ความคิดเห็นที่ 1 อ่าววว งง ทำไมคลิปไม่มา ลองอีกรอบ จากคุณ : น้องหมามินมิน เขียนเมื่อ : 24 ต.ค. 54 19:00:43

ความคิดเห็นที่ 2 หืมมม ???   http://video.cnbc.com/gallery/?video=3000052832 จากคุณ : น้องหมามินมิน เขียนเมื่อ : 24 ต.ค. 54 19:02:53

ความคิดเห็นที่ 3 ่ท่านธีระชัยพูดติดอ่างมากครับ ฟังจนเหนื่อย จากคุณ : เหมง เขียนเมื่อ : 24 ต.ค. 54 19:17:50

ความคิดเห็นที่ 4 ^ ^ พูดติดๆขัดๆไม่เท่าไหร่ค่ะ  น่าจะเป็นปกติของเวลาคนที่ต้องคิดไปพูดไป แต่ตอบแบบที่เค้าตอบเนี่ย เราฟังแล้วเพลียกว่า  -_-" จากคุณ : น้องหมามินมิน เขียนเมื่อ : 24 ต.ค. 54 19:22:52

ความคิดเห็นที่ 5 ตอบแบบนี้อายแทนประเทศชาติ ท่านผู้ตอบคิดว่าประกันจะ cover ความเสียหายทั้งหมด แต่จริงๆแล้วมีความเสียหายในด้านอื่นๆที่ประกันไม่สามารถ cover ได้อีกมากมาย เช่นรายได้ในอนาคตของบริษัทที่เสียหาย แต่ถึงประกันจะ cover หมดก็ไม่ใช่ประเด็นอยู่ดี ยังไงก็ควรแจ้งเตือนภัยถึงสถานะที่เป็นจริง ไม่ใช่สักแต่บอกว่าเอาอยู่ๆ แต่ก็เอาไม่อยู่สักที่ แล้วอ้างว่าถ้าพูดความจริงจะดูน่ากลัวแล้วประชาชนจะตระหนกเกินไป คิดว่านักลงทุนต่างชาติคงยิ่งหมดศรัทธามากขึ้นไปอีก แก้ไขเมื่อ 24 ต.ค. 54 20:36:08 จากคุณ : flyasyou'refree เขียนเมื่อ : 24 ต.ค. 54 20:35:19

ความคิดเห็นที่ 6 รบ กวนหน่อย ทีว่าเอา อยู่ นะ มีที่ไหน บ้างที่เอาอยู่ . จากคุณ : SaTangThon เขียนเมื่อ : 24 ต.ค. 54 20:39:22

ความคิดเห็นที่ 7 ที่อาบ อบ นวด เอาอยู่ แน่นอน ฟังสิว่า ท่าน  "ติดอ่าง"  ขนาดไหน แก้ไขเมื่อ 24 ต.ค. 54 21:14:39 จากคุณ : rtgman เขียนเมื่อ : 24 ต.ค. 54 21:12:15

ความคิดเห็นที่ 8 ท่านตอบได้ดี และคิดถูกแล้ว แต่คนที่ไม่รู้จริงอาจไม่เข้าใจท่าน เก่งมากค่ะ จากคุณ : เกรซอยากรวย เขียนเมื่อ : 24 ต.ค. 54 21:24:27

ความคิดเห็นที่ 9 ตอนมันเป็นเลขากลต. ตลาดหุ้นปั่นกันกระจาย ไม่รู้มีเอี่ยวด้วยมั้ย แต่จับใครไม่ได้สักคน ไอที่พอจับได้ ก็ปรับเงินแค่นิดเดียว น่าสงสัยมากๆ จากคุณ : เลวจนได้ดี (TRANSFORMATION) เขียนเมื่อ : 24 ต.ค. 54 21:28:53

ความคิดเห็นที่ 10 มีทั้งรัก และเกลียด ทำกรรมอะไรไว้เดี๋ยวได้อย่างนั้นเอง จากคุณ : maruman เขียนเมื่อ : 24 ต.ค. 54 21:46:53

ความคิดเห็นที่ 11 ตื่อตือตื้อ  ตื้อตือตือ ฝากชูวิทย์  ช่วยดูแล แก้ไขเมื่อ 24 ต.ค. 54 21:49:18 จากคุณ : เจ้าของอ่างทองคำ (Joy_Bune) เขียนเมื่อ : 24 ต.ค. 54 21:48:17

ความคิดเห็นที่ 12 เขาเป็นคนอ่านเกมส์ได้เก่งมาก อ่านได้ทะลุปรุโปร่ง มองว่าถ้าตามก้นคุณกรณ์ ก็จะเป็นแค่เบ๊คุณกรณ์ แต่ถ้าหักหลังคุณกรณ์ ก็จะไปแทนทีคุณกรณ์ ทีนี้ถ้ามาทำงานระดับชาติแล้ว เป็นเบอร์หนึ่งแล้ว ไม่มีอะไรที่จะให้หักหลังแล้ว จะก้าวหน้าไปได้อย่างไร ตำแหน่งก็เป็นเป็นตำแหน่งสมนาคุณที่มาจากการหักหลัง แค่ ตลท.ที่เดียวยังเอาไม่ค่อยจะอยู่ นี่ครอบคลุมเศรษกิจทั้งประเทศ ความสามารถมีอยู่แค่ไหนก็ไม่รู้ แต่ที่รู้ๆต้องทำงานเพื่อนายใหญ่สถานเดียว จากคุณ : Braineht เขียนเมื่อ : 24 ต.ค. 54 21:57:58

ความคิดเห็นที่ 13 ฟังจบแล้วเพลีย ถ้าผมเป็นนักข่าวผู้สัมภาษณ์ ผมคงหลุดยิงคำถามต่อหน้าท่านเลยว่า ค่าเสียโอกาสนั้น ประกันจะจ่ายได้ไหม อยากรู้ว่าท่านจะตอบอย่างไร แต่ CNBC ตัดออกมากให้ความเห็นข้างนอก ช่วงท้ายข่าวแทน ก็เหมาะสมแล้ว จากคุณ : ACUMI 86 เขียนเมื่อ : 24 ต.ค. 54 21:58:41

ความคิดเห็นที่ 14 คิดถึงคำพูดคุณหนูดี  ชาติจะล่มจม  เพราะเอาคนโง่ มาบริหาร   ผมอยากได้ท่าน ดร.วิชิต  แต่ท่านคงไม่อยากมาแปดเปลื้อนกับการเมือง คนเก่ง คนดี มักอยู่ยากในแวดวงการเมืองไทย แก้ไขเมื่อ 24 ต.ค. 54 22:56:49 จากคุณ : +:+ ITIM +:+ เขียนเมื่อ : 24 ต.ค. 54 22:51:20

ความคิดเห็นที่ 15 นี่ถ้าเป็นปีก่อนนะ  ขึ้นกระทู้แนะนำไปนานแล้ว ไม่เป็นไร โหวตให้ ไม่ต้องเป็นแกงค์ก็โหวตได้ จากคุณ : Ibeye เขียนเมื่อ : 24 ต.ค. 54 23:02:28

ความคิดเห็นที่ 16 ประเทศเราตอนนี้มีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังด้วยหรอ จากคุณ : plamorsri เขียนเมื่อ : 24 ต.ค. 54 23:32:17

ความคิดเห็นที่ 17 จำได้ว่าตอนน้ำท่วมแรกๆ นายกส่งท่านรัฐมนตรีคนนี้ไปดูปัญหา ท่านให่สัมภาษณ์ว่า "ที่ผ่านมาเราพลาดเพราะตามหลังน้ำอยู่หนึ่งก้าว ต่อไปเราต้องนำหน้าน้ำหนึ่งก้าว" ผมฟังแล้วก็งง ท่านพูดปรัชญาอะไรรึป่าวหว่า แต่ท่านก็ไม่ได้บอกว่าจะทำไงให้นำหน้าน้ำหนึ่งก้าว ตอนนี้ผมก็ไม่ทราบเหมือนกันว่าเราตามหลังน้ำไปกี่ก้าวแล้วจากวันที่ท่านให้สัมภาษณ์ จากคุณ : sweetoil เขียนเมื่อ : 24 ต.ค. 54 23:40:31

ความคิดเห็นที่ 18 ธีระชัย ตอนนี้ข่มแบงค์ชาติแล้วยังมีไปว่าแบงค์ชาติไม่ใช้หัวคิด ได้ข่าวว่า ตอนแรกก็เคยอยากเป็นผู้ว่าไม่ใช่หรอ ไปสมัครผู้ว่าแบงค์ชาติ แล้วเค้าไปเอาคุณประสารแทนหนิ ได้ข่าวว่าคุณประสารก็ได้ Central bank governor of the year 2011 หนิ ส่วนคุณกรณ์ก็ได้รัฐมนตรีคลังแห่ง asia 2010 ส่วนธีระชัยตอนแรกก็จะไม่ได้ตำแหน่งหนิ แต่คนอื่นเค้าถอนตัวกันตั้งหลายไม้ เลยได้ส้มหล่นมาไม่ใช่หรอ ท่านก็คงเครียดมั้งเลยต้องโชว์พาวหน่อย ส่วนผลงานรอดูอีกซักปีละกันว่าจะได้รางวัลระดับโลกบ้างมั้ย วัดกันในประเทศแล้วคงมีแต่สาวกมายกหาง จากคุณ : zq-JZA80 เขียนเมื่อ : 25 ต.ค. 54 00:29:32

ความคิดเห็นที่ 19 I: ท่านจะว่าไงที่บริษัทหลายบริษัทไม่พอใจรัฐบาลเรื่องการให้ข้อมูลที่ถูกต้อง ถ้ารัฐบาลแจ้งเตือนเร็วกว่านี้บริษัทอาจจะสามารถป้องกันความเสียหายบางส่วนได้ T: โรงงานพวกนี้มีประกันไม่ใช่เฉพะทรัพย์สิน แต่หลายบริษัทยังมีประกันเรื่องการหยุกชะงักทางธุรกิจ ดังนั้นบริษัทมีความแข็งแกร่งเพียงพอ บลา บลา บลา..... ฟังแล้วปวดตับ สงสัยคนถาม ถามไม่ตรงกับคำตอบ จากคุณ : Dark Archon เขียนเมื่อ : 25 ต.ค. 54 00:57:14

ความคิดเห็นที่ 20 ติดอ่าง ฟังจนเหนื่อย แต่อยากแสดงความเห็นนิดหนึ่ง ... อันนี้พูดแบบกลางๆ ประการแรกอย่าลืมว่าเรากำลังสัมภาษณ์ "รัฐมนตรีคลัง" ซึ่งสาระหน้าที่ของ รมต.คลัง คือดูแลเรื่องเงินๆทองๆ เรื่องการลงทุน การดำเนินงานภาคการเงิน การดูแลรายรับรายจ่ายของประเทศ ดังนั้นไม่ว่าจะสัมภาษณ์ยังไง ก็ต้องเป็นประเด็นเรื่องเงินและการลงทุน และถามว่าการประกาศอะไรฉุกเฉินอะไรทั้งหลาย มันทำให้อะไรดีขึ้น? ผมคิดว่าต่อให้ประกาศปฏิวัติ รัฐประหาร เปลี่ยนแปลงนายก ยุบสภา ลาออก ร่างกฎหมาย ใช้ พรก.ฉุกเฉิน ก็ไม่สามารถแก้ไขน้ำท่วมได้อยู่ดี ประเด็นคือน้ำที่ไหลลงมา มันจำเป็นต้องหาทางไป เป็นธรรมชาติของมัน บวกกับมีฝนตกมีพายุเข้าก็ยิ่งหนุนให้น้ำเพิ่ม เคราะห์ซ้ำกรรมซัด น้ำทะเลหนุนระบายน้ำออกได้ไม่เต็มที่ เอาแค่จะระบายน้ำในภาวะปกติก็ยากลำบากและใช้เวลานานอยู่แล้ว นี่ทุกอย่างประดังด้วยกันทั้งหมด น้ำไม่มีทางไป เวลานี้คือการที่จะช่วยเหลือกัน แก้ไขสถานการณ์ เพราะการประกาศอะไรเหล่านั้น ประกาศเป็นหมื่นๆฉบับ น้ำก็ไม่ลด ซ้ำร้าย การประกาศอะไรออกมาในแบบฉุกเฉิน จะยิ่งตอกย้ำให้สถานการณ์ทุกอย่างเลวร้ายลง ทั้งที่ปัจจุบันก็แย่อยู่แล้ว ลองคิดดูว่าประเทศเสียหาย ภัยธรรมชาติบานปลาย แถมตอกย้ำด้วยกฎหมายชนิดพิเศษที่ควบคุมอะไรต่างๆทั้งหมด ผลกระทบที่ตามมาคือการท่องเที่ยวเสียหาย การลงทุนเสียหาย สู้เราปล่อยให้มันเป็นไปตามธรรมชาติของมันในเรื่อง กลไกการลงทุน กลไกเศรษฐกิจ อะไรที่ทำได้ อะไรที่ยังหารายได้เข้าประเทศได้ ก็ทำต่อไป ทำไปก่อน ส่วนที่ทำไม่ได้ก็ต้องค่อยๆแก้ไขไปทีละจุด ทุกวันนี้รายได้จากส่วนที่เสียหายก็ต้องหายออกไป ก็ต้องมีรายได้จากส่วนอื่นๆ เข้ามาทดแทน เหมือนกับการลงทุนที่เรากระจายความเสี่ยงพอร์ทในหุ้นหลายๆตัวนั่นแหละ ไม่มีใครไม่ห่วงประชาชน ไม่มีใครต้องการให้บาดเจ็บล้มตาย ไม่มีใครต้องการให้เศรษฐกิจเสียหาย ไม่มีใครต้องการภัยธรรมชาติ ไม่มีใครต้องการให้เหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้น ไม่มีใครคาดคิดมาก่อนว่ามันจะเกิดอะไรแบบนี้ ผมเองคิดว่าไม่ว่าจะรัฐบาลไหนๆ ไม่ว่าจะเพื่อไทยหรือประชาธิปัตย์ ก็คงได้คำตอบแบบนี้เหมือนกัน ไม่เฉพาะธีระชัย ไม่เฉพาะกรณ์ ไม่เฉพาะสุชาติ ไม่เฉพาะสุรพงษ์ ไม่เฉพาะฉลองภพ ไม่เฉพาะปรีดิยาธร ผมเชื่อว่าทุกคนคงรู้ว่าการประกาศอะไรออกมา นอกจากน้ำไม่ลดแล้ว ยังซ้ำเติมด้วยผลเสียอีกหลายประการ ทุกวันนี้ช่วยกำลังทรัพย์ได้ก็ช่วยกำลังทรัพย์ ช่วยกำลังกายได้ก็ช่วยกำลังกาย ช่วยกันทุกคนเดี๋ยวก็ผ่านพ้นวิกฤตไปเอง เพิ่มเติม : พูดคุยแบบมีการเมือง เถียงกันชาตินี้จนชาติหน้า ยังไงก็ไม่จบ ... อ่านและใช้สติมองสิ่งรอบข้างแบบวิทยาศาสตร์ http://www.pantip.com/cafe/wahkor/topic/X11205664/X11205664.html แก้ไขเมื่อ 25 ต.ค. 54 02:13:50 จากคุณ : venezier เขียนเมื่อ : 25 ต.ค. 54 01:13:44

ความคิดเห็นที่ 21 มันคงผิดที่คนถาม ถามไม่ตรงคำตอบที่ท่านได้เตรียมมาเอง หุหุ จริงๆ แล้วคำถามว่าทำไมรัฐไม่ประกาศภาวะฉุกเฉินมันน่าจะเกี่ยวโยงกับคำถามก่อนหน้านี้ว่าทำไมรัฐปกปิดข้อมูลต่อสาธารณชนมากกว่า จริงอยู่ว่าการประกาศภาวะฉุกเฉินมันไม่อาจช่วยในการทำให้น้ำลดลงได้ แต่มันช่วยทำให้ผู้เกี่ยวข้องสามารถประเมินสถานการณ์ได้ถูกต้องหรืออย่างน้อยก็ใกล้เคียงกับความจริงมากขึ้น ซึ่งจะทำให้เค้าเตรียมการรับมือได้ดียิ่งขึ้นด้วย การที่บอกว่าไม่ประกาศเพราะกลัวทำให้คนกลัว แตกตื่น กระทบการท่องเที่ยว มันก็คือการย้อมแมวนั่นเอง ปกปิดข้อมูลให้ดูเหมือนไม่มีอะไรทั้งๆที่มี ถามว่าถ้าห่วงการท่องเที่ยวจริง ปิดบังข้อมูลนักท่องเที่ยวที่กำลังจะเดินทางมา หลอกให้เค้ามา แล้วให้เค้ามาเจอสถานการณ์ตอนนี้มันจะยิ่งทำให้เค้ารู้สึกแย่ ต่างจากตอนที่ญี่ปุ่นเจอซึนามิ ทางการเค้าประกาศเลยว่ายังไม่อยากให้นักท่องเที่ยวมา จะด้วยความไม่พร้อมหรืออะไรก็ตาม และยังช่วยเหลือในเรื่องการคืนเงินค่าที่พัก ค่าตั๋วรถไฟต่างๆ มันกลับทำให้นักท่องเที่ยวรู้สึกดีที่เค้าจริงใจและอยากจะกลับไปเมื่อเค้าพร้อมแล้วมากกว่า อันนี้พูดจากประสบการณ์ตรงเพราะตัวเองก็อดไปญี่ปุ่นเพราะซึนามิเช่นกัน จากคุณ : Flying Duckman เขียนเมื่อ : 25 ต.ค. 54 01:44:40

ความคิดเห็นที่ 22 ก๊อปจากคห 21   Flying Duckman จริงๆ แล้วคำถามว่าทำไมรัฐไม่ประกาศภาวะฉุกเฉินมันน่าจะเกี่ยวโยงกับคำถามก่อนหน้านี้ว่าทำไมรัฐปกปิดข้อมูลต่อสาธารณชนมากกว่า จริงอยู่ว่าการประกาศภาวะฉุกเฉินมันไม่อาจช่วยในการทำให้น้ำลดลงได้ แต่มันช่วยทำให้ผู้เกี่ยวข้องสามารถประเมินสถานการณ์ได้ถูกต้องหรืออย่างน้อยก็ใกล้เคียงกับความจริงมากขึ้น ซึ่งจะทำให้เค้าเตรียมการรับมือได้ดียิ่งขึ้นด้วย การที่บอกว่าไม่ประกาศเพราะกลัวทำให้คนกลัว แตกตื่น กระทบการท่องเที่ยว มันก็คือการย้อมแมวนั่นเอง ปกปิดข้อมูลให้ดูเหมือนไม่มีอะไรทั้งๆที่มี ^ ^ ^ ใช่เลยค่ะ ใช่เลย  อยากให้กิฟมากๆ แต่หมดแล้ว -_-"   คุณ#21 บอกมาได้ตรงใจเรามากๆเลยค่ะ   -------------------------------------------------------- # 20 คุณ venezier คะ คือเราเข้าใจที่คุณบอกนะ   แต่บางที การบอกอะไรมาตรงๆ มันดีกว่าในแง่ของการเตรียมความพร้อมนะคะ บอกให้รู้ว่าเราจะมีภัย โอเค เราอาจจะแค่ตกใจ แต่เราจะได้เตรียมสุดฝีมือในการป้องกันทรัพย์สินของเรา ให้เลือกแบบไหน เราว่า เราก็เลือกอยากรู้ความจริงค่ะ ถ้าคุณเป็นนักลงทุนต่างชาติ ที่ไม่มีข่าวที่ไหนให้ตามได้ดีเท่าข่าวจากรัฐ(เพราะเชื่อว่ารัฐต้องเป็นผู้รู้ดีที่สุด) แต่ผลออกมาคือป้องกันไรไม่ได้เพราะข้อมูลมีไม่มากพอ แถมเหตุผลยังเป็นอย่างที่ให้สัมภาษณ์ คุณจะไม่รู้สึกอะไรเลยหรอคะ จากคุณ : น้องหมามินมิน เขียนเมื่อ : 25 ต.ค. 54 02:13:37

ความคิดเห็นที่ 23 หุ หุ หุ  ^^   จริงๆ เราสารภาพก่อน ว่าตั้งใจแปลข้ามคำถามนี้อ่ะ (ทั้งๆที่เป็นคำถามสำคัญเลย) เพราะเรากลัวจะเผลอวิพากษ์วิจารณ์เรื่องที่ท่านตอบไม่ตรงคำถามแล้วจะกลายเป็นประเด็น เดี๋ยววิจารณ์ยาววว อุตส่าห์พยายามsoft ที่สุดเท่าที่จะทำได้แล้วค่ะ  ทั้งๆที่ฟังสัมภาษณ์จบแล้วเซ็งมากกกก  -"-   ขอบคุณนะคะที่ช่วยแปลมาให้ ^^ เผื่อใครอ่านกระทู้แล้วรู้สึกว่าเราแปลไม่หมด จะได้หายสงสัย บอกไว้เลยนะคะว่า "พยายามจะ ติ ให้น้อยที่สุดเท่าที่จะทำได้แล้วอ่ะ " แก้ไขเมื่อ 25 ต.ค. 54 03:23:29 จากคุณ : น้องหมามินมิน เขียนเมื่อ : 25 ต.ค. 54 02:40:21

ความคิดเห็นที่ 24 1) ถ้า จขกท ได้มีโอกาสเข้าอบรมหลักสูตรการให้สัมภาษณ์สือมวลชน แล้วคุณจะเข้าใจว่า ทำไมการตอบคำถามของผู้ให้สัมภาษณ์มักไม่ค่อยตรงคำถาม?  ลองหาความรู้เพิ่มเติมเถอะครับ 2) มีผู้วิเคราะห์เรื่องความเหมาะสมในการที่จะประกาศสภาวะฉุกเฉิน มีมุมมองความเห็นในทั้งสองด้าน  แต่ส่วนใหญ่เห็นว่า การไม่ประกาศสภาวะฉุกเฉินน่าจะเป็นทางเลือกที่ดีกว่า การประกาศฯ ไม่น่าจะทำให้ภาครัฐสามารถระดมสรรพกำลังอะไรได้มากไปกว่านี้เท่าไหร่   3) ถ้าการให้สัมภาษณ์ ของคุณธีระชัย ว่า การประกาศสภาวะฉุกเฉิน จะกระทบการท่องเที่ยว ก็ถือว่า ท่านพลาด  เพราะแม้เรื่องดังกล่าวเป็นเรื่องจริง แต่ก็ไม่ได้ประโยชน์อะไรที่จะให้ข่าวในลักษระนี้ มีแต่จะทำให้ผู้คนที่เดือดร้อนและไม่เข้าใจลึกซึ้งในเรื่องดังกล่าว ไม่พอใจในคำให้สัมภาษณ์ดังกล่าว จากคุณ : พ่อน้องMAN เขียนเมื่อ : 25 ต.ค. 54 05:22:23

ความคิดเห็นที่ 25 ก่อนตัดสินคนอื่น ลองเทียบจากตัวเราเองก่อนดีมั๊ย ถ้าเป็นเราจะตอบคำถาม ซึ่งจะเผยแพร่ออกไป...อย่างไร จากคุณ : ด.ช.ไอติม เขียนเมื่อ : 25 ต.ค. 54 07:44:42

ความคิดเห็นที่ 26 ต้องแยกให้ออกระหว่างเรื่องเงิน กับเรื่องความเป็นอยู่ของคนในประเทศให้ออก เฮ้อ... ประเทศชาติห่วงหน้าตามากกว่าชีวิตของประชาชน จากคุณ : นักสืบจิ๋ว เขียนเมื่อ : 25 ต.ค. 54 07:45:02

ความคิดเห็นที่ 27 แค่เค้ามาเตือนว่าน้ำจะท่วมให้อพยพ แล้วมันไม่ท่วมยังด่าซะเละ ถามจริงๆถ้าเค้าประกาศฉุกเฉินจริงๆ บางคนก็ต้องว่าเค้าอีกว่าทำให้ตื่นตระหนก ทำให้คนตกใจไป ประกาศไปน้ำก็ไม่ลด เรื่องนี้มันอยู่ที่อคติของแต่ละคนมากกว่า พอไม่ชอบทำอะไรๆก็ผิดไปหมดนั่นล่ะ เมื่อวานเห็นไม่ต้องประกาศฉุกเฉินก็ทำงานร่วมกันได้นี่ นายก ผู้ว่า ผบ.ทบ. หรือว่าคุณๆทั้งหลายถ้าเค้าไม่ประกาศฉุกเฉินก็จะมีผลทำให้ไม่ช่วยบริจาค ไม่ช่วยไปแพ็คของเหรอ เห็นทุกคนก็ร่มมือกันได้ดีอยู่แล้ว อีกอย่าง ถ้าประกาศไปจริงๆ จังหวัดอื่นๆเช่นพวกภาคใต้ที่คนก็ยังเข้ามาเที่ยวได้ ซึ่งจะช่วยดึงรายได้เข้าประเทศได้ จะกลายเป็นว่าทำให้คนไม่ไว้ใจสถานการณ์ไปหมด แถมเดี๋ยวนี้ข้อมูลข่าวสารมันออนไลน์ทั่วโลก ใครเค้าจะมาเที่ยวก็คงดูข้อมูลก่อนล่ะมาได้ไม่ได้ จะบอกว่าย้อมแมวก็ดูเกินไป จากคุณ : Necrolyte เขียนเมื่อ : 25 ต.ค. 54 09:11:19

ความคิดเห็นที่ 28 เป็นรัฐมนตรีคลังก็คงไม่ได้มีความสามารถที่จะตอบอะไรได้เพราะผมว่างานนี้เขามัวตะอีรุงตุงนังกันเรื่องป้องกันน้ำท่วมกับช่วยผู้ประสบภัยอยู่ เรื่องหลังจากนี้คงเป็นอีก stage ที่จะตามมาทีหลัง และคงต้องผ่านคณะรัฐมนตรี หรือสภาฯ จัดสรรงบ ตอนนี้คง broke บักโกรกอยู่ เรื่องกู้เงินมหาศาลคงไม่ไกลเกินฝันแน่นอน แต่ก็แปลกใจว่าเขาไม่คุยอะไรกันไว้พอให้เห็นเป็นแนวทางหรือนโยบายเลยเหรอทั้งที่ความเสียหายในอุตสาหกรรมประเทศมันสูงขนาดนั้น รัฐมนตรีท่านนี้ก็ไม่ได้มีบทบาททำประโยชน์อะไรเด่นชัดเรื่องน้ำท่วมก็น่าจะเอาเวลาว่างๆทำการบ้านดีกว่านี้ เพราะยังไงก็ต้องรู้ว่าจะต้องมีคนมาถามมาสัมภาษณ์เรื่องแบบนี้ ก็น่าจะสรุปอะไรเหล่านี้กับนายกฯและคณะรัฐมนตรีพอให้ตอบนักลงทุนให้ดูดีกว่านี้ อย่างนี้เสียหน้านายกฯแย่ยิ่งกำลังโดนต่อว่าเรื่องทำงานไม่เป็นไม่ฉับไว ทั้งที่น้ำท่วมนิคมหลายแห่งไปเป็นอาทิตย์ๆแล้ว แต่ก็ยังไม่มีอะไรออกมาสร้างความมั้นใจกับนักลงทุนอย่างเป็นแก่นสาร เรื่องประกันภัยไม่ต้องมีรัฐบาลเขาก็ทำกันได้ ตอบแบบน้้นมันก็ไม่ได้สร้างเครดิตอะไรให้รัฐบาลเลย เขาคงงงว่าตอบเหมือนให้เอกชนจัดการกันเอง แล้วรัฐบาลทำอะไรหว่า จะให้ต้องรอประเมินความเสียหายหลังน้ำหยดสุดท้ายลงทะเลเสียก่อน ผมว่าคงไม่ทันการแล้ว) จากคุณ : ปอป้อง เขียนเมื่อ : 25 ต.ค. 54 09:59:47

ความคิดเห็นที่ 29 กองเชียร์ และ หน้าม้า แถจนสีข้างถลอกแล้ว มนุษย์เมื่อใจมืดบอดแล้ว เป็นสิ่งที่น่ากลัวที่สุด จากคุณ : น้ำค้างเดือนเก้า เขียนเมื่อ : 25 ต.ค. 54 10:04:35

ความคิดเห็นที่ 30 ความแตกต่างระหว่างผู้นำที่เก่ง ผู้บริหารที่ฉลาดคือ สามารถแก้ไขปัญหา โจทย์ที่ยากได้ โดยที่ไม่เสียหายหรือเสียหายน้อยที่สุด ถ้าคิดได้แค่ว่า ใครมาทำก็เป็นแบบนี้ ก็ลาออกไปดีกว่า จากคุณ : sartan เขียนเมื่อ : 25 ต.ค. 54 11:06:54

ความคิดเห็นที่ 31 อย่าไปหมิ่นท่าน รมต.คลัง นะครับ ท่านมีซิกเซ็นส์สูง อาศัยแต่ข้อมูลมาช่วยตัดสินใจนั้นไม่ได้เรื่อง เด็ก ๆ ก็ทำได้ จากคุณ : changshara เขียนเมื่อ : 25 ต.ค. 54 11:20:48

ความคิดเห็นที่ 32 ตอนนี้หลายฝ่ายคงเก็บข้อมูล หลังจากภาพความวุ่นวายสิ้นสุดลง คนไทยน่าจะได้ข้อมูลที่กระจ่างขึ้นหลังจากวิกฤติครั้งนี้ ทำใจดีๆครับ งานนี้ต้องมีล้มหายตายจากหมดจากประเทศไทยกันไปข้างใดข้างหนึ่ง ความทุกข์เรื่องน้ำท่วมตอนนี้คงจิ๊บๆ ไปเลยทีเดียว จากคุณ : Benny T เขียนเมื่อ : 25 ต.ค. 54 12:18:18

ความคิดเห็นที่ 33 มองต่างมุมนะครับ ... ถ้าทุกอย่างรัฐต้องรับผิดชอบให้หมด มันจะยุติธรรมกับ บริษัทที่จ่ายเงินค่าประกันภัยไหม? บริษัทที่เตรียมพร้อมมากกว่า สมควรที่จะได้เท่ากับบริษัทที่ไม่เตรียมพร้อมเลยไหม? ' ' แบบนั้น บริษัทประกัน ล่มจมหมดแน่ ไม่มีใครเอาเงินไปประกัน เพราะเดี๋ยวรัฐก็ช่วย เมื่อคุณไม่เคยช่วยตัวเองก่อน หวังแต่ให้คนอื่นช่วย คุณจะยืนด้วยตัวคุณเองได้อย่างไร? จากคุณ : อัศวินคลื่นลูกที่สาม เขียนเมื่อ : 25 ต.ค. 54 12:30:44

ความคิดเห็นที่ 34 ผมมองว่า ณ จุดตอนนี้ เป็นจุดตัดสินเรื่องการเปลี่ยนขั้วทางการเมืองอย่างชัดเจน ผมขอออกตัวไว้ก่อนว่าไม่ได้เข้าข้างสีใด เหลืองไม่เอา แดงไม่ชอบ ยิ่งพวกสลิ่มนี่ยิ่งไม่เอาเลย ผมมองว่า แม้ว่าความคิดเราจะถูกต้อง (เรื่องการเมืองนะครับ) แต่ถ้าประชาชนเลือกแดง แสดงว่าคุณผิด (เหมือนตอนคุณซื้อหุ้นแล้วหุ้นมันลงทั้งๆที่พื้นฐานดีนะครับ อิอิ) บ่อยครั้ง ที่ผมพบเห็นผู้คนชาวเมืองฟ้า กทม. (ผมเป็นเด็กตจว. ที่เข้ามากทม.ได้ 7-8ปีเองเน้อ) มักจะด่าพรรครัฐบาลห่วยงั้น ห่วยงี้ เสียงที่ผมได้ยิน คือเสียงชาวเมือง ชาวบ้านส่วนน้อยที่จะมีเวลามานั่งเล่นFB หรือกร่นด่ารัฐบาล แต่ปัญหาครั้งนี้เป็นปัญหาเชิงมหภาค แน่นอนครับว่า ประชาชนส่วนมากขอความช่วยเหลือจากภาครัฐ สิ่งที่ได้รับคือ ถุงยังชีพ ไม่ว่าจะมาจากฝ่ายใดก็ตาม การให้ถุงยังชีพ ผมยอมรับเลยว่าได้ผลดีในระยะสั้น เรื่องของฐานเสียง (สังเกตได้จากทั้งสองพรรคใหญ่ๆ แจกถุงกระจาย) แต่ผมมองว่า ถ้ามีฝ่ายใด เริ่มการทำการแก้ปัญหาที่ต้นเหตุคือเรื่องน้ำนั้น ไม่ว่าจะด้วยวิธีใดก้ตามแต่ที่นักวิชาการเสนอหรือวิธีของตนเอง "จะเป็นจุดชี้รัฐบาลสมัยหน้าและถัดๆไปครับ" แต่คำถามก็คือ? ทำไมไม่มีการดำเนินการเสียที ผมประเมินได้ดังนี้ 1.รู้แต่ไม่ทำ 2.ไม่รู้แต่ไม่ทำ 3.รู้และทำ 4.ไม่รู้และทำ (เคสนี้น่ากลัวมาก) ตอนนี้ กลายเป็นเรื่องของผลประโยชน์ทางการเมือง จึงเกิดการขัดขากันไปขัดขากันมา เพราะเรื่องของผลประโยชน์ล้วนๆ กลัวว่าการกระทำของตน จะส่งผลให้ฝ่ายตรงข้ามออกมาโจมตีได้ แถมแย่งกันเอาของไปบริจาคเพราะกลัวเรื่องของคะแนนเสียง ซึ่งตรงนี้นั้น สุดท้ายแล้ว ไม่ว่าผลจะออกมาอย่างไร ผมคิดว่าประชาชนคงจะตัดสินด้วยสภาพความเป็นจริงล้วนๆ ไม่ว่าจะสีใด ผมเชื่อมั่นว่า คนไทยคงจะมีคนตาสว่างขึ้นไม่น้อยว่าอะไรถูกอะไรผิด คงจะหมดแล้วซึ่งความชอบความรักในพรรคนั้นๆ อย่างน้อยๆก็ภาคธุรกิจและการลงทุนจากต่างชาติ ที่จะขยาดการรับมือของไทยไปอีกนานครับ ป.ล. บ้านญาติผู้ใหญ่แดงหมด เพื่อนผมเหลืองหมด ส่วนผม ไม่มีสีใด เพราะว่า เราเป็นนักลงทุน ไม่สนว่าแมวสีอะไรขอแค่จับหนูให้ได้ก็เป็นพอ แก้ไขเมื่อ 25 ต.ค. 54 13:06:38 จากคุณ : นักสืบจิ๋ว เขียนเมื่อ : 25 ต.ค. 54 13:05:58

ความคิดเห็นที่ 35 เข้าใจ จขกท. ค่ะ แต่คิดเหมือนคุณ venezier ที่จริงหัวข้อในกระทู้นี้น่าจะแยกออกได้หลายประเด็น ส่วนที่ควรเตือนภาคอุตสาหกรรมล้มเหลวอย่างสิ้นเชิง อีกส่วนคือการจัดการกับพื้นที่อาศัย เรามองว่าสองส่วนนี้ต้องใช้นโยบายคนละแบบ แต่เรื่องมันแล้วไปแล้ว ทำไงได้ คราวนี้ก็มาดูกันต่อว่ารัฐบาลจะจัดการกับปัญหาอย่างไร *** ญาติเราไม่เชื่อเรื่องประกาศ เตรียมทุกอย่างไว้ตั้งแต่สัปดาห์ก่อน เนื่องจากเคยต้องพายเรือเข้าซอยในบ้านค่ะ แกบอก การเตรียมตัว มีข้อเสียคือ "เหนื่อยเปล่า เสียโอกาสทำงาน ถูกมองว่าเป็นกระต่ายตื่นตูม" นอกนั้น... ไม่มีค่ะ วันนี้ น้ำมาแล้วค่ะ บ้านน้า ยังไงก็โดน ขนาดยกพื้นขึ้นสูงกว่าเดิม 2 เมตร วันนี้ คนไทยคงได้บทเรียน... ต้องพึ่งพาตัวเองให้มากที่สุด หวังพึ่งแต่รัฐไม่ได้ *** ฟ้าหลังฝนมักจะสดใส ประเทศอื่นมีภัยพิบัติรุนแรงกว่ายังสามารถฟื้นตัวได้ ถ้าคนสามัคคีไม่งอมืองอเท้า เราเชื่อว่า คนเป็นนักธุรกิจ คนเป็นเจ้าคนนายคน สวมหัวใจสิงห์กันทั้งนั้นค่ะ โลกนี้คือการแข่งขัน แข่งอาจแพ้ ไม่แข่งยิ่งแพ้ ทุกอย่างต้องดำเนินต่อไป จากคุณ : ลูกเป็ดขี้เกียจ เขียนเมื่อ : 25 ต.ค. 54 13:11:02

ความคิดเห็นที่ 36 หลังน้ำท่วม ก็เข้าลูบเดิม เสื้อเหลืองเดินขบวน แดงออกมาต่อต้าน แฉกันไปมา ใครผิดใครถูก มิอาจตัดสินได้ง่าย ๆ  เหตุผลไม่เกี่ยว อารมณ์ล้วน ๆ ถึงนาทีนี ปชป. เป็นรบ. ก็ไม่แน่ว่าจะทำได้ดีกว่า พท.เท่าไหร่ น้ำท่วมแทนที่จะรักกัน แต่ต้องมาทะเลาะกันเพราะเล่นการเมืองกันมากเกินไปทั้งสองฝ่าย ถ้าไม่มีสีต่าง ๆ ประเทศไทยเราไปไหนต่อไหนแล้ว บางทีก็อยากให้พวกนักการเมืองพวกนี้ตาย ๆ ไปให้หมดเหมือนกัน จากคุณ : HaHaHa เขียนเมื่อ : 25 ต.ค. 54 13:48:36

ความคิดเห็นที่ 37 คุณนักสืบจิ๋วคิดดีมากครับ ประเทศเราคงต้องรอคนรุ่นนี้โตขึ้นมาเป็นกลุ่มปกครอง บ้านเมืองถึงจะรุ่งเรือง ผมเดาว่าคุณ อายุ เลข3 เดาผิดขออภัย จากคุณ : crazystock เขียนเมื่อ : 25 ต.ค. 54 14:01:58

ความคิดเห็นที่ 38 เข้าใจท่านวีแต่บอกความจริงมาดีกว่า ตื่นตระหนกมันก็ชั่วระยะเวลา หลังจากนั้นเราจะหาข้อมูล ไตร่ตรองและเตรียมตัวทำให้ความเสียหายลดลง ลองคิดดูว่ารัฐชดเชยให้บ้านละห้าพัน ถามว่าซื้อเครื่องซักผ้าหรือตู้เย็นได้ซักเครื่องแล้วยัง น้ำท่วมขนาดนี้เครื่องใช้ไฟฟ้าเฟอร์นิเจอร์ไปหมดครับ เลือกที่จะโกหกเพื่อควบคุมสถานะการณ์อย่างนี้ถือว่าขาดความจริงใจต่อประชาชน ถ้าบอกความจริงมาผมเชื่อว่าเราจะให้ความร่วมมือมากกว่าขัดขวางครับ จากคุณ : ANUBIS[TJ] เขียนเมื่อ : 25 ต.ค. 54 14:11:23

ความคิดเห็นที่ 39 ปีนี้ผม 25 ครับผม จะว่าไปแล้ว อีก5ปี ผมก็30แล้ว โปรเจ็คต่างๆที่วางไว้ในชีวิตนี่ผมต้องรีบทำให้เสร็จใน5ปีเลยครับ จากคุณ : นักสืบจิ๋ว เขียนเมื่อ : 25 ต.ค. 54 14:29:56

ความคิดเห็นที่ 40 เอิ่ม หลักสูตรสถาบันไหนสอนให้ตอบไม่ตรงคำถามครับ ถ้ามีโอกาสวันหลังได้เป็นใหญ่เป็นโต จะเรียนคณบดีมาถามซักหน่อย ว่าท่านบรรจุเรื่องตอบคำถามยังไงให้ดูโง่เข้าไปในหลักสูตรรึเปล่า ถ้ารู้ตัวว่าโง่ ตอบคำถามไม่ได้ ไม่รู้เรื่อง ก็ไม่ควรจะไปให้สัมภาษณ์ อยู่เงียบๆไว้ดีกว่า อยู่เฉยๆเหมือนไม่มีรัฐบาล ไม่มีคนให้ถาม-ตอบมันก็ไม่ต่างอะไรกับสภาวการณ์ปัจจุบันอยู่แล้ว การที่ออกมาพูดแบบนี้ผลเสียมันมากกว่าแทนที่จะรู้สึกว่าไม่มีรัฐบาลกลายเป็นมีรัฐมนตรีโง่แบบ ที่เจ๊แกเบิ๊ดศรีษะตบท้ายในคลิปนั่นแหละ และมันไม่ได้เสียหายแค่รัฐบาล แต่มันหมายถึงหน้าตาของประเทศด้วย คราวนี้เค้ารู้หมดว่า 1) รัฐบาลนี้มี รมว คลังไม่เอาไหน 2) รัฐบาลนี้ไม่มีเอกภาพไม่มีการทำงานร่วมกัน เรื่อง common ที่ครม ทั้งคณะควรจะรับรู้ร่วมกัน ถึงแม้ว่าจะไม่ใช่เรื่องของท่านโดยตรงก็ตาม แต่ตอบคำถามได้ไม่เป็นสัปะรด จากคุณ : Dark Archon เขียนเมื่อ : 25 ต.ค. 54 20:44:10

ความคิดเห็นที่ 41 ขอแชร์ในเรื่องของการตอบคำถามของ ท่านรัฐมนตรีหน่อย เอาแบบเบื้องหน้าและเบื้องหลังสรุปง่ายๆ ข้อแรกเลยคือ เป็นการสร้างภาพให้คนต่างดูคิดว่า เนี่ยประเทศไทยสามารถจัดการได้  ถามว่าเกี่ยวกับเรื่องการเมืองร้อยละ 80 เกี่ยวแน่นอน  แต่คราวนี้มันสร้างภาพไม่ไหวแล้ว และการตอบคำถามเท่าที่ดูสีหน้าถ้าคนอ่านคนออกก็ต้องบอกว่า "ตรูจะทำยังไงดี" แต่ว่าเอาเถอะ แมวสีอะไรก็ได้ ทำงานไม่ได้ก็เตรียมอยู่ไม่ได้แค่นั้น จากคุณ : GTNEWSTHAILAND เขียนเมื่อ : 25 ต.ค. 54 21:59:25

ความคิดเห็นที่ 42 การประกาศ พรก ฉุกเฉิน มีผลต่อการท่องเที่ยวแน่นอนครับ ตอนนี้ผมทำงานที่พัทยา ยังมีแขกหลายคนยกเลิกการจองเพราะกลัวน้ำท่วมเลยครับ ถึงแม้ว่าจะพยายามบอกว่า พัทยามันอยู่ภาคตะวันออก ไม่อยากนึกภาพเลยว่าถ้าประกาศ พรก ฉุกเฉินเป็นจะเป็นยังไง และอยากให้รู้นะครับว่าประกันที่ฝรั่งมันทำไว้ตอนไปเที่ยว จะไม่จ่ายถ้าไปเที่ยวในประเทศที่มีสถานการณ์ที่ไม่ปกตินะครับ น้ำท่วมภาคกลาง แต่กระทบไปทั่วประเทศนะครับ จากคุณ : คุณชายเอก เขียนเมื่อ : 25 ต.ค. 54 22:32:38

ความคิดเห็นที่ 43 โรงงานใหญ่มีประกัน SME ล่มจม เพราะไม่มีประกันน้ำท่วม(ประกันในประเทศแทบไม่รับเลย) นี่ครั้งที่2แล้วที่รัฐบาลนี้จะลอยแพSME ครั้งแรกเรื่องค่าจ้างขั้นต่ำที่ช่วยด้วยการลดหย่อนภาษีซึ่งSMEไม่ได้ประโยชน์ จากคุณ : BonaPart เขียนเมื่อ : 25 ต.ค. 54 22:38:23

ความคิดเห็นที่ 44 จขกท กลับมาแล้วค่ะ ขอบคุณทุกๆท่านที่มาแสดงความคิดเห็นนะคะ ^^  ขอตอบรวดเดียวเลย อยากให้กิฟทุกท่านมากค่ะ แต่หมดแล้ว อดให้เลย   ~>_<~ ---------------------------------------------- 1)      เราขอคอมเม้นท์หน่อยนะคะ จากที่เราอ่าน คคห. บางท่านด้านบน เราเซ้นซ์อย่างนึง(หรือจะเรียกว่า เดา นั่นแหล่ะ ^^ หุ หุ ) เราว่าบางท่านไม่ได้เปิดคลิปฟังอ่ะค่ะ และคงเม้นท์จากการอ่านสิ่งที่เราแปลแบบคร่าวๆ มาให้ เราแปลห้วนนนมากกกก ใจความสำคัญบางอย่างก็ตัดออก   เราถึงอยากให้ลองฟังคลิปสัมภาษณ์ดูได้ไหมคะ ให้คุณเป็นผู้รับสารโดยตรง ไม่ผ่านการกรองจากเรา ((มีต่อด้านล่าง)) ปล แก้คำผิด แก้ไขเมื่อ 26 ต.ค. 54 03:13:29 จากคุณ : น้องหมามินมิน เขียนเมื่อ : 26 ต.ค. 54 03:04:39

ความคิดเห็นที่ 45 2)   เราจงใจเลี่ยงแปลคำถามสำคัญที่เค้าถามก่อนจะโยงไปถามเรื่อง ภาวะฉุกเฉิน (เราว่ามันต่อเนื่องกันนะ) เพราะตอนนั้นเราไม่อยากจะให้เป็นประเด็นมา "อัดท่าน รมว." ไปมากกว่านี้ เรากลัวเราเผลอกัดท่านไปว่า  "ตอบแบบนั้น ท่านฟังไม่ทัน หรือ แปลไม่ออกป่าวคะว่าคนถามเค้าถามอะไรท่าน?" คือเราคิดเอาเองอ่ะค่ะ ว่าถ้าเราตั้งกระทู้ปนด้วยอารมณ์ส่วนตัวแบบที่ว่า(ทั้งๆที่รู้สึกแบบนี้จริงๆตอบฟังจบ ^^" ) กระทู้นี้คงดูเหมือนตั้งขึ้นมา 'หาเรื่องแขวะ' และ 'กวนteen' มากไป อาจออกทะเลไปเป็นเรื่องการเมืองล้วนๆ จนอาจจะกลบประเด็นสำคัญอื่นๆในกระทู้ไปหมด ((ทั้งๆที่ตอนตั้งทู้ ก็แค่เก็บอารมณ์จิกกัดไปก่อนก็โอเคแล้วเนอะ แต่ตอนนั้น จขกท.คิดไม่ได้ค่ะ กำลังเซ็งๆ เป็นคนแรงด้วย กลัวจะยิ่งติยิ่งแรง ^^" )) แต่สุดท้าย ก็กลายเป็นว่าเราพลาดไป ที่ไม่แปลออกมาให้หมด เพราะมันทำให้ดูเหมือนกระทู้นี้ จะเน้นน้ำหนักไปที่ประเด็นเรื่อง "ภาวะฉุกเฉิน" ไปซะเยอะ ทั้งๆที่ประเด็นมันควรจะเป็นเรื่องที่นักลงทุนต่างชาติและคนในประเทศหลายคนข้องใจ **** นั่นคือเรื่อง 'ท่าทีอันเชื่องช้า' และ 'ดูปกปิดชอบกล'ของรัฐบาลไทยต่อปัญหาใหญ่ระดับชาติแบบนี้ **** และปัญหานี้ สำหรับเราคิดนั้น ไม่ว่าจะเป็นนายกฯเอง หรือคนในคณะรัฐมนตรีท่านใดๆ ควรจะรู้เท่ากันและตอบได้หมด ไม่ว่าจะใครก็ตาม เพราะนี่คือปัญหาระดับชาติ ที่คนในรัฐบาลควรจะมีการประชุมกันเสมอๆเพื่อหาทางออกร่วมกันไม่ใช่หรือคะ ปัญหานี้ กระทบทุกภาคส่วนของประเทศ   เราไม่สนว่าท่าน รมว.คลัง จะต้องรู้และเป็นงานเฉพาะเรื่องนโยบายเงินๆทองๆเท่านั้น เราสนแค่ว่าท่านคือหนึ่งในคนของคณะรัฐบาล มิหนำซ้ำยังออกไปตอบปัญหาระดับชาติแบบนี้ให้ชาวโลกฟัง ก็เสมือนกับเป็นตัวแทนของประเทศ ของรัฐ ออกไปพูดมิใช่หรือ ยิ่งมาเจอคำตอบว่า "กลัวกระทบการท่องเที่ยว"  มันยิ่งทำให้เราเซ็ง และคิดต่อไปว่า ถ้าเราเป็นนักลงทุนต่างชาติผู้เสียหายเป็นพันๆล้านมาได้ยิน เราจะรู้สึกยังไง? บอกไว้เลยค่ะว่าเรา เป็นเพียงแค่ 'ผู้ได้รับผลกระทบ' ในครั้งนี้เท่านั้น! แล้วคนมากมายที่เสียหายกว่าเราล่ะ? พื้นที่จังหวัดที่เราอยู่ ออกสื่อตลอดว่าท่วมหนัก น่าจะประมาณ 80-90% ของพื้นที่ทั้งจังหวัด แต่เราโชคดีที่เป็นสัดส่วน 10%กว่าๆ ที่ไม่ท่วม ไม่เสียหายทางทรัพย์สิน เพราะป้องกันไว้อย่างดี แต่เสียโอกาสทางการค้า เพราะของออกไปส่งไม่ได้ น้ำเต็มถนนเลย   คู่ค้าเรา ญาติเรา เพื่อนเรา ตามจังหวัดต่างๆล้วนท่วมเสียหายทั่วถึงกันหมด       >> เราถึงอยากให้ดูเอง ฟังเอง ตัดสินเองไปเลยค่ะ  << แต่ถ้าท่านดูแล้ว ฟังแล้ว ตัดสินแล้ว ก็ไม่เป็นไรค่ะ ถือว่าเราเดาผิด ต้องขออภัยไว้ ณ. ที่นี้ด้วยนะคะ จากคุณ : น้องหมามินมิน เขียนเมื่อ : 26 ต.ค. 54 03:11:53

ความคิดเห็นที่ 46 3) ส่วนเรื่องหลักสูตรตอบคำถามต่อสื่อมวลชนที่มีบางท่านบอกมา เราไม่เคยเรียนหรอกค่ะ ^_^" สำหรับเรา คำถามที่คุณธีรชัยตอบได้ดีในความคิดเรานั้น คือเรื่องที่เค้าถามเรื่อง ไทยจะจ่ายค่าชดเชยความเสียหายของบริษัทไหม คุณธีรชัยเลี่ยงได้ดี  เพราะกรณีนี้ ท่านไม่ได้เลี่ยงคำถาม แต่รู้จักหลบตอบแบบไม่เข้าเนื้อประเทศตัวเอง ด้วยการบอกว่า คิดว่าหลายบริษัทนั้นคงมีประกันการเสียหายอยู่บ้าง......... บลาๆๆ อันนี้เราว่า โอเคนะ   แต่พอคำถามถัดๆมา ไหงตกม้าตายแบบนั้นล่ะ  เค้าถามเกี่ยวกับเรื่องการประกาศเตือนอันเชื่องช้าของรัฐบาลไทย และการรับมือต่อปัญหานี้ จนทำให้หลายบริษัทไม่พอใจ เพราะต้องเสียหายหนักเพราะข้อมูลไม่ถูกต้อง แต่ท่านกลับตอบไปเรื่องประกันอีกแล้ว เน้นไปเรื่องประกันทำไม  ตอบท่าทางปกติธรรมดาซะจนรู้สึกว่า ท่านกำลังอยากจะสื่อว่า       "อ๋อ ถึงจัดการอะไรไม่ทัน ท่วมไปก็ไม่เป็นไรหรอก ประกันจ่าย" เค้าถึงต้องมาสรุปตอนท้ายสุดไง ว่าเรื่องที่ประกันไม่ได้จ่าย คือ ค่าเสียโอกาสของธุรกิจต่างๆ .....ฯลฯ ถ้าเราเป็นท่าน เรากลับมาบ้าน มาเปิดฟังสัมภาษณ์นี้ เราคงรู้สึกเหมือนถูกศอกกลับด้วยคำพูดสรุปนั่นแหล่ะ  =_=" จากคุณ : น้องหมามินมิน เขียนเมื่อ : 26 ต.ค. 54 03:41:52

ความคิดเห็นที่ 47 ถ้าประกาศภาวะฉุกเฉิน ประกันบางอย่างจะไม่จ่ายสินไหม จากคุณ : นายเชน เขียนเมื่อ : 26 ต.ค. 54 11:28:00

ความคิดเห็นที่ 48 จากที่ได้ยินเค้าว่ากลัวทหารจะได้หน้าจากการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน อาจจะจริงเพราะดูข่าวช่องสามมีแต่ข่าวนายกประชุมกับเช้าบ้านจมน้ำ ไม่มีข่าวหรือภาพทหารปฏิบัติงานเลยทั้งที่ ทหารเค้าทำงานอย่างหนัก ล่าสุดไม่ยอมย้ายศปภ จากดอนเมืองไปที่อืนต้องให้กทมขนคนขนกระสอบ ไปตั้งกำแพงกั้นน้ำให้ศปภทำงาน แทนที่จะเอากำลังที่น้อยอยู่แล้วของกทม มาช่วยคนกรุงในจุดคับขัน เวลานี้ความตระหนกชาวต่างชาติเกินกว่าประกาศภาวะฉุกเฉินแล้ว พ่อค้า ที่ติดต่อกันที่ฮ่องกงกับจีนพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าเมืองไทยมันไม่แน่นอน นายกทำงานไม่เป็น เสี่ยงมากหากจะสั่งสินค้าจากผู้ผลิตไทย ตอนนี้มีแต่ ให้ผมแนะนำหาซัพพลายเวียดนามมาแทนที่โรงงานไทยที่ถูกน้ำท่วม จากคุณ : วี (fullday) เขียนเมื่อ : 26 ต.ค. 54 14:47:50

ความคิดเห็นที่ 49 ตาม คห 47 ครับ ถ้าประกาศปุบประกันไม่จ่าย 100% ครับ เพราะมันไม่ใช่เหตุการณ์ปกติ แต่หากไม่ประกาศ อย่างน้อยก็ยังเคลมได้บ้ัางไม่ได้บ้างแล้วแต่กรณ๊ ส่วนการท่องเที่ยวอย่าหวังเลยครับ สำนักข่าวทั่วประเทศเล่นข่าวนี้ตลอด บางสำนักปั้นน้ำอีก แล้วจะมีใครมาเที่ยว จากคุณ : toiletme เขียนเมื่อ : 26 ต.ค. 54 16:52:07

ความคิดเห็นที่ 50 มันห่วยตั้งแต่ตอนบริหารแล้ว มาตอนนี้ต่างชาติเค้ารู้กันหมดแล้ว พูดไปห่วยๆ เค้าก็ยิ่งขำเท่านั้นเอง จากคุณ : ไม่อยากจะเถียง เขียนเมื่อ : 26 ต.ค. 54 20:18:00

ความคิดเห็นที่ 51 หลายท่านน่าจะสับสน กันระหว่างประกาศพรก.สถานการณ์ฉุกเฉิน กับ ประกาศว่ามันฉุกเฉิน แก้ไขเมื่อ 26 ต.ค. 54 21:32:59 จากคุณ : BMWTurboman เขียนเมื่อ : 26 ต.ค. 54 21:30:15

ความคิดเห็นที่ 52 สาระสำคัญมันไม่ได้อยู่ที่ประกาศหรือไม่ประกาศ พรก ฉุกเฉิน ประกันจ่ายหรือไม่จ่าย แต่อยู่ที่วิธีการตอบคำถามตะหาก ถ้าจะไม่ประกาศก็แค่บอกไปว่า รัฐบาลกำลังดำเนินการอย่างเต็มความสามารถโดยมีการร่วมมือกันทุกภาค ส่วน การสั่งการไม่มีข้อติดขัดเรื่องข้อกฏหมาย มีปัญหากับชาวบ้านที่อยู่นอกคันกั้นน้ำเล็กน้อย แต่เจ้าหน้าที่สามารถดูแลได้ และมีเครื่องมืออื่น เช่น พรบ ปภ จึงไม่จำเป็นต้องประกาศ พรก ฉุกเฉิน แค่เนี้ย แต่ดันไปบอกว่าไม่ประกาศเพราะ กลัวผลกระทบด้านการท่องเที่ยว (น้ำท่วมแบบนี้ถึงไม่มี พรก ก็คงมีแต่ แมวน้ำแหละที่มาเที่ยวน่ะ) แล้วระดับน้ำก็เพิ่มสูงขึ้นแบบค่อยเป็นค่อยไปไม่ได้เพิ่มระดับอย่างน่ากลัว (ซัด เขื่อนนิคมพังโครมๆนี่นะขึ้นแบบค่อยๆ) ตอบคำถามได้โง่สุดยอดอ่ะ จากคุณ : Dark Archon เขียนเมื่อ : 26 ต.ค. 54 23:41:03

ความคิดเห็นที่ 53 ฝ่าด่านอรหันต์มาเป็นคลังได้ยังไงก็ไม่รู้ ผมว่ามือยังไม่ถึง ก่อนวิกฤตเวลาตอบคำถามเรื่องนโยบายต่างๆก็ยังดูไม่ค่อยรู้ในเนื้อหา พอเกิดวิกฤตก็ยิ่งทำให้เชื่อมั่นว่ายังไม่มีคุณสมบัติเป็นคลัง ตอนนี้ผมกลับมองว่าคุณกิตติรัตน์นั่งทั้งพาณิชย์และคลังไปแล้ว จากคุณ : nonsaint เขียนเมื่อ : 27 ต.ค. 54 14:36:56

ความคิดเห็นที่ 54 ข่าวน้ำท่วมต้องดูให้รอบด้านค่ะ ฝรั่งเคาไม่อ่อนไหวต่อข้อมูลง่ายค่ะ เหตุการณ์เดียวกัน สื่อไทยลงอย่าง ซีเอ็นบีซี ซีเอ็นๆ รอยเตอร์ นิวยอร์คไทม์  ซินหัว ซิงเทา ยังลงไม่เหมือนกันเลย จับประเด็นคนละประเด็นกันด้วย ก็รับสารให้รอบด้านค่ะ เดี๋ยวนี้ กดกูเกิล นิวส์ ข่าวมันออกมาหมด คนอ่านก็ยังต้องใช้วิจารณญาณค่ะ เค้ามีหน้าที่ให้สัมภาษณ์ เรามีหน้าที่ใช้วิจารณญาณกรองคำสัมภาษณ์ค่ะ แก้ไขเมื่อ 28 ต.ค. 54 06:44:16 จากคุณ : lovelypriest เขียนเมื่อ : 28 ต.ค. 54 06:43:08

ความคิดเห็นที่ 55 ถ้ามีปรับครม.เมื่อไหร่ ตานี่ได้ไปคนแรกแน่นอน ฟันธง!!! จากคุณ : ** jj-Ocu ** เขียนเมื่อ : 28 ต.ค. 54 13:55:25

ความคิดเห็นที่ 56 สำหรับ รมว.คนนี้ ผมยังมีเครื่องหมายคำถามในแง่ความเหมาะสม เพราะประสบการณ์ที่ผ่านมาของเขาส่วนใหญ่อยู่กับงานกำกับดูแล เช่น เลขา ก.ล.ต. และผู้ช่วย ธปท.หน่วยงานตรวจสอบและกำกับสถาบันการเงิน เท่าที่จำได้ เขาเกี่ยวข้องกับการปิดสถาบันการเงิน สมัยวิกฤติปี 40 ในแง่ความรู้ความสามารถในด้านเศรษฐกิจมหภาค ไม่แน่ใจว่ามีมากแค่ไหน จากคุณ : หนึ่งมาตรฐาน (หนึ่งมาตรฐาน) เขียนเมื่อ : 29 ต.ค. 54 00:27:41

ความคิดเห็นที่ 57 ทำไมชอบใช้คำว่า สลิ่ม มีที่มายังไง  อ่านเจอบ่อยๆ เพราะเป็นขนมที่ลูกชอบมาก แต่อ่านแล้วมันเหมือนดูถูกดูแคลนยังไงไม่รู้นะ แต่เห็นอีกฝ่ายชอบเรียก ควายแดง อันนั้นไม่ต้องแปล เข้าใจได้ง่าย จากคุณ : beyond happiness เขียนเมื่อ : 31 ต.ค. 54 02:17:15