Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
### ความจริงที่คนส่วนใหญ่ "รับไม่ได้" ไม่อยากจะได้ยินได้ฟัง !! ### ติดต่อทีมงาน

ทุกคนรู้ตัวเองเป็นอย่างดีว่าก้าวย่างเข้ามาในวงการนี้ทำไม ?

ไม่ว่าใครจะคุยกันคนล่ะประเด็นอย่างไรก็ตาม สรุปสุดท้าย เป้าหมายเดียวกัน คือ "เงิน เงิน เงิน"

เมื่อทุกคนคิดเหมือนกัน คือ ต้องการที่จะชนะ เมื่อมีคนได้ก็มีคนเสีย มันเป็นเรื่องที่สัมพันธ์กันแบบไม่มีทางแยกออกจากกันได้

คนที่มีสติ ปัญญาดี กล้าตัดสินใจ ไม่โลเลสับสน มักจะได้เปรียบผู้คนที่ "ยอมไม่ได้" รับไม่ได้กับค่ำว่าขาดทุน

ผมให้ข้อคิดอย่างหนึ่งว่า "คุณคิดว่าในโลกแห่งการลงทุน จะมีมนุษย์คนไหนบ้างที่เล่นหุ้นแล้วชนะตลอดไปทุกครั้ง-ไม่เคยแพ้(ไม่ว่าจะมากหรือน้อย)" บอกตรงๆ ครับ "ไม่มี" !! และจะไม่มีมนุษย์คนไหนที่จะสามารถทำได้อย่างนั้นอย่างเด็ดขาด

ขนาดตัวเจ้ามือเองซึ่งเป็นคนบังคับทิศทางของราคาหุ้นด้วยตัวเอง คอนโทรลได้อย่างใจหมาย ในบางสถานการณ์เจ้ามือยังเจ๊งไม่เป็นท่ากับสิ่งที่คาดไม่ถึง เช่น อิรักบุกคูเวต เหตุการณ์ 11 กย. หม่อมอุ๋ยร้อยจุด ซับไพรท์ ฯลฯ

ในเมื่อตลาดหุ้นมีความผันผวนสูงมากขนาดนี้ คนฉลาดเขาเอาตัวรอดกันอย่างไร เขาจึงยังอยู่ได้ในโลกแห่งการลงทุน เขานับถือ การคัดลอส คือ พระเจ้า ! ครับ ผิดอาการ ผิดไปจากเส้นทางการวางแผนที่เขาคิด เขาจะกล้าสับขายทิ้ง ! ทันที เพื่อให้ตัวเองเจ็บปวดน้อยที่สุด แล้วค่อยมาว่ากันใหม่ ส่วนคนที่ฉลาดน้อยกว่าคนกลุ่มแรก จะไม่กล้าที่จะยอมรับการขาดทุน เสมอตัว หรือกำไรลดลงได้เลย ได้แต่ปลอบใจตัวเองว่า

1. เดี๋ยวมันจะต้องขึ้นกลับมา

2. ไม่เป็นไรหรอกเราเป็นวีไอ ไม่ต้องขาย

3. เรากินปันผล

4. ขาดทุนสีแดง เรารับไม่ได้

5. ช๊อค ทำอะไรไม่ถูก

6. ฯลฯ


ผมให้ข้อคิดอย่างหนึ่ง หากคุณมั่นใจว่าราคาหุ้นจะวิ่งกลับไปรับคุณที่ดอยได้จริงๆ ทำไมคุณไม่ขายไปก่อน ณ ราคาที่ขาดทุนนั้นๆ เลย แล้วซื้อกลับในทันที เพราะคุณคิดว่า "มันจะขึ้นกลับไป" นี่

คุณไม่กล้าขาย แล้วซื้อใหม่ เพื่อตั้งหน้าเอาราคาที่ซื้อใหม่ คือ ราคาเริ่มต้นใหม่ เนื่องจาก "คุณไม่รู้" นั่นเอง ว่า ราคาหุ้นที่คุณติดอยู่นั่นๆ มันจะวิ่งกลับขึ้นไปหรือไม่ จริงไหม ?

ความสันสน การไม่กล้าตัดสินใจของตัวคุณเอง คือ ปัญหาใหญ่ ที่เป็นตัวบรรทอนความสำเร็จทางด้านการลงทุนของคุณ แต่คุณไม่รู้ตัวเอง นั่นคือ "สัจธรรม" เนื่องจากคุณยอมรับการขาดทุนนั้นๆ ไม่ได้ !

ทำไมผมจึงแนะนำว่า เมื่อตัวหุ้นที่คุณถืออยู่เริ่มขาดทุน 5-10% คุณสับขายไปก่อนเลย แล้วค่อยมาว่ากันใหม่ หรือใครอยากลองของ ขายเสร็จซื้อกลับเลย เพื่อย้ำทฤษฏีที่ว่า หุ้นเราดีจริงๆ เดี๋ยวมันจะต้องวิ่งกลับขึ้นไปแน่ๆ

การที่ผมบอกให้คุณขายไปก่อน และหากยังไม่เชื่อว่าราคาหุ้นของคุณตัวนั้นคือ ขาลง ก็ซื้อคืนได้เลย

จุดนี้ล่ะครับ จะทำให้คุณเริ่มหายสับสน หากคุณซื้อคืนไปแล้ว มันยังไหลลงได้อีก นั่นเท่ากับคุณได้รับรู้แล้วว่า "จริงๆ ด้วยวุ้ย ราคาหุ้นของเรา มันเป็นขาลงจริง" มันยังไม่สะเด็ดน้ำ มันยังไหลลงได้อีก

หากคุณกล้าขายไปก่อน แล้วลองซื้อคืนดูด้วยจำนวนหุ้นที่น้อยกว่าเดิมแค่เพียงเป็นการหยั่งเชิง แล้วมันยังไหลลงอีก คุณสับขายทิ้งอีกรอบโดยไม่จำเป็นจะต้องรอให้รอบที่ 2 ขาดทุนมากถึง 5-10% เที่ยวนี้คุณจะต้องยอมรับความเป็นจริงแล้วว่า หุ้นตัวนั้นๆ ที่คุณถืออยู่มันไม่รอดจริงๆ หุ้นตัวเดิมซื้อแล้วต้องขายขาดทุนถึง 2 ครั้งแล้ว คุณยังไม่ยอมอีกหรือ ? ลองถามใจตนเองดูครับ

ในโลกแห่งการลงทุน ไม่เคยมีใครที่ขายหุ้นทุกครั้งจะเป็นกำไรทุกครั้ง แต่คนที่จะยืนอยู่บนเวทีนี้ได้ดีที่สุด คือ คนที่ยอมรับความเป็นจริง+ไม่ดื้อ เขายอมเสียน้อย ณ เวลาที่จะต้องเสีย แล้วรอตลาดดีๆ ค่อยมาเล่นใหม่ แล้วได้กำไรไปชดเชยกับที่เคยขาดทุน บางคนก็กำไรมากกว่าที่เคยขาดทุน คนเหล่านั้นจะอยู่ในตลาดหุ้นได้อย่างดี เนื่องจาก กำไรมากกว่าเสีย ส่วนคนที่ไม่ยอมเสียเลย นานๆ ไป คุณก็จะค่อยๆ หมดเงินสดจากการเล่นหุ้น และก็จะเกิดความท้อแท้ เบื่อหน่าย และเดินจากไปจากตลาดหุ้นโดยมีคำว่า "พ่ายแพ้" กลับเป็นเพื่อนที่บ้าน

เปลี่ยนวิธีคิดซะใหม่เถอะครับ อย่าหลอกตัวเองเกินไป จนในที่สุด ทุกอย่างมันก็สายเกินไปที่จะเยียวยาแก้ไข

จากคุณ : teety
เขียนเมื่อ : 14 ต.ค. 54 23:59:42




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com