิดเห็นที่ 26 ไม่เป็นไรหนูเม่า วันจันทร์ตอนดึกๆก็โพสละกันนะจ๊ะ ><" จากคุณ : venezier เขียนเมื่อ : 10 ต.ค. 54 00:39:22