|
Q : ดีๆ งั้นทำ Sequestration ไปเรยยยยย ~~ A : จะว่าไป ในมุมมองส่วนตัวของผมก็มองว่าดีนะครับ เอาเงินไปทำอย่างอื่น ดีกว่าไปผลิตอาวุธหรือสร้างกองทัพมาทำร้ายเพื่อนร่วมโลก แต่ในอีกมุมหนึ่ง ถ้ากองทัพอเมริกามีขีดความสามารถลดลง อันเนื่องมาจากงบลงมาไม่ถึง มันก็เป็นไปได้ที่ผู้ก่อการร้ายจะได้ใจมากขึ้นหรือเปล่า?? อันนี้ ไม่แน่ใจเหมือนกัน แต่ที่แน่ๆ Sequestration หากต้องถูกใช้จริงๆ มันสามารถมองได้เลยว่า รัฐสภา และรัฐบาลชุดนี้ ขาดความสามารถในการบริหารงาน และปัญหาการเมืองยังคงเป็นปัญหาหลัก ไม่ว่าจะประเทศไหนๆ
Q : แล้วโอกาสที่จะใช้ Sequestration จริงๆล่ะ มีไหม? A : มีครับ ล่าสุด วันที่ 19-20 พ.ย. ที่ผ่านมา Super Committee ก็ยังไม่ได้ข้อสรุปใดๆ เพราะยังมีความขัดแย้งในหลายๆจุด ที่ดูจะหนักก็คือ มีการเสนอให้จัดเก็บภาษีเกือบทุกประเภทเพิ่มขึ้นอีก $300billion ซึ่งกระทบกับภาคเอกชนแน่นอน แถมมีการเสนอตัดงบประมาณในส่วนของประกันสังคม และ Medicare ตรงนี้ กระทบกับชนชั้นกลางเต็มๆ ต้องไปดูว่าผลกระทบจะรุนแรงไหม ส่วน Social Security, Medicaid และ สวัสดิการว่างงาน 3 อย่างนี้ Sequestration ไม่เข้าไปยุ่งครับ คนจนรอดไป (แต่ถ้าชนชั้นกลางจนลง อันนี้ก็อีกเรื่อง เหอๆ)
Q : แย่ที่สุด ที่จะเกิด จากการไม่ผ่านแผนรัดเข็มขัดคืออะไร? A : ถ้าต้องเอา Sequestration มาใช้ ผมว่า Credit Rating Agency ก็จ่อจะ Downgrade อเมริกาแน่ๆ อย่าลืมว่ามีอีก 2 ที่ยังไม่ได้ลด Rating US ลง (Fitch และ Moodys) ส่วนโอกาสที่จะเกิด ถึงขั้น ไม่ผ่านแผน ยังไงก็เป็นไปไม่ได้ครับ เพราะ Budget Control Act เป็น กม. บังคบตัดงบประมาณได้ทันทีโดยไม่ต้องผ่านสภาอะไรทั้งสิ้น
เรื่องการเมือง ผมเดาไม่ออกจริงๆครับ ว่าจะออกมาหน้าไหน แต่จากที่เห็นๆมา มันไม่เคยง่ายเลยซักครั้ง ครั้งนี้ก็เช่นกัน สงสัยตลาดหุ้นทั่วโลกคง Sideway เหวี่ยงขึ้นเหวี่ยงลงอีกซักพักล่ะ น่าสงสารอเมริกา ตัวเลขเศรษฐกิจกำลังจะดูดี ก็มีเรื่องมาให้กลัวกันอีกครั้ง
แต่ถ้าใครเชื่อมั่นว่ายังไงก็ผ่านไปได้ ก็ลุ้นถือว่า ภาวนาให้หุ้นไทยทะลุ 1,000 จุด ในเร็ววัน (-/\-) สาธุ
------------------------ โชคดีในการลงทุนครับ
จากคุณ |
:
Mr.Messenger
|
เขียนเมื่อ |
:
21 พ.ย. 54 12:13:59
|
|
|
|
|