ความคิดเห็นที่ 1 กรณี B การเพิ่มผลกำไร แนวคิดคือ เราคิดว่าดัชนีมันน่าจะขึ้น แต่ไม่เยอะมาก เราถือ tdex อยู่ แต่ไม่อยากเพิ่ม port tdex อีก ก็อยากได้ตังเพิ่มอ่ะ มีไรเปล่า วิธีการก็คือ เราี่จะ short call  (เหมือนเดิมคือ  strike price ไหน และ กี่ %  hedge เป็น detail)   สิ่งที่เราได้ เราเรียกว่า covered call ที่หน้าตา payout graph จะเหมือนกับการ short put เราจะได้กำไรเพิ่มขึ้นเท่ากับ premium ที่เราได้ แต่ เมื่อราคาดัชนีไปถึงจุดหนึ่ง มันจะไม่เพิ่มกำไรอีกแล้ว ในกรณีผิดทางเช่น ดัชนีมันดันลบ  เราจะมี buffer จาก premium ที่เรา short ทำให้เราบาดเจ็บน้อยลง (เผลอ ๆ ถ้าลยไม่มาก ยังมีกำไรติดไม้ติดมือหน่อย) ทั้ง A และ B เป็นการใช้ option มาช่วย port โดยที่ไม่แตะ tdex เลย ไม่ว่ามันจะขึ้นหรือลง ใช้ option เท่านั้น และเล่นแบบ at expiration ไม่ใช่ไปปิดสถานะกลางทาง (จริง ๆ จะปิดก็ได้ แต่ถ้า ท่านเป็นนักลงทุนระยะยาว ถือ tdex เป็นปี ใยจะไป trade เข้าออกให้เสียค่า com ให้ปวดหมอง) เอาแค่นี้ก่อนนะครับ มีคำถามทิ้งไ้ว้ได้เลย ส่วนกรณีที่ 2 การแตะ (หรือ trade) underlying ด้วย เดี๋ยวมาเขียนต่อวันหลัง จากคุณ : krit587 เขียนเมื่อ : 30 ต.ค. 54 18:47:26

ความคิดเห็นที่ 2 ขอบคุณคุณ krit578 มากๆครับ อ่านจบแล้วมีความเข้าใจมากขึ้นเกี่ยวกับหัวข้อ การใช้ options ร่วมกับ underlying asset ผมคงมุ่งเน้นไปที่รูปแบบ A ครับ ตามความเข้าใจของผม หลักสำคัญคือ action แรกของเราต้องถูกจุด นั่นคือ มองลงมันต้องลง มองขึ้นมันต้องขึ้น ถ้าความคิดเราถูกต้องจริงและลงมือกับ action แรกเรียบร้อย action สองที่ตามมา ผลว่าเป็นกลยุทธ์เสริมแล้วเท่านั้นครับ แต่ถ้า action แรกเรามองพลาด นั่นคือ action สองก็จะไม่มีวันเกิด ผมพูดอย่างนี้ถูกต้องไหมครับ ? ------------------------------------ ผมชอบ Quote นี้ของคุณมากครับ "เปิดแค่ 1 action ครับ แล้วเมื่อมันขยับ เราค่อยปล่อย action ที่ 2" หลักใหญ่สำคัญหนีไม่พ้น action แรกนั่นเอง  และในความคิดผม action แรกที่เหมาะสมกับผม น่าจะเป็น open long มากกว่า open short ครับ กรณีถ้า action แรกถูกต้อง action สองจะเป็น open short หรือ long ก็น่าจะได้ทั้งนั้น คุณ krit587 มีความคิดเห็นอย่างไรบ้างครับ ? จากคุณ : เด็กวัดบ้านนอก เขียนเมื่อ : 30 ต.ค. 54 19:33:25

ความคิดเห็นที่ 3 #2 ของผม กล่าวอ้างถึง action สอง แต่เนื้อความกระทู้เขียนไว้ให้ถือจนสัญญาครบ at expiration ผิดประเด็นไปหน่อยขอโทษด้วยนะครับ แต่อยากฟังความเห็นของ #2 ด้วยนะครับ ขอบคุณล่วงหน้าครับ จากคุณ : เด็กวัดบ้านนอก เขียนเมื่อ : 30 ต.ค. 54 19:38:38

ความคิดเห็นที่ 4 ไม่จำเป็นเสมอไปครับ ที่ action แรกจะ succuss แล้วต้องมี action 2 เช่น ถ้าุคุณ long call แล้วมันวิ่งขึ้น และคุณเชื่อว่า มันจะวิ่งขึ้นไปเรื่อย ๆ แบบไม่ปรับฐานเลยจนจบseries  คุณก็ไม่ต้องทำอะไร รอมัน expire รับตังเหนาะ ๆ action แรก failed ก็มี action 2 ได้ เช่น คุณ long call แล้ว มันร่วงไปเรื่อย ๆ และไม่มีแนวโน้มว่าจะ reverse คุณก็เลยตัดสินใน short call  lower strike price (สมมุติ action แรก เป็น long call 670 ต่อมาดัชนีร่วงไปที่ 620 และไม่มีที่ท่าจะเด้ง  คุณก็เลย short call  620 เป็น action ที่ 2) อย่างนี้มันก็เป็นการลดการขาดทุนวิธีหนึ่ง (เรียก bear call) ไอ้ประเภทที่ มาผิดทาง แล้วพยายามจะแก้ไข เขาเรียกว่า repaired strategies (เหมือนตย.ที่ 2 ครับ) ไม่จำเป็นต้องรอให้ตำรวจมาจับเสมอไป หนีได้หนี สรุปได้ว่า action 2 จะเกิดขึ้น เมื่อ ก. กรณี กำไร   แล้วสมมุติฐานเปลี่ยน เช่นคิดว่า จะมี reversal ข. กรณีขาดทุน แล้วถึงจุด stop loss และคิดว่า มาผิดทางเต็มตัว สำหรับของคุณมี 2 ประเด็นคือ 1 ถ้าคุณยังจะใช้ option ร่วมกับ tdex นั่นหมายความว่าคุณ take action แรกแล้ว ในการlong tdex คุณจะปล่อย action ที่ 2 เมื่อไหร่ ก็ขึ้นกับสมมุติฐานของคุณ 2.ถ้าคิดจะแยก port option ออกมาต่างหาก  เคยอ่านเจออย่างนี้ครับ อย่าหลงรักกลยุทธ์ใด ของ option เพราะมันไม่มีทางทำเงินให้คุณทุกครั้ง อย่าปิดกั้นกลยุทธ์อื่น ๆ ด้วยความกลัว ตอนนี้ดัชนีมันแกว่งแรง คน long จะ happy คนshort จะหน้าซีด แต่ไม่เสมอไป ถึงเวลาเกมเปลี่ยน เราก็ต้องเปลี่ยน อาวุธในคลังแสงมีเป็นร้อย อย่าใช้แค่ 1-2 อัน จากคุณ : krit587 เขียนเมื่อ : 30 ต.ค. 54 19:56:29

ความคิดเห็นที่ 5 ถ้านายตลาดไม่ตั้ง Bid offer ให้ใกล้กว่านี้ รอวันสูญพันธุ์ Option บางวันหุ้นขึ้น 10 จุด Option วิ่งจุดเดียว เจ้าคุมราคาไว้หมดแล้ว ปั่นแปะ DW ยังง่ายกว่า จากคุณ : por_sas_a เขียนเมื่อ : 30 ต.ค. 54 20:03:14

ความคิดเห็นที่ 6 ไม่สูญพันธ์หรอกครับ สภาพคล่องราว ๆ นี้ก็หากินได้แล้ว กำไรที 50-100% ก็พอได้ค่าขนมครับ เรื่องหุ้น (ดัชนี) ขึ้น 10 จุด option ขึ้นจุดเดียว ส่วนหนึ่งเป็นเรื่องสภาพคล่อง อีกส่วนก็คือเป็นคุณสมบัติของ delta ที่ การเปลี่ยนแปลงของ option จะไม่ได้สัมพันธ์กับ underlying 100% จากคุณ : krit587 เขียนเมื่อ : 30 ต.ค. 54 20:09:42

ความคิดเห็นที่ 7 #4 ขอบคุณคุณ krit587 มากๆครับ อีกหนึ่งคำถาม คุณ krit เคยซื้อหรือขาย option โดยมี expire date เหลือมากกว่าสองเดือน อย่างเช่น series Z ตอนนี้บ้างไหมครับ ? (ในอดีต) ขอบคุณครับ จากคุณ : เด็กวัดบ้านนอก เขียนเมื่อ : 30 ต.ค. 54 20:18:42

ความคิดเห็นที่ 8 ผมว่าถ้าสภาพคล่องดี option น่าสนกว่า future แต่ตอนนี้ใช้ future hedge พอร์ตน่าสนกว่าเพราะเล่นกับ Time frame ได้ จากคุณ : เขียนบน iPhone (opar156) เขียนเมื่อ : 30 ต.ค. 54 22:36:53

ความคิดเห็นที่ 9 TFEX ไม่ไหวครับ จุดละหนึ่งพัน ถ้าคิดในแง่ของการ hedge port และไม่ใช่การเก็งกำไรทิศทางดัชนี index 700 ลงไป 650 เท่ากับ 50x1000 = 50,000 เทียบเท่าต้องมี tdex 100,000 หุ้น พอร์ทผมไม่ได้ใหญ่โตมากขนาดนั้นครับ จากคุณ : เด็กวัดบ้านนอก เขียนเมื่อ : 30 ต.ค. 54 22:59:35

ความคิดเห็นที่ 10 #7 เคยซื้อข้าม series ครับ แต่คิดว่าไม่ work เพราะไม่มีสภาพคล่อง (อันนั้นเรียกไม่มีสภาพคล่องจริง ๆ) ส่วนที่ 2 ในเรื่องการ trade  underlying ร่วมกับ option สรุปง่าย ๆ คือ ต้องดู concept ของระบบก่อน ผมเข้าใจว่า KZM หรือ DSM มี concept ว่า หุ้นมันมีลง ก็มีขึ้น (ถ้ามันลงตลอด ระบบจะ fail) และใช้ประโยชน์ จากการแกว่ง (Oscillation) โดยมีการจัดสรรการลงทุนเป็น step ตามอัตราส่วน ดังนั้นสิ่งที่ต้องคำนวณคือ 1. อัตราส่วนการ hedging ต้องหาว่า อัตราส่วน hedge คิดอย่างไร และ plan ว่าจะแบ่งแต่ละกองอย่างไร 2 พอถึงจุดนั้นจริง ต้องดูว่า price ของ option มัน over หรือ  under value ถ้า over ก็ไม่ใช้ ถ้า under ก็เข้า 3. อย่าลืมเรื่อง expiration date เพราะมีผลต่อ system ผมไม่ได้ลงในรายละเอียดมาก แต่ให้คิดในภาพใหญ่ ผมคิดว่า ไม่ work ครับ เพราะ trading system ดังกล่าว มันออกแบบมาสำหรับ stock ซึ่งก็ดีพอ (ยกเว้น case ที่ทำให้ระบบ failed) option มี feature ดี ๆ แต่ไม่เหมาะกับกรณีนี้ครับ จากคุณ : krit587 เขียนเมื่อ : 31 ต.ค. 54 11:47:17

ความคิดเห็นที่ 11 #10 ขอบคุณมากครับ ดังนั้น ต้องแยกออกเป็นสองส่วน 1. ระบบ KZM ซึ่งดีอยู่แล้ว ก็เทรดต่อไป 2. option ให้แยกออกมาต่างหาก ไม่เกี่ยวข้องกับ tdex ไม่เกี่ยวกับการ hedge port --------------------------- ตอนนี้ผมกำลังสะสมกำไรจากระบบ kzm และเมื่อได้กำไรมาก้อนหนึ่ง ผมจะนำกำไรมาเล่นกับ option ดู คุณ krit587 มีคำแนะนำสำหรับนักเล่น option มือใหม่บ้างไหมครับ ขอบคุณครับ จากคุณ : เด็กวัดบ้านนอก เขียนเมื่อ : 31 ต.ค. 54 14:08:57

ความคิดเห็นที่ 12 ในความคิดผม เริ่มต้นควรดูจากกราฟ และคิดว่าในอนาคต มันจะขึ้นหรือลง เมื่อถึง strike price ที่เป็นเป้าหมาย ลำดับต่อไปก็คือดูค่า premium 1. หากแพง -----> รอ 2. หากเหมาะสม -------> ซื้อ แล้วถือจนหมดอายุสัญญา หรือ เกิด case ที่ทำให้คิดว่าน่าจะ reverse ก็กระทำ action 2 ปล.ผมมองว่าต่อจากนี้ตลาดจะมีแต่ความผันผวนสูง ตลาดซึมนิ่งยาวนานไม่น่าจะมี เพราะรายใหญ่จะใช้เครื่องมือการลงทุนที่ซับซ้อน เช่น tfex  และมีผลชี้นำมากกว่าการซื้อขาย stock ดังนั้น การ open short จึงค่อนข้างเสี่ยงหากมองในมุมมองของผม ตลาด side way ในวง +/- 50 จุด ไม่น่าจะได้เห็น ปล.ความเห็นส่วนตัวนะครับ แก้ไขเมื่อ 31 ต.ค. 54 14:14:40 จากคุณ : เด็กวัดบ้านนอก เขียนเมื่อ : 31 ต.ค. 54 14:14:01

ความคิดเห็นที่ 13 #10 สำหรับ kzm ออปชั่นและฟิวเจอร์สเป็นส่วนหนึ่งของระบบเลยครับ มิใช่ว่าแต่ละคนต้องหาทางประยุกต์ ใช้กันเอง เพียงแต่ผู้ใช้ยังเข้าไม่ถึงความเข้าใจนี้กันเต็ม100%เพราะว่ายังเรียนรู้ๆกันอยู่ อีกอย่างคือยังติด ข้อจำกัดบางประการ เช่นเงินทุนต่อ1โซน เลยต้องหาทางใช้งานออปชั่นแบบที่พอจะทำได้กันไปก่อนครับ จากคุณ : อะไรคือสิ่งหายาก แต่ไม่มีค่า เขียนเมื่อ : 31 ต.ค. 54 14:21:41

ความคิดเห็นที่ 14 เรื่อง KZM เนี่ย ผมไม่ทราบในรายละเอียดจริง ๆ หากเขียนอะไรไปไม่ถูกต้อง ต้องขอโทษนะครับ แต่ผมเ่ชื่อว่าทุก system มันจะมี blind spot เพียงแต่โอกาสเกิดมันอาจจะน้อย แต่ถ้า pure option trader ผมคิดว่าสิ่งที่จำเป็นจะมี 3 ส่วนคือ 1.ความรู้เรื่องคุณสมบัติของ option และกลยุทธ ต่าง ๆ 2. ความรู้เรื่อง technical analysis 3. ความรู้เรื่อง money management ของ port option (สำคัญมาก โดยเฉพาะคนที่จะเล่นขา short) ตัวที่จะตัดสินว่ารวยหรือเจ๊งน่าจะอยู่ที่ ข้อ 2 ครับ แต่ถ้าไม่ได้เก่ง TA ก็พอเอาตัวรอดได้ ถ้ามีวินัย จากคุณ : krit587 เขียนเมื่อ : 31 ต.ค. 54 14:39:52

ความคิดเห็นที่ 15 ไม่ต้องขอโทษหรอกครับ คุณkrit587 เจตนาดีที่ตั้งกระทู้นี้ขึ้นมา ผมพอจะอ่านเกี่ยวกับkzm มากกว่าหน่อย เลยเข้ามาช่วยเสริมให้ครับ kzm มันเป็น market model มันจึงมีทุกอย่างในระบบเลยครับ ตั้งแต่ตัวตลาด(ETF) อนุพันธ์ ไปจนหุ้นดี หุ้นปั่น หุ้นเน่า ก็มีแผนวางไว้ให้ใช้ครบหมด ขอบคุณสำหรับกระทู้ครับ มีประโยชน์มากครับ :) จากคุณ : อะไรคือสิ่งหายาก แต่ไม่มีค่า เขียนเมื่อ : 1 พ.ย. 54 09:33:38