เทคนิคการทำ Haircut คือต้องคุยกับคนทางฝ่ายเจ้าหนี้ที่มีอำนาจตัดสินใจเท่านั้น ลูกหนี้ต้องแสดงจุดยืนว่ามีความต้องการจะแก้ไขปัญหาหนี้สินให้จบไป เงินก้อนที่จะนำมาทำ Haircut นั้นต้องเป็นเงินเย็นเช่น โบนัส เงินเก็บหรือเงินจาการขายทรัพย์สินได้ ไม่ใช่เงินที่ได้มาจากการกู้ยืมที่ต้องเสียดอกเบี้ยเพราะว่าหากลูกหนี้ไปสร้างหนี้สินใหม่มาทำ Haircut ปัญหาหนี้สินก็จะไม่จบสิ้น สุดท้ายลูกหนี้ก็จะลงเอยแบบเดิมคือชักหน้าไม่ถึงหลัง
เทคนิคที่ดีในการทำ Haircut คือต้องมีลูกล่อลูกชนให้เจ้าหนี้เข้าใจว่า ลูกหนี้อยู่ในระหว่างการตัดสินใจเปรียบเทียบเงื่อนไขในการทำHaircutจากเจ้าหนี้หลายๆราย ดังนั้นหากลูกหนี้รู้สึกว่าเจ้าหนี้รายใดเสนอเงื่อนไขหรือส่วนลดให้จนเป็นที่น่าพอใจกว่า(มากกว่าเจ้าหนี้รายอื่น)ลูกหนี้ก็จะตัดสินใจทำhaircutกับเจ้าหนี้รายนั้น ส่วนเจ้าหนี้รายอื่นก็ต้องไปต่อท้ายแถวรอจนกว่าลูกหนี้จะมีเงินก้อนก็ค่อยว่ากันใหม่แล้วกัน
ในการเจรจาทำHaircutให้ลูกหนี้ขีดเส้นตายโดยกำหนดเวลาให้เจ้าหนี้ตัดสินใจว่าตกลงตามเงื่อนไขที่ลูกหนี้เสนอหรือไม่หรือว่าเจ้าหนี้มีเงื่อนไขที่ดีกว่าก็ให้รีบเสนอมาภายในเวลาที่กำหนด หากตกลงกันได้เจ้าหนี้จะได้รับเงินก้อนจากลูกหนี้ซึ่งดีกว่าการฟ้องร้องต่อศาลที่ต้องรอไปอีกนานและจะได้เงินคืนหรือไม่ก็ไม่แน่ ย้ำไปเลยว่าหากลูกหนี้ได้ส่วนลดตามที่ต้องการก็จะจ่ายเงินปิดบัญชีหนี้สินทันที
ข้อควรระวังในการใช้เทคนิคการทำHaircutคือก่อนจะจ่ายชำระเงินทำการHaircutต้องมีการแลกเปลี่ยนในลักษณะยื่นหมูยื่นแมวกัน ลูกหนี้ต้องได้รับหนังสือยืนยันเป็นลายลักษณ์อักษรจากทางเจ้าหนี้ว่าเจ้าหนี้ได้ส่งมอบเอกสารยืนยันการปลดหนี้หรือหมดภาระหนี้กับเจ้าหนี้แล้ว กรณีเช่นนี้อย่าไว้ใจใครง่ายๆ มิฉะนั้นอาจถูกหลอกให้จ่ายเงินก้อนฟรีก็ได้ เรื่องเงินทองไม่เข้าใครออกใครอยู่แล้ว.