ความคิดเห็นที่ 1 ความคิดเห็นที่ 103    ตอบพี่ฮะ                     รถน้องชายขับมาให้วันอาทิตย์ค่ะพี่  ......                               รถเล็กเริ่มเข้าออกได้แล้วเมื่อเย็นพฤหัสค่ะ วันอาทิตย์ไปพิสูจน์กันกับน้องกุ้งตอนเช้าตรู ...... ขนของเข้า+ทองแท่ง  .......... ค่ะ แต่ยังอยู่ไม่ได้ต้องฆ่าเชื้ออีกสัก  2 ครั้ง รวมฆ่าเชื้อ  4  ครั้งค่ะทำไป 2 ครั้งแล้ว ตอนนี้ชั้นล่างไม่เหลืออะไรสัก 1 ชิ้นค่ะ .................. จ้างไป  7000.  ยังไม่จบเลยค่ะ จบรายงาน ...............         ........... บายก่อนนะพี่ มีอะไรค่อยไปลัลล้ากันคงอีกนานค่ะ                                          จากคุณ : member28    เขียนเมื่อ : 9 ธ.ค. 54 20:16:14  ถูกใจ : pluem, yai-cho  ความคิดเห็นที่ 104    ขอโทษคร๊าบบบบบบบบบบบบบบบบบ แบบว่าพอดีเห็นแล้วน่าสนใจ ว่าแล้วจะหายใจเข้าออกยังไง เหมือนเวลาโดนหุ้นกัด แถมเงินหมดพอร์ต 2เด้งเลย เหมือนเข้าไปอยู่แบบในรูป 2 ตัว อุดรูจมูกหมดไงครับ 100เมื่อวานไม่แจกกิฟ   แจกรูปนี้แทนนะ จากคุณ : ฮะ ว่าไงนะ   เขียนเมื่อ : วันรัฐธรรมนูญ 54 07:14:13  จากคุณ : yai-cho เขียนเมื่อ : วันรัฐธรรมนูญ 54 08:08:41

ความคิดเห็นที่ 2 ความคิดเห็นที่ 105    วอร์เรน บัฟเฟตต์ มหาเศรษฐีพันล้านผู้ใจบุญของโลก เผยว่า ได้วางตัวนายโฮเวิร์ด บัฟเฟตต์ บุตรชายวัย 56 ปี ซึ่งปัจจุบัน เป็นเกษตรกรทำไร่ข้าวโพด เข้ามารับช่วงบริหารอาณาจักรธุกิจเบิร์กไชร์ แฮธะเวย์ ยักษ์ใหญ่ในอุตสาหกรรมการลงทุนของเขา ที่มีมูลค่า 2.45 แสนล้านดอลลาร์ในฐานะประธานบริษัท  ทั้งนี้ นายบัฟเฟตต์ ได้ให้สัมภาษณ์สถานีโทรทัศน์ซีบีเอสว่า นายโฮเวิร์ดมีความรู้ความเข้าใจ สามารถปกป้องวัฒนธรรมองค์กรของเบิร์กไชร์ได้อย่างดี โดยเบิร์กไชร์ ถือเป็นบริษัทระดับตำนานที่วอร์เรน บัฟเฟตต์ก่อตั้งขึ้นมา  และดำรงตำแหน่งประธานและหัวหน้าคณะเจ้าหน้าที่บริหาร(ซีอีโอ) "โฮเวิร์ดอาจจะมานั่งเก้าอี้ประธานที่ไม่ได้ทำหน้าที่บริหาร แต่เป็นประธานบอร์ดบริหารที่ไม่ใช่ตัวบริษัท หลังจากผมเกษียณแล้วหรือเสียชีวิตแล้ว" มหาเศรษฐีใจบุญ กล่าว  ถ้อยแถลงนี้ของวอร์เรน บัฟเฟตต์ มีขึ้นในช่วงที่มีการพูดถึงอนาคตของเบิร์กไชร์ แฮธะเวย์กันมากในช่วงไม่กี่ปีมานี้  ซึ่งบริษัทเพื่อการลงทุนแห่งนี้ ทำให้บัฟเฟตต์ ก้าวขึ้นมาเป็นหนึ่งในนักธุรกิจผู้มั่งคั่งที่สุดคนหนึ่งของโลก ด้วยมูลค่าทรัพย์สินประมาณ 5 หมื่นล้านดอลลาร์ จากการจัดอันดับของนิตยสารฟอร์บส์  นอกจากนี้ บัฟเฟตต์ ซึ่งแม้ว่าขณะนี้มีสุขภาพแข็งแรง แม้จะอยู่ในวัย 81 ปี ก็เคยพูดหลายครั้งว่า เตรียมผ่องถ่ายอำนาจในการบริหารบริษัทให้กับผู้ที่จะมารับช่วงต่อไป และบอกด้วยว่า มีหลายคนที่เขาคิดไว้ในใจที่จะให้มาดำรงตำแหน่งสืบต่อจากเขา แต่ไม่ได้เปิดเผยว่าเขาคนนั้นเป็นใคร จากคุณ : ต้นไม้ที่บ้านน่าดัดไว้บ้าง (ฮะ ว่าไงนะ)   เขียนเมื่อ : วันรัฐธรรมนูญ 54 07:16:42   ความคิดเห็นที่ 106    ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กเปิดตลาดพุ่งขึ้นในวันนี้ หลังจากที่ประชุมสุดยอดผู้นำสหภาพยุโรป (อียู) เห็นพ้องกันว่าให้มีการกำหนด "บทบัญญัติทางการคลัง"ฉบับใหม่ ซึ่งมีเป้าหมายที่จะแก้ไขวิกฤตหนี้ยุโรป นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนหลังจากรอยเตอร์/มหาวิทยาลัยมิชิแกนเปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคช่วงต้นเดือนธ.ค.ของสหรัฐ พุ่งขึ้นแตะระดบสูงสุดในรอบ 6 เดือน ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์เปิดตลาดบวก 77.65 จุด หรือ 0.65% แตะที่ 12,075.35 จุด ขณะที่ดัชนี S&P 500 เพิ่มขึ้น 9.84% หรือ 0.8% แตะที่ 1,244.52 จุด และดัชนี Nasdaq เพิ่มขึ้น 15.92 จุด หรือ 0.61% แตะที่ 2,612.10 จุด สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ตลาดหุ้นนิวยอร์กเปิดตลาดในแดนบวก ขานรับข่าวที่ว่า ที่ประชุมอียู เห็นพ้องกันว่าให้มีการกำหนด "บทบัญญัติทางการคลัง"  (fiscal compact) ฉบับใหม่ ที่ตั้งอยู่บนสนธิสัญญาระหว่างรัฐบาล (inter-governmental treaties) และการประสานนโยบายเศรษฐกิจให้แข็งแกร่งมากขึ้น แทนการเปลี่ยนแปลงสนธิสัญญาของอียู โดยมีเป้าหมายหลักคือการแก้ไขวิกฤตหนี้ยุโรป อย่างไรก็ตาม ที่ประชุมผู้นำอียูยังไม่สามารถระดมเสียงสนับสนุนได้มากพอที่จะทำให้บทบัญญัติดังกล่าวได้รับการรับรองจากสนธิสัญญาใหม่ของ 27 ชาติสมาชิกอียู หลังจากอังกฤษยังปฏิเสธที่จะให้การสนับสนุนบทบัญญัติดังกล่าว เพื่อคุ้มครองภาคการเงินภายในประเทศของตนเอง นอกจากนี้ ตลาดหุ้นนิวยอร์กยังได้แรงหนุนหลังจากรอยเตอร์/มหาวิทยาลัยมิชิแกนเปิดเผยว่าดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคช่วงต้นเดือนธ.ค.ของสหรัฐ พุ่งขึ้นสู่ระดับ 67.7 จุด เมื่อเทียบกับช่วงท้ายเดือนพ.ย.ที่ระดับ 64.1 จุด ซึ่งมากกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์ไว้ที่ 65.5 จุด ทั้งนี้ ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคช่วงต้นเดือนธ.ค.อยู่ในระดับสูงสดในรอบ 6 เดือน และเป็นการปรับตัวขึ้นติดต่อกันเป็นเดือนที่ 4 หลังจากมีสัญญาณบ่งชี้ถึงการฟื้นตัวของตลาดแรงงานและแนวโน้มเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศ จากคุณ : ฮะ ว่าไงนะ   เขียนเมื่อ : วันรัฐธรรมนูญ 54 07:26:57  จากคุณ : yai-cho เขียนเมื่อ : วันรัฐธรรมนูญ 54 08:09:08

ความคิดเห็นที่ 3 ความคิดเห็นที่ 107    นายธวัธชัย อัศวพรชัย ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก จำกัด กล่าวถึงแนวโน้มการลงทุนตลาดหุ้นไทยสัปดาห์หน้า (13-16 ธ.ค.) ว่า ตลาดมีโอกาสขึ้นต่อ หากผลการประชุมสุดยอดผู้นำยุโรป (EU) มีมาตรการจัดการปัญหาหนี้ในกลุ่มประเทศยูโรโซนออกมา แต่ในทางกลับกันถ้าผลการประชุม EU หาเเนวทางการจัดการปัญหาหนี้ยุโรปไม่ได้ ตลาดก็จะปรับตัวลดลงเช่นกัน ปัจจัยที่ต้องติดตามในสัปดาห์หน้า คือ การประชุมคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน ของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในวันที่ 13 ธ.ค.ว่าจะมีนโยบายที่จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐหรือไม่ กลยุทธ์การลงทุน เเนะนำ นักลงทุนลงทุนระยะสั้นโดยขึ้นขายลงซื้อ ส่วนกรอบการเคลื่อนไหวในสัปดาห์หน้าคาดแนวรับอยู่ที่ 1,015 จุด เเละเเนวต้านที่ 1,061 จุด จากคุณ : ฮะ ว่าไงนะ   เขียนเมื่อ : วันรัฐธรรมนูญ 54 07:47:06   ความคิดเห็นที่ 108    KR DAILY UPDATE : ประเด็นเด่นวันนี้  การแก้ปัญหาหนี้ยุโรปจากเวที EU Summit ยังมีโจทย์ท้าทายรออยู่ข้างหน้า ภายหลังจากที่ความพยายามในการแก้ไขสนธิสัญญาสหภาพยุโรปเพื่อให้มีการรักษาวินัยทางการคลังที่เข้มงวดมากขึ้น ถูกคัดค้านโดยผู้นำอังกฤษ ทั้งนี้ มีรายงานข่าวเปิดเผยว่า ผู้นำสหภาพยุโรป (อียู) เห็นพ้องกันในเรื่อง "บทบัญญัติทางการคลัง" (Fiscal Compact) ฉบับใหม่ เพื่อใช้ในการแก้ไขวิกฤตหนี้ยูโรโซน แต่ยังไม่สามารถระดมเสียงสนับสนุนที่จะทำให้บทบัญญัติดังกล่าวได้รับการรับรองจากสนธิสัญญาใหม่ของประเทศสมาชิกอียูทั้ง 27 ประเทศ โดยรายละเอียดที่สำคัญของบทบัญญัติทางการคลัง คือ จะมีการบัญญัติข้อกำหนดด้านงบประมาณของประเทศสมาชิกยูโรโซน ซึ่งจะต้องมีการบรรจุไว้ในระบบกฎหมายของประเทศสมาชิกยูโรโซนแต่ละประเทศ โดยงบประมาณของประเทศสมาชิกยูโรโซนภายใต้ข้อตกลงฉบับใหม่ควรจะอยู่ในภาวะสมดุลหรือเกินดุล โดยที่ยอดขาดดุลเชิงโครงสร้างรายปีควรอยู่ในระดับไม่เกินร้อยละ 0.5 ของจีดีพี และเมื่อใดก็ตามที่มีการฝ่าฝืนกฎเพดานยอดขาดดุลร้อยละ 3 ของจีดีพี ก็จะมีการใช้มาตรการอัตโนมัติตามมา ซึ่งอาจจะรวมถึงการลงโทษ เว้นแต่ว่าการลงโทษจะถูกคัดค้านจากเสียงส่วนใหญ่ 3 ใน 4 ของประเทศสมาชิกยูโรโซน ศูนย์วิจัยกสิกรไทย เห็นว่า แนวคิดด้านบทบัญญัติด้านการคลังดังกล่าว ถือเป็นสัญญาณเชิงบวกของการแก้ไขวิกฤตหนี้ยูโรโซนที่ยืดเยื้อ อย่างไรก็ดี คงต้องติดตามว่า แนวคิดดังกล่าว จะสามารถดำเนินการได้จริงในทางปฏิบัติมากน้อยเพียงใด เนื่องจากอาจยังต้องมีกระบวนการทางสภาของแต่ละประเทศเพื่ออนุมัติแนวคิดดังกล่าว ต่อเนื่องในช่วงหลายเดือนข้างหน้า ซึ่งหากมีความคืบหน้าที่ดี ก็น่าจะช่วยฟื้นฟูความเชื่อมั่นต่อแนวโน้มสถานการณ์ด้านการคลังของประเทศสมาชิกได้ในอนาคต ขณะเดียวกัน ก็น่าจะเปิดทางให้กับธนาคารกลางยุโรป (ECB) สามารถใช้เครื่องมือที่มีอยู่ในเชิงรุกมากขึ้น อาทิ การเพิ่มปริมาณการเข้าซื้อพันธบัตร อย่างไรก็ตาม คงต้องยอมรับว่าสถานการณ์หนี้ยุโรปยังคงเป็นปัจจัยเสี่ยงสำคัญต่อเศรษฐกิจโลกในระยะข้างหน้า แม้ว่าธนาคารกลางยุโรป (ECB) จะดำเนินนโยบายเชิงผ่อนคลายทางการเงินด้วยการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายจากร้อยละ 1.25 เป็นร้อยละ 1.00 และประกาศอัดฉีดสภาพคล่องที่น่าจะมีผลบรรเทาภาวะตึงตัวในตลาดเงินและลดภาระด้านต้นทุนในการระดมทุนลงในการประชุมนโยบายการเงินเมื่อวันที่ 8 ธันวาคมที่ผ่านมาก็ตาม ข้อมูลเศรษฐกิจจีนเดือนพ.ย. 2554 สะท้อนทิศทางการชะลอตัว โดยอัตราเงินเฟ้อชะลอลงเป็นเดือนที่ 4 ติดต่อกันมาที่ระดับต่ำสุดในรอบ 14 เดือนที่ร้อยละ 4.2 (YoY) จากร้อยละ 5.5 ในเดือนต.ค.  ขณะที่ ดัชนีราคาผู้ผลิตเพิ่มขึ้นเพียงร้อยละ 2.7 ในเดือนพ.ย. ซึ่งต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ที่ร้อยละ 3.3 และชะลอลงแรงจากร้อยละ 5.0 ในเดือนต.ค. นอกจากนี้ ผลผลิตอุตสาหกรรมเดือนพ.ย. และการลงทุนในสินทรัพย์ถาวรในช่วง 11 เดือนแรก ก็ขยายตัวในอัตราที่ต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ ที่ร้อยละ 12.4 และร้อยละ 24.5 ตามลำดับ ด้วยเช่นกัน ศูนย์วิจัยกสิกรไทย มองว่า ภาพแรงกดดันเงินเฟ้อที่ลดลงอย่างต่อเนื่อง ตลอดจนแนวโน้มราคาโภคภัณฑ์ในตลาดโลกและภาคการผลิตในจีนที่อาจชะลอตัวลงตามสัญญาณซบเซาของเศรษฐกิจโลก น่าที่จะทำให้ธนาคารกลางจีนจำต้องดำเนินนโยบายการเงินในเชิงผ่อนคลายเพิ่มมากขึ้นในระยะข้างหน้า หลังจากที่ได้ปรับลดสัดส่วนการกันสำรองของธนาคารพาณิชย์ (Reserve Requirement Ratio) เป็นครั้งแรกในรอบ 3 ปีไปแล้วร้อยละ 0.50 อย่างไรก็ดี หากผลกระทบจากการชะลอตัว/ถดถอยของเศรษฐกิจโลกต่อเศรษฐกิจจีนมีความรุนแรงขึ้นในช่วงหลายเดือนข้างหน้า ก็อาจมีความเป็นไปได้ว่า ธนาคารกลางจีน อาจจำเป็นต้องเลือกใช้เครื่องมือการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย เพื่อหวังผลในการกระตุ้นกิจกรรมทางเศรษฐกิจในทุกๆ ภาคส่วนไปพร้อมกัน    ผู้ประกอบการในนิคมอุตสาหกรรมที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤติอุทกภัยมีแนวโน้มชะลอการลงทุน ซึ่งจากการสำรวจโดยสภาอุตสาหกรรมจังหวัดอยุธยาในเดือนธันวาคม พบว่าผู้ประกอบการที่ดำเนินกิจการในนิคมฯ ที่ตั้งอยู่ในจังหวัด ประมาณร้อยละ 30 มีแนวโน้มชะลอการลงทุนในพื้นที่ ทั้งนี้ ผู้ประกอบการต่างประเทศในกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์บางรายประกาศปิดโรงงานเป็นการถาวร เนื่องจากไม่สามารถแบกรับภาระต้นทุนและค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซมและกู้เครื่องจักรที่เสียหาย  ขณะที่โรงงานบางแห่งซึ่งถึงแม้ว่าจะไม่ได้อยู่ในพื้นที่ที่ถูกน้ำท่วมแต่มีลูกค้าอยู่ในพื้นที่น้ำท่วม ได้ปิดโรงงานบางโรงลง ส่งผลต่อการเลิกจ้างงานพนักงานไทยในโรงงานเหล่านั้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้  ศูนย์วิจัยกสิกรไทย เห็นว่า แม้ว่านักลงทุนส่วนใหญ่ยังคงยืนยันที่จะลงทุนในไทยต่อไป และยังคงมีนักลงทุนที่ให้ความสนใจลงทุนในไทยอยู่ เห็นได้จากยอดการขอรับส่งเสริมการลงทุนเดือนพฤศจิกายน 2554 ซึ่งนับเป็นระดับที่สูงเป็นประวัติการณ์ (จำนวน 177 โครงการ หรือมีมูลค่าเงินลงทุน 135,600 ล้านบาท) แม้เป็นช่วงที่เหตุอุทกภัยทวีความรุนแรง ส่งผลให้ยอดขอรับส่งเสริมฯ ในช่วง 11 เดือนของปี 2554 พุ่งสูงขึ้นไปถึง 615,400 ล้านบาท สูงกว่าเป้าหมายทั้งปีที่ทางการตั้งไว้ที่ 500,000 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม ต้องยอมรับว่าตัวเลขดังกล่าวเป็นตัวเลขการขอรับการส่งเสริมการลงทุน ซึ่งหมายความว่านักลงทุนอาจเปลี่ยนแปลงการตัดสินใจได้ในภายหลัง นอกจากนั้น จากการที่มีนักลงทุนบางกลุ่มเริ่มชะลอและบางส่วนได้ตัดสินใจย้ายฐานการผลิตออกจากไทย สะท้อนว่านักลงทุนคาดหวังความชัดเจนด้านนโยบายป้องกันภัยพิบัติและการเยียวยาที่เป็นรูปธรรมมากกว่านี้  ซึ่งศูนย์วิจัยกสิกรไทยมองว่า ภาครัฐควรเร่งออกมาตรการที่มีผลในทางปฏิบัติอย่างครอบคลุมทั้งในส่วนของการปกป้องนิคมอุตสาหกรรมที่ได้รับผลกระทบ และในส่วนของแผนการบริหารจัดการน้ำที่ดี เพื่อเรียกความเชื่อมั่นคืนมาให้กับนักลงทุนเก่า และสร้างความมั่นใจให้กับนักลงทุนใหม่ที่จะเข้ามาลงทุนในประเทศ  ในวันที่ 9 ธ.ค. 2554 ธนาคารเกียรตินาคินได้ลงนามบันทึกข้อตกลงว่าด้วยการร่วมกิจการกับ บมจ.ทุนภัทร ในการดำเนินธุรกิจทางด้านการเงิน ซึ่งประกอบด้วยธุรกิจธนาคารพาณิชย์ ธุรกิจหลักทรัพย์ และธุรกิจสนับสนุนอื่นๆ โดยมีแผนการทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ (Tender Offer) ในช่วงไตรมาสที่ 2/2555 และคาดว่าจะเสร็จสิ้นในไตรมาสที่ 3/2555 ขณะที่ ก่อนหน้านี้ธนาคารเมย์แบงก์ (MayBank) จากมาเลเซีย ได้เข้าซื้อกิจการจากบริษัทแม่ของ บล.กิมเอ็งในช่วงเดือน ม.ค. 2554 ศูนย์วิจัยกสิกรไทย มองว่า การควบรวมกิจการ (M&A) ในภาคการเงิน คงจะยังมีแนวโน้มเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องในจังหวะของการเปลี่ยนผ่านไปสู่การเปิดเสรีบริการภาคการเงินในสาขาต่างๆ มากขึ้น โดยในปี 2555 ภายใต้แผนพัฒนาระบบสถาบันการเงินระยะที่ 2 ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) มีแผนจะอนุญาตให้มีผู้เล่นรายใหม่ในธุรกิจได้แก่ Investment Bank และ Trust Bank ซึ่ง สอดคล้องกับกฎกระทรวงว่าด้วยการประกอบธุรกิจหลักทรัพย์ปี 2551 ที่จะมีการเปิดเสรีการขอใบอนุญาตประกอบธุรกิจหลักทรัพย์ (จากปัจจุบันที่ขยายให้ต่างชาติที่มีกิจการอยู่แล้วสามารถถือหุ้นได้ถึงร้อยละ 100) อาจส่งผลให้มีผู้เล่นรายใหม่สนใจเข้าสู่ตลาดมากขึ้น ทั้งนี้ การเปิดเสรีดังกล่าว ไม่เพียงแต่จะมีผลต่อบริษัทหลักทรัพย์ แต่จะมีผลต่อธนาคารพาณิชย์ที่ปัจจุบันดำเนินธุรกิจเต็มรูปแบบ (Universal Banking) ด้วย ทำให้ธนาคารพาณิชย์ต่างๆ จำเป็นต้องปรับโครงสร้างธุรกิจและกลยุทธ์เพื่อรักษาพื้นที่การแข่งขันไว้ ขณะที่ ประเด็นที่ต้องติดตาม คงจะอยู่ที่ท่าทีของทางการไทยที่แสดงเจตนารมย์ให้มีการเปิดเสรีทางการเงินอาเซียน+3 (รวมญี่ปุ่น จีน เกาหลีใต้) เร็วขึ้น ซึ่งคงต้องยอมรับว่าเป็นความท้าทายสำหรับผู้เล่นไทยที่ในปัจจุบัน ยังอาจด้อยกว่าในบางมิติของการแข่งขัน อาทิ ด้านตลาดทุน หรือการให้บริการลูกค้าไทยในต่างแดน โดยเฉพาะเมื่อเทียบกับสถาบันการเงินของสิงคโปร์และมาเลเซีย จากคุณ : ฮะ ว่าไงนะ   เขียนเมื่อ : วันรัฐธรรมนูญ 54 07:48:18  จากคุณ : yai-cho เขียนเมื่อ : วันรัฐธรรมนูญ 54 08:09:56

ความคิดเห็นที่ 4 ความคิดเห็นที่ 109    นายบุญทักษ์ หวังเจริญ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารทหารไทย จำกัด (มหาชน) (TMB) กล่าวว่า ธนาคาร ตระหนักถึงความเดือดร้อนของลูกค้า อันเป็นผลจากอุทกภัยครั้งนี้ ที่ได้สร้างความเสียหายทางด้านทรัพย์สินแก่ลูกค้าและประชาชนทั่วไปเป็นอย่างมาก และแม้ว่าสถานการณ์น้ำได้คลี่คลายและลดลง ลูกค้ายังคงต้องแบกรับภาระในการซ่อมแซมและฟื้นฟูบ้านที่ได้ความเสียหายจากน้ำท่วมครั้งใหญ่ ดังนั้น ธนาคารจึงได้เพิ่มมาตรการให้ความช่วยเหลือลูกค้าเพิ่มเติม ด้วยการปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินให้สินเชื่อทุกประเภทลง เพื่อช่วยแบ่งเบาภาระทางการเงินของลูกค้า และเพื่อให้ลูกค้าสามารถกลับมาดำเนินชีวิตตามปกติโดยเร็ว นอกจากดอกเบี้ยเงินให้สินเชื่อ ทีเอ็มบี ยังได้ประกาศปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินฝาก ดังนี้  เงินฝากออมทรัพย์ สำหรับลูกค้าบุคคลธรรมดา ปรับลดลง 0.25% เป็นอัตราดอกเบี้ยใหม่ที่ 0.50% ส่วนเงินฝากไม่ประจำ ทีเอ็มบี ดอกเบี้ยสูง ปรับลดลง 0.25% เป็นอัตราใหม่ที่ 2.25% ถึง 2.75%  และ เงินฝากประจำดอกเบี้ยด่วน ประเภทอายุ 3 เดือนและ 12 เดือน ปรับอัตราดอกเบี้ยลดลง 0.33% ถึง 0.50% เป็นอัตราดอกเบี้ยใหม่ที่ 3.0% จากคุณ : ฮะ ว่าไงนะ   เขียนเมื่อ : วันรัฐธรรมนูญ 54 08:04:51  http://www.pantip.com/cafe/sinthorn/topic/I11439498/I11439498.html จากคุณ : yai-cho เขียนเมื่อ : วันรัฐธรรมนูญ 54 08:10:29

ความคิดเห็นที่ 5 จากคุณ : yai-cho เขียนเมื่อ : วันรัฐธรรมนูญ 54 08:11:29

ความคิดเห็นที่ 6  ความคิดเห็นที่ 37    Thank เงินปันผลที่คาดว่าจะจ่ายในงวดหน้า  ราคา ณ วันที่ 30 พ.ย. 54 From_SCBS  http://www.pantip.com/cafe/sinthorn/topic/I11431907/I11431907.html แก้ไขเมื่อ 09 ธ.ค. 54 21:07:23 แก้ไขเมื่อ 09 ธ.ค. 54 21:07:00 จากคุณ : C_yada  เขียนเมื่อ : 9 ธ.ค. 54 21:03:01  จากคุณ : yai-cho เขียนเมื่อ : วันรัฐธรรมนูญ 54 08:14:20

ความคิดเห็นที่ 7 สวัสดีครับหนุ่มๆสาวๆแห่งปิ๊งๆๆๆๆ และผู้ที่กำลังจะมาสมัครเข้าบ้าน และผู้เยี่ยมชมบ้านทั้งหลายครับ ถ้าจะให้กิฟท์แก่ผู้เปิดบ้าน ก็จะสร้างกำลังใจได้เยอะครับ และจะได้รู้ด้วยว่า มีพี่ๆน้องๆท่านใดมาบ้างแล้วหรือไม่ครับ จากคุณ : ฮะ ว่าไงนะ เขียนเมื่อ : วันรัฐธรรมนูญ 54 08:17:33

ความคิดเห็นที่ 8 เค้าคงวางแผนหนีค่าเยนแข็งกันอยู่นะ ผลสำรวจความคิดเห็นซึ่งจัดทำโดยเกียวโด นิวส์ แสดงให้เห็นว่า ความเชื่อมั่นของกลุ่มผู้ผลิตขนาดใหญ่ของญี่ปุ่นในการสำรวจความเชื่อมั่นทางธุรกิจประจำไตรมาสธันวาคม หรือผลสำรวจทังกัน ซึ่งธนาคารกลางญี่ปุ่นมีกำหนดเปิดเผยในวันพฤหัสบดีหน้า จะปรับตัวลดลงเป็นครั้งแรกในรอบสองไตรมาส เนื่องจากเงินเยนที่แข็งค่าขึ้นอย่างมาก รวมทั้งปัจจัยลบอื่นๆ โดยนักเศรษฐศาสตร์จากหน่วยงานวิจัยภาคเอกชน 17 แห่งที่ร่วมตอบแบบสำรวจ คาดว่า ดัชนีความเชื่อมั่นในกลุ่มผู้ผลิตรายใหญ่จะอยู่ที่ระดับติดลบ 2 ซึ่งลดลง 4 จุดจากการสำรวจครั้งก่อนหน้านี้ในเดือนกันยายน นักเศรษฐศาสตร์จำนวนมากคาดการณ์ว่า ความเชื่อมั่นทางธุรกิจจะอ่อนแอลง เนื่องจากผลกระทบจากเงินเยนที่แข็งค่า ปัจจัยอื่นๆ เช่น เศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัวลงอันเนื่องมาจากวิกฤตการเงินยุโรป และเหตุน้ำท่วมครั้งรุนแรงในไทย นักเศรษฐศาสตร์ของสถาบันวิจัยไดอิจิ ไลฟ์ กล่าวว่า ความเชื่อมั่นที่ย่ำแย่ลงนี้กำลังลุกลามออกไป แม้ว่าจะไม่ขยายวงกว้างเหมือนกับเมื่อคราวที่เกิดเหตุแผ่นดินไหวและสึนามิเมื่อวันที่ 11 มี.ค.ที่ผ่านมา ขณะที่ดัชนีสำหรับผู้ประกอบการขนาดใหญ่นอกภาคการผลิต คาดว่าจะอยู่ที่ระดับบวก 1 โดยเฉลี่ย ซึ่งเท่ากับผลทังกันเมื่อเดือนก.ย. จากคุณ : ฮะ ว่าไงนะ เขียนเมื่อ : วันรัฐธรรมนูญ 54 08:19:33

ความคิดเห็นที่ 9 ผู้นำกลุ่มสหภาพยุโรป (อียู) เห็นพ้องให้ร่นระยะเวลาการใช้กลไกรักษาเสถียรภาพยุโรป (ESM) ให้เร็วขึ้นจากเดิมหนึ่งปี โดยกำหนดว่าจะเปิดใช้ ESM ในเดือนก.ค. 2555 ส่วนกองทุนรักษาเสถียรภาพการเงินยุโรป (EFSF) จะยังคงดำเนินงานต่อไปจนถึงกลางปี 2556 ทั้งนี้ ผู้นำอียูเห็นพ้องต้องกันว่า ควรเพิ่มประสิทธิภาพให้แก่กองทุน EFSF ผ่านทางมาตรการค้ำประกันบางส่วน และผ่านทางกองทุนการลงทุนร่วม อย่างไรก็ ผู้นำยูโรโซนไม่ได้อนุญาตให้กองทุน ESM ได้รับใบอนุญาตประกอบกิจการธนาคาร เพราะเกรงว่าถ้าหาก ESM ได้รับสถานะเป็นธนาคารแล้ว ESM ก็จะได้รับสิทธิในการกู้เงินจากมาตรการอัดฉีดสภาพคล่องของธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) ซึ่งจะเป็นการฝ่าฝืนกฎเกณฑ์ของอียู ผู้นำอียูตัดสินใจว่าจะให้กองทุน ESM และ EFSF ดำเนินการพร้อมกันในช่วงกลางปี 2555 ไปจนถึงกลางปี 2556 โดยผู้นำอียูจะตัดสินใจในเดือนมี.ค. 2555 ว่า จำเป็นจะต้องแก้ไขข้อตกลงที่ทำไว้ในช่วงก่อนหน้านี้หรือไม่ ซึ่งข้อตกลงดังกล่าวระบุว่า ความสามารถในการปล่อยกู้ของกองทุนสองแห่งนี้รวมกันต้องมีขนาดไม่เกิน 5 แสนล้านยูโร นอกเหนือจากการร่นระยะเวลาการใช้กองทุน ESM แล้ว ที่ประชุมอียูยังได้พิจารณาเรื่องจัดหาเงินทุนวงเงิน 2 แสนล้านยูโรให้แก่กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) เพื่อช่วยให้ไอเอ็มเอฟมีศักยภาพในการแก้ไขวิกฤติหนี้สินยูโรโซนได้มากขึ้น โดยประเทศสมาชิกยูโรโซนและสมาชิกอียู จะยืนยันภายในเวลา 10 วันว่า จะอนุมัติให้มีการจัดหาเงินทุนมูลค่าดังกล่าวให้กับไอเอ็มเอฟหรือไม่ ทั้งนี้ ESM เป็นกองทุนถาวรที่ทำหน้าที่ให้ความช่วยเหลือประเทศยูโรโซน โดยจะทำหน้าที่แทนกองทุน EFSF ซึ่งเป็นกองทุนชั่วคราวที่มีวงเงิน 4.40 แสนล้านยูโร จากคุณ : ฮะ ว่าไงนะ เขียนเมื่อ : วันรัฐธรรมนูญ 54 08:20:58

ความคิดเห็นที่ 10 จาก คห.9 ขอวิจารณ์นิดนะครับ อืม  แล้วพวกเค้าจะหาเงินให้ไอเอ็มเอฟมาปล่อยกู้พวกเค้าอีกที ตรรกกะแปลกดีจังนะครับ ผู้นำสหภาพยุโรป (อียู) เห็นพ้องกันว่าให้มีการกำหนด "บทบัญญัติทางการคลัง"  (fiscal compact) ฉบับใหม่ ที่ตั้งอยู่บนสนธิสัญญาระหว่างรัฐบาล (inter-governmental treaties) และการประสานนโยบายเศรษฐกิจให้แข็งแกร่งมากขึ้น แทนการเปลี่ยนแปลงสนธิสัญญาของอียู โดยมีเป้าหมายหลักคือการแก้ไขวิกฤตหนี้ยุโรป อย่างไรก็ตาม ที่ประชุมผู้นำอียูยังไม่สามารถระดมเสียงสนับสนุนได้มากพอที่จะทำให้บทบัญญัติดังกล่าวได้รับการรับรองจากสนธิสัญญาใหม่ของ 27 ชาติสมาชิกอียู หลังจากอังกฤษปฏิเสธที่จะให้การสนับสนุนบทบัญญัตินี้เพื่อคุ้มครองภาคการเงินภายในประเทศของตนเอง นอกจากนี้ ที่ประชุมอียูยังเห็นพ้องต้องกันว่า งบประมาณของประเทศสมาชิกยูโรโซนควรจะอยู่ในภาวะสมดุล หรือ เกินดุล และเมื่อใดก็ตามที่ประเทศสมาชิกยูโรโซนฝ่าฝืนกฎเพดานยอดขาดดุลงบประมาณ 3% ต่อจีดีพี ก็จะมีการใช้มาตรการอัตโนมัติตามมา ซึ่งอาจจะรวมถึงการใช้บทลงโทษ นายเฮอร์แมน แวน รอมปุย ประธานสภายุโรป ซึ่งดำรงตำแหน่งประธานการประชุมสุดยอดผู้อียูในครั้งนี้ ต้องการให้ 27 ชาติสมาชิกอียูกันเรื่องการปรับเปลี่ยนกฎเกณฑ์ผ่านทางการแก้ไขพิธีสาร ซึ่งจะสามารถดำเนินการได้อย่างรวดเร็วโดยไม่ต้องอาศัยการให้ สัตยาบันของประเทศสมาชิก อย่างไรก็ตาม นางอังเกลา แมร์เคล นายกรัฐมนตรีเยอรมนีเรียกร้องให้มีการแก้ไขสนธิสัญญาอย่างเต็มรูปแบบ เนื่องจากยุโรปได้สูญเสียความน่าเชื่อถือไปมากแล้ว และจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องกอบกู้ความเชื่อมั่นกลับคืนมา จากคุณ : ฮะ ว่าไงนะ เขียนเมื่อ : วันรัฐธรรมนูญ 54 08:24:38

ความคิดเห็นที่ 11 บทสรุป การประชุมสุดยอดผู้นำสหภาพยุโรป (อียู) ซึ่งจัดขึ้นที่กรุงบรัสเซลส์ได้เสร็จสิ้นลงแล้วในช่วงค่ำวานนี้ (9 ธ.ค.) ตามเวลาไทย โดยข้อสรุปและสาระสำคัญของการประชุมมีดังนี้ : -- ที่ประชุมอียูเห็นพ้องต้องกันว่า ให้มีการกำหนด "บทบัญญัติทางการคลัง"  (fiscal compact) ฉบับใหม่ ที่ตั้งอยู่บนสนธิสัญญาระหว่างรัฐบาล (inter-governmental treaties) และเพิ่มความแข็งแกร่งในการประสานนโยบายเศรษฐกิจในประเด็นที่มีผลประโยชน์ร่วมกัน แทนการเปลี่ยนแปลงสนธิสัญญาของอียู โดยมีเป้าหมายหลักคือการแก้ไขวิกฤตหนี้ยุโรป การที่อียูไม่สามารถเปลี่ยนแปลงสนธิสัญญาได้นั้น เป็นเพราะอังกฤษปฏิเสธที่จะให้การสนับสนุนบทบัญญัตินี้ เนื่องจากอังกฤษต้องการคุ้มครองภาคการเงินภายในประเทศของตนเอง -- ที่ประชุมมีมติว่า ประเทศสมาชิกยูโรโซนจะมียอดขาดดุลงบประมาณต่อปีได้ไม่เกิน 0.5% ต่อผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) โดยมีเป้าหมายที่จะป้องกันการลุกลามของวิกฤตหนี้ -- ที่ประชุมเล็งเห็นว่าประเทศสมาชิกควรจะบริหารยอดขาดดุลงบประมาณให้อยู่ในระดับต่ำกว่า 3% ของจีดีพีอยู่เสมอ เพื่อเป็นการเสริมสร้างเสถียรภาพด้านการคลัง แต่เนื่องจากประเทศสมาชิกยูโรโซนยังคงอยู่ในระหว่างการพิจารณาว่าควรจะลงมติให้มีการลงโทษโดยอัตโนมัติแก่ประเทศที่ละเมิดกฎดังกล่าวหรือไม่ จึงยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่าการใช้บทลงโทษโดยอัตโนมัติในเรื่องนี้จะมีผลบังคับใช้เมื่อใด -- ผู้นำอียูมีมติให้ร่นระยะเวลาการใช้กลไกรักษาเสถียรภาพยุโรป (ESM) ให้เร็วขึ้นจากเดิม 1 ปี โดยกำหนดว่าจะเปิดใช้ ESM ในเดือนก.ค. 2555 ส่วนกองทุนรักษาเสถียรภาพการเงินยุโรป (EFSF) จะยังคงดำเนินงานต่อไปจนถึงกลางปี 2556 นอกจากนี้ ผู้นำอียูยังลงมติว่า กองทุน ESM/EFSF ควรมีศักยภาพด้านการปล่อยเงินกู้ในวงเงิน 5 แสนล้านยูโร และผู้นำอียูจะตัดสินใจภายในเดือนมี.ค. 2555 ว่าจำเป็นจะต้องแก้ไขข้อตกลงว่าด้วยการกำหนดขีดความสามารถในการปล่อยกู้ในวงเงินดังกล่าวหรือไม่ อย่างไรก็ ที่ประชุมไม่อนุญาตให้กองทุน ESM ได้รับใบอนุญาตประกอบกิจการธนาคาร เพราะเกรงว่าถ้าหาก ESM ได้รับสถานะเป็นธนาคารแล้ว จะทำให้ ESM ได้รับสิทธิในการกู้เงินจากมาตรการอัดฉีดสภาพคล่องของธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) ซึ่งจะเป็นการฝ่าฝืนกฎเกณฑ์ของอียู -- ที่ประชุมอียูมีมติให้จัดหาเงินทุนวงเงิน 2 แสนล้านยูโรให้กับกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) เพื่อช่วยให้ไอเอ็มเอฟมีศักยภาพในการแก้ไขวิกฤติหนี้สินยูโรโซนได้มากขึ้น โดยประเทศสมาชิกอียูจะกำหนดรายละเอียดเกี่ยวกับเรื่องนี้ ภายในระยะเวลา 10 วัน อย่างไรก็ตาม สำนักข่าวเกียวโดรายงานโดยอ้างแหล่งข่าวด้านการเงินระหว่างประเทศว่า ในเบื้องต้นนั้นมีการตกลงกันว่า จะให้ธนาคารกลางของประเทศต่างๆในยุโรปเป็นผู้จัดหาเงินทุนให้กับไอเอ็มเอฟ โดยธนาคารกลางของกลุ่มยูโรโซนจะรับภาระจัดหาเงินทุนในวงเงิน 1.50 แสนล้านยูโร ส่วนที่เหลืออีก 5 หมื่นล้านยูโรจะรับภาระโดยธนาคารกลางของอังกฤษและประเทศอื่นๆนอกกลุ่มยูโรโซน -- ที่ประชุมมีมติให้เลื่อนการพิจารณาเรื่องการออกพันธบัตรยูโร หรือ ยูโรบอนด์ ไปเป็นเดือนมิ.ย.ปีหน้า จากคุณ : เคลือบความน่าสงสัยต่อไป (ฮะ ว่าไงนะ) เขียนเมื่อ : วันรัฐธรรมนูญ 54 08:27:27

ความคิดเห็นที่ 12 เข้ามาดู กระทู้อารมณ์ดี ครับ   จากคุณ : สาระขัน เขียนเมื่อ : วันรัฐธรรมนูญ 54 08:28:08

ความคิดเห็นที่ 13 http://www.pantip.com/cafe/camera/topic/O11408073/O11408073.html จากคุณ : yai-cho เขียนเมื่อ : วันรัฐธรรมนูญ 54 08:40:54

ความคิดเห็นที่ 14 มาดูกราฟ set 9 dec 11 กัน....เข้า sideway อีกแล้ว กราฟ 120 นาที/วัน/สัปดาห์ครับ http://www.stock2morrow.com/showthread.php?t=27051 จากคุณ : yai-cho เขียนเมื่อ : วันรัฐธรรมนูญ 54 08:41:22

ความคิดเห็นที่ 15 http://www.stock2morrow.com/showthread.php?t=27044 จากคุณ : yai-cho เขียนเมื่อ : วันรัฐธรรมนูญ 54 08:42:00

ความคิดเห็นที่ 16 แอบไปดูกระทู้I11438961 << ถ้าวันอังคารหุ้นเกิดเด้งขึ้นมา...นั่นหมายความว่า เม่าเราชนะอีกแว๊วววว ^_^ [หุ้น] halogen (8 - วันรัฐธรรมนูญ 54 00:40) มาเหมือนกันครับ ธนาคารกลางเยอรมนีปรับลดคาดการณ์การขยายตัวของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ปี 2555 ลงมาอยู่ที่ระดับ0.6% จากเดิมที่คาดว่าจะขยายตัว 1.8% หลังจากเศรษฐกิจเยอรมนีได้รับผลกระทบอย่างหนักจากการวิกฤตหนี้สาธารณะและชะลอตัวลงของเศรษฐกิจในกลุ่มยูโรโซนซึ่งเป็นตลาดส่งออกหลักของเยอรมนี "วิกฤตหนี้สาธารณะของประเทศยูโรโซน ประกอบกับความไม่แน่นอนและการชะลอตัวของเศรษฐกิจโดยรวมในภูมิภาค ได้สร้างความตึงเครียดให้กับกิจกรรมทางเศรษฐกิจในเยอรมนีมากขึ้นเรื่อยๆ" ธนาคารกลางเยอรมนีระบุในแถลงการณ์ อย่างไรก็ตาม ธนาคารกลางเยอรมนีคาดว่า เศรษฐกิจมีแนวโน้มที่จะปรับตัวไปในทิศทางที่ดีขึ้น โดยคาดว่าจีดีพีในปี 2556 จะดีดกลับมาขยายตัว 1.8% ซึ่งเป็นการคาดการณ์บนสมมติฐานที่ว่า "วิกฤตหนี้ยุโรปจะไม่ทวีความรุนแรงขึ้น" ส่วนในปีนี้ ธนาคารกลางเยอรมนีคาดว่า จีดีพีจะขยายตัว 3% ซึ่งลดลงจากที่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ว่าจะขยายตัว 3.1% อย่างไรก็ตาม ตัวเลขคาดการณ์ของธนาคารกลางยังดีกว่าที่รัฐบาลเยอรมนีคาดการณ์ไว้ว่า จีดีพีจะขยายตัว 2.9% ในปีนี้ และขยายตัวเพียง 1% ในปี 2555 การปรับลดคาดการณ์เศรษฐกิจของธนาคารกลางเยอรมนี มีขึ้นไม่นานหลังจากที่สำนักงานสถิติของเยอรมนีเปิดเผยในวันนี้ว่า ยอดส่งออกเดือนต.ค.หดตัวลง 3.6% เมื่อเทียบกับเดือนก.ย. ขณะที่ยอดนำเข้าหดตัวลง 1% จากคุณ : ฮะ ว่าไงนะ เขียนเมื่อ : วันรัฐธรรมนูญ 54 08:42:20

ความคิดเห็นที่ 17 จากคุณ : yai-cho เขียนเมื่อ : วันรัฐธรรมนูญ 54 08:42:33

ความคิดเห็นที่ 18 ประท้วงเที่ยวนี้คงไม่โดนจับข้อหาเดิม แต่อาจโดนข้อหาใหม่ หากจัดแบบนี้ในบางประเทศนะ กล่มผู้จัดการประท้วง กล่าวว่า นายอเล็กซานเดอร์ กอร์เบนโก รองนายกเทศมนตรีกรุงมอสโกว์ อนุญาตให้ฝ่ายค้านของรัสเซียจัดให้มีการชุมนุมใหญ่ที่จัตุรัสกลางกรุงมอสโกว์ในวันนี้  และล่าสุด มีผู้ลงชื่อผ่านเฟ็ซบุคยืนยันการเข้าร่วมประท้วงครั้งนี้แล้วกว่า 30,000 คน เพื่อคัดค้านการทุจริตการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฏรของรัสเซียเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา หลังจากเมื่อต้นสัปดาห์ เจ้าหน้าที่ตำรวจใช้กำลังเข้าสลายการชุมนุมและจับกุมผู้ประท้วงหลายร้อยคน เนื่องจากจัดการชุมนุมขึ้นมาโดยไม่ขออนุญาตจากทางการก่อน จากคุณ : ฮะ ว่าไงนะ เขียนเมื่อ : วันรัฐธรรมนูญ 54 08:44:39

ความคิดเห็นที่ 19 เอ   ออกข่าวแบบนี้ แล้วหุ้นจะน่าซื้อหรือ ในเมื่อแข่งขันกันดุ ก็ทำให้ต้นทุนสูงขึ้นนะสิ ธุรกิจร้านอาหารมูลค่ากว่าแสนล้านบาทในเมืองไทย  ยังคงมีการแข่งขันต่อเนื่อง ความหลากหลายและยิ่งใหญ่ของธุรกิจนี้เอง  ถือเป็นจุดเด่นที่ดึงดูดนักธุรกิจทั้งหน้าเก่าและหน้าใหม่ ให้หันเข้ามาลงทุน ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มทรัพย์ศรีไทย ที่เข้าซื้อหุ้นของกลุ่มโอบองแปง และดังกิ้นโดนัท  หรือกลุ่มพร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค  ที่เข้าซื้อหุ้นไดโดมอน กรุ๊ป  ทำให้คาดการณ์ว่าบรรยากาศการแข่งขันของธุรกิจร้านอาหารในปีหน้า จะคึกคักและมีสีสันเพิ่มขึ้น ซึ่งนอกจากการแข่งขันด้านการขยายสาขา  การจัดกิจกรรมการตลาด การช่วงชิงแหล่งวัตถุดิบที่ดี เพื่อให้ได้มาเพื่ออาหารที่มีรสชาติ ถือเป็นอีกกลยุทธ์ที่ต้องจับตามอง นางนงชนก สถานานนท์ ผู้ช่วยรองประธานบริหาร กลุ่มการตลาด บริษัท เอส แอล อาร์ ที จำกัด ผู้บริหารธุรกิจร้านอาหารซิซซ์เล่อร์ ในเครือไมเนอร์ กรุ๊ป กล่าวว่า  พฤติกรรมผู้บริโภครุ่นใหม่ให้ความสำคัญกับการเลือกสรรหาอาหารที่มากกว่าความอร่อย แต่ต้องมีความหลากหลาย  คุณภาพ คุณประโยชน์  การจะตอบโจทย์ลูกค้าให้ลงตัว จึงไม่ใช่จากปัจจัยใด ปัจจัยหนึ่ง แต่ต้องเกิดจากการผสมผสานที่เหมาะสม และลงตัว ถือเป็นความสำเร็จที่ทำให้ซิซซ์เล่อร์ ซึ่งเป็นร้านอาหารสไตล์ตะวันออกเป็นที่รู้จัก และได้รับการตอบรับที่ดีในเมืองไทย "ซิซซ์เล่อร์" ถือเป็นผู้บุกเบิกร้านอาหารสไตล์ตะวันตก ทำให้คนไทยรู้จัก และได้ลิ้มรสชาติของอาหาร ด้วยราคาที่คุ้มค่า สัมผัสได้ จุดเด่นของซิซซ์เล่อร์ คือการใช้วัตถุดิบที่มีคุณภาพ จากแหล่งผลิตวัตถุดิบนานาชนิด ทั้งการนำเข้าจากต่างประเทศ  และการคัดสรรจากแหล่งพิเศษ ที่ควบคุมคุณภาพอย่างใกล้ชิด เช่น เมนูสลัดบาร์ ซึ่ง "นงชนก"  บอกว่า จากการศึกษาพฤติกรรมผู้บริโภค จะให้ความสำคัญกับการจัดเรียงที่โดดเด่น  เน้นสีสัน ความหลากหลายและความสดใหม่ของอาหาร โดยวัตถุดิบหลักหลายรายการ ทั้งผัก ผลไม้สดๆ  จะสั่งตรงมาจากโครงการหลวง ซึ่งมีระบบการคัดสายพันธุ์พืช การเพาะปลูกในโรงเรือนและแปลงที่มีระบบบริหารจัดการได้มาตรฐานสากล ให้ผลผลิตที่มีคุณภาพสูง ทั้งจากสถานีเกษตรหลวงอินทนนท์ และศูนย์พัฒนาโครงการหลวงหนองหอย จ.เชียงใหม่ "ลูกค้าที่มาใช้บริการซิซซ์เล่อร์ สาขาอุทยานกาดสวนแก้ว  เซ็นทรัลพลาซา เชียงใหม่ และเซ็นทรัล พลาซา เชียงราย ต่างชื่นชอบผักสดจากสลัดบาร์ เพราะวัตถุดิบที่สดใหม่ ไม่ว่าจะเป็นหัวบีตรูตแดง บัตเตอร์เฮด ฟิลเลย์ ฟักทองญี่ปุ่น แตงกวาซูกินี แตงกวาญี่ปุ่น รวมถึงมะเขือเทศท้อ และมะเขือเทศราชินี  กะหล่ำปลีขาว กะหล่ำแดง ผักสลัดแก้ว  ผักเบบี้คอส (Baby Cos)  ต่างมาจากแหล่งวัตถุดิบที่มีคุณภาพ ทำให้ผู้บริโภคที่รักสุขภาพ เลือกบริโภคแต่ของมีคุณภาพสัมผัสได้ สิ่งเหล่านี้จะสร้างความประทับใจ และดึงดูดให้ลูกค้ากลับมาใช้บริการอีกครั้ง" นางนงชนก กล่าวและว่า ล่าสุด ซิซซ์เล่อร์ เปิดตัววัตถุดิบใหม่ ได้แก่ พริกยักษ์หรือพริกหวานหลากสี (Fancy Capsicum) ทั้งขาว ม่วง ส้ม  จากโครงการหลวง นำมาให้บริการในเมนูสลัดบาร์ทุกสาขาทั่วประเทศ  ซึ่งเป็นพริกยักษ์พันธุ์มีรสชาติหวาน ไม่เผ็ด สามารถรับประทานสดในสลัด หรือนำมาผัดกับผักชนิดต่างๆ ให้สีสันน่ารับประทาน และยังมีวิตามิน A, B1, B2 และ C มีสารแคบไซซิน ดีต่อสุขภาพด้วย ส่วนเมนูสเต็ก ซึ่งเป็นเมนูหลัก ก็คัดสรรเนื้อสัตว์ต่างๆ เช่น กุ้ง ปลา ไก่ หมู เนื้อ จากฟาร์มระบบปิดที่มีมาตรฐานการเลี้ยงสูงจากหลายๆ แห่งทั่วประเทศ รวมทั้งนำเข้าจากแหล่งที่มีคุณภาพในต่างประเทศ เช่น เนื้อแองกัส จากประเทศออสเตรเลีย เป็นต้น ด้านการทำตลาด "ซิซซ์เล่อร์" นอกเหนือจากการสรรหาแหล่งวัตถุดิบใหม่ๆ  ให้กับผู้บริโภคแล้วนั้น  การมีวัตถุดิบใหม่ที่มีคุณภาพ จะทำให้สามารถสร้างสรรค์เมนูที่หลากหลาย โดยบริษัทจะคิดค้นเมนูใหม่ๆ ออกมาอย่างสม่ำเสมอ เน้นอาหารที่เหมาะสมกับฤดูกาล และความนิยมในการบริโภคของคนไทย ด้วยประสบการณ์ในธุรกิจอาหารที่เปิดให้บริการมากว่า 18 ปีทำให้สามารถเข้าถึงความต้องการของผู้บริโภคได้อย่างแท้จริง โดยปัจจุบันซิซซ์เล่อร์มีลูกค้าหมุนเวียนเข้ามาใช้บริการกว่า 5 แสนคนต่อเดือน และมีแนวโน้มเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง แม้จะมีร้านอาหารใหม่ๆ เกิดขึ้นจำนวนมาก แต่ลูกค้าที่มาใช้บริการซิซซ์เล่อร์ ถือเป็นลูกค้าประจำที่ผูกพันกันมานาน "อีกหนึ่งความสำเร็จของซิซซ์เล่อร์ คือ ความคุ้มค่า ซึ่งเป็นพันธกิจที่ซิซซ์เล่อร์ให้ความสำคัญ ทุกเมนูของซิซซ์เล่อร์ที่ให้บริการกับลูกค้า จึงมีทั้งรสชาติ  คุณภาพ และความคุ้มค่า" โดยปัจจุบัน ซิซซ์เล่อร์ มีสาขาทั่วประเทศรวม 39 แห่ง ล่าสุดจะเปิดให้บริการที่เซ็นทรัล พลาซา แกรนด์ พระราม 9 ในเดือนธันวาคมนี้ ทำให้มีสาขารวม 40 แห่งในสิ้นปี และมีแผนที่จะเปิดสาขาใหม่อีก 3 แห่งในปีหน้า  ใช้งบลงทุนเฉลี่ย 15-20 ล้านบาทต่อสาขา อย่างไรก็ดีการแข่งขันที่รุนแรงของธุรกิจร้านอาหาร จะส่งผลให้ผู้ประกอบการแต่ละรายต่างหันมาใส่ใจคุณภาพของอาหาร และแหล่งวัตถุดิบที่ดี เพื่อให้ได้มาซึ่งอาหารรสเลิศ คุณภาพดี และที่สุดแล้วคุณประโยชน์ก็จะตกอยู่ที่ผู้บริโภคนั่นเอง จากคุณ : ฮะ ว่าไงนะ เขียนเมื่อ : วันรัฐธรรมนูญ 54 08:47:42

ความคิดเห็นที่ 20 สวัสดีครับ ทุกท่าน เข้ามาอ่านข่าวสารจากคุณฮะฯเช่นเคย จากคุณ : pluem เขียนเมื่อ : วันรัฐธรรมนูญ 54 09:00:43

ความคิดเห็นที่ 21 เจ้าเอ๋ยเจ้าข้า ขอหุ้นตัวไม่แพง ไม่อยากได้หุ้นแดงๆ ให้ผมได้เล่น ขอหุ้นตัวเด่น ไว้เล่นได้ตังค์ ขอหุ้นสังคัง กลับมาดังมาเด่น ขอหุ้นปลาร้า พี่นายไทยมีค่า ขอหุ้นดอกบัว จากหมองมัวมาสุกใส ขอหุ้นไม่ไป กลับมามีคนวิ่งไส่ ขอหุ้นใดๆในพอร์ตทุกคนให้รับทรัพย์ครับ (จันทร์เอ๋ยจันทร์เจ้า) มานั่งนึกถึงภาพประกอบคุณใหญ่ฯเลยเพ้อใหญ่เลยผม จากคุณ : ฮะ ว่าไงนะ เขียนเมื่อ : วันรัฐธรรมนูญ 54 09:01:26

ความคิดเห็นที่ 22 ไม่รู้กับไทยเรานี่ ยอดส่งออกนำเข้าไม่รู้ยังเหมือนเดินหรือเปล่า แต่ถ้าหุ้นที่ค้าขายในไทย ไม่น่ามีผลกระทบจากเศรษฐกิจครั้งนี้มากนักครับ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ยอดขาดดุลการค้าเดือนต.ค.ของสหรัฐร่วงลง 1.6% จากเดือนก.ย. สู่ระดับ 4.35 หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 10 เดือน และเป็นการปรับตัวลงติดต่อกันเป็นเดือนที่ 4 ทั้งนี้ ยอดการนำเข้าสินค้าและการบริการเดือนต.ค.ของสหรัฐมีอยู่ทั้งสิ้น 2.2264 แสนล้านดอลลาร์ ลดลง 1% จากเดือนก.ย. ขณะที่ยอดส่งออกลดลง 0.8% แตะที่ 1.7917 แสนล้านดอลลาร์ รายงานของกระทรวงระบุว่า สหรัฐขาดดุลการค้ากับญี่ปุ่นเพิ่มขึ้น 19.5% สู่ระดับ 6.20 พันล้านดอลลาร์ โดยสหรัฐนำเข้าสินค้าจากญี่ปุ่นเพิ่มขึ้น 15.8% สู่ระดับ 1.234 หมื่นล้านดอลลาร์ เพราะได้แรงหนุนจากการเพิ่มขึ้นของยอดนำเข้าชิ้นส่วนรถยนต์ ขณะเดียวกันสหรัฐส่งออกสินค้าไปยังญี่ปุ่นเพิ่มขึ้น 12.4% สู่ระดับ 6.14 พันล้านดอลลาร์ สหรัฐมียอดขาดดุลการค้ากับจีนเกือบทรงตัวที่ 2.807 หมื่นล้านดอลลาร์ โดยสหรัฐนำเข้าสินค้าจากจีนเพิ่มขึ้น 3.8% แตะที่ 3.781 หมื่นล้านดอลลาร์ และส่งออกสินค้าไปยังประเทศจีนเพิ่มขึ้น 16.4% แตะที่ 9.74 หมื่นล้านดอลลาร์ สำนักข่าวเกียวโดรายงาน จากคุณ : ฮะ ว่าไงนะ เขียนเมื่อ : วันรัฐธรรมนูญ 54 09:07:39

ความคิดเห็นที่ 23 "ล่ำ" นักช็อปสาวถ่ายภาพร่วมกับเหล่านายแบบหุ่นล่ำบึ้กของร้าน"เอแอนด์เอฟ"ร้านแรกในสิงคโปร์ ซึ่งจะเปิดอย่างเป็นทางการ 15 ธค.นี้ เอ   ไปซื้อของหรือทำอะไรแน่ จากคุณ : ฮะ ว่าไงนะ เขียนเมื่อ : วันรัฐธรรมนูญ 54 09:19:31

ความคิดเห็นที่ 24 สัญญาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (9 ธ.ค.) หลังจากที่ประชุมสุดยอดผู้นำสหภาพยุโรป (อียู) มีมติให้ใช้บทบัญญัติด้านการคลังซึ่งมีเป้าหมายที่จะควบคุมการขาดดุลงบประมาณและการลุกลามของวิกฤตหนี้ นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนจากข่าวที่ว่าจีนจัดตั้งกองทุนเพื่อการลงทุนในยุโรป สัญญาน้ำมันดิบ NYMEX (New York Mercantile Exchange) ส่งมอบเดือนม.ค.พุ่งขึ้น 1.07 ดอลลาร์ หรือ 1.09% ปิดที่ระดับ 99.41 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 99.91 - 97.36 ดอลลาร์ ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ที่ตลาด ICE กรุงลอนดอน ส่งมอบเดือนม.ค.เพิ่มขึ้น 51 เซนต์ หรือ 0.5% ปิดที่ 108.62 ดอลลาร์/บาร์เรล สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ตลาดน้ำมันนิวยอร์กพุ่งขึ้นหลังจากที่ประชุมผู้นำอียูมีมติใช้บทบัญญัติทางการคลังฉบับใหม่ซึ่งตั้งอยู่บนสนธิสัญญาระหว่างรัฐบาลและการเพิ่มความแข็งแกร่งในการประสานนโยบายเศรษฐกิจในประเด็นที่มีผลประโยชน์ร่วมกัน โดยกำหนดว่าประเทศสมาชิกควรมียอดขาดดุลงบประมาณต่อปีไม่เกิน 0.5% ของจีดีพี ซึ่งมีเป้าหมายที่จะควบคุมการขาดดุลงบประมาณและการลุกลามของปัญหาหนี้สาธารณะ ขณะเดียวกัน ตลาดได้แรงหนุนจากข่าวที่ว่า จีนได้จัดตั้งกองทุนเพื่อการลงทุนใหม่มูลค่า 3 แสนล้านดอลลาร์ ซึ่งส่วนหนึ่งจะใช้ในการลงทุนในยุโรป ทั้งนี้ ข่าวดังกล่าวทำให้นักลงทุนมีความหวังว่าการลงทุนในยุโรปจะช่วยให้เศรษฐกิจยุโรปจะฟื้นตัวขึ้น นอกจากนี้ ตลาดน้ำมันนิวยอร์กยังได้ปัจจัยบวกจากรายงานที่ว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคช่วงต้นเดือนธ.ค.ของสหรัฐ พุ่งขึ้นสู่ระดับ 67.7 จุด เมื่อเทียบกับช่วงท้ายเดือนพ.ย.ที่ระดับ 64.1 จุด ซึ่งมากกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์ไว้ที่ 65.5 จุด และยังเป็นระดับสูงสุดในรอบ 6 เดือน  ต้นไม้ยังต้องกั้นคอกไว้เลย จากคุณ : ฮะ ว่าไงนะ เขียนเมื่อ : วันรัฐธรรมนูญ 54 09:25:02

ความคิดเห็นที่ 25 นายเฮอร์มาน ฟาน รอมปุย ประธานสภายุโรป กล่าวว่า ในการประชุมสุดยอดที่กรุงบรัสเซลส์ ประเทศเบลเยียม ผู้นำกลุ่มสหภาพยุโรปหรืออียู เห็นชอบเรื่องการจัดทำสนธิสัญญาระหว่างรัฐบาลฉบับใหม่ เพื่อสร้างเอกภาพด้านการเงินการคลังและช่วยป้องกันไม่ให้อียูประสบวิกฤติหนี้สาธารณะขึ้นมาในอนาคต และคาดว่าจะสามารถจัดทำสนธิสัญญาดังกล่าวได้แล้วเสร็จภายในเดือนมีนาคม ปีหน้า อย่างไรก็ตาม ที่ประชุมอียูทั้ง 27 ประเทศไม่อาจตกลงกันได้เรื่องการแก้ไขสนธิสัญญาอียู หลังถูกอังกฤษ,สวีเดน,สาธารณรัฐเช็คและฮังการี คัดค้าน ซึ่งหมายความว่า อาจจะมีสมาชิกยูโรโซนเพียง 17 ประเทศและประเทศยุโรปอื่นๆ รวมแล้วคาดว่า จะมีทั้งหมด 23 ประเทศร่วมลงนามในสนธิสัญญาระว่างรัฐบาลฉบับใหม่ จากคุณ : ฮะ ว่าไงนะ เขียนเมื่อ : วันรัฐธรรมนูญ 54 09:43:33

ความคิดเห็นที่ 26 สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (9 ธ.ค.) เนื่องจากนักลงทุนมีความเชื่อมั่นว่ายุโรปจะสามารถแก้ปัญหาหนี้สาธารณะได้ หลังจากที่ประชุมสุดยอดผู้นำอียูมีมติให้ใช้บทบัญญัติด้านการคลัง สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนก.พ.ปิดบวก 3.4 ดอลลาร์ หรือ 0.2% แตะที่ 1,716.8 ดอลลาร์/ออนซ์ สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนมี.ค.เพิ่มขึ้น 71.5 เซนต์ ปิดที่ 32.253 ดอลลาร์/ออนซ์ และสัญญาโลหะทองแดงส่งมอบเดือนมี.ค.เพิ่มขึ้น 5.75 เซนต์ ปิดที่ 3.5575 ดอลลาร์/ปอนด์ สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนม.ค.พุ่งขึ้น 21.4 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,515.8 ดอลลาร์/ออนซ์ และสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนม.ค.พุ่งขึ้น 11.20 ดอลลาร์ ปิดที่ 686.50 ดอลลาร์/ออนซ์ สำนักข่าวซินหัวรายงานโดยอ้างความคิดเห็นของนักลงทุนในตลาดว่า สัญญาทองคำดีดตัวขึ้นขานรับที่ประชุมอียูมีมติให้ใช้บทบัญญัติด้านการคลังฉบับใหม่เพื่อควบคุมการลุกลามของวิกฤตหนี้ แม้มติดังกล่าวไม่เป็นเอกฉันท์เนื่องจากอังกฤษไม่เห็นด้วยก็ตาม ซึ่งการใช้บทบัญญัติดังกล่าวทำให้นักลงทุนเชื่อมั่นว่ายุโรปจะสามารถแก้ไขวิกฤหนี้ได้ ในระหว่างการประชุมครั้งนี้ นายเฮอร์มาน แวน รอมปุย ประธานสภายุโรปกล่าวว่า แม้ประเทศสมาชิกยูโรโซนยังไม่สามารถตกลงกันได้ในเรื่องการออกพันธบัตรยูโร หรือ ยูโรบอนด์ แต่ประเทศสมาชิกก็ยังคงให้ความร่วมมือในการสร้างความแข็งแกร่งด้านการคลังเป็นอย่างดี แม้สัญญาทองคำนิวยอร์กปรับตัวลง 3 สัปดาห์ในระยะเวลา 4 สัปดาห์ที่ผ่านมา แต่ผลการสำรวจเมื่อเร็วๆนี้บ่งชี้ว่า เทรดเดอร์ในตลาดทองคำยังคงเดินหน้ซื้อทองคำเพื่อป้องกันความเสี่ยงจากวิกฤตหนี้ยุโรป จากคุณ : ฮะ ว่าไงนะ เขียนเมื่อ : วันรัฐธรรมนูญ 54 09:44:49

ความคิดเห็นที่ 27 สวัสดีค่ะ เพื่อนๆ พี่ๆ ทุกท่าน (ไหว้รอบทิศ) เมื่อวานรับน้องไอวี่เพิ่ม แต่ผู้บริหารขายออกซะง้าน ตอนนี้เล็งๆ TOP อยู่ ติดว่ามันขึ้นมาแล้วหน่อยนึงเลยได้แต่มอง.. จากคุณ : จุ๊กกุ๊กจัง เขียนเมื่อ : วันรัฐธรรมนูญ 54 09:46:45

ความคิดเห็นที่ 28 เปิดตารางเวลาการเกิดปรากฏการณ์ เริ่ม 6 โมงครึ่ง สิ้นสุดเกือบตีหนึ่ง ดูได้ทั่วไทย..................... นักดาราศาสตร์ เชิญชม ปรากฎการณ์จันทรุปราคาเต็มดวงส่งท้ายปี!! ในวันที่ 10 ธันวาคม 2554 ซึ่งปรากฎการณ์จันทรุปราคาในครั้งนี้ ถือเป็นปรากฎการณ์ครั้งที่ 2 ของปีที่ชาวไทยทุกคนจะได้สัมผัสบรรยากาศอันน่าจดจำที่ดวงจันทร์ ดวงอาทิตย์ และโลก จะโคจรอยู่ในระนาบเดียวกัน ซึ่งจะทำให้เราได้มองเห็นดวงจันทร์เป็นสีส้มอิฐ อีกทั้งถ้าหากคืนนั้นท้องฟ้ามืดมิดไม่มีเมฆ หรือแสงไฟมากนัก ก็อาจจะทำให้เราได้มีโอกาสเห็นทางช้างเผือกที่อยู่หลังดวงจันทร์ได้ด้วย สำหรับจันทรุปราคาในปีนี้ จะเกิดขึ้นในช่วงค่ำของวันที่ 10 ธันวาคม 2554 โดยดวงจันทร์จะเริ่มเข้าสัมผัสเงามัวตั้งแต่เวลา 18.33 น. แต่ก็อาจจะไม่เห็นอะไรเปลี่ยนแปลงมากนัก เพราะท้องฟ้ายังไม่มืด แต่พอดวงจันทร์เริ่มสัมผัสเงามืดในเวลา 19.45 น. และเข้าในเงามืดจนหมดเวลา 21.06 น. จากนั้นเริ่มออกจากเงามืดเวลา  21.57 น. รวมเวลาที่อยู่ในเงามืดนาน 51 นาที ส่วนดวงจันทร์จะออกจากเงามืดจนหมดเวลา 23.17 น.  กินเวลาทั้งสิ้นนาน 3 ชั่วโมง 32 นาที ซึ่งจันทรุปราคาในครั้งนี้สามารถดูได้ทั่วประเทศไทย รวมไปถึงประเทศ พม่า อินเดิยตะวันออก อัฟริกา รัสเซียบางส่วน และยุโรปบางส่วนด้วย ทั้งนี้ จันทรุปราคา สามารถเรียกได้หลายอย่างไม่ว่าจะเป็น จันทรคาธ, จันทรคราส, ราหูอมจันทร์ หรือ กบกินเดือน เป็นปรากฎการณ์ธรรมชาติที่เกิดขึ้นก็ต่อเมื่อ ดวงอาทิตย์ โลก และดวงจันทร์ มาเรียงอยู่ในแนวเดียวกัน โดยเงาของโลกไปบดบังดวงจันทร์ ซึ่งจะเกิดขึ้นเฉพาะในคืนวันเพ็ญ 15 ค่ำ หรือคืนวันพระจันทร์เต็มดวงเท่านั้น ทำให้เห็นดวงจันทร์กลายเป็นดวงจันทร์เสี้ยวหรือกลายเป็นสีแดงแบบสีอิฐที่ เรียกว่า "พระจันทร์สีเลือด" ทั้งนี้เงาของโลกที่ไปบดบังดวงจันทร์ แบ่งออกเป็น 2 ส่วน คือเงามัว และเงามืด ซึ่งถ้าดวงจันทร์เคลื่อนตัวสัมผัสเงามัว จะไม่ค่อยสังเกตเห็นถึงความเปลี่ยนแปลง แต่ถ้าหากดวงจันทร์เคลื่อนตัวเข้าไปยังเงามืด เราก็จะได้เห็น "จันทรุปราคาเต็มดวง" เป็นสีส้มแดง หรือสีอิฐ โดยปกติของการเกิดจันทรุปราคาเต็มดวงนั้น เฉลี่ยจะเกิดขึ้นประมาณ 70 ครั้งต่อ 1 ศตวรรษ และจันทรุปราคาบางส่วนนั้นจะเกิดขึ้น เฉลี่ย 84 ครั้งต่อศตวรรษ ขั้นตอนการเกิดจันทรุปาราคา 10 ธันวาคม 2554 + ดวงจันทร์เริ่มเข้าสู่เงามัวของโลก    เวลา 18:33:33 น. + เริ่มเกิดจันทรุปราคาบางส่วน          เวลา 19:45:42 น. + เริ่มเกิดจันทรุปราคาเต็มดวง           เวลา 21:06:16 น. + กึ่งกลางของปรากฏการณ์               เวลา 21:31:49 น. + สิ้นสุดจันทรุปราคาเต็มดวง             เวลา 21:57:24 น. + สิ้นสุดจันทรุปราคาบางส่วน          เวลา 23:17:59 น. + ดวงจันทร์พ้นจากเงามัวของโลก     เวลา 00:30:00 น. จากคุณ : ฮะ ว่าไงนะ เขียนเมื่อ : วันรัฐธรรมนูญ 54 09:49:17

ความคิดเห็นที่ 29 ไม่เป็นไรครับ อยู่เป็นเพื่อนด้วยฮับ เมื่อวานผมก็ซื้อกลับมาหน่อยนึงครับผม ถ้าหนาวที่ผู้บริหารขาย ก็มากินไอติมสู้หนาวกันต่อครับ หนาวเจอจิ้มด้วยเย็น จากคุณ : ฮะ ว่าไงนะ เขียนเมื่อ : วันรัฐธรรมนูญ 54 09:53:25

ความคิดเห็นที่ 30 ภาคเหนือ อุณหภูมิจะลดลง 2-4 องศา ทางตอนบนของภาค อากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 15-16 องศา ส่วนทางตอนล่างอากาศเย็น อุณหภูมิต่ำสุด 17-20 อุณหภูมิสูงสุด 27-30 องศา สำหรับบริเวณยอดดอยอากาศหนาวถึงหนาวจัด และมีน้ำค้างแข็งบางพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 5-11 องศา ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-30 กม./ชม. ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ อุณหภูมิจะลดลง 1-2 องศา อากาศเย็นถึงหนาวหนาว กับมีลมแรง อุณหภูมิต่ำสุด 14-19 องศา อุณหภูมิสูงสุด 26-27 องศา สำหรับบริเวณยอดภู อากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 6-11 องศา ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20-40 กม./ชม. ภาคกลาง อุณหภูมิจะลดลง 1-3 องศา อากาศเย็นในตอนเช้า อุณหภูมิต่ำสุด 19-22 องศา อุณหภูมิสูงสุด 31-32 องศา ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ภาคตะวันออก อุณหภูมิจะลดลง 1-3 องศา กับมีลมแรง อากาศเย็นในตอนเช้า อุณหภูมิต่ำสุด 19-23 องศา อุณหภูมิสูงสุด 30-31 องศา ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก) มีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ร้อยละ 70 ของพื้นที่ และมีฝนหนักบางแห่งบริเวณจังหวัดสุราษฏร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง และสงขลา อุณหภูมิต่ำสุด 22-24 องศา อุณหภูมิสูงสุด 29-32 องศา ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20-40 กม./ชม. จังหวัดชุมพรขึ้นมา ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ตั้งแต่จังหวัดสุราษฎร์ธานีลงไป ทะเลมีคลื่นสูง 2-3 เมตร ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก) มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดภูเก็ต กระบี่ ตรัง และสตูล อุณหภูมิต่ำสุด 22-24 องศา อุณหภูมิสูงสุด 31-32 องศา ลมตะวันออก ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร กรุงเทพมหานครและปริมณฑล อุณหภูมิจะลดลง 1-2 องศา อากาศเย็นในตอนเช้า กับมีลมแรง อุณหภูมิต่ำสุด 22-23 องศา อุณหภูมิสูงสุด 31-32 องศา ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. จากคุณ : ฮะ ว่าไงนะ เขียนเมื่อ : วันรัฐธรรมนูญ 54 09:54:08

ความคิดเห็นที่ 31 น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ รมว.เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) เปิดเผยว่า ไอซีทีพร้อมที่จะสนับสนุนให้บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด (ปณท.) เดินหน้าโครงการสินเชื่อเพื่อชุมชน การให้บริการธุรกิจขนส่ง (โลจิสโพสต์) เพราะเป็นการต่อยอดธุรกิจของไปรษณีย์ไทย และยังเป็นการใช้ประโยชน์จากทรัพย์สินที่มีอยู่อย่างคุ้มค่า และสร้างรายได้ให้กับไปรษณีย์ไทยมากขึ้น โดยไอซีทีขอยืนยันว่าทางรัฐบาลยังคงเดินหน้าโครงการดังกล่าวของไปรษณีย์ไทยต่อไป เพราะสอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาล ที่ต้องการให้ชุมชนและกลุ่มรากหญ้าเข้าถึงแหล่งทุนมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะในภาวะน้ำท่วมใหญ่ที่เกิดขึ้นในหลายพื้นที่ ซึ่งเชื่อว่าหลายคนต้องการสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำอย่างแน่นอน สำหรับเรื่องการแต่งตั้งกรรมการหรือบอร์ดของไปรษณีย์ไทยนั้น ไอซีทีได้ส่งรายชื่อให้กระทรวงการคลังพิจารณาเมื่อปลายเดือนตุลาคม 2554 ที่ผ่านมา แต่เนื่องจากติดปัญหาเรื่องคุณสมบัติของกรรมการบางคนไม่เป็นไปตามที่กระทรวงการคลังกำหนด อีกทั้งฝ่ายการเมืองไม่สามารถตกลงโควต้าของกรรมการได้ ทำให้ไม่สามารถจะประกาศรายชื่อบอร์ดไปรษณีย์ไทยได้ ซึ่งการแต่งตั้งที่ล่าช้านั้น ได้ส่งผลกระทบต่อการดำเนินธุรกิจของไปรษณีย์ไทยในหลายๆเรื่อง โดยเฉพาะการปล่อยสินเชื่อเพื่อชุมชน ภายใต้บริษัท สินเชื่อไปรษณีย์ไทย จำกัด ที่ได้จัดตั้งบริษัทเป็นที่เรียบร้อยแล้ว แต่ต้องรอบอร์ดอนุมัติให้แต่งตั้งกรรมการผู้จัดการ และทีมงานในการขับเคลื่อนการปล่อยเงินให้กับชุมชน "อย่างไรก็ตามผมได้ส่งรายชื่อของบุคคลที่จะดำรงตำแหน่งกรรมการหรือบอร์ดไปรษณีย์ไทยไปให้กระทรวงการคลังพิจารณาแล้ว ส่วนจะแต่งตั้งเมื่อใดนั้น เป็นเรื่องของกระทรวงการคลัง เนื่องจากเป็นผู้ถือหุ้นในไปรษณีย์ไทยสัดส่วน 100% ซึ่งไอซีทีในฐานะหน่วยงานที่กำกับดูแลไปรษณีย์ไทยก็พยายามที่จะให้ไปรษณีย์ไทยเดินหน้าโครงการต่างๆที่เป็นประโยชน์ต่อองค์กร และให้บริการประชาชนได้อย่างทั่วถึง" น.อ.อนุดิษฐ์ กล่าว นอกจากนี้ยังมีโครงการปรับโครงสร้างของไปรษณีย์ไทย รวมถึงการปรับปรุงระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ (ไอที) เพื่อให้สอดคล้องกับการใช้งานและทันสมัย เนื่องจากระบบดังกล่าวได้ใช้งานมานานหลายปีแล้ว จำเป็นต้องปรับปรุงให้ทันสมัยและรองรับการให้บริการที่หลากหลายมากขึ้น จากคุณ : ฮะ ว่าไงนะ เขียนเมื่อ : วันรัฐธรรมนูญ 54 09:57:01

ความคิดเห็นที่ 32 มีแนวโน้มว่าปีหน้านี่น่าจะเล่นสายธนาคารกับหลักทรัพย์กันนะครับ "แบงก์ชาติ" หนุน'เกียรตินาคิน ควบรวมบล.ภัทร'เชื่อภาคธุรกิจ-ผู้บริโภคได้ประโยชน์ ชี้เป็นไปตามแผนแม่บทการเงินฉบับ2 คาดอนาคตอาจมีให้เห็นอีก นายเกริก วณิกกุล รองผู้ว่าการ ด้านเสถียรภาพสถาบันการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) กล่าวว่า การควบรวมกิจการระหว่างธนาคารเกียรตินาคิน กับ บล.ภัทร น่าจะเป็นผลดีต่อระบบสถาบันการเงิน และเป็นเรื่องที่ธปท.คาดเอาไว้อยู่แล้วว่าจะเกิดเหตุการณ์ลักษณะนี้ขึ้น ซึ่งเป็นไปตามแผนแม่บทพัฒนาระบบสถาบันการเงินฉบับที่2 ซึ่งธปท.เองก็ให้การสนับสนุน “ผมว่าหากรวมแล้วเข้มแข็งขึ้นก็เป็นสิ่งที่ดีต่อระบบ โดยปกติแล้วเราจะเห็นการรวมตัวของแบงก์กับแบงก์ด้วยกันเองก่อน ต่อมาก็จะเป็นลักษณะแบงก์กับธุรกิจอื่น ดังนั้นจากนี้ไปคงเป็นเรื่องที่ต้องติดตามดูกัน ซึ่งก็เป็นการรวมตัวตามแผนแม่บทการเงินฉบับ2 และเป็นสิ่งที่คาดการณ์ไว้อยู่แล้ว เพราะถ้าตลาดใหญ่ขึ้น คนตัวเท่าเดิมการเดินก็คงจะช้า”นายเกริกกล่าว นายรณดล นุ่มนนท์ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายตรวจสอบ1 ธปท. กล่าวว่า การควบกิจการกันในลักษณะนี้น่าจะเป็นประโยชน์กับภาคธุรกิจและตัวผู้บริโภคเอง ซึ่ง ธปท.พร้อมให้การสนับสนุนอยู่แล้ว และในอนาคตเชื่อว่าจะมีการควบรวมกิจการกันในลักษณะนี้ขึ้นอีก โดยเฉพาะการรวมกันระหว่างธนาคารพาณิชย์กับบริษัทหลักทรัพย์ หรือระหว่างบริษัทหลักทรัพย์กับบริษัทหลักทรัพย์ด้วยกันเอง “น่าจะมีให้เห็นอีก โดยเฉพาะระหว่างแบงก์กับโบรกเกอร์ หรือแม้แต่โบรกเกอร์กับโบรกเกอร์ เพราะปีหน้าจะเริ่มเปิดเสรีธุรกิจหลักทรัพย์ ขณะที่แบงก์เองก็ต้องเตรียมพร้อมในการเข้าสู่AEC(ประชาคมธุรกิจอาเซียน) และการรวมกันในลักษณะนี้ ก็น่าจะได้ประโยชน์กับทั้งคู่ด้วย”นายรณดลกล่าว เขากล่าวด้วยว่า โดยปกติธนาคารพาณิชย์จะควบรวมกิจการกับใครก็จำเป็นต้องมาขออนุญาตกับธปท.ก่อน ซึ่งธปท.จะพิจารณาว่าการควบรวมดังกล่าวเป็นประโยชน์กับภาคธุรกิจและผู้บริโภคได้ประโยชน์นั้นด้วยหรือไม่ เพียงแต่ไม่สามารถเปิดเผยได้ว่าใครมาขออนุญาตแล้วบ้าง แต่อย่างน้อยการควบรวมระหว่างธนาคารเกียรตินาคินกับบล.ภัทรก็น่าจะเป็นสัญญาณที่ดี จากคุณ : ฮะ ว่าไงนะ เขียนเมื่อ : วันรัฐธรรมนูญ 54 09:58:36

ความคิดเห็นที่ 33 สวัสดี_ทุกๆท่าน รูปสองล้อในงานmotor expo 2011 http://www.pantip.com/cafe/ratchada/topic/V11418722/V11418722.html จากคุณ : C_yada เขียนเมื่อ : วันรัฐธรรมนูญ 54 09:59:35

ความคิดเห็นที่ 34 สวัสดีคุณyai-cho และทุกๆท่านครับ ชอบกระทู้ดีมีสาระแบบนี้จังครับ จากคุณ : กระดาษโน๊ต เขียนเมื่อ : วันรัฐธรรมนูญ 54 10:01:29

ความคิดเห็นที่ 35 ตามไปดูลิ้งค์มา แต่ไม่ได้ดูเลยนะว่ามีรถรุ่นไหน มีแต่ดูพริตตี้ว่าเจ้าไหนสวยนะ อุ๊บ   อาการงูออกมาร่ายรำเลยวุ๊ยเรานี่ เก็บๆก่อนครับ อิอิ บริษัทศูนย์วิจัยกสิกรไทย สรุปภาวะตลาดเงินรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา (6-9 ธ.ค.) เงินบาทผันผวนในทิศทางที่อ่อนค่าลง โดยในช่วงต้นสัปดาห์ เงินบาทอ่อนค่าลงตามแรงขายสินทรัพย์เสี่ยง ท่ามกลางความกังวลต่อการประกาศทบทวนอันดับเครดิตของหลายประเทศในยูโรโซนโดย S&P กระนั้นก็ดี เงินบาทลดช่วงติดลบทั้งหมดลง หลังจากที่ความหวังต่อมาตรการแก้วิกฤตหนี้ยุโรปจากธนาคารกลางยุโรป (ECB) และที่ประชุม EU Summit ช่วยหนุนทิศทางเงินยูโร และเงินเอเชียให้ฟื้นตัวขึ้นบางส่วน นอกจากนี้ เงินบาทยังมีปัจจัยบวกจากการเข้าซื้อสุทธิหุ้นไทยของนักลงทุนต่างชาติอีกด้วย เงินบาทกลับมาอ่อนค่าลงอีกครั้งในช่วงท้ายสัปดาห์ หลังจากที่ตลาดมองว่า ECB และทางการยุโรป ยังคงไม่ประกาศมาตรการที่แข็งกร้าวต่อการจัดการวิกฤตออกมาตามที่ตลาดคาดหวังไว้ ในวันศุกร์ (9 ธ.ค.) เงินบาทอยู่ที่ 30.92 จาก 30.75 บาทต่อดอลลาร์ฯ ในวันศุกร์ก่อนหน้า (2 ธ.ค.)             สำหรับแนวโน้มสัปดาห์ถัดไป (12-16 ธันวาคม 2554) เงินบาทอาจเคลื่อนไหวในกรอบ 30.70-31.05 บาทต่อดอลลาร์ฯ โดยคงต้องจับตาพัฒนาการของวิกฤตหนี้ยูโรโซน-การตอบรับของตลาดการเงินต่อผลการประชุมสุดยอดสหภาพยุโรป การประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ (13 ธ.ค.) ตลอดจนการรายงานตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญ ได้แก่ ผลสำรวจภาคการผลิตของเฟดสาขานิวยอร์ก ผลสำรวจแนวโน้มธุรกิจของเฟดสาขาฟิลาเดลเฟียเดือนธ.ค. ผลผลิตภาคอุตสาหกรรม ยอดค้าปลีก ดัชนีราคาผู้บริโภค ดัชนีราคาผู้ผลิต งบประมาณของรัฐบาลกลางเดือนพ.ย. ข้อมูลเงินทุนไหลเข้าสุทธิสู่ตลาดการเงินสหรัฐฯ สต็อกสินค้าคงคลังภาคธุรกิจเดือนต.ค.ดุลบัญชีเดินสะพัดประจำไตรมาส 3/2554  และจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ ด้านเงินยูโรแตะระดับต่ำสุดในรอบ 1 สัปดาห์ก่อนฟื้นตัวขึ้น เงินยูโรทรงตัวในช่วงต้น-กลางสัปดาห์ ท่ามกลางความหวังต่อการแก้วิกฤตหนี้ยุโรปจาก ECB และทางการยุโรป แม้ว่า S&P ได้ออกมาเตือนว่า อาจมีการทบทวนอันดับเครดิตของประเทศสมาชิกยูโรโซนหลังจากประเมินความคืบหน้าจากผลการประชุม EU Summit แล้ว กระนั้นก็ดี เงินยูโรต้องลดช่วงบวกทั้งหมดลง หลังปราศจากสัญญาณการเพิ่มปริมาณเข้าซื้อพันธบัตรรัฐบาลยูโรโซนจากการประชุมนโยบายการเงินของ ECB แม้ว่าจะมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงมาที่ 1.0% และประกาศมาตรการด้านสภาพคล่องเพิ่มเติมก็ตาม นอกจากนี้ ความไม่แน่นอนก่อนผลการประชุม EU Summit ก็กระตุ้นแรงเทขายเงินยูโรด้วยเช่นกัน อย่างไรก็ดี การคาดการณ์ว่า ECB ยังคงเข้าซื้อพันธบัตรรัฐบาลอิตาลี ช่วยหนุนให้เงินยูโรฟื้นตัวขึ้นอีกครั้งในช่วงท้ายสัปดาห์ เงินเยนทยอยแข็งค่าตลอดสัปดาห์ ท่ามกลางความผิดหวังต่อแผนการแก้วิกฤตหนี้ยุโรปจากที่ ECB และที่ประชุม EU Summit ที่ยังคงไม่ประกาศมาตรการที่แข็งกร้าวออกมา ในวันศุกร์ (9 ธ.ค.) เงินยูโรอยู่ที่ 1.3419 เทียบกับ 1.3402 ดอลลาร์ฯ ต่อยูโรในวันศุกร์ก่อนหน้า (2 ธ.ค.) ส่วนเงินเยนอยู่ที่ 77.72 จาก 77.99 เยนต่อดอลลาร์ฯ ในวันศุกร์ก่อนหน้า จากคุณ : ฮะ ว่าไงนะ เขียนเมื่อ : วันรัฐธรรมนูญ 54 10:13:30

ความคิดเห็นที่ 36 "วิกรม" ระบุ วิกฤตน้ำท่วม ทำนักลงทุนต่างหนีซบอกเพื่อนบ้าน แนะรัฐบาลวางแผนป้องกันวิกฤติซ้ำ คาดโรงงานกว่า 100 แห่ง เตรียมย้ายฐานซบอกนิคมอมตะ นายวิกรม กรมดิษฐ์ ประธานกรรมการบริหาร บมจ. อมตะ คอร์ปอเรชัน กล่าวว่า เหตุการณ์น้ำท่วมที่ผ่านมาจะส่งผลกระทบต่อด้านการลงทุนในประเทศไทยระยะยาว เพราะขณะนี้นักลงทุนต่างชาติที่ประสบปัญหา ส่วนใหญ่ได้มีการเตรียมแผนที่จะย้ายฐานการผลิตเพื่อหนีปัญหาน้ำท่วมไปยังประเทศเพื่อนบ้านของเราแล้ว ทั้งเวียดนาม และกัมพูชา โดยเฉพาะภาคอุตสาหกรรมด้านอิเล็กทรอนิกส์ และโรงงานผลิตเกี่ยวกับอุปกรณ์ถ่ายภาพชื่อดังได้ย้ายฐานการลงทุนไปยังประเทศกัมพูชา และเวียดนาม ขณะนี้นักลงทุนมองว่าสถานการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นอุทกภัยที่หนักหนาสาหัส และยังมีอีกหลายคนก็ยังมองว่าสถานการณ์ที่เกิดขึ้น หลายอย่างเกิดขึ้นจากการบริหารด้วย ถ้าการบริหารจัดการไม่ดีความเสียหายก็ย่อมมีมาก และก็มากขึ้นอย่างที่เห็น ต่อไปนักลงทุนก็จะต้องหาทางหลีกเลี่ยง ว่า จะไม่ให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ได้อย่างไรกับสถานประกอบการของตน ด้วยการหันไปเลือกหาพื้นที่ใหม่ ที่ยังไม่เคยเกิดปัญหานี้มาก่อนเพื่อเป็นการป้องกันไว้ก่อนโดยไม่ประมาท "บทเรียนในครั้งนี้ รัฐบาลควรมองถึงความรุนแรงในอนาคต โดยให้สมมุติว่าจะเกิดความรุนแรงเพิ่มขึ้นอีกกว่าเท่าตัว ในการหาทางป้องกันแก้ไขปัญหา ซึ่งที่ผ่านมานั้นรัฐบาลยังไม่มี ประสบการณ์ และถือเป็นมือใหม่ กับวิกฤติใหม่ จนทำให้เกิดความเสียหายอย่างหนักต่อประเทศ โดยเฉพาะในภาคอุตสาหกรรม จึงต้องกลับมาคิดทบทวนวางแผน ว่า หากเหตุการณ์เช่นนี้กลับมาเกิดขึ้นอีก เราจะทำอย่างไร และต้องมองว่าหากมีภัยพิบัติเกิดซ้ำขึ้นมาจะยิ่งทวีความรุนแรงเพิ่มมากขึ้น และจะมีความถี่ของการเกิดมากยิ่งขึ้นด้วย" นายวิกรม  กล่าว สำหรับภาคธุรกิจ หากจะมองหาพื้นที่ในการลงทุนต่อไป ก็ต้องคำนึงถึงทำเลที่ตั้ง ภูมิศาสตร์ของพื้นที่ด้วยว่าจะประสบปัญหาอุทกภัยจากน้ำท่วมหรือไม่ ซึ่งการเลือกที่ตั้งนั้นอาจจะต้องมองหาพื้นที่ในระดับที่สูงกว่าน้ำทะเลอย่างน้อย 20 เมตรขึ้นไป นายชูชาติ สายถิ่น ผู้จัดการบริษัท อมตะ วอเตอร์ จำกัด กล่าวว่า ขณะนี้ทาง อมตะฯ ได้มีการเตรียมแผนงานการทำโครงการเมืองอุตสาหกรรมเชิงนิเวศ ให้เป็นอุตสาหกรรมสีเขียว เพื่อลดมลภาวะด้านสิ่งแวดล้อม ไว้รองรับการเติบโตที่จะเพิ่มมากขึ้นของนิคมฯ ซึ่งขณะนี้นิคมอมตะ นคร มีโรงงานอยู่ภายในนิคมฯ กว่า 700 แห่ง บนเนื้อที่กว่า 2 หมื่นไร่ ครอบคลุมพื้นที่กว่า 20 ตำบล ใน 4 อำเภอ คือ อ.เมืองชลบุรี อ.พนัสนิคม อ.พานทอง และ อ.บางปะกง ในเขต จ.ฉะเชิงเทรา ขณะนี้ผู้ประกอบการอุตสาหกรรมที่เคยมีโรงงานอยู่ในพื้นที่น้ำท่วมเตรียมแผนระยะยาว ในการที่จะย้ายโรงงานเข้ามาในนิคมอมตะ โดยหลายโรงงานได้ติดต่อสอบถาม ประสานขอข้อมูลการเข้ามาดำเนินกิจการยังภายในนิคมฯ วันละ 5-10 ราย เพื่อที่จะเข้ามาทำการลงทุนตั้งโรงงานอยู่ในพื้นที่ จึงทำให้มีแนวโน้มว่าจะมีการเติบโตเพิ่มมากขึ้น คาดว่าหลังจากผ่านวิกฤติน้ำท่วมใหญ่ในภาคกลางครั้งนี้ไปแล้ว จะมีโรงงานอุตสาหกรรมย้ายเข้ามาตั้งฐานการผลิตอยู่ในนิคมฯ อีกไม่น้อยกว่า 100 โรงงาน จากคุณ : ฮะ ว่าไงนะ เขียนเมื่อ : วันรัฐธรรมนูญ 54 10:21:16

ความคิดเห็นที่ 37 สกุลเงินยูโรดีดตัวขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (9 ธ.ค.) เนื่องจากนักลงทุนขานรับที่ประชุมสหภาพยุโรป (อียู) มีมติใช้บทบัญญัติด้านการคลังเพื่อควบคุมการขาดดุลงบประมาณและการลุกลามของวิกฤตหนี้ในยูโรโซน ค่าเงินยูโรดีดตัวขึ้น 0.19% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.3370 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับของวันพฤหัสบดีที่ 1.3345 ดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่เงินปอนด์ยับขึ้น 0.12% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.5657 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.5639 ดอลลาร์สหรัฐ ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนตัวลง 0.21% เมื่อเทียบกับเงินเยนที่ระดับ 77.520 เยน จากระดับ 77.680 เยน และอ่อนตัวลง 0.24% เมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ระดับ 0.9235 ฟรังค์ จากระดับ 0.9257 ฟรังค์ ส่วนค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียพุ่งขึ้น 0.50% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.0216 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.0165 ดอลลาร์สหรัฐ และค่าเงินดอลลาร์นิวซีแลนด์แข็งค่าขึ้น 0.32% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 0.7744 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7719 ดอลลาร์สหรัฐ สกุลเงินยูโรแข็งค่าขึ้นหลังจากที่ประชุมอียูมีมติให้มีการใช้บทบัญญัติทางการคลังฉบับใหม่ โดยกำหนดว่าประเทศสมาชิกควรมียอดขาดดุลงบประมาณต่อปีไม่เกิน 0.5% ของจีดีพี แม้มติดังกล่าวไม่เป็นเอกฉันท์เนื่องจากอังกฤษปฏิเสธที่จะให้การสนับสนุนบทบัญญัตินี้เพราะต้องการคุ้มครองภาคการเงินภายในประเทศของตนเอง อย่างไรก็ตาม สกุลเงินยูโรได้รับแรงกดดันในระหว่างวัน หลังจากธนาคารกลางเยอรมนีปรับลดคาดการณ์การขยายตัวของจีดีพีปี 2555 ลงมาอยู่ที่ระดับ 0.6% จากเดิมที่คาดว่าจะขยายตัว 1.8% หลังจากเศรษฐกิจเยอรมนีได้รับผลกระทบอย่างหนักจากการวิกฤตหนี้สาธารณะและชะลอตัวลงของเศรษฐกิจในกลุ่มยูโรโซนซึ่งเป็นตลาดส่งออกหลักของเยอรมนี ความคืบหน้าในด้านบวกจากยุโรปได้กระตุ้นให้นักลงทุนเข้าซื้อสกุลเงินยูโรซึ่งมีอัตราผลตอบแทนสูงกว่าดอลลาร์สหรัฐ จึงทำให้สกุลเงินดอลลาร์อ่อนตัวลง แม้สหรัฐเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง รวมถึงดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคช่วงต้นเดือนธ.ค.ของสหรัฐ พุ่งขึ้นสู่ระดับ 67.7 จุด เมื่อเทียบกับช่วงท้ายเดือนพ.ย.ที่ระดับ 64.1 จุด ซึ่งมากกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์ไว้ที่ 65.5 จุด นอกจากนี้ สหรัฐเปิดเผยว่ายอดขาดดุลการค้าเดือนต.ค.ของสหรัฐร่วงลง 1.6% จากเดือนก.ย. สู่ระดับ 4.35 หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 10 เดือน และเป็นการปรับตัวลงติดต่อกันเป็นเดือนที่ 4 จากคุณ : พอร์ตคุณใหญ่(อด)โชว์ (ฮะ ว่าไงนะ) เขียนเมื่อ : วันรัฐธรรมนูญ 54 10:34:45

ความคิดเห็นที่ 38 หุ้นเล็กพุ่งสวนดัชนี ยูนิคไมนิ่ง วิ่ง 15% รับข่าวเปิดคลังสินค้า-ท่าเรือที่อยุธยา ขณะที่เกียรติธนา ขนส่งแตะซิลลิ่ง ทำนิวไฮในรอบ 3 เดือน บรรยากาศการซื้อขายหุ้นบริษัท ยูนิค ไมนิ่ง เซอร์วิสเซส  หรือ UMS ปิดการซื้อขายที่ 14.70 บาท เพิ่มขึ้น 2 บาท หรือ 15.75% ระหว่างวันทำราคาสูงสุดที่ 16 บาท มูลค่าการซื้อขาย 69.48 ล้านบาท และบริษัท เกียรติธนา ขนส่ง หรือ KIAT ปิดการซื้อขายที่ 14.30 บาท เพิ่มขึ้น 3.30 บาท หรือ 30% ระหว่างวันทำราคาสูงสุดที่ 14.30 บาท ซึ่งเป็นราคาสูงสุดของวัน และเป็นราคาสูงสุดในรอบ 3 เดือน มูลค่าการซื้อขาย 84.98 ล้านบาท   ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการสอบถามไปยังผู้บริหารทั้งสองบริษัท ต่างก็ไม่ทราบสาเหตุที่ราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างร้อนแรง โดย ผู้บริหารจากบริษัท ยูนิค ไมนิ่ง เซอร์วิสเซส หรือ UMS เปิดเผยว่า ราคาหุ้นบริษัท ยูนิค ไมนิ่ง เมื่อวานนี้(9 ธ.ค.) ปรับตัวขึ้นสูง แต่บริษัทไม่ทราบสาเหตุ โดยปัจจุบัน บริษัทยังคงดำเนินธุรกิจตามปกติ ส่วนคลังสินค้าและท่าเรือใน จ.พระนครศรีอยุธยา ที่ต้องปิดไปเพราะสถานการณ์น้ำท่วมนั้น ล่าสุดกลับมาเปิดให้บริการได้แล้ว แหล่งข่าวบริษัท เกียรติธนา ขนส่ง กล่าวว่า สาเหตุที่ราคาหุ้นปรับขึ้นอย่างมีนัยสำคัญนั้น บริษัทไม่ทราบสาเหตุ แต่เชื่อว่านักลงทุนอาจจะเริ่มมั่นใจในบริษัท หลังจากที่บริษัทได้กลับมาดำเนินการตามปกติตั้งแต่วันที่ 14 พ.ย. เพราะสถานการณ์น้ำท่วมบริเวณรอบๆ สำนักงานใหญ่ ซึ่งตั้งอยู่ที่ ต.บางตะไนย์ อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี สถานการณ์เริ่มดีขึ้นโดยน้ำบริเวณรอบๆ สำนักงานเริ่มลดลงทำให้สามารถเดินทางเข้าออกสำนักงานได้ นักวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ธนชาต กล่าวว่า จากการตรวจสอบสัญญาณทางเทคนิคราคาหุ้น KIAT ปรับตัวเพิ่มขึ้นแรงในการซื้อขายเมื่อวานนี้ (9 ธ.ค.) และมีแนวโน้มเป็นขาขึ้นได้ จากก่อนหน้านี้ราคาหุ้นปรับลดลงมามาก ซึ่งในระยะยาวราคาหุ้นมีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อ อย่างไรก็ตาม แนะนำนักลงทุนระยะสั้นเก็งกำไรอย่างระมัดระวัง  โดยประเมินแนวต้านอยู่ที่ 15 บาท ขณะที่แนวรับอยู่ที่ 11.50 บาท จากคุณ : พอร์ตเล็กยิ่งไม่กล้าโชว์ (ฮะ ว่าไงนะ) เขียนเมื่อ : วันรัฐธรรมนูญ 54 10:53:32

ความคิดเห็นที่ 39 บริษัทศูนย์วิจัยกสิกรไทย และบริษัทหลักทรัพย์กสิกรไทย สรุปภาวะตลาดหุ้นไทยรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา (6-9 ธ.ค.) ดัชนี SET ลดช่วงบวกลง จากแรงขายทำกำไรก่อนการประชุมสุดยอดผู้นำยุโรป โดยดัชนีปิดที่ระดับ 1,034.00 จุด เพิ่มขึ้น 0.45% จากสัปดาห์ก่อน ด้านมูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันเพิ่มขึ้น 10.94% จากสัปดาห์ก่อน มาอยู่ที่ 27,676.59 ล้านบาท โดยนักลงทุนต่างชาติ และบัญชีบริษัทหลักทรัพย์ซื้อสุทธิ ขณะที่ นักลงทุนสถาบัน และนักลงทุนรายย่อยขายสุทธิ ส่วนตลาดหลักทรัพย์ MAI ปิดที่ 272.45 จุด เพิ่มขึ้น 3.04% จากสัปดาห์ก่อน ดัชนีหุ้นไทยปรับตัวขึ้นในวันอังคารและพุธ จากความคาดหวังในเชิงบวกต่อการประชุมสุดยอดผู้นำสหภาพยุโรป (EU Summit) ในช่วงปลายสัปดาห์ และการรายงานผลประกอบการบริษัทจดทะเบียนที่ออกมาดี แต่ดัชนีปรับลงช่วงท้ายสัปดาห์ ตามตลาดหุ้นภูมิภาค จากแรงขายทำกำไร ขณะที่นักลงทุนรอผลการประชุมสุดยอดผู้นำสหภาพยุโรป สำหรับแนวโน้มสัปดาห์ระหว่างวันที่ 13-16 ธ.ค. 2554 บริษัทหลักทรัพย์กสิกรไทย จำกัด และบริษัท ศูนย์วิจัยกสิกรไทย จำกัด มองว่า ดัชนีอาจยังแกว่งขึ้นต่อ โดยได้รับแรงหนุนจากแรงซื้อ LTF และ RMF แม้คงจะมีแรงขายทำกำไรบ้าง นอกจากนี้ คงจะต้องติดตามผลการประชุมสุดยอดผู้นำสหภาพยุโรป และผลการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐฯ (13 ธ.ค.) สำหรับรายงานตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญ ได้แก่ ยอดค้าปลีก การผลิตอุตสาหกรรม และตัวเลขเงินเฟ้อ ทั้งนี้ บริษัทหลักทรัพย์กสิกรไทย จำกัด คาดว่า ดัชนีจะมีแนวรับที่ 1,029 และ 1,014 จุด ขณะที่แนวต้านคาดว่าจะอยู่ที่ 1,065 และ 1,078 จุด ตามลำดับ จากคุณ : ฮะ ว่าไงนะ เขียนเมื่อ : วันรัฐธรรมนูญ 54 10:56:10

ความคิดเห็นที่ 40 นายเกลนน์ สตีเวนส์ ผู้ว่าการธนาคารกลางออสเตรเลีย (อาร์บีเอ) กล่าวว่า การเรียกร้องให้ประเทศที่มีทุนสำรองเงินตราระหว่างประเทศเป็นจำนวนมากเข้าช่วยเหลือชาติตะวันตกที่มีหนี้สินนั้น จะทำให้เกิดภาวะไร้สมดุลมากขึ้น และยิ่งทำให้ปัญหาของประเทศที่ประสบปัญหาอยู่แล้ว ประสบปัญหายืดเยื้อออกไป  โดยประเทศที่มีทุนสำรองจำนวนมากจะต้องการอำนาจมากขึ้นในด้านการกำกับดูแลระดับโลก เช่น การมีอำนาจมากขึ้นในกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) ทำให้มีความเสี่ยงว่า ทิศทางปัจจุบัน ที่จะมีการใช้กฎระเบียบที่เข้มงวดขึ้นสำหรับธนาคารทั่วโลก อาจจะดำเนินไปมากกว่าที่วางแผนในเบื้องต้น ซึ่งจะนำไปสู่ การกดขี่ทางการเงิน รูปแบบหนึ่ง จากคุณ : ฮะ ว่าไงนะ เขียนเมื่อ : วันรัฐธรรมนูญ 54 11:00:24

ความคิดเห็นที่ 41 วันก่อนดู หมัดเสือ ชกชนะในรายการที่มาเลเซีย ได้เงินรางวัล 100000 เหรียญ ชกใช้ได้เลย แต่ไม่นึกว่าจะร่วงที่งานนี้ มวยไทยคว้าทอนเกลียวเชือก 7 อายุกีฬาต่อสู้โลก Dec 9, 2011 มวยไทย : การเคลื่อนไหว มวยไทย การประกวดกีฬาเผชิญโลก ครั้งที่ 1 “สปอร์ตแอคคอร์ดคอมแบทเกมส์” ที่กรุงกรุงปักกิ่ง สาธารณรัฐราษฎรจีน เมื่อวันที่ 30 ส.ค.ที่ผ่านมา นักมวยไทยพักการประกวด เพราะ 8 นักมวยไทยสามารถทะลุเข้าสู่รอบรองชนะเลิศได้ 7 รุ่น มีเพียง “มาดเสือ ป.พงษ์สว่าง” พิษณุ กุลชาติ ที่เป็นมวยแทนรุ่น 81 กก.พลาดท่าพ่ายคะแนนให้ ดิมิทรีซ์ อับดูลิน จากเบลารุส ในรอบก่อนรองชนะเลิศ มวยไทย เมื่อช่วงมิดไนท์วันที่ 29 ส.ค. ซึ่ง 7 นักมวยไทย ลงฝึกซ้อมที่โฮเต็ลเฟรนชิพ ภายใต้ การคุมของ นายสุรัตน์ เสียงหล่อ ผู้บัญชาการผู้สอน และนายชูชาติ หลวงพล ระหว่างฝึกซ้อมมวยไทย จัดหามาความเอาใจใส่จากคนจีนและชาวต่างชาติที่โปรดศิลป์แม่ไม้ มวยไทยมาไล่ตามชมอย่างเคียง นายสุรัตน์ กล่าวหลังการฝึกซ้อมมวยไทย ว่า การที่นักมวยไทยลอดเข้ารอบรองชนะเลิศ 7 รุ่น ถือว่าดำเนินต่อไปตามวัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้ และเชื่อว่าการต่อยในรอบรองชนะเลิศวันที่ 31 ส.ค. นักมวยไทยจะลอดเข้าถึงรอบชิงชนะเลิศได้ครบทุกรุ่น แม้ว่าจะลำบากใจในรุ่น 71 กก. “เฉลิมเดช ส.ตะวันรุ่ง” ธีระพงศ์ ดี ที่จะต้องตัดเชือกกับ อาเธอร์ คิเชนโก้ จากยูเครนที่ต่อยเค-วัน มาอย่างโชกโชน แต่เชื่อการชกแบบเค-วันที่ปลอมแบบมวยไทยไปประยุกต์ยังเป็นรอง อยู่มาก ทั้งนี้ตนชัวร์ว่า 7 รุ่นของไทยจะคว้าได้ครบ 7 เหรียญทองเที่ยงแท้ อาจารย์อมรกฤต ประมวญ หรือ ครูแปรงของเหล่าศิษย์มวยไทยบรรดาเป็นผู้สืบทอดวิชา สานต่อเจตนารมย์จากบูรพาจารย์ที่สืบสายวิชามวยที่ถูกลืมไป จากคุณ : ไม่ครบยก (ฮะ ว่าไงนะ) เขียนเมื่อ : วันรัฐธรรมนูญ 54 11:25:44

ความคิดเห็นที่ 42 "กู๊ดเยียร์"ชี้น้ำท่วมไทยจ่อกระทบธุรกิจยางล้อเครื่องบินขาดแคลนต้นปีหน้า-เร่งผลิตเพิ่มจากโรงงานหลายแห่งในสหรัฐเข้ามาชดเชย กู๊ดเยียร์ ไทร์ แอนด์ รับเบอร์ โค (จีที) ผู้ผลิตยางชั้นนำของโลก เผยว่า ปัญหาขาดแคลนวัตถุดิบ จากเหตุน้ำท่วมใหญ่ในไทยในปีนี้ อาจจะลุกลามไปถึงอุตสาหกรรมผลิตยางสำหรับล้อเครื่องบินและอาจจะทำให้ยางล้อเครื่องบินช่วงเดือนกุมภาพันธ์หรือมีนาคม ประสบปัญหาขาดแคลน เมื่อวันศุกร์ (9ธ.ค.)ที่ผ่านมา กู๊ดเยียร์ ระบุว่า โรงงานผลิตยางสำหรับเครื่องบินในกรุงเทพฯ ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมใหญ่ในไทย ส่งผลให้โรงงานต้องหยุดผลิตชั่วคราว ซึ่งมีความเป็นไปได้ว่า การยุติการผลิตชั่วคราว จะส่งผลทำให้เกิดภาวะขาดแคลนยางที่อาจจะทำให้อุตสาหกรรมการบินเชิงพาณิชย์พลอยได้รับผลกระทบไปด้วยในช่วงต้นปีหน้า อย่างไรก็ตาม กู๊ดเยียร์ ยอมรับว่า ยังไม่สามารถประเมินมูลค่าความเสียหายที่จะเกิดกับตลาดยางล้อเครื่องบินได้ จนกว่าปัญหาน้ำท่วมจะหมดไปจากประเทศไทย ในช่วงสัปดาห์สุดท้ายของเดือนพ.ย.นี้ นอกจากนี้ ผู้ผลิตยางชั้นนำโลก ยังกล่าวด้วยว่า กำลังมองหาแหล่งผลิตทางเลือกอื่นให้แก่บรรดาลูกค้า พร้อมทั้งมองหาผู้ผลิตยางเครื่องบินรายอื่นๆ เข้ามาช่วยแก้ปัญหาขาดแคลนยางที่จะเกิดขึ้น พร้อมกันนั้น บริษัทได้เพิ่มกำลังการผลิตยางรุ่นใหม่ๆ และหวนกลับไปใช้โรงงานผลิตที่อริโซนา จอร์เจีย เวอร์จิเนีย และเนเธอร์แลนด์ เป็นแหล่งผลิตชดเชยโรงงานผลิตยางในไทยที่ประสบปัญหาจากน้ำท่วมใหญ่ เมื่อไม่นานมานี้ กู๊ดเยียร์ รายงานกำไรไตรมาส 3 แม้ว่าต้นทุนยางจะสูงขึ้น แต่บริษัทได้ประโยชน์จากการขายยางราคาแพงในตลาดสหรัฐ และคำสั่งซื้อยางรถยนต์สำหรับช่วงฤดูหนาวที่กำลังจะมาถึงจากยุโรปปริมาณมาก จากคุณ : ไอออนแมนกระดาษ (ฮะ ว่าไงนะ) เขียนเมื่อ : วันรัฐธรรมนูญ 54 11:43:47

ความคิดเห็นที่ 43 รูปทำจากงานกระดาษ แก้ไขเมื่อ 10 ธ.ค. 54 11:56:26 จากคุณ : ฮะ ว่าไงนะ เขียนเมื่อ : วันรัฐธรรมนูญ 54 11:56:14

ความคิดเห็นที่ 44 ใต้ทะเล จากคุณ : ฮะ ว่าไงนะ เขียนเมื่อ : วันรัฐธรรมนูญ 54 11:57:33

ความคิดเห็นที่ 45 หนูน้อยหมวกแดง จากคุณ : ฮะ ว่าไงนะ เขียนเมื่อ : วันรัฐธรรมนูญ 54 11:58:19

ความคิดเห็นที่ 46 มูดีส์ อินเวสเตอร์ เซอร์วิส บริษัทจัดอันดับความน่าเชื่อถือทางการเงิน ประกาศลดอันดับความน่าเชื่อถือการชำระหนี้และความเข้มแข็งโดยรวมธนาคารขนาดใหญ่ 3 แห่งของฝรั่งเศส ภายหลังพิจารณาทบทวนแล้ว ซึ่งประกอบด้วยธนาคารบีเอ็นพี พารีบาส์ ธนาคารโซซิเยเต้ เจเนราล และธนาคารเครดิต อากริโคล    ทั้งนี้ แถลงการณ์ของมูดีส์ระบุว่า การลดอันดับความน่าเชื่อถือดังกล่าวเป็นเพราะสภาพเงินทุนและสภาพคล่องที่แย่ลง รวมถึงสภาพแวดล้อมการดำเนินงานที่เปราะบางของธนาคารยุโรป ซึ่งการลดอันดับความน่าเชื่อถือครั้งนี้มีขึ้นหลังผู้คุมกฎระเบียบการธนาคารกล่าวเมื่อวานนี้ว่า ธนาคารของยุโรปจะต้องเพิ่มทุนประมาณ 115,000 ล้านยูโร เพื่อให้ได้ตามมาตรฐานใหม่การสร้างเกราะคุ้มกันธนาคารจากความปั่นป่วนของตลาดการเงิน. กะเทยกลัวอะไรมากที่สุด___________กลัวกระทิงแดงดิ เพราะกินแล้วเป็นลูกผู้ชายตัวจริง จากคุณ : ฮะ ว่าไงนะ เขียนเมื่อ : วันรัฐธรรมนูญ 54 12:06:12

ความคิดเห็นที่ 47 "ธีระ" ปัดตอบ โดนเขี่ยออก ครม.อ้างทำดีที่สุดแล้ว     ที่อาคารรัฐสภา นายธีระ วงศ์สมุทร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ให้สัมภาษณ์ถึงกระแสข่าวการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) โดยอาจมีชื่อของตนเองถูกปรับออกด้วยนั้น ว่า ไม่มีความเห็น แต่ตนเฉยๆ ตนทำดีที่สุดแล้ว ดังนั้น ขอไม่พูดแล้วกัน แต่ให้ไปถามผู้มีอำนาจ ทําอย่างไรถึงจะได้เป็นครู______ทําผิด เพราะผิดเป็นครู(คำขวัญจีนี่) จากคุณ : หน้าคน (ฮะ ว่าไงนะ) เขียนเมื่อ : วันรัฐธรรมนูญ 54 12:09:02

ความคิดเห็นที่ 48 สวัสดีครับพี่โน๊ตแวะมาอ่านทุกๆวันนะครับ  ความคิดเห็นที่ 34    สวัสดีคุณyai-cho และทุกๆท่านครับ ชอบกระทู้ดีมีสาระแบบนี้จังครับ จากคุณ : กระดาษโน๊ต  เขียนเมื่อ : วันรัฐธรรมนูญ 54 10:01:29  : yai-cho จากคุณ : กระดาษโน๊ต (yai-cho) เขียนเมื่อ : วันรัฐธรรมนูญ 54 12:18:39

ความคิดเห็นที่ 49 นางอังเกลา แมร์เคล นายกรัฐมนตรีเยอรมนี ได้แสดงความพอใจที่สมาชิก 26 ประเทศของสหภาพยุโรป (อียู) สนับสนุน "บทบัญญัติทางการคลัง" (fiscal compact) ฉบับใหม่ โดยกล่าวว่าเป็นความสำเร็จอีกก้าวหนึ่งในการสร้างเสถียรภาพให้กับยุโรป "นี่เป็นจุดเริ่มต้นที่จะนำไปสู่การสร้างเสถียรภาพด้านการคลัง เรามีความคืบหน้าที่ดีมาก โดยเฉพาะการให้ความร่วมมือเรื่องการควบคุมหนี้สาธารณะตามบทบัญญัติทางการคลังฉบับใหม่" นางแมร์เคลกลาวกับผู้สื่อข่าวภายหลังการประชุมอียูเสร็จสิ้นลง นางแมร์เคลกล่าวว่า เธอพอใจกับผลการประชุมในครั้งนี้มาก เพราะถือว่าผู้นำอียูประสบความสำเร็จในการหลีกเลี่ยงการประนีประนอมที่จะนำความยุ่งยากมาสู่ยูโรโซน "ทั่วโลกจะได้เห็นว่าเราได้เรียนรู้สิ่งที่ผิดพลาดในอดีต และจะใช้วิกฤตให้เป็นโอกาสในการเริ่มต้นใหม่" แมร์เคลกล่าว อย่างไรก็ตาม นางแมร์เคลได้แสดงความผิดหวังที่อังกฤษไม่ได้สนับสนุนบทบัญญัติทางการคลังฉบับใหม่นี้ พร้อมกล่าวว่า ทุกประเทศล้วนอยู่ในเรือลำเดียวกัน ซึ่งอังกฤษเองก็ต้องพึ่งพาความมีเสถียรภาพของอียูและประเทศสมาชิกยูโรโซน ทั้งนี้ เนื่องจากอังกฤษไม่เห็นด้วยกับบทบัญญัติทางการคลัง จึงทำให้ที่ประชุมสุดยอดอียูครั้งนี้ไม่สามารถบรรลุข้อตกลงในเรื่องการเปลี่ยนแปลงสนธิสัญญาอียูอย่างเต็มรูปแบบ โดยที่ประชุมบรรลุข้อตกลงการใช้บทบัญญัติทางการคลังที่ตั้งอยู่บนสนธิสัญญาระหว่างรัฐบาล (inter-governmental treaties) เท่านั้น สำนักข่าวซินหัวรายงาน 11.00น. วัดควรเปิดเพลงอ่ะไร_______อย่าลืมฉัน จากคุณ : ฮะ ว่าไงนะ เขียนเมื่อ : วันรัฐธรรมนูญ 54 12:21:10

ความคิดเห็นที่ 50 อ้าว   ลงเป็นรูปของกิน แทนที่จะเป็นเพลง เอามาให้ฟังครับ จากคุณ : ฮะ ว่าไงนะ เขียนเมื่อ : วันรัฐธรรมนูญ 54 12:26:56

ความคิดเห็นที่ 51 เที่ยงแล้ว ทาข้าวกันครับ สำหรับคนที่ชอบขายแล้วหุ้นวิ่ง (ผมเองละครับ อิอิ) จากคุณ : ฮะ ว่าไงนะ เขียนเมื่อ : วันรัฐธรรมนูญ 54 12:34:48

ความคิดเห็นที่ 52 สำหรับแบ่งกัน แบ่งเค๊ก   เอ๊ะ คำพูดคุ้นๆ จากคุณ : ฮะ ว่าไงนะ เขียนเมื่อ : วันรัฐธรรมนูญ 54 12:36:24

ความคิดเห็นที่ 53 นายพงษ์ศักดิ์ อัสสกุล ประธานกรรมการหอการค้าไทย กล่าวเปิดงานสัมมนาประชุมหอการค้าทั่วประเทศ ครั้งที่ 29  ที่จ.ระยอง ในหัวข้อ “รวมพลังขับเคลื่อนอย่างยั่งยืน”ว่า หอการค้าจะเน้นดำเนินยุทธศาสตร์ 4 เรื่องหลัก 1.เร่งติดตามการใช้จ่ายเงิน100,000 ล้านบาท ในการฟื้นฟูประเทศของรัฐบาล 2. สานต่อการประกาศยุทธศาสตร์ของประเทศฉบับภาคเอกชน เนื่องจากที่ผ่านมาประเทศไทยมีปัญหาการเมืองการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไม่ก้าวหน้า คนในประเทศมีปัญหาความแตกแยกกัน ทางหอการค้าจึงผ่าทางตันเศรษฐกิจในประเทศ เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจภาคเอกชนให้ไปในทิศทางที่เหมาะสม รวมถึงการสร้างความเชื่อมั่นให้ผู้ลงทุน และลูกค้า โดยเฉพาะเรื่องการบริหารแผนการจัดการน้ำระยะสั้น และระยะยาว 3. สานต่อโครงการต่อต้านคอร์รัปชั่น 4.การลดความเหลี่ยมล้ำของรายได้ที่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจ และเสริมสร้างความเข้มแข็งให้หอการค้าจังหวัด นายพงษ์ศักดิ์  กล่าวว่า สิ่งที่ต้องเร่งทำคือ การจัดทำแผนฟื้นฟูประเทศ ที่จะต้องสร้างความเชื่อมั่นนักลงทุนต่างชาติและในประเทศ  เพราะหากเกิดการย้านฐานลงทุนต่อเนื่องจะกระทบต่อธุรกิจเอสเอ็มอี ซึ่งมองว่าการส่งออกปี 2555 กว่าจะกลับมาฟื้นตัวเดินหน้ากำลังการผลิตได้เต็มที่ประมาณไตรมาส 2 และจะทำให้การส่งออกไทยปีหน้าขยายตัวระดับ 5-10% เท่านั้น ประธานกรรมการหอการค้าไทย ยังได้กล่าวถึง อัตราขยายตัวเศรษฐกิจไทยปีหน้ว่า มองว่าจะเติบโตในระดับ 5% ไม่ถึง 7% อย่างที่รัฐบาลคาดการณ์ไว้ โดยปัจจัยที่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยจะมาจากเศรษฐกิจภายในเป็นหลัก เพราะภาคการส่งออกมีปัจจัยเสี่ยงจากตลาดเศรษฐกิจยุโรปชะลอตัวซ้ำเติมซึ่งเศรษฐกิจไทยต้องเน้นตลาดในประเทศ และมองในส่วนตลาดเอเซีย จีน มากขึ้น ที่สำคัญต้องบอกนักลงทุน และลูกค้าให้ได้ว่า ปีหน้าจะรับประกันได้อย่างไรว่า น้ำจะไม่ท่วมเหมือนปีนี้ นอกจากนี้ จะมีการระดมสมองภาคเอกชนทั้งหมด เพื่อจัดทำแผนยุทธศาสตร์น้ำใช้เป็นแนวทางในการบริหารจัดการน้ำ และเสนอให้นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์ นำไปเสนอน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี พิจารณาและนำไปใช้ ซึ่งต้องเร่งฟื้นฟูประเทศ เพราะผลกระทบจากอุทกภัยที่มีผลต่อเศรษฐกิจไทยหนักหนากว่าที่คาดการณ์ไว้มาก หรือเสียหายมากกว่าแสนล้านบาท อีกหนึ่งภารกิจเร่งด่วนที่หอการค้าไทยสานต่อ คือ ต่อต้านทุจริตคอร์รัปชั่น ซึ่งรูปแบบการทำงานจะเน้นเชิงรุก โดยมีการติดตาม  โครงการที่เสี่ยงต่อการทุจริตอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะการใช้งบประมาณ 8 แสนล้านบาท ในการเยียวยาและฟื้นฟูประเทศ  เพราะปัญหาคอร์รัปชั่น จะทำให้การฟื้นฟูผลกระทบจากน้ำท่วมยิ่งล่าช้า ส่งผลเสียต่อประเทศในระยะยาว ขณะที่ทางหอการค้าฯได้จัดตั้งภาคีเครือข่าย 34 องค์กร ทำหน้าที่ติดตามสอดส่องอย่างใกล้ชิด จากคุณ : ฮะ ว่าไงนะ เขียนเมื่อ : วันรัฐธรรมนูญ 54 12:45:08

ความคิดเห็นที่ 54 สวัสดี......บ่ายวันหยุด.....คุณใหญ่-คุณฮะและทุกๆคนที่เข้ามาค่ะ เข้ามารับข่าวสารช่วงบ่าย......หลังจากมุมานะอ่านนิยายยาว500หน้าจบในเวลาห้าชั่วโมงรวด....แหมทีตอนเรียนอ่านยังไม่จบย่อหน้าแรกก็หลับซะแล้ว ไม่รู้คนอื่นเป็นเหมือนกันหรือเปล่านะ จากคุณ : nicenan เขียนเมื่อ : วันรัฐธรรมนูญ 54 13:16:43

ความคิดเห็นที่ 55 สวัสดีค่ะพี่ฮะ พี่โชว์ พี่จุ๊กกุ๊กจัง พี่pluem พี่C_yada พี่แนน พี่กระดาษโน๊ต และทุกๆท่านที่กำลังตามมาค่ะ ไอติม......น่ากิน......อร่อย.......ถูกใจค่ะพี่ฮะ จากคุณ : pettis เขียนเมื่อ : วันรัฐธรรมนูญ 54 13:31:05

ความคิดเห็นที่ 56 หอการค้าไทย ระดมสมองร่วมเสนความเห็นทำยุทธศาสตร์น้ำเสนอ"กิตติรัตน์"พรุ่งนี้ (11 ธ.ค.) หลังน้ำท่วมกระทบเศรษฐกิจหนักกว่าที่คาด นายพงษ์ศักดิ์ อัสสกุล ประธานกรรมการหอการค้าไทย กล่าวในการเปิดงานสัมมนาประชุมหอการค้าทั่วประเทศ ครั้งที่ 29 ที่จ.ระยอง ในหัวข้อ “รวมพลังขับเคลื่อนอย่างยั่งยืน” ว่า จะมีการระดมสมองภาคเอกชนทั้งหมด เพื่อเสนอความเห็นการจัดทำยุทธศาสตร์เพื่อใช้เป็นแนวทางในการบริหารจัดการน้ำ และเสนอให้นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์ นำไปเสนอนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี พิจารณาและนำไปใช้ ซึ่งต้องเร่งฟื้นฟูประเทศ เพราะผลกระทบจากอุทกภัยที่มีผลต่อเศรษฐกิจไทยหนักหนากว่าที่คาดการณ์ไว้มาก หรือเสียหายมากกว่าแสนล้านบาท ทั้งนี้ มองว่าการส่งออกปี 2555 กว่าจะกลับมาฟื้นตัวเดินหน้ากำลังการผลิตได้เต็มที่ประมาณไตรมาส 2 และจะทำให้การส่งออกไทยปีหน้าขยายตัวระดับ 5-10% เท่านั้น ส่วนอัตราขยายตัวเศรษฐกิจไทยปีหน้ามองว่าเติบโตในระดับ 5% ไม่ถึง 7% อย่างที่รัฐบาลคาดการณ์ไว้ โดยปัจจัยที่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยจะมาจากเศรษฐกิจภายในเป็นหลัก เพราะภาคการส่งออกมีปัจจัยเสี่ยงจากตลาดเศรษฐกิจสหรัฐและยุโรป นอกจากการจัดทำแผนยุทธศาสตร์น้ำแล้ว ภารกิจเร่งด่วนที่หอการค้าไทยสานต่อ คือการต่อต้านทุจริตคอร์รัปชั่น ซึ่งรูปแบบการทำงานจะเน้นเชิงรุก โดยมีการติดตาม (มอนิเตอร์) โครงการที่เสี่ยงต่อการทุจริตอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะการใช้งบประมาณ 8 แสนล้านบาท เยียวยาและฟื้นฟูประเทศของรัฐบาล เพราะการเกิดคอร์รัปชั่น จะทำให้การฟื้นฟูผลกระทบจากน้ำท่วมยิ่งล่าช้า ส่งผลเสียต่อประเทศในระยะยาว ซึ่งหอมีการจัดตั้งภาคีเครือข่าย 34 องค์กร ไว้คอยร่วมติดตามสอดส่องแล้ว โดยจะมีการจับตาการใช้งบประมาณดังกล่าวอย่างใกล้ชิด รายงานข่าวแจ้งว่า ในพิธีเปิดได้มีการกล่าวสดุดีนายดุสิต นนทะนาคร อดีตกรรมการหอการค้าไทยที่เสียชีวิตเมื่อก.ย.ที่ผ่านมา จากนั้นทั้งห้องประชุมยืนไว้อาลัยให้  ขณะที่นายพงษ์ศักดิ์ ประกาศจะสานงานต่อจากนายดุสิตต่อไป ผีอะไรทําให้เด็กหยุดร้องไห้________ผีป(ล)อบไง จากคุณ : ฮะ ว่าไงนะ เขียนเมื่อ : วันรัฐธรรมนูญ 54 13:42:29

ความคิดเห็นที่ 57 สมัยผมเรียนผมเก่งนิยายมากกว่าหนังสือเรียนครับ นานๆผมถึงจะได้กินทีนะพวกไอติมนี่ ร้านใหม่ๆเปิดเยอะแยะไปหมด สมัยผมนี่ ศาลาโฟร์โมสต์นี่เรียกว่าสุดยอดแล้วละ คนประเทศอะไรรวยที่สุดในโลก__________ชาวไอริช จากคุณ : ฮะ ว่าไงนะ เขียนเมื่อ : วันรัฐธรรมนูญ 54 13:45:00

ความคิดเห็นที่ 58 หน้าคนที่บางทีเราอาจไม่เห็น หากไม่ตั้งใจพอ เหมือนหุ้น ที่ซ่อนมุมที่แท้จริงหากไม่แกะงบ และมีวงในที่รู้ดี จากคุณ : ฮะ ว่าไงนะ เขียนเมื่อ : วันรัฐธรรมนูญ 54 13:58:08

ความคิดเห็นที่ 59 มุมซ่อนเร้นหากค้นพบ ก็ได้เปรียบกว่าคนที่มองไม่เห็น จากคุณ : ฮะ ว่าไงนะ เขียนเมื่อ : วันรัฐธรรมนูญ 54 13:59:07

ความคิดเห็นที่ 60 สตาร์วอร์ภาคไหนที่คุณดูแล้วรู้เรื่องที่สุด________พากษ์ไทยดิ (เอามาใช้กับอีกหลายเรื่องได้นะครับ) จากคุณ : ฮะ ว่าไงนะ เขียนเมื่อ : วันรัฐธรรมนูญ 54 14:02:16

ความคิดเห็นที่ 61 แวบก่อนนะครับ จากคุณ : ฮะ ว่าไงนะ เขียนเมื่อ : วันรัฐธรรมนูญ 54 14:13:24

ความคิดเห็นที่ 62 สำนักข่าวต่างประเทศรายงานเมื่อวันที่ 10 ธ.ค.ว่า เจ้าแมวดำอิตาลี"ทอมมาโซ"วัย 4 ปี ได้กลายเป็นสัตว์โชคดีที่สุดของโลก หลังจากเจ้าของได้เขียนพินัยกรรมมอบมรดกเป็นจำนวนเงินกว่า 10 ล้านยูโร (ราว 50 ล้านยูโร) ประกอบด้วยเงินสด หุ้น อาณาจักรที่ดิน รวมทั้งแฟลต และบ้านหลายหลังในกรุงโรม รายงานระบุว่า ก่อนหน้านี้ เจ้าแมว"ทอมมาโซ"ถูกนำมาทุบเลี้ยงอย่างดี หลังจากเป็นแมวข้างถนน และถูกพบโดยนางมาเรีย อัสซุนต้า หม้ายมหาเศรษฐีซึ่งแต่งงานกับมหาเศรษฐีที่ดิน แต่กลายเป็นหม้ายในช่วงบั้นปลาย และไม่มีบุตร และด้วยสุขภาพที่ไม่สมบูรณ์ ทำให้เธอห่วงเจ้าแมวทอมมาโซ และเมื่อปี 2009 เธอได้แนะนำให้ทนายความตรวจสอบหน่วยงานดูแลสวัสดิภาพสัตว์ หรือกลุ่มที่จะสามารถรับมรดกของเขา และดูแลเจ้า"ทอมมาโซ" แต่ปรากฎว่า ไม่มีหน่วยงานใด ๆ ที่ตรงกับมาตรฐานความต้องการของนางมาเรีย ดังนั้น เธอจึงตัดสินใจยกมรดกทั้งหมดให้แก่เจ้าทอมมาโซ โดยพินัยกรรมดังกล่าวมีผลไปแล้ว หลังจากที่นางมาเรีย ได้เสียชีวิตเมื่อ 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา ด้วยวัย 94 ปี ทั้งนี้ ปัจจุบัน แมวดำ"ทอมมาโซ"ได้อาศัยกับเจ้าของใหม่ และแมวอีกตัว ในบ้านแห่งหนึ่งนอกกรุงโรม โดยไม่มีการเปิดเผยที่อยู่เจ้าของใหม่ เนื่องจากเกรงว่า เหล่า 18 มงกุฎจะแห่กันมาหลอกเอาเงิน ตกลงได้กี่ล้านแน่นะข่าวนี้ 10หรือ50ล้าน แต่ยังไง มันก็รวยกว่าผม (บ่นด้วยความอิจฉา) จากคุณ : ฮะ ว่าไงนะ เขียนเมื่อ : วันรัฐธรรมนูญ 54 15:47:31

ความคิดเห็นที่ 63 นี่ก็เหมือนกัน รวยกันได้รวยกันดี ลองดูว่ามีเท่าไหร่ เอ   บวกลบคูณหารไม่ถูกเลยผม อิอิ 6  ธันวาคม  ไม่ใช่วันเปิดเทอมวันแรกของเด็กเตรียมอุดมพัฒนาการอย่างเดียว แต่สถานบริการอาบอบนวดที่อยู่ฝั่งตรงข้ามที่ชื่อ "เอไลน่า"  ก็เปิดบริการวันแรกเช่นกัน หลังจาก เอไลน่า ของ "โกลัก" นายกุลประเสริฐ สุขขี ทำท่าจะเปิดมาครั้งหนึ่งแล้วเมื่อ 6-7 ปีก่อน แต่ถูก "ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์" ออกมาแฉว่า ไม่เหมาะสม เพราะสถานบริการไม่ควรตั้งอยู่ใกล้โรงเรียน โกลัก ปิดอาบอาบนวด เอไลน่า ไปพักใหญ่ เพื่อไปเคลียร์กับการรถไฟแห่งประเทศไทย ผู้ให้เช่าที่ดิน และตำรวจ เจ้าของพื้นที่ การกลับมาอีกครั้งของ เอไลน่า  ไม่พลิกความคาดหมาย เมื่อ "ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ "ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรครักประเทศไทย ออกมาแถลงถึงกรณีคัดค้านการเปิดให้บริการสถานอาบอบนวด เอไลน่า ย่านถนนรัชดาภิเษก พร้อมโชว์ตระกร้าแจกฟรีสำหรับ หญิงสาวสวยที่สนใจจะทำงานกับโกลัก ชูวิทย์ เรียกร้องให้ นายกฯ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร และ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง จัดการปิด เอไลน่า เพื่อเห็นแก่เยาวชน ครั้งนี้ โกลัก เปิดวิวาทะกับ โกชู  อย่างดุเดือด !!! โกลัก  ตะโกนไล่หลังชูวิทย์ที่เดินแยกไปว่า อย่าหนี (ซิ) ทำไม อาบอบนวดที่อยู่ใกล้ ๆเอไลน่าอีก 2 แห่งเปิดบริการได้ แต่ทำไมเอไลน่า เปิดไม่ได้ โกลัก  แฉว่า ชูวิทย์กับตนเองก็ทำธุรกิจเหมือนๆ กัน ถ้าตนเองมี"เอไลน่า" ชูวิทย์ ก็มี โฮโนลูลู และอาบอบนวดอีก 4-5 แห่ง "ถ้าชูวิทย์ บอกว่า เลิกทำธุรกิจอาบอบนวดไปแล้ว ก็ต้องมีหลักฐานการเสียภาษีการขายอาบอบนวด 4-5 แห่งมาแสดง เพราะจะต้องได้เงินจากการขายอาบอบนวด 5 แห่งเป็นพันล้าน" โกลักกล่าว   ไม่มีใครตอบได้ว่า ชูวิทย์ ล้างมือในอ่างทองคำแล้วหรือยัง ? แต่ที่แน่ๆ  วันที่ 27 กันยายน ที่ผ่านมา ศาลฎีกา ได้สั่งยึดทรัพย์เงินในบัญชี - หุ้นเครือเดวิส กรุ๊ป 6 รายการ ของ ′ชูวิทย์ กว่า 3.4 ล้าน พร้อมดอกผลตกเป็นของแผ่นดิน ชี้เป็นผลพวงธุรกิจค้าประเวณีผิดกฎหมายฟอกเงิน แต่ชูวิทย์ ยืนยันว่า เป็นเรื่องอดีต ตนเองได้ทิ้งธุรกิจนี้ไปแล้ว --- ลองมาดูว่า ส.ส.ตัวเล็กๆ เจ้าของพรรครักประเทศไทย มีสถานะการเงินเป็นเช่นไร นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ แจ้งบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินต่อ ป.ป.ช. ตอนเข้ารับตำแหน่ง ส.ส. สังกัดพรรค "รักประเทศไทย" เมื่อวันที่ 2 สิงหาคม 2554 ที่ผ่านมา นอกจากการเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร์แล้ว "ชูวิทย์" ยังนั่งเก้าอี้กรรมการบริษัทอีก 7 บริษัท และหนึ่งในนั้นคือ "บจก.ต้นตระกูล" ซึ่งมีที่ตั้งอยู่ที่ "ซอยสุทธิพร ถ.รัชดาภิเษก" ส่วนอีก 6 บริษัทที่เหลือได้แก่ 1.บริษัท สมบัติเติมตระกูล จำกัด 2.บริษัท ภาติฌาน จำกัด 3.บริษัท สุขุมวิท ซิลเวอร์ สตาร์ จำกัด 4.บริษัท ทรัพย์สินตระการตา จำกัด 5.บริษัท บุญต่อตระกูล จำกัด 6.บริษัท เดวิด ซิลเวอร์สตาร์ แมเนจเม้นท์ จำกัด โดยเงินลงทุนในบริษัทเหล่านี้ (ซึ่งนับรวม "บริษัท เอ็มบีเค จำกัดมหาชน" ที่มีมูลค่าการลงทุน 1 ล้านบาทเข้าไปด้วย) มีมูลค่ารวมทั้งหมด 633,771,000 บาท ยังไม่นับเงินฝากในธนาคารอีก 5,376,132.25 บาท ยานพาหนะ มูลค่า 100,000 บาท ที่ดิน (ทั้งหมด 36 โฉนด) มูลค่ารวม 215,004,500 บาท ซึ่งหนึ่งในนั้นเป็นที่ดินที่ "เขตดินแดง เขตห้วยขวาง" มูลค่า 1,040,000 บาท โรงเรือนและสิ่งปลูกสร้าง (จำนวน 5 แห่ง) มูลค่ารวม 20,400,000 บาท และหนึ่งในนั้นเป็น อาคารตึก 4 ชั้น เลขที่ 55/2 ซึ่งตั้งอยู่บน "ถ.รัชดาภิเษก แขวงดินแดง เขตดินแดง" ซึ่งมีมูลค่า 10,000,000 บาท ทำให้รวมแล้ว "ชูวิทย์" ′อดีต′ เจ้าพ่ออ่างทองคำ มีทรัพย์สินทั้งหมด 874,651,632.25 บาท เมื่อดูลึกลงไปในรายละเอียด เราจะพบว่า "เงินลงทุน" ก้อนใหญ่ๆของ "ชูวิทย์" นั้นกระจุกตัวอยู่ใน 4 บริษัท :ซึ่งได้แก่ "บริษัท สุขุมวิท ซิลเวอร์ สตาร์ จำกัด" มูลค่า 245,000,000 บาท "บริษัท ต้นตระกูล จำกัด" มูลค่า 168,300,000 บาท "บริษัท สมบัติเติมตระกูล จำกัด" มูลค่า 168,300,000 บาท และ "บริษัท ภาติฌาน จำกัด" มูลค่า 43,120,000 บาท ความร่ำรวยของ โกชู ทำให้เขาตั้งพรรครักประเทศไทย โดยใช้ทุนส่วนตัวสนับสนุนพรรคที่มี ส.ส. 4 คนได้อย่างสบายๆ ทั้งนี้ จากข้อมูล "บัญชีรายชื่อผู้บริจาคและจำนวนเงินที่บริจาคให้พรรคการเมือง" ของ "พรรครักประเทศไทย" ตั้งแต่เดือน มิ.ย. เป็นต้นมาจนถึงเดือน ต.ค. นั้น พบว่า ผู้บริจาคเงิน "รายใหญ่" ซึ่งบริจาคเงินเป็นจำนวน "หลักล้าน" ของพรรคดังกล่าวนั้นมีอยู่เพียงไม่กี่ราย อันได้แก่ "บริษัท สมบัติเติมตระกูล จำกัด" ซึ่งได้บริจาคเงินทั้งหมด 5,669,500 บาท "บริษัท ต้นตระกูล จำกัด" บริจาคเงินทั้งหมด 2,970,000 บาท และ การบริจาคในนามของ "นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์" เอง จำนวน 1,000,000 บาท ทำให้รวมแล้ว ผู้บริจาคทั้ง 3 รายได้มอบเงินบริจาคจำนวน 9,639,500 บาท ให้กับ "พรรครักประเทศไทย" ทั้งนี้ จากเงินบริจาคพรรคทั้งหมด 9,966,500 บาท นี่คือ ถุงเงินและพรรคของชูวิทย์ที่ถือว่าไม่ธรรมดา   ส่วนคำถามของ โกลัก ว่า โกชูขายอ่างทองคำ ทิ้งจริงหรือ ? ยังเป็นคำถามที่ล่องลอยอยู่ในสายลม ย่านรัชดาฯ !!! จากคุณ : ย่อเล็กจะเห็นชัด (ฮะ ว่าไงนะ) เขียนเมื่อ : วันรัฐธรรมนูญ 54 15:53:26

ความคิดเห็นที่ 64 รายงานข่าวแจ้งว่า ในค่ำคืนวันนี้ (10 ธ.ค.) จะเกิดปรากฏการณ์ธรรมชาติจันทรุปราคาเต็มดวงนานกว่า 51นาที ขึ้นบนฟากฟ้าของไทย รวมถึง พม่า อินเดีย ตะวันออกกลาง แอฟริกา รัสเซีย บางส่วน และยุโรปบางส่วน โดยนายวรวิทย์ ตันวุฒิบัณฑิต ปราชญ์ภูมิปัญญาด้านดาราศาสตร์ไทย เผยว่า  ดวงจันทร์เริ่มเข้าเงามัว เวลา 18 นาฬิกา 33 นาที 32 วินาที จากนั้นเริ่มเข้าเงามืด คราสบางส่วน เวลา 19 นาฬิกา 45 นาที 42 วินาที เริ่มคราส เต็มดวง เวลา 20 นาฬิกา 6 นาที 16 วินาที กึ่งกลางคราสเต็มดวง เวลา 20 นาฬิกา 32 นาที 56 วินาที คราสเต็มดวงสิ้นสุด เวลา 20 นาฬิกา 57 นาที 24 วินาที ออกจากเงามืด คราสบางส่วนสิ้นสุด เวลา 23 นาฬิกา 17 นาที 58 วินาที ออกจากเงามัว เวลา 00 นาฬิกา 30 นาที 00 วินาที ทั้งนี้ผู้ที่พลาดชมปรากฏการณ์จันทรุปราคาครั้งนี้ ต้องรอไปอีก 3 ปี เพราะจะเกิดขึ้นอีกครั้งในวันที่ 8 ตุลาคม 2557. จากคุณ : C_yada เขียนเมื่อ : วันรัฐธรรมนูญ 54 16:14:32

ความคิดเห็นที่ 65 บมจ.ปตท. และบมจ.บางจากฯ ประกาศปรับลดราคาน้ำมันดีเซลลง 30 สตางค์ต่อลิตร มีผลตั้งแต่เวลา 05.00 น. พรุ่งนี้(11 ธ.ค.) ส่งผลให้ราคาจำหน่ายน้ำมันดีเซลหน้าปั๊มในวันพรุ่งนี้ ดีเซลอยู่ที่ 29.19 บาทต่อลิตร ขณะที่ราคาน้ำมันชนิดอื่นคงเดิม จากคุณ : ฮะ ว่าไงนะ เขียนเมื่อ : วันรัฐธรรมนูญ 54 16:18:21

ความคิดเห็นที่ 66 ตอนกลางวันพระจันทร์ไปไหน_______ไปฉันเพลอ่ะดิ เลยกลางวันไปแล้ว  พระ จันทร์ใกล้ทำวัตรเย็นละ ภาพนี้ผู้หญิงเป็นจมูกก้อนหินเป็นปาก จากคุณ : ฮะ ว่าไงนะ เขียนเมื่อ : วันรัฐธรรมนูญ 54 16:26:43

ความคิดเห็นที่ 67 ออกไปดูพระจันทร์กันยังครับ ดูจันทรุปราคากัน อาทิตย์หน้าเค้าเตรียมมองที่มะกันแทนยุโรปละ Week Ahead: Markets Turn Their Focus to the U.S. After being whipped around for weeks by developments in Europe, markets may turn their attention to the U.S. and what appears to be an improving economy, for now. The coming week promises to be the busiest before the year end. The Fed meets Tuesday though it is not expected to take any action. There is also a series of important economic reports, including November's retail sales data Tuesday, weekly jobless claims Thursday and producer and consumer inflation data Thursday and Friday. จากคุณ : ฮะ ว่าไงนะ เขียนเมื่อ : วันรัฐธรรมนูญ 54 21:31:37

ความคิดเห็นที่ 68 เว็บไซต์นิวยอร์คโพสต์ รายงานเมื่อวันที่ 3 ตุลาคมที่ผ่านมาว่า เฝิง โหลวอี้ สาวจีนวัย 26 ปี กลายเป็นผู้หญิงที่คนจีนเกลียดและหมั่นไส้ที่สุดในประเทศ จนต้องหลบไปอาศัยอยู่ในนิวยอร์กในขณะนี้ หลังโพสต์ข้อความสวยเลือกได้ กำหนดสเปกชายที่คู่ควร พร้อมเผยตัวเองสมบูรณ์แบบเพียบพร้อมกว่าหญิงคนอื่น รายงานระบุว่า เรื่องราวทั้งหมดเกิดจากการที่ เฝิง โหลวอี้ ได้โพสต์ข้อความลงในเครือข่ายสังคมออนไลน์ เวยป๋อ (Weibo) ไมโครบล็อกชื่อดังของจีน โดยใจความระบุว่า ผู้ชายที่จะมาเป็นแฟนเธอได้นั้นต้องเป็นชาวจีนแถวชายฝั่งตะวันออก ไม่เคยเป็นพ่อคนมาก่อน ไม่เคยมีแฟนที่ทำแท้ง ไม่เคยเป็นลูกจ้างใคร แต่ถ้าหากทำงานให้องค์กรใหญ่ ๆ อย่าง PetroChina, Sinopec หรือธนาคารใหญ่ ๆ ก็ถือว่ายอมรับได้ และยังบอกอีกว่า ไอน์สไตน์ไม่ได้ฉลาดไปกว่าเธออย่างแน่นอน อีกด้วย จากคุณ : ฮะ ว่าไงนะ เขียนเมื่อ : 11 ธ.ค. 54 06:27:24

ความคิดเห็นที่ 69 ข้อความที่เธอประกาศโฆษณาตัวเองข้างต้น ทำให้ผู้ใช้ไมโครบล็อก เวยป๋อ อดไม่ได้ที่จะส่งต่อข้อความถึงกัน จนในที่สุดไมโครบล็อกของเธอก็มีคนติดตามกว่า 1.5 ล้านคน ขณะที่เธอเองก็ยังคงโพสต์ข้อความต่าง ๆ นานา บอกเชิงว่าเธอเป็นผู้หญิงที่สมบูรณ์แบบที่สุดในโลก ทำให้เธอถูกหมั่นไส้และเป็นที่เกลียดชังของผู้ใช้เวยป๋อ และลามไปถึงชาวเน็ตจีนในที่สุด         ไม่เพียงแค่นั้น หลังจากที่เธอเริ่มโด่งดังแล้ว เธอก็ไปปรากฏตัวในรายการเรียลลิตี้โชว์รายการหนึ่ง พร้อมกับนักแสดงหนุ่มหล่อ 2 คน ที่เธออ้างว่าเป็นเพื่อนชายของเธอ และในรายการเธอก็เปิดเผยว่า ตลอดช่วงเวลา 300 ปีที่ผ่านมาและอีก 300 ปีต่อจากนี้ เธอแน่ใจว่าไม่มีผู้หญิงคนใดเทียบเท่าเธอได้เลย งานนี้เลยทำให้เธอเป็นที่รู้จักและโดนหมั่นไส้ไปทั่วประเทศ และเริ่มมีการตั้งฉายาให้เธอต่าง ๆ นานา ไม่ว่าจะเป็น แม่สาวสามร้อยปี เจ๊ใหญ่ เป็นต้น นอกจากนี้ ยังมีผู้ทำป้ายบิลบอร์ดล้อเลียนเธอตามถนนหนทางต่าง ๆ ว่าเธอเป็นคนสวยเลือกได้ สวยที่สุดในโลกด้วย จนกระทั่งในที่สุด เธอก็ถูกกดดันให้ย้ายออกจากประเทศจีน โดยเธอได้ไปหลบอยู่ในเขตบรู๊คลินของนิวยอร์ก แต่กระนั้นก็ยังไม่วายถูกนักข่าวทั้งจากนิตยสารพีเพิ่ล หรือหนังสือพิมพ์นิวยอร์กโพสต์ตามไปสัมภาษณ์ ซึ่งเธอได้เปิดเผยกับนิวยอร์กโพสต์ว่า “ฉันกลายเป็นที่จงเกลียดจงชังของชาวจีน และไม่อยากจะถูกเกลียดจากคนที่นี่” พร้อมกันนี้เธอก็ยังคงยืนยันคำเดิมว่า แม้ว่าจะย้ายมาอยู่ในอเมริกาและเริ่มชีวิตใหม่แล้ว แต่เธอก็ยังยืนยันถึงสเปคชายหนุ่มที่คู่ควรกับเธอว่า เขาคนนั้นควรจะเป็นชาวอเมริกันที่มีการศึกษาสูง ไม่เคยแต่งงาน แฟนไม่เคยทำแท้ง และต้องไม่เป็นลูกจ้างใครเหมือนเดิม เขียนโดย : kewrite เขียนเมื่อ : 14:37 น. 10 Oct 2011 จากคุณ : ฮะ ว่าไงนะ เขียนเมื่อ : 11 ธ.ค. 54 06:28:30

ความคิดเห็นที่ 70 โอ   รู้ทันทีว่าแฟนเราสวยก็ตอนนี้แหละ เมื่อมีคนนี้มาเทียบด้วย จากคุณ : ฮะ ว่าไงนะ เขียนเมื่อ : 11 ธ.ค. 54 06:30:31

ความคิดเห็นที่ 71 เทย์เลอร์ สวิฟต์ รับรางวัล Entertainer of the Year จากงาน Academy of Country Music Awards 2011 จากคุณ : ฮะ ว่าไงนะ เขียนเมื่อ : 11 ธ.ค. 54 06:34:06

ความคิดเห็นที่ 72 เทย์เลอร์ สวิฟต์ รับรางวัลจากงาน Teen Choice Awards 2011 จากคุณ : ฮะ ว่าไงนะ เขียนเมื่อ : 11 ธ.ค. 54 06:34:42

ความคิดเห็นที่ 73 เทย์เลอร์ สวิฟต์ ช็อคสุดขีด เมื่อได้รับรางวัล Artist of the Year จากงาน American Music Awards 2011 จากคุณ : ฮะ ว่าไงนะ เขียนเมื่อ : 11 ธ.ค. 54 06:35:40

ความคิดเห็นที่ 74 เทย์เลอร์ สวิฟต์ ได้รับรางวัล Pop Song of the Year awards ในงาน BMI Pop Awards 2010 จากคุณ : ฮะ ว่าไงนะ เขียนเมื่อ : 11 ธ.ค. 54 06:36:16

ความคิดเห็นที่ 75 สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า คริสตินา ไร หญิงสาวชาวรัสเซีย วัย 22 ปี จากเมืองเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก ที่ตอนนี้ เธอกลายเป็นผู้หญิงที่มีริมฝีปากหนาที่สุดในโลก หลังจากที่เธอฉีดซิลิโคนเพิ่มความอวบอิ่มมากกว่า 100 ครั้ง โอ๊ะโอ !!! สาเหตุที่เธอตัดสินใจเลือกฉีดเพิ่มความหนาให้กับริมฝีปากของเธอ ก็เพราะเธอ ต้องการมีริมฝีปากที่อวบอิ่ม และเซ็กซี่เหมือนกับ เจสสิกา แรบบิท ตัวการ์ตูนชื่อดัง จากเรื่อง ฮูเฟรมด์โรเจอร์แรบบิท คริสตินา ไร เธอมีความเชื่อมาตลอดตั้งแต่เธออายุได้เพียง 4 ขวบ ว่า การที่มีริมฝีปากบางกว่าคนอื่นนั้น ทำให้เธอไม่มีความสวยเลย เธอจึงตั้งปณิธานแน่วแน่ว่าจะศัลยกรรมทันทีเมื่อถึงวัยที่พร้อม และเมื่อเธออายุครบ 17 ปี เธอก็เข้ารับการฉีดซิลิโคนเพิ่มความหนา ให้ริมฝีปากเป็นครั้งแรก และฉีดเพิ่มเรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน อ๊ะอ๊ะ .ยังค่ะยังสาวคนนี้ เธอยังไม่ยอมหยุดแค่นั้นนะคะ นอกจากนี้ เธอยังฉีดเพิ่ม เสริมเต้า อีกด้วยล่ะค่ะ และเธอยังจะขอฉีดซิลิโคนเสริมโน่นแต่งนี่เพิ่มไปเรื่อยๆ อีก แพทย์ที่ทำการศัลยกรรมให้เธอ ระบุว่า คริสตินา เธอเสพติดการฉีดซิลิโคนไปแล้ว แต่เธอไม่ได้ปฏิเสธแต่อย่างใดนะคะ แถเธอยังยอมรับอย่างเต็มใจอีกด้วยล่ะค่ะ จากคุณ : ฮะ ว่าไงนะ เขียนเมื่อ : 11 ธ.ค. 54 06:48:33

ความคิดเห็นที่ 76 นักวิทย์มะกันพึ่ง"แคด"ผลิตกระดูกอะไหล่ช่วยผู้ป่วยกระดูกพรุนคาดเป็นที่นิยมในวงการแพทย์และทันตแพทย์ในไม่กี่ปีข้างหน้า ร่างกายมนุษย์มีโครงสร้างหลักเป็นกระดูกซึ่งเป็นสารประกอบของแคลเซียมฟอสเฟต ที่มีความแข็งแรงแต่มีน้ำหนักเบา เพราะโครงสร้างกระดูกเป็นรูพรุนเพื่อเก็บกักสารจำเป็นต่อร่างกาย และ มีคอลลาเจน รวมทั้งโปรตีน ช่วยเสริมความยืดหยุ่นให้กับกระดูก ในร่างกายผู้ใหญ่มีกระดูกทั้งหมด 206 ชิ้น ซึ่งจะสึกกร่อนไปตามวันและเวลาที่ผ่านไป ในคนที่ไม่ชอบรับประทานอาหารที่มีแคลเซียม เช่น นม ผักใบเขียว และ ปลาเล็ก (ที่กินได้ทั้งกระดูก ทางภาคใต้เรียกว่า จิ้งจั๊ง) รวมทั้งผู้หญิงมักจะเผชิญกับโรคกระดูกเสื่อมได้มากกว่าผู้ชาย หรือผู้ที่ออกกำลังกายสม่ำเสมอและรับประทานนม และอาหารเสริมแคลเซียมเป็นประจำ เซลล์กระดูกเป็นเซลล์ที่มีชีวิต สามารถซ่อมแซมเสริมสร้างตัวเองได้ แต่ในผู้สูงวัยการซ่อมแซมกระดูกอาจจะเป็นไปได้ช้าเพราะเซลล์กระดูกมีการเสื่อมสภาพไปตามกาลเวลา ดังนั้นปัญหาที่เกิดขึ้นกับกระดูกจึงเป็นเรื่องสำคัญสำหรับผู้ใหญ่ แต่ต่อไปผู้ป่วยเกี่ยวกับโรคกระดูกอาจจะคลายความกังวลลงไปบ้างจากการที่มีแหล่งผลิตกระดูก "อะไหล่" ที่สามารถผลิตกระดูกในขนาดและรูปร่างที่ต้องการเพื่อใช้ทดแทนกระดูกที่เสียหาย หรือเสื่อมสภาพ ของแต่ละบุคคล นักวิจัยแห่งมหาวิทยาลัยวอชิงตัน ประเทศสหรัฐอเมริกา ได้คิดค้นวิธีผลิตกระดูกด้วยเครื่องพิมพ์ 3 มิติ ซึ่งจะแปลภาพเอ็กซ์เรย์แบบ ซีที สแกน ที่ใช้ในทางการแพทย์ มาเป็นรุปร่างสามมิติ โดยใช้โปรแกรมออกแบบทางวิศวกรรมที่เรียกว่า "แคด" (CAD) ก่อนส่งคำสั่งดังกล่าวไปยังเครื่องพิมพ์ 3 มิติเพื่อผลิตกระดูกอะไหล่ขึ้นมาในเวลาไม่เกินสัปดาห์ ระบบดังกล่าวจะทำให้การผลิตกระดูกอะไหล่ที่ใช้ทดแทนกระดูกผู้ป่วยได้ทุกคน และจะมีความพอดีลงตัวกับร่างกายผู้ป่วยที่ต้องการเปลี่ยนถ่ายกระดูกนั้นๆ เพราะใช้ภาพกระดูกของผู้ป่วยเป็นต้นแบบในการผลิตอะไหล่ นักวิจัยทีมนี้เชื่อว่า  อีกไม่กี่ปีข้างหน้าระบบการผลิตกระดูกด้วยเครื่องพิมพ์ 3 มิติ จะเป็นที่นิยมและใช้กันในวงการแพทย์ และ ทันตแพทย์ เพราะต้นทุนการผลิตมีแนวโน้มที่จะต่ำกว่าการผลิตกระดูกเทียมโดยใช้โลหะราคาแพงเช่น ไททาเนียม ดังที่ใช้กันอยู่ในปัจจุบัน จากคุณ : ฮะ ว่าไงนะ เขียนเมื่อ : 11 ธ.ค. 54 06:50:47

ความคิดเห็นที่ 77 ภาพจากมติชน จากคุณ : ฮะ ว่าไงนะ เขียนเมื่อ : 11 ธ.ค. 54 07:02:43