ความคิดเห็นที่ 1 Executive Summary แม้จะมีข้อจำกัดหลายๆ อย่าง แต่เชื่อว่า ท้ายที่สุดแล้ว ถ้า EFSF ต้องการหาเงินมาช่วยปล่อยกู้ให้กับประเทศที่ประสบปัญหาหนี้สาธารณะ ชาติสมาชิกในกลุ่มยูโรจะสามารถหาเงินมาให้ EFSF ได้ อย่างไรก้อดี มาตรการของ EFSF เป็นเพียงแค่การผลัดวันประกันพรุ่งเท่านั้น ถ้ากลุ่มยูโรต้องการจะยุติวิกฤตหนี้สาธารณะได้อย่างสมบูรณ์ ประเทศสมาชิกต้องผลักดันแผนพัฒนาประเทศที่สูญเสียความสามารถในการแข่งขันควบคู่ไปด้วย รวมถึงการรวมกลุ่มให้แน่นแฟ้นกว่าการใช้นโยบายการเงิน (Monetary policy) ร่วมกัน แต่ควรจะข้ามไปสู่การใช้นโยบายการคลัง (Fiscal Union) ร่วมกันด้วย จากคุณ : m_ple เขียนเมื่อ : 9 พ.ย. 54 10:53:40

ความคิดเห็นที่ 2 Q: จะว่าไปนี่ ก้อพูดอยู่ทุกวันนะเนี่ย ว่าแต่ EFSF คืออะไรอ่ะ ^^" ? A: 55+ EFSF ย่อมาจาก European Financial Stability Facility ถ้าถามว่า มันคืออะไร ผมคงตอบว่า มันเป็น "Facility" ครับ (คล้ายๆ กับเงินช่วยเหลือหรืออะไรเถือกๆ นั้น) EFSF ก่อตั้งเมื่อวันที่ 9 พค 2010 มีหน้าที่ ปกป้องเสถียรภาพการเงิน (Safegaurd financial stability) ของกลุ่มประเทศยุโรป ด้วยการให้ความช่วยเหลือทางการเงิน (Financial assisstance) กับประเทศสมาชิกที่มีปัญหา อย่างไรก้อดี จุดประสงค์จริงๆ ว่ากันว่าเพื่อแบ่งเบาภาระในการซื้อพันธบัตรของ ECB (ตอนนั้น ECB เข้าไปช่วยซื้อพันธบัตรผ่านโปรแกรม Securities Markets Programme (SMP) ) หลังจาก Lehman ล้ม สภาพคล่องในตลาดพันบัตรลดลงอย่างมาก จนส่งผลให้ราคาพันธบัตรตกลง (yield สูงขึ้น) และทำให้ต้นทุนในการกู้ยืมของสถาบันการเงินต่างๆ แพงขึ้น  ECB จึงตัดสินใจออก SMP  เข้ามาช่วยซื้อพันธบัตร เพื่อไม่ให้ yield สูงเกินไปจนกระทบเศรษฐกิจจริงครับ ผมเข้าใจว่า เค้าไม่อยากให้ ECB ไปซื้อพันธบัตรโดยตรง เพราะมันคาบเกี่ยวกับคำว่า monetization (การพิมพ์เงินออกมาซื้อของ จนเกิดปัญหาเงินเฟ้อ) อย่างมาก จึงจัดตั้ง EFSF ออกมาซื้อแทนครับ EU ตั้งใจให้ EFSF เป็นมาตรการชั่วคราว แต่ภายหลังเห็นว่า ปัญหาแบบนี้อาจจะเกิดขึ้นมาอีกในอนาคต ดังนั้นจึงมีดำริจัดตั้ง European Stability Mechanism (ESM) ขึ้น และใช้ ESM เป็นมาตรการถาวรในการจัดการเกี่ยวกับปัญหาทำนองนี้ โดย ESM จะเข้ามาแทนที่ EFSF ในเดือน ก.ค. ปี 2013 ครับ แก้ไขเมื่อ 09 พ.ย. 54 10:54:54 จากคุณ : m_ple เขียนเมื่อ : 9 พ.ย. 54 10:54:05

ความคิดเห็นที่ 3 Q: เงินของ EFSF เอามาจากไหนอ่ะ? A: มาจากการการันตีของชาติใน EU นั่นล่ะครับ (รูป 1 นี่เป็นขนาดล่าสุดที่ขยายจาก 440 เป็น 780* ตามมติของการประชุม EU summit เมื่อวันที่ 21 กค ที่ผ่านมาเอาไว้ด้วยแล้วนะครับ) สัดส่วนดังกล่าวใช้ สัดส่วนเดียวกันกับเงินลงขันใน ECB และนับเฉพาะประเทศที่อยู่ใน Economic and Monetary Union: EMU) จากนั้น EFSF จะเอาการันตีในรูปที่ 1 มาออกพันธบัตร และเอาเงินที่ได้จากการขายพันธบัตรนั้น ไปแทรกแซงตลาดแล้วแต่ตามที่คณะกรรมการเห็นสมควรครับ (ส่วนมากก้อเอาไปซื้อพันธบัตรต่ออีกรอบหนึ่ง) กำไรก้อแล้วไป แต่ถ้าขาดทุนขึ้นมา ประเทศต่างๆ จะช่วยกันออกเงินชดเชยให้ EFSF ในจำนวนที่ไม่เกินเงินการันตีที่ว่าไว้ในรูปที่ 1 ครับ อาทิ สมมติว่า EFSF ขาดทุนมา 100 เยอรมันแม้จะมีสัดส่วนเงินลงขันเพียง 27% แต่ถ้าประเทศอื่นๆ ทั้งหมดไม่มีตัง เยอรมันก้อต้องรับผิดชอบให้ครบ 100 ครับ อย่างไรก้อดี ถ้า EFSF ขาดทุนมา 300 เยอรมันจะรับผิดชอบเพียง 211 ตามเงินการันตีที่ให้ไว้ครับ ;) *จริงๆ 780 ก้อไม่ถึงซะทีเดียวครับ เพราะตัวเลขดังกล่าวนับรวมเงินการันตีจากกรีซ ไอร์แลนด์ และโปรตุเกสเข้าไปด้วย ซึ่งปัจจุบันสามประเทศนี้ขอรับความช่วยเหลือจาก EFSF อยู่ ดังนั้น เราจึงไม่คิดรวมเข้ามาอยู่ด้วยครับ ( แหม เอาตัวเองให้รอดก่อนเถอะ ก่อนมาช่วยการันตีคนอื่นๆ ^^" ) จากคุณ : m_ple เขียนเมื่อ : 9 พ.ย. 54 10:55:34

ความคิดเห็นที่ 4 Q: ไหนเห็นจากข่าวเค้าบอกว่า EFSF ปล่อยกู้ได้แค่ 440 ไง แล้ว 780 มาจากไหน? A:  เค้าต้องการให้ EFSF ดำรง rating AAA ไว้ ดังนั้น ความสามารถในการปล่อยกู้ (Lending capacity) จึงถูกจำกัดไว้เพียง เท่ากับเงินการันตีของชาติที่ได้ rating AAA เท่านั้นครับ กรณีที่ประเทศหนึ่งๆ มีปัญหาต้องการเงินช่วยเหลือจาก EFSF การันตีของประเทศนั้นก้อจะถูกเอาออกไปโดยอัตโนมัติ อย่างไรก้อดี ประเทศที่ออกไป มันต้องไม่ใช่ประเทศ AAA rating อยู่แล้วใช่ไหมครับ (ถ้ายังได้ AAA rating แสดงว่าเค้ายังไม่มีปัญหาหรอกเนอะ ^^" ) ตราบใดที่ประเทศ AAA ไม่โดนปรับลด rating วงเงินที่ EFSF จะใช้ได้ (โดยยังได้ AAA rating ด้วย) ก้อยังเป็น 440 ครับ เรื่องนี้เป็นประเด็นสำคัญเรื่องหนึ่งที่ทำให้การเพิ่มขนาด EFSF เป็นไปด้วยความยุ่งยากครับ จากคุณ : m_ple เขียนเมื่อ : 9 พ.ย. 54 10:55:58

ความคิดเห็นที่ 5 Q: เพราะประเทศ AAA ไม่ยอมใช่ไหม? A: นั่นล่ะ ประเด็นเลยครับ เพื่อให้ EFSF ยังคงดำรงสถานะ AAA rating ดังนั้น ขนาดของ EFSF จึงขึ้นอยู่กับวงเงินการันตีของประเทศ AAA เป็นสำคัญ หรือพูดให้ชัดอีกหน่อย ขึ้นอยู่กับ เยอรมัน กับ ฝรั่งเศส เป็นสำคัญ เนี่ยล่ะ ดังนั้น การที่จะบอกว่า จะขยายวงเงิน EFSF โดยการเพิ่มการันตี แม้ในทางทฤษฎีจะบอกว่า ทุกประเทศเพิ่มเงินเหมือนกันทั้งหมด แต่ในทางปฏิบัติมันก้อเหมือนกับบอกว่า เฮ้ เยอรมันกะฝรั่งเศส ยูสองคน ช่วยเพิ่มเงินใน EFSF หน่อยได้ไหม อย่างที่ผมบอกไว้เสมอๆ EU หน่ะมีเงิน โดยเฉพาะเยอรมันกะฝรั่งเศส แต่ใครจะยอมจ่ายคนเดียวล่ะครับ นี่เป็นเหตุผลสำคัญ ที่ทำให้การขยายวงเงิน EFSF โดยการเพิ่มการันตีเป็นไปได้ยากในทางปฏิบัติครับ ถ้าพี่ๆ ตามข่าวหน่อย จะเห็นว่า ไม่ว่าประชุมฟอรั่มไหน หรือ มีเรื่องอะไรกะใคร จะต้องมี เยอรมันกับฝรั่ง เข้าไปแจมด้วยทุกรอบ และมักจะเป็นสองประเทศนี้ ที่เป็นคนกำหนดทิศทางนโยบายต่างๆ  ด้วยเหตุผลนี้ล่ะครับ จากคุณ : m_ple เขียนเมื่อ : 9 พ.ย. 54 10:56:20

ความคิดเห็นที่ 6 Q: เห็นต้องมีสภามาเกี่ยวข้องด้วยเหรอ? A: EFSF มีคณะกรรมการอยู่คณะหนึ่ง ประกอบด้วยตัวแทน (มักเป็นรัฐมนตรีคลัง)จากชาติสมาชิกทั้งหมด การตัดสินใจต่างๆ จะต้องผ่านการเห็นชอบจากคณะกรรมการชุดนี้อย่างเป็นเอกฉันท์ อย่างไรก้อดี บางประเทศอาจมีกฏหมายกำหนดไม่ให้ตัวแทนของประเทศตน ตัดสินใจตามใจชอบ ดังนั้น ตัวแทนของบางประเทศ (อาทิ เยอรมัน) อาจต้องกลับไปขอความเห็นชอบจากรัฐบาล หรือแม้กระทั่งสภาผู้แทน ก่อนที่จะกลับมาตัดสินใจหรือโหวตอะไรใน EFSF ครับ ด้วยเหตุนี้ เราจะเห็นว่าข่าวว่า โอเค EFSF ตกลงอันนี้แล้ว แต่ต้องรอผ่านความเห็นชอบจากสภาประเทศต่างๆ ก่อน ก้อด้วยเหตุผลนี้ครับ ;) จากคุณ : m_ple เขียนเมื่อ : 9 พ.ย. 54 10:56:35

ความคิดเห็นที่ 7 Q: แล้ว EFSF ต้องการเงินอีกเท่าไร? A: ปัจจุบัน EFSF กำหนด (commit) ให้ความช่วยเหลือ ไอร์แลนด์กับโปรตุเกส รวม 48.5 (ในจำนวนนี้เบิกจ่ายจริง (disburse) ไปแล้ว 9.3) ส่งผลให้เหลือความสามารถในการปล่อยกู้ 391.5 ถ้ารวมวงเงินช่วยเหลือที่เตรียมจะให้กรีซในแผน 2 (second package) อีก 70 (เผอิญ อันนี้ยังไม่ชัว อาจจะเปลี่ยนแปลงได้) EFSF อาจจะเหลือวงเงินปล่อยกู้ ประมาณ 320 ทีนี้ ประเด็นคือ 320 ที่เหลือเนี่ย พอไม่พอมันขึ้นอยู่กับว่า คุณจะใช้ EFSF ไปทำอะไร ตอนนี้ที่พูดๆ กันมาก คือ กรณีของ สเปน กับ อิตาลี สเปนมีหนี้ที่ครบกำหนดชำระภายในปี 2014 จำนวน 450 ขณะที่ อิตาลีมีหนี้ในทำนองเดียวกันจำนวน 650 นั่นหมายความว่า ถ้าสเปนและอิตาลีไม่สามารถหาเงินมาใช้ roll over หนี้ได้ (เนื่องจากไม่สามารถ raise fund ในตลาดได้*) และต้องขอความช่วยเหลือจาก EFSF นั่นแปลว่า EFSF อาจจะต้องหาเงินมาช่วยกว่า 1000 billion เลยครับ   นี่ยังไม่รวมกับไอเดียที่ว่ากันว่าจะให้ EFSF ไปช่วยเพิ่มทุนธนาคารที่มีปัญหาในยุโรปนะครับ ซึ่งว่ากันว่า ธนาคารในยุโรปอาจต้องเพิ่มทุนกว่า 100 - 300 หากกรีซเกิด default ขึ้นมาจริงๆ อย่างไรก้อดี อิตาลีและสเปนอาจไม่ต้องการทั้งหมด 1000 ก้อได้ อีกทั้ง IMF อาจจะเข้ามาช่วยสักครึ่งหนึ่ง (เหมือนที่ช่วยในกรณีของกรีซ) แต่ที่แน่ๆ เราคาดว่า เงินของ EFSF ที่เหลืออยู่ 320 ไม่น่าจะพอครับ ;) *ขออธิบายเพิ่มเติมอีกนิดหนึ่งนะครับ ผมคิดว่า คนทั่วๆ ไป อาจจะมองไม่เห็นภาพเท่าไร ปกติรัฐบาลของประเทศทั่วๆไป จะมีการก่อหนี้ ผ่านการออกพันธบัตรขายให้นักลงทุนอยู่สม่ำเสมอครับ ทีนี้ เวลารัฐบาลประเทศหนึ่งๆ เริ่มมีปัญหาการเงิน (sovereign) คือ เริ่มหารายได้ไม่พอรายจ่าย นักลงทุนจะเริ่มไม่มั่นใจต่อรัฐบาลประเทศนั้นๆ ว่าจะสามารถหาเงินมาใช้หนี้ได้หรือไม่ ดังนั้น นักลงทุนจะเริ่มคิดดอกเบี้ยสูงขึ้น เมื่อดอกเบี้ยปรับสูงขึ้นมากๆ (แบบกรีซเจอเป็นสิบๆ เปอร์เซน) มันก้อเหมือนกับว่า รัฐบาลไม่สามารถไป raise fund ในตลาดได้นั่นเองครับ เพราะดอกเบี้ยมันแพงเกินกว่าจะจ่ายไหวครับ จากคุณ : m_ple เขียนเมื่อ : 9 พ.ย. 54 10:57:00

ความคิดเห็นที่ 8 Q: แล้ว EFSF จะไปหาเงินมาจากไหน? A: อันนี้กำลังถกเถียงกันอยู่ครับ ซึ่งก้อมีคนเสนอทางเลือกต่างๆ มาเยอะมาก อาทิ - การเพิ่มการันตี : อย่างที่บอกข้างต้น ผมคิดว่าเป็นไปได้ยาก เนื่องจากประชาชนของเยอรมันและฝรั่งเศสคงไม่ยอม ไปโหวตในสภา/ทำประชามติ ก้อคงไม่ผ่านอยู่ดี) - ออกหุ้นเพิ่มทุนแล้วให้กลุ่มประเทศเกิดใหม่ อาทิ จีน เข้ามาช่วยซื้อ : ส่วนตัวคิดว่าทางนี้ยากอยู่ ตราบใดที่เยอรมันยังมีเงินอยู่ เรื่องอะไรจะต้องไปให้จีนเข้ามาช่วย และอาจจะเข้ามามีอิทธิพลต่อการตัดสินใจเรื่องเศรษฐกิจภายในกลุ่มยูโร - ยอมให้ rating ของ EFSF ต่ำกว่า AAA : อันนี้ก้อดูดี ถ้าสมมติยอมให้ EFSF มี rating ต่ำกว่า AAA ได้ Lending capacity ของ EFSF ก้อจะเพิ่มขึ้นโดยอัตโนมัติ เนื่องจากจะไม่ถูกผูกอยู่กับเงินการันตีของประเทศ AAA อีกต่อไป อย่างไรก้อดี ข้อเสียสำคัญคือ เมื่อ rating ของ EFSF ถูกลดต่ำกว่า AAA พันธบัตรที่ออกโดย EFSF ก้อจะถูกชาร์จดอกเบี้ยแพงขึ้น และทำให้ประเทศที่มีปัญหาถูกชาร์จดอกเบี้ยแพงขึ้นตามมาครับ ซึ่งการมี EFSF ก้อเพื่อปล่อยกู้ในอัตราดอกเบี้ยต่ำได้ ถ้าการปล่อยกู้โดย EFSF แล้วมีดอกเบี้ยเท่ากับตลาด ประโยชน์คงน้อยจริงไหมครับ ;) - EFSF การันตีดอกเบี้ยให้กับประเทศที่มีปัญหา : กล่าวคือ ให้ประเทศที่มีปัญหา raise fund ในตลาดตามปกติ แต่ EFSF จะช่วยจ่ายดอกเบี้ยให้ส่วนหนึ่ง ทำให้ประเทศที่มีปัญหาสามารถกู้ได้ในอัตราดอกเบี้ยต่ำตามที่ EFSF การันตีไว้ ในขณะเดียวกัน นักลงทุนก้อยังได้รับดอกเบี้ยในอัตราตลาด ซึ่งวิธีนี้ก้อน่าสนใจนะครับ แต่อาจเป็นไปได้ยากสำหรับประเทศที่มีปัญหามากๆ อาทิ กรีซงี้ อัตราดอกเบี้ยในตลาดอยู่ถึง 20% แต่ถ้า EFSF การันตีให้กรีซจ่ายแค่ 5% ส่วนต่าง 15% EFSF จ่ายไหวเหรอ และกรีซจะใช้คืน EFSF อย่างไร - เปลี่ยน EFSF ให้เป็นธนาคารแล้วไปขอความช่วยเหลือจาก ECB : คนคิดไอเดียนี้ โคดได้ใจผมเลยอ่ะ 55+ คืองี้ครับ เมื่อก่อนมีคนคิดว่า ทำไมไม่ให้ ECB เข้าไปซื้อพันธบัตรประเทศที่มีปัญหาล่ะ (อย่าลืมว่า ECB เป็นธนาคารกลาง ธนาคากลางมีเงินไม่จำกัด เนื่องจากพิมพ์เงินเองได้) โอเค ทำแบบนี้มันดูเหมือน monetization แต่ถ้าผลเสียของ monetization คืออัตราเงินเฟ้อ ถามว่า อัตราเงินเฟ้อในปัจจุบันเป็นปัญหาหรือไม่ ก้อไม่ จริงไหม (อาจจะเป็นผลดีเสียด้วยซ้ำ สำหรับประเทศที่เป็นลูกหนี้ อย่างที่ผมได้เคยเขียนไว้ในกระทู้กรีซครับ)   แต่ ECB ไม่ยอมท่าเดียว ก้อเลยมีคนคิดใหม่ว่า โอเค งั้นตั้ง EFSF ให้เป็นธนาคาร แล้วให้ EFSF ไปกู้จาก ECB แล้วเอาเงินนั้นมาซื้อพันธบัตรประเทศที่มีปัญหาอีกที (จะเอาอ่ะ ทำไม ^^") อย่างไรก้อตาม ECB ยืนกรานว่าจะไม่ยอมทำอะไรแนวนั้นเด็ดขาด จนไอเดียนี้ตกไป แต่นั่นก้อภายใต้ท่านประธาน Jean-Claude "Impreccably Impreccably" Trichet (^^") นะครับ ไม่รู้ว่าท่านประธานคนใหม่ Mario Draghi จะมีนโยบายแตกต่างออกไปหรือไม่ ต้องคอยติดตามครับ สุดท้าย ไอเดียที่ถูกพูดถึงกันมากที่สุดในเวลานี้ คือ การ leverage EFSF ครับ จากคุณ : m_ple เขียนเมื่อ : 9 พ.ย. 54 10:57:31

ความคิดเห็นที่ 9 Q: อะไรคือ leverage? A: leverage คือ ใช้การันตีของ EFSF ที่มีอยู่เท่าเดิม แล้ว "leverage" (ไม่ได้เอาฮานะครับ แต่นึกคำไทยไม่ออกจริงๆ ^^" ) เพื่อให้มีเงินไปปล่อยกู้ได้มากขึ้น ไอเดียหลักๆ ในการ leverage EFSF มีอยู่ 2 ทาง คือ 1. การประกันเงินขั้นต่ำให้แก่นักลงทุน อันนี้ ผมไม่แน่ใจในรายละเอียดเท่าไรนัก แต่ผมเข้าใจว่า EFSF จะออกพันธบัตร แล้วเอาพันธบัตรนั่นไปปล่อยกู้ให้ประเทศที่มีปัญหา แต่ถ้าประเทศที่มีปัญหา default EFSF จะจ่ายเงินคืนนักลงทุน เป็นจำนวนเงินขั้นต่ำที่ตกลงกันไว้ ไม่ได้จ่ายเต็มทั้งหมด สมมติว่า EFSF กำหนดเงินประกันขั้นต่ำ 20% แปลว่า ถ้าเกิดเหตุการณ์ default  EFSF จะจ่ายคืนเพียง 20 บาท นั่นแปลว่า EFSF จะใช้เงินเพียง 20 บาท ในการปล่อยกู้ 100 บาท (leverage 5 เท่า เพราะเจ๊ง จ่ายคืน 20 เอง) ดังนั้น EFSF เหลือเงิน 320 พันล้านยูโร จะสามารถปล่อยกู้ได้ถึง  (320 x 5) 1600 พันล้านยูโรหน่ะครับ เหลือเฟือสำหรับอิตาลีและสเปนเลย วิธีนี้ คุณต้องมั่นใจว่า ประเทศอิตาลีและสเปนไม่ได้มีปัญหา "sovereign" เหมือนกรีซ (คือ ประเทศไม่ได้เสียความสามารถในการแข่งขัน และรัฐไม่ได้จนปัญญาในการหาเงินใช้หนี้ ซึ่งสำหรับเคสสเปนกับอิตาลี ผมก้อมองว่าเค้าไม่ได้มีปัญหา sovereign เหมือนกัน) และอัตราดอกเบี้ยที่อิตาลีและสเปนถูกชาร์จในปัจจุบันแพงเกินจริง การทำแบบนี้จะช่วยแก้ปัญหาอัตราดอกเบี้ยให้กับอิตาลีและสเปนได้ และตราบใดที่สเปนและอิตาลีไม่ได้มีปัญหา sovereign จนต้อง default ทุกคนก้อจะแฮปปี้ครับ ;) 2. ตั้ง Special Purpose Vehicle (SPV) อันนี้เริ่มลึกลับซับซ้อน ประเด็นคือ ให้ EFSF ตั้ง SPV (อาทิ ตั้งกองทุนขึ้นมา 1 กอง) แล้ว EFSF ใส่เงินเข้าไปส่วนหนึ่ง พร้อมๆ กับชักชวนนักลงทุนจากที่อื่นๆ (เช่น Sovereign Wealth Fund ของประเทศต่างๆ หรือแม้กระทั่ง IMF เอง) จากนั้น SPV นี้ ก้อจะเอาเงินไปปล่อยกู้ประเทศที่มีปัญหาอีกทีครับ กรณีที่เกิด default EFSF จะรับผิดชอบเองก่อน (ตามเงินที่ลงไปครับ) อาทิ EFSF ออกเงินใน SPV คนละครึ่งกับนักลงทุนอื่นๆ ถ้าเกิด default แบบเจ้าหนี้จ่ายคืนเพียงครึ่งเดียว EFSF จะยอมให้นักลงทุนอื่นๆ ได้เงินคืนไปทั้งหมด EFSF ไม่เอาสักบาท อะไรทำนองนั้นครับ   ทั้งสองวิธีข้างต้น คาดว่าจะเป็นต้นแบบในการ leverage EFSF ครับ ซึ่งผมเข้าใจว่า เค้าคงใช้วิธีนี้ล่ะเป็นสำคัญ อาจจะผสมๆ กันทั้งสองวิธี ซึ่งตอนนี้คงกำลังตกลงรายละเอียดต่างๆ อยู่ครับ ดังนั้น เงินที่เอาช่วยประเทศที่มีปัญหา จะกี่แสนล้าน คงหาได้ไม่ยากครับ ;) จากคุณ : m_ple เขียนเมื่อ : 9 พ.ย. 54 10:58:41

ความคิดเห็นที่ 10 Q: แล้วมันจะช่วยหยุดวิกฤตยุโรปได้ไหม? A: นี่ก้อประเด็น ^^" ผมขอสรุปว่า ถ้าประเทศนั้นไม่ได้มีปัญหา sovereign (อาทิ สเปนกับอิตาลีงี้ ผมไม่คิดว่าเค้ามีปัญหา sovereign) วิธีดังกล่าวช่วยได้ครับ แต่ถ้าประเทศนั้นมีปัญหา sovereign อย่างกรีซงี้ วิธีดังกล่าวคงไม่ช่วยครับ การยืดเวลาชำระหนี้ การช่วยลดดอกเบี้ย บลาๆ พวกนี้ มันแค่ผลัดวันประกันพรุ่งไปแค่นั้นเองครับ (kick the can down the road) กล่าวคือ แม้จะช่วยไม่ให้กรีซ default ในวันนี้ได้ แต่ตราบใดที่ไม่ทำให้กรีซสามารถหารายได้เลี้ยงตัวเองได้ด้วยตัวเอง สักวัน กรีซก้อจะกลับมาเจอปัญหานี้ใหม่อยู่ดีครับ ส่วนตัวผมคิดว่า ถ้ากลุ่มประเทศยุโรปต้องการให้ "European Union" อยู่รอดต่อไปได้ การรวมกลุ่มจะต้องแน่นเฟ้นกว่านี้ อาจจะต้องมีรูปแบบของ Fiscal Union แบบใดแบบหนึ่ง ไม่ใช่แค่ใช้ Monetary Union เป็นสำคัญแบบในปัจจุบัน การถ่ายโอน Competitiveness โดยเฉพาะการเคลื่อนย้ายปัจจัยการผลิตต้องไหลลื่นกว่านี้ บลาๆๆ ซึ่งเรื่องดังกล่าว คงคุยกันอีกนานครับ ;) จากคุณ : m_ple เขียนเมื่อ : 9 พ.ย. 54 10:59:33

ความคิดเห็นที่ 11 จบแล้วครับ (ต่อไปจะพยายามเขียนกระทู้ไม่ให้เกิน 10 ความเห็นนะครับ ^^" ) พบกันใหม่โอกาสหน้า สวัสดีครับ ;) จากคุณ : m_ple เขียนเมื่อ : 9 พ.ย. 54 11:00:41

ความคิดเห็นที่ 12 ขอบคุณมากๆครับ จขกท. จากคุณ : คุณดี. ซี. เขียนเมื่อ : 9 พ.ย. 54 11:33:39

ความคิดเห็นที่ 13 .         Thank You คร้าาาา จากคุณ : ศิษย์ซุนวู เขียนเมื่อ : 9 พ.ย. 54 12:31:20

ความคิดเห็นที่ 14 ใช้..ยืดเวลา... ตาย  ของยุโรป หรือ ปล่าวว ครับ.. ... วันนี้ หุ้นไทย ลง..  ทั้งที่    คนอื่น  เขียว.... จากคุณ : (GOOD GOVERNANCE ^_^ (prince-npark) เขียนเมื่อ : 9 พ.ย. 54 12:36:58

ความคิดเห็นที่ 15 ขอบคุณครับ จากคุณ : PolluxGMN เขียนเมื่อ : 9 พ.ย. 54 13:02:51

ความคิดเห็นที่ 16 Thanks a lot!! จากคุณ : teeranet เขียนเมื่อ : 9 พ.ย. 54 13:12:51

ความคิดเห็นที่ 17 ขอบใจจร้าาา จากคุณ : usira21 เขียนเมื่อ : 9 พ.ย. 54 14:01:59

ความคิดเห็นที่ 18 เนื้อหาเข้มข้นดีครับ วิเคราะห์แบบนี้ล่ะครับที่ต้องการ บทวิเคราะห์ทั่วไปของโบรกเกอร์ไม่เห็นมีแบบนี้เลย ขอบคุณครับคุณ m_ple จากคุณ : ฟางซินเสีย เขียนเมื่อ : 9 พ.ย. 54 15:43:22

ความคิดเห็นที่ 19 คุณ m_ple ครับ จะเป็นไปได้หรือเปล่าครับ ที่จะมีการเปลี่ยนสัดส่วน ให้ประเทศอื่นใส่เงินมากขึ้น เช่น finland, netherland, austria, luxembourg จะได้ไม่เป็นภาระกับฝรั่งเศสและเยอรมันมากเกินไป จากคุณ : ฟางซินเสีย เขียนเมื่อ : 9 พ.ย. 54 15:45:46

ความคิดเห็นที่ 20 ให้ Give ตอบแทนสำหรับความรู้ครับ .. จากคุณ : DarkEnemy เขียนเมื่อ : 9 พ.ย. 54 15:50:48

ความคิดเห็นที่ 21 น้อง m_ple น่าจะเป็นอาจารย์สอนนักศึกษานะคะ อธิบายเรื่องราวอะไรต่าง ๆ ได้เข้าใจง่าย ทะลุปรุโปร่งดีจังเลยค่ะ มาเป็นเพื่อนร่วมอาชีพกับพี่มั้ย จากคุณ : หวานใจกัปตัน เขียนเมื่อ : 9 พ.ย. 54 16:22:23

ความคิดเห็นที่ 22 เขียนบทความลงหนังสืออะไรครับ ยินดีซื้อทุกเล่มเลย เนื้อหาเข้มข้นแบบนี้ จากคุณ : G_Samurai เขียนเมื่อ : 9 พ.ย. 54 16:53:14

ความคิดเห็นที่ 23 ขอบคุณมากครับ เนื้อหาเข้มข้นมาก อ่านแล้วยังงงๆ สงสัยต้องไปศึกษาหาความรุ้เพิ่มเติมอีก จากคุณ : Mr_high เขียนเมื่อ : 9 พ.ย. 54 17:23:57

ความคิดเห็นที่ 24 ขอบคุณครับ อ่านแล้วยังงง พรุ่งนี้ขออีกรอบ จากคุณ : นักตอบกระทู้สมัครเล่น เขียนเมื่อ : 9 พ.ย. 54 18:55:50

ความคิดเห็นที่ 25 เนื้อหาเข้มข้น อ่านเก็บไอเดียหลักเข้าใจง่ายดีครับ จากคุณ : kangkrub เขียนเมื่อ : 9 พ.ย. 54 20:35:42

ความคิดเห็นที่ 26 ได้ความรู้มากๆๆๆ เลย  เขียนเข้าใจง่ายดีค่ะ   แต่ยังงงๆเกี่ยวกับ  EFSF การันตีดอกเบี้ยให้กับประเทศที่มีปัญหา ที่ยกตัวอย่างว่าถ้า EFSF ช่วยจ่ายดอกเบี้ยบางส่วนให้กับกรีซ  EFSF จะจ่ายไหวเหรอ  ที่งงเพราะว่า ถ้า EFSF มีเงินพอจะปล่อยกู้ให้กรีซได้  ส่วนต่างดอกเบี้ยก็ไม่น่าจะเป็นปัญหาน่ะค่ะ  อาจจะยังไม่เข้าใจดีพอ  ช่วยไขความกระจ่างด้วยค่ะ จากคุณ : ลิงกินกล้วย เขียนเมื่อ : 9 พ.ย. 54 21:38:55

ความคิดเห็นที่ 27 ถามในนี้ได้ป่าวฮะ อยากรู้ว่าสำหรับกรีซแล้วในมุมมองของจขกท. นอกจากว่าจะแก้ไขปัญหาด้วยนโยบายการคลังและการเคลื่อนย้ายการผลิตแล้วเนี่ย มันมีวิธีอื่นที่จะแก้ปัญหาได้รึเปล่าครับ? (ที่ไม่ใช่ผลัดไปเรื่อยอย่างที่กำลังเป็นอยู่) และถ้าสมมติว่าไม่ช่วยมันแล้วกรีซ เนื่องจากบลาๆ.. หากปล่อยกรีซล้มไปเลย (hair cut 100% ว่างั้น) ผลกระทบมันจะเป็นวงกว้างแค่ไหนครับ (มองในแง่ว่ากรีซเป็นส่วนหนึ่งของเศรษฐกินโลก/ยูโร เป็นผู้นำเข้า... และเป็นผู้ส่งออก... ในปริมาณ...) หากให้ EFSF เข้าไปบริหารกิจการทั้งหลายที่เป็นของรัฐ(กรีซ แทรกแซงภายใน ยึดเลยว่างั้น) จะเป็นยังไงหว่า หุหุ ดูกรณีกรีซมากๆแล้วแอบรู้สึกว่าตัวเองซาดิส.. จากคุณ : Nong-KiD เขียนเมื่อ : 9 พ.ย. 54 21:46:52

ความคิดเห็นที่ 28 ขอบคุณสำหรับความรู้ครับ คุณ m_ple ความรู้ความสามารถขนาดนี้ยังอยุ่ในภาวะตกงาน ได้อีกหรอครับนี่ T^T จากคุณ : Sylphs เขียนเมื่อ : 9 พ.ย. 54 23:17:18

ความคิดเห็นที่ 29 คุณหวานใจฯ น่าเสียดาย   ตอนนาโนมีตติ้งสินธรไม่ว่างมา เลยไม่ได้เจอตัวจริงคุณ m_ple เวลาโพสต์ให้อ่าน ก็อ่านเข้าใจง่าย   เวลาพูดให้คนฟัง  ก็พังเข้าใจดี น่าจะไปเป็นอาจารย์สอนพิเศษ่ตามมหาวิทยาลัย  อย่างที่ว่าไว้ครับ + แก้ไขเมื่อ 10 พ.ย. 54 10:13:34 จากคุณ : endophine เขียนเมื่อ : วันลอยกระทง 54 10:12:17

ความคิดเห็นที่ 30 โอ้ว พี่ๆ สนใจมากกว่าที่ผมคาดไว้มากนะครับเนี่ย น่ายินดีๆ ;) คห.19 คุณ ฟางซินเสีย ยากครับ นึกสภาพว่าคนมีตังยังไม่อยากจะออก คนไม่มีตังจะออกทำไมอ่ะครับ เปลืองตัว ^^" ปัญหาคือ การเพิ่มการันตี เท่ากับว่า คุณต้องเอาเงินประเทศคุณมาช่วยเหลือประเทศที่มีปัญหา นักการเมืองคงหาเหตุผล (justify) ลำบากนะครับ เวลาเอาไปพูดให้ชาวบ้านฟัง เผลอๆ อนาคตทางการเมืองดับวูบง่ายๆ ;) คห.21 พี่หวานใจกัปตัน กับ เฮียเอนโด ขอบคุณที่ให้เกียรตินะครับ แต่ผมรู้ตัวดีครับ ว่าผมยังไม่มีความรู้ที่ลึกพอที่จะไปสอนน้องๆ นักศึกษาได้ ที่สำคัญ "วุฒิภาวะ" ผมยังไม่เพียงพอสำหรับการเป็นอาจารย์ที่ดีได้ครับ คงต้องใช้เวลาอีกหน่อย ;) คห.22 คุณ G_Samurai ไม่ได้เขียนประจำหรอกครับ นานๆ ที (เวลาที่หัวหน้าหาใครเขียนไม่ได้ ^^") คห.26 คุณลิงกินกล้วย ทั้งหมดทั้งปวงเป็นแค่ไอเดียที่โยนหินถามทางมาเฉยๆ ครับ รายละเอียดยังไม่มี บางอัน ผมก้อไม่กล้าตอบว่า มันดีหรือมันไม่ดีอย่างไร อาศัยแต่คิดเร็วๆ แล้วแสดงความเห็นไปอย่างนั้น เรื่องจ่ายส่วนต่างดอกเบี้ย ผมมองว่า EFSF คงไม่จ่ายดอกเบี้ยให้กรีซฟรีๆ หรอกครับ (เพราะขนาดเงินช่วยเหลือที่ให้กับกรีซ โปรตุเกส และไอร์แลนด์ทุกวันนี้ ก้อไม่ได้ให้ฟรีๆ นะครับ คิดดอก แพงด้วย แต่ถูกกว่าตลาด) ดังนั้น ถ้า EFSF จ่ายให้ (ก่อน) คงหมายความว่า วันหนึ่งกรีซก้อต้องใช้คืน นั่นก้อไม่ต่างอะไรกับกรีซต้องจ่ายดอกเบี้ยในราคาตลาดวันนี้ครับ และสำหรับอัตราดอกเบี้ยในอัตราพิเศษผ่านโปรแกรมช่วยเหลือทั้งหลายที่กรีซได้รับอยู่ทุกวันนี้ ยังไม่สามารถช่วยให้กรีซแข็งแรงขึ้นมาเลย แค่มีคนมาช่วยจ่ายดอกเบี้ยให้(ก่อน) ก้อคงไม่ช่วยเท่าไรมั้งครับ ผมคิดแบบนี้ครับ ;) คห. 27 คุณ Nong-KiD วิธีแก้ที่ได้ผลจริงๆ คงต้องบูรณาการตามที่ผมแสดงความคิดเห็นไว้ข้างต้นล่ะครับ ส่วนเรื่องผลกระทบ รบกวนอ่านกระทู้เก่าๆ เกี่ยวกับกรีซที่ผมเคยเขียนไว้ ลองพิมพ์ใน google.co.th คำว่า : m_ple กรีซ pantip ลองอ่านสามกระทู้แรกดูนะครับ มีเรื่องเหล่านี้พอสมควรครับ ;) คห.28 คุณ Sylphs จะได้สอนตัวเองไม่ให้ประมาทกับชีวิต และต้องพัฒนาตัวเองตลอดเวลา ไงครับ ;) อีกอย่างผมไม่ได้เก่งขนาดที่คุณคิดหรอกครับ ผมก้อยังมีอะไรต้องเรียนรู้อีกเยอะ ;) จากคุณ : m_ple เขียนเมื่อ : วันลอยกระทง 54 16:13:56

ความคิดเห็นที่ 31 ขอบคุณมากครับพี่ m_ple จากคุณ : sampunth เขียนเมื่อ : 11 พ.ย. 54 19:05:56

ความคิดเห็นที่ 32 ขอบคุณ ที่เข้ามาให้ความรู้ครับ จากคุณ : นกแก้วเสียงใส เขียนเมื่อ : 11 พ.ย. 54 22:15:40

ความคิดเห็นที่ 33 ขอบคุณสำหรับความรู้ค่ะ จากคุณ : ลิงกินกล้วย เขียนเมื่อ : 13 พ.ย. 54 12:29:37

ความคิดเห็นที่ 34 ขอบคุณมากครับ จากคุณ : ดอยเขียวขจี (MakotoN) เขียนเมื่อ : 14 พ.ย. 54 00:04:19

ความคิดเห็นที่ 36 ขอบคุณมากๆครับ :) จากคุณ : Guiman เขียนเมื่อ : 15 พ.ย. 54 18:52:38