ความคิดเห็นที่ 1 ต้องเอาเงินไปไถ่ทอง 55 บาทอีกที ไม่คุ้มหรอก เสียดอกอีกต่างหาก จากคุณ : ป่าโข่ เขียนเมื่อ : 24 พ.ย. 54 19:20:30

ความคิดเห็นที่ 2 แล้วจะได้ทอง 55 บาทมาเป็นของเราเมื่อไหร่ - ก็เมื่อคุณเอาเงินสดไปไถ่ทองทั้ง 55 บาทกลับมาเป็นของคุณ ต้องตอบตัวเองมากกว่าครับ ว่าทำไปแล้วคุณได้อะไรบ้าง เท่าที่ฟังดูแล้ว ไม่เห็นจะได้อะไรเลย จากคุณ : i_ho20 เขียนเมื่อ : 24 พ.ย. 54 19:25:38

ความคิดเห็นที่ 3 ต้องขอโทษก่อนนะครับ ก่อนที่จะให้ความเห็น ความคิดอันนี้เหมือนกับใช้บัตรเครดิตหลายใบ เอาเงินจากใบที่สองโป๊ะใบแรก ใบที่สามโป๊ะใบ ที่สอง ทำแบบนี้ไปเรื่อยๆๆ มันก็เท่ากับว่ากำลัง หลอกตัวเอง สักวันก็ตายสนิท หรือ ติดคุกหัวโต คิดใหม่เถอะ ไม่เห็นด้วย แม้แค่คิดเล่น อาจถึงตาย จากคุณ : ฉลามบุก เขียนเมื่อ : 24 พ.ย. 54 19:36:19

ความคิดเห็นที่ 4 เปิดบัญชีซื้อขาย Gold Future สิ จากคุณ : Heinz เขียนเมื่อ : 24 พ.ย. 54 19:45:08

ความคิดเห็นที่ 5 คิดได้ไงเนี่ย? งงเหมือนกัน แต่ก็น่าสนใจดีนะคะ ก็เลยลองไปคำนวณเล่น ๆ แบบงง ๆ จากตารางลองมานั่งไล่คิดตามกันดูนะคะว่าใช้ได้หรือไม่? สมมุติว่ามีทอง 10 บาทมูลค่า 260,000 บาทหรือเท่ากับบาทละ 26,000  นำทองไปจำนำ ณ เวลานี้ได้เงินประมาณบาทละ 22,000-23,300 บาท ลองคำนวณที่เงินจำนำบาทละ 22,000 บาท ทอง 10 บาทจะจำนำได้เงิน 220,000 บาท จากนั้นนำเงิน 220,000 บาทไปซื้อทองใหม่บาทละ 26,000 บาท เท่ากับจะได้ทองมาอีกประมาณ 7 บาท (7x26,000=182,000 บาท) จากนั้นนำทอง 7 บาทไปจำนำจะได้เงินมา (7x22,000=154,000 บาท จากนั้นนำเงิน 154,000 บาทไปซื้อทองใหม่บาทละ 26,000 บาท เท่ากับจะได้ทองมาอีกประมาณ 6 บาท (6x26,000=156,000 บาท เพิ่มเงิน 2,000 ให้ลงตัว) แล้วทำต่อเรื่อย ๆ ตามตาราง จำนวนทองที่จะซื้อเพิ่มปัดเศษขึ้นลงหรือเพิ่มเงินเล็กน้อยให้ลงตัว คำนวณได้สูงสุด 40 บาททองคำจากต้นทุน 10 บาททองคำ หากต้องการได้ทอง 55 บาทต้องเพิ่มทุนซื้ออีก (ลองคำนวณดูเองนะคะ) สมมุติว่า จขกท ซื้อทองและจำนำทองตามรายการในตารางได้ภายใน 1 สัปดาห์ คำนวณคร่าว ๆ ว่านำทองไปจำนำรวม 1 เดือนจะเสียดอกเบี้ยประมาณ 10,725 บาท ในวันที่จะไปไถ่ถอนทอง 40 บาทต้องนำเงินต้น+ดอก=868,725 บาทเพื่อไถ่ถอน ทอง 40 บาทต้นทุนรวม 1,040,000 บาท ในกรณีที่ใน 1 เดือนทองขึ้นราคาไปถึงบาทละ 30,000 บาท ทอง 40 บาทก็จะมีมูลค่า 1,200,000 บาท แบบนี้ก็น่าจะได้กำไรนะเพียงเสียดอกเบี้ย 10,725 บาท/เดือน ในทางกลับกันหากภายใน 1 เดือนทองราคาตกก็จะขาดทุน แต่ถ้าเรามองว่าทองราคาจะพุ่งทำนิวไฮตอนตรุษจีน เราก็อาจจะยังไม่ต้องรีบหาเงินสดจำนวน 8 แสนกว่าไปไถ่ถอน แต่ปล่อยทิ้งไว้ที่โรงรับจำนำอีกสัก 2 เดือนและเสียดอกเบี้ยเพิ่มอีก 2 หมื่นกว่า หลังตรุษจีนหากทองพุ่งทำนิวไฮไป 3-4 หมื่นจริง ๆ ก็รวยแระ อิอิ คิดเล่น ๆ แตุ่้คนที่เก่งคำนวณและใช้สูตร excel เก่ง ๆ ลองไปคำนวณจริง ๆ จัง ๆ อาจจะพบคำตอบ ที่ช่วยให้ตัดสินใจว่าคุ้มค่ากับการทำจริง ๆ หรือไม่อีกทีหนึ่งดีกว่านะคะ เพราะข้างต้นคิดคำนวณคร่าว ๆ และเข้าใจว่าตัวเลขอาจจะเพี้ยน ท่านใดมีวิธีคิดที่ถูกต้องช่วยนำมาแชร์ด้วยนะคะ เผื่อว่าจะได้นำไปใช้บ้างไรบ้าง อิอิ จากคุณ : ยากแท้หยั่งถึง เขียนเมื่อ : 24 พ.ย. 54 20:31:33

ความคิดเห็นที่ 6 จะได้กำไร ในส่วนต่างของราคาทองที่ซื้อไงครับ ถ้าอีกสัก 5 เดือน ราคาทองเพิ่มขึ้นอีกบาทล่ะ 5000 คุณก็เอาเงินไปไถ่บาทแรกมาขาย แล้วเอาไปไถ่อีก 2 บาท มาขายต่อไปเรื่อยๆ สรุปคุณก็จะได้กำไร เท่ากับ  55 x 5000 - ด้วยดอกเบี้ยจำนำ มากกว่า ที่ซื้อตอนแรก แค่ 10 x 5000 แต่ เด๋วนี้จำนำทองได้น้อยกว่าราคาตลาดมากนะครับ อาจจะไม่ได้ถึง  55  บาท ปล คิดเฉพาะราคาทองขึ้นนะ  ถ้าลงคิดเอาเอง  ^ ^ แก้ไขเมื่อ 24 พ.ย. 54 20:56:19 จากคุณ : peboybad เขียนเมื่อ : 24 พ.ย. 54 20:54:20

ความคิดเห็นที่ 7 เงินควรจะไปออกดอกออกผล ดันเอามาเสียทั้งดอกเบี้ยจากการจำนำและการถูกกดลดมูลค่าที่แท้จริงของมันจากราคาจำนำ ภาพลวงตาคือการได้ครอบครอง ใบรับจำนำมจากกร้านทอง จากคุณ : Benny T เขียนเมื่อ : 24 พ.ย. 54 21:09:26

ความคิดเห็นที่ 8 ระวังเจอโรงจำนำตัดทองไปอีกโดยไม่รู้ตัวนะ เสี่ยงๆๆๆ ไปเล่น Future ดีกว่า อิอิ จากคุณ : emptysoul เขียนเมื่อ : 24 พ.ย. 54 21:52:52

ความคิดเห็นที่ 9 ...ถ้าคิดในกระดาษตามโจทย์ที่ให้มา ...ก็มีความเห็นตรงกับ ความคิดเห็นที่ 5 ของคุณ "ยากแท้หยั่งถึง" ครับ ...แต่ถ้าคิดตามความเป็นจริง ...การซื้อทอง "จริง" เริ่มต้นที่ สิบบาท ...จากนั้นนำไป "จำนำ" ...แล้วเอาเงินที่ได้มาซื้อทองอีก ...ถ้าเป็นการซื้อทองรูปพรรณ ก็ซื้อได้หลายรอบหน่อย ...แต่ถ้าเป็นการซื้อทองแท่ง ก็ทำได้แค่ไม่กี่ครั้ง ...เพราะว่าการซื้อทองแท่งนั้น ขั้นต่ำ ขายที่ 5 บาท จะเห็นได้ว่าปัจจัยเสี่ยงค่อนข้างสูง - ราคาทอง - ร้านจำนำ ไว้ใจได้แค่ไหน - ค่าส่วนต่างในการซื้อขายทองคำ - ถ้าเป็นทองรูปพรรณมีค่ากำเหน็จอีก ...ถ้าคิดว่าทองจะขึ้น ...ก็ต้องรวมต้นทุนทั้งหลายไปด้วย ... ..."ถึงจะไม่ขาดทุน"... ... จากคุณ : รักและขอบคุณ เขียนเมื่อ : 24 พ.ย. 54 22:31:11

ความคิดเห็นที่ 10 ทำได้ครับ มันก็คล้ายๆการ leverage แหละครับ เหมาะกับการเอาทองไปเก็งกำไร ถ้าทองขึ้น คุณก็ได้กำไรมากขึ้น โดยมีต้นทุนคือค่าดอกเบี้ย คล้ายๆการเล่น gf นั่นแหละครับ จริงๆผมว่า ถ้าจะทำอย่างนี้ ซื้อ gf ไปเลยดีกว่าครับ ยุ่งยากน้อยกว่า ประหยัดกว่าเห็นๆครับ จากคุณ : LP. E. no SAINT เขียนเมื่อ : 25 พ.ย. 54 00:14:21

ความคิดเห็นที่ 11 อ่านตอนแรก ก็งงๆ ว่าคิดได้ไง อ่าน คห5 เป็นต้นไป เออแฮะ ไม่เคยคิดว่าก่อนเลย งง คิดได้ไง จากคุณ : mana9 เขียนเมื่อ : 25 พ.ย. 54 10:08:29

ความคิดเห็นที่ 12 เพื่อให้ง่าย ต่อการทำความเข้าใจ ขอสมมติ กรณีข้างต้นใหม่ เพื่อการเทียบเคียง ให้เป็น ดังนี้ v v โลหะ G มีราคาตลาดขณะนี้ คือ 1 กรัม = 1,000 บาท แนวคิดนี้ คือ เอาโลหะ G ไปจำนำ ซึ่งสมมติอีกว่า ได้ราคา 900 บาท โดยกำหนดให้ เสียดอกเบี้ย เดือนละ 1.X % หรือ 10 บาท / เดือน โดยมีเงื่อนไขว่า หาก ขายคืนกลับ ร้านที่ซื้อ-ขาย จะถูกหักส่วนต่าง 20 บาท ดังนั้น หากผ่านไป 1 เดือน ราคาโลหะ G อยุ่ที่เดิม คือ 1,000 บาท ผู้ดำเนินการดังกล่าว จะขาดทุน -10 - 20 = - 30 บาท v v โดย 20 บาท ที่เป็นส่วนต่างของ การขายคืน จะถือเป็น Sunk Cost หรือ ต้นทุนจม ด้วย คือ ไม่ว่าจะ กำไร หรือ ขาดทุน จากส่วนต่างของราคา จะมี ต้นทุน ตรงนี้เสมอ นอกเหนือจาก ดอกเบี้ย ซึ่งแปรผันตามเวลา --- กรณี ข้างต้น ถ้าผ่านไปอีก 1 เดือน ราคาโลหะ G ขึ้นไปเป็น 1,100 บาท หรือ ราคาสูงขึ้น 100 บาท เท่ากับ จะมีกำไร สุทธิ = 100 - 10 x 2 เดือน - 20 = 60 บาท แต่ถ้า ราคาโลหะ G ตกลงเหลือ 850 บาท หรือ ราคาตกลงไป 150 บาท เท่ากับ จะขาดทุนสุทธิ = -150 - 10 x 2 - 20 = - 190 บาท หรือ ได้เงินกลับไป 810 บาท ^ ^ คำถาม : ตัวเลขนี้ ถูกต้องหรือไม่ v v คำตอบ คือ v v >>  ไม่ถูกต้อง  << ^ ^ เพราะ เหตุใด v v เพราะ กรณีที่ขาดทุน ในลักษณะข้างต้นนี้ ผู้ถือตั๋วจำนำ จะ...ไม่...ไปไถ่ถอน นั่นเท่ากับว่า เงินที่ได้จากการจำนำ =  900 บาท นั้น ...  จะยังคงอยู่ ... และ หากจะมีการขาดทุนเพิ่ม ก็คงมีเพียง ค่าดอกเบี้ย ในเดือนแรก... เท่านั้น (กรณี ส่งดอกทุกเดือน ... อีก 10 บาท..) ดังนั้น กรณีนี้ จะขาดทุนสุทธิ =  -100 - 10 =  -110 บาท ไม่ใช่  -190 บาท  แต่อย่างใด ^ ^ แล้วตัวเลขการขาดทุน ที่ต่างกัน 80 บาท หายไป....ได้อย่างไร ตรงนี้ เกิดจากการที่ คงไม่มีใคร นำเงิน 900 + 10 บาท (ดอกเบี้ย) ไปไถ่ถอน โลหะ G ที่มีราคาตลาด เหลือ 850 บาท ซึ่งหากไปขายคืนร้าน จะถูกหักอีก 20 บาท หรือ เหลือเพียง 830 บาท โดยหากใคร ไปไถ่ถอนจาก  โรงรับจำนำ แล้วนำกลับไป  ขายคืนร้าน ... จริงๆ ก็จะ....ขาดทุนเพิ่มอีก = 830 - 910 =  - 80 บาท นั่นเอง --- ส่วนการนำเงินที่ได้จากการจำนำ ครั้งแรก ของโลหะ G ที่มีมูลค่า 1,000 บาท โดยได้เป็น เงินสด กลับมา 900 บาท แล้วนำไปซื้อโลหะ G อีกที จากนั้น ก็ไปทำการ...จำนำซ้ำ ...(วนลูป) ... v v มองในรูปง่ายๆ ก็คือการ   ...  Reinvestment นั่นเอง และ เป็นการเพิ่ม ...  Leverage หรือ อัตราทดของการลงทุน ไปในตัวอีกด้วย --- กรณีนี้ ถ้าหากราคาโลหะ G ตกลงมากๆ จะเห็นได้ว่า หากนำไปเปรียบเทียบ การซื้อ Gold Fututres  โดยการ Long ซึ่งเวลาที่ ราคาตกลงมา ย่อมจะ...ขาดทุนเต็มๆ ในขณะที่ กรณีข้างต้นนี้   จะขาดทุนแค่ ส่วนต่างของราคาจำนำ และ ดอกเบี้ย บางส่วน หรือ พูดง่ายๆ ก็คือ กรณีนี้ ไม่ใช่...  Gold Futures แต่คล้ายๆเป็น... Gold Options มากกว่า.. (ไม่มีในตลาด TFEX ) โดยกรณีนี้ ส่วนต่างของราคา จำนำ กับ ราคาตลาด และ ดอกเบี้ยในแต่ละเดือน จะเปรียบเสมือน .... เป็นค่า Premium นั่นเอง --- หมายเหตุ : ทั้งหมด คือ ความเห็นส่วนตัว                โปรดอ่านด้วยวิจารญาน                 ขอบคุณครับ แก้ไขเมื่อ 25 พ.ย. 54 15:17:21 แก้ไขเมื่อ 25 พ.ย. 54 11:29:06 จากคุณ : The Rounder เขียนเมื่อ : 25 พ.ย. 54 11:15:04

ความคิดเห็นที่ 13 ^ ^ หลายๆคน อ่านความเห็นด้านบนแล้ว อาจจะ เริ่มสนใจ เพราะ การกระทำข้างต้น มีสภาพเหมือน ทำการ ...Long Put Options โดยกระทำกับ โลหะ G (ในที่นี้ เสมือนเป็นตัวแทน ทองคำ) นั่นหมายถึง หากขาดทุน ก็จะมีขีดจำกัด คือ ค่า Premium ซึ่งในทีนี้ คือ ส่วนต่างราคาตลาด กับ ราคารับจำนำ และ ดอกเบี้ยในแต่ละเดือน และ หากราคาสูงขึ้นไปเรื่อยๆ กำไร ก็จะไม่มีขีดจำกัด โดยหากราคาโลหะ G สูงขึ้น มากกว่า อัตราดอกเบี้ย ในแต่ละเดือน ...ไปเรื่อยๆ รวมถึง มีการเพิ่มขนาดการลงทุน ด้วย Leverage ย่อมเสมือนทำให้มีเงินทุนเพิ่มอีกหลายเท่า นั่นหมายถึง  กำไร ที่จะได้รับ ย่อมทวีคูณขึ้นด้วย เช่นเดียวกัน v v แต่...ช้าก่อน --- เพราะ หากมองในแง่... Reinvesment ด้วย....เงินทั้งหมด เพื่อการLeverage หรือ เพิ่มอัตราทด ของการลงทุน นั่นหมายถึง หาก ราคาโลหะ G ต่ำกว่า 930 เท่ากับว่า เราจะสูญเสียโลหะ G หรือ ทองคำ หรือ เงินทุน... ทั้งหมด.. นั้นไป หรือ พอร์ทละลาย v v เหตุผล ก็เพราะว่า หากราคาตลาด ของโลหะ G อยู่ที่ 930 บาท ถ้าราคาไถ่ถอน อยู่ที่ 900 + 10 บาท (ดอกเบี้ยเดือนสุดท้าย) = 910 บาท แล้วได้ โลหะ G กลับมา 1 กรัม พอนำกลับไปขายคืน ก็จะถูกหักส่วนต่างอีก 20 บาท ซึ่งก็จะได้เงินมา = 910 บาท ซึ่งก็เท่ากับว่า ราคา 930 บาท เป็นจุดเท่าทุน หรือเป็น Breakeven point และ หาก ราคาโลหะ G ต่ำว่า 930 บาท การไถ่ถอน เพื่อนำมาขาย ก็จะไม่เกิดขึ้น เพราะ จะทำหให้...ขาดทุนเพิ่ม ดังนั้น ในสภาพการณ์เช่นนี้ เท่ากับว่า เราจะสูญเสียเงินลงทุน...ทั้งหมด อันเนื่องมาจาก การใช้อัตราทดแบบ...วนลูป แล้วผลลัพธ์ ที่เกิด ไม่เป็นไปตาม ที่คาดหมายไว้ นั่นเอง v v ดังนั้น ก่อนใช้ Leverage หรือ อัตราทด สำหรับการลงทุน ขอให้ศึกษาจนมั่นใจว่า ท่านเข้าใจสิ่งนี้ ดีแล้ว....จริงๆ เพราะ ...เหรียญมี 2 ด้าน  ดาบมี 2 คม... v v กรณี ตัวอย่าง >>>เรื่องจริง เป็นอุทาหรณ์ สำหรับมือใหม่<<< http://topicstock.pantip.com/sinthorn/topicstock/2011/08/I10979087/I10979087.html แก้ไขเมื่อ 25 พ.ย. 54 12:32:06 จากคุณ : The Rounder เขียนเมื่อ : 25 พ.ย. 54 12:21:11

ความคิดเห็นที่ 14 "Eureka!" สุดยอดเลยค่ะคุณ The Rounder อธิบายได้ละเอียดชัดเจนเห็นภาพชัดแจ๋วเลย แบบนี้ถ้าคนที่สนใจจะนำวิธีนี้ไปใช้ หากศึกษาจนมั่นใจว่าแนวโน้มราคาทองจะขึ้นจริง ๆ แล้ว "ตีแตก" ก็น่าจะทำกำไรได้เป็นกอบเป็นกำนะคะ แต่ในทางกลับกัน หากผิดทางและราคาทองไม่ได้ขึ้นตามคาด แล้วตกต่อเนื่อง แบบนี้ก็จะทำให้หมดตัวได้ง่าย ๆ เหมือนตัวอย่างเรื่องราวใน link ที่ให้มาเลยนะคะเนี่ย ขอบคุณมากสำหรับวิธีคิดดี ๆ และขอให้ท่านที่จะนำไปใช้ศึกษาให้ละเอียดก่อนนะคะ จากคุณ : ยากแท้หยั่งถึง เขียนเมื่อ : 25 พ.ย. 54 14:41:42